คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 3 ตัวตน (100%) รีไรท์
วาคินร้อนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยวัยที่ยังน้อยของตนจึงทำสิ่งใดไม่ได้มาก ทว่า… คนคนเดียวที่เด็กหนุ่มคิดถึงก็คือ… คุณเตชิน อดีตสามีของมารดา ผู้ขึ้นชื่อว่าบิดาของมาวิน
วันรุ่งขึ้นร่างของเด็กหนุ่มลูกครึ่งนัยน์ตาสีเทาเข้มจึงยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของชายสูงวัย
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงนอบน้อม หากแววตามุ่งมั่นจนคนมากวัยต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ไปไงมาไงเนี่ยวา”
วาคินไม่ใช่คนอ้อมค้อม เด็กหนุ่มทรุดกายลงคุกเข่าเบื้องหน้าชายสูงวัย ก้มหน้า กำมือที่วางบนตักแน่นยามกัดฟันวอนขอความช่วยเหลืออย่างเลี่ยงไม่ได้
“ช่วยคุณหญิงด้วยครับ”
เขาไม่ได้เอ่ยว่า ‘เรา’ แต่เอ่ยถึงมารดาผู้เป็นที่รักอย่างตรงไปตรงมา
คุณเตชินถอนหายใจ โน้มตัวลงประคองร่างของบุตรชายคนเล็กของอดีตภรรยาขึ้น จ้องมองใบหน้าเด็ดเดี่ยวกับดวงตาสีเทาเข้มของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา
ไม่ได้ตอบรับทันที หากก็ครุ่นคิดอย่างหนักเช่นกัน
สถานการณ์ปัจจุบันของแอลเอ็นกรุปเป็นเช่นไร เหตุใดเขาจะไม่รู้ แม้จะไม่ได้ข้องเกี่ยวกับวงการธุรกิจแล้ว ปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตบั้นปลายในสวนในไร่ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก แต่ก็ยังอดเป็นห่วงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบมากมายอยู่เหมือนกัน
“วา” ชายสูงวัยเรียกได้เพียงชื่อเล่นของเด็กหนุ่มตรงหน้า สับสนในใจมากพอ ๆ กับรู้สึกผิด เพราะรู้ดีว่าเหตุใดหุ้นแอลเอ็นกรุปที่ลดฮวบถึงขั้นร่วงกราวราวเม็ดฝนเช่นนี้
ทว่าท่านไม่อาจทำสิ่งใดได้ ตักเตือนแล้วอย่างไร ในเมื่อท่านกับบุตรชายเพียงคนเดียวเป็นดั่งเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันได้ ต่อให้พูดอะไรออกไป ยากนักที่มาวินจะเชื่อฟัง และเหนือสิ่งอื่นใด ท่านไม่รู้จักบุตรชายคนเดียวของตนอีกต่อไป
ตั้งแต่วันนั้นมาวินก็เหมือนคนแปลกหน้าที่ท่านไม่รู้จัก ยามพบเจอกันใบหน้ายิ้มแย้ม หากนัยน์ตาคู่นั้นกลับไร้แสง
คุณเตชินมองหน้าวาคินนิ่งนาน กระทั่งหัวใจอ่อนไหวให้สายตามุ่งมั่นของเด็กหนุ่มจนไม่อาจปฏิเสธคำขอหนักแน่นนี้ได้อีก มือหนาเอื้อมไปแตะเบา ๆ ที่ศีรษะของอีกฝ่าย ลูบแผ่ว ๆ พร้อมส่งยิ้มเอื้ออาทรให้
“ได้ ลุงจะช่วย” ใบหน้าอบอุ่นคล้ายมาวินทอประกายอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้มใจดี ส่งผลให้วาคินคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมาในที่สุด
“ขอบคุณมากครับ”
คุณเตชินมองส่งบุตรชายคนเล็กของอดีตภรรยาจนร่างสูงแผ่นหลังตั้งตรงจากไป กระทั่งควันสีหม่นจากท้ายรถยุโรปสีดำคันนั้นจางไปพักใหญ่ ท่านจึงถอนหายใจออกมาแรง ๆ
ในขณะที่วาคินวิ่งพล่านเพื่อหาทางยื้อลมหายใจของแอลเอ็นกรุป ช่วยเหลือมารดาของตนอย่างสุดกำลัง แม้คนที่อีกฝ่ายพยายามช่วยเหลือจะไม่เห็นความพยายามในครั้งนี้สักกระผีกเดียวก็ตาม ทว่ามาวินกลับทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับน้องชาย บุตรชายของท่านผู้เป็นดวงใจของมารดากลับเหยียบย่ำแอลเอ็นกรุปซ้ำลงอีก สะบัดแขนออกจากหน้าที่โดยไม่หันกลับมามองของที่ต้องเป็นของตนราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ปรารถนาจะเฉียดใกล้
เลิศวรานนท์เป็นนามสกุลทางฝั่งมารดา แต่พงษ์ไพบูลย์คือนามสกุลของท่าน มาวินยังเป็น มาวิน พงษ์ไพบูลย์ จนถึงขณะนี้ หากอีกไม่นานบุตรชายคนเดียวของท่านก็คงต้องเป็นเลิศวรานนท์อย่างเต็มตัว ตามพินัยกรรมของผู้เป็นตา และนี่คงเป็นเหตุผลสำคัญให้อีกฝ่ายเกลียดชังทุกคนที่คอยขีดเส้นตีกรอบให้เขาต้องเดิน
ในขณะที่วาคินเลือกใช้ความเย็นชากลบฝังความเจ็บปวด และปกป้องตนเอง มาวินกลับเลือกจะสวมหน้ากาก ‘คนดี’ สะท้อนความเจ็บปวดของตนเอง ชายหนุ่มกลายเป็นคนกักเก็บความรู้สึกมาโดยตลอด อาจเพราะหนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ… การเป็นตัวแทนของท่าน คุณหญิงวารีสร้างทุกอย่างเพื่อบุตรชายสุดที่รัก ขีดเส้น สร้างกรอบเอาไว้ให้บุตรชายคนโตเดินเพียงเท่านั้น จนมาวินแทบจะเดินเองไม่ได้ สุดท้ายใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของอีกฝ่ายก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแบบแผนที่ผู้เป็นแม่สร้างให้ กระทั่งบิดาเช่นท่านก็ยังไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มไหนคือรอยยิ้มจริง ๆ จากหัวใจของบุตรชาย และลึก ๆ ในหัวใจดวงนั้นบุตรชายคนเดียวกำลังคิดทำสิ่งใดกันแน่
“มาวิน…” น้ำเสียงเอ่ยเรียกหาบุตรชายเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ ใบหน้าอวบอูมแต่มีเค้าหล่อเหลาเหมือนบุตรชายเงยหน้าขึ้นมองแสงตะวันที่สาดกระทบดวงหน้า จ้าจนต้องหรี่ตาลง
ครั้งหนึ่งบุตรชายของท่านก็เคยสว่างสดใสเช่นนี้ ทว่าวินาทีที่ท่านก้าวจากมา ความสว่างไสวในแววตาของมาวินก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
คุณเตชินเข้ามาช่วยบริหารแอลเอ็นกรุปตามคำขอร้องของวาคิน ท่านเป็นคนมีความสามารถ เพียงไม่ถึงปีบริษัทอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ที่ทำท่าจะล้มไม่เป็นท่าก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลายอย่างปรับเปลี่ยนไปในทางที่ถูกที่ควร หลายคนที่เข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ และทอดทิ้งแอลเอ็นกรุปในยามระส่ำระสายถูกกำจัด เพราะเป็นคนเก่ง มีความสามารถ แถมที่นี่ยังเคยเป็นบริษัทที่ท่านบริหารงานมาหลายปี ทั้งต่อไปบุตรชายคนเดียวต้องรับหน้าที่ดูแลมันต่อ ท่านจึงลงมือปรับเปลี่ยน และดูแลในหลายส่วน คัดคนอย่างดีเพื่อวางในหน้าที่ที่เหมาะสม
รอ… รอเพียงให้มาวินกลับมาดูแลที่นี่ต่อ ไม่ว่าจะอ่อนประสบการณ์แค่ไหน แต่บริษัทที่มีรากฐานมั่นคงย่อมไม่สั่นคลอนง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ทว่า… มาวินคงไม่คิดเช่นนั้น
ปัง!
ฝ่ามือหนาเหี่ยวย่นทุบลงบนโต๊ะทำงานภายในห้องเสียงดังลั่น หนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะถูกจำหน่ายในมือกำแน่น ก่อนจะถูกโยนทิ้งลงไปในถังขยะข้างโต๊ะทำงานทันที
‘คั่วไม่เลือก ลูกชายคนเดียวของตระกูลเศรษฐีตกอับใช้ชีวิตราวเจ้าชายเสเพลในต่างแดน คบผู้หญิงไม่เลือกหน้า เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำคน จนได้ฉายาว่า ‘มาฟัน’ เป็นที่เรียบร้อย!’
ใบหน้าใจดีเป็นนิตย์บิดเบ้ ดวงตาคมปราบแสนอ่อนโยนวาวโรจน์ขึ้นมายามตวัดสายตาไปทางเลขานุการของตน
“คุณตุลาผมไม่ได้แจ้งคุณหรือว่าให้ส่งคนไปควบคุมความประพฤติของมาวินเอาไว้”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเรียบนิ่ง ผิวสีแทนก้มหน้าลงเล็กน้อย ขานตอบเสียงฉะฉานไม่หวาดหวั่น
“ผมส่งคนไปแล้วครับ แต่คุณมาวินให้คนของตัวเองกระทืบจนคนของผมต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาล”
คราวนี้คนฟังหลับตาลง ขบกรามกรอดจนเป็นสันนูนเด่นชัด
บุตรชายของท่านแตกต่างอย่างชัดเจนกับวาคิน
ทั้ง ๆ ที่เกิด และเติบโตมาสมบูรณ์พร้อมกว่าน้อง ยิ่งเรื่องของความรักที่มารดามีให้ยิ่งห่างไกล แต่กลับทำตัวเลวร้ายเพื่อเรียกร้องความสนใจ ทว่าท่านก็พอมองออกว่าเหตุใดมาวินจึงกลายเป็นคนเช่นนี้
หลายเดือนก่อนตอนเข้ารับหน้าที่ดูแลแอลเอ็นกรุปช่วยอดีตภรรยา ท่านเคยโทรศัพท์ไปหาบุตรชายครั้งหนึ่ง มาวินกลับไม่ยอมพูดคุยด้วย ให้ลูกน้องของตนมาถ่ายทอดคำสั่งเท่านั้น
ท่านโกรธมาก และทุกวันนี้ก็ยังคงโกรธ
“เจ้าคนนั้นมันชื่ออะไรนะ” ท่านหมายถึงคนสนิทที่บุตรชายพกไปไหนมาไหนเป็นลูกคู่ตลอดเวลา
“คริส เมอร์สันครับ”
ถ้าจะจัดการบุตรชาย ก่อนอื่นเลยเขาต้องจัดการหมอนี่ก่อน
“หาตั๋วไปอเมริกาแบบด่วนที่สุด ผมจะพาคุณไปเที่ยวฟลอริดาคุณตุลา”
ตุลารับคำก่อนค้อมกายแล้วล่าถอยออกไป
คล้อยหลังเลขานุการจากไปได้ไม่นาน คนที่นั่งบนเก้าอี้ประธานจึงถอนหายใจทิ้งแรง ๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ท่านก็ยังไม่แน่ใจว่าต้องแก้ไขส่วนไหนก่อน ตัวเอง คุณหญิงวารี หรือว่า… มาวิน
ตั้งแต่บิดามารดาเลิกรากันแบบไม่ค่อยดีเท่าไร มาวินก็เหมือนจะเปลี่ยนไป จากเด็กที่ร่าเริงสดใสกลับกลายเป็นเพียงคนสวมหน้ากากรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา นั่นมันเริ่มตอนไหน คุณเตชินครุ่นคิดแล้วหลับตาแน่น เพราะ…
ท่านจำไม่ได้… ว่าครั้งสุดท้ายที่ใส่ใจบุตรชายมันเมื่อไหร่กัน
ตั้งแต่เลิกกับแม่ของลูกไป อดีตพ่อตาก็คัดค้านการพบกันอีก คุณหญิงวารีเสียใจจนหอบความเจ็บปวดไปพักใจที่อิตาลี และที่นั่นท่านก็ให้กำเนิดวาคิน ทว่าเมื่อถูกเรียกตัวกลับมาอีกครั้ง เด็กน้อยที่เพิ่งถือกำเนิดกลับไม่ได้ถูกพามาด้วย เรื่องราวเหล่านี้อยู่ในสายตาของอดีตสามีเช่นท่านมาตลอด หากคุณเตชินเลือกจะเงียบ กลบฝังอดีตกับความรู้สึกทุกอย่างไว้กับความหลัง ย้ายตัวเองไปทำไร่ทำสวนยังจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเพียงลำพัง
ทุกครั้งที่มีคนทวงถามหาสาเหตุของการเลิกรากัน ท่านจะบ่ายเบี่ยง แม้กระทั่งคำถามนั้นจะมาจากมาวินก็ตาม
หากต่อมาเมื่อเวลาผันผ่าน หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั่งบุตรชายคนเดียว คุณเตชินก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ท่านกำลังนำความรู้สึกเจ็บแค้น ทุกข์ตรมในอดีตสร้างบาดแผลฉกรรจ์ไว้ในหัวใจของลูกโดยไม่รู้ตัว และไม่ใช่เพียงท่านเท่านั้น แต่คุณหญิงวารีเองเช่นกัน
“ถ้าพ่อเล่าให้เจ้าฟัง เจ้าจะเป็นยังไงวิน ดีขึ้นหรือเลวลง…”
ชายสูงวัยถอนหายใจอีกครั้ง ปล่อยให้หยดน้ำที่เอ่อคลอข้างในหน่วยตารินรดสองข้างแก้มสาก หยดแล้วหยดเล่าอย่างเศร้าเสียใจ
มาวินไม่ควรรู้…
ไม่ควรรู้เลยจริง ๆ ว่ามารดาของแกทรยศบิดาเช่นไร…
**** เนื้อหายังมีติดขัดต้องขออภัยนะคะ
ฝากหนูอัยย์กับมาวินด้วยนะคะ
เนื้อหาที่ลงยังไม่มีการปรับแก้ ตรวจคำผิด
อาจมีบางส่วนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ทุกๆ เรื่องเลยนะคะ
รัก... เอริณ
ความคิดเห็น