ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ˋ( exo ) THE ROOMMATE ♡ - CHANBAEK -

    ลำดับตอนที่ #20 : THE ROOMMATE - 19

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.17K
      5
      30 มี.ค. 58

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงโหวกเหวกโวยวายดังระงมไปทั่วทั้งชั้น คยองซูปรายตาไปมองที่กลุ่มของนักศึกษากลุ่มเจ้าของเสียงอย่างเบื่อหน่าย ก่อนที่แบคฮยอนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่ายเช่นกัน

    ทำไมไร้มารยาทกันขนาดนี้นะ

    ขนาดในห้องสมุดนะ นี่ถ้าเป็นที่อื่นคงหนักกว่านี้แน่คยองซูปิดหนังสือตรงหน้าลง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังบรรณารักษ์ที่กำลังงุ่นอยู่กับการจิ้มโทรศัพท์มือถือโดยที่ไม่ได้สนใจบรรยากาศในขณะนี้เลย

    แบคฮยอนมองตามคยองซูแล้วปรือตาขึ้นพร้อมกับขำเล็กน้อย

    โชคดีนะพี่บรรณารักษ์

    วันนี้แบคฮยอน คยองซูและจงอินพากันมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดต้อนรับการสอบปลายภาคที่กำลังจะมาถึง แต่เอาจริง ๆ แล้วก็คงจะมีแค่แบคฮยอนและคยองซูที่มาอ่านจริง ๆ ส่วนจงอินก็ยังคงอยู่ในห้วงนิทราตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ แม้ขณะนี้ในห้องสมุดจะเสียงดังขนาดไหนก็ตาม

     

     

     

     

    ไม่เหนื่อยบ้างรึไง

    ไม่เลย กำลังใจยังเยอะอยู่

    ฉันหมายถึงที่นายรีบเดินแบบนี้น่ะ นายไม่เหนื่อยแต่ฉันเหนื่อยนะอี้ชิงพูดค้อนเพื่อนสนิทขึ้น ก่อนจะหยุดเดินแล้วคว้าแขนคนตัวสูงเอาไว้

    โถ่ แค่นี้เหนื่อยแล้วหรอ เราเพิ่งเดินกันแปปเดียวเองนะชานยอลหันมาพูดด้วยน้ำเสียงงอแง

    อ่อครับ เดินข้ามคณะมาเป็นโลนี่ไม่เหนื่อยเลยครับอี้ชิงพูดพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยแขนชานยอลแล้วเดินนำหน้าไป แล้วนี่แต่ละวันนายรู้ได้ยังไงอ่ะว่าแบคฮยอนไปไหนบ้าง

    มีญาณวิเศษ

    เอาดี ๆ ดิ

    ก็จริง ๆ เนี่ย ที่ที่แบคฮยอนจะไปมีไม่กี่ที่ในมหาลัยหรอก แล้วที่ไปหาแต่ละทีมันก็ดันเจอทุกที แบบนี้อ่ะ นายว่ามันวิเศษป่ะล่ะ

    อี้ชิงไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่หันหน้ามาแล้วพยักหน้าน้อย ๆ เหมือนจะพยายามเข้าใจ

    ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งคู่ก็อยู่ในหอสมุดเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะช่วยกันเดินวนทุกชั้นเพื่อหาตัวแบคฮยอน

    เห้ย นั่นไงอี้ชิงชี้ไปยังกลุ่มของแบคฮยอน ก่อนที่ชานยอลจะมองตามแล้วรีบตรงปรี่เข้าไปทันที

    ทางด้านแบคฮยอนที่นั่งหันหน้ามาทางชานยอลพอดี เมื่อเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ได้สนใจอะไร

    หวัดดีคยองซูชานยอลเข้าไปนั่งข้าง ๆ แบคฮยอนพร้อมกับเอ่ยทักทายคยองซูขึ้น

    ส่วนจงอินเมื่อได้ยินเสียงอดีตคู่ปรับก็ตื่นขึ้นก่อนจะมองหน้าชานยอลด้วยความรำคาญเล็กน้อย

    มาทำอะไรทุกวัน ไม่เห็นรอมีแต่คนรำคาญ

    คยองซูหันไปทำหนาดุใส่จงอิน ในขณะอี้ชิงที่เดินตามหลังชานยอลมามาถึงโต๊ะของทุกคนพอดี

    อี้ชิงก็มาด้วยหรอคยองซูถามขึ้น

    โดนลากให้มาน่ะสิ ฉันน่ะเบื่อชานยอลมากกว่าพวกนายอีกอี้ชิงพูดพร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ ก่อนจะหันไปยิ้มให้จงอินกับแบคฮยอน

    คราวหลังนายก็ไม่ต้องไปตามใจชานยอลหรอก รั้ง ๆ เอาไว้แล้วพากันไปหาอะไรที่ดีกว่ามาตามฉันเถอะประโยคหลังแบคฮยอนพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางชานยอล

    แบคฮยอนอ่า…” ชานยอลพูดด้วยสีหน้าที่น้อยใจ พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ คนตัวเล็ก จนผู้ถูกจู่โจมต้องเบือนหน้านี้ก่อนจะลุกเดินหนีไป

    ปัญญาอ่อนฉิบ…” จงอินพูดพร้อมกับส่ายหัว

    นายก็ทำแบบนั้นออกจะบ่อย ไม่รู้ตัวรึไงคยองซูพูดค้อนจงอินด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้จงอินขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ ก่อนจะก้มลงหมอบเพื่อนอนต่อ

    อี้ชิงมองจงอินแล้วได้แต่ขำออกมา ก่อนที่จะหันไปชวนคยองซูคุย แล้วนายไม่เบื่อชานยอลบ้างหรอ

    ไม่อ่ะ ฉันเบื่อแบคฮยอนมากกว่า

    ทำไมล่ะ

    ไม่รู้สิเอ่อ งั้นเอาเป็นว่าเบื่อทั้งคู่ละกัน ฉันว่าชานยอลรุกผิดวิธี ส่วนแบคฮยอนก็เอาแต่หนี มันดูเหมือนพ่อแม่แง่แม่งอนในละครยังไงไม่รู้

    นั่นสินะอี้ชิงพูดพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะชวนกันคุยเรื่องจิปาถะหลาย ๆ เรื่องแทน

    ดูเหมือนว่าตอนนี้อี้ชิงได้กลายเป็นเพื่อนกับคยองซูจงอินไปแล้ว สาเหตุก็หนีไม่พ้นชานยอลที่ชอบมายุ่มย่ามกับแบคฮยอนแทบจะทุกวัน จึงทำให้ทั้งสามได้ได้มีโอกาสพูดคุยกันและได้รู้ถึงสาเหตุของปัญหาระหว่างชานยอลกับแบคฮยอน ถึงแม้จะไม่ได้ละเอียดนักก็ตาม

     

     

     

     

    แบคฮยอน แบคฮยอน!”

    แบคฮยอนหันขวับมาด้วยความรำคาญเมื่อรูมเมทเจ้าปัญหาได้เรียกเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ

    จะเดินไปไหนกัน ชั้นหนังสือชั้นนี้ก็มีอยู่แค่นี้เอง

    แล้วนายอ่ะมีอะไร ฉันเบื่อจริง ๆ แล้วนะ เบื่อจริง ๆ แบบเบื่อไม่ไหวแล้วอ่ะ

    ชานยอลค่อย ๆ หุบยิ้มลง ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ “…ฉันขอโทษ

    แบคฮยอนเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นแล้วมองชานยอลและไม่ได้ตอบอะไรกลับ ก่อนที่ชานยอลจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองหน้ากลับไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน

    ขอร้องเถอะชานยอล ถ้านายไม่มีธุระจริง ๆ นายอย่ามาตามฉันเลย ให้เราเป็นแค่รูมเมทธรรมดา ๆ เหมือนคนอื่นเข้าเถอะ ตอนนี้คนเขาใจผิดไปหมดแล้ว

    หลังจากที่คนตัวเล็กพูดจบ ชานยอลก็ได้แต่จ้องตาอีกฝ่ายอย่างเขม็ง ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้าไปประชิดจนแบคฮยอนต้องถอยร่นจนหลังไปชนกับชั้นวางหนังสือ

    “…แต่วันนี้ฉันมีธุระ

    แบคฮยอนถอนหายใจแกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่จะผลักชานยอลให้ออกห่างจากตัวเองเล็กน้อย มีอะไรว่ามา

    วันนี้ไปงานวันเกิดพี่จงซูกันไหม เห็นว่าจะมีปาร์ตี้กันยิ่งใหญ่เลยนะ

    แบคฮยอนมองหน้าชานยอลอย่างบึ้งตึงและไม่เข้าใจ

    นายจำพี่จงซูไม่ได้หรอก ไม่ได้ไปร้านแค่สองเดือนกว่า ๆ นี่ลืมคนในนั้นหมดแล้วหรือยังไง

    แบคฮยอนถอนหายใจ

    ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ

    พี่จงซูเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ในร้านที่แบคฮยอนทำงานอยู่และมีหน้าที่เป็นหัวหน้าพนักงาน แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่ค่อยชอบและไม่ยอมเข้าไปเยี่ยมร้านเป็นเวลาสองเดือนเต็ม ๆ ก็มีสาเหตุมาจากชานยอลนั่นแหละ 

    แล้วนายล่ะ ไปร้านฉันบ่อย ๆ แบบนี้สนิทกับทุกคนรึยัง

    ร้านนายหรอ ได้ข่าวว่าไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้วหนิ

    แบคฮยอนจิ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อได้ยินคำพูดที่มาพร้อมกับสีหน้าชวนโมโหของรูมเมทตัวสูง ก่อนจะหันหน้าหนีอีกครั้งแล้วเดินนำไปทางอื่น

    นายอยากไปก็ไปเถอะ ฉันจะอ่านหนังสือ

    แต่ก่อนต่อให้นายไม่ว่างแค่ไหนก็หาทางไปจนได้ไม่ใช่หรอ

    แบคฮยอนหันหลังมามองหน้าชานยอล

    ฉัน ไม่ ไป

    คำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำของแบคฮยอนทำให้ชานยอลต้องถอนหายใจออกมาเหมือนจะปลง

    ช่วยไม่ได้นี่เนอะ ไม่ไปก็เรื่องของนายแล้วกันพูดจบแล้วร่างสูงก็เดินผ่านตัวแบคฮยอนไปเลยที่ไม่ได้ตื๊ออะไรต่ออีก ทำให้เจ้าตัวต้องมองตามหลังด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

    แต่หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ชานยอลก็หันหน้ากลับมา

    บางทีการไปนั่งฟังคนในร้านคนพูดถึงเรื่องนายมันคงสนุกกว่ามาเดินตามนายแล้วให้นายอารมณ์เสียใส่แบบนี้ ใช่แน่ ๆ แบบนี้แหละฉันว่ามันคงดีกว่า

    ร่างสูงหันกลับไปแล้วเดินออกจากบริเวณนั้นทันที

    แบคฮยอนถอนลมหายใจหนัก ๆ ออกมาอีกครั้ง

    ไม่รู้ว่าตอนนี้จะโกรธพี่ในร้านที่ยอมเหล่าทุกอย่างของเจ้าตัวให้กับชานยอลฟังหรือจะน้อยใจที่ตอนนี้คนเหล่านั้นดูเหมือนจะสนิทกับชานยอลมากกว่าตัวเองดี

    ไอ้บ้าชานยอล…”

     

     

     

     

    เดี๋ยวนี้แกติดโทรศัพท์จัง

    เซฮุนละสายตาจากโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะทำหน้าเหรอหราแล้วพูดติดตลกกับพี่ชาย

    สาวเยอะไง ดูเบ้าน้องชายด้วย

    คริสเลิกคิ้วขึ้นเหมือนจะไม่เชื่อน้องชาย ก่อนจะหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แขนสุดหรูเพื่อรอคำตอบของน้องชายอีกครั้ง

    “…ช่วงนี้แบคฮยอนมีปัญหานิดหน่อยน่ะ ผมเลยกลายเป็นที่ปรึกษาที่ทำงานหนักกว่าเดิม

    คริสวางแก้วในมือลง แบคฮยอน?

    พี่จำแบคฮยอนไม่ได้หรอ

    คริสขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกออก ไอ้เด็กอ้วนคนนั้นน่ะนะ?

    ใช่แล้วพี่! แต่ตอนนี้แบคฮยอนไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้วนะ หน้าดีขึ้นเยอะ

    เรื่องของแบคฮยอนเถอะ

    เซฮุนยักไหล่ ก่อนจะชวนพี่ชายทานอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง

    วันนี้คริสกับเซฮุนได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านด้วยกันสองคนในรอบหลายเดือน แต่ตั้งแต่ไปรับจากหอมาเซฮุนก็เอาแต่จดจ่ออยู่กับสมาร์ทโฟนโดยที่ไม่ได้ค่อยสนใจพี่ชายสักเท่าไหร่ ทำให้คริสต้องเอ่ยปากขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นเซฮุนเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ มานี้

    ตอนนี้พี่ได้คบใครอยู่รึเปล่าเซฮุนได้เริ่มบทสนทนาอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่ได้วางช้อนลงหลังจากกินอะไรอิ่มแล้ว

    ถามทำไม

    ก็อยากรู้

    แล้วแกน่ะคบใครอยู่รึเปล่า

    ไม่มีหรอก

    เห็นช่วงนี่ติดโทรศัพท์

    ก็ผมคุยกับแบคฮยอนไงพี่

    คุยกันเรื่องอะไร ทำไมดีใจขนาดนั้นตอนที่มีข้อความขึ้น

    เซฮุนมองหน้าพี่ชาย ก่อนจะพะงึมพะงำเพราะไม่รู้จะตอบอะไร ก็…”

    แล้วแบคฮยอนนี่มีเรื่องทุกข์ใจมากขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมบางทีต้องทำหน้ากังวลขนาดนั้น

    นี่พี่สังเกตผมขนาดนั้นเลยหรอ?

    คริสหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยิบทิชชู่ที่วางไว้ข้าง ๆ จานแล้วปาใส่น้องชายไม่แรงนัก สังเกตอะไร แกนั่นแหละที่เปลี่ยนไปเยอะ เปลี่ยนจนใครเขาก็รู้สึกได้เองกันหมดแล้ว

    เซฮุนยกมือขึ้นมาลูบหัวตัวเอง เพราะไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร

    แกกลัวที่จะบอกฉันหรอกว่ามีแฟน

    ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่มันยังไม่ถึงเวลา

    คริสหัวเราะออกมาอีกครั้ง

    ไม่ถึงเวลางั้นหรอ ตลกสิ้นดี

    มันน่าขำตรงไหนนี่เฮีย ผมเขินบ้างไม่ได้รึไงเซฮุนยู่ปากพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้พี่ยิ่งขำหนักมากกว่าเดิม

    มันก็ขำตรงที่แกเขินนี่แหละ

    เซฮุนไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับ เพียงแต่หยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มแล้วเบนหน้าไปทิศทางอื่นเพื่อมองบรรยากาศรอบ ๆ ร้าน

    ถ้าฉันอยากจะรู้จริง ๆ ฉันจะส่งคนไปสืบ แบบนี้มันคงง่ายกว่ามานั่งเค้นแกตั้งเยอะ

    เซฮุนหันกลับมามองพีชายอีกครั้งด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก

    ฉันล้อเล่นคริสพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาน้อย ๆ ทำให้เซฮุนถอนหายใจอย่างโล่งอก

    เรื่องของผมมันไม่มีอะไรน่าอยากรู้หรอก พี่ไม่ต้องเสียเวลาหรอก

    พูดจบเซฮุนก็เบี่ยงประเด็นโดยการชวนพี่ชายคุยเรื่องอื่น โดยที่ไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมนี้ยิ่งทำให้คริสแปลกใจและอยากจะรู้เรื่องราวของตัวเองมากขึ้นไปอีก

     

     

     

     

    เวลาห้าทุ่มเศษ ๆ แบคฮยอนนั่งหมุนปากเล่นอย่างไร้จุดหมายหลังจากที่อ่านหนังสือเสร็จ คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกเสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมงานวันเกิดพี่ชายคนสนิท มือเรียววางปากกาลง ก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนที่มีรูปวอลเปเปอร์เป็นรูปของตัวเองคู่กับพี่สาวคนสวยขึ้นมาปลดล็อคหน้าจอแล้วกดเข้าไปในแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ค

    แบคฮยอนเลื่อนหน้าจอลงไปเรื่อย ๆ และได้ไปหยุดที่รูปงานปาร์ตี้งานเดียวกันที่วันนี้เขาไม่ได้ไปร่วมจากการโพสต์ของพี่อีกคนหนึ่ง

    โทรศัพท์ถูกวางลง

    ใบหน้าของชานยอลที่ปรากฏอยู่ในภาพนั้นดูเหมือนจะมีความสุขมากเลยทีเดียว ทำเอาแบคฮยอนเกิดอาการนอยด์ขึ้นมาด้วยสาเหตุที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่สามารถจะอธิบายได้

    เขาพยายามสลัดความคิดนี้ทิ้งด้วยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลง ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อแปรงฟันเข้านอน แต่ยังไม่ทันจะหยิบแปรงสีฟันขึ้นมาเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

    แบคฮยอนเดินออกมาเปิดประตู ก่อนจะพบกับรูมเมทตัวสูงที่ยืนอยู่หน้าห้อง กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ บ่งบอกว่าเจ้าตัวเพิ่งดื่มมา

    ชานยอลเดินผ่านแบคฮยอนไป ก่อนจะยกมือขึ้นมาบีบขมับตัวเองแล้วทิ้งตัวลงที่นอน

    แบคฮยอนมองตามรูมเมทตัวเองแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก คนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ แต่เมื่อเดินออกมาแล้วก็พบว่าชานยอนยังคงบีบหัวตัวเองแล้วนอนขดอย่างน่าเป็นห่วง

    เสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือถูกปิดลง

    ชานยอล

    ชานยอลพลิกตัวมาตามเสียงเรียก แล้วมองหน้าเหมือนรอคำถามจากแบคฮยอนโดยที่ไม่ได้พูดตอบอะไร

    เป็นอะไร

    ฉันปวดหัวพูดจบแล้วร่างสูงก็หลับตาลง

    ทำไมไม่ไปอาบน้ำ มันอาจจะเบาหัวลงก็ได้แบคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุเล็กน้อย ก่อนที่ชานยอลจะตอบกลับมาอีกครั้งและก็ยังคงหลับตาอยู่

    ถ้าลุกตอนนี้มันจะปวดหัวแล้วก็หนักหัวมาก ขอลองงีบสักแปปหน่อยละกัน

    แบคฮยอนเออออแล้วไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ร่างบางนอนลงบนเตียงของตัวเองก่อนจะหยิบหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่านเพื่อรอเวลาเข้านอน

    ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรที่ชานยอลเมินเฉยกับแบคฮยอน หรือที่แบคฮยอนเป็นฝ่ายที่ชวนชานยอลพูดคุยก่อน ชานยอลมักจะมีอาการแบบนี้เสมอเมื่อเหนื่อยหรือเครียดอะไรมามาก ๆ ส่วนแบคฮยอนเองก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำจนถึงขนาดไม่ถามสารทุกข์สุขดิบกับรูมเมทเมื่อมีอาการไม่ค่อยดีมาเห็น ส่วนใหญ่เรื่องที่ทำให้แบคฮยอนต้องคอยเดินหนีและรำคาญเป็นประจำก็คงจะเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าพิศวาสของชานยอลเท่านั้น

    ก็เห็นอยู่ว่าถ้าเลิกงี่เง่าตื๊อฉันเมื่อไหร่ฉันก็จะไม่รำคาญหรือหนีนาย ทำไมไม่ทำนะชานยอล?

    เวลาเกือบจะเที่ยงคืน แบคฮยอนปิดหนังสือการ์ตูนแล้ววางไว้ข้างเตียงเหมือนเดิม ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟบนโต๊ะของตัวเองที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อที่จะนอนหลับ

    ร่างเล็กปิดเปลือกตาลง แต่ยังไม่ทันที่จะเคลิ้มหลับ เจ้าตัวก็รู้สึกได้ว่ารูมเมทตัวสูงได้พลิกตัวไปมาโดยไม่มีท่าทีจะหยุดร่วมหลายนาที ก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวลงมาจากเตียงแล้วนั่งลงกับพื้น

    แบคฮยอนลุกขึ้น มือเอื้อมไปเปิดไฟอีกครั้ง ก่อนที่จะหันไปเห็นร่างสูงจากข้างเตียงอีกฝั่งนั่งพะอืดพะอมอยู่กับพื้น

    แบคฮยอนไม่รอช้าที่จะลุกเข้าไปดูอาการของชานยอลใกล้ ๆ

    ไหวไหมร่างเล็กพูดพร้อมกับนั่งลงไปแตะหลังชานยอลเบา ๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะส่ายหน้าแล้วโก่งคอเหมือนจะอ้วก

    แบคฮยอนมองดูอาการของรูมเมทด้วยความตื่นตระหนก จนแทบไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้อาเจียนออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มือเรียวค่อย ๆ ลูบไปที่แผ่นหลังกว้างตามสัญชาตญาณ จนกระทั่งคนตัวสูงได้หยุดแล้วพิงหลังลงขอบเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน

    ขวดน้ำใกล้ ๆ ถูกขว้ามาโดยมือของแบคฮยอนก่อนจะส่งให้ชานยอลดื่มเพราะคิดอะไรไม่ค่อยออก

    ชานยอลกระดกน้ำเข้าไปเล็กน้อยแล้ววางลง ก่อนที่จะทำท่าจะอ้วกขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็อ้วกจริง ๆ

    กว่าสิบนาทีที่แบคฮยอนต้องคอยลุ้นกับอาการคลื่นไส้ของรูมเมท และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นอีก ชานอลถูกให้ไปอาบน้ำเพราะกลิ่นอ้วก แต่จนแล้วจนรอดเจ้าตัวก็ไม่ยอม แบคฮยอนจึงยอมผ่อนปรนให้แค่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็พอ จึงทำให้ร่างสูงยอมลุกถึงแม้ค่อนข้างจะอืดอาดอยู่มาก

    คนตัวเล็กมองร่องรอยอารายธรรมที่รูมเมทตัวดีทิ้งไว้ ก่อนจะตัดสินใจหันไปสั่งให้อีกคนรีบมาจัดการให้หมด แต่หลังจากหันไปแล้วเจอกับสภาพที่ยังไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก แบคฮยอนก็ได้แต่ถอนหายหายแล้วกลั้นใจไปขนถังน้ำกับไม้ถูพื้นมาจัดการเอง

    ชานยอลมองแบคฮยอนด้วยความอึ้งปนกับตกใจ

    แบคฮยอน ให้ฉันทำเองก็ได้คนตัวสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจปน ๆ กับเสียงสั่น ๆ เพราะอาการไม่ค่อยดีของตัวเองเล็กน้อย

    จะทำเมื่อไหร่ละแบคฮยอนหันมามองค้อน

    หลังจากงีบแปปนึง

    รอจนป่านนั้นฉันคงได้อ้วกตามนายพอดี กลิ่นหึ่งซะขนาดนี้ว่าแล้วก็หันกลับไปเช็ดถูต่อ

    ชานยอลเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ แบบไม่รู้จะช่วยยังไง แบคฮยอนจึงหันกลับมาเอ็ดอีกครั้งแล้วไล่ให้ไปนอนพักที่เตียงของตัวเอง เพราะตอนนี้สภาพรอบเตียงชานยอลไม่มีที่ว่างและไม่สมควรจะเดินลุยเข้าไปเลย

    นายมียาดมไหม

    อยู่ในลิ้นชักที่โต๊ะอ่ะ เปิดเอาเลย

    ชานยอลเปิดลิ้นชักตามที่อีกคนบอก ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงหลังจากที่ได้หาเจอแล้ว

    เออ ยาแก้อ้วกก็อยู่ในนั้นน่ะ กินซะสิ

    ชานยอลเด้งตัวขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มคุ้ยหายาตามที่แบคฮยอนบอก

    ทำไมนายถึงมีพร้อมจัง

    อะไรที่คิดว่าคงได้ใช้ก็ซื้อ ๆ มาแค่นั้นคนตัวเล็กตอบพร้อมกับยกถังน้ำเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปลี่ยนน้ำใหม่

    ชานยอลมองการกระทำของรูมเมทพร้อมกับยิ้มออกมาน้อย ๆ

    ทำไมใจดีกับฉันแบบนี้ล่ะ

    ไม่ใจดีคืนนี้ฉันคงนอนไม่ได้หรอกแบคฮยอนตอบพร้อมกับทำหน้ามุ่ยเพราะความเซ็ง

    ในขณะที่ชานยอลที่หลังจากกินยาแล้วก็ได้แต่นอนยิ้มแล้วมองดูแบคฮยอนอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งแบคฮยอนจัดการทุกอย่างเสร็จ

    อีกสักพักพื้นคงแห้ง พอแห้งแล้วนายก็กลับไปเตียงตัวเองได้ละ ฉันว่าจะไปอาบน้ำใหม่ก่อน

    พูดจบแบคฮยอนก็เตรียมจะยกอุปกรณ์ทั้งหมดขึ้น ก่อนที่ชานยอลจะพูดรั้งเอาไว้ซะก่อน

    เดี๋ยวก่อนแบคฮยอน

    มีอะไร

    มาคุยกันก่อนได้ไหม ฉันง่วงแล้ว กลัวจะหลับก่อนนายออกมา

    ง่วงก็นอนไปสิ ไว้คุยวันหลังก็ได้คนตัวเล็กไม่ได้รอฟังคำตอบของอีกคน แล้วเตรียมยกทุกอย่างขึ้นอีกครั้ง จนชานยอลต้องลุกขึ้นมาแล้วรั้งไว้อีกรอบ

    ฉันรู้จักผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ!”

    แบคฮยอนหันมาขมวดคิ้วใส่เพราะไม่เข้าใจคำพูดของอีกคน

    พี่กาอินไง พี่ที่นายไม่ยอมตอบฉันว่าเป็นใคร

    แล้วไง?

    แค่อยากบอก เพื่อวันหลังนายจะแปลกใจที่ฉันจะไม่ได้ถามเรื่องนี้อีก

    นี่ ฉันไม่ได้สนใจเรื่องของนายขนาดนั้นหรอกนะ

    พี่เขาน่ารักดีน…”

    มีอะไรอีกไหมแบคฮยอนรีบพูดตัดบทรูมเมทตัวสูงเพราะขี้เกียจจะฟังเรื่องไร้สาระอีก

    ชานยอลยักไหล่ มีแต่คนถามถึงนาย

    แล้วนายตอบไปว่าไง

    นายขี้เกียจมา

    แบคฮยอนอ้าปากหวอขึ้น ก่อนจะวางของในมือลงแล้วก็เดินไปหาชานยอลพร้อมกับทำท่าจะตี

    เฮ้ย ๆ ฉันล้อเล่นพูดแล้วก็หัวเราะคิก ๆ

    เอาดี ๆ สิวะ กวนประสาทฉันนี่สนุกมากรึไง

    ใช่

    ครั้งนี้แบคฮยอนฟาดลงที่หลังชานยอลจริง ๆ แบบไม่ยอมฟังอะไรต่อ ก่อนที่ชานยอลจะยกมือขึ้นสู้จนคนตัวเล็กยอมสงบ

    ฉันไม่สบายอยู่นะ นี่ยังจะใจร้ายมาตีกันอีกหรอ

    ปากดีอย่างนี้คงหายแล้วมั้ง

    ชานยอลเบ้ปาก ก็ตอบตามความจริงนี่แหละ พี่เขาเลยให้ฉันกรอกเหล้าแทนนายที่ไม่ได้ไปเลยไง

    แล้วนายก็ยอมงี้นี่หรอ?แบคฮยอนค้ำเอวถาม

    ก็แค่นิดเดียว

    กลับมาก็เลยกลายมาเป็นภาระให้ฉันอย่างนี้สินะ

    มันไม่ใช่เพราะเหล้าทั้งหมดซะหน่อย ก่อนไปฉันเวียนหัวนิดหน่อยอยู่แล้ว

    แล้วก็ยังจะกินแบคฮยอนมองหน้าชานยอลอย่างเอาเรื่อง ในขณะที่ชานยอลเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรไปและได้แค่ทำหน้าสำนึกผิดอยู่อย่างนั้น

    ถ้ามาสภาพนี้อีกนะฉันจะไล่นายไปนอนนอกห้อง

    ใจร้าย…”

    แบคฮยอนยิ้มแหย ๆ ให้เป็นคำตอบ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าดุอีกครั้ง

    ฉันไปได้รึยัง?

    ชานยอลพยักหน้า ก่อนจะมองตามหลังรูมเมทตัวเล็กที่กำลังถือของพะรุงพะรังออกไปนอกระเบียง

    รอยยิ้มแห่งความสุขกลับมาอีกครั้ง

    ชานยอลนอนลงที่เดิม

    ถึงแม้ว่าแบคฮยอนจะโกรธหรือรำคาญอะไรชานยอลมากแค่ไหน แต่ถ้ามีเรื่องอะไรมาความห่วงใยในสายตาแบคฮยอนก็ไม่เคยเปลี่ยน

    ชานยอลนั่งอยู่กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะคิดได้ว่าบางทีสิ่งทำให้แบคฮยอนคอยหนีอาจจะไม่ใช่ด้วยเหตุผลเพราะว่าเขาคือชานยอล ชานยอลคนที่เคยทำให้แบคฮยอนเสียใจ แต่คงจะเป็นเพราะความน่ารำคาญและการตามติดที่มากเกินไปของตัวเอง เพราะก่อนหน้านั้นที่คนตัวเล็กมีความรู้สึกดี ๆ ให้ตนเอง ก็ไม่ใช่เพราะเหตุผลที่เขาพยายามจะเข้าหาหรือเอาใจใส่มากขนาดนี้

    ชานยอลยิ้มให้กับตัวเอง

    ต่อไปนี้อาจจะคิดถึงมากขึ้น แต่งจะทำให้เหนื่อยน้อยลงแล้วก็คงไม่ทำให้นายรำคาญแล้ว

    ร่างสูงหลับตาลง ก่อนจะหลับใหลไปอย่างง่ายดายด้วยความง่วง

    01.24

    หลังจากออกจากห้องน้ำ แบคฮยอนมองเข็มนาฬิกาแล้วได้แต่ถอนหายใจ

    ถึงแม้พรุ่งนี้แบคฮยอนจะเรียนตอนบ่าย แต่เจ้าตัวก็อยากนอนเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้รีบตอนเช้าแล้วใช้เวลาว่างให้คุ้มที่สุดในตอนใกล้สอบ แต่ในเมื่อเรื่องวันนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัย ร่างเล็กเลยไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงแต่นึกเสียดายเวลานอนเล็กน้อยเพียงเท่านั้น

    ร่างเหยียดยาวของชานยอลนอนหลับตาพริ้มเหมือนคนที่กำลังหลับลึก แบคฮยอนเข้าไปมองดูใกล้ ๆ แล้วได้แต่คิดว่าจะปลุกดีไหม แล้วสุดท้ายก็ไม่ปลุก เพราะอยากให้อีกคนพักเต็มที่ และกลัวว่าถ้าเกิดตื่นขึ้นมาคนตัวสูงอาจจะพูดโน่นพูดนี่ไม่หยุดอีก

    ดวงตาคมมองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วก็พบว่าไม่มีที่ไหนที่เขาจะสามารถนอนได้เลยนอกจากพื้นและก็เตียงของชานยอล

    ร่างเล็กตัดสินใจเดินไปนั่งลงที่เตียงอีกฝั่ง

    อย่างน้อยนอนตรงนี้ก็คงดีกว่าไปดึงดันนอนเตียงตัวเองหรือนอนพื้น

    แบคฮยอนจัดการพลิกหมอนเพราะไม่อยากใช้หน้าหนุนลงด้านเดียวกับชานยอล แต่ในจังหวะที่กำลังยกหมอนขึ้นก็ได้เหลือบไปเห็นสมุดบันทึกที่ถูกวางไว้ใต้หมอน

    แบคฮยอนเพ่งมองดู แล้วก็พบว่ามีรูปถ่ายรูปหนึ่งที่ยื่นออกมาจากในสมุดเล่มนั้น

    หมอนถูกวางลงอีกด้านหนึ่ง และไม่รู้ว่าอะไรที่ดลใจให้แบคฮยอนถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดู

    สมูกบันทึกถูกเปิดขึ้น แล้วก็พบว่าในสมุดเล่มนี้ไม่ได้มีการคิดเขียนอะไรเลยแทบทุกหน้า แต่กลับไปที่ใช้เก็บรูปที่ถ่ายโดยชานยอล รูปของลู่หาน

    รูปทั้งหมดนี้ถ่ายจากกล้องโพลาลอยด์ และเขาเองก็เคยเห็นชานยอลเอาขึ้นมาจับเล่นอยู่บ่อยครั้ง

    แบคฮยอนหยิบขึ้นมาดูทีละรูป แล้วจู่ ๆ หัวใจก็เกิดเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

    ลมหายใจถูกพรูออกมา ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะไม่เข้าใจตัวเองหรือไม่เข้าใจชานยอลดี

    ชานยอลยังไม่ได้เลิกรู้สึกอะไรกับลู่หานหรอ?

    แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกไม่ดีที่เห็นอะไรอย่างนี้ด้วย?

    มือเรียวจัดการเก็บรูปถ่ายเข้าที่อีกครั้ง ก่อนจะหยิบหมอนโดยที่ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าต้องพลิกด้านไหนมาทับลงไว้เหมือนเดิม ก่อนจะล้มตัวนอนลงแล้วพยายามที่จะไม่คิดอะไรต่อ

    และกว่าที่เจ้าตัวจะหลับได้ก็นานอยู่เหมือนกัน

     

     

     

     

     


    ต้องากลับไปอ่านใหม่อีกรอบแล้วค่ะ เวรกรรมจริงๆ อิอิอิ รู้ว่ามีคนแอบรออยู่(ถึงจะน้อยมา55555) เลยกลับมาต่อให้ ขอบคุณนะคะ T _ T
    คราวนี้ถ้าไรท์หายไปอีกก็ขอให้มีความหวังอีกนะคะ นี่หายไปเป็นปีกว่ายังกลับมาต่อได้ #แต่คงจะไม่หายแล้วเพราะขี้เกียจอ่านอีก #ร้องไห้หนักม

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×