ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] EX-Friend?! (KaiDO and exo) [อยู่ในช่วงรีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #11 : EX-Friend?! :: Chapter 9 'ทำร้ายร่างกายบนเตียงvsน้ำตาในห้องครัว'

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.26K
      5
      29 ก.ย. 56

    chapter 9

     

     

              "เฮ้อ~" ผมวางกระเป๋าลงที่พื้น แล้วรีบทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีที่มาถึงห้องพัก ก่อนจะต้องคิ้วขมวดเมื่อเพื่อนร่วมห้องพูดขึ้น

     

              "แก่แล้วก็งี้ ทำอะไรก็หมดแรงไปหมด" ไคพูดขึ้นขณะเริ่มจัดของในกระเป๋าเดินทาง

     

              เอ่อ... ผมชักสงสัยแหละว่าผมชอบคนปากหมาแบบนี้ได้ยังไง...

     

              "ใครจะดำถึกและบึกบึนเหมือนนายล่ะไค~" ผมพูดสวนขึ้นมา ผมเน้นคำว่า'ดำ'อย่างจงใจ

     

              "ว่าไงนะไอ้เตี้ย"ไคลุกขึ้นมาจ้องหน้าผม

     

              "เปล่านิไอ้ดำ" ผมพลิกตัวหันหลังให้ไอ้คนที่ผมกำลังสนทนาด้วย

     

              "ว่าฉันอีกครั้งเดียวนายตายแน่" ไคเดินมาพูดกับผมที่ปลายเตียง

     

              "นายเนี่ยนะจะทำอะไรฉัน? เหอะขอขำทีดิ"ผมหันไปพูดกับมันอย่างเย้ยหยัน

     

              "จะลองดูไหมล่ะ"พูดเสร็จหมอนี้ก็โน้มตัววมาคร่อมผม ยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แต่สำหรับผมมันเป็นยิ้มที่เรียกว่า... ท้าทายอำนาจมืดมาก..

     

              "หืม? จะทำอะไรหรอไคอา~" ผมรู้สึกอยากจะตีปากตัวเองก็ครั้งนี้แหละ ผมไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้นะ แต่พอเห็นรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้แบบนั้นก็พาลทำให้อยากท้าทาย จนสุดท้ายผมก็พูดประโยคนั้นออกไป พร้อมมือที่ยกขึ้นไปลูบหน้าไค ก่อนจะระบายยิ้มออกมา.... หึหึ

     

     

              ใครบอกคยองซูคนนี้ใสใส คิดผิดแล้วน้อง!

     

     

              "นาย...??"ไคมองผมอย่างงงๆ

     

              "เฮ้อ~ ไม่เข้าใจหรอ ถ้าไม่เข้าใจก็ออกไปไกลๆไป ฉันร้อน"อยากจะเอาเทปใสม้วนตัวเองตั้งแต่ปากยันข้อเท้าตัวเองจริงๆ เพราะผมพูดประโยคนั้นก็ออกไปก็ปลดกระดุมเสื้อตัวเองสองเม็ดเป็นเชิงบอกว่าร้อน.. ครับ ผมไม่ได้ใสใสขนาดไม่รู้ว่าท่าทีแบบนี้มัน..เอ่อ.. ยั่วแค่ไหน... แต่ผมเป็นคนฆ่าได้หยามไม่ได้นิครับ ในเมื่อไคมันขู่ผมมีหรือที่ผมจะไม่ตอบโต้..

     

             

     

     

              ถึงแม้ว่าการกระทำครั้งนี้จะทำให้หัวใจของผมเต้นผิดจังหวะก็ตาม...

     

     

     

              "หึ.."ไคหลุดเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะค่อยๆโน้มตัวเข้ามาเหมือนกับว่าเราทั้งสองต่างมีแรงดึงดูดระหว่างกัน.. เหมือนทุกอย่างรอบตัวเราหยุดเคลื่อนไหว ไม่สิ เหมือนบนโลกนี้มีแค่เราสองคนต่างหาก ผมไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงผมหายใจของตัวเอง ผมรู้แค่ว่าไคเข้าใกล้ผมเรื่อยๆ เรื่อย..

     

     

     

     

     

     

     

              ปัง!

     

              "เฮ้ย!"

     

     

              โครม!!!!!!!

     

     

              "อ้าว นายสองคนเล่นอะไร"ลู่หานที่เปิดประตูเข้ามามองผมอย่างงงๆ

     

              จะไม่ให้งงได้อย่างไรละครับ มันเล่นอยู่ดีๆเปิดประตูเข้ามาให้ห้องพวกผม ให้ขณะที่กำลังเอ่อ..เข้าได้เข้าเข็ม มันดันทะลึงเข้ามากระตุกด้ายขาด.. อยู่ดีๆเปิดประตูมา ด้วยความตกใจผมก็เลยทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าผมกับไคต้องออกห่างกันให้มากที่สุดผมก็เลยทำการเอ่อ..ถีบส่งคุณไคไปอยู่ที่พื้นอย่างสวยงาม โชคดีจริงๆที่มันมองไม่ทันว่าเมื่อกี้ผมทำอะไรกันอยู่ ไม่งั้นล่ะก็... คงโดนล้อตลอดทริปแน่เลย

     

              "ปะ เปล่า! แล้วเข้าห้องคนอื่นทำไมไม่เคาอะประตู" ผมรีบเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนทันที

     

              "ไม่อ่ะ นี้บ้านฉัน แกเป็นแค่ผู้ขออยู่อาศัยฉันเข้าห้องไหนก็ได้~"มันพูดลอยหน้าลอยตา แต่ผมว่าหน้ามันหน้าเตะมาก

     

              "อือๆ แล้วมีอะไร ฉันยังไม่ได้เก็บของเลย"ผมลุกจากเตียงโดยที่ยังไม่ได้หันไปมองซาก..คนที่ผมเพิ่งถีบลงเตียงเมื่อกี้ซักนิด

     

              "หิวข้าว มีใครทำอาหารเป็นไหม ไปเป็นลูกมือเซฮุนหน่อย"ลู่หานพูดพร้อมเอามือลูบท้อง

     

              เมื่อลู่หานกล่าวถึงชื่อน้องชายคนที่ผมเกือบลืมว่ามันมาด้วย(ก็เล่นตัวติดกับลู่หานจนผมนึกว่ามันไม่ใช่น้องผมล่ะ) ทำให้ผมมองเลยลู่หานไปเจอกับร่างสูงของน้องชายผม มันจ้องหน้าผมกับมองไปที่ซากสิ่งมีชีวิตปลายเตียงสลับกันไปมา สรหน้ามันค่อนข้างเครียดก่อนจะหลุดคำพูดที่ผมแทบจะเอามือผิดปากมันไม่ทัน

     

              "จะทำอะไรกัน นี้มันกลางวันนะ" แล้วผมก็รีบตะครุบปากมันไว้ทันที

     

              "?" ดูเหมือนโชคดีของผมที่คราวนี้ลู่หานไม่ทันเอ๊ะใจกกับคำพูดของลู่หาน ได้แต่ยักไหล่แล้วเดินลงไปข้างล่าง

     

              เมื่อเซฮุนเห็นว่าลู่หานเดินลงไปชั้นล่างจึงรีบดึงมือผมที่ใช้ปิดปากออกแล้วรีบวิ่งลงตามไปทันที....

     

     

              นับวันยิ่งเหมือนหมาหวงเจ้าของ...

     

     

     

              "เฮ้อออออ" เมื่อสองคนนั้นจากไป ผมก็ทิ้งตัวลงนอนที่เตียงอีกครั้งด้วยความที่เหนื่อยใจ... ทำไมชีวิตโดคยองซูคนนี้ถึงมีเพื่อนปากหมา และมีน้องชายที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนพี่มากกว่าพี่ตัวเองนะ ชาติที่แล้วโดคยองซูทำบาปอะไรไว้นะ ไหนจะเรื่องที่แอบชอบเพื่อนตัวเองอีก.. อะเร๊ะ.. แอบชอบเพื่อน? ชอบไค? ไค?

     

     

              "เฮ้ยยยยยยยยยยยย" ผมร้องขึ้นเมื่อตั้งสติได้ว่า ไว้เจ้าซากที่อยู่ปลายเตียงนั้นคือซากของไค ไม่ใช่'บางสิ่ง'ที่กองอยู่ ผมรีบถลาไปพยุงไคลุกขึ้น

     

              "นึกว่าจะไม่ช่วยซะแล้ว" ไคที่มือนึงกุมหน้า มือหนึ่งกุมท้องพูดขึ้น

     

              "แหะๆ เผลถีบแรงไปหน่อย แหะๆ" ผมส่งเสียงหัวเราะเจื่อนๆออกไป

     

              "นี้ขนาดหน่อยนะเนี่ย ยังทำฉันเจ็บทั้งตัว"ไคส่งยิ้มมาให้ผม.. ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บตัวเพราะผมแต่เขาก็ยังมีรอยยิ้มให้ผมเสมอ

     

              "เพราะไอ้ลู่หานคนเดียว ถ้ามันเคาะประตูก่อนก็ดีน่ะสิ"ผมพูดอย่างอารมณ์เสีย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

     

              "ไม่หรอก จริงๆต้องขอบใจลู่หานนะ" ไคพูดขณะหันหน้ามาสบตากับผม "..เพราะถ้าไม่มีมัน เราคง.."ไคพูดเว้นวรรคในสิ่งที่คิดว่าถ้าไม่พูดผมก็ยังรู้

     

              "เอ่อ..นั้นสิ.." ผมก้มหน้าทันทีที่นึกถึงคำที่ไคเว้นวรรคไว้ เพราผมรู้ดีว่าผมจะต้องหน้าแดงแน่ๆ

     

              "มันก็เป็นแค่อารมณ์พาไปนี่นา.. ถ้าเราปล่อยให้มันเกิดขึ้นเราสองคนคงเสียใจแน่ๆ ใช่ไหมไอ้คุณเตี้ย" พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ดีแล้วล่ะที่ไคนอนลงไป จะได้ไม่เห็นหน้าผมในตอนนี้

     

     

              ที่แท้นายก็ไม่คิดกับฉันมากกว่าเพื่อนสินะ ไม่เคยคิดถึงขั้นนั้น.. ที่เกิดขึ้นนายก็แค่ถูกอารมณ์พาไปสินะ โด คยองซูนายก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ เรื่องของนายกับคิมจงอินมันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด.. แต่นายก็ยังมีความหวัง.. หวังอะไรของนาย?

     

              นายลืมไปแล้วหรอว่าคนที่นายอยู่ด้วยตอนนี้เขามีแฟนแล้ว

     

              นายลืมได้ไงว่าเขามีเจ้าของหัวใจของเขาแล้ว นายลืมได้ไงว่าเขาไม่ใช่ของนาย นายลืมได้ไงว่าเวลามันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว..ลืมได้ไงว่าคนๆนี้ไม่เคยเห็นนายมากกว่าเพื่อนเลย...

     

     

              "ฉัน.. ฉันไปช่วยเซฮุนก่อนนะ"ผมพยายามข่มเสียงตัวเองให้เป็นปกติที่สุดก่อนที่ผมจะรีบหันหลังเดินไปที่ประตูทันที

     

              "อือ.. ฉันยังลุกไม่ไหว ไปก่อนเลย" ไคพูดปนหัวเราะ ถ้าเป็นปกติผมคงจะรู้สึกผิดทีทำร้ายร่างกายเขาจนลุกไม่ขึ้น แต่คราวนี้รู้สึกขอบคุณจริงที่เขาลุกไม่ขึ้นเพราะเมื่อผมปิดประตูห้องลง.. ผมก็หมดแรงนั่งร้องไห้อย่างหมดสภาพ.. แต่ถึงผมจะหมดสภาพอย่าง ผมก็ยังไม่ลืมที่จะเก็บเสียงสะอื้นและเสียงร้องไห้ของผมไม่ให้คนที่อยู่ในห้องได้ยินเด็ดขาด..

     

     

     

              ผมไม่ต้องการให้เขารู้ว่าผมเสียใจ

              ผมไม่ต้องการให้เขารู้ว่าผมร้องไห้

              ผมไม่ต้องการให้เขาสงสัยว่าผมร้องไห้ทำไม

              ผมไม่อยากให้เขาถามผมถึงสาเหตุของการร้องไห้...

             

              เพราะผม.. ไม่อยากบอกว่าสาเหตุทั้งหมดเป็นเพราะผมรักเขา....

     

     

     

     

     

     

     

             

     

     

     

     

     

     

              ผมเดินลงมายังชั้นล่างเมื่อผมคิดว่าน้ำตาของผมนั้นแห้งสนิทแล้ว ผมเห็นลู่หานที่หันหลังนั่งดูทีวีอยู่ ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆที่ทีวีหันหน้าไปทางนั้น ขอบคุณจริงๆที่มันไม่รู้สึกตัวว่าผมเกินลงมาแล้ว ขอบคุณที่มันไม่หันมามองหน้าผม เพราะผมไม่มั่นใจว่าตาของผมนั้นหายแดงหรือยัง..

     

              ผมเดินเข้าไปในครัวของบ้าน เห็นเซฮุนกำลังเครียดกับการทำอาหาร ผมที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก็หยิบผักที่คาดว่ายังไม่ได้ล้าง หยิบกาละมังใบเล็กๆพอใส่ผักได้ ก่อนจะเดินตรงไปที่อ่างล้างจานเปิดน้ำให้น้ำไหลผ่านผัหที่แช่ในกาละมังจนเต็ม

     

              "ฮยอง.." เซฮุนเรียกผม แต่ผมไม่กล้าหันไปหาเขาทำได้แต่ขานรับ

     

              "มีไร" ผมพยายามปรับโทนเสียงให้เป็นปกติที่สุด

     

              ".." เซฮุนไม่ตอบ แต่เขาวางมีดที่ตนเพิ่งหาเจอลง ก่อนจะเดินไปหยุดที่ข้างหลังของดีโอ

     

     

     

              "ฮยอง..วันหลังผมขอ.. อย่าร้องไห้คนเดียวนะ" เซฮุนสวมกอดผมจากทางด้านหลัง ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งขึ้น เป็นประโยคที่ทำให้คยองซูเริ่มน้ำตาคลออีกครั้ง ทั้งๆที่เขาคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วนะ ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่มีทางร้องไห้ให้ใครเห็นด้วย แต่พอรู้ว่าคนที่รักเราเป็นห่วงเราขึ้นมา.. มันก็อดที่จะร้องไม่ได้

     

              "ไม่เป็นไรนะ ฮยองยังมีผมนะ"เซฮุนพูดขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ทำให้ผมไร้ความอดทนที่จะเก็บน้ำตาไว้ ผมหันหลังไปสวมกอดเซฮุน พร้อมกับปล่อยโฮออกมาโดยไม่อายคนเป็นน้องคนนี้เลย

     

              "ร้องให้พอนะฮยอง ผมจะอยู่กับฮยองเอง"เซฮุนลูบหลังผมเป็นเชิงปลอบใจ ซึ่งคำพูดของเซฮุนก็ทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก..

     

     

     

     

              ขอบคุณนะ..ขอบคุณนะเซฮุนอา.. ขอบคุณที่อยู่ข้างพี่..

     

     

     

             

     

     

     

     

              ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่พี่น้อองกันแท้ๆก็ตาม









    ------------------------
    จบไปอีกตอนที่ปวงๆ ประเด็นคือได้ข่าวว่าแต่งไคโด้ ทำไมมันฮุนโด้จังคะ? แล้วไอ้เรื่องพี่น้องเนี่ย... สดมาก เอ็งเอาอะไรคิดเนี่ย!!!!

    เอ่อ.. ใครจะได้ไล่คนแต่งไปอ่านหนังสือที คนๆนี้ยังไม่ได้สอบไฟนอลเลยจ้า....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×