คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 001 เข้าประตูหลังไปแล้วครับ!?!
เข้าประตูหลังไปแล้วครัช!?!
ทุกๆวันหยุดผมมักมาที่เดอะสกายครับ ไม่รู้ว่าที่นี่เล่นของใส่ผมหรืออะไรผมรู้สึกว่าอยากมาบ่อยๆ มาแล้วมันได้ฟีลลิ่งประมาณกลับบ้าน หรือ…..ผมจะมาจากต่างดาว บ้าหน่า ทำไมผมไม่มีพลังอะไรเหมือนโทมินจุนเลย ช่างมันเถอะครับเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า
ผมชื่อแบมแบมเป็นคนไทยที่ถูกครอบครัวเนรเทศให้มาอยู่ที่โซลเกาหลีใต้ ผมอยู่ชั้นม.6 โรงเรียนบ้านหนองใหญ่ เอิ่มมม ผมติดตลกหน่ะครับ ไม่ใช่บ้านหนองใหญ่สิ มันอยู่สักที่ในโซลนี่แหล่ะครับไม่ขอบอก อิอิ
วันนี้เป็นวันสิ้นปีผมได้มาที่เดอะสกายเหมือนทุกครั้ง ผมเดินเล่นไปเรื่อยเสมือนที่นี่เป็นบ้านของผมครับ ทุกคนในที่นี้จำหน้าผมได้ตั้งแต่ยามยันเจ้าของ เอ๊ะ ไม่ใช่สิเจ้าของที่นี่คงจำหน้าผมไม่ได้เพราะนานๆทีที่เราจะได้เจอกัน ครั้งแรกที่ผมเจอเขาผมประหลาดใจมากเราเดินสวนกันแต่เขาไม่ทันสังเกตผมหรอกครับ เขาดูไม่เหมือนเจ้าของเลยดูไม่ใช่แนวเลยเขาขาวหล่อรูปร่างผอมบางเหมือนจะไปเป็นพวกไอดอลอะไรแบบนี้มากกว่า แต่ก็นะครับเราจะมองคนจากภายนอกได้ยังไง
นี่ผมเล่าอะไรเนี่ยออกนอกเรื่องล้ะ ตอนที่ผมกลับมาถึงบ้านผมเพิ่งนึกได้ว่าผมลืมเอากระเป๋าเป้ของผมกลับมาด้วยซึ่งในนั้นมีของขวัญที่แม่ผมส่งมาจากเมืองไทย ผมจึงตัดสินใจย้อนกลับไปแต่นี่ก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วไม่รู้จะมีใครอยู่รึป่าวขอให้มีลุงยามอยู่ด้วยเถิด TT^TT
และแล้วผมก็เดอะสกายครับ ผมหายใจหอบเพราะเดินจากบ้านมาที่นี่ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันครับ ผมเงยหน้าขึ้นไปยังดาดฟ้าเห็นผู้ชายคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
“นั่นมัน….เจ้าของที่นี่หนิ เขากำลังทำอะไรอยู่นะ”ผมพูดกับตัวเอง เกิดความสงสัยอยู่ไม่น้อยก็แหม ปกติวันสำคัญๆแบบนี้เราควรสังสรรค์อยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวหนิครับ มาอยู่ที่นี่คนเดียวมันดูแปลกๆนะ ไม่ใช่เขาคิดจะมาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วขายมันทิ้งนะ QAQ
“นี่คุณ !!!!”
.
.
.
“พี่เป็นเจ้าของที่นี่ใช่มั้ยครับ ผมมาที่บ่อยมากเห็นพี่บ้างบางครั้ง ผมชื่อแบมแบมนะครับยินดีที่ได้รู้จัก ผมอยากมาทำงานพิเศษที่นี่ช่วงปิดเทอมพี่มีตำแหน่งอะไรให้ผมทำบ้างมั้ยครับ” ผมพูดขึ้นมาเพราะบรรยากาศมันดูเงียบวังเวงมากแล้วอีกอย่างผมต้องการที่จะทำงานที่นี่อยู่แล้วด้วยเจอเจ้าของทั้งทีอย่าให้เสียเที่ยวครับ
แต่เหมือนว่าผมจะโดนปฎิเสธนะครับ เฮ้อออ คนหล่ออยากร้องไห้
“เฮ้อออ ไม่ต้องร้องฉันให้นายทำงานที่นี่ได้ ฉันจะทำเรื่องไว้ให้ปิดเทอมนายก็มาทำ แต่! มีข้อแม้ว่าถ้านายก่อเรื่องแม้แต่นิดเดียวฉันจะไล่นายออก โอเคนะ”
“โอเคครับ ขอบคุณมากเลยนะ” ผมกระโดดกอดคนที่อยู่ตรงหน้าผมด้วยความดีใจ แต่คนตรงหน้าผมนี่สิครับ ผลักไสผมเหมือนรังเกียจผมมาก อีกหน่อยพี่จะไม่รังเกียจผมครับ อิอิ พี่เขาเดินนำหน้าผมไปจนถึงหน้าที่ผมลืมกระเป๋าของผมไว้ในนั้น เราสองคนเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าด้วยกันบรรยากาศเงียบชวนให้ขนหัวลุกมากครับผมเลยตัดสินใจทำลายบรรยากาศนี้
“พี่ชื่อไรอ่ะ”
“มาร์ค” อย่าเข้มดิพี่ ผมกลัว
“พี่มาร์ค ทำไมวันนี้ไม่ไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวหรือเพื่อนอ่ะ”
“รอคนสำคัญ” ใครอ่ะคนสำคัญของพี่ …. ผมหรอ ฮ่าๆ
“ห้ะ พี่รอผมหรอ”
“นายจะบ้าป้ะ”
“ฮ่าๆ ผมล้อเล่น รอใครอ่ะบอกได้ป้ะ”
“เรื่องของฉัน เอาหน่อยมั้ย” ใจเย็นครับเอาหน่อยมั้ยของพี่เขาเนี่ยหมายถึงเอาเบียร์หน่อยมั้ย ผมหยิบกระป๋องเบียร์จากพี่มาร์ค
“ขอบคุณครับ”
“อืม ไหนๆเราก็อยู่ที่นี่ด้วยกันแล้วก็ฉลองกันเลยแล้วกันนะ”
“อ่า ครับๆ”ผมไม่ใช่เด็กดีที่ไม่เคยลิ้มลองอะไรแบบนี้หรอกนะครับ ผู้ชายมันต้องมีกันบ้างแต่แค่ครั้งแรกผมตื่นมาอีกทีก็จำไม่ได้ว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไปบ้างแต่เมทผมมันจะห้ามให้ผมดื่มทุกครั้งที่มีการฉลองกัน ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เราดื่มกันไปเรื่อยจากกระป๋องก็กลายเป็นสาม เป็นสี่ ผมเริ่มที่จะพูดไม่รู้เรื่องแล้วครับ
“พี่มาร์ค มานี่ดิ๊” ผมกวักมือเรียกพี่มาร์คให้เข้ามาใกล้ๆซึ่งสภาพพี่มาร์คก็เมาไม่ต่างอะไรจากผมเลย
“อึก…ก…”ปากผมประกบจูบไปที่ปากผู้ชายที่อยู่ข้างหน้า ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิดหรอก ผมนี่แหล่ะทำซึ่งเหมือนคนตรงหน้าสมยอมผมด้วยนะ
“ช้าก่อน หายใจไม่ทัน”เขาถอนจูบออกพร้อมกอดคอผมพาลงไปยังห้องๆหนึ่ง ระหว่างทางผมก็ซุกไซร้หน้าตัวเองไปตามเรือนร่างของคนที่พยุงผม …. เกลียดตัวเองจริง
-เช้า-
Mark’s Part
“เอ่อ คุณมาร์คคะ คุณมาร์ค”เสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาปลุกผมจากฝันดี
“อา…รายยย…”ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
“เอ่อ…ค่ะ..คือ คุณแจบอมมาหาค่ะ จะให้พาเข้ามาเลยมั้ยคะ” ทำไมต้องทำเสียงขาดๆหายๆด้วยไม่เคยเห็นคนนอนรึไง
“อืม พาเข้ามาสิ”
“ค…ค่ะ” หลังจากสิ้นเสียงพนักงานผู้หญิงนั้นได้ไม่นานเสียงแจบอมก็ตามมาติดๆ
“ไอ้เหี้ยมาร์ค กูทักไลน์มะ….มา” ติดขัดอีกคนละ ผมขยี้ตาก่อนลุกขึ้นจากเตียงในห้องทำงานผม หันมามองเจ้าของเสียง
“ทำไมพวกมึงต้องพูดติดๆขัดๆด้วยว้ะ มีอะไรไม่เคยเห็นกูนอนหรอ” ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนก้มลงไปมองที่ช่วงล่างของตัวเองที่เปลือยเปล่าอยู่
“เห้ย เชี่ยไรเนี่ย”ผมสบถ
“นี่กูเป็นห่วงมึงนะเห็นไม่ตอบไลน์เลยรีบขับรถมาหา ไหนมึงว่ามึงรอเวนดี้ กูว่าข้างๆมึงนี่ไม่เวนดี้แล้วนะ มึงนิยมแบบนี้แล้วหรอ”แจบอมมันแกล้งทำสีหน้าไม่พอใจใส่ผม แล้วหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“โอ๊ยยยย ผมจะนอนเงียบๆ”ร่างเล็กข้างๆผมบ่นเสียงงุ้งิ้ง นี่เขารู้ตัวมั้ยว่าเขาทำอะไรอยู่ผมจับตัวเขาขึ้นมาให้นั่งแล้วบีบเข้าที่แก้มอย่างแรง
“โอ้ยยยยยยยย ผมเจ็บ”ยังๆยังไม่ลืมตาอีก
“นี่ แบมแบม นายไม่คิดจะลืมตามาดูโลกหน่อยหรอ” เด็กคนนั้นก้มลงไปนอนต่อ ทำไมขี้เซางี้ ตกลงนี้ผมเสียประตูหลังไปให้ไอ้เด็กบ้านี่รึยังเนี่ย TT^TT
50%
ผมนั่งนึกย้อนกลับไปเมื่อคืน
ผม พาร่างเล็กที่เมาไม่ได้สติบวกตัวเองที่สติเริ่มขาดๆหายๆลงไปยังห้องของผม ซึ่งนานๆผมจะมานอนพักที่นี่บ้างเป็นครั้งคราว เราลงมาถึงห้องขณะที่คนตัวเล็กพยายามซุกไซร้ผมไม่เลิก ผมผลักเขาลงไปที่เตียงก่อนตัวเองจะทิ้งตัวลงไปตาม จากนั้นเราก็เริ่มถอด ….. ผมไม่ได้เปิดแอร์ครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่ากกน.ขอผมนี่ผมถอดออกเมื่อไหร่
ตอน นี้มีผมแค่คนเดียวที่แก้ผ้า แบมแบมอะไรนั่นยังอยู่ครบสมบูรณ์ดี เฮ้อออ โล่งแสดงว่าประตูหลังของผมยังอยู่ดี เอาเป็นว่าเมื่อคืนนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกเนอะ ….. ขอให้ไม่มีจริงๆ
“มาร์ค มึงคบเด็กหรอว้ะ”ไอ้เชี่ยแจบอมมันถามผม
“นี่ มึงยังสงสัยในตัวกูอีกหรอกูอธิบายไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว เออ แล้วมึงก็เก็บเรื่องนี้ให้สนิทเลยนะอย่าให้ใครรู้ถ้ากูรู้ว่ามึงเอาไปป่าว ประกาศกูจะบอกน้องแซนดี้และเด็กในฮาเร็มมึงทีละคนว่ามึงแม่งเจ้าชู้” แจบ อมพยักหน้าและยอมศิโรราบไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ว่าแต่เด็กนี่จะนอนไปถึงไหน ผมพยายามปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นสักที นี่ซ้อมตายหรือยังไง แต่ถึงยังไงผมจะไม่เอาเรื่องนะครับเพราะผมเองที่เป็นคนชวนเขาดื่ม ถ้าผมไม่ชวนเราคงแยกย้ายกันกลับบ้านไปแล้วเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิด ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวระหว่างที่ผมกำลังเก็บเอกสารบนโต๊ะอยู่นั้นเด็ก นั่นก็โพล่งขึ้นมา
“เฮ้ยย !!” เหมือนจะตกใจมากนะ
“ไง ตื่นแล้วหรอ นี่ถ้าอีกสักพักยังไม่ตื่นนี่กะเรียกหน่วยกู้ภัยให้มาดก็บศพแล้วนะ”
“เอ่อ พี่มาร์คเมื่อคืน……..คือ…..” ทำไมต้องติดขัดว้ะครับ เป็นกันทุกคนเลยนะ
“เมื่อคืนมันไม่ได้มีอะไรหรอก ช่างมันเถอะนายไปอาบน้ำแล้วกลับบ้านนายเถอะ เดี๋ยวพ่อแม่นายจะเป็นห่วง”ผมก้มหน้าเก็บเอกสารต่อ แบมแบมลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วไม่นานเขาก็ออกมา
“พี่ไม่โกรธหรอ”
“ถ้านายถามมากฉันจะโกรธ เพราะฉะนั้นเลิกถามแล้วกลับบ้านซ่ะ โอเคมั้ย” ผมบอกเขาด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงนิดนึง ก็แหม่หายมาทั้งคืนพ่อแม่คงต้องห่วงกันบ้าง
“ขอบคุณนะครับพี่มาร์ค ผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานแล้วไม่ก่อเรื่องแบบนี้อีก” ผม พะยักหน้าแล้วโบกมือไล่ให้เขาออกไป คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างแล้วเดินออกไป ตอนนี้ห้องนี้ก็กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง ผมนั่งลงที่เก้าอี้อันใหญ่ของผมแล้วมองรูปในกรอบรูปตั้งโต๊ะ ผมคิดถึงเธอจัง เมื่อไหร่กันนะที่เธอจะกลับมาหาผม ผมควรรอเธอต่อไปมั้ยครับหรือควรเลิกแค่นี้ ผมเก็บรูปเธอใส่ลงไปในลิ้นชัก ก่อนเดินออกมาจากห้องและไม่ลืมที่จะบอกเลขาที่เห็นเหตุการณ์เมื่อเช้าให้ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ พร้อมฝากเรื่องแบมแบมให้เขาช่วยจัดการหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับแบมแบม
ผม ขับออดี้สีดำของผมออกจากหอดูดาวที่พ่อกับแม่ผมสร้างขึ้นมา ตรงไปยังบ้านของแจ็คสัน เพราะไอ้แจบอมบอกมันอยากเจอผมมาก มันโดนพักเกือบปีหรือบางทีมันอาจไม่ได้กลับไปเล่นกีฬาอีกเลย ผมเลยโทรถามมันเผื่อไปแล้วจะได้ไม่คลาดกัน
Rrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“แจ็คสัน คราวนี้มึงอยู่นานแค่ไหนว้ะ”
“นานพอทีกูจะสร้างครอบครัวได้เลยหว่ะ”
“ทำไมโค้ชเขาให้มึงพักนาน มึงไปทำไรมาว้ะ”
“กูไปเล่นกับเด็กเขาหว่ะ แต่ช่างแม่งเหอะถือว่าได้พักร่างกาย ทำไมเมื่อคืนมึงไม่ยอมมาว้ะ กูโคตรคิดถึงมึงเลยนะเพื่อนต้วน”
“มึงก็น่าจะรู้ว่ากูมารอใคร”
“เลิกรอเหอะมึง กูว่าถ้ามึงเปิดใจคนดีๆที่พร้อมเข้ามาเติมชีวิตมึงให้ดีขึ้นมีอยู่เยอะเลยนะ …. แต่ถ้ามึงหาไม่เจอ คืนนี้กูหาให้เอาป้ะ”
“ไอ้สัส!!” ผม จบบทสนทนากับมันไว้แค่นั้น ระหว่างที่ผมกำลังขับรถไปเรื่อยๆในหัวผมก็มีหน้าเด็กผู้ชายคนนึงโผล่ขึ้นมา รอยยิ้มของเขาทำผมเผลอยิ้มตาม เด็กบ้าอะไรเนี่ยเมาแล้วจูบคนอื่น นี่จูบคนอื่นไปกี่ครั้งแล้วเนี่ยผมนึกขึ้นแล้วก็หัวเราะ ….. แต่เอ๊ะ ตอนนี้ผมควรดีใจหรอ ผมเป็นฝ่ายโดนเขาจูบนะ ผมนี่มันแย่จริงๆไม่รักนวลสงวนตัวเลย
เมื่อ คืนนี้ระหว่างที่ผมนั่งรอสิ่งที่ไม่มีวันกลับมาหาผม ผมก็ได้ตัดสินใจว่าจะเลิกทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วครับ ผมกะว่าจะว่าลงทุนกับที่เดอะสกายอย่างจริงจังเพราะนักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ ขึ้น มันเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะมันสวย ใหญ่โต และเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการดูดาวมากนักธุรกิจเริ่มติดต่อมาขอร่วมลงทุนเยอะ มาก แต่ผมก็ปฎิเสธไปทุกราย ผมหวังแค่ว่าเวนดี้จะเห็นข่าวแล้วเธอก็จะกลับมาหาผม
Bambam’s Part
ผ่านปีใหม่มาได้สามวันแล้ว…..ผมนำเอกสารที่สำคัญใส่แฟ้มเพื่อเตรียมตัวไปสมัครงานครับ หวัง ว่าพี่มาร์คจะไม่ได้โกหกเรื่องไม่โกรธผมนะ ผมขับจักรยานคันจิ๋วของผมตรงดิ่งไปที่เดอะสกาย เดินตรงไปยังแผนกบุคคลมองหาพนักงานที่พอจะคุยกับผมรู้เรื่องแต่แล้วก็มี เสียงของผู้หญิงคนนึงทักขึ้นมา
“น้องคะ น้องมาสมัครงานใช่มั้ย ตามพี่มาเลยค่ะ คุณมาร์คฝากธุระไว้กับพี่แล้ว”
“อ่อครับ ขอบคุณนะครับ” ผมเดินตามพี่พนักงานคนนี้ไปก่อนอีกทีว่าพี่เขาเป็นเลขาของพี่มาร์ค ซึ่งเขาเห็นเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย
“น่าอายจังนะครับ แฮ่ะๆ” ผมเกาหัวแก้อาย
“ตกลง แล้วนี่กำลังคบอยู่กับคุณมาร์คหรอคะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าหลังจากเสียใจจากคุณเวนดี้แล้วจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่ดีแล้วแหล่ะค่ะไม่งั้นคุณมาร์คก็จะเป็นคนที่เก็บตัว ถ้ามีน้องแบมมาช่วย คงดีขึ้นเยอะ”
“เดี๋ยวๆนะครับ ผมไม่ได้กำลังคบกับพี่มาร์คนะครับ พี่มินเข้าใจผิดแล้ว ว่าแต่คุณเวนดี้นี่ใครหรอครับ”
“อ้าว หรอคะ ฮ่าๆ เห็นสนิทสนมกัน นี่พี่ไม่เคยเอาเรื่องเจ้านายไปเล่าให้ใครฟังเลยนะ งานเลขานี่ต้องเก็บเป็นความลับสุดๆแต่กับน้องแบม พี่คิดว่าพี่สามารถเล่าให้ฟังได้เผื่อน้องแบมน่าจะช่วยเหลืออะไรคุณมาร์คได้ บ้าง”
“ผมหรอครับ”
“ค่ะ คุณเวนดี้นี่เป็นแฟนเก่าคุณมาร์คค่ะ เธออยู่ที่อเมริกา แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณมาร์คไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะคุณมาร์คเป็นคนที่ บ้าทำงานมากไม่ค่อยมีเวลาให้เธอ เธอคงทนไม่ไหวเลยตัดสินใจเลิก คุณมาร์ครักคุณเวนดี้มากเลยนะคะ เขาไม่เคยนอกใจถึงแม้จะมีใครเข้ามาเขาก็ไม่เคยโลเลพี่ยังแอบอิจฉาคุณเวนดี้ อยู่เลย เสียดายนะคะคุณมาร์คเกือบจะขอแต่งงานอยู่แล้วเชียว หลังจากวันที่คุณมาร์คโดนบอกเลิกเขาก็ไม่ไปไหนอีกเลยค่ะ นอกจากโซลกับที่นี่ เขาเลิกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วจะมาทุ่มให้แต่ที่นี่ พี่ก็หวังแต่ว่าจะมีคนมาช่วยให้คุณมาร์ครู้สึกดีขึ้นได้อีกนะคะ”
“โห น่าสงสารพี่มาร์คจัง พี่มินไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะช่วยให้พี่มาร์คกลับมาร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนได้แน่ๆ ผมสัญญา”
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
#สกายมบ
ความคิดเห็น