มันคงสายไปแล้วใช่ไหม - มันคงสายไปแล้วใช่ไหม นิยาย มันคงสายไปแล้วใช่ไหม : Dek-D.com - Writer

    มันคงสายไปแล้วใช่ไหม

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราแต่งเองนะค๊ะ เป็นเรื่องที่ได้ลงในหนังสือทำมือซึ่งขายในงานสุนทรภู่ที่โรงเรียน ยังไงก็ลองอ่านกันดูติชมกันได้นะค๊ะ ฝากด้วยนะค๊ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    291

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    291

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 48 / 17:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เรื่องสั้น มันคงสายไปแล้วใช่ไหม

      19 / 01 / 05
      ปี 2-8
      ฉัน…เฝ้ามองเขา(ถึงแม้จะเป็นแค่ด้านหลังก็ตาม)…เขาคนนั้น…..คนที่คอยให้คำปรึกษา คอยให้กำลังใจฉัน  และเขาก็เป็นผู้ชายคนที่ฉันรัก….แต่เขาก็คงไม่ได้รักฉันหรอก  ถึงแม้ว่าฉันอยากจะบอกรักเขามากแค่ไหน  แต่ฉันก็คงทำไม่ได้ ก็เราเป็นแค่เพื่อนกันนิ่

      “อ่าว…..” เขาหายไปไหนแล้ว ฉันพยายามใช้สายตาอันเฉียบคมของฉันสอดส่องเพื่อหาเขาในละแวกโต๊ะเรียนที่ฉันนั่งอยู่ (--   )(   --)(--   )(   --) ไอหยา! เมื่อกี๊นี้ยังเห็นอยู่เลย  เพื่อนในห้องก็เดินเพล่นพล่านอะไรกันนักหนาเนี่ย ยิ่งมองหายากเข้าไปใหญ่เลย(-_-)(เริ่มพาลแล้วครับท่านผู้อ่าน) ตอนนี้ก็เลิกเรียนแล้วด้วย ฉันต้องกลับบ้านกับเขาด้วย เฮอะๆ เรากลับด้วยกันทุกวันน่ะ (^-^)

      “หาอะไรอยู่เหรอ โชซาวอง” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นจากทางด้านหลังของฉัน

      “อ่าว! เรน มะ..มีอะไรเหรอ จะกลับรึยัง” ไอหยา0_0 มาอยู่หลังฉันตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย

      “เธอมองฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”O_o เฮอะๆ เขารู้ด้วยแฮะ ทำไงดีหล่ะ (-_-)

      “ปะ..เปล่านิ่สงสัยว่าฉันจะเหม่อแล้วมองไปทางนายพอดีมั๊ง” เขาจะเชื่อฉันไหมเนี่ย

      “อ๋อ..เหรอ” เขาดูจะเชื่อฉันเหมือนทุกครั้ง ขอโทษนะ ฉันก็ไม่อยากโกหกหรอก ฮือๆ มันจำเป็น T^T

      “นั่นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อวานใช่ไหมเขาน่ารักดีนะ” ฉันชี้ไปที่ผู้ชายที่นั่งอยู่ เขาดูท่าทางเป็นคนร่าเริง สนุกสนานซึ่งเขากำลังคุยกับเพื่อนของเขาอยู่  ต้องเปลี่ยนเรื่องซะแล้ว เฮอะๆ เอาใกล้ๆแล้วกัน เบี่ยงเบนความสนใจ

      “อย่าไปชี้เขาอย่างนั้นสิซาวอง มันไม่ดีนะ” เขาจับมือฉันวางลงที่โต๊ะอย่างเบามือ แล้วพูดต่อ  โอ๊ย….! อย่าทำงี้สิใจเต้นแปลกๆเลย  อยากให้ฉันตายเหรอเรน

      “เขาก็น่ารักดีนะ เท่าที่ได้ยินมาเขาก็เข้ากับทุกคนได้ดี” เขาหันไปมองเพื่อนใหม่คนนั้นแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี  โอ้ ไม่นะ….ไม่น่าเลย อย่าบอกนะว่าเขาเป็นเกย์  ตานั่นยิ่งน่ารักอยู่     น่ารักกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก ( รวมทั้งฉันด้วย )

      “อืม ดูท่าทางแล้วก็คงจะนิสัยดีแหละ” ฉันยิ้มแล้วมองไปที่เด็กใหม่นั่นต่อ คงจะไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดหรอก เฮอะๆ ฉันบ้าจัง คิดมาก เขาคงไม่ชอบผู้ชายด้วยกันหรอก

      “อืม ฉันก็ว่างั้น” ไอหยา! ตาเด็กใหม่มองมาที่ฉันด้วยแหละเขายิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรเขาน่ารักดีนะ^-^ ฉันเลยยิ้มตอบเขาเขาเลยเดินเข้ามาหาฉันo_O เฮอะๆ ตายแน่ฉัน นายจะเดินมาทำไมเนี่ย

      “หวัดดีครับ ชื่ออะไรหรอครับ? ผมฮานเซจุนยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”เขาถามใครเนี่ย ถามเรนหรอ ไม่จริง

      “ถามใครหรอ  อย่าบอกนะว่านายถามฉัน”

      “อืม ใช่” (-  -) (_ _) (-  -)เขาพยักหน้าแล้วยังมองมาที่ฉัน

      “อืม จ้าฉันชื่อโชซาวอง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฮานเซจุน”ฉันหันไปยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่เกย์ควีนแหละ เฮื่อย…ค่อยโลงอกหน่อย อิอิ+ (^-^)

      “ครับ เช่นกันครับ  คุณซาวองสุดสวย” โห…หมอนี่ตาถึงแหะเฮอะๆ ก็พอเข้าขั้นแหละ ความสวยไม่เข้าใครออกใคร (^o^) ชักถูกชะตาขึ้นมานิดนึง 55555+

      “ผมไปนั่งที่ก่อนดีกว่า ไม่รบกวนแล้วนะครับ” พึ่งจะรู้ตัวรึไง เฮอะๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันให้อภัยคนน่ารักอย่างนายได้อยู่แล้ว

      “เรนวันนี้เรากลับบ้านด้วยนะ”ฉันหันไปมองหน้าเรน เอ๊ะ!ทำไมสีหน้าเรนแปลกไป

      “โทษทีฉันคงจะกลับบ้านค่ำน่ะ ซาวองเธอกลับไปก่อนเถอะ แล้วอย่าลืมหาเพื่อนกลับด้วยหล่ะ ไปกับเนยองก็ได้ เขากลับทางเดียวกันกับเธอนิ่” เขาไม่มองหน้าฉันเลย  ดูท่าทางของเขาแปลกไปยังไงชอบกล

      “ไม่เอาง่ะ ฉันกลับกับเรนดีกว่าทุกครั้งฉันก็รอเรนนิ่ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนฉันก็รอเรนได้อยู่แล้วแหละ” ฉันอยากกลับบ้านกับเขานิ่ ทุกวันฉันก็กลับกับเขา แล้วทำไมวันนี้เขาถึงได้ทำท่าเหมือนไม่อยากจะกลับกับฉันอย่างนั้นหล่ะ T-T

      “ไม่เอาน่า ซาวอง เธอโตแล้วนะอย่าทำอะไรเหมือนเด็กๆได้ไหม”เขาทำหน้าอย่างกับว่าโกรธและเบื่อฉันเต็มที ฉันไม่อยากให้เขาทำกับฉันอย่างนี้เลยให้ตายเถอะ

      “ก็ฉัน……” อย่าทำแบบนี้เลยนะเรน รู้ไหมว่าฉันรู้สึกเจ็บแปลบข้างในหัวใจ มันเจ็บมากจนฉันแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

      “เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ กลับบ้านได้แล้ว ระวังตัวด้วยหล่ะ” เขาเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองฉันหรือแม้กระทั่งหยุดฟังฉันก่อนที่เขาจะเดินไป ในตอนนี้น้ำใสๆมันล้นออกมาทางตาของฉันฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันเจ็บ เจ็บมากที่เขาทำเหมือนตีตัวออกห่างฉัน เขาเปลี่ยนไปมาก ทุกครั้งเขาจะยอมฉันถึงจะมีธุระอะไรก็ตามไม่ว่าจะดึกแค่ไหนฉันก็ยังรอที่จะกลับบ้านพร้อมเขาแล้วเขาก็จะไปส่งฉันถึงหน้าบ้านทุกวัน แต่ทำไมวันนี้..มันเป็นเพราะอะไร…ฉันอยากรู้เหตุผลของเธอ…เรน ฉันเดินไปที่หน้าประตูโรงเรียน ฉันจะรอเธออยู่ที่นี่นะเรน ที่ๆทุกวันฉันมารอเธอ

      19.19น.
      “อ่าว…ซาวองเธอยังไม่กลับอีกเหรอ”ฉันหันไปยิ้มให้เจ้าของเสียงนั้นทันที แล้วภาพที่ฉันเห็นมันแทบทำให้ฉันหยุดหายใจ รอยยิ้มที่ปากของฉันดูจางลง เขาอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง หล่อนอยู่ปี2-13 พวกเขาคงเป็นแฟนกัน ฉันไม่น่าอยู่รอเขาเลย ฉันอยู่รอเขาเพื่ออะไรกันแน่ อยู่รอเขาเพื่อที่จะได้เห็นภาพที่ทำให้ฉันปวดใจนี้เหรอ

      “นี่ เรน คบกับเด็กห้อง 13 ก็ไม่บอกกันเลยนะ โธ่…เรื่องแค่นี้เอง น่าจะบอกกันมาตรงๆตั้งแต่แรก บางทีฉันอาจจะช่วยให้คำปรึกษาเรนบ้างก็ได้ แต่เอ๊ะ! หรือว่าเรนอาย…(^o^)5555+นี่…ทีหลังมีเรื่องอะไรก็บอกมาเลยนะ ไม่ต้องมาปิดฉันหรอก” ฉันยิ้มให้กับคนทั้งคู่ ทำท่าให้เหมือนปกติมากที่สุด ทั้งๆที่ข้างในมันเจ็บไปหมดแล้ว อย่าร้องไห้นะซาวอง อย่าร้องให้เขาเห็น เข้าใจไหม

      “นี่ เธอก็อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันกับเรนเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ แค่ปกติจะกลับบ้านด้วยกัน เพราะว่ามันไปทางเดียวกันเฉยๆ อย่าคิดมากนะเรนน่ะเป็นคนดีเขาคงไม่ทำให้เธอเสียใจหรอกใช่ไหม?  เออ เรน..ฉันต้องไปแล้วนะ รีบกลับบ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง ไปแหละนะ ลาก่อนคะ” ฉันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ฉันค่อยๆฝืนยิ้มให้คนทั้งคู่ก่อนที่จะเดินไปโดยไม่หันกลับไปมองอีกฉันไม่อาจทนเห็นภาพนั้นได้อีกต่อไป

      “ซาวอง ให้ฉันไปส่งไหม” เสียงเรนตะโกน

      “ไม่เป็นไรหรอก เรนไปส่งเขาเถอะนะฉันกลับเองได้” ฉันพูดโดยไม่หันกลับไปมองเรน

      “แต่ว่ามันอันตรายนะ ซาวอง” หยุดพูดซะทีได้ไหม อย่ามาเป็นห่วงฉันอีกเลย

      “ก็บอกว่าไม่เป็นไรไงเล่า นายไปส่งแฟนนายเถอะ” ตอนนี้น้ำอุ่นๆไหลลงมาอาบแก้มของฉัน  ฉันตะโกนว่าเขาไปแล้ว  จากนี้ไปเขาต้องเกลียดฉันแน่เลย  แต่ฉันก็ไม่คิดจะเกลียดหรือโกรธเขาหรอกนะ  ก็เพราะว่าฉันรักเขานิ่  ฉันรักเธอนะเรน  รักมากๆด้วย  ได้ยินไหม ได้ยินเสียงของหัวใจดวงนี้บ้างไหม………เรน

      ตอนนี้เขาเงียบไปแล้ว  เขาคงจะไปแล้วแหละ  ลาก่อน..ความรักครั้งแรกของฉันตอนนี้น้ำตาของฉันไหลลงมาไม่หยุด…..ฉันเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย ก็ฉันยังไม่อยากกลับบ้านนิ่

      “โชซาวอง!” มันเป็นเสียงที่ฉันคุ้นหู แต่ยังไงซะมันก็ไม่ใช่เสียงของเรนหรอก ฉันยังคงก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป ไม่หยุดหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ฉันเดินอย่างช้าๆ เหมือนคนที่ไร้สติ

      “นี่ โชซาวอง ผมเรียกคุณแต่คุณทำไม….” ฉันรับรู้ถึงสัมผัสที่ไหล่ของฉันมีมืออุ่นๆจับไหล่ของฉันให้หันไปตามแรงของเขา ฉันมองหน้าของเขา…ฮานเซจุน

      “นี่…! ใครทำอะไรเธอน่ะซาวอง” เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันเขย่าเบาๆ

      “……..” ฉันมองหน้าเขาแล้วส่ายหน้า ฉันไม่อยากคิดถึงภาพของสองคนนั้นอีกT-T

      “จะอะไรก็แล้วแต่ แต่หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ” เซจุนเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือสายตาที่เขามองฉันนั้นดูราวกับว่าเขาสามารถจะเจ็บแทนฉันได้  ในตาเขาดูเจ็บปวดยิ่งกว่าฉันซะอีก

      “……..” ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ สายตาของฉันมองทอดต่ำลงมา ฉันไม่กล้าที่จะสบตาเขาอย่างไม่มีเหตุผล ฉันรู้สึกปวดหัวยังไงก็ไม่รู้ ตัวฉันเริ่มชา และก็หนาว ทำไมอากาศที่เกาหลีถึงได้หนาวขนาดนี้เนี่ย

      “ซาวองมันอาจจะเร็วไปผมก็รู้  แต่ผมอยากบอกให้คุณรู้เอาไว้ว่า ผมรักคุณนะ  ซาวอง ผมจะคอยอยู่ข้างๆคุณในวันที่คุณเจ็บหรือในวันที่คุณไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ก็ขอให้คุณมองมาที่ผม ผมจะอยู่ตรงนี้ตรงที่ๆคุณมองมันผ่านไป จำไว้ว่าถึงแม้คนทั้งโลกนี้จะหันหลังให้คุณ แต่ผมคนหนึ่งที่พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอไป” ฉันอึ้งไปชั่วขณะ O_0 อะไรกันเนี่ยวันนี้เป็นวันอะไรกันแน่ มีแต่เรื่องที่ทำให้ฉันสับสนตลอดเลย ฉันไม่ไหวแล้วฉันเหนื่อยมาก ตอนนี้ตาของฉันมันเริ่มจะปิดลงเอาดื้อๆร่างกายของฉันอ่อนแรงลง ฉันรู้สึกเหมือนกับมีใครบางคนอุ้มฉันไป อ้อมแขนที่อบอุ่นดูร้อนรนในการอุ้มฉัน เขาคนนั้นคงจะตกใจมากเลยทีเดียว แล้วหลังจากนั้นความรู้สึกของฉันก็หายไป…..

      “เรน…!”ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาฉันมองไปรอบๆห้องนอนของฉัน เฮื่อย..บางทีฉันอาจจะฝันก็ได้มันคงไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ฉันหวังว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้น ฉันลุกขึ้นมาจากเตียง เดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปโรงเรียนแล้วเดินลงมาจากห้องนอน

      “อ่าว….ซาวอง ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปก็ได้นะ หยุดซักวันก็ได้ ยังไม่สบายอยู่หรือ
      เปล่า  นี่…เมื่อคืนนี้นะ มีผู้ชายหน้าตาดีมาส่งลูกที่บ้านด้วย เขาแมนมากเลยนะ เขาอุ้มลูกของแม่ไปส่งถึงห้องนอนเลยแหละ เขาเป็นแฟนลูกหรือเปล่า”แม่เดินเข้ามาถามฉัน

      “เปล่าค่ะ  แม่  เขาเป็นเพื่อนในห้องค่ะ  เป็นนักเรียนใหม่ ที่บังเอิญไปเจอกันตอนหนูกลับบ้าน แล้วจากนั้นหนูก็เป็นลมไป…..”ฉันอยากจะให้คนที่อุ้มฉันเมื่อคืนนี้เป็นเรนจัง ถึงแม้ว่าฉันจะรู้คำตอบอยู่แล้วแต่ฉันก็ยังอยากให้เป็นเขา แม้จะเป็นได้แค่ความคิดก็ตาม

      “ซาวอง..แม่เป็นห่วงลูกมากเลยนะ  นี่ยังดีที่มีเพื่อนดี ไม่งั้นแม่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีถ้าลูกของแม่เป็นอะไรไปอีกคน ตอนนี้เราก็เหลือกันอยู่สองคนแม่ลูกแล้วนะ มีเรื่องอะไรก็บอกแม่ได้นะ” ไม่มีหวังแล้วสิ ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ฉันอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน ที่พอตื่นขึ้นมาแล้วมันก็จบไป  แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากตื่นขึ้นมาเพื่อเผชิญกับโลกความจริงอีกเลย

      “ค่ะ แม่ หนูขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะค๊ะ” ฉันโผเข้ากอดแม่ ฉันเสียใจที่ทำให้แม่เป็นห่วง  แต่สิ่งที่ทำให้ฉันเสียใจที่สุด ก็คือ……เรน

      “นี่….ซาวอง  ไปโรงเรียนได้แล้วนะลูก  แต่ถ้าลูกไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร  พักผ่อนอยู่บ้านก็ได้นะ” แม่คลายอ้อมกอดแล้วหันมาพูดกับฉัน  ฉันจะไปดีไหม  ฉันจะเผชิญกับโลกแห่งความจริงได้ไหม ความจริงที่ว่าเรนมีแฟนแล้วและที่สำคัญ คือ เราคงจะต้องห่างกันไป คงจะคุย คงจะกลับบ้านด้วยกันเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว

      “ไปค่ะ  เดี๋ยวหนูจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” ฉันตัดสินใจแล้ว  ฉันควรที่จะตัดใจจากเขาได้แล้ว   ตอนนี้ฉันควรที่เดินออกไปเพื่อเผชิญกับความจริง ไม่ใช่ยึดติดอยู่กับจินตนาการและความเพ้อฝัน  ซึ่งมันไม่สามารถเป็นไปได้เลย

      “ระวังตัวด้วยนะลูก  หาเพื่อนเดินกลับบ้านด้วยนะ เผื่อว่าลูกเป็นอะไรไปจะได้มีคนช่วยไว้ได้ทัน” แม่หันมากำชับฉันอีกที

      “ค่ะ  แม่หนูไปแล้วนะค๊ะ” สิ่งแรกที่ฉันได้พบตอนที่ออกจากบ้านก็คือ....ฮานเซจุน

      “หวัดดี  ซาวอง” เซจุนยิ้มและทักทายฉันอย่างสดใส

      “อืม หวัดดี” ฉันยิ้มแห้งๆให้เขา บอกตามตรงว่าฉันไม่มีอารมณ์จะพูดกับใครเลย

      หลังจากนั้นฉันกับเซจุนก็เดินมาโรงเรียนด้วยกันเขาพยายามชวนฉันคุย แต่ฉันไม่อยากจะพูดอะไรมาก พอเขาถามคำ ฉันก็ตอบคำ ตอนที่เข้าโรงเรียนมาฉันรู้สึกว่ามีสายตานับร้อยคู่จ้องมองมาที่เขากับฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากจะสนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เรื่องเดียวที่มีอยู่ในหัวฉันก็คือ…….เรน

      “………….” เมื่อกี๊ เรนเดินผ่านหน้าฉัน แต่ทำไมเขาทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็นฉัน

      “มีอะไรหรือเปล่าซาวอง” เซจุนหันมาถามฉัน

      “เปล่าๆ  ไม่มีอะไรหรอก” ฉันก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป  ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย  ฉันอยากจะให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม อยู่ๆ น้ำใสๆไหลลงมาตรงแก้มของฉัน

      “ซาวอง  เธอเป็นอะไรเหรอ  เธอร้องไห้ทำไม ซาวอง” เซจุนจับไหล่ฉันไว้แน่น

      “ผมรู้ ว่าคุณคงชอบเรน แต่ผมก็อยากจะให้คุณรู้ว่าผมรักคุณนะ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยสนใจผมเลยก็ตาม แต่ถ้าคุณมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาผมได้นะหรือในเวลาที่คุณร้องไห้ไม่มีใครที่ระบายความรู้สึกก็บอกผมได้นะ ผมจะคอยปลอบคุณเอง ผมรู้ว่าคุณไม่เคยคิดอะไรกับผมเลยแต่ก็ไม่เป็นไร ถึงเราจะเป็นแค่เพื่อนกันก็ขอให้ผมได้พูดคุยกับคุณเหมือนเดิมผมก็พอใจแล้ว” เขายิ้มให้ฉัน เขารักฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ  ทำไมคนที่ฉันรักกลับไม่รักฉัน ไม่เคยที่จะรู้ความรู้สึกของฉันเลย แต่ทำไมคนที่รักฉัน ฉันกลับไม่เคยคิดจะรักเขาเลยแม้แต่น้อย

      “……….” ฉันไม่รู้จะพูดกับเขาว่ายังไง เขาก็คงจะรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงเช่นกัน “นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน แต่ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันก่อนนะ ฉันยังไม่พร้อมที่จะรักใคร”

      “อืม…ผมรู้อยู่แล้วแหละ ว่าคุณจะตอบว่ายังไง ไม่เป็นไรหรอก”เขายิ้มให้ฉัน

      หลังจากนั้นฉันกับเซจุนเราก็สนิทกันมาก  จนบางครั้งเพื่อนในห้องคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน ในตอนนี้ฉันยังลืมเรนไม่ได้เลย เรนเอาแต่หลบหน้าฉัน ไม่ว่าฉันจะพยายามเข้าไปทักทายเขาเท่าไร แต่เขาก็เดินผ่านฉันไป ไม่พูดไม่คุยอะไร เขาทำเหมือนกับว่าฉันเป็นแค่อากาศที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้ เขาเป็นอะไรไปกันแน่ ฉันอยากรู้ว่าเขาจะเจ็บปวดเหมือนฉันบ้างไหม ทำไมเขาถึงได้ทำแบบนี้  ฉันอยากรู้เหตุผล……ทำไมเรน  ทำไม

      กุมภาพันธ์  2005
      หลายวันมานี้เรนไม่มาโรงเรียนเลย เขาจะเป็นอะไรมากหรือเปล่านะฉันเป็นห่วงเขาจัง  เช้าวันนั้นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเราเข้าห้องมาด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด บรรยากาศในห้องเริ่มเปลี่ยนไป  ทุกๆคนนั่งเงียบและมองมาที่อาจารย์ อาจารย์นิ่งไปสักครู่ก่อนพูดว่า
      “วันนี้ครูได้รับข่าวจากผู้ปกครองว่า เพื่อนของเรา นั่นก็คือ เรน ตอนนี้ได้เสียชีวิตในตอนเย็นของวันที่ 27 เนื่องจากโรคมะเร็ง ขอให้พวกเรายืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้เรน 2 นาที” ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนสงบนิ่ง ฉันทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้ร่างกายฉันมันชาเหลือเกิน มันไม่จริงใช่ไหม มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเรนเองก็ออกจะแข็งแรง มันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ ไม่จริง ตอนนี้ฉันสบสนเหลือเกิน ฉันปวดหัวมาก ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ

      “อาจารย์คะ โชซาวองเป็นลมคะ” เสียงนักเรียนหญิงคนหนึ่งร้องขึ้นด้วยความตกใจ
      ……………………………………………………………………
      “เรน…..!”ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา  ที่ไหนเนี่ย ฉันมองไปรอบๆห้อง อ๋อ ฉันพอจะนึกออกแล้วว่าที่นี่คือที่ไหน……..ห้องพยาบาลของโรงเรียน ใช่!ฉันเป็นลมไป ตอนที่ทุกคนในห้องกำลังยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับ…เรน  ในตอนนี้น้ำตาของฉันก็เริ่มไหลออกมา มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม มันเป็นเรื่องจริงใช่หรือเปล่า  เรน….ฉันยอมให้เรนมองฉันอย่างดูถูกและเหยียดหยาม หรือจะไม่พูดกับฉันตลอดไปก็ได้แต่ขอแค่เรนไม่จากฉันไปแบบนี้  เรนจากไปโดยไม่บอก ไม่กล่าวสักคำ ไม่มีแม้กระทั่งคำร่ำลา อย่างน้อยก็บอกกับฉันในฐานะเพื่อนคนหนึ่งก็ยังดี เรนไม่เคยบอกอะไรกับฉันเลย ทำไมหล่ะ  เรนรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงเรนมากแค่ไหน  ตอนนี้เรนจากฉันไปและก็จากทุกๆคนไปอย่างไม่มีวันที่จะหวนกลับมาได้อีก  เรน…..ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องบางอย่างกับเธอเลย  มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับฉัน แต่สำหรับเรนคงจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

      “เรน……ฉันรักเรนนะ  ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้และไม่เคยจะหวังให้เรนรักฉันตอบ มันสายไปแล้วใช่ไหมเรน  ที่ฉันบอกออกไป ฉันหวังว่าเธอคงจะได้ยินฉันนะ” ฉันรู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรออกไปมันคงไม่มีค่าอะไร เหมือนฉันเป็นคนบ้าคนหนึ่งที่เพ้อเจ้อถึงคนที่ฉันรัก  ฉันนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียง โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

      “โชซาวอง” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น จากเตียงด้านข้างของฉัน

      “อ่าว! เธอนั่นเอง  เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไงเหรอ” เธอเป็นแฟนของเรนคนที่ฉันเจอวันนั้น

      “ฉันก็มาหาเธอไง” เอ๊ะ! งั้นแสดงว่าเธออยู่เตียงข้างๆนี้มานานแล้วสิ แล้วเมื่อกี๊เธอจะได้ยินฉันพูดหรือเปล่า ถ้าเธอได้ยินหล่ะ จะทำไงดี เธอคงจะโกรธแน่เลย

      “เรื่องเมื่อกี๊  ที่เธอพูดน่ะ  ฉันได้ยินหมดแล้วนะ” เธอมองมาที่ฉัน

      “อะ  เออ…..ฉันขอโทษก็แล้วกันนะ เธอคิดซะว่าเธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดก็แล้วกัน เธอคงจะรู้สึกไม่ดีฉันก็เข้าใจ  ฉันขอโทษจริงๆ” T^T ฮือๆ ทำไมฉันถึงได้ซวยอย่างนี้

      “ ที่ฉันมาหาเธอก็เพราะ  ฉันมีของอย่างหนึ่งที่จะต้องเอามาให้เธอ  อะ  นี่” เธอยื่นสมุดเล่มหนึ่งมาให้ฉัน  เอ๊ะ! ทำไมมันถึงมีรูปของฉันอยู่ที่หน้าปกหล่ะ O_o มันถูกห่อปกเอาไว้เป็นอย่างดี  แต่มันเป็นของใครกันเนี่ย แล้วทำไมจะต้องเอามาให้ฉันด้วย

      “ของใครเหรอ แล้วเอามาให้ฉันทำไม”ฉันก้มหน้ามองหนังสือ แล้วก็เงยหน้ามองหน้าของเธอ ( - - ) (_ _) ( - - )

      “ถ้าอยากรู้ เธอก็รับไปสิ” เธอยิ้มให้ฉัน

      “กะ..ก็ได้” ฉันค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบสมุดนั้นมา แล้วเปิดมันขึ้นอ่าน

      “ฉันต้องไปแล้วแหละ  หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ลาก่อน” เธอเดินออกไปอย่างรีบร้อน
      ฉันเปิดหนังสือในมือขึ้นมาอ่าน แล้วมันก็ทำให้ฉันตกใจ O_O  นี่ มันสมุดไดอารี่ของเรนนิ่  ฉันค่อยๆ เปิดอ่านมันอย่างถะนุถนอมที่สุด
      ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำอย่างไร ผมรักเธอ ผมรักเธอมาก แต่เราคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน  สำหรับเธอผมคงจะเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งเท่านั้น  การที่ผมรักเธอซึ่งเป็นเพื่อนของผมมันผิดมากหรือเปล่า

      19 / 01 / 05
               ผมรู้สึกว่าเธอแอบมองผม แต่ผมคงจะคิดไปเอง เธอคงจะไม่มีทางแอบมองผมหรอก วันนี้นายฮานเซจุน เข้ามาทักทายซาวอง ผมรู้ว่าเธอคงจะชอบเซจุน นายนั่นทั้งน่ารัก ทั้งนิสัยดี  คงจะเหมาะกับเธอแล้วแหละ  ผมเห็นสายตาที่เซจุนมองซาวอง  ผมรู้ความรู้สึกของหมอนั่นดี แววตาแบบนั้นเป็นแววตาเดียวกับที่ผมมองเธอ…..มองด้วยความรัก

      ผมรู้ ผมควรจะออกห่างเธอไว้ก่อน มันคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เธอคงจะได้พบและพูดคุยกับเซจุนได้มากกว่านี้  ผมคิดว่าผมคงทำถูกแล้ว ผมผิดไหมที่อยากเห็นคนที่ผมรักมีความสุข  เพราะอยู่กับผมเธอคงจะเบื่อ ผมจึงบอกให้เธอกลับบ้านกับคนอื่น  ผมไม่รู้ว่าจะไประบายความรู้สึกต่างๆนี้ให้ใครฟังได้  แล้วผมก็ได้เจอกับควานจองมี เธอเป็นเพื่อนสมัยประถมของผม  ผมจึงเล่าทุกๆอย่างให้เธอฟัง  มีเธอคนเดียวนี่แหละที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องของซาวองได้

      ตอนที่ผมจะกลับบ้าน ผมได้เจอกับเธอที่หน้าประตูโรงเรียน  เธอจะรู้ไหมว่าผมดีใจมากแค่ไหน ที่เธออุตส่าห์ยืนรอผม  แต่ผมก็ดันอยู่กับจองมี แล้วเธอก็คิดว่าผมกับจองมีเป็นแฟนกัน แต่ผมก็ไม่ขออธิบายอะไรจะดีกว่า  ให้เธอคิดอย่างนี้แหละดีแล้ว  เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงผม  ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นตัวถ่วงเธอ เพราะที่ผ่านๆมา เธอจะชอบเล่าให้ฟังว่า มีคนมากมายที่เข้ามาจีบเธอ  แต่เธอก็บอกว่าเธอไม่สนใจหรอก เพราะเธอยังไม่อยากมีแฟนและตอนนี้เธอก็มีผมอยู่ทั้งคน คงไม่เหงาถึงขนาดต้องมีแฟนหรอก  ผมแทบจะร้องไห้เมื่อเธอย้ำคำว่าเพื่อน สำหรับผมคงจะเป็นได้แค่นี้ แค่เพื่อนคนหนึ่ง ( อ่านมาถึงตอนนี้น้ำตาของฉันก็ยิ่งไหลหนักขึ้นมากกว่าเดิม  ทำไมเรน  ทำไมนายถึงไม่เข้าใจความหมายที่ฉันสื่อออกไป ฉันเองก็โง่ที่ไม่เข้าใจนายเหมือนกัน  ทำไมหล่ะ  ทั้งๆที่เรารักกันแต่ทำไมเราต้องพรากจากกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่ได้บอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับรู้เลย )

      ผมเป็นห่วงอยากไปส่งเธอที่บ้าน  ผมกล้าที่จะทิ้งจองมีให้รอผมอยู่ก่อนเพื่อผมจะได้ไปส่งเธอที่บ้านแล้วค่อยย้อนกลับมาส่งจองมีอีกที  อันที่จริงแล้วทุกๆวันที่ผมกลับบ้านกับเธอ  เธอคงไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วบ้านของผมอยู่ตรงไหน ถึงแม้ว่าเธอจะเคยถามผมหลายครั้งแต่ผมก็พยายามบ่ายเบี่ยงตลอดผมก็ผมอยากกลับบ้านกับเธอทุกวันถึงผมจะต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงที่จะเดินไปส่งเธอที่บ้านแล้วย้อนกลับมาอีกทางเพื่อกลับบ้านผม รวมแล้วผมใช้เวลาในการเดินกลับบ้านทั้งหมดไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่งทุกวันก็ตาม  ผมอยากไปส่งคนที่ผมรักให้กลับถึงบ้านอยากปลอดภัยทุกวัน แต่วันนี้เธอไม่ต้องการให้ผมไปส่งเธอแล้ว  เธอบอกว่าเธอกลับเองได้ ดูท่าทางเธอไม่ค่อยดีเลย  ผมเป็นห่วงเธอมากจึงบอกให้จองมีสะกดรอยตามซาวองกับผมเพื่อจะไปส่งเธอที่บ้าน ซึ่งจองมีก็เข้าใจแล้วยอมทำตามคำขอของผม เราเดินตามเธอห่างๆ เธอร้องไห้ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมคงไม่มีหน้าไปพบเธออีกแล้ว ตอนนี้เธอคงจะเกลียดผมมาก คงจะเป็นเพราะว่าเธออุตส่าห์รอผมแต่ผมกลับจะกลับบ้านกับเพื่อนอีกคนมั๊ง  ผมคิดว่าอย่างงั้น

      เธอได้เจอกับเซจุนแล้วอยู่เธอก็ล้มลงไป  ในวินาทีนั้นผมตกใจมาก ยังดีที่เซจุนรับซาวองไว้ทันไม่งั้นหัวอาจจะน็อคพื้นได้ ผมวิ่งเข้าไปดูเธอแล้วอุ้มเธอไปส่งที่บ้านโดยฝากให้เซจุนช่วยไปส่งจองมีให้ผม  ผมอธิบายเรื่องราวให้แม่ของซาวองฟัง ดูท่าทางท่านจะเป็นห่วงลูกท่านมาก ผมรู้สึกประหลาดใจ เมื่อมองไปเห็นรูปบนหัวเตียงของซาวอง  เธอยังเก็บรูปที่เราถ่ายด้วยกันตอนไปทัศนศึกษา  ผมดีใจมากที่เธอยังเก็บมันไว้เป็นอย่างดี  ผมค่อยๆห่มผ้าให้เธอแล้วผมก็กระซิบที่ข้างหูเธอว่า “ฉันรักเธอ….ซาวอง” ผมบอกไปแล้ว  ผมบอกรักกับเธอไปแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ยินก็ตามแต่อย่างน้อยผมก็ได้พูดคำว่ารักให้กับเธอคนนี้ ซึ่งเธอคงจะเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ผมจะบอกรัก…..ผมรักเธอมากจริงๆ และก็อยากเห็นเธอมีความสุข
        
      ตอนเช้าของวันต่อมา  ผมเห็นเธออยู่กับเซจุนเธอดูท่าทางมีความสุข เธอพูดคุยและหัวเราะกับเซจุน  ซึ่งกับผมนั้นเธอไม่เคยที่เป็นกันเองแบบนี้เลย  เธอจะเงียบก้มหน้าและหลบสายตาผมเสมอ  มันคงจะเป็นการดีถ้าเธอกับเซจุนจะเป็นแฟนกัน เธอคงจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งอย่างผม  ผมพยายามหลบหน้าเธอ  ผมต้องพยายามฝืนใจและอดกลั้นมากแค่ไหนในการที่ใจร้ายกับเธอแบบนี้  ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากคุยกับเธอ  แต่ผมกลัวว่าเธอจะยึดติดกับผม กับเพื่อนคนนี้มากเกินไป จนทำให้เธอไม่ได้คบกับคนที่เธอรัก คุณจะให้ผมทำอย่างไรก็ในเมื่อเธอไม่ได้รักผมเลย  มีแต่ผมที่แอบรักเธออยู่ฝ่ายเดียว  แล้วถ้าเกิดเธอรู้เรื่องที่ผมรักเธอเข้าเมื่อใดความสัมพันธ์ระหว่างเราคงจะจบลงเธอคงจะไม่เป็นอย่างเดิม  เธอคงจะต้องทำตัวห่างเหินผมไป  ให้มันจบอย่างนี้แหละดีที่สุดแล้ว

      หลายวันมานี้ผมรู้สึกว่าร่างกายผมอ่อนแอ  จะทำอะไรก็เหนื่อย  ผมว่าผมคงต้องไปโรงพยาบาลซะแล้วสิ   ถึงจะไม่ได้เจอหน้ากันแต่ผมก็คิดถึงและรักเธอเสมอ  ซาวอง….ผมนั่งเขียนชื่อของเธอในยามที่เหงา  ผมหยิบรูปของเธอขึ้นมาดูอยู่หลายหนในตอนที่ต้องอยู่โรงพยาบาล  ผมยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นโรคอะไรกันแน่  ทำไมทุกคนในครอบครัวของผมถึงดูท่าทางแปลกๆไปก็ไม่รู้  สงสัยว่าเวลาแห่งความสุขของผมคงจะใกล้หมดแล้วแหละ  แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกเพราะว่าในตอนนี้หัวสมองของผมคิดแต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้น คนที่ผมรัก
      คนที่ชื่อ โชซาวอง……….

      เรน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง  ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์  2005 เวลา  22.39 น.   ณ    โรงพยาบาลควองจี

      “ฮือๆๆๆๆ…”ฉันปิดหนังสือลงแล้วกอดหนังสือไว้
        
      “เรน……ฉันรักเธอนะ   เรนเธอได้ยินฉันไหม” ฉันน่าจะมีความกล้ามากกว่านี้  จะได้บอกรักกับเรนไป  อย่างน้อยๆเขาจะได้รับรู้เอาไว้   ฉันค่อยๆวางสมุดไดอารี่ของเรนไว้บนเตียง  แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาเช็ด

      ชิ้ว~……..
      ลมได้พัดเอาสมุดไดอารี่ของเรนหล่นลงบนพื้นแล้วพัดหนังสือให้เปิดไปยังหน้าๆหนึ่งซึ่งอยู่ท้ายๆเล่ม  ซาวองหยิบสมุดขึ้นมาอ่าน

      “ถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้ฉันคนนี้จะไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ  แต่อยากให้เธอรู้ไว้ว่าฉันยังรักและเป็นห่วงเธออยู่เสมอ  ฉันจะค่อยมองดูเธออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเธอเท่าไรหรอก  ถ้าเธอคิดถึงฉัน  ขอให้เธอมองไปรอบๆ  ฉันคงจะอยู่ที่ใดที่หนึ่งใกล้ๆนั้น  จะอยู่ดูแลและเฝ้ามองเธอตลอดไป……..”


      ตอนนี้ถ้าคุณรักใครสักคน  ก็รีบบอกเขาไปซะ  ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูด  ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×