Darkness Infinity Online รวมก๊วนสุดป่วน (Yaoi)
นันต์ เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมโชคที่ดีมาก ได้เข้ามาเล่นเกมออนไลน์ เนื่องจากโจ เพื่อนของเค้าชวนเล่นจะเกิดอะไรขึ้น.... พบกันในDarkness Infinity Online (ฮาเร็ม)
ผู้เข้าชมรวม
3,151
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แก้เรื่องค่าเงินเข้าออก
แนะนำเกม
เกม Darkness Infinity Online หรืออีกชื่อคือ DIO ออนไลน์
เป็นเกมแฟนตาซีเปิดโลกกว้างให้ผู้เล่นสามารถได้ผจญภัยได้อย่างสนุก และมีความเหมือนจริง100%
โดยใช้ระบบเคลื่อนสมองเพื่อสร้างความสมจริง
โดยการสวมเครื่องเล่นเพื่อเข้าไปในโลกจำลอง เวลา1 ชั่วโมงจากโลกจริงเท่ากับ4 ชั่วโมงในเกม
ค่าเงินในเกม
100บรอนซ์เท่ากับ1ซิลเวอร์
1,000ซิลเวอร์เท่ากับ 1โกลด์
10,000โกลด์เท่ากับ 1ไดมอน
แลกเงินเข้า-ออกจากเกมส์
1ไดมอน เท่ากับ 100บาท
150บาท เท่ากับ 1ไดมอน
เกมนี้เปิดเซิฟเวอร์ทั่วโลกแต่ก็เปิดดินแดนได้เพียง3 ทวีปแดนเท่านั้นคือShangri-la Beimeni Utopia
ซึ่งประกอบด้วยดินแดนต่างๆอีก จาก 10ทวีป
ทั้งที่เปิดมา 3 ปีกว่าๆแล้วได้เปิดให้มีผู้ใช้บริการได้ทั่วโลก
และยังมีผู้เล่นเลเวลไม่เลย 70 สักคน
และยังไม่มีอาวุธ ชุด ของอื่นระดับ 8
รายชื่อดินแดน
1.Shangri-la
เมืองแห่งความสงบ ณ ภูเขาหิมาลัย
ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง สถานที่ทุกอย่างสวยงาม และอุดมสมบูรณ์
จนทุกคนพูดเหมือนกันว่า Utopia (เมืองในอุดมคติ)
เป็นเมืองที่มีแต่ความสุขและสงบ ทุกคนที่อยู่ที่นี่เกือบจะเป็นอมตะทุกคน Atlantis
(แอตแลนติส)
แอตแลนติส
เป็นเมืองเกาะในตำนานที่ปรากฏในหนังสือของเพลโตนักคิดแห่งกรุงเอเธนส์ ที่เขียนราว 400
ปีก่อนคริสตกาล
ในบทสนทนาระหว่าง “ทิมาอีอุส” กับ “ไครติอัส”
โดยไครติอัส ที่พรรณนาเมืองแห่งนี้ว่า
เป็นเมืองที่ปปกครองโดยกษัตริย์ปกครองแผ่นดินที่มีมหานครบนกลางเกาะ
และในใจกลางนครมีหมาราชวังและวิหารที่ยิ่งใหญ่ของเทพโพไซดอน
ดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์
มีต้นไม้สีเขียวทุกหนแห่ง อากาศที่แสนวิเศษ ทำให้ผลไม้สุกปีละสองครั้ง
ในแผ่นดินมีช้าง และสัตว์อื่นๆ มากมาย ทั้งสัตว์ป่า และสัตว์เลี้ยง
ที่เมืองก็เจริญมั่งคั่งทั้งมีน้ำพุร้อนและเย็นสำหรับอาบ เป็นน้ำพุประดับ
สวนสาธารณะและสวนผลไม้ มีที่สำหรับออกกำลังกายสำหรับบุรุษและม้า
สนามม้าแข่งขนาดใหญ่ โรงทหาร ห้องคนเฝ้ายาม อู่เรือ ท่าเรือ เต็มไปด้วยเรือสิน
ค้าและเรือทหาร ผู้คนเคารพกฎหมาย
กษัตริย์ของพวกเขาก็ปกครองอย่างชาญฉลาดและยุติธรรม
หากต่อมาพวกเขาต่างละโมบโลภมากและทะเยอทะยานจนเป็นเหตุทำให้
ซุส กษัตริย์แห่งทวยเทพโกรธเป็นอย่างมากเลยบันดาลให้เกิดมหันตภัยธรรมชาติ
แผ่นดินไหวและน้ำท่วมใหญ่ ทั้งวันและคืนที่โหดร้าย
แผ่นดินแยกและกลืนกินชีวิตนักรบของเอเธนส์ทั้งหมด
ในขณะที่เกาะยิ่งใหญ่แห่งแอตแลนติสก็จมหายไปในทะเลไปตลอดกาล
ปัจจุบันยังมีมีการค้นหาเมืองแอตแลนติสแห่งนี้เนื่องจากเชื่อว่ามีอาวุธ
โบราณร้ายแรงอยู่ที่นั่น โดยคาดว่าอาจอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เพราะนักประดาน้ำบางคนพบขุมทองบริเวณนั้นนั่นเอง
2. Garden
of Eden
สวน อีเดน
เป็นสถานที่บรรยายไว้ในพระธรรมปฐมกาล ว่าเป็นสถานที่มนุษย์สองคนแรกที่พระเจ้าสร้าง
คือ อาดัมและอีฟ
นอกจากนั้นมันยังอยู่ในบันทึกจารึกในตำนานของชาวสุเมเรียนด้วยว่าเป็นดินแดน
ที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ที่นั่นสวนที่ทุกคนไม่ต้องทำอะไร ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด
คุณสามารถขี่เสือไปตามแมกไม้ต่างๆได้ อยากนอนที่ไหนก็นอน อาหารก็มีเพียบพร้อม วัน
ๆ ไม่ต้องทำอะไร แถมทุกคนที่อยู่ที่นี่ เปลือยหมดทุกคน! (อาจเป็นสวรรค์ของผู้ชาย
รึเปล่า?)
คงมีเรื่องห้ามอยู่แค่สองเรื่องคือ ห้ามกินแอปเปิ้ล และ
อย่าฟังคำพูดของงูโดยสวนนั้นบรรยายไว้ว่าสวยงามราวกับสวรรค์ สงบสุข
มีพืชพรรณอาหารอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสัตว์ป่า แม่น้ำใสสะอาด
ต้นไพรพฤษาแผ่เงาร่มเย็น แต่ปัญหาคือถ้าสถานที่นี้มีจริง
มันจะอยู่จุดไหนของโลกกันแน่ โดยหลายคนเชื่อว่าสวนอีเดนนี้อยู่ในโมโสโปเตเนีย
ทางภาคกลาง
เนื่องจากบันทึกการสร้างโลกในพระธรรมปฐมกาลได้กล่าวถึงที่ตั้งของสวนอีเด็น
ว่าอยู่ในบริเวณแม่น้ำสำคัญสี่สาย คือ แม่น้ำพิชอน แม่น้ำกิฮอน แม่น้ำไทกริส
และแม่น้ำยูเฟรติส (ซึ่งอยู่ในบริเวณประเทศอาร์เมเนีย,ยอดเขาอารารัต,เยเรวาน หรือที่ราบสูงอาร์เมเนีย)
อยู่ในบริเวณประเทศอิรักในปัจจุบัน
น่าจะเป็นบริเวณคอเคซัสโบราณโดยเฉพาะบริเวณใกล้กับอาร์เมเนีย
แต่ที่ตั้งของแม่น้ำทั้งสี่ยังเป็นที่ถกเถียงกันและยังไม่มีหลักฐานเป็นที่
แน่นอนที่สนับสนุนที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของแม่น้ำนอกจากที่กล่าวในพระธรรมปฐม กาลเอง
และ วรรณกรรมยิว-คริสเตียนเช่น “จูบิลี” สมมุติฐานอื่นก็ว่าตั้งอยู่ที่เมโสโปเตเมีย ทวีปแอฟริกา หรือ
อ่าวเปอร์เซีย
สมมุติฐานหลังมาจากหลักฐานของลุ่มแม่น้ำสี่สายที่มาพบกันที่เป็นที่ผลิต ทองคำ
และยางไม้หอม ซึ่งตรงกับการพรรณนาการสร้างโลกดังกล่าว
3. Cockaigne
เป็นดินแดนจินตนาการในตำนานในยุคกลาง
ที่เรียกว่าสวรรค์บนดินชัดๆ โดยเล่าว่า เป็นดินแดนที่ไม่มีกฎหมายและไม่มีกฎใดๆ
ในเมืองแห่งนี้ มีเสรีภาพทางเพศ
มีอาหารการกินอุดมสมบรณ์ทั้งบนดินและบนท้องฟ้า(ฝนตกเป็นชีส) และอากาศที่สบายเหมาะแก่การนอนโดยเมืองแห่งนี้ปรากฏอยู่ในบันทึก
the
Latin “Cucaniensis” และ the Middle English “Cokaygne” นอกจากนั้นในประเทศต่างๆ เรียกชื่อเมืองนี้แตกต่างกัน เช่น
ดัตช์เรียกเมืองนี้ว่า “ดินแดนแห่งความขี้เกียจ” เยอรมันเรียกเมืองนี้ว่า “ดินแดนแห่งน้ำนมและน้ำผึ้ง”
สวีเดนเรียก ดินแดนเพื่อนสันหลังยาวและไขมัน บางประเทศก็เรียก “ดินแดนแห่งอาหาร”
แน่นอนดินแดนแห่งนี้ไม่มีอยู่จริงในโลกแน่นอน
โดยที่มาของเมืองนี้เป็นการสมมุติเมืองแบบยูโทเปียแบบเมืองสวรรค์
ที่ความเกียจคล้ายและการกินเป็นอาชีพหลัก
ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนในฝันของชาวนายุคกลาง ซึ่งอาชีพชาวนาสมัยนั้นลำบากมากๆ
4. Valhalla
สวรรค์ วัลฮัลลา เป็นตำนานของสแกนดิเนเวีย
ปรากฏในศตวรรษที่ 13 ในกวี Edda ตามตำนานเล่าว่าที่แห่งนี้เป็นสวรรค์ของชาวนอร์ส (หรือพวกไวกิ้ง)
ปกครองโดยพระเจ้าโอดินที่มีคำสั่งให้วาลคิวรี รวบรวม
วิญญาณของเหล่านักรบผู้กล้าที่ตายมาในดินแดนแห่งนี้
เพื่อฝึกฝนเตรียมตัวในการทำสงครามแร็คนาร็อก โดยจะมีสัตว์ประหลาดออกมาเพื่อต่อสู้
หากชนะก็จะสามารถกินดื่มกันไม่อั้นภายในมีอาคารขนาดใหญ่ที่เรียกว่าวิหารแห่ง นักรบ
Valhalla วิหารแห่งนี้มี 540 ประตู
ใช้หอกเป็นจันทัน ใช้โล่เป็นหลังคา และใช้แผ่นเกราะตรงหน้าเป็นม้านั่ง
นอกจากนั้นยังมีหมาป่าเป็นผู้รักษาประตูทิศตะวันตกและนกอินทรีย์คอยบินโฉบ เฉี่ยวไปมา
ที่นี้สามารถดื่มสำราญกันอย่างไม่มีสิ้นสุด หมูที่กินไปหมดแล้วก็มีมาเรื่อยๆ
ไม่รู้จักหมด น้ำที่ดื่มเป็นไวน์ที่ดื่มก็ไม่มีพร่อง และเมื่อถึงเวลาสงครามนักรบ 800
คนจะเดินสวนสนามออกไปทางแต่ละประตู
(ดินแดนแห่งนี้ปรากฏในการ์ตูนเรื่องการผจญภัยของบิลลี่กับแมนดี้) เป็นสวรรค์สำหรับนักรบอย่างแท้จริง
5. Beimeni
ที่นี่คือสถานที่ที่มีน้ำพุแห่งชีวิตซึ่งบำรุงผิวพรรณและทำให้ไม่แก่ลง
เพราะฉะนั้น ที่นี้ คุณจะไม่มีวันแก่ มีรอยเหี่ยว
แต่จะเป็นหนุ่มเป็นสาวไปตลอดชีวิตน้ำพุแห่งความวัยเยาว์ เป็นเรื่องเล่าของนักสำรวจสเปน ที่ได้พบเห็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งผู้ใดได้ดื่มกินจะกลับเป็นหนุ่มสาวได้
โดยเรื่องนี้เริ่มขึ้นเมืองนักสำรวจสเปนชื่อดังนามฮวน ปองเซ เดอ
ลีอองต้องการเดินทางไปในดินแดนแห่งใหม่คืออเมริกา
ระหว่างทางเขาได้ยินชาวพื้นเมืองที่กล่าวถึงน้ำพุนี้อย่างน่าสนใจ เขาเลยออกตามหา
โดยสถานที่แรกที่ไปคือบริเวณที่ตั้งของรัฐฟลอริด้าในปัจจุบัน
ไปจนถึงเกาะแห่งหนึ่งคือเกาะบิมินี่
แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นน้ำพุที่ว่านี้ด้วยตาของตนเองเลยชั่วชีวิต แต่เขาก็เชื่อว่ามันมีอยู่จริง จึงนำเรื่องของมันเล่าแก่เพื่อนๆ นักเดินเรือจนเป็นที่แพร่หลายแก่หมู่นักเดินเรือชาวสเปนในยุคสำรวจโลกในเวา ต่อมา ปัจจุบันน้ำพุแห่งวัยเยาว์กล่าวเป็นศัพท์ที่ที่อุปมาเกี่ยวกับแนวทางการค้น หาชีวิตที่จะทำให้ชีวิตมนุษย์ยืนยาวในทางวิทยาศาสตร์
6. Avalon
อวาลอน
(คาดว่ามาจากคำในภาษาเคลติก abal
หมายถึง แอปเปิ้ล) เป็นเกาะและเมืองในตำนานกษัตริย์อาเธอร์ ได้เชื่อว่าเป็นเมืองที่กษัตริย์อาเธอร์อยู่ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ปรากฏครั้งแรกในวรรณกรรมของเจฟฟรีย์แห่งมอนมอธ
ในบันทึกประวัติศาสตร์จำลอง ฉบับ ค.ศ. 1136 เรื่อง Historia
Regum Britanniae (“ประวัติกษัตริย์แห่งบริเตน”) ในตำนานเล่าว่าในที่แห่งนี้เป็นดินแดนแห่งแอปเปิล
มีที่สวยงามและอร่อยที่สุดในโลก และยังเป็นสถานที่ที่สร้างดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ของกษัตริย์อาเธอร์
และเป็นที่ซึ่งอาเธอร์ใช้รักษาแผลบาดเจ็บจากการรบ
หลังจากการศึกครั้งสุดท้ายที่คัมลานน์นอกจากนั้น ในตำนานของชาวคริสต์
ช่วงที่พระเยซูฟื้นจากความตาย ได้บอกกับโจเซฟว่า
เขาจะไปยังที่อวาลอนแห่งนี้ ซึ่งความจริงแล้วบนโลกของเรามีชื่อเกาะอวาลอนอยู่จริง
ในประเทศอังกฤษ ซึ่งในปีค.ศ.1911 นักบวชที่วิหารกลาสตันเบอรี่
ในซอมเมอร์เซต บน พบพระศพของกษัตริย์และราชินีคู่หนึ่ง
ต่อมาประกาศว่าเป็นพระศพของกษัตริย์อาเธอร์และราชินีของพระองค์
ทางพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 จึงโปรดให้จัดพิธีฝังพระศพขึ้นใหม่เพื่อเป็นสัญลักษณ์อันดีงามและเป็นความ
ฝันของชาวอังกฤษ หากแต่ในเวลาต่อมาก็พบว่ามันเป็นของปลอม
และเกาะอวาลอนที่แท้จริงนั้นก็ยังไม่มีใครทราบว่ามันอยู่ที่ใดกันแน่
(เกาะอวาลอนปรากฏอยู่ในการ์ตูนหลายเรื่อง
หนึ่งในคือการ์ตูนมหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์)
7. El
Dorado
เป็น
ภาษาสเปนเดิมมีความหมายว่า “มนุษย์ทองคำ”
แต่กในเวลาต่อมาก็เปลี่ยนเป็นนครทองคำ” ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทองคำและอัญมณีที่มีค่า เป็นสถานที่ที่ตกแต่งด้วยทอง ทุกอย่างทำด้วยทองแม้แต่การประกอบพิธีกรรมหัวหน้าเผ่าจะต้องเปลือยกายลงไปชุบตัวในบ่อทอง
แล้วจึงจะประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ได้
ซึ่งพอตกค่ำหัวหน้าเผ่าก็จะชำระร่างกายไปกับกระแสน้ำเพื่อพัดเอาทองออกไป
คิดดูว่าใช้ทองได้สิ้นเปลืองกันขนาดนี้ ถ้าได้อยู่ที่นี่เอาทองไปขาย
ท่าทางจะไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว
ในตำนานเล่าว่าเรื่องของนครทองคำนี้มาจากอินเดียแดงเผ่าชิบชาเชื้อสายมูอิส กาบนเทือกเขาแอนดีส เมืองแห่งนี้ทุกบ้านตกแต่งด้วยทอง
ทุกอย่างทำด้วยทอง
แม้แต่พิธีกรรมสำคัญของพวกเขาอย่างพิธีบวงสรวงเทวีแห่งทะเลสาบกัวตาวีตา
กษัตริย์มูอิสกาจะต้องทาตัวด้วยยางไม้จนทั่วแล้วลงไปเกลือกในผงทองแล้วโดดลง
ในน้ำในทะเลสาบล้างผงทองตามตัว แล้วโยนเครื่องทองและอัญมณีลงทะเลสาบ
โดยประเพณีดังกล่าวถูกยกเลิกในปี 1500
แต่มันก็ได้กระตุ้นให้มันก็ได้กระตุ้นให้นักสำรวจชาวสเปนและชาวยุโรปเข้ามา
สำรวจและยึดคลองดินแดนหลายแห่งในทวีปอเมริกาใต้(รวมไปถึงการปล้นทองคำจากชาว
พื้นเมืองหลายพื้นที่) แม้แต่โคลัมบัสก็เคยได้ยินเรื่องนี้และพยายามตามหาเหมือนกัน
(เมื่อปี 1502) โดยคาดว่านครทองคำนี้อยู่ห่างจากแม่น้ำโอรีโนโก
ในเวเนซุเอลา ใช้เวลาเดินทาง 10 วัน แต่ก็ล้มเหลว
ต่อมาก็มีนักสำรวจหลายคนพยายามค้นหานครที่ว่านั้นในอเมริกาใต้
โดยครอบคลุมถึงแม่น้ำอเมซอนเลยทีเดียว หากแต่คนที่รอดกลับมานั้นมีไม่กี่คน
และชื่อของเอลโดราโดก็อยู่ในนิยายและวรรณกรรมหลายเรื่อง
นอกจากนั้นยังถูกตั้งเป็นชื่อเมืองและสถานทีในอเมริกาใต้และอเมริกาหลายแห่ง เช่น
เอลโดราโดเคาน์ตีในแคลฟอร์เนียและรัฐอาร์คันซอ
8.ป่าหิมพานต์
ป่าหิมพานต์ตั้งอยู่บนเขา หิมพานต์
หรือหิมาลายา (หิมาลัย) คำว่า “หิมาลายา” นั้นเป็นคำที่ มีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤตซึ่งแปลว่าสถาน ที่ๆ
ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ภูเขาหิมพานต์ประดิษฐานอยู่ในชมพูทวีปมีเนื้อที่ ประมาณ ๓,๐๐๐ โยชน์ วัดโดยรอบได้ ๙,๐๐๐ โยชน์
ประดับด้วยยอด ๘๔,๐๐๐ ยอด
มีสระใหญ่ ๗ สระคือ ๑ สระอโนดาต ๒
สระกัณณมุณฑะ ๓ สระรถการะ ๔ สระฉัททันตะ ๕ สระกุณาละ ๖ สระมัณฑากิณี ๗
สระสีหัปปาตะ บรรดาสระใหญ่ทั้ง ๗ นั้น สระอโนดาตแวดล้อมไปด้วยภูเขาทั้ง ๕
ที่จัดเป็นยอดเขาหิมพานต์ ยอดเขาทุกยอด มีส่วนสูงและสัณฐาน ๒๐๐ โยชน์ กว้างและยาวได้
๕๐ โยชน์ สวรรค์ของคนชอบว่ายน้ำจริงๆ!
9. Utopia
(ยูโทเปีย)
ยูโทเปีย เป็นแนวคิดเมืองในอุดมคติที่ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงบนโลกของเราได้ โดยแนวคิดนี้เป็นของ โทมัส มอร์ นักปรัชญามนุษยนิยมชาวอังกฤษ
เขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1516 โดยตั้งใจเขียนเป็นวรรณกรรมเสียดสีล้อเลียนความโง่เขลาและความเลวร้ายของ
สังคมในสมัยนั้น
โดยสมมุติเมืองหนึ่งที่ผู้คนเป็นคนดีมีศิลธรรมและความพึงพอใจในการใช้ชีวิต
ไม่ให้ความสำคัญกับวัตถุ เห็นเงินทองเป็นสิ่งหยาบช้า ไม่มีค่า ในเมืองไม่มีกฎหมายออกมาบังคับประชาชนมากมาย พวกเขาอยู่ร่วมกันด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ใส่เสื้อผ้าเรียบง่ายคล้ายคลึงกัน เสื้อผ้าแต่ละชุด ใช้ทนทานนานถึงเจ็ดปี
และผู้คนในระดับผู้ปกครองก็ไม่มีสิ่งบ่งบอกด้วยวัตถุใดๆ
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ หรือสิ่งประดับที่ชี้ให้เห็นว่าแตกต่างจากประชาชนอื่นๆ
บ้านเรือนทุกบ้านเป็น สวนปลูกดอกไม้
ผลไม้หรือพืชผัก ไม่มีกลอนหรือกุญแจบ้าน เพราะไม่จำเป็น และความเป็นอยู่ไม่ขัดสน
อยู่ดีกินดีมาก ไม่มีการแก่งแย่งกัน
และชาวเมืองต่างทำงานตามหน้าที่โดยไม่เกรียจคร้าน ไม่มีร้านเหล้า ไม่มีการพนัน
หรือสิ่งยั่นยุอื่นๆ ความบันเทิงคือการศึกษาหาความรู้ เรียกได้ว่าเป็นสังคมอุดมคติอย่างแท้จริง
10. Atlantis
(แอตแลนติส)
แอตแลนติส
เป็นเมืองเกาะในตำนานที่ปรากฏในหนังสือของเพลโตนักคิดแห่งกรุงเอเธนส์ ที่เขียนราว 400
ปีก่อนคริสตกาล
ในบทสนทนาระหว่าง “ทิมาอีอุส” กับ “ไครติอัส”
โดยไครติอัส ที่พรรณนาเมืองแห่งนี้ว่า
เป็นเมืองที่ปปกครองโดยกษัตริย์ปกครองแผ่นดินที่มีมหานครบนกลางเกาะ
และในใจกลางนครมีหมาราชวังและวิหารที่ยิ่งใหญ่ของเทพโพไซดอน
ดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์
มีต้นไม้สีเขียวทุกหนแห่ง อากาศที่แสนวิเศษ ทำให้ผลไม้สุกปีละสองครั้ง
ในแผ่นดินมีช้าง และสัตว์อื่นๆ มากมาย ทั้งสัตว์ป่า และสัตว์เลี้ยง
ที่เมืองก็เจริญมั่งคั่งทั้งมีน้ำพุร้อนและเย็นสำหรับอาบ เป็นน้ำพุประดับ
สวนสาธารณะและสวนผลไม้ มีที่สำหรับออกกำลังกายสำหรับบุรุษและม้า สนามม้าแข่งขนาดใหญ่
โรงทหาร ห้องคนเฝ้ายาม อู่เรือ ท่าเรือ เต็มไปด้วยเรือสิน ค้าและเรือทหาร
ผู้คนเคารพกฎหมาย กษัตริย์ของพวกเขาก็ปกครองอย่างชาญฉลาดและยุติธรรม
หากต่อมาพวกเขาต่างละโมบโลภมากและทะเยอทะยานจนเป็นเหตุทำให้ ซุส กษัตริย์แห่งทวยเทพโกรธเป็นอย่างมากเลยบันดาลให้เกิดมหันตภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหวและน้ำท่วมใหญ่ ทั้งวันและคืนที่โหดร้าย แผ่นดินแยกและกลืนกินชีวิตนักรบของเอเธนส์ทั้งหมด ในขณะที่เกาะยิ่งใหญ่แห่งแอตแลนติสก็จมหายไปในทะเลไปตลอดกาล ปัจจุบันยังมีมีการค้นหาเมืองแอตแลนติสแห่งนี้เนื่องจากเชื่อว่ามีอาวุธ โบราณร้ายแรงอยู่ที่นั่น โดยคาดว่าอาจอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพราะนักประดาน้ำบางคนพบขุมทองบริเวณนั้นนั่นเอง
ผลงานอื่นๆ ของ Miw Netnapa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Miw Netnapa
ความคิดเห็น