ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : กำเนิดที่ 7 : หาเรื่องผิดคน
ฟิ้ววว ฟิ้ววว
หลังจากเชือดหมาป่าทมิฬเรียบร้อย ชิงหลางก็ใช้ ก้าวไร้จุดจบ มุ่งหน้าไปยังเมือง บุปผาสวรรค์ หลี่อิ่งก็ใช้ ก้าวแห่งแสง ตามไปด้วยเช่นกัน
" อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงแล้วเจ้าคะ "
หลี่อิ่งที่ใช้ ก้าวแห่งแสง ตามหลังกล่าวขึ้นมา ชิงหลางก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
ตุบ ตุบ
ชิงหลางหยุดตัวลงไปหยุดอยู่กับพื้นตามด้วยหลี่อิ่ง เพียงอีกไม่กี่ก้าวก็จะออกจาก ป่าอันดับ 8 แห่งนี้ ข้างหน้าของชิงหลางเป็นเส้นถนนแบบพื้นดินยาวไปเรื่อยๆ มีผู้คนสัญจรไปมามากมาย ทั้งค้าขายบ้าง อะไรบ้าง....
ชิงหลางกับหลี่อิ่งก็เลือกเส้นทางในการเดินทาง อีกเพียงไม่กี่เมตรก็จะถึงเมือง บุปผาสวรรค์ พอเห็นกำแพงปุบชิงหลางก็เดาได้เลยว่า เมืองที่ก่อนจะมาปิดบ่มเพาะก็คือเมือง บุปผาสวรรค์ ที่เจอกับ ฉางเย่ว
กำแพงล้อมรอบเมืองขนาดใหญ่สูงกว่า 10 เมตร มีทหารฝ้าประตูราวๆ 4 คน มีแถวที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน แถวหนึ่งสำหรับนักเดินทาง อีกแถวหนึ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่มาค้าขายกัน...
ชิงหลางก็จับมือหลี่อิ่งแล้วพอเดินไปยังแถวของนักเดินทาง
รอได้สักพักก็มาถึงคิวของชิงหลาง ทหารเฝ้าประตูสองคนปรายตามองหน้าชิงหลางแล้วหันมองดูทรวดทรงของหลี่อิ่ง หน้าตาของพวกมันราวกับสัตว์หื่นกระหาย หลี่อิ่งนี้แทบอยากจะพุ่งฆ่าให้มันตายๆไปอยู่แล้วถ้าไม่ติดที่ว่าเจ้านายของตนทำมือเป็นเชิงว่า หยุดไว้ก่อน
ทหารเฝ้าประตูที่ตื่นจากอาการหื่นกระหายก็พูดกับชิงหลางด้วยคำพูดเรียบๆ
" 1 เหรียญทอง "
ชิงหลางถึงกับคิ้วกระตุก คนที่ต่ออยู่ข้างหน้าชิงหลางเสียเพียง 1เหรียญเงินแต่ที่กับข้าเสียถึง 1 เหรียญทอง
" นี่... พี่ชาย ทำไมถึงเก็บเงินจากข้าถึงแพงนัก "
ชิงหลางกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม พวกมันยิ้มเยาะในใจ แล้วกล่าวออกมา
" ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องเข้า ..... "
ทหารเฝ้าประตูพูดขึ้นอย่างเรียบๆแล้วปรายตามองหลี่อิ่ง
" แต่ถ้าเจ้าให้พวกข้ายืมผู้หญิงคนนี้สักคืนข้าจะให้เข้า "
ทหารเฝ้าประตูมองหน้ากันและกันแล้วแสระยิ้ม เป็นเพียงแค่เด็กอายุ 15 ปี กับผู้หญิงอายุราวๆ 18 ปี เท่านั้น จะมีเงินเยอะขนาดนั้นได้ไง
" อ่อ หรอ "
เสียงของชิงหลางเริ่มทีความเย็นชา อุณหภูมิรอบข้างฉับพลันลดฮวบลง อาการหนาวเย็นเริ่มเข้ามาแทรก ชิงหลางเริ่มเดินหน้าไปหาพวกมัน ดีดเหรียญทองไปให้พวกมัน
" อ่ะ นั้น 1 เหรียญทอง "
ชิงหลางกล่างด้วยรอยยิ้มแล้วพาหลี่อิ่งเข้าไปในเมือง ไม่สนว่า พวกมันจะมีอาการอย่างไร พอเดินออกมาจนเลยประตูเมืองมาเล็กน้อย ก็ได้ยินเสียงทรมาณอยู่หน้าประตู
อ๊ากกกก !! หน้าของข้าา
ควบคุมสสาร : ระเหิด
ก่อนหน้าที่จะมีเสียงทรมาณดังออกมาจากหน้าประตู ชิงหลางได้ทำให้เหรียญทองระเหิดออกมาคล้ายควันแล้วแปรสภาพให้เป็นกรด ผู้เฝ้าประตูต่างจับหน้าตัวแล้วกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาณ
หลี่อิ่งก็พอเดาได้ เพราะผู้เฝ้าประตูสองคนนั้นล่วงเกินชิงหลางไปแล้วคงไม่น่ารอดยังน้อยก็ต้องมีแผลสักแผล...
ถ้าไม่นับผู้เฝ้าประตูพวกนั้น เมืองนี้นับว่ามีชีวิตชีวา มีผู้ฝึกจอมยุทธมากมายเดินผ่านไปมา ตอนนี้ชิงหลางและหลี่อิ่งมี ซากอสูรหมาป่าทมิฬระดับราชา ตัวหนึ่ง ต้องหาร้านที่รับซากสัตว์อสูร
พอเห็นป้ายทีชี้บ่งบอกว่ารับซื้อซากสัตว์ชิงหลางก็จูงมือ ( แตะอั่ง ) พาเข้าไปในร้านทันที
ร้านรับซื้อซากสัตว์อสูร
มีชายชราถือไม้เท้าอยู่ข้างหน้าโต๊ะรับซื้อ กลิ่นอายที่ปล่ดปล่อยออกมา เป็นระดับลมปราณ นภา ขั้นที่ 3
" มีอะไรต้องการหรือจะเอาอะไรมาขายหรือเจ้าหนู "
ชายชราที่เห็นคนเข้าร้านเป็นเด็กหนุ่มอายุ 15 ปี เดินเข้ามาในร้านก็เอ่ยออกมา
" ข้าเพียงแค่มาถามราคาในการรับซื้อเท่านั้นขอรับ "
ชิงหลางที่เห็นว่าป็นชายชราที่ดูมีเมตตาก็อ้อนน้อมทันที หลี่อิ่งก็คำนับพอเป็นพิธี
" อ่อ เจ้าว่ามาเลย อยากรู้ราคาสัตว์อสูรระดับไหน "
" ข้าอยากรู้ราคาของสัตว์อสูรระดับราชาอสูร "
ชายชราที่เห็นชิงหลางถามก็สงสัยเล็กน้อยแต่ก็ตอบไป
" ไม่มีราคาที่ตายตัว ส่วนใหญ่ของพวกนี้เขาจะเอาไปประมูลกันหมด ราคาอย่างต่ำก็ 500 เหรียญทอง "
ชายชรากล่าวออกมา ชิงหลางก็พยักหน้าเป็นชเงิเข้าใจ
" ถึงจะราคาดีแต่มันอันตรายอย่างมากสัตว์อสูรระดับราชานั้นแข็งแกร่งมาก อย่าทำอะไรวูบวามล่ะ "
ถึงจะไม่รู้จุดประสงค์ที่ชิงหลางถามแต่ก็เตือนด้ววความหวังดี
" ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านมาก "
ชิงกล่าวจบก็พาหลี่อิ่งไปยังโรงประมูลแห่งเดียวของเมืองหลังจากถามผู้คนตามท้องถนน มันเป็นโรงประมูลของตระกูลฉาง ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ในตระกูลใหญ่ของอาณาจักร ตระกูลฉางปกครองเมืองบุปผาสวรรค์แห่งนี้ หรือจะเรียกอีกอย่างว่า จวนเจ้าเมือง ส่วนอีก 3 ตระกูลที่เหลือก็เป็นเหมือนกัน เมืองหลวงจะมีกษัตริย์ปกครองอยู่
ชิงหลางเงยหน้ามองสถานที่ที่เรียกว่า โรงประมูลของตระกูลฉาง ทั้งชิงหลางและหลี่อิ่งก็ใส่ผ้าคลุมสีดำไว้อีกชั้นเพื่อป้องกันการเห็นเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่ยวายหลังจากเอาซากอสูรระดับราชามาประมูล..
ชิงหลางยังชมตัวเองในใจว่า เรานี้ฉลาดจริงๆ ...
พอจะก้าวเข้าไปก็ถูกผู้เฝ้าประตูขวางทางไว้ เพราะใส่ผ้าคลุมสีดำมันดูหน้าพิรุธ
" พวกข้ามาเอาของเข้าประมูล "
ชิงหลางกล่าวออกไป และกำลังเดินต่อไป
" หยุดก่อน !! ข้าจะนำเจ้าไปเอง "
ผู้เฝ้าประตูคนหนึ่งปล่ดปล่อยกลิ่ยอายระดับนภา จะเป็นคนนำทางชิงหลางและหลี่อิ่ง เพื่อให้แน่ใยว่าเอาของมาประมูลจริงๆ เขาปล่อยสัมผัมแต่ก็ไม่สามารถรู้ระดับลมปราณของทั้งสองคนได้เลย ราวกับหลุมดำมืดที่ดูดเข้าไปสู่ความตายถ้าไปยุ่งกับคนๆนี้
พอส่งมาถึงเคาเตอร์ทำการ ก็กลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อทันที
" มีอะไรให้รับใช้เจ้าคะ "
แม้จะสงสัยทำไมต้องคลุมผ้า หญิงสาวหน้าตสดีก็เอ่ยต้อนรับใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้ม
" ข้ามาเอาซากอสูรมาประมูลน่ะ "
" ระดับอะไรเจ้าคะ "
หญิงสาวที่พูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
" ระดับราชาอสูร "
หญิงสาวถึงกับแข็งค้าง พอได้สติก็รีบวิ่งหายไปหลังเคาเตอร์ทันที
หญิงสาวหน้างดงามผมสีดำสลวยเงางาม อยู่ในห้องทำงานซึ่งเป็นสถานที่ของ เจ้าของโรงประมูล เธอที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบสินค้าที่มาประมูล และอีกหลายๆอย่าง ทันใดนั้นหญิงสาวได้ยินเสียง
ตึก ตึก ตึก
มาจากหน้าห้องที่เหมือนมีคนกำลังเร่งรีบเดินตรงมาทางห้องนี้
ก็อกๆ
" เข้ามา "
เสียงที่ฟังแล้วเพราะมากๆดังขึ้น ประตูเปิดออกมาเผยให้เห็นหญิงสาวที่เฝ้าเคาเตอร์เดินเข้ามาในห้อง
" กวนหลี่ มีอะไรหรือเปล่า "
หญิงสาวผู้งดงามละสายตาจากใบรายละเอียดข้อมูลต่างๆ
" มีเจ้าคะคุณหนู มีคนเอาซากอสูรระดับราชาอสูรมาประมูล "
ผู้ที่ถูกเรียกว่ากวนหลี่ กำลังจะบอกเรื่องที่ต้องรีบมาแจ้ง
" ใช่ ยอดฝีมือหรือเปล่า กวนหลี่ "
ผู้ที่ถูกเรียกว่าคุณหนูได้กล่าวออกไปพร้อมลุกขึ้นออกจากเก้าอี้
" ไม่ทราบเจ้าคะ ก่อนที่จะมากวนหลี่ตรวจสอบระดับลมปราณแล้ว แต่ไม่รู้ระดับพลังลมปราณเลยเจ้าคะ "
ผู้ที่ถูกเรียกว่าคุณหนูพยักหน้าที่งดงามช้าๆ
" ข้าเข้าใจแล้ว พาพวกเขาไปห้องรับรอง "
" เข้าใจแล้วเจ้าคะ คุณหนูฉางเย่ว "
#อย่าลืม เม้น
#อย่าลืม กดหัวใจ
#เป็น กำลังใจ ให้ไรต์นะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น