ตอนที่ 1 : ผมไม่อยากเป็นหม่าม๊า
เทศกาลตรุษจีน
ค.ศ. 2019
ถนนนาธาน
ฮ่องกง
เสียงเพลงฉลอง งานรื่นเริง การพูดคุย สีสันของพลุในยามค่ำคืน กลิ่นไหม้ของประทัดที่ถูดจุดและระเบิดส่งเสียงกัมปนาท เขาเกลียดมันยิ่งนัก ความสุขของคนพวกนั้นในวันปีใหม่ การมีครอบครัวรอต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น ใช่สิ เขาก็เคยหวังว่าจะได้รับสิ่งดีๆแบบนั้นแต่ตอนนี้มันกลับเหนื่อยเหลือเกิน ความกลัวกำลังกัดกินจิตใจของเขา มือทั้งสองข้างกำชายเสื้อตัวโคร่งที่ใหญ่เกินตัวเขามาก มันไม่พอดีเลยสักนิดแต่มันปกปิดบางสิ่งที่น่าละอาย บางสิ่งที่เขาได้ทำผิดพลาด จนไม่กล้าแม้จะสู้หน้าใครๆ
เซียวจ้านจะสู้หน้าพ่อแม่ได้อย่างไรเมื่อต้องแบกท้องโย้ๆกลับไปฉลองปีใหม่กับพวกท่าน
ปีก่อนเขาเคยเป็นพนักงานเงินเดือนแผนกนำเข้าสินค้าที่บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งที่เซี่ยงไฮ้ เขามันเป็นพวกทะเล้น ตลกกับทุกเรื่อง ไม่ชอบเคร่งเครียดกับอะไรมากนัก เพื่อนร่วมงานต่างพากันขำกับมุขตลกที่ไม่เคยแป้กของเขา แถมยังเฮโลไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้งเพราะเขามันอัธยาศัยดี ใครก็มองว่าไอ้เซียวจ้านมันยิ้มบ่อยเหมือนคนบ้าขนาดโดนเจ้านายด่ายังยิ้มได้
จนวันนึงที่แผนกเรามีโอกาสรับพนักงานใหม่เข้ามา เด็กคนนั้นเป็นนักศึกษาจบใหม่จากมหาลัยดัง หน้าตาหล่อเหลาเอาการแถมเสื้อผ้าหน้าผมที่ประเมินยี่ห้อน่าจะเกินเงินเดือนพนักงานธรรมดาอย่างเราๆทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่ในบริษัทพูดถึงมันกันถ้วนหน้า เห็นครั้งแรกก็ดูออกว่าลูกคุณหนูขนาดนี้ มันอยู่ไม่นานแน่ ไม่ชอบหน้านักหรอกแต่ความอัธยาศัยดีมันเป็นเหตุให้เซียวจ้านคนดีที่หนึ่งต้องเป็นผู้รับหน้าที่ต้อนรับเด็กใหม่
วันแรก ‘อี้ป๋อ’ ปล่อยให้เขาผู้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการชวนมันคุยอยู่สองชั่วโมงมันตอบเขาแค่สามคำ
วันต่อมาเขาชวนอี้ป๋อไปกินข้าวกลางวันเพราะเห็นว่ายังไม่มีเพื่อน ตามแนะนำร้านอาหารเด็ดๆแต่มันกลับทำหน้าเอือมระอาเขาเต็มทน
วันถัดไปเขาเขาสอนงานอี้ป๋อได้สามคำมันบอกว่าผมทำเองได้เพื่อตัดรำคาญ
วันที่สี่มันเริ่มปรับตัวเข้ากับที่ทำงานได้แต่เสือกยังไม่มีเพื่อนคบอยู่ดี
วันที่ห้าเขาชวนมันไปสังสรรค์กับคนอื่นในบริษัทมันกลับบอกว่าคนเราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน การดื่มเหล้าหลังเลิกงานแทนที่จะกลับบ้านพักผ่อนเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ว่า เขายังดึงดันจะลากมันไปอยู่ดี
คืนนั้นคุณชายอี้ป๋อพ่อคนรวยสเน่ห์ทำเอาสาวๆในแผนกคึกคักกันใหญ่ ไม่คิดว่าจะชวนมันมาได้ทำเอาตื่นเต้นกันทั้งบริษัท เราดื่มกินกันอย่างไม่มีใครยอมใครแต่เด็กใหม่ก็ยังนั่งเงียบในมุมของตัวเอง มีบ้างที่จะมีปฏิสัมพันธ์เมื่อเพื่อนร่วมงานถามเรื่องการทำงานบนโต๊ะกินข้าว บ้าไปแล้วชีวิตเคยไม่จริงจังอะไรบ้างไหม
ในที่สุดก็ถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มเหล้า แรกๆดูทรงก็คอทองแดงดีพอผ่านไปชั่วโมงหน่อยๆเห็นทีน้องใหม่จะเริ่มเบลอ เซียวจ้านตบไหล่น้องใหม่เบาๆให้มันพอสร่างเมา แล้วชวนกันกลับบ้าน ด้วยอี้ป๋อเมาหนักกว่ารุ่นพี่อย่างเขา เซียวจ้านคนนี้จึงอุทิศตนผันตัวเป็นสายแบก แบกไอ้เด็กเสาไฟฟ้าขึ้นหลัง แล้วพาเรียกแท็กซี่ไปส่ง แต่ก็ดันไม่ถึงบ้านเพราะมันเมาเกินจะพูดรู้เรื่องว่าบ้านอยู่ที่ไหน เอาไงเอากัน เป็นสายแบกให้เธอไม่พอขอเป็นโฮสให้ที่อยู่อาศัยชั่วคราวด้วยแล้วกัน
ไม่นึกเลยว่าความเห็นอกเห็นใจของตัวเองในคืนนั้นจะพาความชิบหายมาหาตนในวันนี้
ใครจะรู้ว่าอี้ป๋อจะตื่นขึ้นมากลางดึ พร้อมสติของคนเมาที่มีอันน้อยนิด
ใครจะรู้ว่ามันกล้าเอามืออุดปากเขาไม่ให้โวยวาย
ใครจะรู้ว่าอี้ป๋อที่ตัวพอๆกับเขาจะแรงเยอะถึงขึ้นกดรุ่นพี่ที่แสนดีคนนี้จนจมเตียง
กว่าจะรู้ว่ามันกล้าทำลายน้ำใจของรุ่นพี่ร่วมงานจนไม่มีชิ้นดีหัวเขาก็หลอนไปด้วยเสียงทุ้มของอี้ป๋อตลอดการทำกิจกรรมอย่างว่า มันเอ่ยชมเขาไม่หยุดปากมันมากกว่าทุกครั้งที่ชวนคุยที่บริษัทเสียอีก
‘ห่าว นั่นหล่ะ ดีมาก’
‘คนดี’
‘ดีมาก’
เซียวจ้านสลบไปเกือบหนึ่งคืนเต็มๆแล้วผวาตื่นมาตั้งแต่เช้ามืด ตื่นก่อนไอ้เด็กเวรที่ยังนอนหลับอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้างๆ มือที่พาดบนตัวถูกผมดันออกอย่างขยะแขยง อยากซัดมันสักเปรี้ยงให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย เอาให้สมกับสิ่งที่ตัวเองโดน แต่ความหน้าหนามันยังมีไม่มากพอ จะให้ใครมารู้เรื่องนี้ไม่ได้ มันคงเป็นเรื่องอัปยศไปชั่วชีวิต ผู้ชายแท้ๆถูกผู้ชายด้วยกันแถมยังเด็กกว่าตั้งกันเกือบหกปีขืนใจ เขากำหมัดแน่น แค้นนี้ต้องชำระ ถ้ายังไม่ตายหวังอี้ป๋ออย่าหวังเลยว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข
เซียวจ้านเดินอย่างทุลักทุเลเข้าห้องน้ำ ทุกท่วงท่าเดินที่เคยคิดว่าสง่าผ่าเผยกลับถูกร่างกายอันยับเยินทำลายเสียไม่มีชิ้นดี เขาถูตัวทุกซอกทุกมุมย่างแรง รวมถึงอะไรๆที่มันเป็นสิ่งแปลกปลอมให้มันออกจากร่างกาย เจ็บแทบตายมือกำแน่นกสั่นไปหมดจนต้องเอาตัวอิงกำแพงห้องน้ำไปด้วย สะภาพทุลักทุเลทำให้อยากจะออกไปซัดกับคนข้างนอกเอาให้ตายไปข้าง แต่ได้แต่สงบสติตัวเอง ร่างกายที่ไม่พร้อมทั้งออกมานั่งสงบสติอยู่นอกห้อง นอนมือที่กำอยู่มันสั่นไปหมด
นี่บ้านเขา เขาไม่จำเป็นต้องหนี แค่ไม่พูดแค่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออก หวังอี้ป๋อเดินออกมาจากห้องนอนนอนงงๆ ทั้งยังพยักเพยิดมาทางเขาเสมือนถามว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง อยากตบกลาบมันให้หลากจำ จะสั่งสอนเอาให้ถึงพ่อถึงแม่ว่าไม่ควรมาทำแบบนี้กับผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่แสดงออกกลับมีเพียงคำพูดเบาๆ
“พอดีนายเมา เลยมานอนบ้านพี่ ถ้าตื่นแล้วก็กลับเลยละกัน” เซียวจ้านตัดบนแล้วลุกขึ้นด้วยท่วงท่าที่ลำบาก
“เป็นอะไรหรือเปล่า” อี้ป๋อก็เห็นจึงถามไปหลังจากโดนไล่กลายๆ
“ไม่เป็น จะกลับรึยีง ถ้าจะกลับออกทางนู้น ไม่ส่งนะ” อี้ป๋อเดินเข้าห้องนอนไป ปล่อยให้แขกที่ไม่น่ารับเชิญเข้ามาตั้งแต่แรกยืนงงอยู่ในห้องครัว
เขาไม่ได้กล่าวลาหรือขอบคุณเซียวจ้านสักคำและเลือกที่จะออกจากบ้านไปอย่างเงียบๆ
ไม่เป็นไรแล้วทำไมถึงดูหมดแรงขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยไล่กัน แถมยังมาวอแวทุกวันอีกตังหาก หรือนี่อาจจะเป็นชีวิตจริงนอกที่ทำงานของคนเป็นรุ่นพี่
**** ห่าว ภาษาจีนแปลว่า ดี
เพิ่งจะติดตามคู่นี้เมื่ออาทิตย์ก่อน ประทับใจจนอดไม่ไหวมาแต่ง
เรื่องนี้ไม่มีความยาวมากมายเหมือนเรื่องที่ผ่านมาค่ะ
ตั้งใจเป็นฟิคสั้น ถ้าสมบูรณ์แล้วจะปิดเรื่องค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อืมม์ เหมือนจะจำได้นะ
ขนาดนี้แล้วป๋อไม่รู้จริงดิ
กรรมพี่ที่แสนดี เสร็จรุ่นน้องเฉย
กรรม คนทำจำไม่ได้ซะงั้น หรือว่ายังไม่สร่าง
ป๋อ จำไม่ได้จิงอ้ะ ทามพี่ซะเดินแบบนั้น จำไม่ได้สักนิดหรอป๋อ
เลยหรออี้ป๋อ ไหนบอกห่าวๆ
แกไม่มองสนามรบจำลองตอนตื่นเลยรึไง