Fiction แฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่อง คำสัญญา
คำสัญญาที่ให้ไว้ฉันจะรักษามันให้ดีที่สุด...
ผู้เข้าชมรวม
1,574
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สายลมเย็นยะเยือกในฤดูหนาวอันยาวนาน พัดผ่านกระทบใบหน้าขาวซีดที่นั่งเหม่อมองดูแสงตะวันในยามเช้า
ริมระเบียงห้องนอน อย่างสุขใจ
"คุณยายทำไมตื่นเช้าจังครับ" เสียงแหลมเล็กของเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังหญิงชรา หญิงชรายังคงนั่งนิ่งๆ ไม่ตอบคำถามใดใดของเด็กชาย
"คุณยาย...." เด็กชายเรียกหญิงชราที่นั่งอยู่บนรถเข็นอีกครั้ง พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอ
"ยายได้ยิน....." หญิงชราตอบขึ้นเสียงแผ่วเบา เด็กชายตัวน้อยเดินเข้าไปยืนข้างๆ หญิงชรา พร้อมกับนั่งคุกเข่าลงข้างๆ เธอ
"คุณยายไม่หนาวหรอ" เด็กชายถามขึ้น พลางเอามือน้อยๆ ของเขา เกาะกุมมือของหญิงชรา
"ไม่จ้ะ...ยายชอบอากาศหนาว..มันจะทำให้ยายรู้สึกถึงความสุขทุกครั้ง" หญิงชราพูดพร้อมกับหันมาส่งยิ้มเบาๆ ให้เด็กชายอย่างอ่อนโยน
"คุณตาจากไป 10 กว่าปีแล้ว...คุณยายคงจะเหงามากใช่ไหมครับ" เด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นอย่างใสซื่อ พลางลูบมืออ่อนนุ่มของหญิงชราไปมา
หญิงชรายิ้มเบาๆ ให้กับเด็กชายโดยที่ไม่มีคำพูดใดใด ออกจากปากของเธอ หญิงชรายังคงหันไปมองดวงตะวันที่กำลังลอยขึ้นจากขอบฟ้าไกลอย่างช้าๆ
เธอเหม่อมองอยู่สักครู่ ก่อนจะถอนหายใจและกดปุ่มข้างๆ พนักแขนที่รถเข็นของเธอ ให้หมุนกลับหลังอย่างช้าๆ
เด็กชายลุกขึ้นในขณะที่รถเข็นของหญิงชรา หมุนตัวกลับ
"เข้ามาข้างในกันดีกว่าจ้ะ" หญิงชราพูดขึ้นอย่างแผ่วเบากับเด็กชาย
ทั้งสองเข้าไปภายในห้องนอนสีครีมอบอุ่น เด็กชายตัวน้อยเดินตามหลังหญิงชราเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงห้องนอน เด็กชายจึงหันหลังไปปิดประตูระเบียงบานใหญ่
เพื่อกันอากาศหนาวเข้ามาในห้องนอน
หญิงชราค่อยๆ ลุกขึ้นจากรถเข็นและเดินอย่างเชื่องช้าไปที่โซฟานวมตัวใหญ่หนานุ่ม
"มานั่งตรงนี้ซิจ๊ะ" หญิงชรากล่าวเรียกหลานชายให้มานั่งใกล้ๆ เธอ
เด็กชายทำตามอย่างเร่งรีบ เขารีบเดินตรงไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆ หญิงชราอย่างเร็ว และนั่งลงอย่างสบายๆ ใกล้ๆ เธอ
หญิงชราทอดสายตามองหลานชายตัวน้อยอย่างอ่อนโยน
"หลานเหมือนคุณปู่ของหลานจังนะ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน เด็กชายอมยิ้มเล็กน้อยอย่างเคอะเขิน
"ใครๆ ก็พูดกันแบบนั้นครับ" เด็กชายพูดพลางเอามือลูบผมที่หวีไว้เรียบแปร้อย่างดี
"ปีหน้า หลานก็จะเข้าโรงเรียนแล้วสินะ" หญิงชราพูดพลางหยิบถ้วยน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกขึ้นมาจิบเบาๆ
"ครับ..ผมตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้...ไม่รู้ว่าจะได้อยู่บ้านไหน" เด็กชายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นบวกกับสีหน้าครุ่นคิด
หญิงชรามองดูหลานชายของเธออย่างเอ็นดู พลางวางถ้วยน้ำชาไว้ที่โต๊ะอย่างเดิม
"อยู่บ้านไหนไม่สำคัญหรอกนะ..มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองตัดสินวิถีชีวิตของเรา..หลานรัก" หญิงชรากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เด็กชายมองเธออย่างเข้าใจ พร้อมกับผยักหน้าเล็กน้อย
หญิงชราลุกขึ้นจากโซฟาตัวใหญ่ และกำลังจะเดินที่ไปเตียง เด็กชายไม่รอช้า เขารีบเดินไปข้างๆ หญิงชรา
พร้อมกับประคองเธอที่ไปเตียงอย่างระมัดระวัง เมื่อถึงเตียงนอน หญิงชราค่อยๆ นั่งลงและเอนกายนอนลงอย่างช้าๆ โดย
มีหลานชายตัวน้อยค่อยประคองเธอและห่มผ้าให้เธออย่างเบามือ หญิงชราส่งยิ้มอ่อนโยนให้หลานชาย อย่างขอบใจ
เด็กชายค่อยๆ เลื่อนเก้าอี้ ข้างๆ เตียงมานั่งใกล้ๆ หญิงชรา พร้อมกับส่งยิ้มให้เธอและเกาะกุมมือของเธอไว้
ทันใดนั้นเอง เกิดเสียงดังขึ้น ราวกับมีบางสิ่งกระทบกับกระจกหน้าต่างแรง ๆ
เด็กชายหันไปมองที่ต้นเสียงโดยเร็ว ปรากฏร่างเล็กๆ เกาะที่อยู่ขอบหน้าต่าง บนหัวของมันมีแต่หิมะเกาะเต็มไปหมด
"นกฮูกเองหรอ" เด็กชายพูดพร้อมกับปล่อยมือที่เกาะกุมมือหญิงชรา และ เดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อเปิดให้ นกฮูกตัวนั้นบินเข้ามา
เด็กชายสังเกตุเห็นนกฮูกคาบจดหมายติดมาด้วย เมื่อนกฮูกบินเข้ามาถึงในห้องนอน มันบินวนไปวนมารอบๆ ตัว หญิงชรา
ก่อนจะปล่อยจดหมายลงบนตัวเธอและบินจากไปอย่างสง่างาม เด็กชายมองอย่างงุนงง พร้อมกับเดินกลับมานั่งลงที่เดิม
"ใครเขียนถึงคุณยายหรอครับ" เด็กชายมองอย่างสงสัยเมื่อเห็นหญิงชรามองจดหมายนั้นและพลิกมันกลับไปกลับมา
"เอ่อ....หลานรัก..หลานช่วยไปที่ห้องสมุด..และหยิบหนังสือสักเล่มมาให้ยายได้ไหม..ยายอยากจะอ่านอะไรแก้เบื่อซะหน่อย" หล่อนพูดพร้อมกับส่งสายตาอ่อนโยน
มาให้หลานชาย เด็กชายผยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้และเปิดประตูบานใหญ่เดินออกจากห้องไป
เมื่อประตูปิดลง หญิงชราที่กำลังนอนเอนกายอยู่จึงค่อยๆ ยันตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง พร้อมกับหยิบจดหมายเมื่อครู่ขึ้นมา เธอจ้องมองมันอย่างพินิจพิจารณา
ก่อนจะแกะมันออกและคลี่กระดาษจดหมายนั้นออก ลายมือในจดหมายที่ปรากฏต่อหน้าเธอเป็นลายมือแสนคุ้นตา ลายมือที่เธอจดจำมันได้
แม้จะไม่ได้เห็นมันมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม....มือเรียวยาวของหญิงชราที่กำลังถือจดหมายอยู่สั่นขึ้นเล็กน้อย เธอหายใจหอบอย่างช้าๆ
และเริ่มอ่านจดหมาย......
ถึง เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์
เธอคงแปลกใจที่ฉันยังคงเรียกเธอแบบนี้ซินะ.. แต่มันคือความพึงพอใจของฉัน จะขอบใจมากหากเธอไม่ว่าอะไร
เพราะในสายตาฉัน....เธอยังเป็นเด็กสาวธรรมดา...ไม่ใช่คุณนายวิสลีย์ ไม่ใช่แม่ของลูกสะใภ้ฉัน ไม่ใช่คุณยายของเดรโก คิงเลียส์ มัลฟอย
แต่เธอยังเป็น เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ของฉันเสมอ ..ไม่ว่าเวลารอบตัวฉันจะหมุนไปแค่ไหน เวลาที่ฉันมีเธอมันยังคุงหยุดอยู่ที่เดิมตลอดกาล
นับจากวันนั้นที่ชานชาลา 9 เศษ 3 ส่วน 4 ฉันได้เห็นแล้วว่า ฉันคิดไม่ผิดเลยที่ปล่อยให้เธอได้มีชีวิตครอบครัวกับวิสลีย์ เพราะอย่างน้อยเธอก็ปลอดภัย
อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นใบหน้าของเธอที่ฉันรักนักหนา..แทนการได้เห็นป้ายหลุมศพเธอ แลกกับการที่ฉันต้องเจ็บปวด แต่มันก็เป็นราคาที่คุ้มค่า เมื่อแลกกับชีวิตเธอ
ฉันเฝ้าภาวนาให้เธอมีความสุขเสมอ เฮอร์ไมโอนี... ไม่ว่าเธอจะต้องล้มลุกคลุกคลาน หรือเจ็บป่วยสักกี่ครั้ง ..ฉันหวังให้เธอได้มีชีวิตที่ยืนยาว
อยู่ไปจนแก่เฒ่า ได้เห็นงานแต่งงานของลูกๆ ได้อยู่เห็นหน้าหลาน ต้องขอบใจเธอมาก ที่ไม่กีดกั้นเรื่อง โรสกับสกอร์เปียส สำหรับฉันกลับเต็มใจมาก..
ที่ทั้งสองได้รักกัน...ฉันดีใจมาก ที่อย่างน้อยๆ เลือดเนื้อส่วนหนึ่งของฉัน ก็มีโอกาสจะได้พบรักแท้และสมหวังกับความสุข
ฉันอยากจะขอโทษเธอ กับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันเฝ้าภาวนาทุกวันคืนให้เธอเข้าใจ สิ่งที่ฉันทำทั้งหมด ..มันเกิดขึ้นเพราะ รักเธอเพียงเท่านั้น
และฉันอยากขอบใจเธอ..ที่อย่างน้อย เธอเคยรักคนอย่างฉัน ...ฉันไม่เคยลืมคำสาบานที่ให้ไว้กับเธอ เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป...เฮอร์ไมโอนี
เมื่อเธอได้อ่านจดหมายฉบับนี้..ฉันคิดว่า ฉันคงจะหลับอยู่ที่นี้ไปตลอดกาล ..เฮอร์ไมโอนี สุดที่รักของฉัน ฉันหวังให้เธอมีอายุยืนยาว
มากกว่า 100 ปี แม้เธอจะไม่เหลือใครรอบกาย แต่ฉันอยากให้เธอเชื่อว่าฉันจะอยู่กับเธอเสมอ..ในสายลมหนาว หรือในแดดอุ่น
ฉันไม่อาจเป็นดวงตะวันให้เธอ แต่ฉันจะเป็นเพียงคนที่รักและทำเพื่อเธอได้ทุกอย่างแค่นั้นพอ
ฉันขอเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความทรงจำของเธอ....แค่นี้มันก็เพียงพอสำหรับฉันแล้ว
ฉันไม่ขอให้เธออภัยในความผิด..แต่ฉันอยากให้เธอรู้เพียงว่า ฉันยินดีและเต็มใจเสมอที่จะแลกทุกสิ่งแม้แต่ชีวิต...เพื่อความสุขของเธอ
หากฉันและเธอ เกิดช้ากว่านี้อีกสัก 100 ปี ..เราคงจะมีโอกาสได้รักกัน เฮอร์ไมโอนี ฉันรู้สึกว่า แรงของฉันคงจะใกล้หมดแล้ว
ฉันขอให้เธอมีความสุขมากๆ นะ อย่าร้องไห้และเศร้าหมอง...ทุกครั้งที่เธอยิ้มฉันจะมีความสุขนะ.........รู้หรือเปล่า
ฉันรักเธอเสมอ
เดรโก มัลฟอย
หยดน้ำใสๆ ค่อยๆ หยดลงบนแผ่นกระดาษสีน้ำตาลอ่อน มือของหญิงชราสั่นเทาเสียจนไม่อาจถือกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือได้
รอยหยดน้ำที่อยู่บนกระดาษค่อยๆ แผ่กระจายตัวออกเป็นวงกว้างละลายกระดาษให้กลายเป็นควันสีชมพูจางๆ ส่งกลิ่นหอมหวลไปทั่วบริเวณนั้น
หญิงชราเฝ้ามองกระดาษค่อยๆ ละลายตัวเองอย่างช้าๆ พร้อมกับใช้มือปาดน้ำตาที่แก้มของเธออย่างแผ่วเบา
"ทำไม.........." เสียงแหบแห้งแผ่วเบาของหญิงชราเอ่ยขึ้นกับตัวเอง
"ทำไมเธอโง่แบบนี้..." น้ำเสียงหญิงชราสะอื้นเบาๆ เธอค่อยๆเลื่อนมือไปบีบที่อกด้านซ้าย ราวกับเธอกำลังเจ็บหัวใจ
"ฉัน...ฉัน..ฉันขอโทษ...เดรโก" หญิงชราพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เธอพยายามปรับความรู้สึกเศร้าหมองให้หายไป
"ฉันจะไม่ร้องไห้เด็ดขาด...ฉันสัญญาเดรโก..ฉันสัญญา" หญิงชราปาดน้ำตาออกจากแก้มของตัวเอง พร้อมกับสูดหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ
เสียงเปิดประตูบานใหญ่ดังขึ้น เด็กชายตัวน้อยกลับมาพร้อมกับหนังสือเล่มใหญ่สองสามเล่ม เขาเดินตรงมาหาหญิงชราที่นั่งอยู่บนเตียง
พร้อมกับวางหนังสือไว้บนเตียงหญิงชราก่อนจะนำพาร่างของตัวเองกระโดดขึ้นมานั่งบนเตียงหญิงชราเช่นกัน
"ได้หนังสือมาแล้วครับคุณยาย" เด็กชายยิ้มกว้าง พร้อมกับยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้หญิงชรา
"ขอบใจมาก....เดรโก" หญิงชรายิ้มอย่างแผ่วเบาให้หลานชาย พร้อมกับรับหนังสือที่อยู่ตรงหน้า
เธอค่อยๆ เปิดปกหนังสืออย่างช้า ๆ
"หนังสือเล่มนี้เป็นของ เดรโก มัลฟอย" หญิงชราชะงักเล็กน้อย ทำให้เด็กชายออกอาการสงสัยขึ้นมา เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวมาดูหนังสือในมือหญิงชรา
"เดรโก มัลฟอย..นี้มันหนังสือของคุณปู่ใช่ไหมครับ..ทำไมมาอยู่ในบ้านนี้ได้หละ" เด็กชายแสดงอาการแปลกใจ
หญิงชราอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะให้คำตอบหลานชาย
"สงสัยว่า..พ่อหลานคงจะเอามา...หลานรู้เรื่องปู่ของหลานบ้างไหม" หญิงชราเอ่ยถามหลานชายอย่างอ่อนโยน เด็กชายทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย
"เอ่อ..รู้สึกว่า พ่อจะบอกว่า คุณปู่ไปอยู่บ้านส่วนตัวที่ไหนก็ไม่รู้..พ่อรู้แต่ว่า คุณปู่บอกว่า ไม่ต้องตามหา ให้คิดว่า ปู่ตายไปแล้วครับ" เด็กชายตอบอย่างใสซื่อ
หญิงชรามองหลานชายอย่างอ่อนโยน พร้อมกับคิดว่า เป็นโชคดีหนักหนา ที่โรสและสกอร์เปียส
ได้เกิดในยุคที่ศาสตร์มืดและการแบ่งชนชั้นทางสายเลือดจางหายไปบ้างแล้ว
ไม่เช่นนั้น เธอคงจะไม่ได้มีหลานชายที่น่ารักขนาดนี้และบางที เดรโก คิงเลียส์ อาจจะไม่ได้พบกับความสุขในครอบครัวเช่นนี้
หญิงชราใช้มือลูบเรือนผมเรียบแปร้ของหลานชายอย่างอ่อนโยน เขาช่างดูเหมือน เดรโก มัลฟอย ศัตรูตัวร้ายของเธอเหลือเกิน ราวกับว่าเขากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
แต่โชคดีที่หลานชายเธอ ไม่ร้ายกาจอย่างเดรโก มัลฟอย แต่ก็อาจมีเจ้าเล่ห์บ้าง ตามนิสัยของบรรพบุรุษฝ่ายพ่อ หญิงชราคิดอย่างขบขัน
เด็กชายโผเข้ากอดหญิงชราที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
"คุณยายครับ..วันนี้อ่านเล่มนี้ให้ผมฟังหน่อยนะ" เด็กชายส่งเสียงอย่างออดอ้อน หญิงชราส่ายหน้าเบาๆ อย่างถอดใจ
"ก็ได้..เดรโก..แต่หลานต้องสัญญานะว่า ยายอ่านจบ หลานต้องสรุปเนื้อเรื่องของเล่มนี้..มาให้ยายอ่าน...ตกลงไหม" เด็กชายจุ๊ปากอย่างเซ็งๆ แต่ก็ผยักหน้ารับคำหญิงชรา
หญิงชรามองหลานชายอย่างเอ็นดู
"เดรโก....ฉันสัญญา...ฉันจะมีชีวิตให้ยืนยาวที่สุดเท่าที่ฉันจะรักษามันไว้ได้..ฉันจะดูแลเลี้ยงดู เดรโก คิงเลียส์ ให้เก่งกาจเหมือนกับเธอ...เขาจะไม่แพ้ปู่ของเขา..ฉันสัญญา"
เฮอร์ไมโอนี วิสลีย์ หญิงชราวัย 84 ปี นั่งอ่านหนังสือ "เรื่องน่ารู้ของมักเกิ้ล" ให้หลานชายผมบอร์นเรียบแปร้ ของเธอฟัง
สายลมหนาวด้านนอกยังลงพัดผ่าน แต่อากาศภายในห้องนอนของหญิงชรากลับอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรัก
กาลเวลาผ่านพ้นไปหลายทศวรรต โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย
ขอบเขตโลกเวทมนต์และโลกของมักเกิ้ลเหนียวแน่นขึ้น พ่อมดและแม่มดที่เกิดจากมักเกิ้ลมีจำนวนน้อยลง
เพราะวิวัฒนาการณ์ทางวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าเกินกว่าที่ใครจะสามารถยั้บยั้งได้ ทำให้ความเชื่อทางเวทมนต์สำหรับมักเกิ้ลหายไป
เฮอร์ไมโอนี เจน วิสลีย์ มีอายุยืนยาวถึง 187 ปี ยืนยาวที่สุดเท่าที่แม่มดที่เกิดจากมักเกิ้ลจะสามารถทำได้ เธอจบชีวิตอย่างสงบในห้องนอนสีครีมของเธอ
ท่ามกลางเครือญาติจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมี เฮอร์ไมโอนี มัลฟอย และ เดรโก มัลฟอย เหลนรุ่น 3 ของเธอ อยู่ในนั้นด้วย
เธอหลับอย่างสงบในสวนดอกกุหลาบสีแดงสดห่างจากตัวคฤหาสถ์วิสลีย์ออกไปหลายกิโลเมตร เป็นเขตบริเวณหวงห้ามสำหรับบุคคลภายนอก
คำขอสุดท้ายของเธอก่อนลาจากโลกนี้ไปคือ ขอให้ลูกหลานของเธอทั้งในตระกูลวิสลีย์และมัลฟอยทุกคน ใช้ชื่อ เฮอร์ไมโอนี หรือ เดรโก เป็นชื่อหลักหรือชื่อรองไปตลอดกาล......
ผลงานอื่นๆ ของ Rose-MiyuKi ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Rose-MiyuKi
ความคิดเห็น