ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Exo x You] มาอยู่ด้วยกันนะ (เลือกพระเอกได้)

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 20 ความจริง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.59K
      20
      7 เม.ย. 57

     

    เมื่อซิ่วหมินทำการถอนคำสาปจากกำไลหมีนั่นได้แล้ว จุนฮงก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างนึกเสียใจที่เคยคิดว่ากำไลนี้คือตัวแทนของพี่ชายเขา ที่เขานึกว่าพี่ชายให้ใส่ติดตัวตลอด แต่ความจริงแล้วมันคือมันต้องสาปมันจะคอยดูดเอาความสุขของเขาออกไปทุกๆเสี้ยววินาที ซิ่วหมินจัดการเผากำไลนั่นจนเป็นผุยผงในขณะที่เงาของพี่ชายของจุนฮงเริ่มชัดขึ้น...ชัดขึ้นจนชานยอล เซมี เฉิน ไค เซฮุน เห็นเป็นร่างคนแต่ก็ยังโปร่งใส เงาของพี่ชายเขากำลังยิ้มให้พวกเขาอย่างขอบคุณ ก่อนจะจางหายไป...โดยที่ทิ้งให้จุนฮงนั่งร้องไห้และโทษตัวเองอยู่อย่างนั้น

    “นายไม่เป็นไรนะ” ซิ่วหมินเดินไปลูบหลังจุนฮงเบาๆ การแตะตัวของเขาไม่ได้ทำให้จุนฮงสะดุ้งหรือหลีกเลี่ยงอีกแล้ว “พี่ชายของนายไม่ได้คิดจะโทษนายเลย...เขาแค่เป็นห่วงนายเท่านั้นแหละ...ตอนนี้เขาสบายใจแล้วนะ...เขาไปดีแล้ว...”

    จุนฮงยิ่งร้องหนักเข้าไปอีก เขาสะอื้นและพยายามพูด “ผะ-ผม...ผมอยากให้พี่อยู่กับผม...ยะ-อย่างน้อยตัวแทน...อะ-อะไรก็ได้...ฮึก”

    จู่ๆชานยอลก็เข้าไปฉุดให้จุนฮงลุกขึ้นทั้งๆอย่างนั้นจนซิ่วหมินตกใจเล็กน้อย ทุกคนต่างจ้องไปที่ชานยอล...

    “นายต้องเข้มแข็งนะ!” ชานยอลพูดเสียงดัง เขาจับไหล่จุนฮงและพยายามสบตา “ถ้านายยังเป็นอยู่แบบนี้ นายจะทำให้พี่ชายนายลำบากใจนะจุนฮง! ถึงเขาจะตายไปแล้ว เขาจะหายไปจากโลกนี้ไปแล้ว...ถึงเขาจะไม่มาให้นายได้เห็นอีกต่อไปแล้ว...แต่นะ-นาย” เสียงชานยอลเริ่มสั่นแปลกๆ ใจของเซมีเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความกังวล จุนฮงจับจ้องชานยอลด้วยสายตาที่เนิงนองไปด้วยน้ำตาอย่างแน่วแน่ ชานยอลกระแอมเสียงดังก่อนจะไล่เสียงสั่นๆนั่นออกไปได้ “แต่นายต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ด้วยขาของนาย...มันถึงเวลาแล้วที่นายต้องก้าวขาไปตามทางของตัวเอง...ถึงเวลาที่นายต้องเลิกตามขาของพี่ชาย...ถึงเวลาที่นายต้องยิ้มและมีความสุขกับหนทางของนายเอง! ความทรงจำของพี่นายก็เก็บไว้! เก็บไว้ให้เป็นแค่ความทรงจำก็พอ อย่าได้คิดจะให้มันกลับมาเป็นจริง! เพราะมันเป็นไปไม่ได้! โตได้แล้วจุนฮง ถ้าฉันเป็นพี่นายฉันคงจะบอกนายแบบนี้”

    ได้ผล...จุนฮงหยุดสะอื้นและปาดน้ำตาออกไปแรงๆ สายตาของเขาเปลี่ยนไปทันที... ชานยอลยิ้มให้เด็กตัวโตตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจเหมือนเขาเป็นน้องชายจริงๆ

    “ขะ-ขอบคุณครับ” จุนฮงยิ้มตอบให้ชานยอล “ขอบคุณครับพี่”

    ชานยอลสวมกอดจุนฮงแน่นก่อนจะปล่อยให้เขาได้เข้ามาขอบคุณพี่ๆที่เหลือ ที่ช่วยเขาให้พ้นจากกำไลต้องสาปนั่น...จุนฮงเป็นเด็กสุภาพและน่ารักมากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะทรมานขนาดนี้เมื่อพี่ชายของเขาจากเขาไปกระทันหันแบบนั้น

    เรื่องของจุนฮงผ่านไปด้วยดี...เซมีหันไปชำเลืองมองอาการของชานยอลทันที...เขาดูแปลกไป...เขาไม่เคยเป็นแบบนี้...เขาไม่เคยหวั่นไหวกับสถานการณ์ไดๆมาก่อน...ทำไมเขาถึง...

     

     

    เช้าวันต่อมา...

    เซมีกำลังหาหนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพ่อมดแม่มดอยู่ เพราะเธอคิดว่าการที่ได้รู้จักตัวตนของคนเหล่านี้คือข้อมูลสำคัญในการทำงานของเธออย่างยิ่ง ความจริงเธอไปถามเมอร์ลินเอาก็ได้เพราะเขาเองก็ถือว่าเป็นวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์เช่นกัน แต่เขาไม่ว่างจะวางมือจากหนังสือนิยายเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์น่ะสิ ตอนนี้ก็อ่านเล่มสุดท้ายแล้วด้วยกำลังมันส์จนใครๆก็เรียกก็ไม่เงยหน้าตอบ แม้แต่คริสกับเซฮุนเขายังเมินเลย

    “อยู่ไหนเนี่ย ซูโฮบอกว่าแถวนี้ๆ” เซมีเดินหาก้มหาคลานหาก็แล้วยังไม่เจอหนังสือนั่นเลย “ให้ตายเถอะ นี่ฉันเชื่อคนแก่บอกทางได้ไงเนี่ยอายุตั้งร้อยกว่าละสมองน่าจะเลอะเลือนบ้างก็คงไม่แปลก” เธอตัดสินใจเลิกหาที่ห้องหนังสือแต่เดินขึ้นไปบนปราสาทตรงไปที่ห้องเก็บของเก่าแทน “หนังสือโบราณแบบนั้นมันก็ต้องอยู่ในที่แบบนี้ละนะ” เซมีเดินไปรอบๆห้องที่เต็มไปด้วยตู้ชั้นวางของเก่าๆที่จวนจะพังอยู่ร่อมร่อ บนชั้นวางของพวกนั้นมีหนังสือที่โดนปลวกแทะบ้าง ขาดบ้าง ปกหายบ้างไม่ก็ของที่ไม่สมประกอบที่ผุ่นขึ้นเครอะไปหมดวางไม่เป็นระเบียบ เซมีเหลือบไปเห็นหนังสือหนาๆอยู่ชั้นกลางของตู้ซึ่งเธอเอื้อมไม่ถึง เธอจึงลากบันไดลิงมาและปีนมันขึ้นไปอย่างลำบากเพราะฝุ่นดักหน้าเธอไปหมด ระหว่างที่กำลังดึงหนังสือออกจากตู้อยู่นั้น จู่ๆบันไดมันก็หักร่างเธอหล่นแผละลงบนพื้นอย่างแรงแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก เธอร้องด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากกว้างเมื่อเห็นตู้ทั้งตู้กำลังจะล้มทับเธอ

    ไม่นะ!!

    ตู้กำลังจะล้มทับเธอแต่มีใครคนนึงดันมันขึ้นไปตามเดิมซะก่อน

    ไม่นะ! ทำไมมันช้าแบบนี้!!

    เทายืนมองร่างเด็กสาวที่กำลังหลับปาตี๋พร้อมพึมพำอะไรบางอย่างที่ไม่ได้ศัพท์

    ไม่นะ! ทำไมยังไม่มาซักที!!

    “นี่” เทาก้มลงไปสะกิดเซมี

    ไม่นะ! เสียงยมบาลใช่มั้ย ไม่นะ!!

    “นี่!” เทาเขย่าตัวเธอ

    ไม่นะ อย่ากระชากวิญญาณหนูไปนะ!!

    “นี่!!” เทาฉุดให้เซมีลุกขึ้นยืนอย่างง่ายดาย

    ไม่นะ!! อย่าพาหนูไปนรก!! ชีวิตนี้ทำบาปแอบนินทาคนแก่เท่านั้นเองนะค่ะ!!

    “เซมี!!” เทาตะโกนเสียงดังซะจนเธอสะดุ้งและลืมตาขึ้นมา

    “นะ-นายเป็นยมบาลหรอ?!

    “จะบ้าหรอ! ฉันเห็นตู้มันล้มใส่เธอก็เลยเข้ามาช่วยไว้ ยมบาลอะไรของเธอ”

    เซมีนิ่งไปพักนึงก่อนจะคิดออกว่าตัวเองตลกแค่ไหน เทาหัวเราะเยาะเธออย่างสะใจ

    “ก็ฉันกลัวจริงๆนี่นา ตู้นั่นก็หนักใหญ่ก็ใหญ่...”

    “ไม่เห็นหนักเลย” เทาทำหน้าสบายๆ

    “มีแค่น้ำหนักของโลกเท่านั้นละที่นายบอกว่าหนักน่ะ!

    “ก็คงงั้น” เทายักไหล่พลางอมยิ้มเขินๆ เหมือนกำลังโดนยกยอ

    “ว่าแต่ นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”

    “อ๋อ ฉันมาหาของเก่าที่ดูมีราคาแล้วเอาไปขายน่ะ”

    “เอาไปขาย?!” เซมีตกใจ “ซูโฮรู้เรื่องนี้หรือเปล่าเนี่ย?”

    “แน่นอน...” เทาหันมาเหล่  “แน่นอนว่าไม่รู้” แล้วเขาก็หัวเราะ

    ไอพิกโกโร่คนนี้ยังไม่เลิกนิสัยเถื่อนๆแบบคนใต้ดินอีกหรอเนี่ย...เอ๊ะ หรือว่าที่ทำแบบนี้เพราะ...

     

     

    ที่สวนนอกปราสาท

    “พ่อ” เซฮุนเดินตามหาพ่อตัวเองอยู่ และเขาเจอร่างคริสนอนนิ่งอยู่บนเก้าอี้กลางดอกไม้สีชมพู “พ่อ!” เซฮุนรีบเข้าไปเขย่าร่างพ่อตัวเอง “พ่อตายแล้วหรอ!

    คริสงัวเงียสะลึมสะลือมองหน้าลูกชายงงๆ “หือ?...มีอะไร”

    “ผมเห็นเทาเขาเข้าไปด้อมๆมองๆในห้องเก็บของอ่ะ พ่อรู้มั้ยเขาทำอะไร”

    “อ๋อ...ทำไมจะไม่รู้ พ่อสั่งให้ทำเอง” เขาตอบพลางขยี้ตาและหาวพร้อมๆกัน

    “พ่อกำลังจะทำอะไรน่ะ” เซฮุนดูตกใจพอๆกับเซมี “ซูโฮรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?”

    “หือ?” คริสหันไปยิ้มขำให้ลูกชาย “รู้แล้วพ่อก็ยุ่งสิ”

    “พ่ออย่าให้ชานยอลรู้เรื่องนี้นะ” เซฮุนจริงจัง เขาดันตัวคริสออกไปเพื่อจะได้มีที่ให้เขาได้นั่งด้วย

    “ทำไมละ” คริสทำหน้างงก่อนจะเขยิบให้เซฮุนได้นั่งด้วย

    “เขาบูชาซูโฮยิ่งกว่าพระเจ้าอีกพ่อ”

    “อันนี้ก็เว่อไป”

    “จริงๆนะพ่อ! ชานยอลเขาเป็นเด็กของซูโฮ”

    “งั้นหรอ...” คริสยิ้มอย่างมีเลศนัย “แสดงว่าเทา...ก็เป็นเด็กของฉันงั้นสิ? แบบนี้น่าสนุกนะ”

    “คิดจะทำอะไรน่ะพ่อ อย่าทำอะไรไม่ดีไม่งามอีกสิพ่อ”

    “อะไรเนี่ย” คริสหันมาทำหน้าดุใส่ลูก “นี่แกจะมาจุกจิกกับเรื่องนี้ทำไมเนี่ย ชักจะคล้ายซูโฮไปเรื่อยๆแล้วนะ ตกลงเป็นลูกใครกันแน่?”

    “ก็...” เซฮุนหน้าแดง “ก็ลูกพ่อนั้นแหละ”

    “ดี” คริสยกมือขึ้นไปลูบหัวเซฮุน “ลูกพ่องั้นก็ต้องเชื่อฟังพ่อ...อย่าไปเชื่อคนอื่น”

    “...ครับพ่อ”

    จู่ๆก็มีหญิงสาวร่างบางแต่งหน้าจัดปากแดงผมบลอนด์คนนึงเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าประตูเดินตามหลังเธอมาด้วย

    “ขอโทษนะค่ะ” เธอกล่าว คริสกับเซฮุนหันไปสนใจพร้อมกัน

    “เดี๋ยวครับ” คริสยกมือห้ามก่อนจะหันไปถามลูกชาย “คนนี้มาดีหรือเปล่า?”

    “เอ่อ...” เซฮุนมองหน้าพ่อกลับไปงงๆแต่ก็ตอบ “ผมไม่แน่ใจ...”

    “ขอโทษที่เสียมารยาทครับ” คริสหันไปบอกกับหญิงสาวตรงหน้าพลางยืนตามมารยาท เซฮุนเองก็ยืนตามพ่อด้วย

    “อ่อ..ค่ะ” เธอยิ้มแห้งๆให้คริส เหมือนกำลังทำความเข้าใจ “คือดิฉันมาหาลู่หานน่ะค่ะ”

    “แม่ลู่หานหรอครับ?” คริสถามไปโดยอัตโนมัติ หญิงสาวตรงหน้าดูสะพรึงกับประโยคนั้นเล็กน้อย...อายุเธอก็น่าจะพอๆกับลู่หาน...จะเป็นแม่ลู่หานได้ยังไง

    “ไม่ใช่ค่ะ” เธอปฏิเสธทันทีและเริ่มทำหน้าไม่ไว้ใจคริส “ฉันเป็นแฟนของลู่หานค่ะ”

     

     

    ระหว่างนั้นตรงระเบียงทางเดิน เทากับเซมีเดินคุยกันอยู่...

    “อย่าให้ชานยอลรู้เรื่องนี้เด็ดขาด” เซมีเตือนเทา “เขาจะต้องเอาไปบอกซูโฮแน่ๆ”

    “ชานยอลเนี่ยนะ?” เทาทำหน้าสงสัยพลางยิ้ม “เขาดูไม่--

    “ดูไม่อะไรแบบนั้นแต่เขารักซูโฮและเข้าข้างซูโฮมากเลยนะเทา” เซมีตอบทันที

    “งั้นหรอ...”

    “ใช่ นายต้องระวังเขาให้มากๆ”

    “ก็ได้...ว่าแต่ที่ฉันช่วยเธอวันนี้น่ะ” เขาหันมายิ้มแปลกๆให้เซมี

    “ทำไม?”

    “ก็แบบว่า...เธอ..ติดหนี้ฉันไง” เขาหัวเราะ

    “อะไร” เซมีเห็นลางไม่ดี “นายอยากได้อะไรจากฉัน”

    “เปล่า” เทายักไหล่ “...เปล่าหรอก...มันยังไม่ถึงเวลา”

    “อะไรของนาย อย่าทำลับๆล่อๆกับฉันนะ เดี๋ยว--

    “พี่เซมี!” เซฮุนถลาเข้ามาหาพวกเขาพลางหอบหนัก “ฟะ-แฟน!

    “แฟน?” เซมีทวน

    “แฟนพี่ลู่หานมาน่ะ สะ-สวยเซ็กซี่มากเลยด้วย!” เซฮุนทำตาโตแวววาว

    “ไปดูกันเถอะ” เทารีบลากมือเซมีกับเซฮุนไปทันทีก่อนจะหยุดชะงัก “ว่าแต่...ไปทางไหน”

     

    ลู่หานกับแฟนสาวกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าประตูห้องโถงใหญ่ เซมี เซฮุน และ เทาเบรกเกือบแตกเมื่อถลาวิ่งมาดูแบบไม่ได้มองตาม้าตาเรือ พวกเขารีบเข้าไปซ่อนในห้องถัดไปทันทีและแง้มดูพวกเขาคุยกันผ่านประตู...

    “พวกเขาทะเลาะกันนี่” เซฮุนว่า และอาจจะใช่จริงๆด้วย

    สีหน้าลู่หานดูไม่พอใจนัก...เซมีไม่ได้เห็นลู่หานเป็นกังวลแบบนี้มานานตั้งแต่เธอโกรธเขาครั้งนั้น ส่วนแฟนเขาเองก็ดูอารมณ์ไม่ดีเช่นกัน

    “ไม่หรอก” เทาออกความคิดเห็นบ้าง “อาจจะเถียงกันอยู่ว่าจะไปฮันนีมูนที่ไหนดี”

    “หรอครับ” เซฮุนตอบ “ผมเพิ่งรู้...เขาคุยเรื่องฮันนีมูนแบบนี้กันหรอเนี่ย”

    ลู่หานเริ่มลุกลี้ลุกลนเมื่อฝ่ายหญิงตัวสั่นด้วยความโกรธหรืออะไรซักอย่าง

    “นั่น” เทาพูด “ใกล้จะได้คำตอบละว่าจะไปที่ไหน”

    “ต้องตัวสั่นหน้าแดงขนาดนั้นเลยหรอครับ?” เซฮุนถาม

    “ใช่ บางครั้งอาจจะลงไม้ลงมือเลยก็ได้นะ” เทาตอบเรียบๆ

     จู่ๆฝ่ายหญิงก็ร้องไห้อย่างหนักลู่หานมองซ้ายมองขวาอย่างลุกลี้ลุกลน ก่อนจะจับตัวเธอเบาๆและเหมือนจะพูดปลอบใจอยู่

    “นั่น” เทาเริ่มอีก “ฝ่ายหญิงดีใจใหญ่เลยได้ที่ไปฮันนีมูนซักที”

    “โห ดีใจขนาดนั้นเลย...แต่ว่าท่าพี่ลู่แปลกๆนะครับนั่น”

    “อาจจะกำลังโน้มน้าวให้ฝ่ายหญิงจัดโคโยตี้ในงานอยู่”

    “โคโยตี้คืออะไรฮะ?”

    “โคกระบือ เล่น โยโย่ กับ อาตี๋ข้างบ้านน่ะเซฮุน”

    “พอได้แล้วเทา” เซมีที่ทนฟังเงียบๆเริ่มรับไม่ได้

    เธอร้องไห้และไม่มีท่าทีว่าจะหยุดร้องด้วยจนกระทั่งลู่หานตัดสินใจกอดเธอไว้ในอ้อมอกและลูบหลังเธอเบาๆ...

    “ฉันไปละ” เซมีว่าพลางหันหลังแต่เทาดึงเธอกลับมา

    “จะรีบไปไหนละ กำลังจะถึงจุดสำคัญเลยนะ”

    “ฉันทนดูไม่ได้หรอกนะเทา นี่มันเรื่องส่วนตัวเกินไป”

    “แต่ก็ดูมาแล้วครึ่งเรื่องปะ?”

    “เอ่อ...นั่นก็ ไม่เกี่ยว ฉันทนดูต่อจากนี้ไม่ได้แล้ว ฉันขอตัวละ”

    “เดี๋ยวสิ” เทาคว้าแขนเธอไว้ “ดูเป็นเพื่อนให้จบสิ”

    “ไม่เอาแล้ว เชิญนายดูกันสองคนเถอะ” เซมีสะบัดแขนออก

    “ไม่นะ ต้องดูเป็นเพื่อนพวกเราสิ!” เทาคว้ามือเธอกลับมาอีกครั้ง เกิดการต่อสู้ขึ้นเล็กน้อยระหว่างเทากับเซมีโดยที่มีเซฮุนพยายามแกะพวกเขาออกจากกันอย่างยากลำบาก ไปๆมาๆพวกเขาก็เกิดเสียหลักเหยีบตีนคนนู้นทีคนนี้ทีทำให้ล้มคว่ำออกนอกประตูไปโดยที่เซมีทับเซฮุนและเทาทับเซมีอีกทีนึง...

    ที่สำคัญกว่านั้นคือ ลู่หานกับแฟนสาวกำลังจ้องดูพวกเขาอย่างตกตะลึง...โดยเฉพาะลู่หานเมื่อเขาเห็นร่างเซมีที่กำลังผลักร่างใหญ่ๆของเทาออกไป...

     

    ลู่หานเกิดความสับสนขึ้นชั่วขณะไม่ทันที่สมองเขาจะได้คิด ร่างกายของเขาก็เดินตรงไปช่วยเทาออกจากตัวเซมี และฉุดเซมีให้ยืนขึ้นมาก่อนจะคว้าตัวเธอมากอดไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเธอจะหายตัวไปตลอดกาล...

    เทายกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เซฮุนนอนค้างอยู่แบบนั้นเพราะกำลังงงอย่างหนัก หญิงสาวที่เป็นแฟนของลู่หานรีบจ้ำออกไปจากปราสาททันที ส่วนเซมีอ้าปากเหวอพร้อมกับทำตาโตและเมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของแฟนลู่หานเดินออกไปนั้นเธอก็รีบดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนเขาแต่

    “ไม่!” ลู่หานกอดเธอแน่นขึ้นและไม่ยอมปล่อย “ฟังพี่ก่อนเซมี”

    “พะ-พี่ลู่! ฟะ-แฟนพี่!

    “นั่นไม่ใช่แฟนพี่!” ลู่หานบอก “เธอมาใช้มารยาหญิงเพื่อจะ...เพื่อจะเอาตัวพี่ไปออกงานอีกครั้ง...ใช่ครั้งนึงเราเคยเดินควงแขนด้วยกันแต่ตอนนี้ไม่อีกแล้ว ไม่มีใครอีกต่อไป พี่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอีกแล้วจริงๆนะ เธอคนนั้น...เธอคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีหรอก เซมีเชื่อพี่นะ”

    “คะ-คะ?” เซมียิ่งทำตาโตขึ้นไปอีก หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความตกใจหรืออะไรหลายๆอย่าง “คะ...ค่ะ เชื่อค่ะ”

    “แล้วเมื่อกี้...” ลู่หานเล่าต่อทั้งๆอย่างนั้น “ที่พี่กอดเธอเพราะเธอบอกว่าจะไม่หยุดร้องไห้ถ้าพี่ไม่กอด...และจะไม่ไปถ้าพี่ไม่ให้เงินเธอ พะ-พี่เลยทำ...”

    “คะ-ค่ะ...”

     

     

     

    คืนนั้น ณ ห้องแบคคยอน

    มีเซฮุน เฉิน และ แบคคยอนนั่งปรึกษาเรื่องที่เจอกันมาวันนี้

    “กันไหนมาวะ?” เฉินเริ่มพร้อมทำหน้างงๆโอเว่อแอคตามสไตล์

    “กันเดอะสตาร์ไง จะกันไหนละ” แบคคยอนตอบ

    “กังนัมสไตล์หรือเปล่าครับ?” เซฮุนเสริม

    “แป้กวะ เลิกเล่นเถอะ” เฉินถอนหายใจ “สรุปคือผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนลู่หาน?”

    “ครับ” เซฮุนตอบ “ผมคิดว่าคนที่น่าจะเป็นแฟนพี่ลู่จริงๆคือ...”

    “คือ?” แบคคยอนสนใจ

    “คือพี่เซมี” เซฮุนตอบ แปลกนะทั้งๆที่พูดเองแต่ทำไมมันดูกระดากปากชอบกล..

    “เหย...” เฉินทำหน้าไม่อยากเชื่อ “ไปเป็นแฟนกันตอนไหน พลาดสายตาฉันได้ยังไง”

    “ไม่หรอก” แบคคยอนว่า “ไม่มีทางที่คนอย่างลู่หานจะมาชอบเซมี”

    “ทำไมละครับ” เซฮุนรู้สึกโล่งเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งๆที่เขาเพิ่งพูดประโยคที่ขัดกับพี่ๆทั้งสองคนไป

    “ไม่แน่นะ” เฉินเริ่มลังเล “ลู่หานก็ดูเปลี่ยนไปเยอะ...เดี๋ยวนี้ฉันไม่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนไหนอีกเลยนะ...” เฉินมักจะได้ยินลู่หานคุยโทรศัพท์เสมอ เพราะเขากับลู่หานอยู่ห้องติดกัน “คุยแค่เรื่องธรุกิจพันล้านอะไรของเขาเท่านั้นเอง...”

    “งั้นหรอ...” แบคคยอนเริ่มเปลี่ยนใจบ้าง “ก็อาจจะ...บางครั้งฉันก็แอบคิดนะว่าเซมีก็มีเสน่ในแบบของเธอ”

    “ใช่” เฉินเสริม “ฉันยังเผลอมองเธอบ่อยๆเลย แต่พอรู้ตัวนี่รับตัวเองไม่ได้เลยวะ” เฉินหัวเราะ แบคคยอนก็ด้วย แต่เซฮุนนั่งนิ่งเขากำลังใช้ความคิด...

    พี่เซมีใครๆก็ชอบ...ทำไมกันนะ?...พี่เซมีทำอะไรให้หรอ? ทำไมทุกคนถึงดีกับเธอไปหมด...ทำไมกันละ...แล้วทำไมเราต้องปวดหัวและขมวดคิ้วแบบนี้ด้วยเนี่ย...ยังกะคนสมองเลื่อนลงไปในไส้ติ่งงั้นแหละ

    “เออ” แบคคยอนนึกขึ้นได้ “ไม่นานมานี้ไอดีโอตัวกะเปี้ยกมันมาดิ้นพล่านในห้องฉันด้วยวะ”

    “ทำไมวะ” เฉินสนใจทันทีนานๆครั้งดีโอจะทำตัวเหมือนคนบ้าแบบนี้

    “มันบอกว่ามันคิดถึง...คิดถึงชานยอลหรือเซมีแล้ววะ...”

    “เอ่า...คิดถึงใครก็ไม่แปลกหรอกมั้ง” เฉินทำหน้าผิดหวัง “จะชานยอลหรือเซมีก็เพื่อนมันทั้งสองคนนี่”

    “เออ...นั่นสิเนอะ”

    “แต่ว่าเลย์นี่สิ” เฉินเริ่มบ้าน “ฉันว่าช่วงนี้เลย์เอาแต่ออกไปตามหาเวนดี้จนไม่ได้กลับบ้านกลับช่องเกินเหตุละ”

    “เออ ใช่เห็นด้วยวะ” แบคคยอนว่า “แล้วพอกลับมา” แบคคยอนอยู่ห้องติดกับเลย์ “ก็ทำหน้าเศร้าเสียใจ พลางบ่นว่าหาไม่เจอ หาไม่จอ...สงสารมันเหมือนกันนะ”

    “เฮ้ย” เฉินว่า “ฉันได้ยินมันบ่นอีกแบบนะ”

    “แบบไหน?”

    “ประมาณว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้...แบบนี้คืออะไร...ทำไมถึงเห็นแต่เธอ อะไรไม่รู้ งงมาก” เฉินทำหน้าสะพรึง

    “หรือว่า...” แบคคยอนทำหน้าตามเฉิน “สมองจะเลื่อนลงไปในไส้ติ่งอีกคน...”

    จู่ๆเซฮุนก็ลุกพรวดพราดออกจากห้องไปไม่บอกไม่กล่าวทิ้งให้เฉินกับแบคคยอนมองหน้ากันงงๆ

    “กูว่า” เฉินพูด “ไอสมองเลื่อนลงไปในไส้ติ่งรุ่นแรกช่วงนี้ก็แปลกๆนะ”

     

     

    ที่ห้องชานยอล ดีโอกำลังนั่งเขียนจดหมายไปหาน้องชายที่บ้านนอก ส่วนชานยอลนอนเล่นและพูดไปเรื่อยเปื่อย เขาจะเป็นตัวของตัวเองมากเวลาอยู่กับดีโอ

    “นายว่าฉันหน้าตาดีมั้ย” ชานยอลถามพลางมองเพดานอย่างเหม่อลอย

    “ก็ดีนะ” ดีโอตอบสายตายังจดจ้องไปที่จดหมาย “ค่อนข้างดีเลยละ”

    “จริงหรอ...” ชานยอลถอนหายใจ “แต่ฉันว่าคริสน่ะ โครตพ่อโครตแม่หล่อเลยละ”

    “อันนั้นไม่เถียง...” ดีโอเห็นด้วย “แถมเขายัง...สูงอีกต่างหาก”

    “ใช่...”

    “นายดูฉันนี่” ดีโอหันไปหาชานยอล “รูปร่างภายนอกฉันไม่ได้มีอะไรดีเลย”

    “บ้าหน่า” ชานยอลหันมายิ้มขำใส่เพื่อน “นายน่ะสเป็กฉันเลยละ”

    “ถุ้ย” ดีโอหัวเราะ “เอาดีๆ”

    “นายน่ารักจะตายดีโอ ฉันไม่รู้สิ นายน่ะ...นายมันน่าคบมากที่สุดแล้วละ ฉันชอบแบบนาย” เขายิ้ม

    “ขอบใจ” ดีโอเขินเล็กน้อย “แต่ฉันดูไม่เหมือนผู้ชายเลยงั้นสิ? หมายถึง...แบบความแมนที่ผู้ชายควรมีน่ะ”

    “บ้าหรอ” ชานยอลลุกขึ้นมานั่ง “นายน่ะเป็นผู้ชายที่แมนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”

    “อย่าเว่อ”

    “ไม่ได้เว่อร์” ชานยอลทำหน้าจริงจัง “จริงๆนะดีโอ นายน่ะเป็นสุภาพบุรุษทั้งกับผู้หญิงและกับผู้ชายด้วยกันเอง...นายน่ะ” ชานยอลเดินไปหาดีโอ เขายิ้มอย่างมีเลศนัย “นายเป็นคนแบบรักนะแต่ไม่แสดงออก ฉันรู้หน่า!” แล้วเขาก็คว้าหัวดีโอมาขยี้อย่างเมามันพลางหัวเราะอย่างสนุกสนาน ดีโอสู้กับชานยอลอยู่แปปนึงก่อนจะหันไปสนใจคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ซูโฮนั่นเองเขาถือแฟ้มสีชมพูมาด้วย

    “ซูโฮ!” จู่ๆดีโอก็ร้องเสียงดังด้วยความดีใจเหมือนเด็กๆ “เย้ แฟ้มสีชมพูมาแล้ว!

    ชานยอลหัวเราะก่อนจะเดินไปหาซูโฮ

    “ใช่แล้ว” ซูโฮยื่นแฟ้มไปให้ชานยอล “นี่คือภารกิจต่อไป..และฉันอยากให้พวกเธอเปิดดูตอนนี้เลย”

    ชานยอลทำหน้าสงสัยเล็กน้อยดีโอลุกขึ้นมายืนข้างๆชานยอลทันที และเมื่อเปิดแฟ้มอ่านข้อมูลข้างใน พวกเขาก็ต้องตกใจ

    “ใช่แล้ว” ซูโฮยิ้ม “เป้าหมายต่อไปที่ต้องถอนคำสาปคือ เซมี”

     

     

     

    ตอนพิเศษ

    เซฮุนรีบถลาออกจากห้องแบคคยอนตามที่ใจเขาต้องการ เขาวิ่งออกไปนอกปราสาทและตรงไปที่สระว่ายน้ำ...และเขาก็เห็นเซมีนั่งแช่ขาอย่างสบายใจอยู่ที่นั่น

    ว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าเซมีอยู่ที่นี่? เขามาถูกโดยที่ไม่ต้องถามใครเลยได้ยังไง?

    “พี่” เขาเดินตรงไปหาเด็กสาวที่กำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม “พี่ครับ”

    “ว่าไงเซฮุน” เธอตอบกลับมาพร้อมเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่ม “ยังไม่นอนอีกหรอ?”

    “ครับ ผมนั่งด้วยสิ” ว่าเสร็จเขาก็ถอดรองเท้าถุงเท้าออกและนั่งแช่ขาในสระเหมือนเธอ

    “แล้ว...มีอะไรหรือเปล่า?” เธอหันไปถาม

    “มีครับ” เขาตอบ “ผมจะบอกพี่ว่า...ผมเป็นของพี่นะ” สายตาที่ส่องประกายดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าของเซฮุนสะท้อนให้เธอได้เห็นชัดเจน

    เธอยิ้มงงๆ สงสัยอาการของเขาคงกำเริบอีกแล้วสินะ... “เป็นของฉัน? ยังไงละ?”

    “ทุกอย่าง” เขาจ้องไปในดวงตาของเธอ “ผมเป็นของพี่ทุกอย่างเลย” สายตาของเขายิ่งเป็นประกายแวววาวจนเธอไม่สามารถมองมันตรงๆได้...

    “โอเค...ได้เลยนายเป็นของฉัน...” เธอยิ้มให้แต่ตามองไปบนท้องฟ้าแทน “เซฮุน วันนี้อากาศเย็นดีเนอะ ว่ามั้ย?” มีสายลมพัดปะทะใบหน้าพวกเขาอ่อนๆอย่างผ่อนคลาย ลมทำให้เส้นผมของเธอสะบัดปลิวจนมาปิดหน้าตัวเธอเอง เธอกำลังจะใช้มือปัดมันออกไปแต่มันกลับโดนคว้าไปโดยใครบางคนซะก่อน...

    เซฮุนคว้ามือข้อมือเล็กไว้ก่อนจะดึงมันให้มาแตะตรงที่กลางอกของเขาอย่างแผ่วเบา หัวใจของเธอเต้นแปลกๆทันที สายตาเซฮุนจ้องเหมือนต้องการคำตอบอะไรบางอย่าง  

    มืออีกข้างของเขาปัดผมเธอออกไปเกี่ยวหูอย่างนุ่มนวล...เธอมั่นใจแล้วว่า...เซฮุนคนนี้ไม่ใช่เซฮุนคนที่สติไม่ดีแน่นอน...แต่เป็นเซฮุนที่เธอเจอในห้องลองเสื้อคนนั้น...เป็นเซฮุนที่เป็นผู้ชายคนนึง...ไม่ใช่เด็กหนุ่มรุ่นน้องอีกต่อไป...

    เขากุมมือเธอข้างที่กำลังแตะหน้าอกของเขาแน่นพลางจ้องมองด้วยสายตาที่จริงจัง...

    “ผมเป็นของพี่” เขาพูดกับผู้หญิงตรงหน้าเขา...ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือคุณนั่นแหละ...สายตาของเซฮุนยังคงจับจ้องไปในดวงตาของคุณอย่างจดจ่อและแสวงหาคำตอบบางอย่าง...เขาพูดต่อ

    “แล้วพี่จะเป็นของผมหรือเปล่า...”

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×