ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Exo x You] มาอยู่ด้วยกันนะ (เลือกพระเอกได้)

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 21 เซมีเธอน่ะ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.55K
      17
      7 เม.ย. 57

     

    “หมายความว่าที่เธอนอนไม่หลับมาทั้งชีวิตเป็นเพราะคำสาปจากแม่มดหรอครับ?” ดีโอทบทวนสิ่งที่เมอร์ลินเพิ่งเล่าให้เขากับชานยอลได้ฟังในห้องโถงใหญ่ เมอร์ลินพยักหน้าช้าๆก่อนจะพูด

    “พลังอัศวินของเธอไม่ใช่การนอนไม่หลับหรอกนะดีโอ”

    “แล้วมันคืออะไรครับ”

    “มันเป็นพลังแห่งสายสัมพันธ์หรือพูดอีกอย่างว่าเธอเป็นศูนย์กลางที่จะทำให้เหล่าอัศวินมาเจอกัน นั่นละคือพลังที่แท้จริงของเธอ”

    “ยัยแม่มดชั่ว” ชานยอลสบถออกมาอย่างโกรธเคือง

    “ใช่ ชั่วมาก” เมอร์ลินว่า “แต่เราก็ดีมากเหมือนกันนะ เพราะเรากำลังจะถอนคำสาปนั่นออกไป”

    “ผมไปพาตัวเธอมาเลยดีมั้ยครับ?” ดีโอรีบร้อน

    “เดี๋ยวๆ” เมอร์ลินยกมือห้าม “ไม่คิดบ้างหรอว่าทำไมฉันถึงมาคุยกับพวกนายเป็นการส่วนตัวแบบนี้?” เมอร์ลินเลิกคิ้วเล็กน้อย “การถอนคำสาปเมื่อครั้งของวิเวียนจำได้มั้ยว่าต้องทำยังไง?”

    “...ยังไงครับ” ชานยอลไม่แน่ใจว่าประเด็นไหน

    “สิ่งสำคัญที่สุดในการถอนคำสาปที่ฝังลงไปในร่างแบบนี้...และยังฝังตั้งแต่เกิดด้วย มันจึงเป็นคำสาปที่ค่อนข้างฝังลึกและถอนยากอยู่นะ ในกรณีวิเวียนกับซูโฮนั่นขอแค่ซูโฮมีความจริงใจต่อเธอคนเดียวก็เกินพอแล้วละ...แต่สำหรับเซมีแล้ว เธอจะต้องหารักแท้ของตัวเองให้เจอ...ฉันหมายถึงคนที่เธอรักจริงๆน่ะ ไม่ใช่คนที่รักเธอฝ่ายเดียว เข้าใจที่พูดมั้ย?”

    ชานยอลกับดีโอนิ่ง เมอร์ลินเลยต่อ “แล้วถ้าเราไปบอกเธอว่า เธอโดนคำสาปนะรีบๆหาคนรักได้แล้ว มันจะหาได้มั้ย? ไม่ได้แน่นอน...เพราะฉะนั้นพวกนายสองคนที่สนิทกับเธอมากที่สุด จะต้องช่วยเธอหาคนๆนั้นให้เจอ ส่วนเรื่องอุปกรณ์อื่นๆซูโฮกับคริสจะจัดการให้เอง นี่...” เมอร์ลินเดินไปแตะไหล่ทั้งสองคน “ความรักคือสิ่งเดียวที่คำสาปยอมแพ้...ฉันเชื่อว่าพวกเธอทำได้ พยายามเข้านะ หาคนที่เธอรักให้เจอ”

    จากนั้นเขาก็เดินจากพวกเขาไปปล่อยให้ชานยอลกับดีโอยืนนิ่งและใช้ความคิดอย่างหนัก...ถึงเวลาแล้วสินะ...ที่ต้องทำอะไรบางอย่างกับความรู้สึกนี้

    “เอ่อ..ชานยอล” ดีโอเริ่ม “นะ-นายคิดว่าใครหรอ...ที่เซมี...จะชอบหรือรักน่ะ คิดออกบ้างมั้ย?”

    “เอ่อ...” ชานยอลตอบแต่ไม่มองดีโอ “อาจจะ...เป็นนายก็ได้ดีโอ”

    “บ้าหน่า” ดีโอยิ้มแห้งๆและไม่สบตาชานยอลเหมือนกัน “ฉันว่า...นายมีสิทธิ์มากกว่าฉันอีก”

    “สิทธิ์อะไรกันเล่า...นายน่ะเป็นเพื่อนคนแรกของเธอนี่”

    “แต่นายมีอะไรหลายๆอย่างที่ฉันไม่มีนะชานยอล แล้วเธอก็สนิทกับนายด้วย”

    “ไม่หรอก” ชานยอลหันไปมองดีโอ และดีโอก็มองชานยอล “นายน่ะใกล้ชิดกับเธอมากกว่าฉันอีก”

    “แต่ว่า” ดีโอพูด ทั้งสองจ้องตากัน “นายคือคนที่เธอเชื่อใจที่สุดนะ”

    “ใครบอก ความลับของเธอนายเป็นคนแรกที่จะได้รู้ไม่ใช่หรอ”

    “แต่ความลับของเธอก็คือเรื่องของ--

    “พอเถอะ” ชานยอนตัดบท แต่ทั้งสองคนยังมองหน้ากันอยู่...

    ความรู้สึกขัดแย้งมากมายเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน...ทั้งความต้องการของหัวใจ...ทั้งความต้องการของมิตรภาพ...และความต้องการเอาชนะ มันปนเปจนแยกกันไม่ออกเลยว่าควรจะคิดสิ่งไหนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

    “ชานยอล” จู่ๆเฉินก็เข้ามาในห้องและก็ต้องเงียบทันทีเมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศแปลกๆ “เอ่อ...ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ”

    “มีอะไรหรอ” ชานยอลตัดสินใจเดินไปหาเฉินและทิ้งดีโอค้างไว้อย่างนั้น “ฉันว่างแล้ว”

    “เอ่อ...มีเรื่องจะถามนิดหน่อย...เอ่อ...คือ” เฉินหันไปมองดีโออย่างหวาดๆ

    “ไปกันเถอะ” แล้วชานยอลก็ลากเฉินเดินตรงไปที่ห้องตัวเองและเห็นแบคคยอนรออยู่ในนั้นอยู่แล้ว ชานยอลสงสัยว่ามีเรื่องอะไรกันถึงต้องมารวมตัวกันแบบนี้ ความจริงพวกเขาก็ชอบมารวมตัวโดยไร้จุดหมายอยู่แล้วนี่นะ แต่วันนี้มันแปลกไปนิดหน่อยตรงที่ว่าทั้งแบคและเฉินดูค่อนข้างซีเรียส

    “มีอะไรจะถามงั้นหรอ?” เขาหันไปมองแบคกับเฉินสลับกัน

    “นั่งก่อนสิ” แบคว่าพลางเขยิบให้ชานยอลได้นั่งบนเตียงด้วย

    “คือ..” เฉินพูดไปพลางลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆทั้งสอง “ถ้านายไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่านะ แต่ฉันคิดว่า...นายต้องหาที่ระบายซักหน่อย แบคคยอนบอกว่าคนอย่างนายถ้าไม่ถามก็คงไม่บอก...พวกเราเลย”

    “ไม่ต้องอ้อมค้อม ถามมามีอะไร” ชานยอลเร่ง เฉินส่งสายตาให้แบคประมาณว่านายถามสิ

    “เอ่อ...” แบคคยอนลังเล “นาย...นายเป็นอะไรกับเด็กผู้ชายคนนั้น...เอ่อที่โดนคำสาปน่ะ ที่ชื่อจุนฮงคนนั้นน่ะ ฉันได้ยินว่านาย...เกือบร้องไห้”

    ชานยอลยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง ความรู้สึกโล่งแวบเข้ามาในหัวทันที เขาลืมเรื่องของเซมีไปชั่วขณะ “อ๋อ เรื่องนั้นหรอ ฉันตอบพวกนายได้สบายๆเลย ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนี้ก็ได้” เขาหันไปกระแทกไหล่แบคคยอนเล่นๆเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แบคยิ้มออกมาทันที เฉินก็ด้วย

    “แหม...ฉันเคยเห็นนายร้องไห้ซะที่ไหนละ ก็ตกใจสิ” แบคว่า

    “ใช่” เฉินเสริม “ใจฉันละเต้นตุบๆเหมือนระเบิดเวลาเลยละ”

    “เว่อร์ตลอดแหละนายน่ะ” ชานยอลหันไปเหวใส่เฉิน “ไม่มีอะไรหรอก...ฉันแค่นึกถึงน้องชายตัวเองน่ะ”

    “นายมีน้องชายด้วย?” แบคเริ่มสนใจ

    “ใช่ ฉันมีน้องชาย...มีถึงสองคนเลยละ” ชานยอลยิ้มให้เพื่อนทั้งสองอย่างภาคภูมิใจ “ฉันหนีออกจากบ้านมาเมื่อตอนอายุ16ปีได้มั้ง เมื่อรู้ว่าตัวเองกลายร่างเป็นหมาป่าฉันก็คิดอะไรไม่ออก...แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดคือฉันกลัวว่าน้องๆจะกลัวฉันจนไม่คิดว่าฉันคือพี่พวกเขาอีกต่อไป ฉันแก้ปัญหานี้โดยการหนีไปให้ไกลจากบ้าน...สุดท้ายก็เข้ามาอยู่ในป่า”

    แบคคยอนกับเฉินนั่งฟังอย่างตั้งใจ ชานยอลเล่าต่อ “ฉันหายตัวไปนานจนครอบครัวคิดว่าฉันตาย...ใช่ฉันน่ะ...ชานยอลคนเดิมน่ะตายไปแล้วละ...ส่วนน้องฉันก็เป็นแบบจุนฮงเลย ฉันเสียใจมากน้องๆทั้งสองไม่ยอมยิ้มไม่ยอมใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชายทั่วๆไป...เอาแต่เศร้า...และรอให้ฉันกลับไปอย่างไร้ความหวัง...ฉันเลยใช้วิธีหลอนพวกเขา...ให้พวกเขาคิดว่าฉันเป็นผีแล้วก็...นั่นแหละ ฉันไปบอกให้พวกเขาเข้มแข็งให้ได้โดยที่ไม่มีฉัน...”

    เฉินกลืนน้ำลายเพื่อไล่น้ำตาที่กำลังจะไหลลงคอ แบคนั่งนิ่งพลางกัดฟัน ชานยอลเล่าต่อไป “ฉันพยายามแทบตายที่จะไม่กระโดดเข้าไปกอดพวกเขา...น้องฉันก็เหมือนฉันนั้นแหละ...แรกๆก็อ่อนแอปวกเปียกแต่พอปรับตัวได้ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติสบายๆ...ตอนนี้พวกเขาคงกำลังหนีพ่อกับแม่เที่ยวอยู่แน่ๆ” ชานยอลหัวเราะแต่แบคคยอนปาดน้ำตา ส่วนเฉินเดินเข้ามากอดเขาไว้

    “บ้า!” ชานยอลว่าและผลักเฉินออกไป “ไม่ได้จบเศร้าซะหน่อย พวกนายเป็นอะไร สมองเลื่อนลงไปในไส้ติ่งกันหมดแล้วหรอ? หรือกลายเป็นพวกขี้แพ้ขี่ม้าไม่เป็นต้องขี่ลาแทน?” ชานยอลระเบิดหัวเราะ และแบคคยอนกับเฉินก็รัวด่าใส่เขาทันที...

     

     

     

     

    หลังจากที่ชานยอลออกจากห้องโถงและปล่อยดีโอไว้คนเดียวนั้น เขาก็นั่งลงบนโซฟายาวพยายามคิดและทบทวนเรื่องภารกิจอยู่นานจนในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่า

    เขาจะไปถามเซมี...ถามเธอตรงๆไปเลย

    ระหว่างที่เดินไปตามระเบียงเพื่อตามหาตัวเซมีอย่างรีบร้อนอยู่นั้น จู่ๆเลย์ก็เข้ามาคุยกับเขา

    “ดีโอ” เลย์ทำหน้ากังวล “ฉันยังหาเวนดี้ไม่เจอเลย...ฉันเหนื่อยมากอ่ะ นาย...พอมีเวลาไปกินไอติมเย็นๆกับฉันที่ห้องครัวหน่อยมั้ย? เทาไม่ว่างไปเป็นเพื่อนฉันน่ะ บอกว่ามีธุระที่ตลาดมืดอะไรของมันไม่รู้”

    “เอ่อ พอดีว่าฉัน--

    “นะ!” เลย์ทำหน้าขอร้อง “ดีโอ...” เขาดูเหมือนต้องการเพื่อนจริงๆนั้นแหละ ดีโอเลยพยักหน้ายอมไปกับเลย์

    พวกเขาเดินตรงไปห้องครัวสุดวิเศษที่มีของทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ เลย์เดินไปตักไอติมให้ดีโอและนั่งทำหน้ากังวลใส่เขา

    “ฉันไม่อยากตามหาแล้ว” เลย์ส่ายหน้า “ผู้หญิงบนโลกนี้เยอะเกินไป”

    “งั้นหรอ” ดีโอว่าพลางตักไอติมเข้าปาก ในหัวยังคิดเรื่องเซมีอยู่ “เหนื่อยก็พัก ไม่เห็นต้องรีบเลย”

    “อื้อ” เลย์ถอนหายใจ “ใช่ไม่เห็นต้องรีบเลย...คือฉันไม่ได้รีบหรอกนะ แต่” เขาหันมามองดีโอ “แต่ฉันปัดภาพเซมีออกไปไม่ได้ซักที”

    ดีโอถึงกับสำลักไอติมเล็กน้อย “อะ-อะไรนะ?”

    “คือฉัน...ฉันเห็นแต่เซมีอยู่ในหัวเต็มไปหมดเลย...เธอยังเข้ามาในฝันฉันอีกด้วยนะ...ฉันละสงสัยจริงๆว่าทำไม” เขาขมวดคิ้ว “หรือว่า...”

    “เลย์!” จู่ๆดีโอก็ลุกพรวดพราด “ฉันเพิ่งนึกออกน่ะ มีบางอย่างต้องทำ ขอตัวก่อนนะ” แล้วเขาก็เดินออกไป

    “เดี๋ยว” แต่เลย์ตามเขาไปด้วย “จะไปไหน...ฉันไม่มีเพื่อนเลย ไปด้วยสิ”

    “เอ่อ...ธุระส่วนตัวเล็กน้อยน่ะ นาย...เอ่อ...เดี๋ยวฉันไปหานะ” ดีโอออกตัววิ่งสุดแรงเกิดและเลี้ยวตรงระเบียง ปัง! ชนกับใครเข้าอย่างจังจนเกือบล้มลงพื้น

    “ดีโอ!” ลู่หานนั่นเองเขาช่วยพยุงดีโอให้ทรงตัว “รีบไปไหนเนีย เออ...เจอตัวก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องอยากขอร้องนาย”

    “เอาไว้ทีหลังนะครับพี่ลู่” ดีโอว่าพลางมองหาทางหนี “ผมมีเรื่องต้องทำครับ”

    “เดี๋ยวสิ” ลู่หานจับแขนเขาแน่น “เรื่องนี้สำคัญกับพี่มากนะ”

    ดีโอหันมาทำเป็นสนใจเล็กน้อย “อะไรครับ? ถามตรงนี้เลย”

    “คือในฐานะที่นายเป็นคนที่เซมีสนิทด้วยที่สุด...”

    “ไม่ที่สุดหรอกครับ” ดีโอแก้

     “อื้อ...แต่ก็สนิทนั้นแหละ ช่างเถอะ...แต่นายช่วยฉันได้”

    “ช่วยอะไรครับ?” ดีโอเร่งจนแทบจะกระทืบเท้ารัวๆ

    “คือฉันรู้สึกว่าเซมีแปลกๆไปน่ะ”

    เรื่องเซมีอีกแล้ว

    “ยังไงครับ?”

    “ไม่ใช่หรอก...คือฉันรู้สึกกับเซมีแปลกๆไปต่างหาก...เอ่อ...หลังจากวันนั้น...เอ่อ...ช่างมันเถอะ...แต่ฉันอยากให้นายไปถามเธอหน่อยว่า...เอ่อไม่ต้องถามตรงๆก็ได้เอาแบบ”

    “ว่ามาเลยครับ!” ดีโอเร่ง

    “เอ่อ...ให้ถามเธอว่า...คิดยังไงกับ--

    “ดีโอ!!” เลย์วิ่งตามมาทันจนได้ “นายจะรีบไปไหนของนาย!! ตั๋วพี่เบิร์ดขายวันนี้หรอไง?!

    อะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย!! ให้กูไปเถอะขอร้องละ

    “ผมว่าผมต้องขอตัวจริงๆแล้วละครับ” ดีโอค่อยๆถอยหลังไป “ต้องขอโทษจริงๆเดี๋ยวผมจะกลับมาหาทั้งสองคนนะครับ”

    “เดี๋ยวสิ” ลู่หานยื้อ “พี่ยังไม่ได้--

    “ผมช่วยพี่แน่ครับ” ดีโอสวนกลับไปทันที

    “แล้วฉันละ!” เลย์ทวง “นายยังกินไอติมไม่หมดเลยนะ!

    “เดี๋ยวจะกลับไปเลียให้เกลี้ยงเลย ตอนนี้ขอ--

    เขาถอยไปโดยไม่ทันได้มองข้างหลังจนเผลอไปชนกับร่างเล็กๆของใครคนนึง และเขาเดาได้เลยว่าร่างของๆคนๆนั้นเป็นใครเมื่อเห็นจากสีหน้าแดงๆของลู่หานกับสีหน้าปวดร้าวของเลย์

    “เซมี!” ดีโอหันไปทักทายอย่างตกใจเล็กน้อย...เซมีไม่ได้มาคนเดียว เธอเดินมากับ...ชานยอล

    “มาทำอะไรกันนี่” เซมีมองพวกเขางงๆ “หรือว่าเจอห้องลับอีกห้อง?”

    ดีโอเจอตัวเธอแล้ว...แต่ไม่ได้อยากเจอแบบนี้ ชานยอลมองเขาเขม็งเหมือนรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร ใช่...เขากำลังจะทำ ตอนนี้แหละ เป็นไงเป็นกัน อึดอัดกันมานานให้มันได้รู้กันไปเลย

    “เซมี” ดีโอจ้องไปที่เธอไม่สนว่าชานยอลจะมองด้วยสายตาห้ามปรามเขาแค่ไหน “ฉันมีเรื่องจะถาม”

    “อะไรหรอ?” เธอผู้ไม่รู้อะไรกับเขาเลยก็ไม่นึกเอะใจ

    “เรื่องสำคัญเลยละ”

    “อะไรละ?”

    “เธอชอบใครอยู่หรือเปล่า”

    ทั้งเลย์และลู่หานหันไปมองดีโออย่างตกใจก่อนจะหันไปมองเซมีแบบต้องการคำตอบ...ชานยอลส่ายหน้าช้าๆแบบไม่เห็นด้วยอยู่ข้างหลังเซมี แต่หัวใจของเขาก็เต้นแรงเหมือนคนอื่นไม่แพ้กันเลย

    “อะไรนะ?” เซมีทำตาโตและคิดว่าตัวเองต้องฟังผิดไปแน่ๆ

    “ฉันถามว่า” ดีโอเน้น “เธอมีคนที่ชอบหรือเปล่า?”

    “เอ่อ...คือ” เซมียังไม่ค่อยแน่ใจว่าคำถามของดีโอหมายความว่าไง “ฉัน...” เธอมองไปยังทุกๆคนและเมื่อเห็นสายตาที่กำลังต้องการคำตอบของทุกคนนั่นก็ยิ่งทำให้เธอสับสน...เธอถอยหลังเหมือนจะหนีแต่ดันไปชนเข้ากับชานยอล...ไม่มีที่ให้เธอหนีเลยใช่มั้ย

    “คือฉัน...ฉันไม่เข้าใจ” เธอหันไปยิ้มเห่ยๆให้ดีโอ ทุกคนดูผิดหวังกับเธอมาก

    “ในนี้” ดีโอยังคงพยายาม “ในกลุ่มตรงนี้” เขาเน้น “เธอชอบใครมากที่สุด”

    “จะบ้าหรอ” เซมีเริ่มคิดได้ “ฉันก็ไม่ได้เกลียดทุกคน ทุกคนคือเพื่อนฉัน แล้วจะให้บอกว่าใครคือที่หนึ่งนี่มันไม่ใช่เรื่องละ ว่าแต่...ทำไมต้องถามฉันแบบนี้” เธอจับผิดดีโอได้ทันที

    “เอ่อ...” ดีโอลังเลเมื่อเห็นสายตาอันเฉียบแหลมนั่น “เอ่อ...พี่ลู่ให้ฉันมาถามเธอน่ะ”

    สายตาฉันเฉียบแหลมไปที่ลู่หานทันที

    “เฮ้ย!” เขาหน้าแดงมองดีโออย่างเคืองๆก่อนจะหันมาส่ายหน้ารัว “ไม่ใช่แบบนั้นนะเซมีคือ...คือพี่ไม่ได้...เอ่อ...” มันก็ใช่นั้นแหละที่ขอช่วยดีโอถามแต่ไม่ใช่แบบนี้สิ

    “แล้วพี่อยากรู้ทำไมว่าฉันชอบใคร?” เซมียิงคำถามตรงเข้าหัวลู่หาน

    “เอ่อ...ก็...ความจริงพี่ไม่ได้--

    “ฉันอยากรู้” จู่ๆเลย์ก็พูดขึ้นมา สายตาฉันเฉียบแหลมของเซมีไปที่เลย์ต่อ แต่เลย์ดูไม่กังวลและหวาดกลัวไดๆเลย “ฉันอยากรู้ว่าฉันชอบเธอหรือเปล่า”

    “อะไรนะค่ะ?” เหมือนทุกคนจะคิดแบบเดียวกับเซมี ที่ว่าเขาพูดผิดหรือเปล่า

    “ฉันอยากรู้ว่าฉันชอบเธอหรือเปล่า?” เลย์ยังคงพูดผิดต่อไป “ฉันชอบเธอจริงๆใช่มั้ย เธอรู้สึกแบบนั้นมั้ย?”

    “เอ่อ...พี่เลย์ค่ะ” เซมีหันไปมองเพื่อนๆแบบขอความช่วยเหลือ “อันนี้ก็ไม่ทราบค่ะ แต่ฉันว่า...คงไม่ใช่หรอกมั้งค่ะ...”

    “แต่ฉันเห็นเธออยู่ในหัวตอนกลางคืนบ่อยๆ” เขาเดินมาหาเซมีอย่างนึกสงสัย “ทำไมกันละ”

    “ฉันไม่รู้ค่ะ” เซมียังคงไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้

    “ไหนขอฉัน--” ไม่ทันที่ทุกคนจะคิดออกว่าเลย์กำลังจะทำอะไร จู่ๆเขาก็คว้าตัวเซมีมาใกล้ๆและโน้มตัวลงไปจะจูบเธอทันที ดีโอที่ยืนอยู่ใกล้พวกเขาสุดรีบเข้าไปแทรกตรงกลางไว้ทัน ลู่หานกระโจนเข้ามาและลากตัวเลย์ออกห่างจากเซมี ชานยอลรีบเข้ามากุมไหล่เซมีและลากเธอถอยออกมาเล็กน้อยเช่นกัน ส่วนดีโอยืนทำหน้าตกใจอยู่ตรงกลางเหมือนโดนไฟช็อตกับโดนผีหลอก

    นี่เขาคิดจะทำอะไรเธอน่ะ!!!!

    “เกิดอะไรขึ้น!” เหมือนเลย์เองก็ตกใจไปกับพวกเขา “นะ-นี่จูบคือเรื่องต้องห้ามของชาวโลกหรอ?!” เขาทำหน้าแตกตื่นเหงื่อ “ฉะ-ฉันไม่รู้ ฉันขอโทษ”

    ไม่มีใครตอบอะไร...ชานยอลลากเซมีที่ยังทำตาโตไม่หายออกไปเงียบๆ ส่วนลู่หานก็ลากเลย์ไปอีกทางทั้งๆที่เขาพร่ำขอโทษเซมีอยู่ ดีโออีกแล้วที่เป็นคนยืนค้างอยู่ที่เดิม

     

    ภารกิจนี้ดูท่าจะยากซะแล้ว...

     

     

     

    ตอนพิเศษ

     “เป็นอะไรมั้ย” ชานยอลถามเธอทันทีเมื่อเธอได้สติกลับมา ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ห้องชานยอล เซมีกำลังพยายามหายใจเป็นปกติ

    “อะ-โอเค” เธอบอก “โอเค...ฉันโอเคแล้วจริงๆ”

    “ทำไมจู่ๆเลย์ถึงได้ทำแบบนั้นนะ” ชานยอลทำหน้าไม่พอใจ

    “อ๋อ...”

    “เธอรู้หรอ?”

    “ก็...อาจจะอยากพิสูจน์ไง”

    “พิสูจน์อะไร?”

    “พิสูจน์ว่าเขาชอบฉันจริงๆหรือเปล่า” เซมีหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเรื่องชอบไม่ชอบ

    “....ใช้วิธีนี้ได้ด้วยหรอ” จู่ๆชานยอลก็สนใจ “ทำแบบนั้นแล้วรู้จริงๆหรอว่าชอบไม่ชอบ?”

    “ไม่รู้สิ” เซมียักไหล่ “ฉันเองก็ยังไม่เคยลอง” แล้วเธอก็หัวเราะ

    “ฉันไม่ยอมให้เธอไปลองกับใครหรอกนะ!” จู่ๆชานยอลก็โกรธซะงั้น เซมีมองหน้าเขางงๆ

    “หา?”

    “เอ่อ...” ชานยอลเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไร “นั่นแหละ...ฉันไม่อยากให้เธอไปลอง...เอ่อ”

    “แต่ฉันอยากลอง” เซมีท้าทาย “ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าเลย์เขาจะชอบฉันจริงๆมั้ย”

    “ไม่ได้!

    “ทำไมละ?”

    “ถ้าเกิดเขาชอบเธอขึ้นมาจะทำยังไง?”

    “ก็...ไม่รู้สิ...ช่วงนี้ฉันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆกับ...กับหลายๆคน” เธอหันหน้าหนีชานยอล

    “ยังไง” ส่วนชานยอลพยายามสบตาเธอ “ถ้าเกิดเขาชอบเธอขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง?”

    “ก็...ถ้าเขาลองพิสูจน์แล้วละนะ... ฉันเองก็จะรู้ว่าฉันชอบเขาหรือเปล่าด้วยเหมือนกัน...แล้วตอนนั้นฉันก็จะรู้เองแหละว่าต้องทำยังไงต่อไป...คิดว่านะ...”

    “ฉันไม่เข้าใจ”

    “ไม่ต้องเข้าใจนั่นแหละ” เซมีหัวเราะคิกคักกับสีหน้างงๆของชานยอล “ไม่ต้องไปคิดมันด้วยนะ”

    “แต่มันอึดอัด” เขาเริ่มขมวดคิ้ว

    “ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก...มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

    “ไม่นะ” เขาไม่คิดแบบนั้น “ฉันว่ามันอึดอัด...และทรมานไม่สบายตัวยังไงไม่รู้”

    “ใจเย็นๆ”

    “ฉันต้องเอามันออกไป” เขาว่า “ฉันไม่ชอบให้มันเป็นแบบนี้”

    “แล้วนายเป็นอะไร?”

    “ฉันไม่รู้” เขาตอบพลางจ้องไปที่เธอ...แล้วเขาก็รู้ว่าเขาต้องทำยังไง...”ฉันไม่รู้เลยจริงๆนะ” เขาค่อยๆโน้มตัวลงไปหาร่างที่เล็กกว่าตรงหน้า...และร่างบางคนนั้นก็คือคุณ คุณถอยห่างออกไปตามสัญชาติญาณในขณะที่ชานยอลเริ่มโน้มเข้ามาใกล้เรื่อยๆแถมสีหน้าของเขาก็ตึงเครียดและเหมือนอัดอั้นอะไรบางอย่างข้างใจ มันดูขัดๆกับพฤติกรรมของเขามาก

    “ชะ-ชานยอล” เธอดันอกเขาออกไปเมื่อมันเข้ามาใกล้จนแทบจะชิด “นะ-นายเป็นอะไร”

    “ฉันไม่รู้” เขายังคงขมวดคิ้วและโน้มตัวลงมาเรื่อยๆ เรื่อยๆจนจมูกทั้งสองสัมผัสกัน

    ร่างบางหลับตาปี๋ เธอรู้ว่าเขาจะทำอะไร...และนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชานยอลเลิกอึดอัดได้...เพราะงั้น

    ชานยอลค่อยๆประคองหน้าของเธอไว้ ก่อนจะโน้มลงไปจูบปากบางๆของร่างเล็กอย่างแผ่วเบาด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดคิ้วขมวดและมีเหงื่อบนหน้าผากเล็กน้อย...ใจของเขาเต้นรัว รัวและเร็วขึ้น...แต่เมื่อได้จุมพิตกับหญิงสาวตรงหน้าความอึดอัดหายไปโดยสิ้นเชิง...สีหน้าเขาเริ่มดีขึ้น...คิ้วที่ขมวดอยู่นั้นก็คลายลงเหงื่อหายไป จากนั้นเขาก็ค่อยๆถอนตัวออกมาจากเธอ...ก่อนจะหน้าแดงไม่พูดไม่จาเมื่อรู้ว่าทำอะไรลงไป

    “ตกลง...นายเป็นอะไร” เธอถามไปแบบกล้าๆกลัวๆ

    “มะ-ไม่รู้” เขาตอบพลางมองไปที่อื่น “แต่มัน...หะ-หายไปแล้ว...”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×