ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] VAMPIRE AND WEREWOLF (HunHan,ChanBaek and EXO)

    ลำดับตอนที่ #3 : VAMPIRE AND WEREWOLF :: CHAPTER 2

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 56


    chapter 2

     

     

                ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ พยายามให้สายตาปรับโฟกัสเป็นปกติ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งช้าๆ

     

     

                ....ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน??

     

     

     

                ผมมองรอบตัว แล้วก็พบว่าผมอยู่ในห้องนอนห้องนึง แล้วผมก็นึกออกทันทีว่าผมอยู่ที่ไหน เมื่อไม่นานมานี้ผมโดนแม่สั่งให้มาอยู่บ้านย่า วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเข้ามาอยู่ แล้วก่อนที่ผมจะหลับไปผมก็เพิ่งขึ้นเอาของมาเก็บไว้ที่ห้องนี้นี่นา นึกออกหมดแล้ว.. ผมเผลอหลับไปตอนขึ้นมาเก็บของนี่นา.. แล้วนี้กี่โมงแล้วเนี่ย นี้ผมหลับไปนานหรือเปล่า?

     

                ผมนึกขึ้นได้ก็ควักโทรศัพท์จากกระเป๋าหางเกงขึ้นมาดู ผมกดปุ่มปลดล็อคเพื่อให้หน้าจอมันสว่างขึ้น แต่ผมก็ต้องผิดหวังเมื่อกดเท่าไหร่หน้าจอก็ไม่ติด ผมลองเปลี่ยนไปกดปุ่มโฮมดูแต่หน้าจอก็ยังไม่สว่างอยู่ดี.. ซึ่งผมได้ขอสรุปแล้วว่า.. มือถือผมตาย.. ใช่.. มันแบตหมด

     

                "โถ่เว้ยยยยย!!!!" ผมปาโทรศัพท์เครื่องสวยลงหน้าต่างไปอย่างอารมณ์เสีย

     

     

                ให้ตายสิมันจะมีอะไรซวยมากกว่าการได้มาอยู่ที่กันดารนี้ ไม่มีแม้กระทั่งสัญญาณโทรศัพท์ แล้วแบตยังหมดอีก ในเมื่อใช้งานไม่ได้อะไรซักอย่างก็ไม่ต้องใช้มันแหละ ทิ้งมันไว้กลางป่าเนี่ยแหละ

     

                ผมเดินลงจากชั้นสองอย่างหงุดหงิด ไม่รู้เมื่อไรย่าจะมา แล้วชานยอลไปไหนว่ะ น้องหลับก็หายหัวไปเลย

     

                "ชานยอลลลลล ปาร์คชานยอล!" ผมตะโกนเรียกคนเป็นพี่

     

                "อยู่นี้ กูอยู่ห้องครัว!" ชานยอลตะโกนกลับมาเช่นกัน

     

                เซฮุนได้ยินดังนั้นก็เดินเปลี่ยนทิศทางจากการเดินออกไปข้างนอกบ้านกลายเป็นเดินไปในห้องครัว เปิดประตูเสียงดังปัง ก่อนจะพบว่าพี่ชายแท้ของตัวเองนั่งอยู่กับผู้ชายคนนึงในห้องครัว เขาคือใคร..

     

                "เอ่อ.. แบคฮยอน ถึงจะห่ามไปหน่อยแต่น้องชายแท้ๆฉัน ชื่อโอเซฮุน" ชานยอลหันไปพูดกับเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักนั้น

     

     

                เซฮุนสำรวจคนที่ชื่อแบคฮยอนตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้ คนตัวเล็กอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่สีเทา กับกางเกงยาวเท่าเข่าทีดำ สวมผ้าพันคอสีดำไว้ด้วย นี้หนาวหรอ? หรือว่าประสาท? แล้วหมอนี้เป็นใคร ทำไมมานั่งกับพี่ชายเขา แล้วเข้ามาในบ้านได้ไง เป็นอะไรกับย่า?? ในหัวของเซฮุนมีแต่คำถามเต็มไปหมด

     

                "ตอนกลางคืนที่นี้จะหนาวน่ะเลยใส่ไว้ตลอด แล้วลายสวยใช่ไหมล่ะ" คนที่ชื่อแบคฮยอนเอ่ยก่อนจะยิ้มบางๆ

     

     

                ใช่.. เซฮุนเองก็คิดว่าแบคฮยอนยิ้มสวยจริงๆ...

     

     

                แต่เซฮุนมีความรู้สึกไม่ชอบรอยยิ้มนี้จริงๆ มันเหมือนซ่อนอะไรไว้ใต้รอยยิ้ม

     

               

                ...'อะไร'บางอย่างที่ไม่ใช่เรื่องดี

     

     

     

     

     

                "แล้วนายเป็นใคร ทำไมมาอยู่บ้านนี้" เซฮุน ดึงเก้าข้างชานยอลออก ก่อนจะนั่งลงข้างๆชานยอล

     

                "เซฮุน ถามแบบนี้มันเสียมารยาทนะ" ชานยอลกระตุกเสื้อผม ไม่ใช่ว่ามันเป็นคนดีหรืออะไรหรอกนะครับ เพราะว่ามันส่งตามาหาผมประมาณว่า...

     

     

     

                'คนนี้กูถูกใจ กูขอ ทำดีเอาหน้าเขาหน่อย'

     

     

     

                "ไม่เป็นไรหรอกชานยอลอา.." ชานยอลอา?? นี้พี่ผมมันตีสนิทได้ขนาดเรียกกันแบบนี้ได้แล้วหรอ สมแล้วที่ฝึกวิชา'ตกสาว'จนชำนาญ...

     

     

                คนที่ชื่อแบคฮยอนหันไปยิ้มให้ชานยอล เป็นรอยยิ้มที่ธรรมดากว่าตอนแรกมากครับ แต่ตอนนี้เหมือนพี่ผมจะเคลิ้มไปนิดๆแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นตกหลุมรักหรอกนะครับ เพราะถ้าเจอแค่นี้แล้วจอดจะได้ตำแหน่งราชาคาสโนว่าได้อย่างไร..

     

                "ชานยอลอาเองก็อยากรู้ไม่ใช่หรอ แบคฮยอนจะว่าไงดีล่ะ.... แบคฮยอนไม่เคยเห็นพ่อแม่มาก่อนนะ แล้วคุณย่าของพวกนายก็เก็บแบคฮยอนมาเลี้ยงน่ะ เอิ่ม.. ประมาณนี้ล่ะมั้ง แล้วแบคฮยอนก็อยู่ที่บ้านหลังนี้มาตลอด"แบคฮยอนพูดยิ้มๆ

     

                "เอ่อ.. ขอโทษที่ถามนะแบคฮยอนอา.." ชานยอลพูดเสียงอ่อน

     

                "ไม่เป็นไรๆ เรื่องมันผ่านมานานล่ะ.. นายมากด้วย.."แบคฮยอนยิ้ม

     

                "งั้นหรอ.. เออ! เซฮุน โทรกลับไปหาแม่ด้วยว่าถึงบ้านย่าแล้ว" ชานยอลหันไปพูดกับน้องชายตนเอง

     

                "ได้ไง ไหนมึงบอกว่าที่นี้ไม่มีสัญญาณไง" เซฮุนถึงกับทำหน้างงกับคำสั่งของชานยอลทันที

     

                "ที่นี้อ่ะไม่มี.. แต่ถ้าก่อนตรงที่เลย์จอดรถซัก 4-5เมตรน่าจะได้อยู่"ชานยอลทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เซฮุน

     

                "มึง.. หลอกกู.. ไอ้พี่..." เซฮุนลุกขึ้นตบโต๊ะทันที

     

                "ถ้ามึงต่อยกู กูจะโทรไปบอกแม่ให้มึงอยู่ที่นานกว่ากู" ชานยอลพูดขึ้นก่อนจะกระดิกเท้าอย่างสบายใจ

     

                "มึง.. ไอ้ขี้ฟ้อง" เซฮุนเตะขาโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย เตรียมที่จะหันออกไปจากห้องครัว คิดว่าเซฮุนไปไหนได้ล่ะ.. ก็ไปตามหามือถือที่ผมปาลงหน้าต่างไปเมื่อกี้ไงล่ะครับ ไม่รูเมันจะใช้ได้อยู่หรือเปล่า ปาลงมาจากชั้นสองซะด้วย..

     

     

                โป๊ก!

     

     

     

                "โอ้ย!!!!" ขณะที่เซฮุนกำลังจะไปดึงประตูห้องครัวออก เซฮุนก็โดนประตูที่ถูกผลักจากอีกฝั่งกระแทกเข้าที่หน้าจนได้ ทำให้เขาร้องเสียงหลง พร้อมกับซุดตัวลงไปหองกับพื้นทันทีด้วยความเจ็บปวด

     

                "นี้!! นายปาอะไรออกมาจากบ้านใช่ไหม นายลอบทำร้ายฉันใช่ไหม.. แล้วนั้นใครนั่งกับนายน่ะแบคฮยอน" คนที่เข้ามาใหม่นั่นพูดขึ้นก่อนจะชูโทรศัพท์เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าเมื่อก่อนมันคงจะสวยกว่านี้ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีรอยหน้าจอที่ร้าวแล้วมันก็คงจะสวยกว่านี้

     

                "ชานยอลอา นี้ลู่ฮาน.. ลู่ฮานนี้ชานยอล"แบคฮยอนแนะนำตัวให้กับทั้งสองฝ่ายอย่างสั้นๆ.. ถือว่าสั้นเกินไปด้วยซ้ำ

     

                "สวัสดีชานยอล นายนี้หล่อใช่ได้เลยนะ" ลู่ฮานหันมายิ้มให้กับชานยอล ก่อนจะเดินข้ามเซฮุนที่นั่งกองอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว ไม่รู้เพราะว่ามองไม่เห็นจริงๆหรือว่าแกล้งมองไม่เห็นกันแน่

     

                "เอ่อ.. ขอบคุณ นายก็ด้วย" ชานยอลที่งงๆกับสถานการณ์เองก็เอยออกมาอย่างมึนๆ เขาควรเข้าไปช่วยน้องชายของเขาหรือเปล่า หรือว่าต้องแนะนำตัวกับคนที่เพิ่งเข้ามาต่อ แล้วอีกอย่างคนตรงหน้าเป็นคนประเภทไหน เจอคนแปลกหน้าในบ้านเป็นครั้งแรกก็ชมว่าเขาหน้าตาดีแล้ว จะเรียกว่ามารยาทดี หรือมารยาทดีเกินไปดีล่ะ

     

                "คุณ! ไม่สินาย! ไม่สิ.. มึง!! ไม่คิดจะขขขอโทษกูเลยหรอ" เซฮุนที่กำลังมึนๆเนื่องจากโดนกระแทกเมื่อซักครู่ก็ก้มหน้าผากขึ้นมาชี้หน้าลู่ฮานอย่าเอาเรื่อง

     

                "หืม นายพูดกับฉันหรอ"ลู่ฮานชีหน้าตัวเองอย่างงงๆ

     

                "ก็เออนั้นแหละ จะเป็นใครหน้าไหนอีกล่ะ" เซฮุนเอามือที่กุมหน้าผากของเขาออก แสดงให้เห็นถึงรอยแถบสีแดงๆเป็นรอยประตูได้อย่างชัดเจน ชานยอลคิดว่าถ้าโดนกระแทกแรงอีกนิด หัวของน้องชายของเขาจะต้องแตกแน่ๆ

     

                ลู่ฮานทำหน้าช็อคทันทีที่เห็นหน้าของเซฮุน.. ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างตกใจ

     

     

                "จูเลียต!!!!!!!"ลู่ฮานร้องเสียงหลง

     

                "ห๊ะ?!" เซฮุนถึงกับงงกับคำพูดของคนตรงหน้าเขาจริงๆ คนตรงหน้าเขาเรียกใครหรืออะไร อะไรคือ'จูเลียต'แล้วทำไมต้องมองหน้าตัวเซฮุนเองตอนเรียกจูเลียตล่ะ

     

                "โอ้วววววว มายจูเลียต... เธอจำโรมิโอคนนี้ไม่ได้แล้วหรอ" คนที่ผลักประตูชนหน้าเซฮุนนั้นเรียกได้ว่าถลาเข้ามากอดเซฮุนทันทีที่พูดจบ

     

                "เฮ้ย! อะไรว่ะ ออกไปใครจูเลียตมึง ออกไป กูขยะแขยงงงงงงงงงงงงง" เซฮุนพยายามดันอีกคนออก คนคนตัวเล็กกว่าเขานั้นกอดเขาซะแน่นเชียว ยังมีหน้ามาทำหน้าเคลิ้มใส่เขาอีก โอ้ยยยยยยยย ใครก็ได้ช่วยโอเซฮุนคนนี้ด้วย

     

                ชานยอลที่คอยมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงกับงงกับลู่ฮานและน้องชายของเขาทันที เหมือนสองคนนี้จะรู้จักกัน ไม่สิเหมือนลู่ฮานจะรู้จักเซฮุน เอ่อ.. หรือไม่ก็รู้จักคนชื่อจูเลียต ที่หน้าคล้ายเซฮุน?? แล้วลู่ฮานคือโรมิโอ?? นี้มันตำนานรักดอกเหม่ยเว่อร์ชั่นไหนทำไมมันช่าง..พิสดารขนาดนี้

     

                ชานยอลส่งสายตาเป็นเชิงถามคำถามให้กับแบคฮยอน แบคฮยอนเองที่มองเหตุการณ์นั้นอยู่เหมือนกันก็ส่งรอยยิ้มแทนคำตอยในชานยอลแทน พอชานยอลจะเอ่ยคำถาม แบคฮยอนก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาที่ริมฝีปาก เป็นเชิงบอกให้ชานยอลเงียบก่อน ก่อนจะพยักหน้าไปทั้งสองคนที่ยืนอยู่ เป็นเชิงบอกให้ดูสองคนนี้ต่อไปเงียบๆ

     

                "จูเลียต จูเลียตลืมโรมิโอไปแล้วหรือ ทำไมเจ้าถึงลืมข้า.. ดูสิเนี่ยเจ้าก็มีสร้อยที่ข้าให้.. สร้อย.. นายไปเอาสร้อยมาจากไหน"ลู่ฮานที่กอดอยู่ก็พูดขึ้นน้ำเสียงเศร้าสร้อยก่อนจะหยิบสร้อยที่เซฮุนสวมอยูออกมาดูชัดๆ ก่อนที่จะทำสีหน้าเปลี่ยนไปที่เห็นสร้อยคอของเซฮุน ลู่ฮานกำลังตกใจ

     

                "อะไรของนาย นี้มันสร้อยคอของฉัน อย่ามายุ่ง!"เซฮุนกระชากสร้อยกลับคืนมา เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องห่วงสร้อยนี้ ทั้งๆที่มันก็เป็นเพียงแค่สร้อยที่เขาไปเจอมันโชว์อยู่ในร้านเครื่องประดับทั่วไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรตั้งแต่เซฮุนซื้อมันมาก็ไม่เคยถอดมันอีกเลย แถมเขายังไม่ชอบให้ใครมาจ้องมองสร้อยของเขาแบบนี้ด้วย.. มันเหมือนมีคนกำลังคิดจะเอาสร้อยนี้ไปจากเขา..

     

                แล้วทำไมต้องกลัว...

     

                คำถามนี้ผุดขึ้นในหัวของเซฮุน ทั้งๆที่มันเป็นสร้อยราคาถูกในร้านขายโทรมๆ ที่พอเวลาเขาถามราคาสร้อยเส้นนี้ เจ้าของร้านก็ทำหน้าตกใจแล้วแทบจะเอาให้เขาไปฟรีๆ ตอนแรกเขาไม่ติดใจอะไรหรอก จนกระทั่งมีคนสนใจฝนสร้อยนี้มากถึงขนาดเพื่อนหลายคนเคยขอเขา แต่เขาก็ไม่เคยให้ เขาใส่มันตลอดไม่ว่านอนหรืออาบน้ำ เขาไม่อยากให้สร้อยห่างตัวอีกเป็นครั้งที่สอง...

     

                หมายความว่าไงครั้งที่สอง??

     

     

                "ฉันถามว่านายเอาสร้อยมาจากไหน" ลู่ฮานพยายามยื้อสร้อยไปจากมือผม

     

                "นี้มันของฉันนายจะเอาไปไหน" ผมเองก็ไม่ยอมให้เขาเอาสร้อยไปง่ายๆเช่นกัน ผมเองก็ออกแรงกำสร้อยของผมมากขึ้น

     

                "เอาคืนมานะ เอามา"ลู่ฮานพูดขึ้น

     

                "นี้มันของฉันใครกันแน่ที่ต้องบอกให้ปล่อยอ่ะ" ผมเองก็ออกแรงยื้อขึ้น

     

                "เอามานะ ฮึก.. เอามา" ลู่ฮานเริ่มตาคลอทันทีที่พูดจบ

     

                "นาย..นายจะร้องไห้ทำไมวะ นี้มันของฉัน อย่ามาร้องไห้บีบน้ำตาเหมือนเด็กๆนะ"เซฮุนพูดพร้อมผลักลู่ฮานให้ล้มลง

     

     

                ปัง ปัง ปัง!!

     

                เสียงไม้กระทบกันเรียกความสนใจของทั้งสี่คนในห้องครัวได้อย่างดี

     

                "เด็กๆ บอกย่าทีว่าเกิดอะไรขึ้น" เสียงของหญิงที่ดูจากภายนอกนั้นประมาณหกสิบปลายๆพูดขึ้นหลังจากเอาไม้เท้าของเธอเคาะกับประตูห้องครัว

     

     

     

                แล้วทั้งสี่ก็รับรู้ทันที่ว่า...คุณย่าเจ้าของบ้านได้กลับมาแล้ว..

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    จบไปอีก1ตอนแล้ว~~~~ ตบมือแปะๆๆๆ เย้เย่ เป็นไงบ้างคะสนุกหรือเปล่า T T เรื่องนี้ไม่ค่อยมั่นใจเลยแหะ.. (ทำเหมือนแตงมาร้อยเรื่อง)

    แล้วจริงๆตั้งใจให้มันดาร์กๆ แบบแฟนตาซีหน่อยนะเนี่ย กลายเป็นว่าเหมือนกันจะตลก(?)เลย

    เฮ้ออออออออ ปลงตัวเอง...

    ปล. กว่าคุณย่าเจ้าของบ้านจะมาก็ตอนที่2แล้ว แถมออกมาแค่ประโยคเดียวอีก เศร้า~~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×