ประวัติช่วงชีวิตของอาเธอร์ - ประวัติช่วงชีวิตของอาเธอร์ นิยาย ประวัติช่วงชีวิตของอาเธอร์ : Dek-D.com - Writer

    ประวัติช่วงชีวิตของอาเธอร์

    เรื่องนี้ผมเขียนไว้นานเเล้วจึงเอามาลง

    ผู้เข้าชมรวม

    105

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    105

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 มี.ค. 57 / 18:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เนื้อเรื่อง
    ไม่อิงประวัติศาสตร์
    เป็นเนื้อเรื่องที่ผมคิดขึ้นเองติดขัดตรงไหนขอโทษด้วยครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ประวัติช่วงชีวิตของอาเธอร์

               ณ    ป่าแห่งหนึ่งมีคนอยู่สามคนนั่งพักอยู่คนแรกมีผมและดวงตาสีทอง คนนั่งตรงข้ามกันดวงตาสีแดงดูขี้เล่น และผมสีดำ คนสุดท้ายมีผมและดวงตาสีน้ำตาลดูสุขุมซึ่งผู้ชายผมทองพูดขึ้นก่อนว่า

      คริสฉันว่าพวกเราไปกันดีกว่าพูดจบก็ลุกขึ้นพร้อมกับเริ่มเก็บของ

      นายจะรับไปไหนสวอร์นอีกใกล้แค่นี้เองนะคริสพูดแต่มือก็เก็บของตามจนเสร็จ

      นายก็พูดอะไรบ้างสิเจมส์สวอร์นพูดอย่างไม่ค่อยสบอารม

      พวกนายก็หยุดได้แล้วอีกไม่นานก็จะถึงปารีสแล้วและอีกอย่างเงินเราก็เหลืออีกแค่150เหรียญเองนะเจมส์พูดแค่นั้นทำให้ทั้งสองเงียบลง ไม่นานก็มาถึงเมืองโดยใช้มาซึ่งภายในเมือง

      เดี๋ยวคริสนายเอาม้าไปขายนะคิวน่าจะไม่มากเท่าไหร่นักหรอกเจมส์พูดพร้อมชี้ไปที่หน้าร้านที่มีคนต่อคิวพร้อมจุงม้าเข้าไป

      ได้แล้วเจอกันหน้าที่พักก็ก็แล้วกันนะคริสพูดแล้วก็เดินแยกออกไป

      ตุบ! ว้าย!

      เสียงแรกคือคนตรงหน้าวิ่งมาชนเจมส์ส่วนเสียงต่อมาคือเสียงของคนที่ชนล้มลงไปคนที่ชนนั้นมีดวงตาสีแดงเพลิงผมสีน้ำตาลทองยาวถึงกลางหลังในมือถือช่อบุหงาส่วนบนพื้นเกลื่อนไปด้วยดอกกระดังงาซึ่งเจมส์ก็มองรอบๆพร้อมกับก้มลงเก็บดอกไม้ให้

      ขอโทษค่ะอีกฝ่ายบอกพร้อมกับเก็บดอกไม้ใกล้ๆมือ

      ไม่เป็นไรครับผมชื่อเจมส์แล้วคุณละเจมส์พูดพร้อมกับยื่นดอกไม้ที่เก็บเสร็จแล้วให้เธอ

      ฉ....ฉันชื่อมาริต้าค่ะยินดีที่ได้รู้จักเธอบอกแล้วก็วิ่งหายเข้าไปในร้านคนขายกุลี

      นายว่าไหมผู้หญิงคนเมื่อกี้เหมือนนางฟ้าบนกระยาหงันเลยสวอร์นพูดพร้อมกับมองมาริต้าจนรับสายตา

      เรารีบไปหาที่พักกันดีกว่าไม่นานทั้งสามก็มานั่งกินแกงกะหรี่ที่ข้างร้านคาเฟ่ระหว่างนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากจวนพร้อมกับมีคนเงื้อดาบขึ้นเตรียมฟันหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเจมส์คุ้นหน้าดี

      ตายซะเถอะแก!”เข้าพูดพร้อมกับวาดดาบลงมา

      เคล้ง!

      แต่ก่อนที่ดาบเล่มนั้นจะตัดผ่านตัวกับมีดาบอีกเล่มหนึ่งมารับไว้ทัน

      นายจะมายุ่งทำไมนี่มันส่วยของข้าคนตรงหน้าบอก

      ผมก็อยากได้ส่วยของคุณเหมือนกันเรามาแข่งกันไหมโดยให้กัมปะโดของท่านเป็นพยานเจมส์พูดแล้วก็หันไปหาคนข้างหลัง

      ไม่เป็นอะไรนะมาริต้าเธอไม่ตอบแค่พยักหน้าพร้อมน้ำตาที่ที่อยู่ตรงขอบตา

      ได้งั้นพรุ่งนี้เช้านายไปที่แม่น้ำอิระวดีแล้วเราจะเริ่มแข่งกันที่นั่นคนตรงหน้าพูดพร้อมกับเก็บดาบแล้วเดินเข้าจวนไป

      เธอมาพักกับพวกเราก่อนพรุ่งนี้ ฉันสัญญาด้วยเกียรติของฉันเธอต้องเป็นอิสระเจมส์พูดแล้วก็พามาริต้าไปหาคริสกับสวอร์น

              เช้าวันต่อมาทั้งสี่ไปยืนรอเจ้าเมืองไม่นานพวกเขาก็มาถึง

      จะแข่งอะไรเจมส์ถาม

      เราจะแข่งฟันแม่น้ำกันใครฟันได้ไกลกว่ากันถือว่าชนะเจ้าเมืองพูดจบเจมส์ก็พยักหน้า พร้อมที่ทั้งสองเดินลงไปในแม่น้ำโดยที่เจ้าเมืองเริ่มก่อน

      ตูม!

      สิ้นเสียงการวาดดาบแม่น้ำก็แยกออกจากกันหลายเมตรก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

      7.5เมตรครับคนของเจ้าเมืองพูดขึ้นทำให้เจ้าเมืองยิ้มอย่างมีชัยแต่เจมส์ไม่สนใจแค่ยกดาบขึ้นเหนือหัวทำให้ดาบเรืองแสงสีทองสว่าง ทุกคนที่มองอยู่ถึงกับอึ่ง

      น...นายท่านนั่นมันดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์คนข้างๆเจ้าเมืองบอกพร้อมกับที่หนึ่งในคนที่มามุงดูอยู่หยิบปืนขึ้นยิงใส่เจมส์

      ปัง!

      ตะกั่วพุ่งผ่านเจ้าเมืองไปที่เจมส์แต่ก่อนที่ตะกั่วจะถึงตัวเจมส์ก็แยกเป็นสองส่วนก่อนจะลอยลงน้ำไป ด้วยดาบของคริส

      จับมันไว้!”สวอร์นรีบสั่งเจ้าเมืองก็หันไปทางลูกน้องของตนพร้อมกับสั่งว่า

      จับมันไปไว้ในตะรางสิ้นเสียงผู้คุมก็จับไปขังทันทีทางเจ้าเมืองก็คุกเข่าตรงหน้าเจมส์พร้อมกับยื่นปั่นเหน่งให้เจมส์

      นี่คือสิ่งแทนสัญญาครับท่านเจ้าเมืองบอกเจมส์พยักหน้าพร้อมกับหยิบปั้นเหน่งมาใส่ที่เอวของมาริต้าตอนแรกเจ้าเมืองก็แปลกใจแต่ก็ยิ้มพร้อมกับเดินออกไป

      วันต่อมา

                  พวกเจมส์ก็ออกจากปารีสพร้อมมาริต้าแต่ระหว่างทางนั้นเอง

      โอ๊ย!”มาริต้าร้องลั่นพร้อมกับที่ทั้งตัวมีเส้นเลือดปูดขึ้น

      เกิดอะไรขึ้นมาริต้าเจมส์ถามอย่างร้อนใจ

      คือ....ข้าต้องรับยาจากตะละแม่ที่ขายข้าให้เจ้าเมืองทุกวันไม่งั้นอาการจะกำเริบนะมาริต้าพยายามพูดทั้งที่ยังเจ็บอยู่ทางสวอร์นก็รีบมาดูอาการพร้อมกับพูดว่า

      พวกนายรีบไปหาหญ้าฝรั่นกับองุ่นมา

      ได้ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกับวิ่งออกไปโดยเจมส์หาหญ้าฝรั่นได้จากดอกไม้แถวนั้นส่วนคริสไปได้องุ่นมาจากคาราวานที่ผ่านทางมาทั้งสองรีบนำสองอย่างนั้นมาให้

      สวอร์นทำยาให้มาริต้าผ่านไปหลายวันมาริต้าก็หายดีและได้มีช้างพลายและทหารมาหาเจมส์ทำให้มาริต้ารู้ว่าชื่อจริงของเจมส์คือ อาเธอร์ เจมส์ โลวาเครส กษัตริย์คนปัจจุบันของแผ่นดินที่ตนยืนอยู่และอาเธอร์หรือเจมส์ก็เล่าทุกอย่างให้ฟังว่า พวกเขาสามคนออกมาตรวจแผนดินแต่มีคนจะยึดบันลังเลยต้องปลอมตัวพร้อมกับที่อาเธอร์ขอมาริต้าแต่งงานตรงนั้นซึ่งเธอก็ยอมแล้วทั้งสองก็กลับไปที่วังถึงจะมีสงครามแต่ทั้งสองก็ยังรักกันจนทั้งสองสิ้นลมหายใจ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×