ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] EX-Friend?! (KaiDO and exo) [อยู่ในช่วงรีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #9 : EX-Friend?! :: Chapter 7 'จูบ'

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 56


    chapter 7

     

     

              "..."

     

     

              "..."

     

     

              ครับ... ไอ้จุดๆข้างบนไว้เนี่ย.. ไม่ได้มีเหตุอะไรนอกเหนือจะแสดงให้เห็นว่า ตอนนี้บรรยากาศของผมกับไคมันเงียบ... เงียบจริงๆ เงียบเป็นป่าช้าเลยครับ ปกติบรรยากาศระหว่างเราก็ไม่ใช่ว่าจะพูดมากมายหรอกครับ เพราะ

    ไคไม่ได้ชอบชวนคุยเหมือนแบคฮยอน ไม่ได้ชอบแซวเหมือนลู่หาน แต่สำหรับไค... ไม่รู้เหมือนกัน..

     

              รู้แต่ว่าบรรยากาศอึดอัดนี้เป็นครั้งแรกระหว่างเราเลย..

     

     

              เอ๊ะไม่ใช่ครั้งแรกนี้นา.. มันเคยเกิดขึ้นระหว่างเราทีนึงนิ...

     

     

             

     

     

     

     

     

     

     

              'อะ.เอ่อ..' ผมกำลังเจอปัญหาที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติอยู่ครับตอนนี้

     

              'ว่าไงครับรุ่นพี่ ได้โปรดคบกับผมเถอะ' คือว่าตอนนี้...กำลังมีรุ่นน้องมาสารภาพรักกับผมอยู่...

     

     

              ดูเหมือจะน่าปลื้มสินะครับ.. แต่..

     

              'เอ่อ..'

     

     

              'ทำไมล่ะครับ.. ทำไมไม่ยอมคบกับผม ผมหลงใหลในตัวรุ่นพี่มากนะครับ ผมชอบทุกอย่างที่เป็นรุ่นพี่เลย.. ขนาดกระดาษทิชชู่ที่รุ่นพี่เช็ดน้ำมูกไปแล้ว ผมยังตามไปเก็บมา จะบอกว่าน้ำมูกรุ่นพี่ขาวใสมากครับ.. ผมปลื้ม!!!'

     

     

     

     

              คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมครับ...

     

     

     

              'หรือว่ารุ่นพี่คิดว่าผมไม่หล่อ ไม่รวยสู้คนอื่นไม่ได้!' อือ.. นายไม่หล่อจริงๆนั้นแหละ แต่ถ้าแค่ไม่หน้านายคงไม่ทำให้ฉันลำบากใจขนาดนี้หรอกนะ.. ที่ทำให้ฉันลำบากก็คือ.. นิสัยโรคจิตของนายเนี่ยแหละ..

     

              'ถึงผมไม่หล่อแต่ผมจะยอมทำทุกอย่างที่รุ่นพี่ต้องการเลยนะครับ..'ไอ้เด็กนี้มันพูดก่อนจะทำท่าเขินอาย..ก่อนจะพูดว่า..

     

     

     

     

     

     

     

              'ผมยอมเลียรองเท้านักเรียนให้พี่ทุกเช้าเลยนะครับ ถ้ารุ่นพี่ต้องการ...' มันทำท่าเขินอายแบบสะดิ้ง.. แต่ตอนนี้ผมสติหลุดไปแล้วครับ...

     

     

             

     

     

     

              ใครก็ได้เก็บไอ้นี้ไปไกลๆที.. ดีโออยากตาย...

     

     

              'ว่าไงครับ ถ้าไม่ตกลง ผมจะไปบอกคนอื่นว่า... จริงๆรองเท้ารุ่นพี่... หยิบขี้หมามา...'ไอ้เด็กโรคจิตนี้บอก..

     

     

              ใครมันจะไปกลัวคำขู่ของมันว่ะ...

     

     

     

              คิดสิคิดสิดีโอ นายต้องคิดสิว่าปฏิเสธเด็กคนนี้ยังไง มันถึงจะได้เลิกเป็นโรคจิตตามนายซักที...

     

     

     

     

     

     

              'ดีโออา นายหยิบหนังสือฉันกับนายสลับกันนะ' อยู่ๆเสียงที่ผมคุ้นเคยก็พูดแทรกบทสนทนาของผมกับไอ้เด็กโรคจิตนี้ ถ้าเป็นสถานะการณ์อื่นผมคงด่าไปแล้วว่าไร้มารยาท แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนตอนปกติ เพราะผมคิดว่ามันเป็น

    เสียง.. เสียงสวรรค์ซะจริง!!!!

     

              'ฉันมีแฟนแล้ว เสียใจด้วยนะ! ฉันมีแฟนแล้ว นี้ไงแฟนฉันไค' ผมพูดขึ้นก่อนจะดึงร่างสูงของเพื่อนที่ตอนนี้มันกำลังทำหน้าช็อคอยู่

     

              'พี่อย่ามาพูดมั่วๆเถอะ ผมรู้ว่าพี่กับรุ่นพี่จงอินเป็นแค่เพื่อนกัน.. หึหึ ผมสืบมาหมดแล้ว อย่ามาดูถูกผมนะ.. ผมน่ะรู้ทุกอย่างของพี่ รู้ด้วยซ้ำว่าพี่มีกางเกงในสีดำ6ตัว สีขาว5ตัว!'ไอ้เด็กนั้นเถียงผม..

     

     

     

     

     

     

              เอ่อ...ใครจะก็ได้ช่วยความโรคจิตของมันที

     

     

              ผมมองหน้าไอ้ไคที่ตอนนี้กำลังทำหน้าอึ้งปนขยะแขยงไอ้เด็กเวรนี้ ดูเหมือนมันจะเข้าใจสถานะการณ์นี้อยู่บ้างจึงไม่ได้ขัดขืนผมที่ยืนควงแขนมัน โชคยังเข้าข่างผมที่ไอ้ไคมันเป็นคนฉลาด... แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาชมมันนิ ต้อง

    หาทางกำจัดไอ้นี้ไปไกลๆผมก่อน..

     

     

              'เอ่อ.. เราเพิ่งคบกันน่ะ ก็นะ..จากเพื่อนเป็นแฟนมันก็ต้องค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อยไง นายอาจจะะไม่สังเกตุเห็นไง แหะๆ' ผมหันไปถามไคถามหัวเราะแห้งๆ

     

              'อ่ะ..อืม เออๆ เพิ่งคบกัน.... ตอนไหนว่ะ' ประโยคคำถามหันมาถามผมอย่างเบาๆ

     

     

              'หืม...'เด็กคนนั้นมองผมกับไคสลับกันอย่างจับพิรุธ

     

     

              'นายก็เลิกยุ่งกับดีโอได้แล้ว คนนี้..ฉันหวง..' ไคพูดจบก็ปลดมือที่ผมควง แต่..เอามือมากอดเอวผมแทน... อึ่ย...ขนลุกทั้งตัว..

     

     

              'ผมไม่เชื่อหรอก.. 'เด็กคนนั้นพูดออกมาอย่างเสียงสั่นๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

              'จริงๆก็ไม่อยากทำแบบนี้ในโรงเรียนเลยใช่ไหมที่รัก..' ไคหันมายิ้มให้ผม... ฮะ? ทำอะไร? แบบนี้แบบไหน? อะไรในโรงเรียน?

     

              'ห๊ะ?'ไคค่อยๆคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ผม ผทมองหน้ามันอย่างปฏิเสธทันที ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันกำลังจะสื่ออะไร แต่ผมรู้สึกได้ว่าไม่ปลอดภัย กับ..ร่างกายและจิตใจของผมจริงๆ..

     

             

     

     

              ไคค่อยๆก้มหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าผมจนผมต้องตกใจเตรียมจะผลักมันออก แต่ด้วยความที่มันไวกว่ามันจึงจับมือผมไว้สองข้างด้วยมือเพียงข้างเดียวของมัน ผมเห็นมันส่งยิ้มเย้ยหยันไปให้ไอ้เด็กโรคจิตนั้นเล็กน้อยก่อนที่มัน

    จะหันกลับมาจ้องที่เอ่อ... ริมฝีปากผม..

     

     

              'มึง.. มึงจะทำอะไร' นานๆทีผมจะให้คำหยาบกับมันนะครับ แต่คราวนี้ที่ผมพูดเพราะต้องการจะเตือนสติมันก็เท่านั้น ก่อนที่มันจะทำอะไรๆเลยเถิดไปกันใหญ่

     

              'เงียบก่อน..นะครับ' มันพูดขึ้นผมรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ปรากฎบนหน้าอย่างชัดเจนกว่าเดิม

     

              'พะ..พวกพี่จะทำอะไรกัน!!'ไอ้เด็กนั้นร้องขึ้นอย่างตกใจ.. เอ่อ..คุณมึงดูไม่ออกหรือไงว่าเขาจะทำอะไรกัน อย่าเพิ่งมาขัดได้ไหมครับ....

     

     

     

     

              เฮ้ย... ไม่ได้หมายความว่างั้น

     

     

              'ดูไม่ออกหรือไงไอ้โรคจิต คนเขาจะสวีทกันอย่าเสือกได้ไหม' ไคเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดเพราะเมื่อเขาพยายามเข้าใกล้ผมเท่าไหร่ผมก็จะเดินหนีเท่านั้น

     

              'คะ..คิดว่าแค่จุ๊บกัน...ต่อหน้าผมแล้วผมจะเชื่อหรอว่าเป็นแฟนกัน พะ..เพื่อนกันเขาก็ทำได้..'ไอ้เด็กนั้นพูดมาเสียงสั่น

     

              'จริงด้วยแหะ' แต่ถึงจะพูดแบบนั้นไคก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระอยู่ผมดันผมจนติดผนังก่อนจะค่อยๆโน้มตัวเข้ามาเอ่อ... จุ๊บผมเบาๆ

     

              หวาน... หืม... ไม่ใช่ประเด็น..

     

     

              ไคค่อยๆละออกมาจากผมอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะปล่อยให้ผมยืนก้มหน้าอยู่ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือผมอยู่ดี

     

     

     

     

     

              'ถ้าทำมากกว่านี้..มึงจะทนอยู่จนจบหรือเปล่า..'

     

              ไคหันไปพูดกับไอ้เด็กโรคจิตนั้นก่อนจะประชิดตัวผมอีกครั้ง คราวนี้รวดเร็วจนผมไม่ได้ตั้งตัวมากกว่าเดิม รวมทั้งเพราะครั้งนี้ไม่ใช่แค่การจุ๊บกันเบา แต่นี้มันจูบ.. จูบของจริงเลย แถมยังเป็นจูบที่ร้อนแรงมากด้วย ดูเหมือนไค

    จะดูพอใจที่ผมไม่ได้ดิ้นเหมือนครั้งแรก ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากดิ้นนะครับ แต่ว่าผมไม่มีแรงนี่นา..  แค่แรงยืนอยู่ก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว เหมือนไคจะรับรู้ได้นะ เพราะว่าเขาปล่อยมือที่ล็อคมือผมก่อนจะเปลี่ยนเป็นใช้มือทั้งสองข้างโอบเอวผม

    ส่วนมือที่ว่างของผมก็กลายเป็นว่าโอบคอเขาตั้งแต่มือไหร่ไม่รู้ แต่เหมือนมีอะไรแปลกๆนะ...

     

     

     

              เฮ้ยยยยย ไอ้ไคมันล่วงไปในเสื้อนักเรียนผม.. มึงดึงเสื้อกูออกจากกางเกงเมื่อไหร่!!!!!!!!!

     

     

              แต่ถึงผมจะรู้ตัวก็เถอะ.. แต่บอกตรงๆหัวผมขาวโพลนไปหมดนั้นล่ะ.. คิดจะคิดก็คิดไม่ออก รู้แต่ว่าอยากจูบ..มากกว่านี้

     

     

     

     

     

              'พอแล้ว!!!!!' อยู่ดีเด็กนั้นก็ตะโกนขึ้น ทำให้ผมได้สติผลักไคออกไปไกลกว่า3วา (โม้)

     

              'อะไรก็บอกแล้วว่านายจะทนดูไม่ได้ ทนดูไม่ได้ก็หนีไปซิ ยังมีหน้าขัดคนอื่นอีก' ไคบ่นรำพึงรำพัง เอิ่ม.. เป็นการบ่นคนเดียวที่ดังมาก

     

              'ผมไม่คิดเลยว่าพี่คยองซูจะเป็นคนแบบนี้.." ไอ้เด็กโรคจิตนั้นมองผมอย่างผิดหวัง.. เดี๋ยวนะเอ็งผิดหวังอะไร เฮ้ย เดี๋ยวๆๆๆๆ คิดอะไรกันอยู่

             

              'มีอะไรจะสั่งเสียก็รีบๆ เข้าใจไหมว่าค้าง' ไคพูดขึ้น..

     

              'ผมคิดผิดจริงๆ ผามคิดว่าพี่เป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียนไม่คิดเรื่องแบบนี้ ผมผิดหวังจริงๆ... ผมอุตส่าชื่นชมผู้ชายที่มีคิตตี้ในห้อง... ผมฮึก.. ไม่คิดว่าพี่จะเป็นที่มีแฟนไปได้.. ผมคิดผิดจริงๆ ลาก่อนครับ.. ผมจะไม่ยุ่งกับพี่อีก

    ฮึกๆๆๆๆ แม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!' แล้วไอ้เด็กโรคจิตนั้นหันหลังแล้ววิ่งร้องไห้ออกไปเลย แล้วเอ่อ..ทำไมต้องร้องเรียกแม่ด้วย..

     

     

              เมื่อตัวปัญหาได้ออกไปจากตัวผมแล้ว ผมก็ค่อยๆทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง.. เหนื่อยจริงๆ

     

     

              'เอ้า! นั่งทำไมล่ะ ไป กลับบ้านได้แล้ว เย็นแล้ว เดี๋ยวไปส่งหน้าโรงเรียน เผื่อเดี๋ยวไอ้โรคจิตนั้นยังตามมาอยู่' ไคหันมาพูดกับผมพร้อมใช้เท้าค่อยๆเขี่ยผม

     

              '...' ผมไม่ตอบ ทำได้เพียงถอดหายใจในใจก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมาก่อนจะ...

     

     

              ตุ้บ!

     

              ครับ... กลับมานั่งดังเดิม ผม..ลุกไม่ขึ้น

     

     

              ผมเงยหน้ามองไคพร้อมส่งยิ้มแหย่ๆไปให้มัน มันเองก็เห็นการกระทำของผมทุกอย่าง เลยทำได้แต่ถอนหายใจออกมาเสียงดังก็จะหันหลังให้ผมพร้อมนั่งยองๆ

     

              'ขึ้นมา เดี๋ยววันนี้ไม่ได้กลับ'มันตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ

     

             

     

              มีหรือว่าคนอย่างคยองซูจะเป็นคนดีขนาดปฏิเสธความหวังดีของเพื่อนได้ ผมรีบกระโดดทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดไปให้ไอ้คุณเพื่อนตัวดีที่ตอนนี้ทำหน้าหนักเหลือเกิน แล้วอยู่ๆมันก็พูดขึ้นว่า..

    '

     

              'กูเพิ่งรู้ว่ามึงจะเข่าอ่อนกับจูบของกูด้วย'ถึงเจ้าของเสียงจะพูดอย่างไม่คิดแต่คนฟังอย่างผมถึงกลับปั้นหน้าไม่ทัน

     

              '..'ผมได้แต่เงียบ

     

              'นี้ถ้าไม่มีเพื่อนดีๆอย่างกูมึงโดนไอ้โรคจิตนั้นปล้ำแล้ว'

     

     

              ใช่สินะ... นายทำเพราะว่าเราะเป็นเพื่อนกันสินะ...

     

     

              '..'ผมได้แต่เงียบ

     

              'นี้มึงโดนไอ้พวกนี้จีบบ่อยหรือเปล่า'ไคยังคงถามผมต่อไป

     

     

              อย่า... อย่าทำเป็นหวงกูได้ไหม มึงไม่รู้หรอกว่ากูดีใจแค่ไหนเวลามึงพูดเหมือนห่วงกัน...

     

              '...'

     

              'นี้ใจคอมึงจะไม่ตอบกูใช่ไหม'ไคเหลือมองผมเล็กน้อย ก่อนจะหยิบสายหูฟังที่เสียบกับมือถือมายัดใส่หูตัวเองข้างนึง ก่อนจะเริ่มเดินไปตามทางของตึกเรียน

     

              '..' ผมเงียบเพราะเริ่มรู้แล้วว่าไคเริ่มหงุดหงิด แต่ผมไม่มีอารมณ์ง้อหรอกครับ.. เพราะหัวใจผมเอง..ตอนนี้ก็วุ่นวายพอแล้ว

     

              'โธ่เว้ย...' อยู่ดีไอ้ไคก็หยุดเดินก่อนจะหยิบหูฟังอีกข้างนึงยัดใส่หูของผมอย่างรวดเร็ว

     

              '..' ถึงผมจะตกใจจากการกระทำที่มันอยู่ดีๆมันก็ทำ แต่ผมก็ยังคงคอนเซ็ปเดิม... เงียบ...

     

              'ฟังซะ อยากเงียบก็เงียบไป ยิ้มไร?' ไคกล่าวอย่างหงุดหงิด แต่พอเหลือเห็นผมที่อมยิ้มอยู่บนหลังมัน ก็ถามออกมาอย่างแปลกใจ

     

              'เปล่า.. รีบเดินได้ล่ะ กลับบ้าน'ผมพูดกับมันพร้อมล็อคคอแน่นขึ้น

     

              'คร้าบๆ องค์หญิง อย่ารัดคอกระหม่อมแน่นซิพะยะค่ะ กระหม่อมหายใจไม่ออก เดี๋ยวจะตายได้ ชาวบ้านจะได้ลือกันว่าองครักษ์ผู้ซื่อสัตย์ตายในหน้าที่เพราะทรงให้เจ้าหญิงหมูขี่คอ..' ไคพูดพร้อมค่อยๆออกตัวเดิน

     

              'ไค!!!!!' ผมตะโกนเรียกมันใส่หู

     

     

     

     

     

              ขนาดบรรยากาศที่หน้าอึดอัดแบบนี้.. นายยังอ่อนโยนกับฉันเสมอเลย..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              เฮือก!

     

              ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงวัตถุเย็นๆที่มาสัมผัสหูผม ก่อนที่ผมจะหันไปรู้ว่าที่จริงแล้วมันคือหูฟังนั้นเอง... แล้วเจ้าของหูฟังรวมถึงเจ้าของมือที่นำหูฟังมาใส่ในหูผมนั้นก็คือ..ไค... ??

     

              "อะไร" ผมหันไปถามอย่างงงๆ

     

              "อ้าวพูดได้หรอครับนึกว่าเป็นใบ้ เห็นนั่งเคี้ยวหญ้าตั้งนาน..." ไคทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มาให้ผม.. บอกได้คำเดยวว่าหมั่นไส้!!!

     

              "อยากตายหรอไค!!!" ผมชูกำปั้นขึ้น

     

              "มิอบังอาจหรอกครับองค์หญิง กระหม่อมเป็นเพียงองครักษ์ผู้หล่อเหลา เกรงว่าถ้าตายโดยน้ำมือองค์หญิง แอร์โฮสเตสบนเครื่องบินนี้คงได้ตรอมใจตายนะพะยะค่ะ" พูดเสร็จก็หันไปแจกยิ้มให้กับแอร์โฮสเตสที่จ้องตัวเองอยู่

     

              "หรอ.. ดีรสิตายในหน้าที่มีเกียรติดี ตายซะ!!!"แล้วผมก็หันไปทำร้ายร่างกายมัน...

     

     

              "โอ้ย! ปล่อยสิเฮ้ย" ครับ..มันได้แต่ปัดมือผมออก แต่ไม่มีทางเอาคืนผมหรอก ผมรู้ดี

     

     

     

     

     

     

     

              แปลกนะที่เหตุการณ์ตอนนี้มันคล้ายๆกับเมื่อก่อน

     

     

     

              แปลกนะทั้งๆที่ระยะห่างทั้งเวลามันห่างไกลซะขนาดนี้ แต่เหตุการณ์มันยังเหมือนเมื่อก่อน...

     

     

              แปลกนะที่ผมยังจำความรู้สึกเมื่อตอนนั้นได้..

     

     

     

     

              ...แล้วจะแปลกไหมถ้าผมจะยัง.. รักคนๆเดิมอยู่.... จะแปลกไหม...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ผมว่าไม่แปลกหรอกใช่ไหมครับ....

     

     

     

     

     

     

              แต่หืม...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

             

     

     

              ผมลืมไปได้ยังไงว่าเขามีแฟนแล้ว!!!!














    --------------------------------------------------------------
    จบไปอีกหนึ่งตอนอย่าเงเหน็ดเหนื่อย (ปาดเหงื่อ) คนไม่เคยมีแฟนก็งี้แหละ เขียนฉากสวีทไม่เป็น กระซิกๆๆ T T

    ไม่เป็นถือว่าผ่านมาแล้ว(?) เมื่อวานขอโทษทีที่ไม่มีอัพ พอดีมีเหตุจริงๆนะ ไม่ได้ขี้เกียจนะ! T T

    จริงไม่ใช่ไรเตอร์ที่ชอบบังคับให้คนอ่านเม้นท์นะ ถือคติว่าถ้ามันสนุกจริงเขาก็อยากเม้นเองแหละ...

    แล้วคตินี้ก็มาทำร้ายตัวเองเนื่องจากไม่มีคนเม้น... 55555555555 (หัวเราะทั้งน้ำตา)

    ไม่เป็นไร ไอบีลีฟไอแคนฟาย หืม ไม่เกี่ยว... เพราะงั้นคนแต่งคนนี้จะแต่งให้จบจนกว่าจะหมดมุขไปข้างนึง

    ปล.ตอนนี้บ่นยาวว่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×