คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 3 ตัวตน (50%) รีไรท์
บทที่ 3 ตัวตน
ร่างเกือบเปลือยของชายหญิงที่กำลังกอดจูบกันนัวเนียบนโซฟาสีเบจภายในห้องรับแขกของบ้านส่งผลให้จังหวะการเดินของคนมาใหม่ชะงักค้าง ใบหน้าสวยจัดจ้านเบิกตากลมโตคู่เฉี่ยวที่แต่งแต้มมาอย่างดีจนแทบถลน ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดเม้มแน่น มือที่กำเข้าหากันจิกเล็บจนเจ็บฝ่ามือ ก่อนตะเบ็งเสียงร้องเรียก ‘คนของตน’ ดังลั่น
“มาวิน!”
ร่างของชายเจ้าของชื่อชะงัก ผละริมฝีปากที่กำลังจุมพิตซุกไซ้ซอกคอสาวลูกครึ่งบนตัก แล้วเหลือบหางตามองมานิ่ง ๆ
เห็นดังนั้นร่างสะโอดสะองที่เพิ่งก้าวขาพ้นประตูบ้านก็พุ่งตัวเข้าไป กระชากผมสีบลอนด์ทองตามเชื้อสายฝั่งมารดาออกมาจากร่างของแฟนหนุ่ม ออกแรงเท่าที่สาวเอเชียซึ่งตัวเล็กกว่าจะทำได้ผลักจนร่างระหงสูงกว่าตนมากนักห่างออกไป
“อีซี่!” ชื่อที่คุ้นปาก นามที่คุ้นเคยถูกเรียกออกมาทั้งน้ำตาที่รินไหล “นี่ผัวกูนะ มึงเป็นเพื่อนกู เอาผัวกูได้ยังไง!”
ซูซี่เม้มปาก ขยับกายเล็กน้อยจัดชุดเดรสสั้นสีน้ำเงินเข้มของตนให้เข้าที่ ก่อนเดินเข้ามาหา ‘เพื่อนสนิท’ คลี่ยิ้มหวั่น ๆ พร้อมเอ่ยเสียงเบาอย่างประนีประนอม
“เอ่อ หนูดีใจเย็น ๆ นะ”
เจ้าของชื่อเล่นน่าเอ็นดูผิดกับรูปลักษณ์ปราดเปรียวตรงหน้า แค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนหันขวับกลับมาหาชายหนุ่มที่กำลังขยับกายนั่งกึ่งนอนอย่างสบายใจบนโซฟาตัวเดิม
“วิน ทำไมคุณทำกับหนูดีแบบนี้คะ”
คนถูกถามไม่ได้ตอบทันที ขมวดคิ้วมองหน้าสะสวยนิ่งนาน ก่อนถอนหายใจทิ้ง แล้วขยับตัวลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวเดินเชื่องช้าเข้ามาหาด้วยใบหน้าเย็นชา แววตารำคาญใจอย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็น
ร่างสูงในชุดกางเกงนอนขายาวสีเทา ท่อนบนเปลือยเปล่า แต่เต็มไปด้วยรอยลิปสติกสีแดงอ่อนหยุดยืนตรงหน้าคนตัวเล็กแล้วเขม็งมอง รอยยิ้มบนมุมปากข้างขวายกสูงพร้อมใบหน้าหล่อเหลาละมุนตาขยับเข้าหาแล้วเอ่ยถาม
“ทำอะไร” อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูงคล้ายนึกสนุก ก่อนหันไปมองผู้หญิงอีกคนแล้วหัวเราะลงคอ
“ถ้าหมายถึงเรื่องที่ฉันนอนกับเพื่อนเธอ ฉันว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร อีกอย่าง…” ดวงตาคู่คมที่เคยเรืองรองไปด้วยความอ่อนโยนทอประกายมาดร้ายยามเอ่ยต่อ “เธอเองก็นอนกับลูกน้องฉันไม่ใช่เหรอ”
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับณธิดาค่อนไปทางชั่วคราวมากกว่าจะถาวร ตั้งแต่เขาย้ายมาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของรัฐฟลอริดาก็เกือบสี่เดือน ช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาเขานอนกับผู้หญิงมากกว่าจำนวนวันที่อยู่ที่นี่เสียอีก ทว่าหลังพบกับณธิดาซึ่งเป็นนักเรียนไทยด้วยกันโดยบังเอิญก็ไม่ได้มีใครอื่นอีกเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว ตอนที่คบหากันเขาไม่ทราบที่มาที่ไปของอีกฝ่าย เพราะปัจจัยสำคัญในความสัมพันธ์ล้วนเป็นเรื่องของเซ็กซ์เสียมากกว่า กระทั่ง ‘คริส เมอร์สัน’ ลูกน้องที่เขาเก็บได้ตอนไปเที่ยวผับ ยามอีกฝ่ายถูกกระทืบแล้วเขาบังเอิญยื่นมือเข้าไปสอดจนช่วยเหลืออีกฝ่ายมาได้จะมาสารภาพว่าหลับนอนกับณธิดาเมื่อคืนก่อน ตอนมีปาร์ตี้แล้วมันเมาหัวราน้ำจำอะไรไม่ได้ ตอนแรกเขาไม่เชื่อ ซักถามจนรู้ความในหลาย ๆ เรื่องจึงกระจ่างชัด
คริสเป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิด เกิด และเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนจะถีบตัวเองขึ้นมาทำงานในผับดังกล่าวเพื่อส่งตัวเองเรียน มันนิสัยห่าม ๆ พูดจาชวนแจกกำปั้น อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี แต่นับว่าเป็นคนนิสัยใจคอพอคบหาได้ มาวินจึงยื่นข้อเสนอเรื่องค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน รวมทั้งเงินเดือนที่เห็นแล้วไม่อาจปฏิเสธได้แลกกับการทำหน้าที่เป็น ‘คนสนิท’ ของเขา อีกฝ่ายไม่คิดให้เสียเวลาก็ตอบรับทันทีทั้งที่เขายังพูดไม่จบด้วยซ้ำ
คนที่ค่อนข้างห่าม ๆ พูดจาตรงไปตรงมา และเกิดในอเมริกาหรือจะเข้าใจวิธีการ ‘อ่อย’ ของผู้หญิงคนนั้น เขาถามหลายอย่าง กระทั่งแน่ใจว่าณธิดาหมายตาคนสนิทของตนมานานแค่ไหนจึงคิดแผนตลบหลัง เอาคืนให้อีกฝ่ายแสบคันจนเต้นเร่าอย่างที่เห็น
“เธอคิดว่าไอ้คริสมันจะเห็นเซ็กซ์ของเธอดีกว่าเงินของฉันหรือไง ฮึ เสียใจที่ต้องบอกว่าลูกน้องฉันมันไม่โง่ขนาดนั้นหรอกนะ!”
ตอนที่คริสสารภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาเอ่ยปากถามถึงความชื่นชอบในตัวของณธิดากับคนสนิท หากทั้งสองฝ่ายมีใจให้กัน เขาจะโกรธก็ไม่ใช่เรื่อง แต่คริสกับทำสีหน้าตื่นตกใจ โบกมือแก้ไขความเข้าใจผิดของเขาทันที
“คืนนั้นผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านอนกับใคร จนกระทั่งเจอบัตรนักศึกษาของเธอ”
เขาขำจนแทบตกโซฟาตอนได้ยินหนุ่มฝรั่งขนานแท้ทำสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ
คริสมันห่ามก็จริง เก่งในเรื่องชกต่อยก็ใช่ แต่กับเรื่องผู้หญิงมันโง่ยิ่งกว่าอะไร ตามใครเขาไม่ค่อยทันหรอก ยิ่งกับเศรษฐีตกอับที่อยากชุบตัวแล้วละก็… ยิ่งไม่มีวันตามทันแน่นอน
“เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอหนูดีว่าเหตุผลที่เธอเข้าหาฉันมันเพราะอะไร แต่ขอโทษด้วยนะที่ต้องบอกให้รู้เอาไว้ บ้านฉันก็ไม่ต่างจากเธอ แอลเอ็นกรุปกำลังจะล้มแหล่มิล้มแหล่อีกปีสองปีข้างหน้า เลิศวรานนท์คงช่วยศิวะวิบูลย์ไม่ได้หรอก หึ”
ท้ายประโยคเสียงหัวเราะของเขาเบาลง รอยยิ้มมุมปากกลับมาเป็นรอยยิ้มอบอุ่นแสนอ่อนโยนดังเดิม
“ที่สำคัญเงินของฉันไม่มีไว้ให้ผู้หญิงสำส่อนอย่างเธอ!”
คนที่ยืนนิ่งงัน ฟังทุกอย่างด้วยความตื่นตกใจระคนหวาดกลัวสะดุ้งโหยง เงยหน้าพร้อมน้ำตาอาบแก้มมองมาอย่างตัดพ้อ แม้แผนการเข้าหามาวินจะเริ่มจากเงิน แต่พอได้คบหากันจริง ๆ ณธิดาไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ดีแสนดีแค่ไหน
ทว่าพอได้ยินวาจาผรุสวาทจากปากเขาเป็นครั้งแรก นัยน์ตาอ่อนโยนคู่เดิมพาดผ่านความเย็นชาก็สำนึกได้ทันทีว่า…
“ที่แท้ตัวตนของคุณก็เป็นแบบนี้นี่เอง” น้ำเสียงสั่นพร่าขาด ๆ หาย ๆ ยามเอ่ยตอบออกไปทั้งใจสั่น
หากมาวินกลับแย้มยิ้มกว้างขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบราวเจ้าชายสูงศักดิ์เอียงเล็กน้อย
“เพิ่งรู้เหรอ”
ใบหน้าตอนที่ถามกลับมาว่า ‘เพิ่งรู้เหรอ’ ค่อนไปทางเย้ยหยัน แววตาวาบผ่านความสนุกมากกว่าจะเป็นความอ่อนโยนเช่นที่ผ่านมา
ณธิดากัดริมฝีปาก ข้อมือเล็กที่ถูกซูซี่แตะเบา ๆ ถูกสะบัดออก ชี้นิ้วใส่ใบหน้าหล่อเหลาแล้วเค้นเสียงขู่
“ฉันจะแฉแก!”
“แฉ?” มาวินเงยหน้าขึ้นหัวเราะจนตัวโยน ยิ่งมองคนที่โกรธจนร่างสั่นเทายิ่งนึกสนุก
“แฉเลย ถ้าเธอไม่กลัวคลิปตอนเอากับไอ้คริสที่หน้าประตูห้องจะว่อนพอนฮับน่ะนะ” เขาหัวเราะเบาลง ก้มหน้าเดินเข้าหา ดวงตาอ่อนโยนคู่เดิมจ้องมองมาอย่างท้าทาย
หากณธิดาไม่อาจหาสิ่งใดมางัดข้อ จะข่มขู่คนที่มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมยิ่งไม่มีผล
“แกมันเลว” จิกปลายเล็กลงไปบนฝ่ามือแรงขึ้น เมื่อร่างที่ถูกด่าว่า ‘เลว’ กลับสะท้านเบา ๆ แล้วหัวเราะเสียงดังลั่น
มาวินไม่ได้โกรธกับคำบริภาษเมื่อครู่สักนิด เพราะที่ผ่านมาสี่เดือนเขาฟังจนชาชินเสียแล้ว
ตอนอยู่เมืองไทยเขาอาจเป็นเทพบุตรในสายตาของทุกคน ทว่าเมื่ออยู่ที่นี่เขาจะเป็นเช่นไรใครเดือดร้อน
ที่ผ่านมาเขาทำดี แต่ไม่เคยบอกสักครั้งว่าตัวเองเป็นคนดี…
“ฉันเคยพูดเหรอว่าตัวเองเป็นคนดี ความจริงฉันชั่วมาตั้งนานแล้ว แค่ไม่แสดงออกเท่านั้นเอง”
บางครั้งเวลาที่เขาต้องสวมหน้ากากก็ยาวนานจนใครหลายคนเข้าใจผิดคิดว่านั่นคือตัวตนของเขา ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วภายใต้หน้ากากหนาหนักนั้นอาจเป็นปีศาจจำแลงกาย… เช่นเขาก็เป็นได้
ในขณะที่มาวินจมดิ่งลงไปในความทุกข์ตรม ใช้ชีวิตอย่างที่ใจปรารถนาโดยไม่สนใจว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือเลวแค่ไหน ทว่าเขายังคงเป็นผู้ชายแสนดีในสายตาของคนที่นี่ ไม่มีใครเคยได้เห็นด้านมืดของเขาสักครั้ง ไม่สิ่งใดเปลี่ยนแปลง แม้มารดาของชายหนุ่มจะรู้ทุกอย่างเต็มอก หากก็ยังก้มหน้าทำงาน แบกรับความกดดันทั้งหมดเอาไว้พร้อมประคับประคองบริษัทด้วยสองแขนเรียวอย่างเต็มกำลัง
วาคินมองมารดาตรากตรำทำงานอย่างหนักด้วยความรู้สึกรวดร้าว ในขณะที่พี่ชายต่างบิดาใช้ชีวิตที่อเมริกาอย่างฟุ้งเฟ้อ หยิบจ่ายเงินทองมือเติบ บ้านเลิศวรานนท์ในเวลานี้กลับอัตคัดอย่างเห็นได้ชัด แม้วาคินจะไม่ได้หยิบใช้เงินทองจากกองกลาง เพราะมีสินเดิมของบิดา และครอบครัวของบิดายังคงส่งเสียอยู่ก่อน รวมทั้งมีมรดกจากการแบ่งสันปันส่วนของผู้เป็นตาที่มอบเอาไว้ให้ก่อนล่วงลับ เนื่องจากผู้สูงวัยมองออกว่าบุตรสาวซึ่งได้ชื่อว่ามารดาของวาคินคงไม่เหลียวแลเด็กหนุ่มเท่าที่ควร ค่าใช้จ่ายส่วนของเขา และคนสนิทจึงไม่ได้ถูกนับรวมเข้าไปด้วย ทว่ากับคุณหญิงวารีไม่ใช่ นอกจากต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งส่งให้บุตรชายคนโตแล้ว เงินอีกส่วนก็ยังต้องแบ่งไว้ใช้จ่ายในบ้าน ถ้ามองจากภายนอกจำนวนเงินย่อมมากโข แต่เมื่อเทียบกับฐานะที่เคยมีก่อนหน้ามันกลับน้อยลงมาก
หลังจากมาวินไปเรียนต่อที่อเมริกาได้เพียงหกเดือน บ้านเลิศวรานนท์ที่เคยมีคนเข้าออกหนาตาก็เริ่มเงียบเหงา คนงานหลายคนถูกคัดออก และหลายคนเลือกลาออกเอง เนื่องจากบ้านหลังใหญ่โตหรูหราที่เคยเฟื่องฟูไม่อาจแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้แล้ว
วรันย์ทนมองคุณหนูของตนโหมงานหนักจนใบหน้าซูบตอบไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ว่าจะพยายามช่วยเหลืออย่างไร ก็เหมือนจะไร้ผล เพราะเขาเป็นเพียงบอดีการ์ด ไหนเลยจะหาทางออกอะไรได้มากนัก
กระทั่งครบขวบปี บ้านเลิศวรานนท์ก็ไร้ผู้คนเข้าออกโดยสิ้นเชิง
สมาชิกในบ้านยังคงเหลือเพียงคุณหญิงวารี วรันย์ อัยริน วาคิน ทัศนัย นมแม้น และคนรับใช้อีกเพียงสองคน ทุกอย่างเข้าขั้นวิกฤติ หุ้นที่ราคาตก ร่วงกราวราวเม็ดฝนในวันที่ข่าวซุบซิบเรื่องความประพฤติของมาวินกำลังกระฉ่อนไปทั่วเมือง คุณหญิงวารีหอบกายทรุดโทรมกลับบ้าน ปิดห้องขังตัวเองพร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่สองวันเต็ม ข้าวปลาไม่ยอมแตะ ใครเรียกก็ไม่ขานตอบ กระทั่งอัยรินซึ่งเป็นคนโปรดก็ยังไม่ได้เข้าไปนอนกับท่านอีก
วาคินร้อนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยวัยที่ยังน้อยของตนจึงทำสิ่งใดไม่ได้มาก ทว่า… คนคนเดียวที่เด็กหนุ่มคิดถึงก็คือ… คุณเตชิน อดีตสามีของมารดา ผู้ขึ้นชื่อว่าบิดาของมาวิน
**** เนื้อหายังมีติดขัดต้องขออภัยนะคะ
ฝากหนูอัยย์กับมาวินด้วยนะคะ
เนื้อหาที่ลงยังไม่มีการปรับแก้ ตรวจคำผิด
อาจมีบางส่วนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ทุกๆ เรื่องเลยนะคะ
รัก... เอริณ
ความคิดเห็น