[YoonYul]MY Promise คำสัญญาวันฝนพรำ - [YoonYul]MY Promise คำสัญญาวันฝนพรำ นิยาย [YoonYul]MY Promise คำสัญญาวันฝนพรำ : Dek-D.com - Writer

    [YoonYul]MY Promise คำสัญญาวันฝนพรำ

    รู้มั้ย สัญญาในสายฝนหน่ะ สำคัญมากเลยนะ :)

    ผู้เข้าชมรวม

    1,518

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.51K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    9
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 มี.ค. 55 / 14:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                                  
      อากาศในตอนเย็นของวันเริ่มเย็นตัวลงเรื่อยๆ พร้อมกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าไป ทำให้บรรยากาศในช่วงนี้สวยงามราวกับภาพวาดเหลือเกิน ร่างบางในชุดเดรสยาวสีเหลืองอ่อน กำลังถือช่อดอกลิลลี่สีขาว เดินขึ้นไปบนภูเขาที่เธอมักจะมาเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อมาหาบุคคลที่เป็นที่รัก
                                 หญิงสาวหยุดลงตรงหน้าหลุมศพของบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต พร้อมกับนั่งลงและวางดอกลิลลี่ข้างๆหลุมศพของผู้เป็นแม่อย่างเบามือ
                          “แม่คะ เป็นยังไงบ้างคะวันนี้ หลับสบายรึปล่าว” เสียงหวานพูดไถ่ถามบุคคลที่จากไปแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าจะไม่ได้คำตอบกลับมา แต่เธอก็สบายใจที่จะได้พูดมัน
                         “วันนี้ ครบรอบหนึ่งปีที่แม่หลับไปแล้วนะคะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงหมองหม่น น้ำใสๆที่เริ่มไหลออกมาจากดวงตา บอกได้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังเสียใจ
                          “หนูคิดถึงแม่จังเลยค่ะ ชีวิตนี่ลำบากจังเลยนะคะ หนูเหนื่อยจังเลยค่ะ” เสียงใสยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
                          “ไม่เอาดีกว่า หนูไม่ร้องไห้แล้ว แม่คงไม่ชอบที่หนูร้องไห้ใช่มั้ยคะ” มือเรียวสวยยกขึ้นเช็ดน้ำตาของตนให้ออกไปจากใบหน้า
                          “หนูเอาดอกลิลลี่มาให้แม่ด้วยค่ะ หวังว่าแม่จะชอบมันนะคะ” เสียงใสพูดขึ้นอีกครั้งราวกลับว่าการร้องไห้เมื่อครู่นั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับตน
                          “เหนื่อยจังเลยค่ะ ขอพักหน่อยนะคะแม่” พูดจบหญิงสาวก็ล้มตัวลงข้างๆหลุมศพของผู้เป็นแม่ พร้อมกับหลับตาลง วันนี้เธอเหนื่อยมากจริงๆ ขอนอนพักหน่อยเถอะ 
                           ยุนอามักจะมาที่นี่เสมอเวลาที่เธอรู้สึกเหนื่อย หรือโอกาสสำคัญต่างๆ เธอมักจะมาเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตให้ผู้เป็นแม่ฟัง ถึงแม้แม่จะไม่เคยตอบหรือปลอบประโลมเธอสักครั้ง แต่เธอก็ยินดีที่จะพูดมัน เพราะเธอรู้สึกเหมือนแม่อยู่กับเธอตลอดเวลาที่เธอพูดเรื่องราวต่างๆของตัวเอง 
      “ยุนอา” เสียงหวานของผู้หญิงวัยกลางคนดังขึ้น ปลุกให้ร่างบางตื่นขึ้นมา
      “แม่คะ”  ร่างบางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแสดงความตกใจอย่างปิดไม่อยู่ อะไรกัน ผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้คือแม่ของเธอจริงๆเหรอ
      “หนูคิดถึงแม่จังเลยค่ะ แม่อย่าจากหนูไปไหนอีกนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็โผลงเข้ากอดคนถูกเรียกว่าแม่ทันที ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ที่หายไปตลอดหนึ่งปี ถูกกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง จนทำให้เจ้าตัวต้องหลั่งน้ำตาให้กับสัมผัสนี้
               “ลูกเป็นยังไงบ้าง คงเหนื่อยมากเลยสินะ” น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงจากผู้เป็นมารดา ทำให้ร่างบางร้องไห้หนักขึ้นอีก
                “ฮึก ฮึก มันลำบากมากเลยค่ะแม่ การที่ต้องยืนอยู่คนเดียวบนโลกนี้”
                “ลูกไม่ต้องกลัวนะ สักวันคนที่จะอยู่เคียงข้างลูกจะมาตามสัญญา”
                “แม่พูดอะไรคะ หนูไม่เข้าใจ”
                “คำสัญญามีความหมายมากนะลูก แม่ขอให้ลูกเชื่อในคำสัญญานั้น แล้วสักวันลูกก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไปนะจ้ะ”
                “แม่จะไปแล้วเหรอคะ” เสียงใสถามขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อร่างของมารดาค่อยๆเลือนหายออกไปจากสายตา
                “อย่าลืมดูแลตัวเองนะลูก แม่รักหนูเสมอ จำคำที่แม่พูดไว้นะยุนอา จงเชื่อมั่นในคำสัญญา”

                        ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที ที่เหตุการณ์ในฝันเมื่อครู่นี้จบลง คราบน้ำตาที่ติดอยู่ตรงแก้มและความอบอุ่นจากอ้อมกอดของมารดาเมื่อครู่นี้ เป็นเพียงแค่ฝันหรอกหรือ
                        “คำสัญญาเหรอคะแม่”  แต่เธอก็ตกอยู่ในห้องความคิดของตนไม่ได้นานเมื่อท้องฟ้าเริ่มส่งเสียงเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นาน ฝนห่าใหญ่ต้องตกลงมาอย่างแน่นอน
                        “ต้องรีบกลับแล้วสินะ”


      ซ่า ซ่า ซ่า
                         ไม่ทันที่ยุนอาจะวิ่งถึงศาลาที่เธอมารอรถเพื่อกลับบ้านเป็นประจำทุกครั้งที่มาที่นี่ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เธอต้องหยุดวิ่งและหาที่หลบฝน คงจะมีแต่ศาลาหลังเก่าที่ผุๆพังๆเท่านั้น ที่พอจะเป็นที่หลบฝนได้ 
                         “อะไรกัน รีบตกจังเลย ขอให้กลับถึงบ้านก่อนก็ไม่ได้” เสียงบ่นอย่างอารมณ์เสียของร่างบางยังคงมีอยู่เรื่อยๆแข่งกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยไม่สนใจเลยว่าคนข้างล่างกำลังบ่นให้กับเทวดาบนฟ้าที่สั่งฝนให้ตกลงมาตอนนี้

                        “เฮ้ยยยยยยยยยยย ฝนตกได้ไง โอ๊ยยยยย ตายแล้วกระดาษเปียกหมดเลย”
                        เสียงโวยวายของร่างสูงที่กำลังปั่นจักรยานกลับบ้านดังขึ้น แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์เสียความความเสียหายครั้งนี้มากแค่ไหน
                       “ตายแล้ววว ฉันต้องส่งงานพรุ่งนี้แล้วนะ เปียกหมดแบบนี้แล้วจะเอางานที่ไหนไปส่ง”
      ปากพูดไปพร้อมกับเท้าที่ตอนนี้กำลังวิ่งหาที่หลบฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย จนได้พบกับศาลาที่สภาพไม่ต้อนรับใครแล้ว แต่จะทำไงได้หล่ะ จะมีที่ไหนดีกว่านี้อีกไหม
                        “แฮ่กกกกๆ เหนื่อย”
                เสียงหอบของบุคคลที่มาใหม่ดังขึ้น ทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่ก่อนต้องหันมามอง ร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีดำและกางเกงขาสั้นเท่าเข่าสีน้ำตาล ใบหน้าที่สวยคมได้รูป ริมฝีปากสีชมพูเข้ากันได้ดีกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มและจมูกโด่งเป็นรูปสวย พร้อมกับท่าเสยผมนั่น ทำเอายุนอาถึงกับใจเต้นรัว ผู้หญิงอะไรฮ็อตเป็นบ้าเลย
                ทันทีที่ได้สติยูริก็เริ่มสำรวจรอบๆตัว สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คงเป็นร่างบางตรงหน้าของเธอ ดวงตาคู่สวยที่ทอประกายความสดใสอยู่ในดวงตา ริมฝีบางน่าสัมผัสนั่น ทำเอายูริถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งเธออยู่ในชุดเดรสสีขาวแบบนี้แล้ว ยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูหน้าทะนุถนอมราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆนัก
                       “รบกวนด้วยนะคะ” เสียงของยูริพูดขึ้นพร้อมกับโค้งตัวลงให้ยุนอาอย่างสุภาพ
                       “ได้สิคะ ถ้าคุณไม่รังเกียจ”
                        ความเงียบระหว่างคนทั้งสองเกิดขึ้น พร้อมกับฝนที่ตกลงมาเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสายทำเอาคนไม่ชอบความเงียบพูดขึ้นเพื่อทำลายความมืดนั้นเสีย
                         “คุณเป็นคนแถวนี้เหรอคะ”
                         “ใช่แล้ว บ้านฉันอยู่ถัดเข้าไปอีกนิดเดียวเอง”
                          “แล้วคุณมาทำอะไรเหรอคะ”
                          “มาวาดรูปหน่ะ ต้องส่งพรุ่งนี้ แต่มันเปียกหมดแล้วนี่สิ”
                          “แย่จังเลยนะคะ”
                          “แล้วคุณหล่ะ”
                          “ฉันมาหาแม่หน่ะค่ะ”
                          “แล้วกลับช้าขนาดนี้เลยเหรอ”
                          “ป่าวหรอกค่ะ ฉันเผลอหลับไปหน่ะ ตื่นมาฝนก็ตกแล้ว แหะๆ”
                          “ฮ่า ๆ แย่เลยนะ ฝนตกแบบนี้ไปไหนไม่ได้เลย”
                          “นั่นสิคะ แต่ฉันชอบมันนะคะ สายฝนหน่ะดีกว่าที่หลายคนคิดไว้ซะอีก”
                          “นั่นสินะ ฉันก็คิดเหมือนกัน สายฝนอ่อนโยนกว่าที่คิดเสียอีก”
                          “สายฝนมักจะมาพร้อมกับใครบางคนเสมอ”
                          “สายฝนมักจะมาพร้อมความอ่อนโยนเสมอ”
                          “ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆ”
                          “ฉันยุนอาค่ะ อิมยุนอา”
                          “ฉันยูริ ควอนยูริ”
                          “คุณเชื่อเรื่องคำสัญญาในสายฝนมั้ยคะ”
                          “ฉันเชื่อนะ ฉันเชื่อว่าสายฝนเป็นพยานที่ดีให้ใครหลายคนได้”
                          “นั่นสินะคะ แล้วเมื่อไหร่คนที่เค้าสัญญากับเราจะมาสักทีหล่ะ”
                          “ถ้าเธอเชื่อมั่น ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานหรอก”  ยิ้มของร่างสูงที่ส่งมาให้เจ้าของคำถาม ทำเอายุนอาถึงกับใจสั่นรอยยิ้มของเธอคนนี้ช่างคุ้นเคยเสียจริง
                          “ฉันหน่ะ เคยสัญญาไว้กับคนคนนึงในวันที่ฝนตกแบบนี้แหละ” น้ำเสียงของยูริเรียกยุนอาที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเองได้ดี ร่างบางต้องหันมาสนใจคนตรงหน้าอีกครั้ง
                          “ตอนนั้นฉันแค่สามขวบเองหล่ะมั้ง”


      20 ปีก่อน
                          “ยุนอาอย่าไปไหนไกลนะลูก ฝนจะตกแล้ว”
                          “ค่ะ คุณแม่” บทสนทนาสั้นๆของสองแม่ลูกดังขึ้นที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านที่พักอาศัยอยู่ เด็กน้อยยุนอากำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียวโดยมีคุณแม่คอยเป็นห่วงและจับตามองตลอดเวลา
                           “ว้าววววววว มีบ้านด้วยแหละ” เสียงเจื้อยแจ้วของหนูน้อยดังขึ้นเมื่อค้นพบของเล่นชิ้นใหม่ บ้านจำลองขนาดเล็กที่สามารถเข้าไปอยู่ได้ประมาณสองคน เรียกความสนใจจากเด็กหญิงได้เป็นอย่างดี ยุนอาเดินเข้าไปอยู่ในนั้นและปิดประตูบ้านจำลองลง และเธอก็นั่งอยู่ในนั้นเป็นเวลานานอย่างไม่รู้เบื่อ จนเจ้าตัวผล็อยหลับไป

                          “ยุนอา อยู่ไหนลูก ถึงเวลากลับบ้านแล้วนะคะ” เสียงของคนเป็นแม่ดังขึ้น เพื่อเรียกหาลูกสาวตัวน้อยของตน แต่ก็ไม่พบเธอสักที ไม่รู้ซนไปถึงไหนแล้ว
                          “ยุนอาคะ แม่จะกลับแล้วนะถ้าหนูไม่ออกมา” เสียยงตะโกนของมารดายังดังต่อไปเรื่อยๆแต่ไม่มีวี่แววของหนูน้อยยุนอาสักนิด
                           ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เป็นสัญญาณบอกว่าฝนกำลังจะตกลงมาแล้ว แต่คนเป็นแม่ก็ยังหาลูกสาวของตนไม่พบ
       
         ซ่า ซ่า ซ่า
                             “นี่ ขอเข้าไปเล่นด้วยคนสิ ข้างนอกฝนตกหนักมากเลย” เสียงใสของเด็กหญิงอีกคนหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูบ้านจำลอง ทำให้ร่างเล็กที่นอนหมดสติไปตื่นขึ้นมา
                             “เข้ามาสิ มาเล่นด้วยกัน” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของหนูน้อยยุนอาดังขึ้นด้วยความดีใจ วันนี้เธอมีเพื่อนเล่นแล้ว
                             “เธอชื่ออะไรอ่ะ เราชื่อยูรินะ”
                             “เราชื่อยุนอา ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
                              “อื้อ เธอพึ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอ”
                              “ช่ายยยยย พึ่งมาเมื่อวานเอง เรายังไม่มีเพื่อนเล่นเลย” น้ำเสียงที่อ่อนลงของเด็กหญิงยุนอา ทำให้ร่างเล็กตรงหน้าเห็นใจ
                              “เล่นกับเราก็ได้ เรามาที่นี่ทุกวันเลย”
                              “จริงเหรอ เราจะเล่นกับยูริได้เหรอ”
                              “ได้สิ แต่เธอมาสัญญากับเราก่อนนะว่าจะไม่ไปไหน”
                              “ได้สิ เราจะอยู่เล่นกับยูริตลอดไปเลย” เสียงใสของเด็กหญิงยุนอาดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
                              “เกี่ยวก้อยนะ”
                              “ได้สิ เกี่ยวก้อยกัน”   นิ้วก้อยเล็กๆของเด็กทั้งสองเกี่ยวกันไว้อย่างแนบแน่นราวกับกำลังสัญญาว่าพวกเข้าจะไม่มีวันลืมสิ่งนี้

      ซ่า ซ่า ซ่า
                               “ฝนตกแหละยูริ”
                               “นี่รู้มั้ย แม่เราบอกว่าใครที่สัญญากันในวันฝนตกจะมีสายฝนเป็นพยานด้วยนะ”
                               “จริงเหรอ ดีจังเลยเนอะ”
                               “คำสัญญาของเรา มีสายฝนเป็นพยานด้วยนะ เธอต้องรักษาคำสัญญาหล่ะ”
                               “ได้สิ เราจะไม่ลืมมันเลย”


                                  “แต่ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ต้องย้ายบ้าน แล้วก็ไม่ได้เจอกับเธอคนนั้นอีกเลย เศร้าเหมือนกันนะ ทั้งๆที่สัญญากันไว้แล้วแท้ๆ”  การเล่าเรื่องของยูริจบลง ทำให้ยุนอาถึงกับตกใจในเรื่องราวที่เธอได้ฟัง
                                  “เธอคือเด็กคนนั้นเองเหรอ เธอจำฉันได้มั้ย”
                                  “ทำไมเหรอ”
                                  “เกี่ยวก้อยกัน”  แล้วยุนอาก็ยื่นนิ้วก้อยออกไป ทำให้ยูริต้องยื่นนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวนิ้วก้อยของยุนอาไว้ 
                                  “เธอคือเด็กคนนั้น เธอคือยุนอาคนนั้น”
                                  “ใช่ฉันเอง เธอก็เด็กคนนั้นสินะ ยูริคนนั้น”
                                  “ใช่ ฉันเองแหละ ขอโทษจริงๆนะที่วันนั้นไม่ได้มาเล่นกับเธออีกเลย”
                                  “ฉันโกรธเธอมากเลยรู้รึปล่าว ฉันเล่นกับเพื่อนคนอื่นก็ไม่สนุกเท่ากับเล่นกับเธอเลย”
                                  “ฮ่า ๆ ขอโทษจริงๆนะ”
                               ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อต่างฝ่ายต่างอมยิ้มและคิดถึงเรื่องราวในวัยเด็กของคนทั้งสอง ถึงเมื้อจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็มีความหมายมากสำหรับพวกเขา
                                “ฉันยังไม่ลืมสัญญานั้นหรอกนะ” เสียงของยูริพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
                                “ฉันก็ไม่เคยลืมมันหรอก”
                                “ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป/ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป”
                                 ไร้ซึ่งเสียงพูดคุยที่เปล่งออกมาจากคนทั้งสอง คงจะมีเพียงแต่สายฝนเท่านั้นที่ตกลงมาอย่างหนักราวกับแสดงความยินดีกับบุคคลทั้งสอง ในที่สุดทั้งสองก็ได้พบกันและพร้อมที่จะมาทำสัญญานั้นให้มั่นคงตลอดกาล




                                                                                                                                       _____________.


      Talk : เป็นยังไงบ้างคะทุกคน ? สนุกมั้ยยยยยยยยยย ติชมไรท์เคอร์ด้วยน้ออ ไม่ได้อัพฟิคที่นี่ซะนานเลย เดี๋ยวปิดเทอมไรท์เตอร์จะพยายามแต่งเรื่องยาวยุนเฮ ออกมาซักเรื่องให้ทุกคนได้อ่านกัน ตอนนี้เอายุนยูลไปก่อนนะคะ ฮ่า ๆๆๆ 
      ใครมีอะไรอยากจะติชมก็แปะไว้เลยนะคะ > < พูดคุยกับไรท์เตอได้ทางทวิตเตอร์ค่ะ @MY_Fahmui นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ :)
      

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×