ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    องค์กรลับ นักเรียนอันตราย

    ลำดับตอนที่ #1 : ห้องประชุมในตู้ล็อกเกอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 59
      0
      6 ก.ค. 47

              

                 เด็กหนุ่มผมบลอนด์ร่างสูงสง่า ตาสีน้ำตาลเข้มกำลังยืนพิงประตูห้องเรียนชีวะวิทยาเก่าบนชั้นเจ็ดของโรงเรียนมัธยมเฮสเติลเบอร์รี่อย่างสบายใจ พลางอ่านหนังสือพิมพ์ \'เดอะ เฮสเติลเบิร์น โพสต์\' ไปด้วย และนาน ๆ ครั้งก็ส่งเสียงทักทายพวกนักเรียนที่เดินผ่านไปมา ช่างดูเป็นเวลายามเย็นที่ผ่อนคลายสำหรับเขาเหลือเกิน



            

                 แต่ทันที่นักเรียนหญิงสองคนสุดท้ายลับสายตาไป เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ ตัวอย่างเร่งรีบและหยิบกุญแจดอกหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง สอดลงในช่องประตู และรีบพาตัวเองเข้าไปในห้องอย่างเร็วที่สุด เขาเดินตรงไปยังเก้าอี้ตัวโปรดของเขาและนั่งลงพลางมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องชีวะฯเก่านี้ราวกับเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ขณะเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่มีฝุ่นจับหนาเตอะเขาก็ยิ้มกับตัวเอง ห้าโมงห้าสิบห้านาที นี่ก็แสดงว่าเขาทำสถิติมาก่อนเวลาเป็นคนแรกได้สิบหกครั้งติดต่อกันแล้วสินะ



                 จาคอบ ยังเกอร์ เป็นประธานองค์กรลับรุ่นที่สิบสาม ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นมาโดยนักเรียนที่ดูเหมือนจะบ้าๆ บอ ๆ กลุ่มหนึ่ง(และทุกครั้งที่นึกถึงเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าตัวเองเป็นพวกบ้าบอด้วยอีกคนหนึ่ง) หน้าที่หลัก ๆ ขององค์กรลับในยุคต้น ๆ นั้น ถึงแม้จะถูกเรียกว่าเป็นการ \'ช่วยเหลือและแก้ปัญหา\' ให้กับเพื่อนนักเรียนแต่จากการศึกษาประวัติผลงานขององค์กรนี้โดยละเอียดแล้ว เขากลับคิดว่ามันคือการ \'แก้แค้นและเอาคืน\' อย่างแสบสันต์เสียมากกว่า





                 แม้ว่าความรุนแรงต่างๆ จะลดลงมากในช่วงสามสีปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม แต่ลึกลงไป จาคอบก็อดคิดมากไม่ได้ว่าวันใดวันหนึ่ง(ซึ่งเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ )ความรุนแรงนั้นอาจจะระเบิดขึ้นมาอีกครั้งเหมือนเช่นในอดีต ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงใคร ๆ หรอก แต่เขากำลังห่วงตัวเอง ห่วงความรับผิดชอบหนักหนาสาหัสที่เขาอาจต้องเผชิญหากเรื่องต่าง ๆ อยู่เหนือความควบคุม อีกทั้งตัวเขาเองที่ต้องคอยทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อีกด้วยเล่า และก็ไม่รู้ว่าวันไหนความลับเรื่ององค์กรจะแตกขึ้นมา ดังนั้นเท่าที่เขาทำได้เกี่ยวกับองค์กรตอนนี้คือภาวนาให้สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่เกินความสามารถของเขาและสมาชิกคนอื่น

              



                จาคอบมองนาฬิกาเป็นระยะๆ สลับกับสำรวจสิ่งต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในห้องนี้ อันได้แก่ ตู้เก็บเอกสารเก่า ๆ ที่มีสนิมเขรอะหนึ่งใบ โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ส่วนใหญ่ขาหายไปแล้วกองซ้อนกันระเกะระกะสองสามกอง ภาพเหมือนของนักชีวะวิทยาคนสำคัญหลายคนที่ถูกฝุ่นจับหนาและสกปรกเสียจนแม้แต่ญาติของพวกเขาก็คงจะจำไม่ได้ และขณะที่กำลังสำรวจตู้ตากผ้าขี้ริ้วที่ส่งกลิ่นเหม็นโชยมาเอื่อย ๆ ด้วยความสังเวชใจ ประตูห้องก็เปิดออก เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างให้กับผู้มาเยือน

              



              \"อ้อ สวัสดี ไรอัน\" จาคอบร้องทักอย่างอารมณ์ดี \" ตรงเวลาจังเลย\"

              

              \"นี่นายประชดกันหรือเปล่า ฉันสายตั้งหนึ่งนาทีนะ\" ไรอันตอบอย่างล้อเลียน พลางนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้าง ๆ เขา

              

               ไรอัน วินเทอร์ เป็นสมาชิกคนสำคัญขององค์กร เขามีหน้าที่คอยตรวจสอบเรื่องราววุ่น ๆ ทั้งหลายในโรงเรียน ตั้งแต่ข่าวลือไร้สาระในกลุ่มนักเรียนหญิงไปจนถึงแผนการร้ายกาจของบรรดาแก๊งอันธพาล(ซึ่งเท่าที่เห็นมาไม่เคยทำอะไรมากกว่าพังจักรยาน) เพราะความเป็นคนโดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาที่จัดอยู่ในระดับหล่อเลาและความเป็นนักกีฬาฟุตบอลฝีเท้ายอดเยี่ยม เขาจึงเป็นผู้ที่เหมาะที่สุดที่ทำหน้าที่ล้วงความลับจากบรรดานักเรียนทั้งหลายที่ส่วนใหญ่ล้วนแต่ยินยอมพร้อมใจให้เขารับรู้ความลับอย่างกระตือรือร้น โดยเฉพาะนักเรียนสาว ๆ

              



              \"มีข่าวอะไรใหม่บ้างไหม\" จาคอบถามเรื่อย ๆ

              

              \"เออ ก็แค่ไดแอน เวสรอน เลิกกับมาร์ติน เอทช์แล้วเท่านั้น นายรู้จักใช่ไหม ไดแอนที่--\"

              

              \"อือ รู้จัก เชียร์ลีดเดอร์ใช่ไหม\" จาคอบพูดพลางพลิกหนังสือพิมพ์ดูเรื่อยเปื่อย \"นายเคยพูดให้ฟังหนสองหนมั้ง\"

              

              \"แล้วนายจำได้ด้วยเหรอ\" ไรอันถามยิ้มๆ

              

              \"ช่ายสิ เหมือนปาฏิหาริย์ใช่ไหมล่ะ\" แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา เป็นที่รู้ดีว่าไรอันนั้นเป็นเสือผู้หญิงดี ๆ นี่เอง และอย่างที่จาคอบว่า มันเหมือนปาฏิหารย์เสียจริงๆ เมื่อเขาจำชื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่ไรอันพูดถึงได้ในบรรดาเกือบร้อยคน

              



              เวลาเดินไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบ …หกโมงสิบห้า หกโมงครึ่ง หกโมงสามสิบห้า... ในที่สุดประตูห้องก็เปิดอีกครั้ง จาคอบหันไปมองและเห็นว่าสมาชิกขององค์กรลับทั้งหมดมากันครบแล้ว แม้จะดูเหมือนไม่กระตือรือร้นมากนักก็ตาม

              



              \"หวัดดี ลิซ หวัดดี จิมมี่\" ไรอันทักขณะที่สมาชิกอีกสองคนนั่งลง จาคอบเพียงแต่ยิ้มขรึม ๆ ก่อนจะพูดว่า \"พวกนายมาสาย- -\"

              

              \"--อีกแล้ว\" ลิซต่อเรียบ ๆ พลางถอนหายใจ \"เธอทำยังกับว่าฉันไม่เคยสายงั้นแหละ\"

            



              ลิซ เบอร์เนส หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มคนนี้ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้นหาข้อมูลของเป้าหมายองค์กร เธอเป็นคนเงียบขรึมและไม่โดดเด่นอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีตามความคิดของจาคอบและคนอื่น ๆ(ซึ่งยกเว้นไรอัน) ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกรวบไว้อย่างลวกๆ กับแว่นตาทรงกลมทำให้เธอดูเหมือนนักเรียนหัวกะทิมากกว่าพวกที่จะมาทำงานประหลาด ๆ ให้กับองค์กรลับที่ไม่มีใครรู้ว่ามีตัวตน ดังนั้นหากมีเรื่องประหลาดอะไรเกิดขึ้น --แม้จะจากฝีมือของเธอเอง--ก็สามารถมั่นใจได้ว่าเธอจะอยู่ห่างจากเรื่องนั้นหลายช่วงตัวทีเดียว

              

              \"อ้อ แล้วคราวหน้าเธอก็ควรจะใช้วิธีเดิมส่งข่าวให้ฉันนะ ไรอัน ไม่ใช่เดินดุ่ย ๆ เข้ามาอย่างนั้น\" เธอเสริมอย่างหัวเสียพลางหันไปมองเขา \"เพราะมันจะเป็นเรื่อง\"

              



              \"โธ่ ใครไม่สังเกตหรอกน่า\" ไรอันพูดอย่างไม่ใส่ใจ ที่จริงเขาดูพออกพอใจเสียด้วยซ้ำ

              

              \"ใครไม่สังเกตหรือ\" ลิซตวาด \"อ้อ คงไม่มีใครสงสัยสินะที่จู่ๆ เธอก็เดินเข้าไปคุยกับคนที่ไม่เคยแม้แต่จะทักสักคำมาตั้งสามปีแล้ว\"

              



              \"ใช่ว่าฉันอยากเย็นชากับเธอนี่\" เขาพูดพลางอมยิ้ม \"เธอก็รู้ไม่ใช่หรือ\"

              

              ลิซอ้าปากจะเถียงต่อ แต่จิมมี่ขัดขึ้นว่า \"พอทีได้ไหม นายสองคนทำฉันปวดหัวนะ\" เขามองไรอันที ลิซที แล้วส่ายหัวอย่างอารมณ์เสีย \"แล้วอย่างนี้ฉันจะมีสมาธิคิดอะไรได้ไงเล่า\"

              



              จิมมี่ แคสตัน คือจอมวางแผนขององค์กร เขาชอบเก็บตัวเงียบ ๆ ใช้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ อย่างพฤติกรรมนักเรียน ความสนใจ การตลาด แผนขององค์กรและช่องทางหาเงิน ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นเรื่องที่เขาให้ความสนใจมากที่สุด แม้จะเป็นคนเงียบ ๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใครแต่สมาชิกอีกสามคนที่เหลือก็รู้ว่าจิมมี่ทุ่มเทให้งานอย่างหนัก และเป็นคนที่ไว้ใจได้ และแผนของเขาก็นำความสำเร็จมาให้องค์กรลับอย่างมากมาย และนั่นก็เป็นคุณสมบัติที่ทำให้ทุกคนมองข้ามเรื่องธุรกิจอื่น ๆ ของเขาไป

              



              จาคอบมองนาฬิกาอีกครั้ง หกโมงสี่สิบห้านาทีแล้ว ท้องฟ้าช้างนอกเริ่มมืดลง และยิ่งทำให้บรรยากาศภายในห้องดูน่าอึดอัดมากขึ้น เขามีเรื่องต้องบอกพวกนี้และควรทำเดี๋ยวนี้ เขากระแอมเล็กน้อยก่อนที่จะพูดกับอีกสามคนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับเรื่องของตัวเอง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาและทำสีหน้าเหมือนจะบอกว่า นายไม่จำเป็นต้องกระแอมก็ได้

              

               \"เอาล่ะ ดีนะที่เรามารวมกันได้อย่างนี้ อันมีเรื่องที่ต้องบอกให้รู้ทุกคน\" เขาพูดอย่างรวดเร็ว ขณที่ไรอันเริ่มกลับไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับรถสปอร์ตรุ่นต่าง ๆ อีกครั้ง โดยมีลิซคอยส่งสายตาขุ่นเขียวไปให้ และจิมมี่ที่นั่งเคาะโต๊ะพลางงึมงำพูดอะไรคนเดียว

              

              \"เราจะย้ายห้องประชุมกัน เดือนหน้า\" เขาพูดชัดถ้อยชัดคำ ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองเขา ไรอันอ้าปากน้อย ๆ เหมือนจะตั้งคำถาม แต่ลิซชิงตัดหน้าเขาก่อน

              



              \"ย้ายหรือ ย้ายไปไหน ทำไม--\" เธอหยุดเมื่อหันไปเห็นสีหน้าของไรอัน ก่อนจะเริ่มทำหน้าท้าทายเขากลับ

              

              \"เปลี่ยนบรรยากาศหรือ\" จิมมี่ถามบ้าง \"หรือมีใครรู้เกี่ยวกับพวกเรา\" เขารีบเสริมอย่างไม่สบายใจ

              

             \"ไม่ใช่หรอก คือ อย่างที่เราก็เห็นกันนะ ห้องนี้น่ะแสนโสมม\" (\"แหงล่ะ\" ไรอันพึมพำพลางมองไปรอบ ๆ ห้องด้วยสีหน้ารังเกียจ) \"แล้วมันคงใช้การได้อีกไม่นาน\" เขาพูดต่อเรื่อย ๆ  \"เพราะมันกำลังจะถูกปิดปรับปรุงน่ะ\" เขาพยักหน้าเล็กน้อยให้กับสีหน้างุนงงของเพื่อนทั้งสาม ก่อนจะพูดต่อว่า \"ฉันบังเอิญได้ยินมาจากห้องพักอาจารย์\"

            

             \"แหม ช่างดีจริงๆ\" ไรอันพูดพลางยิ้มอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่าควรยิ้มดีหรือไม่ \"แล้วนาย เอ่อ ได้ที่ใหม่แล้วเหรอ\"

              



             \"อือ ได้แล้ว\" จาคอบพยักหน้า ไรอันดูใจชื้นขึ้น

              

             \"ที่ไหน\" ลิซถามบ้าง \"หวังว่าคงปลอดภัยนะ\" น้ำเสียงเธอกังวล

              

             \"แหงล่ะ ต้องปลอดภัยสิ\" ไรอันพูดอย่างรำคาญ หันไปมองหน้าเธอ \"เธอคิดว่าจาคอบจะหาที่แบบไหนให้พวกเรากัน ฮึ ห้องสมุดคนชุม หรือโรงอาหารแน่นเอี้ยดกันล่ะ\" เขาจบประโยคอย่างยียวน

              



             จาคอบมองไรอันอย่างรู้สึกผิด ก่อนที่จะพูดว่า\"อันที่จริงนะ ไรอัน มันไม่ใช่โรงอาหารแน่นเอี้ยดหรือห้องสมุดคนชุมหรอก แต่เป็นห้องล็อกเกอร์น่ะ\" เขายิ้มเล็กน้อยราวกับจะหวังให้สีหน้าเหรอหราของไรอันส่อแววเข้าใจมากขึ้น ก่อนจะพูดต่อ \"มันเป็นที่ประชุมชั่วคราว ไปจนกว่าเราจะได้ที่ดีกว่านี้\"

            



             \"เดี๋ยวก่อน ยังเกอร์\" จิมมี่พูดขึ้นบ้าง \"คือ ฉันไม่ได้ว่านายซื่อบื้อหรืออะไรหรอกนะ\" เขายิ้มเหมือนกับว่าเรื่องที่จาคอบพูดนั้นเป็นเพียงโจ๊กไม่เข้าท่า \"แต่นายกำลังจะบอกว่าเราควรเดินท่อม ๆ ไปในห้องล็อกเกอร์ แล้วจับกลุ่มคุยกระจุ๋งกระจิ๋งกันตรงนั้นหรือ\" เขาส่ายหัวเบาๆ \"นั่นมันบ้านะ\"

              



             \"แล้วใครว่าฉันจะทำอย่างนั้นเล่า\" จาคอบว่า \"เราจะใช้ตู้ล็อกเกอร์ของเราเป็นตู้จดหมาย แค่จะไปส่งข้อความกัน\" ก่อนจะนึกขึ้นได้เขาพูดต่ออย่างเดือดดาล \"แล้วก็ไม่ใช่คุยกระจุ๋งกระจิ๋งอะไรนั่น\"

              



              \"ส่งข้อความ\" ไรอันทวนคำเบา ๆ จ้องหน้าจาคอบอย่างสงสัย

              



              แต่จิมมี่ร้องออกมาว่า \"อ้อ\" และทุกคนหันมามองดูเขา \"ฉันเข้าใจล่ะ\" เขายกมือขึ้นกอดอกก่อนจะพูดต่อ \"นายหมายถึงไปทิ้งโน้ตใบน้อยเอาไว้ให้คนอื่น อะไรทำนองนี้ใช่ไหม\"

              



              จาคอบพยักหน้า\"เอ่อ ใช่แล้ว ฉันว่านั่นคงพอใช้ได้ไปก่อนน่ะ\" เขามองดูทุกคนท่ามกลางความเงียบอีกครั้ง ตอนนี้ไรอันกำลังม้วนนิตยาสารรถสปอร์ตของเขาไปมา ลิซกำลังพิจารณาเล็บมือตัวเอง ส่วนจิมมี่มองสบตาเขาอยู่

              

              \"ฉันว่ามันอาจใช้ได้นะ ยังเกอร์\" จิมมี่พูดช้า ๆ พยักหน้าให้จาคอบ \"ถ้าแค่ชั่วคราว\"

              

              \"แน่นอน ไม่มีใครสังเกตหรอกว่าเราทำอะไร อีกอย่างนะ เราก็จะมีเวลามากขึ้น\" ถึงตรงนี้เขาเวันวรรคนิดหนึ่ง \"คือเราก็แค่ทำหน้าที่ของเรา ทิ้งเบาะแสใส่โน้ต แล้วก็ค่อยมาเอาข้อความตอนไหนก็ได้\"

              

              \"ก็ อาจจะเป็นไปได้นะ\" ลิซ พูดขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจ แล้วกลับไปพิจรณาเล็บมืออีกครั้ง

              

              \"เอาล่ะ ฉันรู้ว่ามันฟังดูโง่ ๆ\" จาคอบพูดอย่างอดทน \"แต่เข้าใจไหม ที่ฉันเสนออย่างนี้เพราะตอนนี้เราแทบไม่มีอะไรทำเลย และฉันก็ไม่คิดว่าเราจะต้องทำเรื่องใหญ่โตในเร็ววันนี้\" เขาพูดพลางหยุดภาวนาในใจขอให้สิ่งที่พูดเป็นจริง \"มันจะไม่นาน ฉันสัญญาได้เลย\"

              



              ไรอัน เงยหน้าขึ้นมองเขา ขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนพูดว่า \"ก็ได้ ฉันตกลง แต่ให้ตายสิฉันไม่เคยชอบเขียนจดหมายเลยรู้ไหม\" เขาส่ายหัวอย่างเซ็ง ๆ กับตัวเอง

              



               จาคอบพยักหน้าอีกครั้งพลางมองไปยังคนอื่นๆ ที่เหลือ \"ก็ได้\" ลิซตอบ\"ฉันว่ามันก็ไม่เลวเท่าไหร่\" ส่วนจิมมี่ก็ยิ้มให้เขาเป็นเชิงตอบตกลงเช่นกัน

              



               \"เป็นอันว่าตามนี้นะ\" เขาพูดขึ้นอย่างโล่งอก \"มะรืนนี้ ฉันจะจัดการหาตู้ให้พวกเราทั้งหมด เอ่อ อยู่ติดกันน่ะ\" เขาเสริม \"เวลาเปิดจะได้ไม่มีใครสังเกต\"

              

               \"แล้วเราก็ถือกุญแจของทุกคนไว้\" จิมมี่พูดเป็นเชิงถาม จาคอบพยักหน้าให้เขา \"เข้าใจล่ะ\"

              

               \"ถ้าอย่างนั้นที่เราต้องระวังคือ คนมาก ๆ ใช่ไหม\" ลิซถามบ้าง \"งั้นก็ง่ายล่ะ ไม่มีใครสนเวลาฉันเปิดลอกเกอร์อยู่แล้ว\" เธอพูดอย่างสบายใจ

              

               \"แต่ฉันคงแย่\" ไรอันพูดอย่างกังวล \"เกิดพวกสาว ๆ พยายามงัดตู้ฉันก็--\"

              



               \"ไม่หรอก\" จาคอบพูด \"ฉันจะใช้ล็อกรหัสด้วย\"

              



               \"อ้อ งั้นก็เจ๋ง\" ไรอันตอบพลางยิ้มกว้าง

              

               เกิดความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ลิซจะพูดขึ้น\"ถ้างั้น...เรากลับบ้านได้แล้วใช่ไหม\" เธอก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ \"เกือบสองทุ่มแล้ว\"

              

               \"อือ ใช่ ไปกันเถอะ\" จาคอบบอกทุกคน

              



                ทั้งหมดลุกขึ้น พวกเขาเดินออกจากห้องประชุมด้วยความมั่นใจกว่าตอนเข้ามา เพราะเวลานี้ไม่มีใครจะมาเดินอยู่แถวนั้นแล้ว และหลังจากกล่าวลากันเรียบร้อย ไรอันก็อยู่รั้งท้ายกับจาคอบที่กำลังล็อกกุญแจห้องนานผิดปกติและมองลูกบิดประตูเหม่อๆ

              

               \"นายคิดถึงห้องนี้เหรอ\" ไรอันถาม

              

               \"ก็ไม่เชิงหรอก\" จาคอบว่า ยิ้มอย่างฝืดฝืน \"ที่จริง...ฉันคิดถึงชีวิตธรรมดา ๆ ที่เคยคิดว่าจะมีหลังจากห้องนี้ปิดไปแล้วมากกว่า\"

              



               ไรอันยิ้มให้เขาอย่างเห็นใจ \"เราจะได้มันแน่\" เขาพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม \"เราจะได้มันคืนมา ไม่นานหรอกนายก็รู้ พวกเราอยู่ปีสุดท้ายแล้วนะ\" เขาพูด

              

               \"ใช่ ใช่สิ\" จาคอบพึมพำตอบ เขารู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย \"เอาล่ะ ไปกันเถอะ ฉันไม่อยากปีนรั้วนั่นอีกแล้ว\"

              



               ทั้งสองเดินลงบันไดทีละก้าวช้า ๆ ราวกับจะจำรายละเอียดของแต่ละขั้นให้ขึ้นใจ ก่อนจะหลบอาจารย์สองสามคนที่ยังคงวุ่นกับงานในโรงเรียนอยู่ และลัดเลาะตามรั้ว แทรกตัวผ่านประตูเล็ก ๆ ด้านหลังออกจากโรงเรียนไปในความมืด



                                                           **************************************







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×