เจ๊มันสวย...เลยได้ซวยไปสวรรค์ Andaman Love Story - เจ๊มันสวย...เลยได้ซวยไปสวรรค์ Andaman Love Story นิยาย เจ๊มันสวย...เลยได้ซวยไปสวรรค์ Andaman Love Story : Dek-D.com - Writer

    เจ๊มันสวย...เลยได้ซวยไปสวรรค์ Andaman Love Story

    ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ตำนานรักสะท้านโลก เพราะความสวยแต่ซื่อของเธอแท้ๆ 'คิม ฮีชอล' เรื่องวุ่นๆมันถึงเกิดขึ้น ... อะไรนะ!! นี่เดือดร้อนถึงสวรรค์เชียวหรอ??

    ผู้เข้าชมรวม

    1,025

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.02K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ย. 52 / 19:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    ใครจะไปรู้ "คิม ฮีชอล" สวย แต่ ซื่อ!!!

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

      Puket - Thailand

       

                      ...ดูเหมือนจะมีคู่รักอีกหลายคู่เดินกินลมชมวิวริมชายหาดที่ธรรมชาติรังสรรค์มาเพื่อเจริญหูเจริญตาของมนุษย์โลกโดยแท้นี้ น้ำทะเลสีเขียวมรกตสะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์ยามบ่ายมันช่างดูสวยงามเกินบรรยาย ...สมแล้ว กับสมญานาม  ไข่มุกอันดามัน

                      ทะเลเมืองไทยนี่สวยมากเลยเนอะ ฮันกยองเอ่ยเสียงเบาถามคนข้างๆแทรกเสียงของเสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาดเป็นระยะ ในขณะที่กำลังเดินเคียงคู่กับแฟนหนุ่มหน้าสวยอยู่ริมหาดไปพลางๆอย่างสบายใจ

                      อืม... คิม ฮีชอล ตอบในลำคอ เธอยังเกยคางมองออกไปสู่ท้องฟ้าที่สดใส และท้องทะเลที่กว้างออกไปสุดลูกหูลูกตามันสวยจนเธอหลงใหล

                      ชอบใช่มั้ยล่ะ ...ฮันบอกแล้วว่าจ้าหญิงของฮันต้องชอบแน่ๆ

                      มันสวยมากจริงๆนะ... ฮีชอลหันมามองหน้าแฟนหนุ่มก่อนจะยิ้มตอบด้วยสายตาลุกวาว เอาไว้ถ้าเกิดครั้งหน้า เรามีโอกาสมาพักผ่อนอีกละก็ ...มาที่นี่อีกนะ เสียงใสจับแขนคนตัวสูงใหญ่กว่ามาเขย่าเป็นเชิงเว้าวอน

                      อ่าดิ ได้เสมอครับเจ้าหญิง

                      อืม ...จะว่าไปก็คิดถึงตอนที่เราไปทะเลที่มาเลเซียเหมือนกันเนอะ ถึงมันจะไม่สวยเท่าที่นี่ แต่ที่นั่นก็เป็นสถานที่ที่ให้ความทรงจำดีดีกับเรา 

                      หืม? ความทรงจำดีดีที่ว่าน่ะคืออะไรเหรอ... ฮันกยองถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขาจำได้แค่ว่าตอนนั้นฮีชอลเหยียบเปลือกหอยเลือดไหลซิบๆ

                      นี่ฮัน!!! จำไม่ได้จริงๆเหรอ ฮีชอลตวาดสายตาจิกกัดคนรักของตน อารมณ์หลงใหลธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยอารมณ์คุ่นเคืองคนรัก ...ตลอดเวลาที่เธอพร่ำลำรึกถึงเรื่องราวในวันนั้น แต่อีกคนกลับไม่เคยจดจำเลยงั้นเหรอ

                  อ่ะ เอ่อ....

                      คนชั่วช้า...

                      ...เอางี้ดีไหม เจ้าหญิง บอกใบ้หน่อย ...นิดนึงก็ยังดี

                      ไปตายเลยไป ไอ้คนความจำสั้น!!” ฮีชอลขึ้นเสียงสูง

                      ไม่เอาน่า อย่าโกรธนะคนดี กำลังนึกอยู่นี่ไง

                      งั้นก็นึกต่อไป เราจะกลับห้อง ไม่ต้องตามมาเลยนะ ไปเปิดห้องใหม่เลยไป ฮีชอลออกปากไล่ครั้งที่สอง เธอค่อนข้างเอือมระอากับพฤติกรรมความจำเสื่อมของแฟนหนุ่ม แม้จะพยายามทำตัวให้เคยชิน แต่มันก็อดทนไม่ไหวในเมื่อเรื่องนี้...มันชักจะหมดความอดทน

                      อ๊ะๆ นึกออกแล้วเสียงของฮันกยองทำให้คนที่กำลังจะเดินจากไปหยุดชะงักอยู่กับที่ ...จำได้จริงๆเหรอ

                      ... ฮีชอลหันกลับมองมาฮันกยองด้วยสายตาคาดคั้น เธอกอดอกมั่นๆพยักเพยิดหน้าเป็นเชิงถามในสิ่งที่ฮันกยองบอกว่าจำได้ ...

                      เอ่อ ตอนไปทะเลที่มาเลเซียคือว่า ....เอ่อ.....คือ ฮันกยองเหงื่อตกแหมะชุ่มไปทั่วตัว ...ให้ตายซิน่า เรื่องอะไรหว่า คิดสิคิด อ๊ากกกกกกกตรูคิดไม่ออกเลย

                      ไอ้คนเฮงซวย  คนตอแหล ...นี่ฮันไม่เคยใส่ใจในคำพูดของตัวเองเลยใช่ม่ะ ที่พูดไว้ก็แค่พูดลอยๆใช่มั้ย น้ำตาที่ปริ่มในตาของเธอ แสดงให้เห็นได้ดีว่าเธอกำลังผิดหวังอย่างมาก ...ก็เธอถือคำพูดนั้นเป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิตนี้ของเธอนี่

                      เจ้าหญิง ฮันขอโทษ โธ่... ถึงแม้ฮันจะจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไป แต่ทุกคำที่ฮันพูดไว้กับเจ้าหญิงก็ออกมาจากใจและด้วยความสัตย์จริงนะ ไม่เชื่อให้ฝ่าผ่าตายเลยอ่ะฮันกยองมีสายตาและสีหน้าเคร่งเครียดแต่ก็พยายามไกล่เกลี่ย ...เมื่อกี้ยังคุยกันดีๆอยู่เลยนี่หว่า

                      แต่เรื่องนี้ฮันควรจะจำได้บ้าง ...มันสำคัญมากนะ

                      งั้นเจ้าหญิงของฮันก็บอกมาสิ ว่า ...เรื่องที่ว่า คืออะไร

                      กรี้ดดดดดดด ฮีชอลกระทืบเท้ากับพื้นทรายแล้วหวีดร้องเป็นผู้หญิง ก็ฮันบอกว่าจะดูแลเราตลอด ไป จะเทคแคร์ช่วยเหลือยื่นมือเข้ามาช่วยเวลาเรามีปัญหา จะอยู่เคียงข้างเราตลอดไงและสิ่งสำคัญที่เธอพร่ำย้ำไปย้ำมากับตัวเองตลอดก็ถูกเปิดเผยออกมา

                      อ๋อ...พูดจบ ฮันกยองก็ถึงบางอ้อ

                      ไม่ต้องทำมาเป็นคิดได้เลยนะ ฮือๆๆ ฮีชอลร้องไห้ออกมาในที่สุด แต่เธอก็อดดีใจไม่ได้ที่อย่างน้อยฮันกยองดูเหมือนจะจำเรื่องที่ว่าขึ้นมาได้แล้ว 

                      ฮันบอกด้วยไม่ใช่เหรอว่า ฮันจะรักเจ้าหญิงคนเดียวไม่เปลี่ยนแปลง

                      เหรอ ...จำได้จริงๆสินะ

                      เจ้าหญิงก็จำได้ไม่หมดเหมือนกันนั่นแหล่ะ ฮันกยองเดินเข้ามาก่อนจะดึงร่างบางที่กำลังสั่นระริกเข้ามาโอบไว้ในอ้อมกอดอย่างไม่แคร์สายตาชาวไทยที่หลายคนอาจไม่คุ้นตากับภาพที่เห็น 


      ฮือๆๆ...

      ฮันรักเจ้าหญิงนะ น้ำเสียงที่แหบพร่าพูดคำที่พูดบ่อยๆออกมาอีกครั้ง แม้เสียงมันจะเบามากแต่ฮีชอลก็ได้ยินถ้อยคำนั้นชัดเจนดี

                      เราก็รักฮันเหมือนกัน ฮือๆๆๆ ฮีชอลร้องไห้เป็นตายอยู่ในอ้อมกอดของฮันกยองเหมือนเด็กน้อยงอแง

                      งั้นจูบนะ...

                      ประเจิดประเจ้อ

                      จุ๊ฟฟฟฟ ....

                      ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะได้ตั้งตัวหรือตกลงเอออออะไร ฮันกยองก็ประกบริมฝีปากแดงระเรื่อนั้นอย่างห้ามใจไม่ไหว ...ก็เธอมันน่ารักเองนี่เจ้าหญิงของผม

                      ฮีชอลรู้ตัวเองดีว่าหากจะขัดขืนหรือต่อต้านไปคงสูญเปล่า เธอได้แต่โอบท้ายทอยของแฟนหนุ่มตอบอย่างมอบอารมณ์ให้ซึ่งกันและกัน ...แม้มันจะผิดที่ไปหน่อย แต่ความต้องการที่โลดแล่นเข้ามาหรือจะฟังเหตุผลอื่นใดๆ ร่างบางได้แต่ตอบโต้และเปิดรับความหอมหวานของอีกฝ่ายอย่างท้าทาย เสียงครางเบาๆของฮีชอลยิ่งทำให้อีกคนกระชับตัวเธอให้ติดกับตัวแน่นพร้อมทั้งเลียบเลียและดูดดื่มอย่างไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ 

                      เฮ้ย ดูนั่น!!! น้ำทะเลลด เฮ้ยยยยยยยยย ทำไมเป็นอย่างงั้นไปได้

                      ไปจับปลากันเถอะ

                      แว๊กกกก แปลกจัง

                  แม่ๆ น้ำทะเลแห้งหมดแล้ว พ่อจ๋าปลาเยอะมาก เร็วเข้าเดี๋ยวคนอื่นจับกันหมดก่อนหรอก


                      เสียงผู้คนรอบข้างปลุกให้ทั้งสองผละออกจากกัน ก่อนจะหันไปมองยังทางที่ผู้คนต่างพลุกพล่านกุลีกุจอวิ่งไปดูอย่างสนใจ


      ที่ชายหาด ...ระดับน้ำทะเลลดลงไปอย่างฮวบฮาบอย่างน่าอัศจรรย์ใจ  ฝูงปลาที่ดิ้นกระแด่วๆอยู่นั้นตอกย้ำว่าความเร็วของน้ำที่กระทันหันทำให้การเคลื่อนไหวของมันดูไร้ความหมาย  ผู้คนต่างตะลึงงันกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เคยพบเคยเจอ บ้างก็กรีดร้องอย่างตื่นเต้น บ้างก็กรีดร้องด้วยความแปลกใจ


      อะไรน่ะฮัน ฮีชอลมองน้ำทะเลตาไม่กระพริบ มันยังคงลดลงไปเรื่อยๆ จากที่ว่ามากแล้ว มันยังลดลงไปเรื่อยๆอยู่อย่างนั้น เหมือนมีคนใช้เครื่องสูบน้ำกำลังดีจากทะเลนี้ออกไป แต่ไม่ใช่ นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก

      น้ำขึ้นน้ำลงมั้ง ฮันกยองตอบตามความคิดของตัวเองออกไป

      แต่ทำไม เฮ้ย!!!” จู่ๆแผ่นก็สั่นสะเทือนด้วยแรงมหาศาล ฮีชอลล้มลงด้วยร่างกายที่ไร้การควบคุมไปชั่วขณะ เธอจับมือของแฟนหนุ่มไว้แน่นจนเขาล้มกองลงมาตาม ...ลางสังหรณ์แปลกๆมันพุ่งเข้ามาหาทำให้เธอคิดฟุ้งซ่านไปหมดในเพียงชั่ววินาที

      เสียงผู้คนต่างภาษา ต่างเชื้อชาติวุ่นวายกันให้ทั่ว บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนแปลงไปหมด ก่อนที่สติของฮีชอลจะประมวลออกมาได้ว่ากำลังตกอยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว ...อะไรกัน ร้อยวันพันปีประเทศไทยเคยแผ่นไหวซะที่ไหน

      มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ!!

      ครึ้มมมมม

      บึ้มมมมมม 

      เสียงของแผ่นพสุธาคำรามลั่น ตามด้วยผู้คนที่ต่างวิ่งหนีเพื่อหาความปลอดภัยกันจ้าละหวั่น แผ่นดินที่สั่นสะเทือนทำให้ตึกแถวข้างๆถล่มลงมาทับผู้คนที่กำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตให้หยุดการเคลื่อนไหวอยู่ใต้แผ่นอิฐหนาและซากปรักหักพัก ต้นไม้ใหญ่ล้มลงฟาดกับผืนทรายอย่างให้อันตราย รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนเสียหลักพลิกคว่ำเป็นแถวระเนระนาด

      ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!!

      เจ้าหญิงเราเข้าไปตรงนั้นกันก่อนเถอะ ฮันกยองชี้ไปที่กระต๊อบเล็กๆหลังหนึ่ง ที่ไม่ได้ใหญ่โตและคงไม่พังลงมาโดนใครถึงกับบาดเจ็บได้ ...แต่ไม่ทันใดต้นมะพร้าวใกล้ๆก็ล้มลงมาทับมันพังเป็นระนาบในชั่วพริบตา

      โครมม!!

      ฮัน นี่มันอะไรกัน ฮือๆๆ ฮีชอลทำอะไรไม่ถูกเอาแต่ร้องไห้และมือไม้เย็นไปหมด แผ่นดินไหวที่เกาหลียังไม่น่ากลัวขนาดนี้เลย

      ไม่ต้องกลัวนะ ฮันไม่ปล่อยให้เจ้าหญิงเป็นอะไรหรอก เฮ้ย!!”

      กรี๊ดดดดด!!!!” ฮีชอลเสียหลักล้มลงหน้าคะมำกับพื้น ใครสักคนวิ่งชนพร้อมกับที่เหยียบต้นแขนของเธอแล้ววิ่งเลยผ่านไปอย่างเอาตัวรอด  มือของฮีชอลและฮันกยองหลุดออกจากกัน และเธอก็มองไม่เห็นแล้วด้วยว่าฮันกยองอยู่ตรงไหน ผู้คนมากมายละลานไปทั่วทำให้เธอลายตาไปหมด

      ครืนนนนน

      แค่กๆๆ ฮีชอลลุกขึ้นนั่งกับพื้นทรายอย่างทุลักทุเล เธอสำลักเม็ดทรายเข้าไปในตอนที่ล้มลงเกลือกกลั้ว ซ้ำร้ายยังระบมไปทั้งตัวไม่รู้ใครต่อใครที่ต่างเหยียบย่ำร่างของเธออย่างไม่ใยดี

      ครืนนนนน

      ร่างบางตาเบิกโพลงกว้างอีกรอบเมื่อตรงหน้าคือคลื่นน้ำขนาดใหญ่มหึมา มันอยู่ตรงหน้าเธอนี่เอง น้ำที่ก่อตัวขึ้นราวกับเป็นกำแพงสูง 4 เมตรตระหง่านอยู่ตรงหน้าเธอและดูเหมือนมันจะไม่ตั้งทะล่าอยู่อย่างนั้นนานนัก

      ซ่า........

      คลื่นยักษ์ สึนามิลูกแรกทิ้งตัวลงมายังพื้นด้วยแรงของน้ำที่ดำดิ่งกับแรงโน้มถ่วงของโลกพร้อมๆกับร่างของฮีชอลที่ปลิวไปตามกระแสน้ำอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอรู้สึกแสบซ่านไปทั่วหน้าและตัวที่ชาไปหมด หูที่อื้อได้ยินแต่เสียงทุ้มๆรอบกายทำให้ฮีชอลขาดสติในการควบคุมตัว จนกระทั่งร่างของเธอลอยไปกระทบกับซากของแผ่นซีเมนต์

      อั่ก!!!

      หลังของฮีชอลกระแทกกับความแข็งแกร่งของซากอาคารนั้นจนจุกมาถึงท้อง และความเจ็บปวดนี้เองที่ทำให้เธอลืมตาขึ้นมองสภาพแวดล้อมรอบกาย

      ไม่เหลือภาพดังเดิม ...ทุกอย่างเป็นน้ำ ...ถนน หาดทราย ทางเดินและสวนหญ้าทุกอย่างหายไปเหลือเพียงผืนน้ำที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำที่ขุ่นและเต็มไปด้วยซากขยะไหลไปทางเดียวกันเหมือนกระแสน้ำของน้ำตก มันพร้อมที่จะพยายามพัดพาร่างของฮีชอลให้จมดิ่งลงไปในความลึกนั้นด้วย

      ฮีชอลจับเสาไฟฟ้าข้างๆไว้แน่นก่อนจะใช้เท้าขวานหาที่เหยียบให้ร่างกายหยั่งถึงพื้นโดยไม่ลอยอยู่บนกระแสน้ำเชียวแบบนี้

      ครืนนนนน

      ซ่า....

      แต่คลื่นยักษ์มหาปะลัยอีกลูกก็ถาโถมเข้ามาซากซีเมนต์แผ่นใหญ่ข้างหลังลอยออกไปตามกระแสน้ำ เช่นเดียวกับฮีชอลที่จมดิ่งร่วงลงสู่ทะเลขุ่นๆนั้นอย่างต้านทานความแรงของน้ำไม่ไหว

      บึ้มมมมม โครมมมม

      โรงแรมกว่า 20 ชั้นอีกฝั่งถล่มลงมาเพราะต้านทานกระทำลายของภัยภิบัติทางธรรมชาตินี้ไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของมัน ที่ไม่เว้นแม้กระทั่งสิ่งก่อสร้างที่ว่าแข็งแรงแล้ว

      ฮีชอลได้แต่หลับตาในสายน้ำ ร่างกายของเธอถูกขีดข่วน และกรีดแทงด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่บัดนี้กลายเป็นขยะไปเสียหมด

      ฮันกยอง ...ฮันกยอง ...ฮันอยู่ไหนช่วยเราด้วย เราไม่ไหวแล้ว

      ฮีชอลพร่ำร้องหาเขาเพียงคนเดียว น้ำตาของเธอที่ไหลออกมาผสมกับน้ำสกปรกยังคงไหลอยู่อย่างนั้น เธอกลัว ...กลัวว่าเขาคนนั้นจะไม่มาช่วย กลัวว่าจะตายก่อนเขาคนนั้นทั้งที่ยังไม่ได้ร่ำลากัน

      มีเพียงความทรงจำสุดท้ายที่เหลือไว้ ...เขาจะดูแลเราตลอดไป จะเทคแคร์ช่วยเหลือยื่นมือเข้ามาช่วยเวลาเรามีปัญหา และจะอยู่เคียงข้างเราตลอด ...มีเพียงคำพูดคำนี้ที่ยังพอทำให้เธอมีความหวัง

      ...ฮันกยองต้องมาช่วยเธอแน่นอน

      และในวินาทีนั้นเอง ฮีชอลลืมตาขึ้นภายในสายน้ำที่เกรี้ยวกราดอย่างมีพิษสง กระแสน้ำยังคงต่อต้านการแวกว่ายน้ำของเธออย่างไม่หยุดหย่อน ฮีชอลว่ายน้ำสุดกำลังเพื่อที่จะหาที่ยึดเหนี่ยว และนั่น...ซากรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำให้เธอพอมีหวังตะเกียกตะกายว่ายน้ำเข้าไปหา และเกาะขึ้นไปตามความสูงชันของรถที่ล้มคว่ำอย่างแน่นิ่ง น้ำหนักของรถยังพอต้านทานกระแสน้ำได้แม้จะเสียหลักไปแล้วก็ตาม

      ฮีชอลขึ้นมาอยู่บนซากรถบรรทุกคันดังกล่าวพร้อมกับเกาะยึดไว้แน่นเมื่อคลื่นลูกใหม่ตั้งเค้าขึ้นสูงทะยานไปบนฟ้าและสาดลงมาอีกรอบ

      ซ่า....

      นี่คุณ ขึ้นเรือไปกับเราสิ รถนั่นมันคงต้านแรงน้ำได้อีกไม่นาน ชายชราที่กำลังขี่เรือมอเตอร์ลำใหญ่ผ่านมาตะโกนเรียกฮีชอลอย่างยื่นความช่วยเหลือ ร่างบางที่กำลังหนาวสั่นอยู่ย่อมฟังภาษาของคนในประเทศนี้ไม่รู้เรื่อง เธอได้แต่ส่ายหน้าแรงๆ  จนกระทั่งชายชราต้องรีบเอาตัวรอดโดยการขี่เรือออกไป

      ฮือๆๆๆ ฮันกยองนายอยู่ไหน ไหนนายบอกว่าจะมาช่วยเราไง ฮือๆๆๆ ฮีชอลเกาะกระบะรถบรรทุกไว้แน่นพร้อมกับตะโกนสุดเสียง ใกล้ๆเธอมีร่างไร้สติที่อาบไปด้วยเลือดกลิ่นคาวคลุ้งที่ลอยมาตามกระแสน้ำอย่างน่าอนาถ ศพแล้วศพเล่าที่สังเวยให้แก่ภัยพิบัติในครั้งนี้ 

      คุณครับ  เรามีเชือกผูกอยู่ตรงนั้น ค่อยๆลงมาแล้วไต่เชือกมาขึ้นเรือนะครับ หน่วยกู้ภัยทางน้ำที่ออกปฏิบัติหน้าที่ตะโกนเรียกฮีชอลที่ยืนร้องไห้อยู่บนหัวรถสิบล้อ

      ฮือออ ฮือๆๆ พวกคุณพูดอะไรฉันฟังไม่รู้เรื่อง!!!” ฮีชอลตะคอกชายหนุ่มคนนั้นด้วยน้ำตาที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย มันคือความโชคร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

      สำเนียงภาษาเกาหลีที่เธอเปล่งออกมาทำให้หนึ่งในหน่วยกู้ภัยพอจะรู้ว่าการสื่อสารครั้งนี้คงยากลำบากกว่าครั้งไหนๆ แต่ความพยายามจะช่วยฮีชอลของหน่วยกู้ภัยก็ไม่ได้ลดลงเลย

      เรามาช่วยคุณนะครับ... ชายหนุ่มคนเดิมพยายามส่งสายตาบอกฮีชอลว่าพวกเขามาเพื่อช่วยเหลือเธอ

      ฮือๆๆ ฮันกยองจะมาช่วยฉัน ฮือๆๆๆ ฮีชอลร้องไห้ส่ายหน้าไปมาเหมือนคนบ้าสติฟั่นเฟือง

      หน่วยกู้ภัยเห็นท่าว่าฮีชอลจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขากำลังจะสื่อสารถึงวิธีช่วยเหลือให้รอดพ้นจากอันตราย ชายคนหนึ่งโยนเชือกมาที่หัวของรถบรรทุกที่ฮีชอลยึดเหนี่ยวอยู่ ตะขอที่ปลายเชือกยึดกับขอบหน้าต่างรถไว้แน่น ก่อนที่ชายคนนั้นจะค่อยๆไต่เชือกต่อสู้กับกระแสน้ำเข้ามาหาเธอ 

      หวืดดดด

      ฉึ่ก!!!

      ซากกระจกแผ่นใหญ่ที่ลอยมาตามกระแสน้ำพุ่งเข้าใส่ระหว่างลำตัวของชายหนุ่มจมหายลงไปในสายน้ำพร้อมๆกับเลือดที่แดงซ่านขึ้นมาทันใด ฮีชอลอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น คนตายต่อหน้าต่อตาเธออย่างน่าสลด

      ครืนนนนน

      ไม่ทันใด คลื่นลูกต่อมาที่ดูเหมือนจะใหญ่และดูมีอันตรายกว่าครั้งไหนๆถล่มลงสู่พื้นและเพิ่มความแรงให้กระแสน้ำที่เชี่ยวกราดอยู่แล้วให้กลายเป็นสายน้ำเจ้าลมกรดดีๆนี่เอง

      ซากรถสิบล้อที่ฮีชอลใช้ยึดเหนี่ยวอยู่มีการเคลื่นไหวตามสายน้ำ

      แหวดดดด แหวดดดด

      เฮลิคอปเตอร์คันหนึ่ง กำลังบินอยู่เหนือหัวของฮีชอล คนที่อยู่บนนั้นหย่อนบันไดเชือกลงมาที่เธออย่างช่วยเหลือ เธอจะรอด เพียงแค่ไต่บันไดขึ้นไป...

      ฮันกยองจะมาช่วยฉัน…” ฮีชอลพึมพำในลำคอ ไม่สนใจบันไดทางรอดของชีวิตตรงหน้า อย่างน้อยถ้าฮันกยองไม่มาช่วยเธอ มันก็แสดงว่าเขาก็คงตายไปในสายน้ำนี้แล้วใช่ไหม...

      ...งั้นเธอก็ขอตายดีกว่า (ไหม)

      ถึงอย่างนั้น ร่างบางก็ยังไม่ได้เห็นศพของอีกคนเลยนี่ มันเป็นความหวังที่ริบหรี่ แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอมีหวัง ...หวังแค่ให้เธอและเขาได้กลับไปอยู่ด้วยกันตามเดิม

      ครืนนนนน

      คลื่นลูกใหญ่มาอีกแล้ว  และครั้งนี้ความแรงก็น้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้พัดพาซากของรถยนต์ที่ผลิกคว่ำอยู่ใกล้ๆเข้ามายังรถบรรทุกที่ฮีชอลใช้ยึดเหนี่ยวร่างกายอยู่ แรงชนมหาศาลบวกกับความจงใจแกล้งของกระแสน้ำทำให้รถมีการเคลื่อนที่อีกครั้ง มันโคลงเคลงจนทำให้ฮีชอลที่กำลังร้องไห้อยู่ร่วงหล่นลงสู่พื้นน้ำจนเธอสัมผัสได้ถึงร่างกายที่กระแทกเข้ากับของแข็งอย่างจัง มันชาไปทั้งตัว ความเจ็บในครั้งนี้คงหาครั้งไหนมาเทียบเคียงไม่ได้...

      รถสิบล้อคันดังกล่าวไม่สามารถทนต้านทานแรงของน้ำต่อไปได้ มันผลิกคว่ำอีกครั้ง กระแสน้ำพยุงให้รถหงายท้องพลิกไปอีกตลบโดยไม่แคร์ว่าตรงนั้นมีร่างของฮีชอลที่กำลังสิ้นสติอยู่ ร่างบางไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย ไม่สามารถรับรู้ว่าซากของรถบรรทุกที่หนักกว่าสิบตันกำลังทิ้งตัวลงมาที่ร่างของตน

      คงมีแต่ความตายเท่านั้น ที่จะทำให้เธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ...

       

      >>>>>>>>> Andaman Love Story <<<<<<<<<<

       

      สวรรค์...

      ร่างกายที่บอบบางบัดนี้นอนแผ่หลาอยู่ท่ามกลางหมอกควันบนสรวงสวรรค์ ฮีชอลค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากที่สิ้นสติไปชั่ววินาที วิญญาณที่ล่องลอยของเธอก็มาปรากฏบนพื้นขาวสะอาดเช่นนี้

      ไม่มีกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด

      ไม่มีคลื่นยักษ์ที่ถาโถมใส่อย่างไม่หยุดยั้ง

      ไม่มีเสียงคำรามของผืนแผ่นพสุธา สายลมที่หนาวเหน็บ

      ไม่มีศพของคนตายที่ลอยล่องไปทั่วบริเวณ ไม่มีความหลอกหลอนใดๆ

      มีแต่ความสะอาดขาวของพื้นพรหม หมอกควันจางๆและกลิ่นหอมหวานของที่นี่ มันทำให้ฮีชอลปรับตัวไม่ทัน เมื่อกี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ ความกลัวและหวาดหวั่นยังไม่จางหายไปหมด

      เจ้าได้เสียชีวิตตามชะตากรรมที่สวรรค์ได้สรรสร้างและลิขิตไว้แล้ว เสียงของชายหนุ่มร่างท้วมคนหนึ่งเรียกความสนใจของฮีชอลให้ตื่นจากภวังค์ เขาคนนั้นอยู่ในชุดขาวและดูสะอาดสะอ้าน

      ซีวอน!!!” ฮีชอลตะโกนลั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นเจ้าของเสียง

      ข้าชื่อไชยยาเทพ หากใช่ซีวอนงี่เง่าที่เจ้าเรียกไม่

      จะบ้าเหรอ นี่มันซีวอนชัดๆ

      ... ความนิ่งของคนตรงหน้า และความรู้สึกที่สัมผัสได้นั้นทำให้ฮีชอลเริ่มเชื่อว่าคงเป็นแค่คนหน้าเหมือน หรือไม่ก็แฝดอีกคนของซีวอนละมั้ง แล้วก็...ที่เขาพูดเมื่อกี้ เขาว่าอะไรนะ

      ที่นี่ที่ไหนครับ แล้วเมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ฮีชอลถามด้วยเสียงที่แหบพร่า พร้อมกับสำรวจร่างกายที่ไร้ซึ่งบาดแผล และความเปียกชื้นของน้ำ

      สวรรค์ ...เจ้าไม่เข้าใจเหรอ เจ้าตายแล้ว

      หา? ...มะ มะ ไม่จริง

      เจ้าตายแล้ว ข้ามาเพื่อรับตัวเจ้าไปรายงานตัวกับเทพเจ้าแห่งสวรรค์ ผู้ที่จะตัดสินความเป็นไปของวิญญาณของเจ้า

      นี่คุณพูดอะไร ได้โปรดอย่ามาล้อเล่น

       

      >>>>>>>>> Andaman Love Story <<<<<<<<<<

       

      นี่คุณจะพาผมไปไหน ฮีชอลร้องโวยวายในขณะที่โดนลากให้เดินตามมาระยะหนึ่ง เส้นทางที่ดูไม่เป้นเส้นทาง มองไปทางไหนก็มีแต่ลานกว้างสีขาวและหมกควันที่คละคลุ้ง

      ...

      ถ้านี่เป็นสวรรค์จริงๆ แล้วท่านเป็นเทวดาใช่ไหมฮีชอลตั้งสติและเอ่ยถาม

      อืมม.... ชายหนุ่มร่างท้วมหันมาพยักหน้าให้เธอก่อนจะหยุดการเดินทางชั่วคราว ข้าเป็นเทวดาผู้มีหน้าที่ดูแลประตูสวรรค์

      ประตูสวรรค์?

      ก็ประตูที่ทุกดวงวิญญาณต้องผ่านก่อนไปรายงานตัวกับเทพเจ้าแห่งสวรรค์ไง

      งั้นผมขอถามอะไรท่านอย่างหนึ่งได้ไหมครับ ฮีชอลทำสายตาขอร้อง

      มนุษย์นี่ช่างวุ่นวายนัก

      ฮันกยอง ...เอ่อ ....ฮันกยองเขาตายหรือยังครับ ฮีชอลไม่รอช้าที่จะถามในสิ่งที่เธออยากรู้ที่สุดออกไป

      ฮันกยอง... นั่นเป็นชื่อคนรักของเจ้าหรือ? เทวดาร่างท่วมถามฮีชอลเพื่อความแน่นอน

      ใช่ เขาเป็นคนที่ผมรักมากที่สุด

      ข้าของเวลาเพียงไม่นาน ว่าแล้วเทวดาร่างท้วมนามว่าไชยยาเทพก็บีบข้อมือของฮีชอลแน่น เขาหลับตาลงด้วยท่าทางสงบนิ่ง มีแสงออร่าวิ้งๆแผ่ออกทั่วตัวของเขา และไม่นานอย่างที่เขาว่า เทวดาที่ว่าก็มีคำตอบให้กับฮีชอล

      ว่าไงครับท่าน

      ชายคนนั้น ตายก่อนเจ้าเสียอีก

      ... ฮีชอลอึ้งไปชั่วขณะ ฮันกยองตายแล้วจริงๆ ถึงแม้จะอยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่มันไม่ใช่อย่างนี้ ...

      เจ้าจะไปกับข้าดีๆได้หรือยัง ไชยยาเทพว่าต่อพร้อมกับทำท่าจะลากฮีชอลเดินตามไปอีกจนได้

      ดะ ดะ เดี๋ยวซิท่าน ถ้าไม่เป็นการรังเกียจ ผมอยากจะขอให้ท่านช่วยอะไรอีกหน่อยได้ไหม

      ขอรังเกียจเจ้า ...พวกมนุษย์วิปริต

      เอ่อ ...ท่านช่วยพาผมไปพบกับฮันกยองได้ไหม แม้จะโกรธในคำพูดที่เทวดาร่างท้วมเปล่งสำเนียงวาจาออกมา แต่ฮีชอลก็เก็บอารมณ์นั้นไว้ แสดงออกไปเพียงความน่าสงสารที่ไม่ว่ามนุษย์หรือเทวดาก็สามารถสัมผัสได้

       

      >>>>>>>>> Andaman Love Story <<<<<<<<<<

       

       ฮีชอลยืนจ้องคนตรงหน้าเขม็ง คนที่เขาอยากพบหน้าเหลือเกิน จากกันเพียงไม่เท่าไหร่มันเหมือนอยู่ห่างจากคนๆนั้นเป็นศตวรรษ ...ใครจะไปเชื่อว่าเธอจะได้มาพบฮันกยองอีกทีก็เมื่อตายเป็นวิญญาณอยู่อย่างนี้

      ไชยยาเทพ หรือแฝดซีวอนบอกว่าที่นี่คือประตูทางออกของสวรรค์ วิญญาณที่รายงานตัวแล้วและมีความดีความชอบ ไม่ได้กระทำผิดหรือก่อกรรมร้ายไว้บนโลกมนุษย์จะมา ณ ดินแดนแห่งนี้เพื่อรอโอกาสไปเกิดบนโลกมนุษย์อีกทีในครรภ์ของสตรีเพศ

      ข้างกายของฮันกยองมีอีกหลายดวงวิญญาณที่ยังรอเวลาการได้กลับสู่โลกมนุษย์ดังเดิม

      เหมือนคนถูกมองจะรู้ตัว เขาหันมามองฮีชอลที่ตอนนี้น้ำตาไหลพรากยืนจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว ฮันกยองยิ้มให้กับคนตรงหน้าก่อนจะเดินเข้ามาและไม่รอช้าที่จะดึงเธอเข้ามากอดอย่างคุ้นเคย

      ฮือๆๆๆ ... ฮีชอลร้องไห้อยู่อย่างนั้น

      อย่าร้องนะคนดี ...อย่าทำให้ผมรู้สึกแย่สิ พอฮันกยองพูดจบฮีชอลก็นึกโกรธขึ้นมาได้แล้วผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดที่โหยหานั่น นาย...ไอ้คนผิดสัญญา

      ไอ้คนผิดสัญญา นายมันเลว!!” ฮีชอลตวาดลั่น นิสัยของเธอไม่หายไปไหน แม้จะตายแล้ว ...แม้จะอยู่บนสวรรค์ที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า

      อะไรกันเจ้าหญิง ฮันผิดสัญญาอะไร

      พูดไปได้ นี่ฮันลืมอีกแล้วใช่ไหม

      อะไรกัน ใบ้หน่อยได้ไหม

      พอเลย ไอ้คนชาติชั่ว นายน่าจะได้เกิดไปเป็นปลาทองนะ

      อะไรของเจ้าหญิงเนี่ย

      ก๊ากกกก ก็ไหนฮันบอกว่าจะยื่นมือมาช่วยเหลือเวลาเราเดือดร้อนไง ที่ไหนได้ ฮันตายก่อนเราซะอีกฮีชอลพูดด้วยความน้อยใจ เธออุตส่าห์นึกอยู่ตลอดว่าเขาจะมาช่วยเธอ...

      ...เฮ้ออออออ

      ถอนหายใจทำไม

      เจ้าหญิงนี่โง่จริงๆ

      นี่ฮันด่าเราเหรอ

      ก็เออนะสิ

      กรี้ดดดดด

      ฮันไม่เคยผิดสัญญา ไม่เคยผิดคำพูดนะจะบอกให้

      ยังจะเถียงหน้าด้านๆอีกนะ ฮันไม่ผิดสัญญาตรงไหน

      เอ้า ...ก็ฮันส่งเรือมอเตอร์ไปช่วยก็แล้ว ส่งหน่วยกู้ภัยไปช่วยก็แล้ว ไหนจะส่งเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยอีก เจ้าหญิงก็โง่เอาแต่ร้องไห้อยู่นั่นแหล่ะ ฮันกยองขึ้นเสียงกลับ แต่ไม่ใช่เพราะความโกรธ ชายหนุ่มเพียงระอากับความใสสื่อและเอาจริงเอาจังกับคำพูดของเขานัก ....

      หา? ...ว่าไงนะ

      ...

      เรือ หน่วยกู้ภัย เฮลิคอปเตอร์ ...ของฮันหรอกเหรอ พูดใหม่สิ ฮันว่าไงนะ

      ฮันบอกว่า ฮันช่วยเจ้าหญิงแล้ว แต่เจ้าหญิงโง่เอง 

      เออ ...ใช่เซ่ ถ้าเรามันโง่แล้วฮันมาชอบเราทำไม แน่จริงชาติหน้าเกิดมาไม่ต้องมาชอบเราแล้วกัน คนอย่างคิม ฮีชอลไม่ง้อผู้ชายหน้าหม้อแบบนายฮันกยองเสมอไปหรอก

      อ่า เจ้าหญิงอ่ะ ฮันแค่ล้อเล่นนะ ที่จริงฮันดีใจจะตายที่เจ้าหญิงยังเชื่อมั่นในรักแท้ของเรา

      เชื่อมันแล้วไง ตายทั้งคู่เนี่ย ฮีชอลอารมณ์เสีย

      อ้าว ...ก็เจ้าหญิงโง่เองนี่

      ฮันกยอง!!!”

      อ๊ะๆ ขอโทษน้า เอาเป็นว่าถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เราเกิดมาพบกันและรักกันอีก ...โอเคไหม ฮันกยองยื่นคำหวานหว่านล้อมฮีชอลให้หายโกรธ

      โอเคน่ะโอเค ...แต่เรายังไม่รายงานตัวกับเทพเจ้าแห่งสวรรค์อะไรนั่นเลย แล้วอย่างนี่ฮันก็ต้องได้ลงไปเกิดก่อนเรา  แถมยังไม่รู้ด้วยว่าจะได้เกิดในประเทศเดียวรึเปล่า

      แน่ะ คิดไปถึงโน่น ฮันกยองอดขำไม่ได้

      ก็มันจริงๆนี่นาฮีชอลบุ้ยปากงอนๆ

      เอาเป็นว่ายังไงซะ เราจะเป็นคู่รักสะท้านโลกให้ได้เลย ฟังดูดีป่ะ

      เออ ให้ได้ลงไปเกิดก่อนเถอะ นี่เราทำบาปอะไรไว้บนโลกรึเปล่าหนอ ฮีชอลเริ่มคิดหนัก เพราะเธอยังไม่รายงานตัว และไม่รู้เลยว่าจะได้ลงไปเกิดใหม่ยังโลกมนุษย์รึเปล่า ไหนอาจจะต้องเสี่ยงตกนรกก็ได้ หากว่าเทพเจ้าแห่งสวรรค์เห็นว่าเธอเป็นคนเลวจริงๆ

      ฮ่าๆๆๆๆ ความรักคืออะไรกัน ความรักคือความคงทนนั้นจริงหรือ ฮ่าๆๆๆๆ เสียงหัวเราะดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ฮีชอลและฮันกยองมองหาต้นเสียงอย่างงงๆ

      นั่นเสียงใครกัน ฮันกยองถาม

      ข้าไง... เทพเจ้าแห่งสวรรค์ น่าอิจฉานัก ความรักของพวกเจ้ามันทำให้ข้าอยากลงไปเกิดบนโลกมนุษย์บ้างจัง ฮ่าๆๆๆๆ 

      เทพเจ้าแห่งสวรรค์ดูอารมณ์ดีจังเนอะ ฮีชอลพงกหน้าถามความเห็นของฮันกยอง

      ติ๊งต๊องซิไม่ว่า จริงซิเจ้าหญิงยังไม่เจอหน้าเทพเจ้าแห่งสวรรค์ใช่ไหม จะบอกว่าหน้าเหมือนคังอินมาก

      เลิกนินทาข้าได้แล้ว มนุษย์โลกผู้โหยหาในตัณหาเยี่ยงพวกเจ้าคงไม่รู้อิทธิฤทธิ์ของข้าซินะ ยังไม่ปรากฏร่างของคนพูดแต่อย่างใด มีแต่เสียงที่สะท้อนก้องทั่วบริเวณ

      เทพเจ้าแห่งสวรรค์ เหตุใดท่านถึงมาที่นี้ เทวดาร่างท้วมนามว่าไชยยาเทพที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยถาม

      ข้าสมเพชคู่รักคู่นี้ยิ่งนัก แต่ข้าก็อยากให้พวกเขาสมหวังอีกครั้งและมีความสุขด้วยกันอีกหน่อย ตอนข้าเขียนชะตาลิขิตของพวกเขาคงลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ฮ่าๆๆๆๆ พูดจบก็หัวเราะร่าอีกรอบ ...สมกับที่ฮันกยองว่าติ๊งต๊องจริงๆ ...เทพเจ้าแห่งสวรรค์

      ท่านหมายความว่าอย่างไร? ไชยยาเทพเลิกคิ้วสูงถาม

      ด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งสววรค์ภูมิ ข้าขอลิขิตชีวิตของวิญญาณสองดวงนี้ ...คิมฮีชอลและฮันกยอง เจ้าจงลงไปเกิดยังโลกมนุษย์และได้พบกันอีกครั้ง จงครองคู่รักกันให้สมใจอยาก ระบายตัณหาให้สมใจหมาย ฮ่าๆๆๆๆๆ

      นี่หมายความว่า…” ฮีชอลกับฮันกยองมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มแห่งความสมหวัง ...พวกเขาโชคดีนัก

      และเจ้า ไชยยาเทพ ....ข้ามาคิดๆดูแล้ว เจ้าก็ได้ทำหน้าที่รับใช้สวรรค์มาอย่างมานะ โอกาสนี้ข้าจะให้เจ้าลงไปเกิดพร้อมกับมนุษย์สองคนนี้ซะทีเดียวเลย มันคงน่าระทึกดี เจ้าจงเป็นคู่อริหัวใจของฮันกยอง พอเข้าใจไหม? เจ้าจงมอบความรักให้กับฮีชอลอย่างมั่นคงและจริงใจ  ณ ตอนนั้นข้าจะลิขิตอีกทีเองว่า จะให้ฮีชอลเลือกใคร ฮ่าๆๆๆๆ

      นี่ท่านสนุกนักรึไงฮะ ฮันกยองเริ่มไม่ดีใจแล้ว อะไรกัน...เขาจะต้องมีคู่อริหัวใจงั้นรึ นี่เล่นบอกอนาคตล่วงหน้าแบบนี้ แถมยังไม่รู้จุดจบ เขาเองก็กลัวที่จะสูญเสียเจ้าหญิงของเขาไปขึ้นมาทันใด

      อย่าพูดพร่ำทำเพลงนักเลยทุกคน โอม ...เพี้ยง!!!”

      สิ้นสุดเสียงของเทพแห่งสวรรค์ร่างของฮันกยอง ฮีชอล และไชยยาเทพก็ปลิวว่อนมุ่งหน้าลงสู่โลกมนุษย์ พายุที่หอบทั้งสามคนอยู่นี้ จะทำตามชะตาลิขิตวาจาลั่นของเทพเจ้าแห่งสวรรค์แน่นอน



      และนี้คือ ตำนานรักฉบับน้ำเน่า ยิ่งกว่าลิเกคณะไหนๆซะอีกซิเนี่ย

       

      >>>>>>>>> Andaman Love Story <<<<<<<<<<

       

      ค.ศ.2009

      เจ้าหญิงครับ ฮันกยองมาแล้ว เอ๋ ฮันกยองเดินเข้ามาในบ้านของฮีชอลอย่างคุ้นเคยหลังจากที่เขาติดงานหลายวันและยุ่งอยู่นานจนไม่ค่อยมีเวลามาหาแฟนหนุ่มบ่อยเหมือนเมื่อก่อน

      ฮันกยอง... ฮีชอลในร่างกายที่เปลือยเปล่าท่อนบนมองหน้าของฮันกยองด้วยความวิตก สายตาของเธอหวาดระแวงขึ้นมาทันใด

      มีอะไรเหรอราชินี ซีวอนเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับหันหน้ามาสบตากับฮันกยองอย่างท้าทาย
       
      แฟนเก่านี่เอง นี่ราชินีของผมยังไม่บอกเลิกไปอีกเหรอ ซีวอนพูดเหน็บแนม

      นี่หมายความว่ายังไงเจ้าหญิง

      คือ ... ฮีชอลอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น เธอคิดคำพูดที่จะอธิบายหรือแก้ตัวไม่ออก มันช่างเหมือนมีใครกดปุ่ม Pause ความคิดและสติของเธอไว้ รอเพียงการสั่งการของใครบางคนเธอก็คงจะพูดออกมาได้ ตัดสินใจออกมาได้

       

      >>>>>>>>> Andaman Love Story <<<<<<<<<<

       

      สวรรค์...

      เทพเจ้าแห่งสวรรค์นั่งลูบเคราที่ยาวเฟื้อยของตัวเองอย่างอารมณ์ดี เขาดูสนุกสนานกับการลิขิตชีวิตของมนุษย์โลก และสิ่งที่เขาได้สรรสร้างไว้ก็ได้ดำเนินมาถึงตอนสำคัญและรอการดำเนินต่อไปแล้ว

      จะให้ฮีชอลตัดสินใจเลือกใครดี

      ...ฮันกยอง

      ...ซีวอน

       

       

      แล้วคุณล่ะ คิดว่าไงอยากให้ซินเดอเรลล่าของเราได้ครองชีวิตรักกับใครจ๊ะ คิกๆ

       

      >>>>>>>>> Andaman Love Story <<<<<<<<<<

       

      จบ(ไม่)บริบูรณ์

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×