ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหมดใจ...ให้นายคนเดียว

    ลำดับตอนที่ #1 : เด็กหนุ่มในสวนหลังโบสถ์

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 49


              
               "มิตรภาพ..... สิ่งที่ยืนยาวและมั่นคงไม่เคยสั่นคลอน แต่ทว่ามันจะต้องมาจบลงด้วยการมี 'ความรัก' ...."

               แต่ไม่มีทาง มันเป็นแค่คำพูดโบราณ...

               กับแค่สิ่งบ้าๆที่เรียกว่า'ความรัก' ไม่สามารถทำลายมิตรภาพระหว่างเขาและเธอได้หรอก....

              อากาศหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ...

              ฝนหิมะตกพรำๆ...ราวกับจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง....

              พื้นดินและท้องฟ้าเป็นสีขาวโพลน... ว่างเปล่า...

              รวมทั้งจิตใจของเธอด้วย....

           "มิตรภาพกับความรัก...ไปด้วยกันไม่ได้หรอก..." ...จะจดจำคำนี้ไปจนวันตายเลย...

                _______________________________________________________

           "ลูอิสสสสสสสสส เสร็จหรือยังเนี่ย!"

           "อย่าเร่งสิ กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ เพอร์"

           'แอ็ดดดด' เด็กหญิงเปิดประคูออก

           เด็กหญิงเรือนผมสีชมพูอ่อนซึ่งถูกปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง กับใบหน้าอ่อนละมุนขาวผ่องอมชมพู นัยน์ตาสีชมพูใสเหมือนใส่คอนเเทคเลนส์ ริมฝีอิ่มเอิบ ในชุดนักเรียนยาวสีขาวบริสุทธิ์ปนขอบดำ หญิงสาวหันมายิ้มให้เพื่อนอย่างอ่อนละมุน ซึ่งอาจทำให้ผู้ชายที่เห็นหวั่นไหวไปตามๆกัน แต่ในที่นี่ก็มีแต่เธอกับเพื่อนที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น....

          "ช้าจังเลยนะ ลูอิส ทำไมแต่งตัวนานอย่างนี้อะ" เสียงบ่นจากเด็กหญิงผมสีน้ำตาลเข้มที่ถูกรวบไว้แน่น กับนัยน์ตาสีช็อคโกแล็ตดังขึ้น

          "ขอโทษทีเพอร์ แฮะแฮะ ก็คือฉันตื่นสายน่ะจ๊ะ" ลูอิสพูดพร้อมกับแลบลิ้นอย่างเขินๆ 

          "แหม เห็นเธอทำท่าอย่างนี้ฉันก็โกรธไม่ลงแล้วละ เฮ้อ...ลูอิสนี่ละก็ น่ารักจริงเล้ยยยย" เพอร์เข้ามากอดลูอิสแน่นเหมือนเหมือนกอดตุ๊กตา แล้วทั้งสองก็เดินไปห้องเรียน....

          ---------------------------------------------------------------------

         'แอ็ดดดดดด' เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้เหล่านักเรียนห้องเอทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวรวมทั้งคุณครูวิเมล่าด้วย....(ไอ้หยา-_-")

          "....7 นาฬิกา 58 นาที 36 วินาที.... พวกเธอมาก่อนเวลา 1 นาที 24 วินาที แต่หักลบที่วันนี้ครูเข้าเร็วกว่าปกติ 10 นาที พวกเธอจึงถือว่ามาสาย" คุณครูวิเมล่าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

          "แต่..เอ่อครูคะ พวกเรามาทันกำหนดเวลาเข้าเรียนนะคะ" เพอร์แย้งขึ้น

          "แต่พวกเธอมาไม่ทันเวลาครูสอน"  

          "เป็นนักเรียนต้องทำตามกฏของโรงเรียนคือมาทันเวลาเข้าเรียน แต่กฏไม่ได้บอกว่าให้มาทันเวลาครูเข้าสอนนี่คะ?" น้ำเสียงเย็นๆของคาโลรินเด็กหญิงที่เรียนเก่งที่สุดในห้องและไม่ชอบให้คนอื่นเรียกชื่อของเธอที่มีคำว่า'คาโล'ดังขึ้น...

          ".....เธอ...รู้สึกจะชื่อคาโลรินใช่มั้ย ถึงโรงเรียนจะมีกฏอย่างที่เธอว่าแต่พวกเธอก็เป็นนักเรียนที่อยู่ในความดูแลของครู พวกเธอก็ควรจะเชื่อฟังในสิ้งที่ครูพูดนะ" 

          "กฏข้อที่ 295 ในบที่ 2 วรรคที่ 7 บอกว่า 'ถึงแม้นักเรียนจะอยู่ในความดูแลของครูประจำชั้น แต่คุณครูเองก็ต้องอยู่ในความดูแลของโรงเรียนเช่นกัน ดังนั้นคำสั่งหรือกฏที่ทางโรงเรียนได้ออกไว้ถือเป็นคำเด็ดขาดที่ทั้งครูและนักเรียนต้องปฏิบัติ และไม่มีสิทธิ์ไปแก้ไขหรือเพิ่มเติม'.... จริงมั้ยคะ...คุณครูวิเมล่า?" อิงกริด เด็กหญิงที่เรียนเก่งเป็นอันดับต้นๆของห้องพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเช่นเดียวกับคาโลรินแต่แฝงไปด้วยความเคารพ...ครูวิเมล่าเงียบไปซักพัก คราวนี้คาโลรินจึงพูดต่อจากอิงกริดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบยิ่งกว่าเดิม... ไม่มีความแข็งกระด้างแต่เต็มไปด้วยความนบนอบ...   

          "ขอโทษด้วยคะที่มาพูดขัดจังหวะการสอนของครูแต่ครูช่วยสอนต่อได้มั้ยคะ เพราะหนูเกรงว่าเพื่อนๆจะอยากเรียนกันมากกว่าคะ"

          "พวกเธอ..." ครูวิเมล่าพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา  

          "แต่...คาโลรินกับอิงกริดเค้าก็พูดถูกนะคะคุณครู" เพอร์และลูอิสรวบรวมความกล้าพูดขึ้นพร้อมกัน

          " เฮอะ พวกเธอก็แค่พูดตามเพื่อนนี่นา เป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าข้างกันเป็นธรรมดา จริงมั้ยพวกเรา" เมมีเด็กหญิงสุดเปรี๊ยวผู้ใจกล้าหน้าไม่อาย ตะโกนขึ้นมาหวังจะปลุกระดมเพื่อนในห้องแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากเพื่อนๆ ด้วยความเขินอาย(นี่เพิ่งจะรู้สึกเหรอเนี่ย) และหน้าแตก เธอจึงพูดต่อเลี่ยงๆว่า

         "คาโลรินกับอิงกริดนี่ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆเล้ยยยย ทั้งๆที่ลูอิสกับเพอร์เพอร์เค้าเป็นคนผิดแท้ จริงมั้ยพวกเรา" คราวนี้มีเพื่อนบางคน(ซึ่งที่แน่ๆก็ต้องเป็นพวกสุดเปรี๊ยวที่อยู่กลุ่มเดียวกับเมมี) ส่งเสียงตอบรับ เมมีจึงได้ใจใหญ่เตรียมอ้าปากจะพูดต่อ แต่พาทิเซียก็ฉุนขาดจึงพูดขัดขึ้นว่า 

        "เธอก็เหมือนกันแหละเมมี เอ่อ ถึงฉันจะอยู่กลุ่มเดียวกับเพอร์แต่ฉันก็ไม่ปลุกระดมเพื่อนในกลุ่มเหมือนเธอหรอกนะ" คำพูดติดตลกของพาทิเซียทำเอาเพื่อนทั้งห้องหหัวเราะลั่น เธอหันมาขยิบตาให้เพอร์กับลูอิส ส่วนเมมีนั้นทั้งโกรธทั้งอายจนหน้างแดงยิ่งกว่าสีเลือด เธอจึงตะคอกด่าว่าพาทิเซียดังลั่น

        "ฮึ่มมมมมม ยัย พาทิเซีย หนอยยยยย ยัยหมูตอน ทั้งอ้วนทั้งดำ ยังจะมาสอดไม่เข้าเรื่องอีก(ตัวเองก็เหมือนกันแหละน่า) ฮึ่มมมม ยัย ยัย ยัยยยย" พูดพลางชี้ไม้ชี้มือโชว์นิ้วต่างๆนานา

        "หยุดซักทีเมมี ทำตัวน่ารำคาญจริง" น้ำเสียงเย็นชาจากปากคนที่นานๆทีจะพูดออกมาดังขึ้น

         "นาย นาย เอธาน นายกล้ามาว่าฉันเรอะ เฮอะนายเด๋อ หน้าก็ไร้อารามณ์ แล้วยังยุ่งไม่เข้าเรื่องอีก(ตัวก็ด้วย") เหมาะกับยัยพาทิเซียเลย จริงมั้ยพวกเรา" ก่อนที่เพื่อนในกลุ่มของเมมีจะสนับสนุน ประโยคเรียบๆจากปากครูวิเมล่าก็ดังขึ้น ถึงจะเป็นเพียงแค่ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ แต่ก็สามารถทำให้สงครามปากเสียงของนักเรียนห้องเอหยุดได้ในบัดดล....

        "เมมี และก็ทุกคน..หยุดได้แล้ว" ห้องทั้งห้องเงียบกริบ เงียบ เงียบจนแทบจะได้ยินเสียงแบคทีเรียในอากาศร้องรำทำเพลงกันเลย... 

        "คาโลริน อิงกริด พวกเธอพูดถูก ครูผิดเองที่จำกฏข้อนั้นเพียงข้อเดียวไม่ได้ แต่ก็มีกฏข้อนึง ข้อที่ 261 ได้กล่าวไว้ว่า 'ครูมีสิทธิ์ทำโทษนักเรียนที่พูดหรือปฏิบัติพฤติกรรมอะไรก็ตามที่ถือเป็นการขัดจังหวะในการสอนของครูไม่ว่าจะในเวลาไหนก็ตาม' ...........จริงมั้ยคะนักเรียน?" ครูวิเมล่าพูดพลางส่งยิ้มหวานอย่างสุภาพ แต่ในความคิดของเพอร์กับลูอิสนั้น....รอยยิ้มแม่มดชัดๆ!

              ----------------------------------------------------------------------------

         "....สุดท้ายทุกคนก็ต้องโดนมาทำความสะอาดโบสถ์หลังเลิกเรียนทั้งหมดด้วยเหตุผลที่ว่ามาเข้าเรียนขัดจังหวะการสอนอย่างเมามันของเจ๊วิเมล่านี่นะ....เฮ้อออ" 

         "เอาเถอะน่าเดียน่า เพราะยังไงก็ไม่เคยมีนักเรียนคนไหนเถียงชนะครูคนนี้ได้เลย" เทเลน เด็กหญิงร่างเล็กเจ้าของเสียงอันนุ่มๆพูดกับเดียน่า

         "เอ่อ ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณพวกเธอมากนะที่อาสามาช่วยพวกฉันน่ะ" 

         "ไม่เป็นไรหรอกน่าลูอิส ทำหลายคนจะเสร็จเร็วกว่านะ" 

         "นี่!พวกเธอมัวพูดพล่ามทำเพลงอะไรอีกยะ รีบๆทำความสะอาดซะสิ เอ้าเดียน่า เทเลน และก็ยัยหมูพาตี้(พาทิเซีย) พวกเธออาสามาช่วยเองก็รีบมาช่วยสิยะ!" เสียงแหลมสูงที่จะเป็นของใครไม่ได้นอกจากผู้ที่ถูกทำโทษด้วยกันซึ่งก็คือเมมี...

          "...........พาทิเซียเค้าไม่ได้เป็นหมูซักหน่อยเมมี .....เธออิจฉาเค้าหรือ?" เอธานพูดด้วยเสียงเย็นๆ 

          "นายมายุ่งอะไรอีกห่ะเอธาน"

         "ใชใช่ เธออิจฉาเค้าใช่มั้ยละเมมี ก็พาทิเซียเค้าออกจะอวบ ผิวสีแทน หน้าตาคมเข้มน่าใฝ่ปองออกอย่างนั้น" เพอร์เสริมแทนเอธานอย่างสะใจ

         "ฮึ่ม-----------------" และเมมีก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย.....

          ทุกคนทำงานอย่างขยันขันเเข็ง(ยกเว้นเมมี)จนเวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนเย็น(ซึ่งเมมีก็รีบแจ้นกลับไปก่อนด้วยสาเหตุที่ว่าต้องไปเรียนพิเศษ) .....

          "เอ่อ.....งั้นฉันไปทิ้งขยะก่อนนะ...."

          "ถือไหวมั้ยลูอิส จะให้ฉันไปเป็นเพื่อน...หรือเปล่า?"

          "แหม แหม พวกเธอสองคน... หวานกันจังเลยนะ" เสียงล้อเลียนดังขึ้นจากเด็กหญิงหัวโจกจอมล้อเลียนประจำกลุ่ม

         "ว้าย! พูดอะไรน่ะเพอร์ ไม่ใช่ซักหน่อย! เอ่อ..เอธาน ฉันถือไหวไม่ต้องไปช่วยก็ได้ ขอบคุณจ๊ะ..." ลูอิสพูดขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบจะฟังไม่ทัน หน้าของเธอแดงก่ำจนแทบจะไปถึงหู ....ที่จริงลูอิสก็แอบชื่นชมเอธานในความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ด้วยความเขินอายเธอก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรกับเอธานมากนักเพราะกลัวเพื่อนจะล้อ....

          ____________________________________________________________

          แสงแดดยามเย็นทอส่องมายังต้นไม้ในสวน(ป่า?)หลังโรงเรียนเป็นประกายสีทองระยิบระยับดุจดั่งแพรไหมสื่อถึงลมหายใจสุดท้ายของพระอาทิตย์ที่ได้มอบแสงสีทองอาบทั่วผืนพนาดรในแต่ละวัน เด็กหญิงนามลูอิสเดินอยู่ท่ามกล่างแมกไม้เหล่านี้ เรือนผมสีชมพูของเธอสะท้อนกับแสงสีทองทำให้ดูเป็นประกายสวยยิ่งขึ้น ชุดนักเรียนสีขาวที่พริ้วไหวไปตามลมยิ่งทำให้เธอดูเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายโบราณ ...ถ้ามองดูดีๆแล้วเธอก็เป็นเด็กหญิงที่น่ารักคนหนึ่ง... 

         สาเหตุที่เธอมาเดินชมธรรมชาติโดยไม่ได้มาช่วยเพื่อนทำความสะอาดโบสถ์ก็เพราะว่าครูวิเมล่าได้เดินมาเจอเธอตอนไปทิ้งขยะเลยถือโอกาศใช้เธอไปเก็บพืชพรรณสมุนไพรที่จะใช้สอนนักเรียนในวันพรุ่งนี้ แต่ลูอิสก็ไม่นึกโกรธเคืองอะไรกับครูวิเมล่ามากนักเพราะไม่งั้นตอนนี้เธอก็คงไม่ได้มายืนชมภาพอันน่าอลังการแบบนี้หรอก เธอก้มนั่งใต้ต้นไม้เก็บสมุนไพร พร้อมกับชมแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาอย่างตื่นเต้นเหมือนเด็กไม่มีผิดจนใครบางคนที่มาแอบดูเธออยู่นั้นอดหัวเราะไม่ได้ในความไร้เดียงสาของเธอ....

        "อุ๊บ ......" 

        "ใคร...ใครน่ะ!" ลูอิสตะโกน เธอพยายามมองหาต้นทางของเสียง ในที่สุดเธอก็เงยหน้าขึ้นมาและพบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่บนต้นไม้ 'ใครบางคน' ที่เธอคิดนั้นกำลังจะกระโดดลงมา และ.....

        "ว้าย"

         เด็กหนุ่มผมสีดำสนิท ใบหน้าคมคายภายใต้หน้ากากที่ปิดตาไว้ แต่ก็เผยให้เห็นแววตาสีแดงเพลิงที่หากใครจ้องนานๆก็อาจจะต้องมนต์สะกดได้เลยทีเดียว จมูกทรงแหลมได้รูปกับริมฝีปากบางสวยดูสมกับหน้า เขาอยู่ในชุดผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ภายใต้ผ้าคลุมเป็นชุดกางเกงสีดำสนิทเผยให้เห็นรูปร่างที่ดูสมกับเป็นชายชาตรี เขาแย้มรอยยิ้มที่มุมปาก

         ".....นาย....นายเป็นใคร?" 

         "..................."

         "ได้ยินมั้ยฉัยถามว่านายเป็นใคร? ทำไมมาจากบนต้นไม้ หรือว่านายเป็นปีศาจมาจากฟ้า" ลูอิสพูดรัวจนแทบจะจับใจความไม่ได้

         "อุ๊บ ปีศาจ? ฉันว่าเป็นเทวดาดีกว่ามั้ง" เด็กหนุ่มกลั้นหัวเราะภายใต้ใบหน้าสงบ

         "ก็...ก็นายใส่ชุดสีเข้ม ผมก็ดำเข้ม จะให้เป็นเทวดาที่มีภาพพจน์สีขาวได้ยังไงเล่า ว่าแต่นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย นาย เป็น ใคร

         ".........ฉันเป็นบุรุษที่มาจากฟากฟ้า เป็นเหยี่ยวที่อยู่ในร่างมนุษย์ที่นามว่าหน้ากากการูด้า" 

         "หน้ากากการูด้า? งั้นนายก็ไม่ใช่มนุษย์"

         ".....จะว่าอย่างนั้นก็ได้"  เหยี่ยวหนุ่มพูดพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ลูอิส

         ".....เธอเชื่ออย่างนั้นจริงเหรอ?" เขาพูดแผ่วเบา ลูอิสแทบจะตั้งตัวไม่ทันเมื่อมีเด็กหนุ่มหน้าตาดีเอาหน้าเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้

         "ใช่ แล้วทำไม" เธอพูดอย่างจริงจัง โดยไม่ทันรู้ตัวว่าเธอกำลังถูกเด็กหนุ่มนามการูด้าอุ้มอยู่

         "ว้าย! นายจะทำอะไรฉัน ใครก็ได้ ..... ช่วยด้ว------ อุ๊บ"

         "เงียบเถอะน่า....มีคนร้ายมานะ" การูด้ากระซิบที่ข้างหูลูอิส ลมหายใจของเขากระทบกับหูของเธออย่างแผ่วเบา เธอหน้าแดงก่ำ...

         "เราหนีขึ้นต้นไม้กันก่อนดีกว่า" ว่าแล้วการูด้าก็จัดการพาลูอิสขึ้นต้นไม้ใหญ่ ลูอิสถึงแม้ว่าจะตกใจแต่ก็ไม่มีอาการดิ้นรนอะไรทำให้ทั้งสองคนขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว....

         "........................"

         "......เอ่อ....คนร้ายไปหรือยัง" ลูอิสกระซิบเบาๆ

         ".......ไม่มีคนร้ายหรอก"

         "หา! นี่นายหลอกปั่นหัวฉันเล่นเหรอ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ"

         "ไม่"

         "นี่นายจะเอายังไงกันแน่..........ว้าว...สวย...สวยจัง"

         ลูอิสต้องตะลึงกับภาพอันงดงามที่ยิ่งกว่าดูจากบนพื้น มันเป็นภาพท้องฟ้าในยามเย็นที่เต็มไปด้วยแสงสีแดงทองราวกำมะหยี่ มันสวยจนเธอพูดไม่ออก สวยจนเธออยากจะดูอยู่ที่นี่ตลอดไป สวยจนลืมมองคนที่อมยิ้มอยู่ข้างๆ....

         "เธอชอบใช่มั้ย?" เสียงเรียกทำให้เธอตื่นจากมนต์สะกด

         "ก็...ชอบ.....ที่นายพาฉันมาบนนี้เพื่อจะมาดูท้องฟ้าใช่มั้ย?" ลูอิสพูด ดูเหมือนว่าเธอจะลืมความโกรธเมื่อกี้ไปซะสนิท

         "..............." ไม่มีเสียงตอบรับ

        "ใชมั้ย?" ผู้ถามชักเริ่มเคือง

        "..............." และก็ยังคงไม่มีเสียงตอบรับ

        "ใช่มั้ย?"

        "..........." ผู้ถูกถามยังคงไม่ตอบเช่นเคยและคราวนี้กลับหลบหน้าไปอีกทาง ผู้ถามก็ไม่รีรอเหมือนสองครั้งที่ผ่านมา เธอใช่มือเล็กๆสองข้างจับมือเด็กหนุ่มให้หันมาพร้อมกับจ้องตาเขาเขม็ง

        "อะไร" เด็กหนุ่มเอ่ยพยายามหลบหน้าไปอีกทาง

        "ทำไมนายไม่ยอมสบตาฉัน ทำไมไม่พูดกับฉัน"

        "เปล่า...คือฉัน..." การูด้าพูดแผ่วเบาและลูอิสเองก็กำลังจะเตรียมสวนกลับแต่ทว่าเธอก็ต้องตกตะลึงกับนัยน์ตาคู่สวยของเขา....นัยน์ตาสีแดงเพลิงที่หากใครได้มองก็คงต้องมนต์สะกด....

        ".....สวยจัง" เธอพึมพำเบาๆแต่การูด้ากลับได้ยิน เขาหน้าแดงเรื่อทันที

        "เอ๋ อะไรกันนายก็หน้าแดงด้วยรึเนี่ย น่ารักจริงๆเลยนะ"

        "....ไม่มีผู้ชายคนไหนเขาอยากให้ผู้หญิงชมว่าน่ารักหรอกนะ" การูด้าพูดแผ่วเบา เขากำลังจะอุ้มลูอิสลงจากต้นไม้

        "เดี๋ยวก่อนสินาย นายการูด้า ฉันยังไม่อยากลงเลย เออจริงสิฉันเปลี่ยนชื่อให้นายดีกว่า .....เอาชื่อ......คิว..ดีมั้ย?"

        "...................." การูด้าในชื่อใหม่ว่าคิวเผลอปล่อยลูอิสร่วงลงทันทีโดยไม่รู้สาเหตุ

        "ว้าย!"

        โชคดีที่คิวมีทักษะในด้านร่างกายที่ดีจึงรับลูอิสไว้ได้ทัน ลูอิสร่วงลงไปอยู่ในอ้อมแขนเขาทันที

        ตุบ

        ร่างบอบบางที่ถูกโอบกอดด้วยร่างสูงใหญ่ เรือนผมสีชมพูอ่อนมากระทบตามแขนอย่างปผ่วเบา นัยน์ตาสองคู่ประสานกัน คู่หนึ่งเป็นนัยน์ตาสีชมพูใสบริสุทธิ์ ส่วนอีกคู่หนึ่งแป็นนัยน์ตาสีแดงเพลิง... ใบหน้าสีแดงอมชมพูของลูอิสบ่งบอกว่าเธอกำลังเขินสุดขีดแต่นั่นก็ยิ่งทำให้เธอดูน่ารักยิ่ง
      
        "...ซุ่มซ่ามจริงนะแม่นางฟ้า" คิวพูดยิ้มๆ

        "บ้า นางฟ้งนางฟ้าอะไรกัน" ลูอิสน่าร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม เธอรีบลงจากอ้อมกอดของคิวและวิ่งไปในบัดดล

        "........ก็จริงนี่...เธอน่ารักเหมือน...นางฟ้า...นางฟ้าที่พระเจ้าประทานมาให้กับฉัน..." เด็กหนุ่มพูดแผ่วเบาพลางสะบัดผ้าคลุมปรากฏเป็นเหยี่ยวและบินจากไปในยามวิกาล...
        
         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×