[OS] Love Light - Soonyoung x Minghao
Soonyoung x Minghao ฝากความซูนฮ่าวไว้ในใจทุกคนด้วยนะครัช
ผู้เข้าชมรวม
1,196
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อผมมองคุณ ก็เกิดอาการ ‘หน้าแดง’
เมื่อผมมองคุณ ‘หัวใจผมเต้นตึกตัก’
เหมือนกับเด็กน้อยที่ ‘เขินอาย’ เกินจะกล่าว
“ซูน... ซูนยอง...ไอ่ซูนยอง!!”
“ห้ะๆ.. ว่าๆ ว่าไง?”
“เหม่ออะไร ไปได้ยัง”
“อ่ะ อ่อๆ เออไปดิ ไปๆ”
ซอกมินเอ่ยเรียกผมให้หลุดออกจากความคิดของตัวเอง เมื่อกี้ผมเดินส่วนคนๆ หนึ่งที่ผมเฝ้ามองมาเป็นเวลาสักระยะแล้วครับ ถึงมันอาจจะไม่นานแต่เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมใจสั่นและเขินอายได้เพียงแค่มองหน้า เขาเป็นลูกคนจีนครับ เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่นี้ หน้าตาจิ้มลิ้ม ยิ้มทีโลกสดใส ตอนนี้เห็นว่ายังพูดเกาหลีไม่ค่อยได้ ผมเองเลยไม่กล้าพอที่จะเข้าไปคุยกับเขา
“ทำไมเมื่อกี้หน้าแดง ฮ่ะแน่~ เขินเด็กใหม่ห้องหนึ่งหรือไง”
“เขินบ้าเขินบอไร ไร้สาระ ไปๆ เข้าเรียน”
ผมตอบปัดทำหน้าเข้มกลบเกลื่อนซอกมินแล้วเดินเข้าห้องไปโดยไม่สนใจมัน จะให้ตอบว่าจริงๆ เขินมากก็พาลจะให้ซอกมินล้อผมไม่เลิก มันไม่ดีต่อตัวผมแน่ๆ
ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาความรู้สึกของผมมันตอบได้เลยว่าคนนี้แหละครับคือคนที่ใช่ สรุปง่ายๆ นี่อาจจะเป็นรักแรกพบก็ว่าได้ ความน่ารักของเขาแค่เพียงได้มองใจก็เต้นแรง รอยยิ้มของเขาเพียงได้เห็นก็ทำให้ผมเขินได้ จนบางทีผมเองก็เผลอยิ้มตาม อยากจะเข้าไปคุย อยากเข้าไปทำความรู้จักก็ทำไม่ได้ มันไม่ง่ายเลยครับด้วยความที่เราอยู่กันคนละห้อง และเขาเองก็ยังพูดภาษาเดียวกันกับผมไม่ค่อยได้
เศร้าใจจังครับ..
ตอนเที่ยงหลังจากที่ผมกินข้าวเสร็จผมก็จะมานั่งที่ของผมที่ติดริมหน้าต่างประจำทุกวัน ทำทีเป็นอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน แต่ความจริงแล้วผมแอบมานั่งมองใครบางคนโดยไม่ให้ซอกมินจับได้เท่านั้นเอง ผมไม่อยากให้มันรู้ ถ้ามันรู้ว่าผมชอบใครโลกก็จะรู้ หายนะชัดๆ
จากตรงนี้มองลงไปจะเห็นสนามโรงเรียนทั้งสนาม และข้างสนามก็จะเป็นที่ๆ เขาชอบมานั่งเล่นบางวันโชคดีก็จะได้เห็นเขา แต่ถ้าวันไหนโชคไม่เข้าข้างก็อดเห็นแค่นั้น วิถีของการแอบชอบของผมคือทำได้แค่เฝ้ามองห่างๆ แล้วแต่โชคชะตาล้วนๆ และถ้าสักวันฟ้าเห็นใจผมคงได้คุยกับเขาจริงๆ
ความสุขของผมตอนนี้คือการได้แอบมองเขา
แค่นี้ผมเองก็พอใจแล้ว...
วันนี้โชคเข้าข้างผมครับ คนที่ผมชอบเขามานั่งเล่นข้างสนามกีฬากับเพื่อนๆ ในกลุ่มของเขา บางทีที่เขาสนุกไปกับเพื่อนเขาก็ยิ้มและหัวเราะ บางทีเขาก็นั่งมองเพื่อนนิ่งๆ เพราะอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด เพื่อนเลยต้องพากันพยายามอธิบายกันใหญ่ น่ารักจังเลยครับ ดวงตาใสซื่อกลมโตทำหน้างงเพราะไม่เข้าใจ กับรอยยิ้มสดใสที่ใครได้เห็นคงต้องหลงไหล ต่อให้เขาจะยิ้มหรือจะทำหน้านิ่งๆ มันก็น่ารักอยู่ดี
...แต่ผมก็ชอบให้เขายิ้มมากกว่านะ
อย่าให้รอยยิ้มของนายหายไปล่ะ
เข้าใจมั้ย...
“มองอะไรว่ะ ทำไมนั่งยิ้มอยู่คนเดียว อ่านหนังสือจนเป็นบ้าไปแล้วไง”
ซอกมินชะโงกหน้ามองตามสายตาผมไป ผมรีบผลักหน้ามันออกเลยครับ กลัวมันจะเห็นว่าผมกำลังมองอะไรอยู่ มันจะรีบกลับมาทำไม หมดกันโลกสีชมพูของผม
“อะไรของมึง มาแล้วก็ไปนั่งที่ดิว่ะ”
“แหม ทำตัวมีพิรุธนะ เออๆ ไปก็ได้”
ซอกมินเดินยิ้มกลับไปนั่งที่ประจำของตัวเองครับ ฮู่วว~ ขอถอนหายใจแรงๆ มันยังไม่รู้โลกของผมก็สงบต่อไป
“อ่าว หายไปไหนแล้วอ่ะ”
ผมกระซิบถามกับตัวเอง ก็เมื่อกี้ยังอยู่อยู่เลยนี่หว่า หายไปแล้วอ่ะ ซอกมินเพราะมึงคนเดียวทำให้กูพลาด ฝากไว้ก่อนมึง แล้วนี่กี่โมงแล้ววะเนี้ย
12:56
“สมควรแล้วที่เขาจะไม่อยู่”
ก็มันจะเข้าเรียนแล้วนี่เนอะ
อย่าทำให้ลมหายใจของผมขาดหาย
กริ๊งง!!~~
อ่า ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว รู้สึกเหมือนโดนปลดปล่อยออกจากคุกเลยครับ จะได้กลับไปนอนอืดที่บ้านสบายๆ สักที
“ซูน มึงกลับบ้านเลยป่ะ”
เสียงซอกมินเอ่ยตะโกนถามผม ผมกับซอกมินไม่ได้นั่งใกล้กันเหมือนเพื่อนทั่วไปหรอกครับ จริงๆ ห้องผมจับฉลากที่นั่งน่ะผมกับมันเลยไม่ได้นั่งด้วยกัน แต่ก็ดีแล้วครับ ดีต่อโลกสีชมพูของผม สงสัยใช่มั้ยครับทำไมถึงกลัวมันรู้มากขนาดนั้น ปีที่แล้วครับเพื่อนในห้องผมชื่อซึงชอล มันชอบเพื่อนข้างห้อง แต่ดันพลาดให้ซอกมินรู้ ก็อย่างที่บอกครับ ซอกรู้โลกก็รู้ และด้วยความโชคร้ายของชเวซึงชอลผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธเขาอย่างไม่ใยดีแถมออกจะเกลียดด้วยซ้ำ ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นกับผม ผมคงเฉาตายอายจนรับไม่ได้แน่ๆ
ผมขอชอบอยู่เงียบๆ แบบนี้ดีกว่าครับ
“เออ กลับเลย ง่วงจะตายละเนี้ย ใครเขาบอกให้เอาคณิตมาเรียนตอนบ่ายวะแม่ม”
“บ่นมากมึง ว่าจะชวนไปกินติม แต่ไม่เป็นไรกูเข้าใจ พรุ่งนี้เจอกัน บาย~”
ซอกมินบอกลาผมแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี จริงๆ มันนัดสาวไว้ผมรู้ มันก็แกล้งชวนตามมารยาทความเป็นเพื่อนเท่านั้นแหละ มันเจ้าชู้จะตาย จะชายจะหญิงเห็นดีเห็นน่ารักหน่อยมันก็ไปเต๊าะหมดแหละ สักวันมันจะไม่มีคนคบนะคอยดู
ผมเดินลงบันไดมาหวังจะตรงกลับบ้านอย่างประจำทุกวัน แต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ผมเจอเขาอีกแล้วครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมหยุดทุกการเคลื่อนไหวเหมือนโลกนี้กำลังหยุดหมุนนั่นคือ
เขากำลังมองมาที่ผม...
และยิ้มให้ผม...
นี่มันบังเอิญหรือเขาตั้งใจ
ผมหยุดยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนถูกสต๊าฟไว้จนกระทั่งเขาเดินจากไป เสียงหัวใจของผมเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะจนน่ากลัว หน้าของผมร้อนจัดจนรู้สึกได้ว่ามันคงกำลังแดงอยู่ รอยยิ้มของเขาทำให้ผมแทบหยุดหายใจ ให้ตายสิ นี่มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหน่า ทำไมจะต้องเขินขนาดนี้ เขาคือคนเดียวจริงๆ ที่เข้ามาครอบครองหัวใจของผมได้ง่ายๆ เพียงแค่เขายิ้ม
แค่เธอยิ้มมาก็สั่นไปทั้งหัวใจ...
ในวันที่ใครๆ ก็เฝ้าคอยหวังจะได้ดอกไม้ ช็อกโกแลต ลูกอม จากเพศตรงข้าม หวังจะส่งจดหมายสารภาพรัก หรืออาจจะเฝ้ารอเพื่อไปสารภาพรักกับเขาโดยตรงเช่นกับผม วันนี้คือวันแห่งความรักครับ วันวาเลนไทน์ วันที่ผมตั้งใจจะเข้าไปคุยกับเขา แล้วบอกให้เขารู้ว่า
ผมชอบเขา
มันไม่ง่ายเลยครับ ถึงเขาจะเข้าใจในภาษาเดียวกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมสารภาพไปแล้วเขาจะชอบผมกลับ กลัวจังเลยครับ แต่จะเก็บไว้มันก็รู้สึกอึดอัด ถ้าได้บอกไปผมคงโล่งใจ ผลออกมาจะเป็นยังไงผมก็จะยอมรับมันให้ได้ ผมทำใจไว้แล้ว
ผมเดินตามหาเขาไปทั่วโรงเรียนแล้วครับ แต่ก็ยังไม่เจอ ผมไปตามหาที่ๆ เขาชอบไปก็ไม่มี หรือวันนี้เขาจะไม่มานะ ไม่หน่าต้องมาสิ ฉันทำใจกล้าได้แล้วนะ อย่าหายไปแบบนี้สิ ออกมาเจอกันหน่อย ฟ้าครับลิขิตให้ผมได้เจอเขาที ผมเดินจนเหนื่อยแล้วครับ
ในขณะที่ผมเดินคอตกอย่างหมดหวัง เหมือนฟ้าท่านจะได้ยินสิ่งที่ผมร้องของ ผมเจอเขาแล้วครับ ตอนนี้เขาอยู่เบื้องหน้าผมแล้ว สิ่งที่ผมต้องทำต่อไปคือการเดินเข้าไปหาเขา แต่ผมดันก้าวขาไม่ออกซะอย่างงั้น
กล้าๆ หน่อยซูนยอง สู้!
ผมเริ่มก้าวเดินเข้าไปให้หาเขา ใจของผมเต้นแรงจนน่ากลัว น่าของผมเริ่มร้อนอีกแล้ว วันนี้ผมจะรอดมั้ยครับเนี้ย
“เอ่อ...มะ หมิงฮ่าว...”
เรียกแล้วครับ เรียกชื่อเขาออกไปแล้วครับ นี่คือครั้งแรกเลยนะที่ผมเรียกชื่อเขา
“อ่า...ว่า ว่าไง?”
หมิงฮ่าวตอบผมอย่างไม่ค่อยมั่นใจในภาษา ดวงตากลมใสซื่อมองมาด้วยความสงสัยว่าผมมีอะไรจะพูดกับเขา มันดูน่ารักจังเลยครับ น่ารักมากๆ น่ารักจนตอนนี้หน้าผมคงแดงกว่าเดิมแน่ๆ น่าอายจัง
“มะ..มีเวลาสักนิดมั้ย ขอคุยด้วยหน่อยได้หรือเปล่า”
ทำไมเสียงจะต้องมาสั่นด้วย ใจเย็นๆ นะซูนยอง ใจเย็นๆ
“ได้ ได้สิ ได้เลย”
“คือ…คือ...คือ..ไปที่สวนหลังโรงเรียนได้มั้ย?”
สุดท้ายผมก็ยังไม่กล้าพอ ตรงนี้มันสาธารณะเกินไป ผมเลยไม่กล้าพอที่จะพูด รู้สึกเหมือนคนกำลังมองมาที่เราเต็มเลย ย้ายที่ดีกว่าครับ
ผมนำหมิงฮ่าวเดินมายังสวนหลังโรงเรียน ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมเองก็เกร็งเพราะไม่เคยอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ ไม่เคยพูดคุยหรือแม้แต่ทักทาย ผมประหม่ามากเลยครับตอนนี้
“มี มีอะไรหรือ....”
“ฉันชอบนาย!”
ทันทีที่มาถึงเขาก็เอ่ยถามผม แต่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคดีผมก็พูดแทรกขึ้นพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบที่พยายามซ่อนไม่ให้เขาเห็นมาตลอดทางให้เขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เขานิ่งไปเลยครับ หน้าของเขาดูตกใจมากกับสิ่งที่ผมเอ่ยพูดออกไป
“ชอบ...ชอบ? นายชอบเรา..หรือ?”
“ใช่ ฉันชอบนาย รับไปสิ” ผมตอบเขาพร้อมกับยัดดอกกุหลาบใส่มือเขา
“…..”
“ฉันรู้ว่าเราไม่เคยรู้จักกัน แม้แต่ชื่อฉันนายเองก็ไม่รู้ อย่าถามว่าเพราะอะไรทำไมฉันถึงชอบนาย ความรักมันไม่มีเหตุผลหรอก...”
“เอ่อ....”
“ฉันรู้คำตอบนายดี ฉันเตรียมใจมาแล้ว ฉันแค่อยากบอกเฉยๆ ไม่ต้องกังวนไปหรอก คือ..มันอึดอัดน่ะ แค่นายรับรู้ฉันก็พอใจแล้ว นายไม่ต้องรับรักฉันหรอก”
“คือ....”
“ขอบใจที่เสียเวลามาฟังนะ ไปละ บาย~”
ผมพูดรัวๆ ไม่ให้เขาได้ตอบโต้อะไร พอพูดจบก็ตบบ่าเขาเบาๆ และยิ้มให้เขาอย่าประหม่า พร้อมกับก้าวเดินออกมาด้วยหัวใจที่เต้นแรงกว่าเดิม และรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แค่นี้แหละสิ่งที่ผมต้องการคือการแค่ได้บอกเขา ผมรู้คำตอบตั้งแต่แรกแล้วล่ะ คนเราไม่เคยคุยกันจะมารักพอชอบกันได้ไงเนอะ หลังจากนี้จะชอบต่อไปหรือตัดใจไว้ค่อยคิดแล้วกัน
“เดี๋ยวสิ! เดี๋ยว!!...แล้วรู้ได้ไงว่าเราไม่ได้ชอบนาย ห้ะ ซูนยอง”
“…..”
จบแบบนี้ไปคิดต่อเอาเนอะ
เป็นไงบ้างฝากคอมเม้นด้วยน้า
ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะคะ
ขอบคุณค่า
ผลงานอื่นๆ ของ พีอาร์ดี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ พีอาร์ดี
ความคิดเห็น