คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Wild flower l 1
ในยุคที่การแต่งงานออกเรือนเป็นเรื่องของทั้งหญิงสาวและหนุ่มน้อย...
ในช่วงเช้าตรู่ภายในคฤหาสน์ของท่านผู้พิพากษาฟลิทก์
หญิงรับใช้และหนุ่มน้อยรูปงามต่างพากันวิ่งวุ่นเมื่อเช้าวันสำคัญมาถึง ขนมอบ
อาหารคาว และชาหลากรสถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับผู้การเทอร์ปินในวันเลื่อนตำแหน่ง
วันนี้ที่จะเป็นวันสำคัญของว่าที่คู่ครองคุณหนูคนงามในอนาคต
“วันนี้คุณหนูสวยจังนะคะ”
สาวใช้ผมบลอนด์ว่าในขณะที่ใช้แปรงไม้หวีผมให้คุณหนูคนสำคัญของบ้าน
เส้นผมสีดำขลับถูกต่อออกมายาวสลวยจนถึงกลางแผ่นหลัง
ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนตามฉบับชาวเอเชียถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อย
ดวงตากลมโตยังเอาแต่จับจ้องรูปโฉมแสนงามของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก
ริมฝีปากแดงอิ่ม ดวงตากลมโต ใบหน้าสวยหวาน และผิวขาวราวกับหิมะ...
ชานยอลไม่ชอบมัน...
“แบคฮยอนไปไหน” ชายหนุ่มที่ถูกจับแต่งตัวเป็นหญิงสาวเอ่ยถาม
การต้องใส่ชุดรัดเอวทำให้ชานยอลอึดอัดจนหายใจไม่ออก
แต่มันก็ไม่มากไปกว่าการต้องเผชิญหน้ากับชายที่ตนไม่ได้รักอย่างโดดเดี่ยว ทั้งๆ
ที่แบคฮยอนสัญญาว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนก่อนงานเลี้ยงเริ่ม
แต่ป่านนี้เขาก็ยังไม่มาสักที
“ท่านหญิงสั่งว่าห้ามแบคฮยอนเข้าคฤหาสน์วันนี้ค่ะ
ข้าเจอนางเมื่อเช้า นางอยู่ที่คอกเลี้ยงม้ากับเทอร์เนอร์”
“งั้นหรอ...”
“แต่แบคฮยอนบอกว่าจะมาหาคืนนี้”
“แต่ข้าอยากเจอแบคฮยอนตอนนี้”
“เสร็จแล้วค่ะคุณหนู” เอมิเรียวางปลายผมลงที่กลางแผ่นหลังคุณหนูคนสวยก่อนที่จะหันไปหยิบหมวกตาข่ายมาสวมหัว
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ท่านหญิงแห่งเวสมินสเตอร์เดินเข้ามาในห้องพร้อมคนรับใช้สาวและเด็กหนุ่มรูปร่างอ้อนแอ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เธอเดินตรงไปยืนอยู่ด้านหลังลูกชายพลางวางมือลงบนลาดไหล่ผอมบาง
ลำคอที่ถูกประดับด้วยสร้อยเพชรทำให้ชานยอลดูเลอค่าและงดงามยิ่งกว่าหญิงชาวตะวันตกคนไหน
“วันนี้เจ้าสวยมาก”
“ขอบคุณท่านแม่”
“แล้วก็อย่าลืมกินยาด้วย”
คนรับใช้สาวนำถ้วยยาและแก้วน้ำมาวางไว้ที่ข้างโต๊ะวางของ
พอชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ถึงกับต้องถอนลมหายใจออกมา
“ทำไมยาข้าเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ข้าป่วยหรอ”
“มันเป็นยาแห่งความสาว
ช่วงนี้เจ้าต้องกินให้มากผิวกายเจ้าจะได้เปล่งปลั่งสมเป็นสตรี
ถ้าเจ้าไม่กินเสียงเจ้าจะแตกจนน่ารำคาญ ร่างกายขยายใหญ่น่าเกลียดเหมือนกับม้า
เจ้าคงไม่อยากเป็นแบบพี่เจ้าใช่ไหม” หญิงสาวไล้มือลงไปตามลาดไหล่ขาวเนียนของลูกชายคนเล็ก
เธอยกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะพูดต่อ “ไม่มีสตรีใดอยากมีรูปร่างน่าเกลียด...”
“.......”
“เจ้าไม่ควรตั้งคำถามกับความงามของตนเอง กินยาซะ
แล้วรีบลงไปข้างล่าง” ท่านหญิงกล่าวก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ปล่อยให้บุตรชายนั่งจมอยู่กับความคิดและสาวใช้คนสนิท
สุดท้ายชานยอลก็ต้องหยิบเอายามากินอย่างไม่มีทางเลือก
เขากลืนมันลงคอด้วยความเคยชินก่อนจะลุกยืนขึ้น
ความอึดอัดจากคอร์เซ็ตที่เป็นโครงรัดทำชานยอลแทบหายใจไม่ออก
แต่เขาก็ต้องทนเดินต่อไป
ดวงตากลมโตเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
แล้วก็พบกับเด็กรับใช้คนสนิทกำลังวิ่งเล่นอย่างเป็นอิสระอยู่ในสนามหญ้า
แบคฮยอนสวมกางเกงสีน้ำตาลกับเสื้อสีขาวต่างจากทุกที เขายังดูน่ารักถึงแม้ว่าจะแต่งชุดแบบเด็กผู้ชาย
“ไปได้แล้วค่ะคุณหนู ผู้การเทอร์ปินมาถึงแล้ว...”
“เดี๋ยวข้าไป...”
.
.
.
ภายในห้องนอนที่มีเพียงแค่แสงสลัวๆ
จากเทียนเล่มใหญ่บนหัวเตียง คุณหนูชานยอลในชุดนอนสีขาวเปิดนิยายของ ชาร์ล ทิโมธี่
อ่านไปฆ่าเวลาในระหว่างที่รอให้ตัวเองรู้สึกง่วง
เสียงดังก๊อกแก๊กที่หน้าประตูบอกชานยอลว่ามีใครบางคนมาถึง
เขารีบลุกขึ้นไปเปิดประตูให้กับสหายคนสนิทที่หอบกองผ้าเล็กๆ
แอบย่องเข้ามาถึงห้องนอนในคฤหาสน์ยามค่ำคืน
“เจ้ามาช้า”
“ก็แม่เอาแต่ใช้ข้านวดแป้งจนแขนระบม” เด็กชายตัวเล็กบ่นอุบ
แบคฮยอนเดินนำห่อผ้าของเขาไปที่เตียงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงอย่างถือวิสาสะโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงสถานะลูกคนรับใช้กับคุณหนูคนงามแห่งเมือง
“เมื่อเช้าเจ้าก็ผิดสัญญาข้า” ชานยอลว่าในขณะที่เดินไปเบียดกายนั่งลงข้างเจ้าตัวเล็กอย่างไม่รู้ตัว
เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร แถมยังไม่รู้ด้วยว่านี่คือความรู้สึกแบบใด
“ก็นายท่านสั่งห้ามข้าเข้าคฤหาสน์
แต่เมื่อเช้าข้าก็เห้นผู้การเทอร์ปินนะ ข้าเห็นสหายเค้าด้วย”
“เจ้าสนใจผู้การเทอร์ปินหรอ?”
“ข้าไม่สนใจเค้าหรอก เค้าดูอย่างกับผู้หญิง
ข้าชอบแบบคริสตินมากกว่า เค้าหล่อล่ำดูสมเป็นชาย” แบคฮยอนยักไหล่
เขาแกะห่อผ้าสีขาวออกแล้วหยิบเอาหนังสือที่แอบลักมาจากห้องทำงานพ่อออกมา
“งั้นหรอ... เจ้าคงไม่ชอบแบบที่เหมือนผู้หญิงใช่ไหม...” คุณหนูคนเล็กกล่าวพึมพำ
ภายในจิตใจเกิดความรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ ขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
พอก้มลงมองร่างกายผอมบางของตัวเองแล้วชานยอลก็รู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจิตใจเขา
ชานยอลอยากจะฉีกทึ้งมันออกไป ทำลายมันให้สิ้นซาก
“ข้าชอบผู้ชายแบบพ่อข้า ผิวเข้มๆ หุ่นล่ำๆ
ข้าว่าแบบนั้นดูหล่อดี”
“อือ...”
“มานี่เถอะ” แบคฮยอนคลานขึ้นไปบนเตียงนอนนุ่มๆ
แล้วทิ้งตัวเอนหลังลงพิงกับหมอนขนเป็ด เขาดึงมือชานยอลให้ขยับขึ้นมานอนข้างๆ
ก่อนที่ผ้าหุ่มผืนหนาจะถูกถลกขึ้นคลุมร่าง
ภายใต้ผืนผ้านวมที่มีร่างของสองเด็กชายนอนเบียดกัน
แบคฮยอนเปิดหนังสือหน้าที่ค้างไว้ออก
เขาเหลือบตาขึ้นมองเพดานครู่หนึ่งก็พูดบางสิ่งที่นึกขึ้นได้ออกมา
“วันนี้เจ้ากินยาหรือเปล่า” คนตัวเล็กหันไปถามกับผู้เป็นนาย
พอเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าแบคฮยอนก็ถึงกับต้องถอนหายใจออกมา “เจ้ารู้ไหมว่ายานั่นทำให้เจ้าไม่เป็นผู้ชาย
มันทำให้ร่างกายเจ้าไม่โต”
“แม่บอกว่าถ้าไม่กินยาตัวข้าจะน่าเกลียดเหมือนม้า
เสียงใหญ่เหมือนกระทิง”
“ใช่ แต่มันเป็นลักษณะของผู้ชาย
แล้วเจ้าก็เป็นผู้ชาย”
“ไม่มีใครในคฤหาสน์นี้บอกว่าข้าเป็นผู้ชาย”
“ก็ใช่เพราะเค้าอยากให้เจ้าเป็นเจ้าสาว
แต่ว่าข้าก็ไม่เชื่อหรอก ผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชาย ผู้ชายจะน่ารักได้ยังไง”
“แล้วทำไมเจ้าถึงน่ารักได้” ชานยอลยกมือขึ้นลูบพวงแก้มเด็กรับใช้คนสนิทพร้อมกับระบายยิ้มออกมา
ทั้งๆ ที่แบคฮยอนไม่ได้กินยา และไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบผู้หญิง
แต่ทำไมเขาถึงยังน่ารักได้ มันไม่ยุติธรรมเลย
“ก็เพราะว่าข้าน่ารักน่ะสิ
แต่ข้าก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงหรอก ข้าอยากเป็นตัวข้า” เด็กรับใช้จอมแก่นพูดออกมาอย่างมั่นใจ
แบคฮยอนหันไปหัวเราะกับนายของเขาก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเจ้าเป็นผู้ชายข้าคงหลงรักเจ้า”
“อือ...”
“มาอ่านอันนี้ต่อกันเถอะ” บทสนทนาเรื่องความรักและเพศถูกหยุดลงแค่นั้น
แบคฮยอนขยับตัวเล็กน้อยแล้วกางหนังสือออก
ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับอ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษ
“ผิวกายของนางขาวราวกับน้ำนมแพะ
ตัดกับยอดปทุมถันสีชมพูอ่อน ‘ถ้าเป็นสิ่งนี้ล่ะ’ นางเอ่ยกับท่านดยุคผู้ยิ่งใหญ่
เห็นดังนั้นอาเทอร์ก็หน้ามืดตามัวกระโจนเข้าฟัดเรือนร่างของสาวรับใช้จนเธอตัวสั่นราวกับลูกนก
เขาประกบจูบเธอขณะที่มือประตบไปทั่วเรือนร่างขาวเนียน ‘นายท่าน’ อลิสกร่นเสียงคราง
เธอถูกท่านดยุคกดจูบสร้างรอยรักไปทั่วร่าง...”
.....
“เขาเย่อหล่อนราวกับกระทิงหนุ่มตกมัน
เต้านมขาวโพลนส่ายสะบัด
หญิงสาวถูกเข็มขัดเฆี่ยนลงกลางแผ่นหลังในขณะที่ความเป็นสาวของเธอถูกชำแรกอย่างไร้ความปราณี...”
ในหน้าที่สองของนิยายขาเล็กๆ ของแบคฮยอนเริ่มหนีบเข้าหากัน
ชานยอลเองก็ค่อยๆ เบียดกายเข้าไปหาสหายคนสนิทเรื่อยๆ
แขนเรียวกอดเกี่ยวรั้งเอวบางเอาไว้แน่น ความรู้สึกแปลกประหลาดวิ่งวูบไปทั่วร่าง
ชานยอลเริ่มขยับใบหน้าเข้าไปใกล้พวงแก้มขาวใส
ดวงตากลมโตชำเลืองขึ้นมองแพรขนตาสั้นๆ ของคนข้างกายเพียงครู่ ก็หลุบกลับไปสนใจหนังสือต่อ
'ริมฝีปากและเรียวลิ้นของนางถูกดูดดึงอย่างตะกละตะกราม อลิซาเบลทร้องครวญลั่นห้องทำงานของท่านดยุค...’
เมื่อมาถึงตอนนี้ลมหายใจของของเด็กหนุ่มทั้งคู่เริ่มติดขัด
แบคฮยอนสัมผัสได้ถึงความร้อนจากลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดลงข้างแก้ม
เพียงแค่หันหน้าไปมองความห่างเท่าปลายเส้นขนก็ทำให้ปลายจมูกของพวกเขาเฉี่ยวชนกัน
นิยายอีโรติคที่แสนร้อนแรงทำแบคฮยอนรู้สึกแปลกไปทั่วทั้งร่าง ไม่นับรวมมือเล็กๆ
ของคุณหนูที่ลูบเบาๆ อยู่ตรงสีข้าง
เพียงแค่เสี้ยววินาทีริมฝีปากสีแดงสดก็เคลื่อนเข้าหากันราวกับมีแม่เหล็กดูด
ความอุ่นร้อนจากอุณหภูมิที่แตกต่างและสัมผัสนุ่มหยุ่นทำชานยอลหัวโล่งไปหมด
เขาละริมฝีปากออกเพียงครู่ก็เคลื่อนหน้าเข้าจูบริมฝีปากเล็กๆ อีกครั้งและอีกครั้ง
ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นสบกับนัยน์ตาที่กำลังสั่นไหวของเด็กรับใช้
ก่อนที่ลิ้นเล็กๆ จะยื่นสอดเข้าไปในโพรงปากอุ่น
และทันทีที่ปลายลิ้นแตะกันชานยอลก็รู้สึกเหมือนทุกสิ่งที่ตามหามาตลอดอยู่เพียงตรงหน้า
มันอยู่ติดปลายลิ้น ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไรแต่ก็ใฝ่หามาตลอด
จูบที่แสนไร้เดียงสาและเงอะงะเกิดขึ้นภายใต้แสงเทียนวูบไหว
ความร้อนจากโพรงปากและเรียวลิ่นนุ่มๆ
ของเด็กหนุ่มทำคุณหนูของท่านผู้พิพากษาแทบเป็นบ้า ชานยอลเริ่มหอบหายใจแรงขึ้น
เขากระหายที่จะกลืนกินปลายลิ้นเล็กๆ นั้นให้สิ้นซาก
“อื้อ... คุณหนู...” มือบางยกขึ้นดันแผ่นอกชายหนุ่มตรงหน้าให้ผละออก
แบคฮยอนหน้าร้อนเห่อไปหมด เขาปิดหน้าหนังสือลงแล้วค่อยๆ
พลิกกายขยับตัวเข้าไปใกล้ชายหนุ่มในร่างหญิงสาว
ดวงตาเรียวรีหลุบลงมองแผ่นอกผอมบางก่อนที่ท่อนขาจะยกขึ้นเกี่ยวเอวคนด้านหน้าเอาไว้
แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงความเป็นชายของอีกฝ่ายที่กำลังแข็งชันขึ้นดันชุดนอนกระโปรงผ้าบาง
ชานยอลกำลังมีอารมณ์
เขากำลังมีอารมณ์ทางเพศในแบบของผู้ชายซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาดหากยังไม่มีการสมรสเกิดขึ้น...
“ข้า...”
“อื้อ....”
ไม่มีคำพูดใดเล็ดรอดออกมาทันทีริมฝีปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากัน
แบคฮยอนถูกกอดรัดด้วยท่อนแขนเรียวยาวจนร่างกายของเขาแนบชิดไปกับแผ่นอกของนายสาวรวมถึงอวัยวะเบื้องล่าง
เสียงจ๊วบจ๊าบจากจูบที่ไร้เดียงสาดังไปทั่วห้องเคล้ากับเสียงครางเล็กๆ
ของเด็กหนุ่ม
ทั้งสองพลัดกันดูดลิ้นสลับกับประกบจูบบดขยี้ริมฝีปากเป็นครั้งคราว
ในขณะที่ส่วนล่างก็บดเบียดเข้าหากัน
แบคฮยอนใช้ขาเกี่ยวเอวคุณหนูตัวผอมบางไว้แน่นด้วยความเสียว
ทุกครั้งที่สะโพกขยับบดเบียดความเป็นชายเข้าหากันความรู้สึกแปลกๆ
ก็วิ่งแล่นขึ้นมาจุกอยู่เต็มท้องน้อย
พวงแก้มขาวใสขึ้นสีแดงระเรื่อจากแรงอารมณ์
แบคฮยอนยื่นหน้าเข้าไปขบจูบริมฝีปากของคุณหนูเบาๆ
พอเขาแลบลิ้นออกมาก็ดูดกลืนมันเข้าไปในปากอย่างไร้เดียงสาและไม่มีชั้นเชิง
พวกเขาสลับกันทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ โดยที่ช่วงล่างก็ยังขยับความเป็นชายเข้าถูกัน
“อื้อ...”
ชานยอลรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่อัดแน่นและกำลังจะระเบิดออก ในจังหวะนั้นเองคนตัวสูงประกบริมฝีปากค้างเอาไว้แล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อน ไล่ต้อนและบดขยี้กลีบปากบางอย่างตะกละตะกลามด้วยสัญชาตญาณก่อนที่ทุกอย่างจะขาวโพลน
“ฮ่ะ... ฮ่ะ...” คุณหนูชานยอลหอบหายใจฮั่ก พวงแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ
“มันเหมือนน้ำที่ข้าเห็นตอนเช้าๆ” เขาว่าพร้อมกับป้ายมือขึ้นดมก่อนที่จะพลิกตัวหันไปหาเด็กรับใช้คนสนิทอีกครั้ง
“มันคือน้ำของผู้ชายไงล่ะ
เมื่อกี้เจ้าเพิ่งสำเร็จความใคร่ไป ถ้าเกิดเจ้าปล่อยสิ่งนี้ใส่ตัวผู้หญิง
ผู้หญิงก็จะท้อง” คนตัวเล็กว่าอย่างรู้ดี แบคฮยอนรู้มากกว่านี้อีกว่าต้องทำยังไงผู้ชายถึงจะเป็นผู้ชาย
“แล้วถ้าข้าปล่อยมันใส่เจ้า เจ้าจะท้องไหม” ชายหนุ่มว่าพร้อมกับระบายยิ้มออกมา
“ข้าไม่ท้องหรอก ก็ข้าเป็นผู้ชายนี่”
“แล้วเจ้าชอบผู้ชายไหม”
“ช้าชอบผู้ชายแต่ข้าไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงสักหน่อย”
“งั้นเจ้าชอบผู้ชายแบบไหน”
“ข้าชอบผู้ชายแบบคริสติน คนตัวสูงใหญ่
ดูหน้าเค้าสิ หล่อจะตาย ข้าอยากนอนกับเค้า” คนตัวเล็กครวญเพ้อถึงพ่อหนุ่มเลี้ยงม้าในฝันของตน
แบคฮยอนตั้งเป้าเอาไว้ในใจว่าเขาจะต้องนอนกับคริสตินให้ได้ในสักวันนึง
แล้วถึงวันนั้นก็จะเอามาเล่าให้ชานยอลฟังด้วย
“เจ้าเที่ยวนอนกับคนอื่นไปทั่วไม่ได้”
“เค้าไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย ถ้าข้าได้นอนกับเค้า
ข้าจะเอามาเล่าให้เจ้าฟัง”
“ข้าไม่อยากให้เจ้าทำแบบนั้น” ความหึงหวงเล็กๆ เกิดขึ้นในใจคุณหนูผู้ไร้รัก
คิ้วเรียวขมวดย่นลงเล็กน้อย
ชานยอลลุกขึ้นจากเตียงแล้วเปลื้องชุดนอนเปื้อนคราบน้ำกามออกเพื่อที่จะเปลี่ยนเป็นชุดใหม่
เขายืนหันหลังโชว์รูปร่างสูงโปร่งให้กับสหายตัวเล็กในขณะที่รื้อชั้นใส่เสื้อผ้าเพื่อหาชุดนอนตัวใหม่
“ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่”
“17 ปี”
“ข้าเสียดายรูปร่างเจ้า
ถ้าเจ้าเป็นผู้ชายเจ้าต้องหล่อแน่ คุณหนูเชื่อข้าสิ ขนาดแค่เพิ่งแตกเนื้อหุ่นเจ้ายังออกขนาดนี้”
คำพูดของเด็กรับใช้คนสนิทฉุดความคิดคุณหนูคนสวยให้ต้องชะงัก
ชานยอลไม่เคยจินตนาการถึงรูปร่างของตัวเองในแบบชายหนุ่มเพราะแม่บอกว่ามันน่าเกลียดเหมือนม้า
และชานยอลจะมีเสียงที่น่ารำคาญเหมือนสิงโตคำราม
เขายังจำรูปร่างที่ดูประหลาดของพี่ชายในชุดกระโปรงได้ มันช่างดูไม่เหมือนกับสตรี
“แม่ข้าบอกว่ามันน่าเกลียด... เหมือนพี่ชายข้า”
“พี่ชายเจ้ากลายเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในเมือง
ข้าเจอเค้าทุกวันที่ร้านเหล้า นับวันเค้ายิ่งหล่อ ดีแล้วที่เค้าออกจากคฤหาสน์ไป
เค้าไม่เหมาะจะใส่ชุดกระโปรงกับหมวกน่ารักเหมือนเจ้า”
“งั้นหรอ เจ้าชอบแบบนั้นงั้นหรอ” ความรู้สึกประหลาดเกิดขึ้นในใจชายหนุ่มที่กำลังสวมชุดนอนกระโปรงให้กับตัวเองอีกครั้ง
มันจะเรียกว่าเป็นความไม่พอใจก็ไม่ถูกนัก
แต่ชานยอลไม่ชอบเลยเวลาที่แบคฮยอนเอาแต่พูดถึงผู้ชายคนอื่น
เอาแต่ชื่นชมรูปร่างบึกบึนในแบบที่เค้าชอบ
“อื้อ ข้ามีวิธีที่จะทำให้รับรู้ถึงความเป็นผู้ชายด้วยนะ”
“ยังไงล่ะ”
“เอาไว้ข้าจะมาบอกทีหลัง
ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นสตรีให้ใครจับแต่งตัวเล่นเจ้าก็เลิกกินยาซะ
แต่ถ้าเจ้าชอบเป็นแบบนี้มันก็เป็นหนทางของเจ้า”
“ถ้าแม่รู้ข้าต้องถูกลงโทษแน่”
“ท่านทำตัวเหยาะแหยะเหมือนผู้หญิง
เป็นข้าก็คงไม่ลังเลหรอก”
คำว่าเหยาะแหยะเหมือนผู้หญิงที่ออกมาจากปากสหายคนสนิทฉุดความคิดบางอย่างในส่วนลึกของชายหนุ่มให้กระเตื้องขึ้น
ชานยอลหันไปมองเด็กรับใช้จอมแก่นของเขาก่อนที่จะเดินกลับขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
“เจ้าจะอ่านหนังสือต่อไหม”
“ไม่ล่ะ วันนี้ข้าพอแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่
ฝันดีคุณหนู เจอกันพรุ่งนี้เช้า” พูดแค่นั้นแบคฮยอนก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเก็บหนังสือพับใส่ห่อผ้าสีขาว
ก่อนจะแอบย่องไปเปิดประตูแล้วหายออกไปในความเงียบ
ปล่อยให้คุณหนูแห่งคฤหาสน์ผู้พิพากษานั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองเกี่ยวกับความสวยงามทางเพศ
ชานยอลก้มลงมองดูผิวกายและเรือนร่างของเขาด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไปจากทุกที
และความรู้สึกนี้ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
อยากจะเป็นชายรูปงามที่ปกป้องแบคฮยอนได้...
อยากมีร่างกายสวยงามในแบบที่แบคฮยอนชื่นชม อยากเป็นคนที่ทำให้แบคฮยอนพอใจ...
.
.
.
“คุณหนูคะ วันนี้ของว่างมีพายแอปเปิ้ลกับทาร์ต
อยากจะทานอะไรดีคะ”
“อะไรก็ได้สองชิ้น แล้วก็ชาด้วย”
“แล้วก็ขอยาเพิ่มด้วย”
เสียงท่านหญิงแห่งคฤหาสน์กล่าวสั่งกับสาวใช้
เธอหลุบตาลงมองลูกชายแล้วเดินอ้อมไปหาเขาทางด้านหลังเก้าอี้อ่านหนังสือในสวนก่อนจะพูดออกมา
“ช่วงนี้ดูตัวเจ้าใหญ่ขึ้นหรือเปล่า
อาทิตย์หน้าแม่จะได้ให้ช่างมาตัดชุดใหม่”
“ข้าก็คิดอย่างนั้น
ช่วงนี้ข้าคงทานเยอะเกินไปเพราะขนมอร่อยมาก” คุณหนูคนเล็ฏกล่าว
เธอละปลายปากกาที่กำลังจดตำราภาษาฝรั่งเศสเอาไว้
ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับผู้เป็นแม่
“อีกไม่กี่เดือนลูกจะอายุ 18
เจ้าต้องหัดดูแลตัวเองได้แล้ว อย่าปล่อยตัวให้อ้วนฉุ”
“งั้นข้าจะลดมื้อค่ำลง”
“ดี เดี๋ยวแม่จะให้คนนำแต่ยาไปให้” ท่านหญิงกล่าวเสียงเรียบ เธอบีบมือเบาๆ
ลงบนไหล่ที่เริ่มจะขึ้นเป็นโครงของลูกชายก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากสวนที่เป็นบริเวณสำหรับอ่านหนังสือ
และเมื่อไม่มีใครอยู่ชานยอลก็หยิบเอาวรรณกรรมเรื่องการสงครามในสนามรบของทหารออกมาอ่านต่อ
เขาแอบส่งยิ้มให้แบคฮยอนก่อนจะตบที่นั่งข้างๆ
เป็นเชิงเรียกให้สหายสนิทขยับตัวขึ้นมานั่งได้แล้ว
“นี่ เมื่อเช้าเจ้ากินยาหรือเปล่า” เจ้าตัวเล็กจอมขี้สงสัยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
พอเห็นว่าผู้เป็นนายส่ายหน้าแบคฮยอนก็ยิ้มออกมา
“ข้าไม่ได้กินยามาจะสองอาทิตย์แล้ว”
“งั้นหรอ เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง”
“ก็ไม่
ข้ายังไม่รู้สึกอะไรแต่ตรงนั้นมีขนขึ้นมาด้วย”
“แสดงว่าร่างกายเจ้าเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว ดีจัง
คืนนี้เจ้าว่างไหม” แบคฮยอนปิดหนังสือของเขาลงพลางกวาดตามองรอบตัวด้วยความกลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน
ที่ใต้โต๊ะเขียนหนังสือเขาแอบจับมือคุณหนูชานยอลเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น
“คืนนี้ข้าอ่านหนังสือที่ห้อง เจ้าไปหาก็ได้” ชานยอลว่า
เขาถอดผ้าคลุมไหล่ออกแล้วส่งมันให้กับสหายตัวจ้อยที่ฝ่ามือเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
“ดี วันนี้ข้าก็เอาหนังสือมาเหมือนกัน” พูดเพียงแค่นั้นทั้งสองก็ระบายยิ้มออกมาเป็นอันว่ารู้กันถึงความหมายของการอ่านหนังสือที่ห้องนอน
เสียงคนเปิดประตูจาหลังบ้านบอกแบคฮยอนให้ต้องกลับไปนั่งที่เดิม
เขาแสร้งทำเป็นจัดตำราไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งสาวรับใช้เอมิเรียเดินจากไป
แบคฮยอนก็หยิบเอาหนังสือเล่มนั้นของเขาขึ้นมาอ่านต่อ
.
.
.
ภายในห้องนอนที่ถูกล็อคกลอนแน่นหนา
ชานยอลกำลังยืนเปลื้องผ้าอยู่หน้ากระจกโดยมีเด็กรับใช้คนสนิทช่วยส่องดูความเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้วย
นอกจากขนตรงอวัยวะเพศแล้ว
ชานยอลคิดว่าเสียงของเขาใหญ่ขึ้นนิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้สังเกตได้ง่ายๆ
จากการพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นอกจากนั้นผิวก็ยังเริ่มหยาบกร้านขึ้น
หัวไหล่ที่เคยเล็กขยายออกจนใส่ชุดเก่าแทบไม่ได้ ชานยอลเริ่มเห็นตัวเองเป็นเหมือนพี่ชาย
สักวันเขาคงจะน่าเกลียดจนใส่ชุดกระโปรงไม่ได้
“เจ้าดูเหมือนเด็กผู้ชายเพิ่งแตกหนุ่ม” เจ้าตัวเล็กว่าอย่างรู้ดี
แบคฮยอนเห็นคุณหนูคนสวยสวมชุดนอนกระโปรงสีขาวเหมือนทุกที
ก่อนที่เขาจะเดินตรงมาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ กัน
“ข้าดูเป็นแบบนั้นหรอ”
“ตอนนี้ก็ยังไม่ขนาดนั้น นี่
วันนี้ข้าเอาเล่มใหม่มาเจ้าจะต้องบอกว่ามันสุดยอด” แบคฮยอนกล่าวด้วยท่าทางตื่นเต้น
เขาเอนหลังลงบนหมอนแล้วเปิดหน้าหนังสือออก
ภาพวาดอีโรติคในหน้านิยายเพียงแค่ได้เห็นก็ขนลุกซู่ไปหมด
“เรื่องคนเลี้ยงม้ากับลูกสาวท่านดยุค
ข้าอ่านแล้วขนลุกไปหมด นางแอบมีอะไรกับคนใช้ก่อนคืนแต่งงานที่คอกม้า
แล้วก็แอบมีอะไรกันอีกหลังคืนแต่งงาน ข้าอยากเป็นลูกสาวท่านดยุคบ้าง เจ้าลองอ่านดู” หนังสือปกสีดำถูกยื่นให้กับคนข้างกาย
ชานยอลรับไปเปิดดูผ่านๆ
ก่อนจะขยับริมฝีปากอ่านตัวอักษรในหน้าหนังสือออกมา
“ไอ้คนเลี้ยงม้าที่เก่งเรื่องการขึ้นม้าพยศคร่อมแม่หญิงเฮเลน กลิ่นฟางและเหงื่อไคลปลุกอารมณ์ดิบในตัวชายหนุ่ม
แสงไฟจากตะเกียงส่องกระทบหน้าอกขาวโพลน เธอจูบลงบนรอยแผลเป็นของเขา
ขบจูบมันซ้ำแล้วซ้ำอีก…”
…..
“ยอดปทุมถันถูกกลืนกินอย่างตะกละตะกลาม
ชายผิวเข้มกระชากผมแม่หญิงแห่งตะกูลสูงศักดิ์ขึ้นเหมือนดึงบังเหียนม้า
เขาโหดเหี้ยมไร้ความปราณี และเธอชอบที่จะถูกกระทำอย่างต่ำช้าเหลือเกิน....”
“เจ้าชอบไหม” แบคฮยอนกระซิบคำถามเบาๆ
เขาซุกใบหน้าร้อนเห่อลงกับราดไหล่ของคุณหนู
ในขณะที่ฝ่ามือก็ลูบลากไปทั่วเรือนร่างขาวเนียน
“ก็สนุกดี ดูรสนิยมเจ้าชอบแบบรุนแรง” ชานยอลว่าพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“ใช่ ข้าชอบ ข้าอยากถูกทำอย่างงั้นบ้าง”
“เจ้ามันแก่แดด”
“เจ้าอยากรู้ไหมว่าถ้าอยากเป็นผู้ชายต้องทำไง” คนตัวเล็กว่าพร้อมกับหยัดตัวขึ้นนั่ง
แบคฮยอนตวัดขาขึ้นคร่อมร่างคุณหนูของเขาด้วยใบหน้าแดงเห่อ
ความเป็นชายภายใต้กระโปรงผ้าบางที่กำลังดุนดันอยู่ตรงหว่างขาทำท้องน้อยเสียววูบไปหมด
ยิ่งสัมผัสได้ถึงความร้อนของมันอารมณ์ของเด็กรับใช้แก่แดดก็ยิ่งแตกกระเจิง
“แบคฮยอน...”
“เจ้าอ่านสิ แล้วข้าจะทำ”
ริมฝีปากบางเม้มแน่น
พวงแก้มแดงส่องสะท้อนกับแสงเทียน ลมหายใจของคนตัวเล็กเริ่มติดขัด
มือบางจิกขยุ้มชุดนอนคุณหนูไว้แน่น ดวงตาเรียวรีหลับลง
ทันทีที่ตัวอักษรถูกอ่านต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม
แบคฮยอนก็รู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมดำ
behide curtain
“ถ้าแม่ข้ารู้เจ้าถูกเฆี่ยนตายแน่” ถึงจะพูดออกไปอย่างนั้นแต่ชานยอลก็ยิ้มออกมา
เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของเจ้าเด็กจอมแก่แดดก่อนก้มจะก้มหน้าลงกดจูบบนเรือนผมสีดำสนิท
ไม่รู้หรอกว่านี่ในความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร
ชานยอลแค่อยากเป็นคนที่แบคฮยอนฝันถึง เขาอยากเป็นคนที่ปกป้องดูแลแบคฮยอนได้
ถ้านั่นคือสิ่งที่เรียกว่าความเป็นผู้ชาย
ชานยอลก็คิดว่าเขาพร้อมที่จะเป็นผู้ชายของแบคฮยอน...
ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน...
ความคิดเห็น