คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [ 05 ] ❀the blooming flower
OS: the blooming flower
Author: 桃 모유리♥
Couple: Joonmir
Rate: G ( super light )
Note; Original Version, ‘I Miss You’,asianfanfics © eundere
First Upload,March 2013 © themomo
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
Love isn’t anything…but the blooming flower in my heart
ความรักก็เป็นเพียงแค่...ดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่ภายในใจตลอดไป
แสงแดดยามบ่ายที่สาดส่องผ่านกระจกใส
ม่านสีเบจกับกลิ่นอายของขนมอบที่อบอวนหอมหวานไปทั่วร้าน
กลิ่นของชาดอกไม้ เสียงเปียโนที่กำลังบรรเลงเพลงเพลงเดิม
บทเพลงที่ฟังสบายๆ แต่เมื่อไรที่ใดยินเพลงนี้ ผมก็เผลอนึกถึงคุณทุกที
นี่ก็นานแล้วนะ.. นับจากครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน
ผมยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม. บ่ายวันอาทิตย์ ณ ร้านกาแฟที่คุณเคยชอบ
ชารสเมล่อนกับเค้กวานิลลา มันกลายเป็นสิ่งที่ผมทำจนชินเสียแล้ว
น่าแปลก ทั้งๆที่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณได้เลือกไว้ทั้งนั้น
ดูเหมือนว่าผมจะยังลืมคุณไม่ได้จริงๆสินะ
ตอนนี้คุณจะเป็นอย่างไรบ้าง
ผมคิดถึงคุณ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
สายลมที่พัดผ่านต้นไม้ใหญ่ต้นเดิม ใบของมันพลิ้วไหว
แม้นี่จะย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วแต่กลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิยังไม่จาง
แซนด์วิชไข่กับซุปสาหร่าย อากาศที่เริ่มหนาว
ผมนั่งลงใต้ต้นโอ๊คและเริ่มต้น ‘การปิคนิคเพียงลำพัง’
ไม่มีคุณอีกแล้ว. ผมเคยคิดว่าการปิคนิคในฤดูใบไม้ร่วงช่างน่าตลก
แต่คุณทำให้ผมเห็นว่ามันก็เข้ากันได้ หลายๆอย่างที่ผมไม่เคยคิด
เพราะคุณจึงทำให้ผมรู้จักมันในอีกแง่มุม ผมชอบมันครับ.
แม้เพียงลำพัง ผมก็ยังเลือกที่จะมาที่นี่ มองดูสิ่งรอบข้างที่ผมเคยมองข้าม
ผมฮัมเพลงที่คุ้นเคยคลอไปกับเสียงกีตาร์ตัวเดิม
ณ ที่ไกลออกไป คุณก็คงร้องเพลงนี้อยู่เหมือนกันสินะ
ผมคิดถึงคุณ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
นี่มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วหลังจากวันที่เราคุยกันครั้งสุดท้าย ?
เป็นเวลาหลายปีแล้วหลังจากชอลยงได้จากเกาหลีไปตามความฝันที่ญี่ปุ่น เพื่อเรียนการแสดงในมหาวิทยาลัยดังแห่งมหานครโตเกียว เขาได้พบเจอกับผู้คนมากมาย ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆและเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ก็เหมือนอย่างคำพูดที่ว่า ‘ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาฟรีๆ’ มีร์ก็ต้องทิ้งบางอย่างที่บ้านเกิดของตนเพื่อไปพบสิ่งใหม่ๆในญี่ปุ่น และสิ่งที่เขาได้เสียไปก็มีค่ามากพอๆกับสิ่งที่เขาได้มา ชอลยงมองบทละครที่คุ้นตาและถอนหายใจเบาๆ ปล่อยให้จิตใจหลุดลอยไปกับภาพความทรงจำที่แสนล้ำค่าในอดีต
นี่เป็นครั้งแรกที่เขากลับมายังบ้านเกิด หลังจากที่เขาได้ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น แม้ว่าเกาหลีกับญี่ปุ่นจะห่างกันเพียงแค่ทะเลไม่กี่กิโลกั้นแต่เขาก็ยุ่งกับการเรียนและการงานเกินกว่าที่จะมีเวลาแค่เพียงซักอาทิตย์เพื่อกลับมาที่นี่ เด็กหนุ่มมองไปรอบกาย เมืองใหญ่แห่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปมากจากตอนที่เขาเคยอยู่ที่นี่ เมืองที่ไม่เคยหลับไหลนั้นก้าวพัฒนาต่อไปอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกที่ทำให้เขารู้สึกผิดแปลกจากเมื่องก่อน ชอลยงไม่ใช่คนทันสมัย ไม่ใช่คนที่นำแฟชั่นเหมือนอย่างฮยอนซึง เพื่อนใหม่ที่เขาได้รู้จักที่โตเกียว และก็ไม่ได้เป็นคนที่น่าสนใจเหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นหลายๆคนในสมัยที่เขายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ดังนั้นแม้ว่าแฟชั่นหรือสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆจะผุดขึ้นในเมืองแห่งนี้ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับชอลยงแต่อย่างใด
หากเทียบกับคนอื่นๆในมหานครแห่งนี้แล้ว เขาก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่น่าเบื่อเหมือนที่เคยเป็นตลอดมา เขาที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมายนักในตัว เพียงแต่มีคนคนหนึ่งที่จุดประกายอะไรบางในตัวเขา ใครบางคนที่ทำให้เขากล้าก้าวออกมาจากเปลือกนอกและเดินตามความฝัน คนคนนั้นที่ทำให้เขาสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของบทละครได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
รอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าของชอลยงเพียงแค่นึกถึงคนคนนั้น
คุณยังเหมือนเดิมหรือเปล่า, อีชางซอน
ผมคิดถึงคุณ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
จำได้ว่ามันเป็นวันที่ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนเป็นวันแรก ในวันที่เขาได้พบกับคนคนนั้นเป็นครั้งแรก ชอลยงเป็นนักเรียนใหม่ มัธยมปลายปีแรก ที่เพิ่งได้ย้ายโรงเรียนมาตามคำสั่งของพ่อ เด็กหนุ่มเป็นคนพูดน้อย ขี้อาย และขี้กังวล เขามีร่างกายที่บอบางทว่ากลับมีจิตใจที่มุ่งมั่นในความฝันตั้งแต่เล็ก ชอลยงหลงใหลในการแสดง มันเป็นเพียงความสนใจหนึ่งเดียวที่เขามีตั้งแต่เล็ก แต่ก็ไม่เคยกล้าพอที่จะบอกพ่อซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ที่คงไม่มีวันรับฟังความฝันเล็กๆของเขา
มันเป็นตอนบ่ายแก่ๆ ชอลยงยังไม่อยากกลับบ้านซักเท่าไหร่จึงตัดสินใจเดินเตร็ดเตร่ไปรอบโรงเรียน และหยุดลงที่หน้าห้องชมรมการแสดง. เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังออกมาจากห้องนั้น เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะเดินไปใกล้ๆ.. เขายังจำได้ถึงชายคนนั้นที่กำลังซ้อมการแสดงอยู่เพียงลำพัง
มีเพียงเขา และกระจกใบนั้น
บทละครที่ลื่นไหลออกมาจากปาก กับท่วงท่าประหนึ่งว่าเหตุการณ์เหล่านั้นได้เกิดขึ้นจริงๆ แม้ไม่มีอุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย หรือฉากใดๆมารองรับ แต่เพียงแค่การแสดงของคนคนนั้นก็ทำให้ชอลยงหัวใจเต้นรัวด้วยความประทับใจ ดวงตาใสจับจ้องไปยังร่างของชายหนุ่มที่กำลังซ้อมการแสดงนั่นอย่างตั้งอกตั้งใจ..
“ สวัสดี.... “ ในขณะที่เด็กหนุ่มกำลังจดจ่ออยู่นั่น ชายหนุ่มก็หันมาพูดพร้อมกับรอยยิ้ม และเดินมาเปิดประตูให้กับคนเด็กกว่าส่วนร่างบางที่พิงกำแพงอยู่ ไม่ทันตั้งตัวจึงล้มลงไปกองกับพื้นจนคนตัวใหญ่กว่าหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู แม้จะน่าขายน่าเล็กน้อย แต่ชอลยงก็ยิ้มออกมาด้วยแววตาที่บริสุทธิ์
“สวัสดีครับ ผมบังชอลยง ปี1ห้องBครับ” เด็กหนุ่มพูด ลุกขึ้นยืนและปัดเสื้อเล็กน้อย ก่อนจะโค้งจนสุดตัว ชางซอนขำออกมากับท่าทางเปิ่นๆที่ดูเป็นธรรมชาตินั่น
“อีชางซอน เป็นศิษย์เก่าที่นี่ กลับมาช่วยชมรมการแสดงน่ะ”
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนการแสดงของชอลยง เพราะชางซอนมองเห็นความตั้งใจในดวงตาคู่นั้น เขาจึงได้ถ่ายทอดการแสดงที่เขาร่ำเรียนมาตลอดให้ ชอลยงเป็นเด็กขี้อาย เงียบๆ จึงถูกเด็กในชมรมการแสดงเขม่นอยู่บ่อยๆจึงไม่ได้เป็นสมาชิกของชมรมอย่างเป็นทางการ แต่ชางซอนก็มักจะแอบนัดเด็กหนุ่มไปฝึกกับเขาอยู่บ่อยๆ เขาเห็นอะไรบางอย่างในตัวของชอลยง... อะไรบางอย่างที่เขาไม่มี...
นั่นคือพรสวรรค์ที่เต็มเปี่ยม
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองผูกพันกันมากขึ้นตามกาลเวลา จากคนรู้จักกลายเป็นคนสำคัญ เป็นคนพิเศษที่มีความรักที่บริสุทธิ์มอบให้กันและกัน สุดท้ายจึงได้กลายมาเป็นคนรัก.. ชอลยงกับชางซอนไม่เหมือนคู่รักคู่อื่นๆ ไม่ได้รักกันหวานแหววเหมือนในนิยาย ไม่มีของให้กันในทุกเดือน ทุกวัน และก็ไม่ได้เป็นพวกคู่รักบ้าๆที่วันๆเอาแต่ทำเรื่องอย่างว่ากันทั้งวันทั้งคืน หลายๆคนบอกว่าชางซอนกับชอลยงเป็นคู่รักที่น่าเบื่อและคงจะเลิกกันในไม่กี่เดือน มันไม่จริงเลย เพราะสุดท้ายทั้งสองคนก็คบกันเป็นปี ชางซอนเป็นรักแรกของชอลยง และชอลยงเป็นคนคนแรกที่ชางซอนรักอย่างบริสุทธิ์ใจ ความรักในวันนั้นช่างหอมหวานยิ่งกว่าลูกกวาดรสใดๆ และงดงามยิ่งกว่าดอกไม้แห่งฤดูใบไม้ผลิ เป็นรักแรกที่ยังคงเปล่งประกายอยู่ในใจของคนทั้งสองไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด
อี ชางซอนเป็นคนธรรมดาๆ เลือดกรุ๊ปเอ จริงจังในบางครั้ง แต่บางวันก็หาสาระอะไรไม่ได้ ขี้หวงี้หึงเป็นบางที แม้ว่าจะเรียนอยู่มหาลัยแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถหาเงินเองได้ เขาไม่ได้มาจากครอบครัวที่รวย และไม่ได้มีความสามารถมากพอที่จะได้ทุนเหมือนพระเอกนิยายหลายๆเรื่อง ชายหนุ่มไม่สามารถพาชอลยงไปเดทในที่หรูๆ ไม่มีรถแพงๆไว้ขับไปส่งชอลยง แต่กลับสามารถทำให้เด็กหนุ่มมองเห็นหลายๆเรื่องที่เคยมองข้าม เขาได้ทำให้ชอลยงรู้จักโลกใบนี้ในอีกแง่มุม และยังได้มอบความกล้าหาญให้กับชอลยงในเลยๆเรื่อง
บัง ชอลยงเป็นเด็กหนุ่มที่รักในการแสดง เขาเป็นคนตรงๆและจริงใจ บางครั้งอาจเข้าใจยากไปเสียหน่อย สร้างความประหลาดใจให้กับชางซอน เด็กหนุ่มชอบกินขนมเป็นชีวิตจิตใจ แววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความบริสุทธิ์นั่นทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นเร็วทุกครั้งที่ได้สบตา เด็กหนุ่มคนนี้แตกต่างจากคนอื่นๆที่เขาเคยรู้จัก ไม่จำเป็นต้องเป็นคนน่ารักอ่อนหวาน หรือช่างพูด ช่างเอาใจ แต่ความเป็นธรรมชาติของชอลยงนั่นเองทำให้ชางซอนรู้สึกสบายใจไปทั้งวันเพียงแค่ได้ยินคำคำเดียวจากปากของชอลยง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชอลยงก็ต้องเติบโตขึ้น ไม่มีใครเป็นเด็กได้ตลอดไป ฉะนั้นซักวันทั้งสองก็ต้องจากกัน ชอลยงเคยกลัวพ่อของเขามากจนไม่เคยบอกถึงความฝันของเขา และชางซอนก็รู้เรื่องนั้นดี เขาพยายามที่จะแก้นิสัยนั้นของชอลยง เด็กหนุ่มมีความสามารถมากพอที่จะเป็นนักแสดง ไม่สิ มีความสามารถมากเสียจนมากกว่านักแสดงหลายๆคนในวงการนี้เสียด้วยซ้ำ เมื่อพ่อของเด็กหนุ่มได้รู้ถึงความฝันของผู้เป็นลูกจึงคอยช่วยเด็กหนุ่มทุกวิถีทางเพื่อชดเชยกับเวลาที่ผ่านไปที่ชอลยงยอมอยู่ในกรอบของผู้เป็นพ่อมาตลอด
และวันหนึ่ง โอกาสนั้นก็มาถึง
ชอลยงได้รับการเสนอให้เข้ารับทุนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นในมหาลัยด้านการแสดงชื่อดังของโตเกียว แต่เขาก็ไม่อยากไปจากบ้านเกิดแห่งนี้ ไม่อยากจะไปจากคนรักของเขา เด็กหนุ่มกลัวที่จะต้องอยู่ไกลจากชางซอน กลัวว่าซักวันหนึ่งทั้งสองจะต้องเลิกกัน เด็กหนุ่มรักเขามากเสียจนไม่อยากจะก้าวเดินไปข้างหน้า และยอมแม้จะต้องทิ้งความฝันที่เขาพร่ำหามาตลอดเพื่อคนคนเดียว
ชางซอนที่รู้จักชอลยงดีไม่ยอมให้เด็กหนุ่มทำเช่นนั้น.. เขารู้ดีว่าชอลยงมีความสามารถมากเพียงใด และเขาก็ไม่ต้องการจะรั้งเด็กหนุ่มไว้ตรงนี้ ซักวันชอลยงก็จะต้องโตขึ้นและเดินต่อไปในโลกนี้โดยไม่มีเขา และเขา จะต้องทำอะไรบางอย่างให้เด็กหนุ่มไม่ทิ้งอนาคตของตัวเองเพื่อคนที่ไม่เอาไหนอย่างเขา..
“เข้าบ้านเถอะครับ ข้างนอกนี่มันหนาวนะ” ชอลยงพูดหลังจากเปิดประตูโผล่ออกมาจากในตัวบ้าน ทั้งสองอยู่ที่บ้านของชอลยงในวันเกิดของพ่อของเด็กหนุ่ม น่าแปลกที่พ่อของชอลยงไม่รู้สึกประหลาดกับความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง และยังเป็นคนที่เชิญชางซอนมาที่นี่อีกด้วย อาจเป็นเพราะชางซอนเป็นคนที่สอนให้ชอลยงโตขึ้น นั่นแหละมั้งคือเหตุผล
มันเป็นคืนที่หนาวที่สุดในฤดูร้อน น่าแปลกที่กลางฤดูร้อนแบบนี้จะมีวันที่เย็นเสียจนต้องใส่เสื้อกันหนาวอยู่ด้วย ไม่มีใครรู้ว่าทำไมกระแสลมเย็นจึงพัดผ่านกรุงโซลในวันนี้ บางทีมันอาจเป็นวันพิเศษ . เด็กหนุ่มคิดและมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ลำพังในสวนหลังบ้าน วันนี้ชายหนุ่มทำตัวแปลกๆมาตั้งแต่เช้าแล้ว และนั่นก็ทำให้เขากังวลใจไม่น้อย
“ชอลยงอา... ผมมีบางอย่างจะบอกคุณ” ชายหนุ่มพูด จ้องตรงไปยังคนตัวเล็กกว่า ชอลยงกะพริบตาเล็กน้อย รอให้ชายหนุ่มพูดต่อให้จบประโยค คนแก่กว่าหายใจเข้าลึก มันช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่เขาจะต้องเป็นคนที่บอกเรื่องนี้กับเด็กหนุ่ม
“ผมกำลังจะไปอเมริกา” เขาพูด มองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดโดยไม่สบตากับร่างเล็กแม้แต่น้อย เขาไม่อยากเห็นใบหน้าที่ผิดหวังของชอลยง แววตาที่เหมือนเด็กหลงทาง และหยาดน้ำตาใสในแววตาคู่นั้น ดวงดาวบนท้องฟ้าส่องแสงระยิบระยับดูสว่างกว่าทุกๆคืน ชอลยงช็อกกับคำพูดนั้น เด็กหนุ่มก้มต่ำลง เห็นแต่เพียงยอดหญ้าที่อยู่ในสนาม เพราะแสงของดวงดาวหญ้าที่เป็นสีเขียวจึงแลเหมือนสีเทา ไม่ต่างอะไรไปจากใจของเขาในตอนนี้
“เมื่อไหร่….” คำพูดสั้นๆหลุดออกมาจากปากบาง เสียงหวานสั่นเทาด้วยความกังวล เด็กหนุ่มเม้มปากเป็นเส้นตรง.
“เดือนหน้า” ชายหนุ่มพูดและถอนหายใจ เขาเดินเข้าใกล้ร่างเล็กพร้อมกับจับมือบาง ความอบอุ่นจากมือใหญ่คู่นั้นเรียกให้ชอลยงเงยหน้าขึ้นพบกับรอยยิ้มจากคนแกกว่า รอยยิ้มที่สดใสเหมือนกับทุกที เหมือนกับในวันแรกที่ได้พบกัน ชางซอนไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อยนับจากวันนั้น
“ฟังนะ ชอลยง คุณจะเอาอนาคตของคุณมาทิ้งไว้ที่คนอย่างผมตลอดไปไม่ได้ คุณน่ะ มีทั้งความสามารถและพรสวรรค์มากกว่านักแสดคนไหนที่ผมเคยเจอ คุณจะต้องมีอนาคตที่ดี ผมเชื่อว่าคุณเข้มแข็งพอที่จะผ่านมันไปได้ แล้วตอนนี้โอกาสที่จะได้เป็นนักแสดงก็มาหาคุณแล้ว อย่าปล่อยมันไป เชื่อผมเถอะ.. จากนี้ไปผมคงอยู่ดูแลคุณแบบนี้ไม่ได้ จากนี้ไปคุณจะต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดนะ คุณจะเป็นสุดยอดนักแสดงในสายตาผมเสมอนะ” ชางซอนพูดทั้งหมดนั่นในลมหายใจเดียวต่อกันยาวเสียจนชอลยงหลุดยิ้มออกมาแม้ว่าน้ำตาใสจะยังคงอยู่บนใบหน้านั้น
“บ้าหรอ ผมไม่เก่งขนาดนั้นซักหน่อย” ชอลยงพูดพลางหัวเราะเล็กน้อย คนแก่กว่าลูบผมของเด็กหนุ่มเบาๆก่อนจะเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ชอลยง คุณจะเป็นคนแรก และคนเดียวที่ผมรักตลอดไปนะ “ ชายหนุ่มพูดแล้วยื่นดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังให้เด็กหนุ่ม ดอกไม้สีขาวที่บริสุทธิ์เหมือนกับความรักที่ทั้งสองมีให้กันและกัน ชางซอนเขยิบเข้าใกล้ก่อนจะก้มลงประกบปากบางอย่างนิ่มนวล สัมผัสที่หอมหวานเกินกว่าที่เขาเคยได้รับ นี่จะเป็นภาพความทรงจำที่เขาจะเก็บไว้ตลอดไป ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในคืนที่เหน็บหนาวของฤดูร้อนวันนี้..
ชางซอนผละออกจากร่างเล็กและเช็ดน้ำตาใสบนใบหน้าสวยอย่างแผ่วเบา ชอลยงยิ้มรับ ความรู้สึกเลวร้ายนั่นได้หายไปแล้ว มันไม่ได้แย่อย่างที่เขาเคยคิดเอาไว้ เพลงรักที่แสนเศร้าเหล่านั้นมันไม่จริงเลย หนังรักโง่เง่าพวกนั้นก็ด้วย การเลิกราไม่ได้ทรมาณอย่างที่มันว่าไว้ และฉากสุดท้ายก็ไม่จำเป็นต้องจบลงด้วยน้ำตาเสมอไป
คนแก่กว่าจับมือบางและฉุดให้คนตัวเล็กกว่าก้าวเดินไปข้างหน้า
“ชอลยงอา พวกเราเหลือเวลาไม่มากแล้ว มาทำให้คืนนี้เป็นคืนแห่งความทรงจำเถอะ” ชางซอนพูดก่อนจะหยิบไฟเย็นออกมาจากกระเป๋า และหลังจากนั้นค่ำคืนนั้นก็ถูกจุดให้เต็มไปด้วยแสงสว่างแห่งความสุข แม้ว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ยาวนานนัก แต่จะเป็นช่วงเวลาที่เขาจะจดจำมันไปตลอดกาล
แสงของไฟเย็น . ดวงดาวที่ส่องประกาย . ลมเย็นแห่งฤดูร้อน และดอกไม้แห่งรักแรก และความฝันในวัยเยาว์
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
ลมเย็นๆของฤดูใบไม้ร่วงพัดให้ใบไม้ร่วงหล่นจากต้นของมัน ชอลยงที่ได้เติบโตขึ้นมองไปรอบกายขณะที่กำลังกินแซนด์วิชไข่ บทละครที่จะต้องเล่นในฤดูร้อนหน้าถูกวางไว้ข้างกายใกล้กับตะกร้าปิ๊กนิก คู่รักมัธยมปลายคู่หนึ่งมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ แต่ก็นะ.. เป็นใครก็คงจะว่าแปลกทั้งนั้น เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าๆกำลังยิ้มเพ้อๆกินแซนด์วิชไข่กับซุปสาหร่ายในฤดูใบไม้ผลิคนเดียว..
ชอลยงได้เดบิวต์ในญี่ปุ่นในญานะนักแสดง แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมายนักเพราะยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ก็จัดได้ว่าพอมีแฟนคลับอยู่พอตัว หากเดินไปตามท้องถนนในกรุงโตเกียวก็คงอาจมีคนจำเขาได้บ้าง แต่ชื่อเสียงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเสียหน่อย เพียงแค่ได้ทำงานในสิ่งที่เขารัก แค่มีใครซักคนมองการแสดงของเขาแล้วยิ้มออกมาได้ เพียงเท่านั้นเขาก็มีความสุขแล้ว ชีวิตตอนนี้จัดได้ว่าสมบูรณ์แบบ เขามีทั้งงานที่รัก เพื่อน และแฟนๆ ทุกสิ่งที่เขาเคยต้องการ ขาดก็เพียงแค่อี ชางซอน คนคนเดียวที่จะเติมความสุขให้เขาได้อย่างสมบูรณ์...
ชายหนุ่มเดินออกจากคาเฟ่ร้านเดิมข้ามมายังถนนแห่งความทรงจำ สวนสาธารณะที่เขาเคยพาชอลยงมาตอนเดทครั้งแรก ชางซอนไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอยากมาที่นี่ บางทีอาจเป็นเพราะนี่ผ่านมาถึงสามปีแล้วจากคราวที่แล้วที่เขามาที่นี่ ยังไงวันนี้เขาก็ว่างอยู่แล้วจะเดินมาซักหน่อยเป็นไร...
ตอนนี้เขาทำงานเป็นครูสอนการแสดงที่โรงเรียนมัธยมแห่งเดิม รายได้ของการเป็นครูไม่จัดว่ามากแต่ก็ไม่จัดว่าน้อย มันมีพอสำหรับการใช้ชีวิตของชายโสดคนหนึ่ง หากตอนนี้เขายังคบกับชอลยงก็คงจะไม่แน่ใจว่าเงินพวกนั้นจะพอเลี้ยงลูกคุณหนูอย่างเด็กคนนั้น...
ชางซอนมองไปยังท้องฟ้า.. น่าแปลก ท้องฟ้าวันนี้ปลอดโปร่งกว่าปกติของฤดูใบไม้ร่วง และแม้ว่านี่จะเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วแต่อากาศก็ไม่ได้เย็นอย่างที่ควรจะเป็น ชายหนุ่มยิ้มให้เมฆก้อนเล็กเมื่อเขามองเห็นร่างหนึ่งที่ไกลออกไป เขายังจำใบหน้าที่งดงามและรอยยิ้มสดใสนั้นได้ดี ดวงตาที่บริสุทธิ์นั้นก็เช่นกัน นี่เขากำลังฝันอยู่หรือเปล่านะ เด็กคนนั้นต้องกำลังยุ่งอยู่กับงานในญี่ปุ่นสิ... ชางซอนเดินเข้าไปใกล้จนมั่นใจว่านั่นคือชอลยงอย่างแน่นอน เด็กคนนั้นกำลังกินแซนด์วิชไข่กับซุปสาหร่ายเหมือนที่เคยทำ เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อย ยังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ.. ทุกๆอย่างก็ยังเหมือนเดิม เหมือนครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน เขาเดินไปหาร่างที่คุ้นเคยจากทางด้านหลัง คู่รักวัยรุ่นเดินผ่านหน้าชอลยงไปก่อนจะส่งยิ้มมาให้ชางซอน ชายหนุ่มยิ้มกลับไปและสะกิดหลังร่างบางเบาๆ
“สวัสดี ชอลยง คุณสบายดีหรือเปล่า”
“ก็ดีครับ ทุกๆอย่างดีมากเลยเพียงแต่ว่า...”
“ผมคิดถึงคุณ”
[end]
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - — ✰
Queen ❃white '
ความคิดเห็น