(TaoKacha)I love you แอบรักอยู่ไม่รู้รึไง???? - (TaoKacha)I love you แอบรักอยู่ไม่รู้รึไง???? นิยาย (TaoKacha)I love you แอบรักอยู่ไม่รู้รึไง???? : Dek-D.com - Writer

    (TaoKacha)I love you แอบรักอยู่ไม่รู้รึไง????

    แอบรักมาตั้งนานคำพูดสักประโยคยังไม่เคยจะคุยกันแล้วรักจะสมหวังมั้ยเนี่ยยยยย

    ผู้เข้าชมรวม

    1,205

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.2K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    13
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ธ.ค. 55 / 22:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เรื่องนี้อาจแต่งได้ภาษาไม่สละสลวย
    แต่มาจากความอยากแต่งล้วนๆ
    เป็นฟิคสนองนี้ดดดดดด.....ตนเอง
    ชอบไม่ชอบใช่ไม่ใช่เม้นได้นะคะ
    ให้ปรับปรุงตรงไหนก็บอก
    ปล.แต่งด้วยใจรักและที่เป็นฟิคสั้นเพราะแต่งเรื่องยาวไม่รอดจริงจัง




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

       

                      บรรยากาศห้องเรียนขนาดใหญ่หลายร้อยที่นั่ง เต็มไปด้วยความจอแจก่อนเริ่มคลาสเรียนเป็นอันต้องสงบลงเมื่ออาจารย์ผู้สอนได้เข้ามานั่งประจำที่

      “เนื้อหาของวันนี้..ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้วนะครับว่าด้วยเรื่องทฤษฎีของรีมันต์หรือการอิทิเกรตอย่างมีขอบเขต....”

      เฮ้ออออ....อาจราย์ไม่เบื่อหรือไงนะที่ต้องมานั่งพล่ามเรื่องต่างๆให้เด็กฟัง

      ฟังอะไรหล่ะเห็นอยู่ชัดๆว่าแต่ละคนที่เงียบหน่ะ

      ถ้าไม่เล่นโทรศัพท์

      ก็ฟุบกับโต๊ะเลคเชอร์ไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้ว

      และนึกเหรอว่าคนอย่าง เศรษฐพงศ์ เพียงพอ จะเข้ามาเรียนอย่างตั้งใจอยากจะเรียน

      ฝันกลางวันเถอะ

      แคลคูลัสกับเศรษฐพงศ์....เฮอะ!!!!มันไม่ใช่อ่ะ

      ที่เข้าเรียนทุกครั้งไม่หลับไม่วอกแวกมองตรงไปข้างหน้าหน่ะ

      ก็เพราะมันมีเหตุต่างหาก

      >////<...โอ๊ยยยคนหล่อเขิน

      “ไอ้เต๋า...ถึงแกจะเข้าเรียนทุกครั้งไม่หลับเลยสักนิดแต่ถ้าแกไม่ยอมจดตัวอย่างแล้วแกไม่มีอ่านชั้นจะไม่ช่วยแกเลยนะ”

      “โฮ่..จอยจ๋าจอยสุดที่รักอย่าขึ้นเสียงใส่เค้าจิตะเอง”

      “ไอ้เต๋า..ถ้าแกไม่หยุดกระแดะนะชั้นจะไปบอกไอ้ตัวเล็กข้างหน้าว่าแกหน่ะ.....”

      “เฮ้ยๆๆๆไอ้จอย..ชั้นหยุดแล้วๆ..อย่าทำอย่างนั้นนะ”

      “เฮอะ...ก็แค่นั้นตั้งใจเรียนไปซะ.ถ้าแกไม่ผ่านแคลนี้แคลครั้งหน้าแกต้องอดเรียนกับเค้าแน่”

      โฮ...เพื่อนกันนะใช่สิผมลืมแนะนำตัว

      ผม นายเศรษฐพงศ์ เพียงพอ มีดีกรีเป็นนักกีฬาบาสของมหาวิทยาลัย

      จริงๆได้ทุนนักกีฬา

      การเรียนเกรดอาจจะไม่งามนักแต่ก็ไม่ได้ทุเรศอะไร

      เข้าเรียนบ้างโดดเรียนบ้างตามประสา

      แต่มีอยู่วิชาเดียวที่ไม่เคยโดดเลยสักครั้ง

      แคลคูลัส.........

      เพราะมันเป็นวิชาเดียวที่ได้เรียนรวมกับเด็กเอกอื่น

      และที่สำคัญคนในฝันของผมก็เรียนด้วย

      และที่สำคัญที่สุดเค้าคนนั้นเป็นเด็กทุนเรียนดีตั้งแต่ม.1

      แหม...งงกันล่ะสิผมรู้ได้ไง

      อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่ป.1โน่นนนนน

      แต่ก็น่าเศร้านะเรารู้จักกันแค่ในนามเท่านั้นแหละ

      คชา นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์ นักเรียนทุนเรียนดีอันดับหนึ่งเด็กห้องคิงตลอดกาล

      เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ นักเรียนทุนกีฬาอันดับหนึ่งเด็กห้องบ๊วยตลอดกาล

      เรามักจะพบกันตอนรับทุนและรับรางวัลหน้าเสาธงกันบ่อยๆ

      แตกต่างกันสิ้นดี..........

      แม้จะเจอกันบ่อยแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยได้คุยกันสักคำ

      แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรักเด็กเรียนดีคนนี้นั้น

      เป็นรอยยิ้มที่สดใส

      คชามักจะตีหน้านิ่งเสมอ

      จนได้ฉายาว่าคชาหน้าเดียว

      แต่บางทีเค้าก็จะเผยรอยยิ้มออกมาบ้าง

      ผมจำได้แม่นเลยวันนั้นตอนม.1ผมกำลังเล่นบาสกับเพื่อนอยู่

      คชาชอบนั่งอ่านหนังสือตรงม้าหินใต้ต้นไม้มุมสนามบาส

      ตอนนั้นก็แค่มองเฉยไม่ได้อะไร...ก็แค่คิดว่าคชาน่ารักดี..ถึงจะน่านิ่งแต่ก็เฟลนลี่มากแต่ก็ไม่ใช่กับผม

      สักพักคชาก็เขียนอะไรก็ไม่รู้ยุกยิกๆแล้วจู่ก็ยิ้มออกมา

      ผมถึงกับค้างไปเลยและก็

      “เฮ้ยไอ้เต๋ารับลูก”

      ปั่ก!!!!

      “......”

      “ฉิบหายล่ะไอ้เต๋า!!!!”ผมไม่ได้หันไปมองลูกสุดท้ายแทนที่จะเป็นมือจึงเป็นหัวผมแทนที่จะเป็นลูกบาส

      เพื่อนทั้งที่อยู่ในสนามตกใจกันใหญ่ไม่รู้จะทำยังไงตอนนั้นที่ผมล้มลงไป.....

      จะมีก็แต่คชาเท่านั้นที่รีบวิ่งมาดู

      “เฮ้ย...เต๋าๆๆมีสติอยู่รึเปล่า..พาเต๋าไปห้องพยาบาลที”

      ผมจำอะไรไม่ได้มากหรอกครับ จุดนั้นมันเบลอไปหมด

      จำได้เพียงว่ามีเสียงของคชากับหน้าตาที่ดูตื่นตกใจ

      และก็ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้

      หลังจากวันนั้นผมก็อยากจะขอบคุณเค้ามาก

      แต่ผมก็เขินเกินกว่าจะไปบอกตรงๆ

      จึงฝากจอยเพื่อนสนิทตั้งแต่ประถมที่อยูห้องเดียวกับคชาไปบอก

      เรื่องที่ผมชอบคชาก็มีแต่จอยที่รู้

      จนบางทีจอยมันก็เอือมระอาที่ผมเพ้อถึงคชาทุกที

      “ไอ้เต๋าเมื่อไหร่แกจะหยุดเพ้อแล้วจดเลคเชอร์ห๊ะ!!!

      “เออๆๆจดแล้วจดแล้ว”

      คชามักจะนั่งหน้าเสมอ

      จอยมันก็แปลกนะ...เป็นเด็กเรียนที่ชอบนั่งหลัง

      แต่ก็ดีสำหรับผมมากๆๆๆ

      เพราะจะได้มองคชาได้....แต่จากข้างหลังนะ

      ก็แหม...ใครจะกล้ามองคนที่เราชอบจากด้านหน้าตรงๆบ้างหล่ะ

      “เอาละครับงั้นวันนี้จบแค่นี้ก่อน..ครั้งหน้าเราจะมาต่อกันเรื่อง........”

      เมื่ออาจารย์บอกเลิกคลาสความมีชีวิตชีวาก็กลับสู่ห้องเรียนอีกครั้ง

      บรรบากาศในห้องเต็มไปด้วยความจอแจ

       “เออ..เต๋าคืนนี้ชั้นมีมีทติ้งอ่ะแกมากับชั้นนะ”

      “แหม....จะให้ไปรับไปส่งก็บอกมาเหอะหน่า”

      “แหม...รู้ทัน....สามทุ่มครึ่งมารับที่หอด้วยนะจ๊ะ”

      แล้วจอยก็เดินออกไปเรียนที่ห้องอื่น....แหมทำไมผมจะไม่รู้ไอมีทต้งมีทติ้งเนี่ย

      มันก็คือการนัดกันไปกินเหล้าพบปะสังสรรค์กัน

      แต่แค่ให้พูดให้มันดูดีเท่านั้นเอง

      ไปมีทติ้งกับจอยทุกครั้งผมหวังเสมอแหละว่าอยากจะเจอคชาด้วย

      เพราะจอยอยู่เอกเดียวกับคชาและมักจะชวนเพื่อนในเอกไปด้วยเสมอ

      แต่ทุกครั้งที่ผมไปด้วยนั้นคชามักจะไม่มา

      ผมก็เคยลองสังเกตนะคชามักจะลี่ยงๆการเจอกับผมโดยตรงบ่อยๆ

      หรือเค้าจะไม่ค่อยชอบผม

      เฮ้ออออออเห็นทีคงต้องลองทำความรู้จักกันบ้างแล้วหล่ะ

       

      ณ ร้าน...........

      “เฮ้ย!!!...พรรคพวกดูจอยดิวะควงหนุ่มหล่อดีกรีนักกีฬามาด้วยหวะ”

      ตามที่คาดเลย...ทุกคนคิดว่าผมกับจอยมีซัมติงครับ

      แต่ทุกคนอาจจะไม่ได้สังเกตหน้าไอจอยมัน

      หน้ามันเอือมอย่างแรง

      “ไอ้แพรว..ถ้าชั้นจะควงมันมาเปิดตัวนะชั้นควงแมวมาดีกว่าอีก”

      “อ้าวจอยเดี๋ยวก็ปล่อยให้กลับเองซซะหรอก”

      “เฮ้ยๆๆๆไม่ได้นะโอ๋ๆๆๆพ่อรูปหล่อของน้องจอยน้องจอยไม่ว่าแล้วนะ”

      แล้วเสียงก็ดังลั่นเมื่อแต่ละคนคุยกันอย่างออกรสชาติถึงขนาดลืมหายใจ

      “เฮ้ย!!!จอยมีเซอร์ไพรซ์กว่าที่แกควงเต๋ามาแล้วหว่ะที่รักแกมาล่ะ”

      “เฮ้ยนั่นไอ้ตัวเล็กนี่หว่า....เฮ้ยไอ้เต๋าเคลียร์ที่ๆตัวเล็กสุดที่รักชั้นมาและนานๆมันจะมาสักที”

      ผมไม่กล้าหันไปมองอ่ะหวังว่าจะไม่ใช่ตัวเล็กเดียวกับของผมนะ

      “ไม่เป็นไรจอยนั่งข้างๆปู่เต้ก็ได้”...เสียงนี่ใช่เลย

      และที่นั่งว่างข้างปู่เต้

      มันก็ข้างโพ้มมมมมมมมมมมมมมมมมม

      ผมค่อยๆหันไปมองนิดๆก็เจอคชาอยู่ข้างหลังผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมทำหน้ายังไงอยู่แต่คิดว่า

      คงจะเอ๋อมากแน่

      “สวัสดีเต๋า”

      “อ..อะเอ่ออออ..วะ..หวัดดี”

      แล้วความเฮฮาก็เกิดขึ้นอีกครั้งทุกคนอพเริ่มคุยกันออกรสก็สั่งเครื่องดื่มมากินกัน

      และผมก็เพิ่งรู้ว่าตัวเล็กนั้นดื่มเก่งชะมัดเลย

      คนอื่นๆกำลังตึงๆดูตัวเล็กจะชิลมากเลย

      “เฮ้ย!!ทุกคน...มาเล่นเกมความจริงความกล้ากันดีกว่า”

      “เออๆๆท่าทางจะสนุกอ่ะแพรวื แกจะเล่นมั้ยคชาหรือแกป๊อด”

      “โอ้..จอยพูดขนาดนี้ไม่เล่นก็แมวและ”

      สงสัยเพราะแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนในกระแสเลือดทำให้คชาหัวเราะออกมาเบาๆกับบทสนทนาและหน้าแดงๆและพูดมากขึ้น

      “อ้าวจอยไม่ชวนเต๋าเล่นหน่อยเหรอ”

      “ไม่เอาอะเฟรม...ถึงเต๋ามันจะความลับเยอะแต่มันก็หน้าหนาพอทั้งความจริงความกล้ามันก็ได้หมดอ่ะเล่นกับมันแล้วไม่หนุก”

      เออ..ก็จริงแฮะ...เฮ้ยนี่จอยช่วยหรือหลอกด่าผมกันแน่เนี่ย

      “ชั้นไม่ได้หลอกด่าแกนะเต๋าชั้นด่าตรงๆเลย”

      แล้วเกมก็เริ่ม....

      โดยการที่จะมีฉลากให้จับถ้าใครได้ฉลากที่เขียนว่าความจริงความกล้าจะต้องเลือกว่า

      จะตอบคำถามซึ่งจะถามอะไรก็ได้แต่ต้องตอบตามความจริง

      หรือจะเลือกความกล้าที่จะต้องทำตามที่เพื่อนสั่ง

      ซึ่งอาจจะแค่เบาๆหรือทำให้อายไปทั้งชาติ

      ซึ่งคนแรกที่โดนประเดิมเกม

      “เฮ้ย...จอยแลกใบกันทีดิ”

      “เรื่องอะไรอ่ะคชาจอยได้กระดาษเปล่าทุกคนก็ได้กระดาษเปล่า”

      “งื้อ...ให้คชาเปลี่ยนเถอะนะ....น้านะๆๆ”

      ฮึ่ย...อ้อนได้น่ารักไปนคชา

      “เดี๋ยวเต๋าเล่นให้แทนคชาเอง”

      ควับเอาแล้วไงคชาทำผมสตั๊นไปกี่ทีแล้วเนี่ย..อย่ามาทำหน้าอ้อนผมนะ

      “ไม่ได้กฎก็ต้องเป็นกฎบอกมาว่าจะเอาความจริงความกล้า”

      “เลือกความจริงมีอะไรถามมาเลย”

      ผมอยากถามเหลือเกินแต่....

      “คชามีคนที่คชาชอบหรือรักแล้วรึยัง”

      ฮึ่ยเผลอ....ตายแน่ไอ้เต๋าถามออกไปได้ไงเนี่ย

      “เอ่อ....คือขอเปลี่ยนเป็นความกล้าแทนนะจอย”

      “งั้นเบียร์เหยือกนี้คชาต้องกินให้หมด”

      ทำไมคชาต้องเปลี่ยนและเลี่ยงไม่อยากตอบขนาดนั้นเลยเหรอ

      หรือผมไม่สำคัญพอ...............

      เมื่อเวลาล่วงเลยถึงเวลาร้านปิด

      สภาพแต่ละคนดูไม่ได้เลยสักนิด

      “เฮ้ย..เต๋าเดี๋ยวแพรวไปส่งจอยเองเดี๋ยวเฟรมอ่ะให้ไอ้ปู่ไปส่งเต่าไปส่งคชานะหออยู่ไกล้กันนี่”

      “เอ่อ....”

      “แพรวไปส่งจอยแล้วนะ..บายย”

      “เฮ้ออออออ.......”

      ผมจะมีสมาธิไปส่งคชาถึงหอมั้ยเนี่ยยย

      “ไม่อยากไปส่งเราขนาดนั้นเลยเหรอ”

      “เฮ้ย!!”..ฟู่ววว...โล่งอกคชาแค่ละเมอตอนนี้ฟุบกับโต๊ะเหมือนเดิมแล้ว

      “คชากลับกันนะ”..คชาสลึมสลือแล้วลุกขึ้นเดินเซน้อยๆผมจึงเข้าไปประคองพร้อมโอบเอวบางๆนั้นไว้

      เอวคชาบางกว่าที่คิดอีกแฮะผมเปล่าหื่นนะ=.,=

      โอ๊ยยยยกว่าจะขับมาถึงหอคชาได้เกือบเอารถเสยฟุตบาทไปหลายรอบ

      มือสั่น..ไม่มีสมาธิขับรถมองแต่ที่นั่งข้างไม่มองทางเลยสักนิด

      “คชา...ถึงหอแล้วครับ”

      โอ๊ยยยยเศรษฐพงศ์ละลายสายตาคชาตอนสะลึมสะลือนี่ช่างงง=.,=

      “ขี่หลังเต๋านะคชา”

      ตอนนี้คชาเหมือนเด็กน้อยเลยผมยิ้มแก้มจะแตกอยู่แล้วด้วยความฟิน

      ก็คนตัวเล็กที่อยู่บนหลังผมตอนนี้เอาหัวมาพิงไว้ที่ไหล่........

      “คชา....เราจะได้คุยกันดีดีสักทีมั้ยนะ”

      “เต๋าอยากจะคุยกับคชา..มีเรื่องมากมายที่เต๋าอยากจะบอกคชา”

      “อยากพูดอะไรก็พูดมาสิ”

      “อืม..ก็คือ...เอ้ยย”

      ทำไมจู่ๆคชาก็พูดขึ้นมาอย่างนั้นหล่ะ

      “คชาไม่ได้เมาสักหน่อยตอนนี้สร่างแล้วอยากพูดอะไร...ก็พูดมา”

      “กะกะกะก็...คะคะคือวะวะว่า”

      “โอ๊ย...คชาพูดเองก็ได้”

      “คชาอ่ะชอบเต๋ามาตั้งแต่ป.6แล้วตั้งแต่ตอนที่เต๋าเล่นบาสงานกีฬาสีอ่ะ”

      “ห๊ะ!!!!

      “ไม่ต้องมาหงมาหาอะไรเลยนะ..ไอ้เราก็อุตส่าห์เป็นเด็กทุนทุกปีทั้งที่เบื่อจะตาย”

      “แล้วก็พยายามทำให้เห็นหน้าอยู่ทุกวันอะไรกันทักสักคำก็ไม่มี”

      “งั้นที่ตอนนั้นคชาชอบนั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้มุมสนามนั้นก็”

      “ก็ใช่หน่ะสิ...ใครเค้าจะบ้าไปนั่งอ่านหนังสือตรงนั้นกันเล่าห้องสมุดแอร์ออกจะเย็น”

      “งั้นคชาก็รักเต๋าก่อนที่เต๋าจะรักคชาอีกหน่ะสิ”

      “ก็ใช่หนะสิ.....”

      “กะก็...คงใช่อ่ะ”

      “โฮ่ยยย..ว่าจะบอกรักคชาก่อนอะไรกันเนี่ยโดนคชาบอกรักตัดหน้าซะแล้ว”

      “ก็บอกตอนนี้เลยสิ”

      “ไม่อ่ะ....เต๋าไม่บอกตัวเล็กหรอก”

      “อ้าวไอ้เอ๋อนี่”

      “เอ๋อแล้วรักป่ะละ”ป้าบๆๆ

      “555ล้อเล่นน่าโอ๊ยๆๆอย่าตีหลังเต๋าดิ”

      “โอเคๆเต๋าพูดแล้วๆ”

      “ก็แค่นั้นแหละ...อ่ะไหนจะพูดอะไรว่ามาสิ”

      “เป็นแฟนกันนะคชา”

      “ไม่อ่ะ”

      “อ้าววววไหนบอกว่าชอบกันมานานแล้วไง”

      “ก็ไม่ปฏิเสธไง..จุ๊บ”

      “เฮ้ย...คชาขโมยหอมแก้มเต๋าเหรอ”

      “ถ้าใช่แล้วจะทำไมหล่ะ”

      “งั้นก็ต้องเจอแบบนี้555”แล้วผมก็แกล้งเหวี่ยงคชาซ้ายทีขวาทีแต่ฝันไปเถอะว่าผมจะปล่อยคชาลงจากหลังง่ายๆ

      “เฮ้ย..เต๋าคชาลืมเอากุญแจมาอ่ะ”

      “ไม่เป็นไรคืนนี้ไปนอนหอของเต๋าก่อนก็ได้~.<”ราตรีนี้ระหว่างผมกับคชานั้นยังอีกยาวไกลนัก555

      **************************END***************************

      Before the end

      จอย//เฮ้ย....พวกแกว่าแผนที่พวกเราวางไว้จะสำเรจมั้ยอ่ะ

      แพรว//น่าจะสำเร็จนะ...ปู่เต้แกว่าไง

      โปเต้///สำเร็จหน่ะสำเร็จอยู่แล้วเค้าคงบอกรักกันไปแล้ว

      แพรว+จอย///เยสสสสส

      โปเต้///แต่ก่อนอื่นมาช่วยแบกไอ้เฟรมก่อนได้มั้ยเนี่ยแมร่งคนอื่นแค่แกล้งเมาไอ้นี่แมร่งเสือกจริงจัง

      จอย//แล้วแต่บุญแต่กรรมละกันนะปู่

      แพรว//โชคดีนะชั้นกับจอยกลับหล่ะ555บายยยยย

      โปเต้////เฮ้ยยยยกลับมาช่วยกันก๊อนนนนนนนนนน

       

       

       

       


       

       

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×