ตอนที่ 5 : ผีเสื้อตัวที่3 : โรงเรียนและเพื่อนใหม่
เช้ารุ่งขึ้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลได้3สัปดาห์ เอมิลี่ร่างกายเริ่มคล่องตัวขึ้น คนภายในบ้านและเธอเห็นพ้องต้องกันว่าเธอสามารถไปโรงเรียนได้แล้ว เมื่อวานคนเป็นแม่ได้นำเอกสารจากย้ายเข้าต่างๆไปให้ทางโรงเรียนประถมใกล้ๆเรียบร้อย พร้อมกับจัดการซื้อชุดเครื่องแบบนักเรียนต่างๆเรียบร้อย เหลือแค่ให้เด็กสาวมุ่งหน้าไปโรงเรียนในเช้าวันนี้เท่านั้น
เอมิลี่นั่งทานอาหารเช้าที่โต๊ะพร้อมกับครอบครัว เธอเตรียมพร้อมมากทั้งชุดนักเรียนใหม่เอี่ยมรวมถึงกระเป๋าใหม่ด้วย เมื่อทานเสร็จเอมิลี่จึงขอคุณแม่ออกมารอข้างนอก
"ลูกจ๊ะ จะดีเหรอที่ไม่แก้เอกสารไปว่าลูกมีอัตลักษณ์แล้วน่ะ"
รินเดินตามลูกสาวของเธอมาหลังจากทานเสร็จ เอ่ยถามถึงเรื่องในเอกสารที่กรอกไปว่าไม่มีอัตลักษณ์ เด็กสาวส่งยิ้มใสซื่อไปให้ว่าไม่เป็นไร เพราะเธอไม่อยากเป็นจุดเด่น ถึงจะตอบอย่างนั้นเพื่อให้คุณแม่สบายใจ แต่ใจจริงอยากจะรู้ว่าหากไม่มีอัตลักษณ์คนรอบข้างจะเป็นยังไง แต่ไม่พูดจะดีกว่า
ทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถยนต์ของคุณตากันเพื่อไปยังโรงเรียน คุณตาไม่ได้ว่าอะไรแค่กลับมาให้ไวก็พอ เดี๋ยวทำงานสายกันพอดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เอมิลี่ยืนรออยู่หน้าห้องตามคำสั่งของครูประจำชั้นเพื่อรอแนะนำตัวกับเพื่อนๆใหม่ที่ตอนนี้นั่งพูดคุยกันอยู่ในห้อง เธอตื่นเต้นนิดหน่อยพยายามปรับสีหน้าให้ดีที่สุดพร้อมกับให้กำลังใจตัวเองว่าจะไม่เป็นอะไร
"เด็กๆเงียบหน่อยนะจ๊ะ วันนี้มีเพื่อนมาใหม่"
เสียงหวานของคุณครูหน้าชั้นเรียนเอ่ยขึ้นเรียกให้เด็กนักเรียนวัยประถมในห้องหันมาสนใจ เด็กๆหลังได้ยินต่างหันมาคุยซุบซิบกันยกใหญ่ว่าเพื่อนใหม่จะเป็นยังไง
"เข้ามาได้เลยจ่ะ"
สิ้นคำเรียกตัว เอมิลี่ค่อยๆเปิดประตูออกมาอย่างช้าๆ และเดินออกมาหน้าชั้นเรียนยืนขนาบกับครูประจำชั้น เธอส่งยิ้มเล็กๆให้คนในห้องที่จ้องเธอมาเป็นตาเดียวและดูตื่นเต้นสนุกสนานตามประสา ต่างกับเด็กคนนึงที่ก้มหน้างุดมองมายังเธอจากหลังห้อง ดูเหงาๆขี้อายจังนะ
"ชื่อเอมิลี่ ยามาโอกะ ค่ะ เป็นเพื่อนกันนะคะ~"
เสียงหวานน่ารักเอ่ยออกมาพร้อมกับโบกมือเล็กๆให้กับเพื่อน ถึงจะมันใจแค่ไหนก็ยังแอบเขินอายจึงนำผมตนมาปิดหน้าเล็กน้อย เพื่อนๆในห้องส่งเสียงร้องยินดีส่งมาราวกับยินดี
"แล้วอัตลักษณ์ของยามาโอกะจังล่ะจ๊ะ?"
คุณครูสาวถามขึ้นข้างๆเธอ เอมิลี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคำถามของครูสาวนั้นเรียกความสนใจให้เด็กทุกคนเป็นเท่าตัว ลุ้นว่าอัตลักษณ์เธอจะเป็นแบบไหน
"เอ่อ...ไม่มีค่ะ หนูไม่มีอัตลักษณ์"
เมื่อกล่าวจบจากความสดใสสนุกสนานเปลี่ยนเป็นความเงียบทันที จากที่สนใจกลายเป็นหันมองไปทางอื่น แต่เด็กที่ก้มหน้าเมื่อตอนแรกกลับเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้างแปลกๆ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าหากไม่มีอัตลักษณ์จะเป็นยังไง แปลกแยกนี่เอง
"งั้นยามาโอกะจังไปนั่งกับ มิโดริยะคุงละกันนะ"
คุณครูสาวชี้ไปยังเด็กผู้ชายหลังห้องที่เป็นคนจ้องเธอมันวาวนั่นแหละ เอมิลี่พยักหน้าตอบรับและเดินไปนั่งข้างๆ เมื่อนั่งเข้าที่ก็เริ่มเวลาเรียนกัน
และระหว่างที่เรียนนั้น
"นะ นี่ ยามาโอกะจัง จริงเหรอที่ไม่มีอัตลักษณ์น่ะ"
เด็กผู้ชายข้างๆถามขึ้น เอมิลี่ละออกจากหนังสือเรียนหันไปมองอีกฝ่ายพร้อมกับยิ้มตอบรับ เด็กผู้ชายเรียนผมสีเขียวและตาสีเดียวกันเบิกกว้างพร้อมกับยิ้มส่งมาให้
"ผมชื่อ มิโดริยะ อิซึคุ ไม่มีอัตลักษณ์เหมือนกัน! เป็นเพื่อนกันนะ!"
เอมิลี่ดูอึ้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบรับไป นึกว่าจะไม่มีอัตลักษณ์คนเดียวซะอีกเนี่ย ดีใจจัง
"อื้อ! เพื่อนกันเนอะมิโดริยะคุง"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พักเที่ยง ณ สนามเด็กเล่น
เมื่อเด็กๆทานอาหารกลางวันเสร็จ แทบจะทุกคนจะไปรวมตัวกันที่สนามเด็กเล่นเพื่อผ่อนคลายเล่นสนุกกันตามประสา เอมิลี่และเพื่อนใหม่อย่างมิโดริยะจึงชวนกันไปนั่งเล่นพูดคุยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ แลกเปลี่ยนอะไรกัน และรวมถึงความฝันด้วย
"โตขึ้นผมจะเป็นฮีโร่เหมือนอย่าง ออลไมท์ให้ได้! แล้วยามาโอกะจังล่ะ?"
มิโดริยะลุกขึ้นยืนชี้นิ้วไปสู่ท้องฟ้าสีครามสวยถึงความฝันของตน และหันมาถามเธอ
"อื้อ เหมือนกัน ฉันก็อยากจะเป็นฮีโร่!--"
"อยากเป็นฮีโร่เหมือนกัน แต่ไร้อัตลักษณ์ทั้งคู่เหรอ 5555"
บุคคลที่3เดินเข้ามาเอ่ยคำคำเยาะเย้ยแถมหัวเราะมายังเธอและมิโดริยะพร้อมกับเพื่อนๆข้างหลังอีก2คน มิโดริยะดูตกใจกับอีกฝ่ายจนเผลอน้ำตาคลอเบ้าแต่ยังคงพยายามห้ามน้ำตาเอาไว้ เอมิลี่เบ้ปากไม่พอใจกับคำพูดแบบนั้นจึงลุกขึ้นยืนข้างๆมิโดริยะคุง
"แล้วนายเป็นใคร ทำไมต้องพูอย่างนั้นด้วย"
เอมิลี่พูดขึ้นอย่างไม่ยอมกับคำเยาะเย้ยนั่น มองตรงไปยังเด็กชายเรือนผมสีบลอนด์เถ้าคล้ายฟางดวงตาสีแดงก่ำจ้องกลับมายังเธอพร้อมกับฝ่ามือที่เกิดประกายไฟและระเบิดเล็กๆพร้อมกับควันลอยออกมา
"ฉันบาคุโก คัตสึกิ จะเป็นฮีโร่เหนือออลไมท์ให้ดู อย่ามาขวางเชียวพวกไร้อัตลักษณ์!"
เด็กชายชื่อบาคุโกตอบกลับพร้อมกับชี้หน้ามายังเธอและมิโดริยะคุง เป็นฮีโร่แต่นิสัยก้าวร้าวชะมัด แต่รู้สึกเหมือนจะอยู่ห้องเดียวกันด้วยนี่สิ
"งะ งั้นผมกับยามาโอกะจังจะเป็นฮีโร่ให้คัตจังดู!"
มิโดริยะคุงเข้าขวางหน้าเอมิลี่ไว้ เหมือนกำลังจะปกป้องเธอจากเพื่อนร่วมห้องให้ได้ เด็กชายหัวฟางทำหน้าโมโหส่งมาพร้อมกับระเบิดบนฝ่ามือที่แรงขึ้นตามอารมณ์กับคำพูดของมิโดริยะคุง
"อวดดีเหรอ เดกุ!!!"
เด็กชายบากุโกพุ่งเข้ามาหามิโดริยะคุงพร้อมกับฝ่ามือที่มีระเบิดอยู่แถมพ่วงมาด้วยเพื่อนอีก2คนอีก มิโดริยะยืนนิ่งยกแขนขึ้นมาบังไม่คิดหนีเหมือนทำไปด้วยความเคยชิน เด็กสาวข้างๆเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าแขนเพื่อนหัวเขียววิ่งหนีออกมาด้วยความเร็ว
ทั้งคู่วิ่งหนีมาหลังโรงเรียน หันไปมองไม่เห็นเด็กหัวฟางอารมณ์เสียคนนั้น เธอจึงทรุดลงนั่งกับพื้นหญ้าพร้อมกับมิโดริยะคุง ทั้งคู่เหนื่อยหอบหนักเนื่องด้วยยังเป็นเด็กขาที่สั้นๆต้องวิ่งมาถึงนี่ ถือว่าเหนื่อยใช่เล่น เอมิลี่หันไปมองมิโดริยะคุงที่นั่งกอดเข่าปิดหน้าด้วยตัวที่สั่นเทา
.
.
.
.
.
.
"นี่บาคุโกน่ะ ทำแบบนี้กับมิโดริยะคุงตลอดเลยเหรอ?"
เธอถามออกไปเมื่อเห็นว่าเมื่อกี้ที่เด็กหัวเขียวรับระเบิดจากบาคุโก เหมือนความเคยชินยังไงไม่รู้ มิโดริยะคุงยกหน้าออกจากเข่าเอ่ยความจริงออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาเม็ดใสที่กลิ้งลงมาจากดวงตา ว่าทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนถึงขนาดมีชื่อที่เรียกกันเฉพาะ แต่เมื่อตนไม่มีอัตลักษณ์จึงโดนบาคุโกแกล้งเสมอ
"อย่าเศร้าเลยนะ มิโดริยะคุงต้องเป็นฮีโร่ได้แน่เรามาพยายามด้วยกัน และจากนี้ฉันจะเรียกเธอว่า เดกุด้วยนะ"
เธอส่งยิ้มกว้างพร้อมกับดึงแก้มเล็กๆของมิโดริยะให้มองเธอ เหมือนให้กำลังใจ เด็กชายร้องไห้หนักขึ้นเหมือนกับรอใครสักคนกล่าวคำนี้กับเขาว่า เขาก็เป็นฮีโร่ได้ เอมิลี่นั่งปลอบยกใหญ่แต่ก็นึกรู้สึกผิดที่โกหกว่าตนนั้นไร้อัตลักษณ์ หากเดกุรู้ต้องเสียใจมากแน่
แต่ตอนนี้ต้องให้กำลังใจและโกหกแบบนี้ไปก่อน เพราะไม่อยากให้เพื่อนคนใหม่ต้องโดดเดี่ยว ขอโทษนะเดกุคุง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
_______________________________________________________________________
จบจ้าาา เห้ออเหนื่อย ขอโทษที่หายไปนานนะจ๊ะ เนื่องจากไรท์มีหลายเรื่องที่ต้องอัพอาจจะช้าหน่อย ขอโทษล่วงหน้าเด้อ ในตอนนี้จะยังเป็นแค่วัยเด็กประถม แต่ตอนต่อไปจะข้ามไปม.ต้นปี3เลย เพื่อความรวดเร็วและไม่ให้ยืดเยื้อจนน่าเบื่อ
ไว้เจอกันตอนต่อไปนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

81 ความคิดเห็น
-
#62 Jecelyn (จากตอนที่ 5)วันที่ 2 ธันวาคม 2563 / 23:00เดกุจังต้องฮึบๆเข้าไว้นะ! น้องจะอยู่เป็นเพื่อนเอง!#620