คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : THE ROOMMATE - PROLOGUE
“จะนิ่งอีกนานไหม เดี๋ยวถ้ามันล่มอีกทีวันนี้ก็ไม่ต้องดูกันพอดี”
คนที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หันไปมองพี่ชายที่ยืนกอดอกอยู่ด้านหลังด้วยสายตาที่บอกว่ากังวล พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันไปที่เดิมต่อ “จะดูตอนนี้แหละ” ว่าแล้วนิ้วเรียวยาวก็จัดการกดตัวเลขแปดหลักลงไปในช่องที่ขึ้นอยู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกรอบแล้วกดเอนเตอร์ทันที
ชื่อ : บยอนแบคฮยอน เลขที่สมัคร : 56103010
ผลการคัดเลือก : ผ่านการคัดเลือก
คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
“เฮ๊ย!” เจ้าของชื่อที่ปรากฏในจอได้ร้องออกมาด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าดีใจเอามาก ๆ ตามด้วยเสียงของพี่ชายที่พูดพร้อมกับผลักหัวเขาไปด้วย
“กูบอกแล้วว่ามึงต้องทำได้ มั่นใจในตัวเองหน่อยสิไอ้หนู ถ้าตั้งใจก็ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถมึงหรอกน่า” พอพูดจบ ‘คยูฮยอน’ พี่ชายเพียงคนเดียวของแบคฮยอนก็หันหลังให้น้องชาย แล้วเดินไปหยิบเอากระเป๋าของตัวเองมาสะพายเตรียมจะออกจากห้องทันที “เงินยัดไว้ในกระเป๋าตังค์ให้แล้วนะ ถ้ายังไม่พอก็ไปค้นบัตรกูมาใช้ละกัน อยู่ในเสื้อสักตัวในตู้นั่นแหละ โชคดีไอ้น้อง”
แบคฮยอนยิ้มให้กับพี่ชายที่กำลังเดินออกจากห้อง ก่อนจะโกนตามหลังร่างสูงไป “ขอบคุณนะเว้ย!” พออีกฝ่ายยกมือขึ้นเพื่อเป็นการบอกว่าไม่เป็นไรแล้วปิดประตูลง ตาเรียวก็หันมามองที่จอคอมพิวเตอร์ต่อ แล้วเลื่อนลงไปมาสลับกับลองเช็คดูใหม่อยู่หลายรอบ
แบคฮยอนคิดในใจว่าวันนี้เขาคงจะเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายสอบติดเหมือนเขา แต่ถ้าเทียบกับความเหนื่อยที่เจ้าตัวต้องวิ่งแจ้นไปทั่วโรงเรียนเพื่อแก้ผลการเรียน ความพยายามในการอ่านหนังสือเพียงไม่นานก่อนหน้าที่จะสอบ หรือคำสบประมาทจากผู้คนรอบข้างแล้ว เขาก็คงจะดูเหมือนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในนั้นแล้ว
อันที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนประเภทที่เกเรอะไรนักหรอก เพียงแต่ด้วยความที่เป็นคนไฮเปอร์ ชอบออกไปหาอะไรทำมากกว่าจะมานั่งในห้องเรียนแคบ ๆ แบคฮยอนถึงโดดเรียนบ่อยครั้งและก็ไม่ค่อยได้ส่งงานจนมีผลการเรียนไม่ผ่านในหลายวิชา กว่าจะตามแก้ได้ก็เล่นจนเหนื่อยแทบจะไม่ไหว และด้วยความที่เจ้าตัวไม่ค่อยเข้าเรียน เพื่อนที่เรียกได้ว่าจะคบค้าสมาคมด้วยก็พลอยไม่ค่อยมีไปด้วย จะมีก็แต่เพื่อนสนิทคนเดียวที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยประถม และอยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้
เพื่อนของแบคฮยอนคนนี้ถือได้ว่าเป็นคนที่ป็อปปูล่าร์มากในโรงเรียน ใบหน้าหล่อเหลาที่มาพร้อมกับการเรียนอันดับต้น ๆ ในทุกเทอม ไหนจะฐานะที่บ้านที่เรียกได้ว่ารวยระดับอยู่เฉย ๆ ไปสิบชาติก็ใช้เงินไม่หมด ทำให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนต้องยกให้เขาเป็นบุคคลที่เพียบพร้อมอันดับหนึ่งของโรงเรียน ต่างจากแบคฮยอนที่ไม่ค่อยสนใจเรียนสักเท่าไหร่ ซ้ำฐานะที่บ้านยังก็ไม่ได้ดีอะไรมาก ถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ที่เรียนอยู่ในที่เดียวกัน
โรงเรียนของแบคฮยอนเป็นโรงเรียนที่ดีมากโรงเรียนหนึ่งในประเทศ นักเรียนแทบทุกคนต่างก็เป็นหัวกะทิทางด้านการศึกษา และมีฐานะที่ค่อนข้างดีกันมาก ดูเหมือนจะมีแค่แบคฮยอนนี่แหละที่เหมือนเป็นแกะดำ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นคนอย่างแบคฮยอนก็ไม่ได้เรียกว่าโง่หรอก ผลการเรียนที่ออกมาแย่นั้นเป็นผลมาจากการที่เขาไม่ค่อยได้เข้าเรียนและก็ไม่ส่งงานเสียมากกว่า เพราะถ้าไม่ได้เก่งอะไรเลย เจ้าตัวคงไม่สามารถสอบผ่านการสอบข้อเขียนสุดหินแล้วได้เข้ามาเรียนที่นี่จนได้ และในวันนี้ เขาก็ได้ทำให้เพื่อนร่วมชั้นแทบจะทุกคนต้องแปลกใจไปตาม ๆ กัน ที่คนไม่เอาไหนอย่างบยอนแบคฮยอนคนนี้สามารถสอบติดมหาวิทยาอันดับหนึ่งของประเทศได้…
“ไง” หลังจากที่นั่งยิ้มคนเดียวได้สักพัก ร่างบางก็กดรับโทรศัพท์ที่ขึ้นว่าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขากำลังโทรเข้ามา
(ไง มีที่เรียนยัง) ปลายสายส่งเสียงทักทายมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ไม่ติดว่ะ”
(หรอ กูตั้งโต๊ะจีนรอมึงแล้วเนี่ยกะว่าจะฉลองเผื่อมึงสอบติด ถ้างั้นกูเอาไปเทให้หมากินหมดละกันนะ)
“ฮ่า ๆ มึงก็รู้ว่ากูติดอยู่แล้วแล้วยังจะถามทำไมวะเซฮุน” แบคฮยอนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะถามกลับไป
(ไม่มีไรทำน่ะเลยโทรหา พรุ่งนี้สอบสัมภาษณ์ใช่ไหมเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน เค้าคิดถึงตัวเองจะตายอยู่แล้วนะอยากเจอมาก)
“ยี๋นรกแดก” พอได้ยินคำพูดชวนสยิวของเพื่อนรัก ร่างบางก็แทบจะตัดสายทิ้งไม่ทัน
มันก็ทำบ่อยอะนะแต่ก็ไม่เคยชิน ซ้ำยังยิ่งได้ยินบ่อย ๆ ก็รู้สึกทุเรศมากขึ้นทุกที…
แบคฮยอนกับเซฮุนเป็นเพื่อนกันมานานนับสิบกว่าปีแล้ว ย้อนไปตั้งแต่สมัยประถม ทั้งสองคนยังเป็นเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มและก็ต่างเป็นลูกชายที่มากจากตระกูลผู้ดีกันทั้งคู่ เลยทำให้สนิทกันง่ายตามประสาเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาเหมือน ๆ กัน จนกระทั่งตอนที่ทั้งสอนคนอายุได้สิบขวบเศษ แบคฮยอนก็ได้เสียทั้งพ่อและแม่จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันไป จึงเหลือเพียงตัวเขาและพี่ชายที่ต้องทนต่อสู้กับบรรดาญาติที่ต่างจะแย่งชิงสมบัติของพ่อและแม่ แล้วสุดท้าย เด็กน้อยพร้อมกับพี่ชายที่มีอายุห่างกันสี่ปีก็ต้องยอมแพ้ให้คนเหล่านั้นจนได้ สองคนนี้มีนิสัยไม่ได้ไปยึดติดติดกับฐานะหรือเงินทองมากมายอยู่แต่เดิมแล้ว แต่ที่ยังทนก่อนหน้านั้น ก็เพียงแค่อยากจะลองสู้ดูเท่าเด็กสองคนที่จะทำได้ เพื่อรักษาธุรกิจที่พ่อแม่ของพวกเขารักเป็นอย่างมากก็เท่านั้นเอง
หลังจากนั้นมา สองพี่น้องก็ย้ายออกมาจากบ้านแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเซฮุน ไม่ใช่ว่าคยูฮยอนและแบคฮยอนออกมาใช้ชีวิตตามลำพังโดยที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยหรอก แต่การจะหาที่อยู่สักที่หรือจัดการทำเรื่องย้ายโน่นโอนนี่ คงจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรถ้าเด็กสองคนนี้จะจัดการเอง จึงกลายเป็นหน้าที่ที่เต็มใจของพ่อแม่เซฮุน ที่เรียกได้ว่าสนิทกับพ่อแม่ของพวกเขามากมาช่วยทำให้ทุกอย่าง
และด้วยความที่พ่อและแม่แบคฮยอนเสียไปตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นเอง เลยทำให้แบคฮยอนและพี่ชายใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป ถึงแม้จะมีเงินเหลือพอมากมาย จากการที่พ่อแม่คอยเก็บเข้าธนาคารให้คยูฮยอนตลอดพอที่จะเลี้ยงชีวิตไปได้นานก็ตาม ผู้เป็นพี่ก็ยังเป็นคนคิดถึงอนาคตเสมอว่าสักวันคงต้องวันหมด เขาจึงทำงานทุกอย่าง หนักบ้างเบาบ้างก็แล้วแต่ความสนใจความอยาก ถ้าเบื่อก็แค่ย้ายไปทำอย่างอื่น แบคฮยอนเลยได้ซึมซับเรื่องนี้จากพี่มาเต็ม ๆ พวกเขาสองคนเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น แม้เงินที่ได้จะไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่ถ้าเทียบกับประสบการณ์กับความสนุกที่ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียเลย คยูฮยอนสอนแบคฮยอนตลอดว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เรายืนหยัดอยู่บนโลกนี้ได้ ความขยันกับสิ่งที่เราได้เรียนรู้และเข้าใจมันต่างหากคือสิ่งที่จะทำให้เราอยู่ได้ แล้วแบคฮยอนก็จำแบบนี้เสมอมา…
“พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมกับพี่นะครับ เราจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้เหมือนพ่อแม่แน่ ๆ” แบคฮยอนมองไปยังกรอบรูปเล็ก ๆ ที่มีสี่คนพ่อแม่ลูกพร้อมหน้า พร้อมกับยิ้มและพูดข้อความนี้ออกมา ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟา แล้วค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงกับความคิดที่ล่องลอยอยู่ในหัวแล้วหลับไปในที่สุด
หายเหนื่อยจริง ๆ ที่ทำไปทั้งหมด…
แวะมาเปิดเรื่องใหม่ตอนว่างค่ะ หลังจากที่แต่งไม่จบสักเรื่องและก็ลบไปหลายเรื่อง 555555
มาลุ้นกันนะคะว่าเรื่องนี้ไรท์เตอร์จะแต่งจบไหม จะพยายามมาอัพบ่อยๆนะคะ ขอให้มีคนหลงเข้า
มาอ่านด้วยเถอะ 55555555555
ปล. กระซิบนิดนึงว่าเรื่องนี้พี่แบคแมนมากนะคะ > _ <
ความคิดเห็น