ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] Puppy Doll :: ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #6 : ( -㉦-)----> Chapter 5 - ครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 56



     

    Puppy Doll

    Author: mizallsunday

    Pairing: Chanyeol  Baekhyun

    *Rate: PG13 – NC*




    .....
    .............................................


    Chapter 5 ครั้งแรก --






     

    ครั้งแรกสำหรับการทำอะไรสักอย่าง  มักจะทำให้หลายๆ คนตื่นเต้นและประหม่า 


    เราต้องเผชิญหน้ากับมันทั้งๆ ที่ยังเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย  กังวล  และรู้สึกตื่นเต้น


    ตอนนี้ก็เช่นกัน... เป็นครั้งแรกที่ผมพยอน  แบคฮยอน  กลายมาเป็นนักศึกษาเฟรชชี่สดใหม่ของมหาวิทยาลัยชื่อดังของย่านนี้  ความตื่นเต้นสำหรับวันแรกนั้นค่อนข้างทำผมกังวล  จนเมื่อคืนกว่าผมจะข่มตาให้หลับก็ปาไปค่อนคืนทีเดียว


    ตอนเช้าผมตื่นเต้นกับชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมในตู้เสื้อผ้าที่ถูกรีดซะเรียบกริบ  และยังต้องมาประหม่ากับความเอาใจใส่ของ ปาร์ค  ชานยอล  เพื่อนร่วมบ้านที่อาศัยใต้ชายคาเดียวกันมาได้สองอาทิตย์


    อาหารเช้าสไตล์ฝรั่งถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะกินข้าว..


    ไข่ดาวสุกปานกลางสองใบ  ไส้กรอกสองชิ้น  และโบโลน่าสี่ชิ้น  ถูกจัดวางอยู่บนจานสองชุดพร้อมมีดและส้อมเตรียมรับประทานทุกเมื่อ


    สองอาทิตย์ในการใช้เวลาร่วมกัน มันยังไม่ทำให้ผมชินกับมันสักเท่าไหร่  ที่มีคนอื่นนอกจากครอบครัวเอาใจใส่และดูแลผมดีขนาดนี้


    อาหารเช้าเกิดขึ้นทุกวันโดยฝีมือชานยอล  แถมยังสลับกับมื้อเช้าอย่างโจ๊กหมูใส่ไข่ของโปรดผมอย่างรู้ใจบ่อยๆ


    แถมมาถึงมหาลัยแล้วยังต้องมาประหม่าในการทักทายกับนักศึกษาคณะเดียวกันไปครึ่งวัน  ยังดีที่พวกผมสามคนเรียนคณะบริหารกันทั้งหมด  เพราะงั้นความประหม่าของผมมันเลยหายไปกว่าครึ่งทีเดียว


    แต่สิ่งที่กังวลตอนนี้คือผมต้องมานั่งอยู่หน้าคณะของตนเองทั้งๆ ที่เพื่อนร่วมคณะก็ทยอยกลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว

    ทำไมน่ะหรอครับ?


    ก็เพราะพ่อรูปหล่อสองคนเพื่อนของผม  ถูกรุ่นพี่ในคณะพาไปดูตัวเพื่อคัดเลือกเดือนประจำคณะ


    ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกที่สองคนนั้นจะถูกทาบทาม  ก็หน้าตาดีกันซะขนาดนั้น  แถมสูงชะลูดยังกับเสาไฟฟ้ากันทั้งคู่ 


    แต่ผมก็หน้าตาดีนะ... แค่ไม่สูงเท่านั้นเอง


    เชอะ....


    นั่งเบื่อได้ไม่นานคนที่คอยมาเกือบชั่วโมงก็กำลังเดินมายังโต๊ะที่ผมกำลังนั่ง


    แต่...


    จงอินเดินมาแค่คนเดียว....  ไม่มี ชานยอล


    ไม่ทันได้ถามสิ่งที่สงสัยจงอินก็เฉลยออกมาซะก่อน


    “ชานยอลมันโดนเรียกให้อยู่คุยต่อนิดหน่อยเพราะมันถูกเลือกน่ะ”


    “งั้นหรอ... ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นะ”


    “แบคกี้หมายความว่าไงอ่า?”


    “ก็หมอนั่นหน้าตาดี  และก็สูงจะตาย  แถมวันนี้เมื่อตอนเช้าสาวๆ พากันมองเป็นตาเดียวเชียว”  ผมพูดพลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า


    หมอนั่น... ปาร์ค ชานยอล  ดูจะถูกจับตามองมากทีเดียว


    “แล้วฉันดูไม่ดีเท่ามันหรอแบคกี้? ”  จงอินเพื่อนผมส่งสายตางุ้งงิ้งน่าสงสาร  ที่มันไม่ได้เข้ากับบุคลิกกับเค้าเลยซักนิดเดียว


    “นายก็หล่อเหมือนกันแหละ  ฉันเห็นนะว่าเมื่อเช้าสาวๆ มองนายกันตรึม  น่าอิจฉาชะมัด” 


    ใช่ครับ...จงอินก็อีกคนที่สาวๆ พากันมองแล้วพากันทำตาเป็นประกายไม่หยุด  ส่วนผมก็มีนะแต่ไม่ได้มากเท่าสองคนนั้นหรอก 


    หมั่นไส้จริงๆ



    “ก็นั่นน่ะสินะ  ก็คนมันเกิดมาหน้าตาดีนี่เนอะ”


    “จ้าๆ พ่อคนรูปหล่ออออ~~~”  ผมพูดประชดอย่างหมั่นไส้ในท่าทางอวดความหล่อและป็อปปูล่าร์ของจงอิน


    “แล้วอีกนานไหมอ่ากว่าชานยอลจะมาเนี่ย?”  ผมถามจงอินเพื่อเบี่ยงประเด็นเรื่องความหล่อของเขาออกไป


    “ชานยอลมันบอกว่ากลับไปก่อนได้เลยน่ะ  เห็นว่าต้องคุยและนัดหมายกับดาวที่ต้องประกวดคู่กัน  แถมต้องรอแจ้งกำหนดการอีกเยอะเลย”


    อ่า.. อย่างนั้นหรอ...


    “ชานยอลคงกลับบ้านถูกใช่ไหมเนี่ย?”


    “กลับถูกแหละ  มันโตขนาดนี้แล้วกลับไม่ถูกก็บ้าแล้ว ไม่ต้องห่วงมันหรอก”


    “งั้นก็กลับกันเลยดีกว่า  เหนื่อยและก็หิวแล้วด้วย”


    “งั้นป่ะ เดี๋ยวชั้นไปส่ง”


    ระหว่างทางกลับบ้านพวกผมสองคนแวะทานข้าวเย็นกันที่ห้างสรรพสินค้า  ผมเองแหละครับที่ชวนจงอินไปกินข้าวเพราะยังไงกลับบ้านไปก็ไม่มีใครทำอาหารให้กินอยู่ดี  เพราะพ่อครัวประจำตัวของผมยังอยู่ที่มหาลัย


    เมื่อถึงหน้าหมู่บ้าน  ผมบอกให้จงอินจอดรถที่หน้าหมู่บ้านเพื่อปั่นจักรยานโดเรมอนที่รักของผมเข้าบ้านเอง  ผมร่ำลาจงอินแล้วรีบปั่นจักรยานกลับบ้าน


    สายลมปะทะหน้าของผมเบาๆ ให้รู้สึกสดชื่น  จนรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าที่เผชิญมาทั้งวันได้หายไปบ้าง  พลางนึกไปถึงคนบางคนที่ตอนนี้ยังคงติดธุระอยู่ที่มหาลัย  และปล่อยให้ผมต้องปั่นจักรยานเข้าบ้านเองแบบนี้


    ก็แหม... ปกติเค้าต้องเป็นคนปั่นจักรยานให้ผมซ้อนนี่นา   มาปั่นเองแบบนี้ไม่ค่อยชินเท่าไหร่...


    น่าแปลก... เพราะปกติผมก็ปั่นจักรยานตัวคนเดียวมาตลอด  แต่ปาร์ค ชานยอลทำให้ผมเสียนิสัย  กลายเป็นคนไม่ชอบปั่นแต่ชอบซ้อนท้ายไปซะแล้ว


    ปั่นจักรยานชมวิวได้ไม่นานก็ถึงบ้าน  ผมเปิดประตูรั้วและพาเจ้าม่อนน้อยมาจอดไว้ที่ประจำของมัน ก่อนที่จะรีบเข้าบ้านและขึ้นห้องของตัวเอง


    ผมเหวี่ยงกระเป๋าเป้ที่หลังลงกับพื้นห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนในทันที


    อา... บนเตียงนี่แหละสบายที่สุดแล้วววววว~~



    ก่อนที่ผมจะเคลิ้มหลับไป  ผมก็สะดุ้งขึ้นมาและบอกตัวเองว่าห้ามหลับเด็ดขาด  เพราะชานยอลยังไม่กลับบ้าน  และที่สำคัญผมก็ปั่นเจ้าม่อนน้อยกลับมาบ้านแล้ว  ชานยอลจะเข้ามาที่บ้านได้ยังไง


    คิดได้ดังนั้นจึงพาตัวเองไปหยิบหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดบนชั้นวางหนังสือก่อนที่จะเริ่มอ่านมันเพื่อฆ่าเวลา  ระหว่างนั่งรอใครอีกคน


    หนึ่งชั่วโมงผ่านไป....


    ผมเหลือบมองนาฬิกาเป็นครั้งที่สิบ  และคิดว่านี่มันดึกมากเกินไปแล้ว 


    ทำไมนายนั่นยังไม่กลับบ้านอีกนะ?



    ผมรู้สึกกระวนกระวายและเริ่มอ่านหนังสือการ์ตูนไม่รู้เรื่อง  จึงตัดสินใจวางมันลงกับพื้นแล้วลุกไปคว้ามือถือสมาร์ทโฟนเคสริลักคุมะสุดน่ารักมา  และส่งข้อความถึงอีกคน


    ตื้อ..ดื่อ..


    เสียงเรียกเข้าข้อความแอพลิเคชั่นมือถือดังขึ้นในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากที่ผมส่งข้อความไป


    ผมเปิดข้อความอ่านก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า 


    ผมรีบหยิบเสื้อคลุม และวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว


    คราวนี้ผมได้ใช้งานเจ้าม่อนน้อยอีกครั้ง…


    เป็นครั้งแรกที่ผมใช้งานเจ้าม่อนน้อยเพื่อไปรับใครซักคนด้วยความกระตือรือร้นในค่ำคืนที่ดึกขนาดนี้


    ขอโทษนะเจ้าม่อนน้อย... วันนี้ฉันคงจะใช้งานนายหนักเกินไปหน่อย


    ผมคร่อมขี่มันและปั่นออกจากตัวบ้านไปอย่างรวดเร็ว  เพราะกลัวว่าผู้โดยสารหน้าหมู่บ้านจะรอนาน


    ไม่สิ...


    .... ผมกลัวคนขับที่รอหน้าหมู่บ้านจะรอนาน  เพราะขากลับผมต้องกลายเป็นผู้โดยสารแทนน่ะสิ

     
     

     

    BaekHyun  “จะกลับได้หรือยังปาร์ค ชานยอล????  - 3- 

     

    ChanYeol  “กำลังคิดถึงนายอยู่พอดี  มารับฉันที่หน้าหมู่บ้านหน่อยสิ..

                   “ เร็วๆ นะ ฉันหนาว  >++<



     





    ............................................................... 50% ...............................................................


     


     

    สายลมหนาวยามค่ำคืนพัดมาวูบไหวให้รู้สึกหนาว  จนต้องยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดตัวเองไว้เพื่อให้ความอบอุ่น


    ผมกำลังนั่งรอเพื่อนตัวเล็กให้ปั่นจักรยานสีฟ้าอ่อนลายโดเรมอน  ที่เจ้าตัวเรียกมันอย่างน่ารักว่า เจ้าม่อนน้อย

    มารับที่หน้าหมู่บ้าน  อันที่จริงผมสามารถนั่งแท็กซี่ให้เข้าไปส่งถึงบ้านเลยก็ได้  แต่ผมอยากจะปั่นจักรยานชมวิวซักหน่อย


    อีกอย่างเวลาปั่นแล้วมีผู้ตัวสารตัวเล็กคอยเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่หยุด  ทำให้การปั่นจักรยานสนุกขึ้นอีกเยอะ


    แบคฮยอนมักจะเล่าเรื่องต่างๆ มากมายให้ผมฟัง  อย่างเรื่องคุณลุงยามหน้าหมู่บ้าน  ที่เจ้าตัวบอกว่าซี้ปึ้กกับเค้าเลยล่ะ  เจอหน้าทีไรก็เม้าท์กันไม่หยุด  ไหนจะเรื่องเล่าชวนขันอย่างเจ้าตัวเคยปั่นจักรยานไปเหยียบขี้หมาแห้งในสวนหย่อมหน้าหมู่บ้าน  แล้วเค้าต้องมาจัดการล้างล้อเจ้าม่อนน้อยของเค้าซะยกใหญ่  แล้วก็มีเรื่องอีกมากมายที่เจ้าตัวขุดมาคุยได้ไม่หยุด


    บางทีผมว่า... การปั่นจักรยานรับสายลมพร้อมกับฟังเรื่องราวของใครบางคน  มันก็เป็นการผจญภัยเล็กๆ ที่สนุกมากทีเดียว


    ผมใช้เวลานั่งคอยแบคฮยอนไม่นานก็เห็นเค้าตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานมายังผมอย่างเร่งรีบ


    ท่าทางเค้าจะรีบปั่นมาเลยนะเนี่ย


    “มาแล้วววว~~” เสียงอันสดใสของแบคฮยอนดังขึ้นพร้อมเบรกจักรยานดังเอี๊ยด


    ผมไม่พูดอะไร  เพียงแค่ส่งยิ้มกว้างไปให้เพื่อนตัวเล็กก่อนจะลุกจากม้านั่งและเดินไปหาเจ้าตัว


    “รอนานไหมชานยอล”


    “ไม่นานหรอก  นายปั่นไวดีนะ”  ผมเห็นเหงื่อขึ้นประปรายตามขมับของแบคฮยอน  แถมใบหน้าก็แดงไปหมด  สงสัยจะโต้ลมเย็นๆ ตอนกลางคืนเยอะไปหน่อย


    “มาเดี๋ยวฉันปั่นกลับเอง”


    แบคฮยอนลุกจากจักรยานมานั่งเบาะซ้อนท้ายอย่างรู้งาน  ก่อนที่ผมจะรับหน้าที่เป็นคนปั่นอย่างเต็มใจ


    ผมได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจของแบคฮยอน  ก่อนที่ผมจะเริ่มปั่นจักรยานเพื่อกลับบ้าน


    ผมปั่นเจ้าม่อนน้อยของแบคฮยอนไม่เร็วมาก  เพราะลมกลางคืนที่ปะทะเข้ากับใบหน้าและลำตัวทำผมขนลุกซู่ได้จริงๆ


    “เป็นยังไงบ้างชานยอล  ไปทำอะไรมาบ้างเนี่ย?  ทำไมกลับบ้านช้าจัง?”


    มาแล้วไง....


    สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการผจญภัยกับเจ้าม่อนน้อยของเรา  คือการพูดคุยของผู้โดยสารตัวเล็ก


    “ก็รุ่นพี่เค้าเลือกฉันให้ไปประกวดเดือนของคณะน่ะ”


    “เจ๋งชะมัดเลย  งี้สาวคงติดนายตรึมเลยนะเนี่ย”


    “ไม่เห็นจะดีเลย  น่ากลัวออก  เมื่อตอนเรียนม.ต้นฉันเคยมีสโตล์กเกอร์ตามด้วย”


    “ขนาดนั้นเลยหรอ!?


    แบคฮยอนดูท่าทางแปลกใจกับการบอกเล่าของผม  ตอนนี้เจ้าตัวคงเหลือกตาเพราะตกใจอยู่แน่ๆ  แต่ให้เหลือกตามากแค่ไหนมันคงไม่โตขึ้นเท่าไหร่  เพราะตาแบคฮยอนเล็กกระจิ๊ดเดียว ถึงไม่ต้องหันกลับไปมองก็นึกภาพออกเลย


    “งั้นนายก็หาแฟนซะสิ  พวกนั้นจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้ไง”


    “พูดเหมือนมันง่ายเลยนะแบคฮยอน  แฟนมันหากันได้ง่ายๆ หรอไง”


    “ทำไมอ่า?  นายก็ดูดีออก  ขอใครคบคงแทบจะตกลงทุกรายแน่ๆ”


    “...ถ้าฉันไม่ชอบ  แล้วจะมีความหมายอะไรล่ะ”


    “...”


    “คนที่ใช่สำหรับเรา... หาไม่ได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรอกนะ”


    “หรอ?  ก็คงงั้นแหละมั้ง”


    “....”  ผมเงียบไปเพราะคำถามของแบคฮยอนทำให้ผมนึกถึงความทรงจำเก่าๆ  ขึ้นมา


    “แล้วนายเคยมีแฟนหรือเปล่า?”


    คำถามของแบคฮยอนทำให้ผมยิ่งนึกถึงใครบางคนที่เคยเป็นคนที่ใช่สำหรับผม...


    แต่เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว


    “เคยสิ”  ผมตอบออกไปสั้นๆ  แบคฮยอนดูมีท่าทางกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น


    “จริงหรอ?  เป็นไงบ้าง? เล่าหน่อยสิ”


    ฟังน้ำเสียงที่อยากรู้อยากเห็นของแบคฮยอนแบบนั้นแล้ว  มันทำให้ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้


    ผมหลับตาลงและถอนหายใจออกมาเบาๆ  ก่อนที่ตัดสินใจเล่า ความรักครั้งแรก  ของตัวเองออกมา


    “แบคฮยอนเชื่อเรื่องความรักครั้งแรกไหม?  ที่เค้าว่ากันว่ามักจะไม่สมหวังน่ะ”


    “ก็เคยได้ยินมาบ้างน่ะ  ทำไมหรอ?  นายถูกทิ้งหรอไง?”


    “ไม่ใช่หรอก... ชั้นต่างหากที่เป็นฝ่ายทิ้งเค้าไปน่ะ”


    “เห... นายนี่ร้ายไม่เบานะ”


    ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะมองผมเป็นแบบนั้นไปซะแล้ว


    “ก็ไม่เชิงหรอก... แต่ฉันต้องย้ายตามครอบครัวใหม่ไปอยู่แคนาดาน่ะ  เลยจำเป็นต้องเลิกกัน  เพราะฉันก็ไม่อยากให้เค้าต้องมารอ  เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเกาหลีอีกไหม”


    “แต่นายก็กลับมาแล้วนี่  ได้ติดต่อเธอบ้างหรือยัง”


    “ไม่ล่ะ  ป่านนี้เธอคงมีแฟนใหม่ไปแล้วมั้ง”


    “ทำไมล่ะ  จริงๆ เธอคนนั้นอาจจะกำลังคอยนายอยู่ก็ได้”


    “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะแบคฮยอน  สามปีมันทำให้ความรู้สึกและนิสัยเปลี่ยนได้นะ  ขนาดนายยังบอกว่าตัวเองเปลี่ยนไปเยอะเลย”


    “นั่นสินะ  แต่ถ้าเป็นชั้นล่ะก็  ชั้นจะรอ...”


    ผมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจ  และจริงจัง  ผ่านน้ำเสียงของแบคฮยอนได้


    “ใครเป็นแฟนนายคงโชคดีนะ”


    “เอ่อ... แล้วถ้าแฟนนายมาขอคืนดีล่ะ”


    “ไม่รู้สิ... ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”


    ตอนนี้พวกเรามาถึงหน้าประตูบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


    เรื่องราวของการผจญภัยในค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะเศร้าและหดหู่เล็กน้อย  เพราะทำให้คนพูดจ้ออย่างแบคฮยอนนิ่งขนาดนี้ได้เพราะเราไม่พูดอะไรกันอีก  จนกระทั่งแบคฮยอนลงจากเบาะซ้อนท้ายและเดินเข้าไปในบ้านก่อน  ส่วนผมก็พาเจ้าม่อนน้อยไปจอดไว้ในที่ๆ ของมัน  ก่อนจะเดินตามแบคฮยอนเข้าบ้านไป


    คำพูดของแบคฮยอนดังขึ้นมาในหัวอีกครั้ง  มันทำให้ผมคิดถึงเธอมากขึ้นกว่าเดิม  ความทรงจำที่ดีของเราสองคนผลุดขึ้นมามากมายอยู่ในหัว


    “เอ่อ... แล้วถ้าแฟนนายมาขอคืนดีล่ะ”  


    ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน... หากเจอเธอมาอีกครั้งความรู้สึกของผมจะยังเหมือนเดิมอยู่ไหม


    แต่ก็หวังว่าตอนนี้เธอยังคงสบายดีนะ...


    คิม เยจิน  รักครั้งแรกของผม....


    ............................................................... 100% ...............................................................








    Writer talk: มาอัพให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะคะ  ดำเนินเรื่องช้าไปนิดหน่อย  หวังว่ารีดเดอร์จะไม่เบื่อกันซะก่อนนะคะ  ตอนต่อไปจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แล้ววววว~~ แต่ดูเหมือนจะมีดราม่าเนอะ อิอิ  พูดคุยหรือคอมเม้นท์ให้ไรเตอร์ได้นะคะ  เจอกันในทวิตเตอร์ได้ที่ @puppy_House แล้วติดแท็ก #puppydoll นะคะ >.<




     

    รักคนอ่านแต่รักคนเม้นท์กว่านิดนึงนะคะ


    :)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×