แวมไพร์&ผีดิบ - แวมไพร์&ผีดิบ นิยาย แวมไพร์&ผีดิบ : Dek-D.com - Writer

    แวมไพร์&ผีดิบ

    Dracula มีชื่อเดิมว่า Vlad Drakul ( วลาด ดราคูล ) ราชาผีดิบแห่งตระผมลบาสซาที่โด่งดังไปทั่วโลก วลาด ดราคูล ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นซาตานกลับชาติมาเกิด ประวัติและเรื่องราวของตระผมลบาสซานั้นมีความเป็นมาอันยาวนานความลับของตระผมลที่ถูกสาปนี้มีความลับที่เปื่อนเล

    ผู้เข้าชมรวม

    363

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    363

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ส.ค. 52 / 21:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Dracula มีชื่อเดิมว่า Vlad Drakul ( วลาด ดราคูล ) ราชาผีดิบแห่งตระผมลบาสซาที่โด่งดังไปทั่วโลก วลาด ดราคูล ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นซาตานกลับชาติมาเกิด ประวัติและเรื่องราวของตระผมลบาสซานั้นมีความเป็นมาอันยาวนานความลับของตระผมลที่ถูกสาปนี้มีความลับที่เปื่อนเลือดซ่อนอยู่มากมาย ความลับที่ทำให้โลกปัจจุบันยังกล่าวชวัญถึงพวกเขา ความลับที่ทำให้เรานั้นต้องผวา..

      ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยกว่าปีก่อน ณ กรุงวาลาเชีย ( Walachai ) ประเทศโรมาเนีย เนื่องจากสมัยนั้นโลกยังอยู่ในช่วงของการล่าเพื่อแสวงหาอนานิคมของประเทศมหาอำนาจ ประกอบกับการที่ประเทศอยู่ใจกลางของตัวทวีปทำให้ผู้คนชาวโรมาเนียต้องทนทุกข์ทรมานกับสงครามและการบุกรุกของชาติมหาอำนาจนานติดต่อกันนับศตวรรษ หลังจากยุคมืด และแล้วแสงสว่างก็มาเยือนชาวเมือง เมื่อสงครามอันโหดร้ายได้ให้กำเนิดวีรบุรุษนักรบผู้ยิ่งใหญ่นาม ราล์ฟเดอะแบล็ค ( Ralph the Black ) ซึ่งได้ปกป้องประเทศโรมาเนียจากการบุกรุกของพวกกระหายอนานิคมอย่างพวกมองโกล เติร์ก และ ฮังกาเรียน จนเคลื่อนทัพหนีหายออกไป ราล์ฟเดอะแบล็คได้ผงาดขึ้นรวมวาลาเชียเป็นชาติและสถาปนาตระผมลบาสซารับชึ้นเป็นผู้ครองนคร ( ปัจจุบันวาลาเชียเป็นจังหวัด ๆหนึ่งของประเทศโรมาเนีย ) หลังจากนั้นก็ได้มีทายาทผู้สืบเชื้อสายเพื่อขึ้นปกครองประเทศเรื่อยๆ ภายไต้นาม วลาดที่ 1,2,3และ4 ตระผมลบาสซายังคงรับใช้ชาติโดยการต่อสู้กับผู้รุกรานมาจนตลอดระยะเวลาการครองราชย์เป็น เรื่องน่าเศร้า..... สงครามอันชั่วร้ายได้เปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นนักรบกระหายเลือดอย่างช่วยไม่ได้

      วลาด ดราคูล ( Vlad Drakul )หรือชื่อที่เราเรียกกันคุ้นหูว่า Count Dracula ทายาทรุ่นหลานในตระผมลบาสซา คำว่า Drakul อาจจะตีความเป็นคำที่หมายถึงมังกร ( Dragon ) หรือมาร ( Devil ) ได้ทั้ง 2 อย่างชาววาลาเชียต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากษัตริย์ผู้นี้น่ากลัวจนน่าจะเป็นลูกของซาตาน กลับชาติมาเกิดมากกว่า ทั้งนี้ก็เกิดจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผีดิบดูดเลือดเต็มรูปแบบ และดูเหมือนกับว่า วลาด ดราคูล จะเป็นผู้ที่นิยมเลือดมนุษย์มากเป็นพิเศษยกตัวอย่างเช่น เมือเชลยศึกถูกจับไม่ว่าจะเป็นชาว มองโกล เติร์ก หรือ ฮังกาเรียน จะถูกทหารของ วลาด ดราคูล นำตัวมายังดินแดนร้างไกลปราสาทที่พำนักของกษัตริย์ พวกเชลยศึกจะถูกบังคับให้ถอดเสื้อออกและโดนทำร้ายร่างกายอย่างทรมานหลังจากนั้นร่างเป็น ๆ ของเชลยจะถูกฆ่าอย่างโหดร้ายโดยการเสียบไม้ให้ทะลุร่างเลือดที่ไหลออกมาจากร่างของศพจะถูกเสร์ฟไปให้ที่โต๊ะอาหารของ วลาด ดราคูล ซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ ติดกับลานมรณะสดๆ

      หลังจากยุคของ วลาด ดราคูล หมดไปใช่ว่าความโหดร้ายทารุณของ Count Dracula คนนี้จะหมดไปด้วย เขาได้ถ่ายทอดความเป็นจอมโหดให้กับสายเลือดทายาทโดยตรงทั้งสองคนของเขาไว้ด้วย ทั้งสองซึ่งมีความโหดไม่ต่างจากรุ่นพ่อเลย ชื่อของคนทั้งสองคือ วลาด เทเปส ( Vlad Tepes ) และ วลาด เซเพช ( Vlad Tsepesh ) กล่าวคือพวกเขาชอบที่จะสั่งให้เอาเชลยศึกที่จับได้มาเสียบไว้กับไม้แหลมแล้วนั่งกินินเนอร์ตรงหน้ากลุ่มนักโทษที่มีเลือดหยดย้อยเหล่านี้ ฟังเสียงร้องขอชีวิตของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเหมือนฟังเสียงดนตรีที่กำลังขับกล่อมประ
      สาท ที่โหดร้ายยิ่งกว่านี้คือในช่วงกำลังสงครามเวลาไม่มีเชลยศึกมาทรมาน เพื่อความบันเทิงในอารมณ์ ก็จะสั่งให้ทหารจับเอาชาวบ้านชาววาลาเชีย ( โดยเฉพาะผู้หญิง ) มาแก้ผ้าเสียบไม้ดูเล่นอีกต่างหาก

      หลังจากนั้นนครวาลาเชียก็ค่อยๆ พัฒนาไปอย่างช้าๆ คนในตระผมลบาสซาเริ่มออกมาเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างคนชั้นสูงด้วยเหตุความเจริญของบ้านเมืองทำให้ความกระหายเลือดของคนในตระผมลบาสซาเริ่มลดลง จนมาถึงปี ค.ศ.1658 คอนสแตนติน บาสซา คนสุดท้ายของตระผมลก็ได้ถึงแก่กรรมนับเป็นการปิดฉากของเรื่องราวประวัติความเป็นมาอันน่าอัปยศอันยาวนานของตระผมลบาสวาในที่สุดแต่เล่ากันว่า ณ ที่ลึกลับในปราสาทของตระผมลบาสซา ยังคงมีร่างของผีดิบ แดร็กคูลา นอนนิทราอยู่อย่างสงบนิ่ง รอคอยวันเวลาของการฟื้นคืนมาสู่ความยิ่งใหญ่ของยุคแห่งบาสซา อีกครั้ง

      เรามักจะได้ยินรายงานการพบเห็น Count Dracula และลูกหลานของท่านอยู่แถบทวีปยุโรปตะวันตก เช่น ประเทศอังกฤษ และ อิตาลี ซึ่งถ้าดูจากบันทึกประวัติการเดินทางของเรือในสมัยก่อนแถบยุโรป เราจะพบการขนส่งโลงศพจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งหลายต่อหลายครั้ง นี่อาจจะเป็นความพยายามของคนในตระผมลบาสซาที่จะขยับขยายเผ่าพันธุ์ของตนก็เป็นได้คะ

      แต่ในบันทึกโบราณของบาทหลวงท่านหนึ่ง ( ในหนังสือไม่ได้เอ่ยนาม ) ได้บอกใว้เกี่ยวกับการขนโลงศพของปีศาจร้ายตนหนึ่งเพื่อที่จะนำไปปิดผนึกอย่างถาวรซึ่งอาจจะเป็น Count Dracula ก็ได้ใครจะรู้

      หลายๆคนเล่าคะ  อ่านๆดูคล้ายๆกัน แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว อาจจะเพิ่มเติมขึ้นมา

      เรื่องที่ทำให้ เค้าวลาด แดร็กคิวล่าโด่งดังในเรื่องความโหดนั้น คือที่มาของฉายา "Impaler " หรือนักเสียบ คะ เพราะทุกครั้งที่เขาทำสงครามนั้น เขาจะจับเอาเชลยสงครามมา เสียบ คะ เสียบทั้งเป็น โดยการใช้เสาไม้ที่แหลมๆเสียบจาก ตูด ให้ทะลุออกไปถึงปากคะ แล้วก็จะปักเอาไว้ที่หน้าปราสาทของเขานี่แหละ คือ จริงๆก็พอเข้าใจนะ ว่า บางทีเขาก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ เพื่อความอยู่รอดของประเทศตนเอง คือ โรมาเนีย เนี่ยเป็นเพียงประเทศเล็กๆเท่านั้นเอง แถมรอบข้างก็ยังเต็มไปด้วยมหาอำนาจในละแวกนั้นเช่นตุ รกี การที่จะเอาประเทศเล็กให้อยู่รอดได้ มันก็ต้องทำอะไรซักอย่างให้ข้าศึกหวาดกลัวแหละคะ แนะนำให้ไปดูหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อเรื่อง แดร็กคูล่า อะครับ(ถ้าจำไม่ผิด(เค้าบอกอีกที)) หนังไม่ได้เปนหนังผีนะคะ แต่เป็นหนังที่เป็นชีวิตของ เค้า วลาด แดรกคิวล่าเลย คือ ไม่เอาเรื่องผีเผออะไรมาเกี่ยวข้องอะคะ

      อ่า สำหรับประวัตินั้น นี่เลยครับ

      วลาด ทีปีซ เกิดประมาณเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. ปี 1431 ภายในป้อมอันเกรียงไกรของโรมาเนีย เป็นโอรสของ วลาด แดร็คคุล ผู้นำสูงสุดของกองทัพทรานซิลวาเนียใยสมัยนั้น แดร็คคุลได้รับตรากล้าหาญ the Order of the Dragon จากจักรพรรดิ ซึ่งเทียบได้อย่างดีกับ เหรียญกล้าหาญสูงสุดในสมัยนี้ เขาเป็นผู้นำที่เหี้ยมโหดที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแคว ้นวลาเซีย น่าสงสารผู้คนของแคว้นนี้มากเพราะนอกจากต้องเผชิญกับ สงครามและการบุกรุกจากศัตรูแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับผู้นำจอมโหดอย่างแดรคคุลอีก ชาวเมืองต่างเข็ดเขี้ยวแสยงฟันกับการลงโทษที่โหดเหี้ ยมผิดมนุษย์ของเขา และก็ดูเหมือนว่า แดร็คคุล จะนิยมชมชอบเลือดมนุษย์มากเป็นพิเศษทีเดียวล่ะค่ะ

      โบราณว่าเอาไว้ว่า เชื้อไม่ทิ้งแถวแนวไม่ทิ้งตระกูล วลาดทีปีซ บุตรชายของเขา ก็อำมหิตไม่น้อยหน้าผู้เป็นบิดา ว่ากันว่า ชื่อแดร็คคิวลานี้ แปลเป็นนัยได้สองความหมาย หนึ่งคือ Dragon หรือว่ามังกรนั่นเอง ส่วนนัยที่สองก็น่าจะแปลง่ายๆว่า Son Of Draccul หรือ บุตรชายของนายมังกร ซึ่งก็คือแดร็คคุลจอมโหดนั่นเอง อย่าเพิ่งคิดว่าชื่อนี้เป็นมงคล เพราะความเชื่อของตะวันออกกับตะวันตกในเรื่องมังกร ค่อนข้างต่างกันอยู่ มังกรตระกูลริวหรือหลงของตะวันออก จะนำมาซึ่งความเป็นมงคลและโชคลาภ ต่างกันกับมังกรของตะวันตก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ชั่วร้าย เป็นร่างแปลงของฝ่ายมารก็คงจะเข้ากันได้ดี กับบุคลิกของผู้นำแห่งวลาเซียเหล่านี้
      ด้วยอายุเพียง 17 ปี วลาด ทีปีซ ได้สร้างตำนานแห่งความน่าสะพรึงกลัวเอาไว้แทบทั่วทั้ งยุโรป ความเด็ดขาด อำมหิต และชาญฉลาดของเขา ทำเอาประเทศรอบข้างหวาดกลัวไปตามๆกัน แม้แต่ชาติมหาอำนาจในสมัยนั้นอย่างตุรกีเอง พอได้ยินชื่อวลาด ทีปิซ เท่านั้น ก็แทบจะเข่าอ่อนลงมากองกับพื้นเลย ทำไม? ประการแรกก็มาจากความบ้าเลือดในการทำสงครามของเขา อีกประการก็คงมาจากวิธีลงโทษเชลยศึก วลาด ทีปีซ จับเอาเหล่าเชลยมาเสียบด้วยไม้แหลมจากก้น จนทะลุขึ้นไปซีกบน แล้วก็เอามานั่งเรียงรายกันไปในบริเวณกว้างๆ เช่นกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้าใหญ่ๆ วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เขาก็จะนั่งดินเนอร์ดูการประหารด้วยวิธีนี้เสียตรงนั ้นเลย ในช่วงที่ว่างเว้นสงคราม วลาดก็จับเอาชาวเมือง ลูกเด็กเล็กแดงทั้งหลาย มาทำบาร์บิคิวสดๆ พฤติกรรมนี้เอง จึงทำให้ท่านวลาด ทีปิซ แดร็คคิวลาของเรา ได้รับฉายาว่า Impaler หรือนักเสียบ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×