คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : + Cruel + Number Two
Number Two
เสียงดังกระหึ่มของเพลงชวนให้ทุกคนใครหลายคนลุกขึ้นมาขยับตัวบริหารเสน่ห์ แก้วทรงหรูที่บรรจุน้ำมึนเมาถูกยกขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำสีสวยไหลผ่านลำคอไม่มีทีท่าว่าจะพอ เมื่ออารมณ์ของคนดื่มตอนนี้คุกกรุ่นจนไม่น่าเข้าใกล้
บรรดาหนุ่มหน้าหวานหรือสาวหน้าสวยหลายคนต่างจับจ้องมายังเค้าท์เตอร์บาร์แห่งนี้ หลายคนได้แต่มองตาละห้อยแต่ไม่สามมารถเข้าไปจับจองได้ เพราะทุกคนรู้จักคนๆ นี้ดี คนที่เวลาโมโหแล้วน่ากลัวที่สุด...ปาร์ค ชาน ยอล
“มานั่งกร่อยตรงนี้มันไม่มีอะไรสนุกหรอกนะพี่ชานยอล” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของใครบางคนดึงความสนใจจากของมึนเมาในมือ หน่วยตาคมตวัดสายตามองแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเอาเรื่อง หากแต่เมื่อพบว่าแขกผู้นั้นเป็นใครแล้วชานยอลจึงได้ถอนหายใจแล้วกลับไปสนใจแก้วในมือต่อ
“เรื่องพี่แบคฮยอนอีกแล้วใช่ไหมครับ?” ชานยอลไม่ตอบ ได้แต่ถอนหายใจอีกครั้งแล้วกระดกแก้วอย่างไม่สนใจคำถาม เขารู้จักเด็กคนนี้แค่ผิวเผินเท่านั้น รู้แค่ว่าไม่ควรต้องแสดงมารยาทแย่ๆ ใส่แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรมากนัก...ก็แค่น้องรหัสของแบคฮยอน
“หาใครซักคนไปนอนที่ห้องแก้เซ็งสิครับ”
“...”
“แค่ครั้งเดียว...ฉลองวันสำคัญตัวเองหน่อย แค่นี้ก็กร่อยพอแล้วนะครับ”
ปึง!~ เสียงแก้วกระทบเค้าท์เตอร์อย่างแรงทำเอาบาร์เทนเดอร์หนุ่มต้องรีบหันมามองเพราะกลัวจะเกิดความเสียหาย
“ผมแค่เสนอ พี่จะทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่นี่ครับ...” ยิ้มให้รุ่นพี่ตัวเองบางๆ ก่อนจะเดินละกลับไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนตัวเองต่อ
หลังจากที่น้องรหัสของแบคฮยอนขอตัวออกไปแล้ว เหลือแต่ชานยอลเท่านั้นทั่งนั่งคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับตัวเองดี วันนี้วันสำคัญของเขาแท้ๆ แต่คนสำคัญกลับไปอยู่กับคนรัก ชานยอลไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าขนาดนี้มาก่อนพอๆ กับไม่เคยเกลียดใครเลยในชีวิต จนผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนก้าวเข้ามา...
“ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ” เสียงหวานเย้ายวนของหญิงสาวหุ่นดีคนหนึ่งดังขึ้น ชานยอลปราดตามองดูตั้งแต่หัวจรดเท้าก็พอจะเข้าใจว่าเธอ...น่าจะมาอ่อย
เดรสสีแดงสดตัดกับผิวเนียนขาวชวนให้มอง ชานยอลหัวเราะให้กับความคิดตัวเองเบาๆ จนหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักชื่อต้องเอ่ยถาม
“ฉันดูตลกขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“เปล่าหรอก ผมแค่คิดว่าเดรสที่คุณใส่...”
“คะ?”
“...มันน่าจะถอดง่ายดี” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะอายซักนิด วางแก้วไวน์ที่ตนถือมาสองแก้วไว้ก่อนจะยกยิ้มบนมุมปาก ชานยอลปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันน่ามองขนาดไหน
“ถ้าเป็นคนอื่นมันอาจจะถอดยาก...แต่ถ้าเป็นคุณ...ฉันคิดว่ามันไม่ยาก” ว่าพลางยกแก้วไวน์ขึ้นบอกเป็นนัยต์ให้ชานยอลรู้ว่าเธอต้องการเลี้ยงไวน์อีกแก้วหนึ่ง แต่ชานยอลเหลือบไปมองแก้วไวน์ราคาแพงแล้วเลือกที่จะดื่มจากแก้วเก่าของตนเองมากกว่า
“คุณจะไม่รับน้ำใจฉันหรอคะ”
“ผมจะรับมันถ้าคุณไม่ดูถูกผม”
“คะ?” หญิงสาวหน้าเสียลงทันทีที่ดูเหมือนว่าชานยอลจะพบบางอย่างเข้า
“อย่างผมไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรอกนะครับ” คำตอบของชานยอลทำให้สาวเจ้ายิ้มอย่างพอใจ เธอกระดกแก้วไวน์อีกครั้งและเริ่มส่งนิ้วเรียวสวยลูบไล้ที่ต้นขาชานยอลเบาๆ
“จะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ หรอคะ...ขอพิสูจน์ได้ไหม?” ชานยอลนิ่งไปเล็กน้อย ความคิดในหัวสับสนปนเปไปหมด...จุดประสงค์ที่เขาก้าวเข้ามาในผับแห่งนี้...สมควรแล้วหรือเปล่าที่จะทำ
ข้อความเข้า 1 ข้อความ
‘Baekyun’
ถ้าอยากรู้ว่านายสำคัญแค่ไหนก็เงียบๆ ไว้ อย่า ‘ทวงถาม’ อะไร
ชานยอลมองข้อความในมือถือตัวเองแล้วต้องขมวดคิ้ว ข้อความแปลกจากเบอร์แบคฮยอนทำให้ชานยอลเดาว่าคงเป็นฝีมือโอเซฮุนแน่นอน หัวใจเต้นร่าด้วยความกังวล ชานยอลรู้ว่านี่อาจจะเป็นแผนของเซฮุนที่ต้องการทำให้เขาเจ็บปวด หากแต่ชานยอลเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าสำหรับแบคฮยอนแล้ว ปาร์คชานยอลคนนี้ยังคงสำคัญอยู่ไหม...
เสียงเรียกเข้าร้องเรียกเจ้าของเครื่องให้หยุดความคิดลงเพียงเท่านั้น ชานยอลกดรับสายโดยที่ไม่ต้องมองเบอร์ เพราะเสียงเพลงพิเศษนี้ เขาตั้งไว้ใช้กับ บยอนแบคฮยอน เพียงคนเดียว
“ว่าไงครับตัวเล็ก”
[...]
“โอเซฮุนงั้นหรอ?”
[เก่งเหมือนกันนี่...]
“แบคฮยอนอยู่ที่ไหน”
[ก็ยังอยู่กับฉันที่คอนโด วันนี้พี่แบคฮยอนจะไม่ไปเรียน ฝากนายเล็กเชอร์ให้ด้วย]
“อะไรนะ!”
[วันนี้พี่แบคฮยอนจะอยู่กับฉัน...ทั้งวัน]
“โอเซฮุนอย่ามาใช้วิธีสกปรก!”
[เฮ้ๆ...ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่ออกปากขอร้องให้พี่แบคฮยอนช่วยทำรายงาน แต่เรื่องที่เขาลืมนาย...เขาลืมเอง]
“!”
[ก็ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองยังสำคัญอยู่ไหม ก็ช่วยพยุงใจตัวเองให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปแล้วกัน]
“คิดอะไรอยู่คะ?” ชานยอลหลุดจากห้วงความคิดทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก ชานยอลสะบัดหัวตัวเองเล็กน้อยที่เผลอไปนึกถึงเรื่องเมื่อเช้า เขาเฝ้ารอเสียงโทรศัพท์จากแบคฮยอนอีกครั้งทั้งวันอย่างมีความหวัง จนต้องเลิกหวังเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สำคัญอีกแล้ว มือหนาล้วงกางเกงยีนหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดเบอร์โทรออกอีกครั้งก็ได้พบคำตอบ...คงไม่ได้เจอแบคฮยอนแล้วล่ะวันนี้
“เขาไม่รับสายหรอคะ? ถ้าอย่างนั้น...ให้ฉันช่วยทำให้คุณมีความสุขในวันนี้ดีไหม?”
“เซฮุนไปอาบน้ำไป” แบคฮยอนที่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาเรียกคนรักให้เข้าไปอาบน้ำต่อ แบคฮยอนเดินไปยืนสูดอากาศเย็นๆ ที่นอกระเบียงเพื่อรอคนรัก วันนี้ทั้งวันแบคฮยอนต้องอยู่ช่วยเซฮุนทำโครงงานจนปวดเนื้อเมื่อตัวไปหมด พออาบน้ำเสร็จก็ขอตัวออกมารับลมชมวิวหน่อยก็แล้วกัน ตาเรียวมองผู้คนที่เดินเข้าออกคอนโดนี้ไปเรื่อยเปื่อย บรรยากาศยามค่ำคืนชวนให้หลงใหล แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าต่างๆ ในยามนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอยู่ไม่น้อย แบคฮญอนกวาดสายตาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสะดุดเข้ากับคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่ตัวเขาเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่ของในมือของคนๆ นั้นทำให้แบคฮยอนต้องชะงัก...
...กล่องของขวัญ...
“ของขวัญ...” แบคฮยอนพึมพำออกมาราวกับคนไม่ได้สติ ขาเรียวเล็กวิ่งไปยังหน้าห้องน้ำที่คนรักเข้าไปเมื่อครู่ หยิบเสื้อผ้าที่อยู่หน้าห้องน้ำขึ้นมารื้อค้นหาของบางอย่าง หาได้ไม่นานก็เจอโทรศัพท์เครื่องหรูของตนเอง หน้าจอดำสนิทบ่งบอกว่าให้รู้ว่าเซฮุนคงเป็นคนปิดไว้ ระหว่างรอเครื่องเปิดนั้น หัวใจแบคฮยอนเต้นถี่รัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอก ร่างเล็กภาวนาขอให้ไม่ใช่อย่างที่คิด...ขอให้ไม่ใช่เลย...
ทันทีที่ตัวเครื่องเปิดติดการแจ้งเตือนต่างๆ ก็รัวแจ้งขึ้นมาทำเอาเจ้าของเครื่องหัวใจกระตุกวูบ ชานยอลโทรหาแบคฮยอนนับร้อยสาย...ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อได้รู้ความจริง วันที่และเวลาบนหน้าจอย้ำเตือนความผิดที่แบคฮยอนทำกับชานยอลไว้ ความทรงจำทยอยแล่นเข้าสู่สมองแบคฮยอนอย่างรวดเร็ว คำสัญญาที่แบคฮยอนให้ชานยอลไว้เมื่อสองวันก่อนตอกย้ำให้แบคฮยอนเจ็บปวดแทบขาดใจ
“ชานยอลวันศุกร์นี้เราไปเที่ยวกันนะ ไปเดินซื้อของมาทำเค้กวันเกิดให้ชานยอลในวันเสาร์กัน”
“นัดฉันเองก็อย่าลืมล่ะตัวเล็ก”
“ไม่ลืมหรอก วันเกิดชานยอลทั้งคนนะ! วันเกิดคนสำคัญของฉันเชียวนะ!”
“ถ้านายลืมล่ะ”
“นายคือคนสำคัญของฉัน เพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางลืม ถ้าฉันลืมแสดงว่านายไม่สำคัญแล้ว และแน่นอนว่ามันไม่มีทางเป็นแบบนั้นเด็ดขาด!”
หยาดน้ำใสๆ ไหลรินออกจากดวงตาคู่สวย แบคฮยอนอยากจะตีตัวเองแรงๆ เมื่อพบว่าวันนี้เป็นวันเสาร์...เป็นวันเกิดของชานยอล...ซ้ำแล้วเมื่อวานเขาก็ยังลืมนัดอีก
“ชานยอล...แบคฮยอนขอโทษ...ฮึก...แบคฮยอนขอโทษ...” ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตารวกๆ ก่อนจะวิ่งไปคว้าชุดที่ปั่นแห้งไว้ตั้งแต่เย็น แบคฮยอนวิ่งออกจากห้องเซฮุนให้เร็วที่สุด โดยไม่ลืมทิ้งโน๊ตเอาไว้ให้คนในห้องน้ำได้อ่าน
‘กลับห้องไปเคลียร์งานนะ ไม่ต้องห่วง...’
ขาเรียวสาวเท้ารีบเดินขึ้นห้องให้เร็วที่สุด มองสิ่งของที่อยู่ในอ้อมอกแล้วก็อมยิ้มเล็กน้อย ถึงแบคฮยอนอาจจะผิดสัญญาไปบ้างที่ไม่ได้ซื้อเค้กมาทำกับชานยอล แต่อย่างน้อยเขาก็ไปซื้อเค้กจากร้านโปรดของชานยอลมา...พร้อมกับของขวัญเป็นจูบหวานๆ จากตัวเองชานยอลก็คงจะหายโกรธ
หากแต่เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาแล้วก็ต้องใจเสียเมื่อพบว่ารูมเมทคนสนิทไม่อยู่ แบคฮยอนไม่อยากจะคิดไปเองว่าชานยอลไปที่ไหน ไม่อยากคิดว่าชานยอลจะไปที่ที่เขาเกลียดแสนเกลียด ร่างเล็กได้แต่แอบหวังอยู่ในใจว่าเพื่อนรักของตนจะไม่ไปนอนค้างอ้างแรมกับใคร เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแบคฮยอนคงเสียใจมากแน่ๆ...
มือเรียวสวยบรรจงวางเค้กก้อนโตไว้ที่โต๊ะอาหารก่อนจะเดินออกมาเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง หัวใจดวงน้อยรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดแรงๆ เมื่อรู้อยู่แล้วว่าที่ชานยอลทำห้องเละแบบนี้เป็นเพราะใคร...
“ขอโทษจริงๆ นะชานยอล...กลับมาเร็วๆ นะ”
เสียงเพลงมันส์ๆ ทำให้ผู้คนสนุกสนาน ชายหนุ่มหญิงสาวต่างพากันมาอวดลวดลายบนฟลอร์อย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร ร่างสูงของหนุ่มหล่อดีกรีอดีตเดือนคณะกำลังบดเบียนร่างกายกับสาวๆ ที่ล้วนเข้ามาให้ท่าอยู่เช่นกัน แม่สาวชุดแดงคนเดิมก็ช่างยั่วเย้าไฟในตัวชานยอลเหลือเกิน ขนาดเขาเดินเลี่ยงออกมาแล้วเจ้าหล่อนก็ยังคงตามไม่ลดละ ทั้งผิวเนื้อเนียนละเอียดที่โผล่พ้นร่มผ้าก็ถูกไถบนแผงอกกว้างซะจนแทบอดใจไม่ไหว
“เต้นนานแล้วนะคะ จะเที่ยงคืนแล้วด้วยถ้าคุณไม่สนใจฉัน ฉันจะไปแล้วนะคะ” ริมฝีปากแดงสดเอ่ยน้ำเสีงหวานหูออกมาอีกครั้ง ชานยอลได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่...เขาเต้นเพื่อระบายความเครียดมานานแล้วก็ยังไม่มีทีท่าจะสบายใจได้เลย เห็นทีคืนนี้ต้องควงสาวสุดเอ็กซ์คนนี้กลับห้องแล้วล่ะ...
ทันทีที่ถึงประตูห้อง สองร่างต่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่ลดละ ชานยอลแทบจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของสาวพราวเสน่ห์คนนี้ตั้งแต่หน้าห้อง ยังดีที่พอจะรู้จักหักห้ามใจแล้วประคองตัวเข้าห้องนอนไปโดยที่ไม่ได้เปิดไฟหรือสังเกตอะไรทั้งสิ้น
ไม่ได้สังเกต...ว่ามีเค้กวางอยู่บนโต๊ะอาหาร
ไม่ได้สังเกต...ว่าพื้นห้องไม่ได้ระเกะระกะเหมือนเก่า
และไม่ได้สังเกต....
...ว่ามีร่างบางของใครบางคนที่เหนื่อยจนต้องล้มตัวนอนพักบนโซฟา
เสียงปิดประตูห้องดังลั่นจนทำให้ร่างเล็กที่นอนหลับเพราะความเมื่อยล้าต้องสะดุ้งตื่น แบคฮยอนลุกขึ้นมานั่งช้าๆ ประมวลผลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูเพื่อมองหารองเท้าของคนที่รอ ฉับพลันที่เห็นรองเท้าส้นสูงสีแดงถอดวางปนกับรองเท้าที่แสนคุ้นเคยก็ทำเอาตัวเองแทบล้มทั้งยืน
“อื้อ...อย่าใจร้อนสิคะ”
เสียงหวานๆ ของใครสักคนที่แบคฮยอนไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้นมาจากห้องนอนของเขาและชานยอล ดวงตารีสั่นระริกด้วยความกลัว ในใจได้แต่อ้อนวอนพระเจ้าขออย่าให้เขาต้องมาเจออะไรแย่ๆ เลย หากแต่ความจริงยังไงก็คือความจริง แค่ห่างจากหน้าห้องแค่ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงที่ไม่น่าฟังเล็ดลอดออกมาแล้ว แบคฮยอนไม่อาจข่มใจไว้ได้ ฝ่ามือเรียวหมุนลูกบิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตารีเบิกกว้างเมื่อได้เห็นภาพชัดๆ คนสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงราวอย่างเร่าร้อน ทั้งฝ่ามือหนาของชานยอลที่ลูบไล้ไปทั่วโคนขาขาวของใครอีกคน ทั้งนิ้วเรียวสวยแบบฉบับผู้หญิงที่ขยุ้มศรีษะชานยอลราวกับว่าหาที่ระบายความใคร่
“ชานยอล!” ภาพที่เห็นทำเอาแบคฮยอนโกรธจัด คนตัวเล็กปรี่เข้าไปดึงเพื่อนตัวสูงที่กำลังคร่อมอยู่พร้อมกับจูบกันหญิงสาวอย่างดูดดื่ม ดูเหมือนชานยอลจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นแบคฮยอนอยู่ในห้องจนไม่ได้สนใจเลยว่าแบคฮยอนกำลังโกรธและโมโหแค่ไหน
“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
“กรี๊ดดดดด! อะไรกันเนี่ย!” แบคฮยอนไม่ฟังเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดใดๆ เลย ความโกรธครอบงำจนแบคฮยอนทั้งลากทั้งดึงแม่สาวชุดแดงจนล้มลุกคลุกคลานหลายหน ตาคมสวยตวัดกลับมามองเจ้าของห้องอย่างขุ่นเคือง สาวเท้าเข้าไปมองคนตรงหน้าด้วยความผิดหวัง ทั้งๆ ที่สัญญากันแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ณ ห้องแห่งนี้จะไม่มีใครนอกเหนือจากเขาสองคนมานอนเด็ดขาด
“อยากมากนักหรอชานยอล?”
“...”
“ตอบสิ!”
“...”
“ฮึก...นายทำแบบนี้ทำไมชานยอล! นายเอาใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาในห้องเราได้ยังไง! ขนาดเซฮุนนายยังไม่อนุญาตให้เขาเข้ามาแล้วแม่นั่นเป็นใคร!” ตวาดออกไปพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ หยาดน้ำใสเอ่อล้นเต็มดวงตาคู่สวยจนทุกอย่างพร่ามัว แบคฮยอนสะอื้นตัวโยนพยายามมองจ้องหน้าคนที่ผิดสัญญาให้มากที่สุด
“ทำไมไม่ตอบ!”
“...”
“...”
“นายกลับมาทำไม”
เพียะ!~ เพียงประโยคที่ชานยอลเอื้อนเอ่ยออกมาในขณะที่สมองกำลังสับสน ฝ่ามือเรียวเล็กของคนที่ตนรักก็ฟาดลงมาบนแก้มซ้ายจนใบหน้าชาวาบ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดี แบคฮยอนก็ก้าวเข้ามาทุบอกชานยอลครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับน้ำตาที่ล้นทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก
“ชานยอลนิสัยไม่ดี! ชานยอลรู้ไหมว่าตัวเล็กเจ็บแค่ไหน! ตัวเล็กหนีเซฮุนมานะ! ตัวเล็กแอบหนีมา! ตัวเล็กรีบไปซื้อเค้กร้านโปรดมาเพื่อหวังจะฉลองกับชานยอลสองคน แล้วนี่อะไร? ตัวเล็กเข้ามาเก็บของที่ชานยอลปาลงพื้นให้แล้วตัวเล็กยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกหรอ!?” น้ำเสียงตัดพ้อเอื้อนเอ่ยออกมาพร้อมทั้งทุบทั้งตีไปทั่วอกกว้างๆ และท่อนแขนแกร่ง
“....” ชานยอลได้แต่นิ่งเงียบยอมรับในสิ่งที่เขาได้ทำผิดพลาดไป
“ฮึก...ชานยอลผิดสัญญา! ไหนว่าจะไม่ให้ใครเข้ามาในที่ของเราไง ฮึก...ชานยอลให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาให้ห้องของเรา เข้ามาในห้องนอนเรา ที่สำคัญชานยอลให้ยัยนั่นนอนบนเตียงของเรา นอนบนที่ที่มันต้องเป็นของตัวเล็กคนเดียว!”
“หึ...” ชานยอลแสยะยิ้มอย่างไม่หยี่หระกับน้ำตาบนใบหน้าของแบคฮยอนซักนิด ชานยอลแค่นหัวเราะให้กับตัวเองอย่างสมเพช...ที่สุดท้ายแล้ว...คนที่เจ็บก็ไม่พ้นเราทั้งคู่
“นายผิดสัญญาก่อนตัวเล็ก...” ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้อไม่ต่างกัน ใช่ว่าชานยอลจะผิดอยู่ฝายเดียว หากคนตัวเล็กไม่ผิดสัญญากับเขาก่อน เขาก็คงไม่คิดจะทำอะไรแบบนี้เช่นกัน
“...”
“นายบอกว่าถ้านายลืมสัญญาแสดงว่าฉันไม่สำคัญแล้ว...”
“...”
“ตอนนี้ฉันไม่ใช่คนสำคัญของนายแล้ว นายออกไปจากที่นี่เถอะ” คำพูดจากคนตรงหน้าทำเอาหัวใจแบคฮยอนแทบหยุดเต้น คำพูดที่ไม่คิดว่าจะมีวันได้ยินออกมาจากปากของชานยอลทำให้แบคฮยอนลนลานราวกับคนเสียสติ
“ชะ ชานยอล...ฮึก...ฟังตัวเล็กก่อนนะ” แบคฮยอนพยายามคว้ามือหนาของชานยอลไว้เพื่ออ้อนวอนขอให้ชานยอลฟังคำแก้ตัว มือหนาของคนที่ถูกกุมอยู่ไม่ได้ขัดขืน แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรจนทำให้แบฮยอนเริ่มใจเสีย
...ชานยอลไม่เคยเมินใส่เขาแบบนี้...
“ถ้านายไม่ไป...ฉันไปเอง” ชานยอลไม่สนใจอะไรแบคฮยอนเลย ซ้ำยังจะก้าวเท้าเดินหนีแบคฮยอนไปเสียอีก จากที่ลนลานด้วยความตกใจก็กลายเป็นความหวาดกลัว ความระแวง กลัวว่าชานยอลจะไม่รักตนเองแล้ว
“ไม่นะชานยอล!” สวมกอดคนตรงหน้าไว้ไม่ยอมปล่อย แม้จะรู้ว่าตัวเองผิดแต่ก็ไม่อาจยอมปล่อยชานยอลไปได้ ต่อให้ใครจมองว่าแบคฮยอนเป็นพวกหวงของ ก็คงจะใช่...แบคฮยอนหวงชานยอลมากที่สุด
“ชานยอลจะไปหาผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม! ชานยอลไม่ต้องเอาเรื่องตัวเล็กมาอ้าง! ชานยอลนอกใจตัวเล็ก! คนนิสัยไม่ดีตัวเล็กไม่ปล่อยหรอก!” ว่าแล้วก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิมราวกับว่าถ้าแผ่วแรงลงไปแม้แต่นิดเดียวตัวเองจะต้องเสียของรักไป
“อย่ามาเห็นแก่ตัวได้ไหมแบคฮยอน!” ชานยอลประกาศเสียงกร้าวสะบัดตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมจนแบคฮยอนเสียหลักล้มลงไปกับพื้น แววตาผิดหวังจากการกระทำส่งมาให้ชานยอลอย่างชัดเจน
“ชานยอลว่าตัวเล็กเห็นแก่ตัวหรอ!”
“ใช่! ตัวเล็กจะมาห้ามชานยอลทำไมในเมื่อตัวเล็กก็มีไอ้เด็กนั่นอยู่แล้ว! มันแย่งตัวเล็กไปจากฉัน! พอกันทีกับการเฝ้ารอ ฉันไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้วฉันจะปล่อยนายไป!”
“ชะ ชานยอล!” ทุกอย่างดูสงบลงทันตาเห็นเมื่อชานยอลพูดประโยคสุดท้ายออกมา จ้องตากันได้ไม่นานชานยอลเองที่เป็นฝ่ายผละออกไปก่อน ร่างสูงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้าเอากระเป๋าเดินทางออกมา แบคฮยอนที่ได้เห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปขวางและยื้อของเอาไว้
“โธ่เว้ย! จะมาห้ามทำไมวะ! ฉันเบื่อที่จะต้องเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวแล้วนะ!”
“ไม่! ชานยอลอย่าไป ตัวเล็กขอโทษ ตัวเล็กผิดไปแล้วที่ลืมสัญญา แต่ชานยอลอย่าไปเลยนะ” ร้องไห้ราวกับคนบ้า ยื้อแย่งทุกอย่างในมือชานยอลเท่าที่จะทำได้
“อย่ามาเห็นแก่ตัวได้ไหมตัวเล็ก!” ตวาดหวาดออกไปเพราะอารมณ์ที่คุกกรุ่น กลายเป็นว่าบทสนทนาของเขาและแบคฮยอนเต็มไปด้วยเสียงตะคอกและความรุนแรง
“เห็นแก่ตัวแล้วใครจะทำไม! ตัวเล็กขาดชานยอลไม่ได้หรอกนะ!”
“คิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวได้คนเดียวหรือไง!? อย่าให้ฉันเห็นแก่ตัวบ้างนะแบคฮยอน!”
“ก็เห็นแก่ตัวสิ! ถ้าเห็นแก่ตัวแล้วชานยอลไม่จากตัวเล็กไปไหนก็เห็นแก่ตัวเลย!”
“รู้ไหมว่าถ้าพูดคำนี้ออกมาแล้วสิ่งที่เจอมันคืออะไร!”
“ไม่รู้ๆๆๆๆๆ! อ้ะ!” โต้เถียงได้ไม่นาน แผ่นหลังบางก็สัมผัสได้ถึงพื้นเตียงหนานุ่มจากแรงที่ถูกใครอีกคนเหวี่ยง ชานยอลไม่ปล่อยโอกาสให้แบคฮยอนได้ดิ้นรนหรือขัดขืน กายหนาก็ส่งตัวขึ้นคร่อมร่างเล็กทันที ริมฝีปากบางที่เคยลิ้มรสมาหลายครั้งหลายหนแล้วถูกครอบครองอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง
...ป่าเถื่อนและรุนแรง...
“อื้อ! ชานยอลอย่าทำแบบนี้!” ร้องห้ามออกไปพร้อมกับใจที่เสียขวัญ ใบหน้าคมของชานยอลซุกไซร้ไปทั่วลำคอขาวเนียนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน มือเล็กๆ ของแบคฮยอนพยายามผลักไสฝ่ามือของชานยอลที่เริ่มลูบไล้ไปทั่ว แบคฮยอนไม่คิดว่าสิ่งที่ชานยอลหมายถึงจะเป็นสิ่งนี้ด้วยซ้ำ
“ชานยอลปล่อยตัวเล็กเถอะ ตัวเล็กกลัวแล้ว ฮึก...” จากน้ำเสียงแข็งกร้าวกลายเป็นแผ่วเบาพร้อมด้วยน้ำใสๆ ที่เปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าแบคฮยอน
“นายบอกให้ฉันเห็นแก่ตัวเองนะ...”
“มะ ไม่เอาแบบนี้ ฮึก...” พูดออกไปพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยที่ถูกทำโทษ แบคฮยอนรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะขอร้องให้ชานยอลการกระทำนี้แล้วก็ตาม แต่ชานยอลก็ยังคงกดใบหน้าลงสูดดมความหอมหวานจากคนตัวเล็กไม่ยอมหยุด
“ของขวัญวันเกิดฉันแบคฮยอน...”
“ฮึก...”
“ของขวัญพร้อมกับการชดเชยในสิ่งที่นายทำผิดไว้...”
“ฮึก...”
“เป็นของฉันซะแบคฮยอน”
---- ตัดฉับ! ---
ชานยอลทิ้งร่างตัวเองทาบทับร่างเล็กเอาไว้ด้วยความเหนื่อย ความรู้สึกชื้นแฉะที่ไหล่บางทำให้แบคฮยอนพยายามยกแขนที่แทบจะไม่มีแรงเหลือขึ้นกอดคนตัวสูงเอาไว้ ลูบแผ่นหลังให้อย่างแผ่วเบา
...เพราะชานยอลกำลังร้องไห้...
“ขอโทษนะตัวเล็ก...เราขอโทษ...” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน น้ำตาของความรู้สึกผิดไหลออกมาไม่ขาดสาย ถึงจะรู้ว่าไม่ควรแต่ก็ทำลงไปแล้ว...
รู้ทั้งรู้ว่าแค่หยุดตั้งแต่แรกทุกอย่างก็จบ...
รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรถามแต่ควรจะหักห้ามใจ...
รู้ทั้งรู้ว่าถามไปแล้วคำตอบคืออะไรก็ยังทำ...
...รู้ทั้งรู้...
...รู้ว่าตั้งแต่รู้จักกันมา...
...ต่อให้ไม่เต็มใจ...
...แบคฮยอนก็จะมอบให้ชานยอลเสมอ...
“ไม่เป็นไรนะชานยอล...”
“...”
“ตัวเล็กเต็มใจ...”
“...”
“เพื่อชานยอลตัวเล็กให้ได้อยู่แล้ว...”
“...”
“ขอแค่ชานยอลไม่ทิ้งตัวเล็กไว้ก็พอ...”
“...”
“...”
“...”
“ตัวเล็ก...”
“...”
“รัก...”
“...”
“...รักชานยอลนะ”
------------------------------------------------------------------------------------------
หมาน้อยขอเห่า! : มาแล้วสำหรับ 40% ที่เหลือ...อันที่จริงเกินนะหมาน้อยว่า... 5555555555
เป็น nc เบาๆ ที่ใช้เวลาแต่งนานมากที่สุดจากที่เคยแต่งมา รู้สึกไม่มีอารมณ์เขียนอะไรเลย
แต่ก็พยายามบรรยายให้ไม่แย่เกินไปแล้วกันเนอะ
มีเรื่องจะแจ้งคือหลังจากนี้อาจจะไม่อัพฟิคแล้วนะ
จะมาอัพอีกทีวันที่ 9 พ.ค.นู่นเลย แต่ถ้าไม่อยากรอนานก็เม้นต์ให้กำลังใจกันนิดนึงก็ได้นะ -///-
สำหรับใครที่ตามทวิตหมาน้อยอยู่ก็คงจะรู้แหล่ะว่ามีปัญหาอะไรถึงต้องหายไป
ถ้าใครอยากคุยอยากเล่นก็เมนชั่นทิ้งไว้ หรือสงสัยอะไรก็ไลน์มาคุยกันได้นะ ID: missjjane
รู้นะว่าบางคนไม่ชอบเม้นต์ ถ้าไม่เม้นต์ไม่เป็นไร รบกวนติดแท็ก #ficcruel ในทวิตให้เค้าไปส่องดูก็ยังดี ;_;
Ps.พยายามอย่างมากในการเขียน nc ให้ทุกคนอ่าน แม้ฟิคเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นที่ฉากอย่างว่าก็เถอะ
แต่เพราะหมาน้อยเองก็อยากให้ในทุกฉากทุกตอนออกมาดี ก็เลยตั้งใจเต็มที่
แม้จะกล้าพูดเลยว่า nc ของเรื่องนี้ตั้งใจแต่งน้อยกว่าเรื่องก่อนๆ ก็ตาม
แต่ก็หวังว่ามันจะไม่แย่จนเกินไปเนอะ...
ขอบคุณทุกกำลังใจในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ รักทุกคนมากๆเลย
Ps.อย่าลืมว่าเวลาอ่านเราใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่คนเขียนต้องใช้เวลาเป็นวันเพื่องานให้ออกมาดีที่สุด ;_;
ความคิดเห็น