ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • Cruel {Baekhyun ft.sehun chanyeol kris kai luhan} 。

    ลำดับตอนที่ #4 : + Cruel + Number One

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.63K
      13
      15 ส.ค. 56


    Number One

               

                “เซฮุนนา...เซฮุนว่าชานยอลจะโกรธพี่ไหม?

                ...

                “พี่ทิ้งชานยอลออกมากับนายอีกแล้วน่ะ...”

                “...”

                “ชานยอลน่ะ...หวงพี่มากๆ เลย ตั้งแต่พี่คบกับเซฮุนพี่ก็ห่างกับเขา...”

                “...”

                “ทำไงดีเซฮุน...พี่ว่าพี่จะ...อื้อ!” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กหยุดลงทันทีเมื่อถูกริมฝีปากของใครบางคนโน้มลงมาครอบครองโดยไม่ทันตั้งตัว รสฝาดของบุหรี่ยังติดที่ปลายลิ้นของคนตัวสูงถูกส่งความขมปร่ามายังลิ้นเล็กที่แสนหอมหวาน...ชิมกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ...

                “อื้อ! พอแล้วเซฮุน...นี่มัน ระ ริมถนน อะ อื้อ!” ฝ่ามือเล็กทุบแผงอกกำยำของคนขี้แกล้งรัวๆ เนื่องจากที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณะและที่สำคัญแบคฮยอนเองก็กลัวว่าจะเคลิ้มไปกับรสจูบนี้

     

              ...ก็เซฮุนน่ะ...จูบเก่งอย่างนี้! (ยกนิ้วโป้ง)...

     

                “ผมไม่ชอบให้พี่พูดถึงคนอื่นเวลาอยู่กับผม”

                “ขะ เข้าใจแล้ว...หยุดจูบสิเด็กบ้า! อื้อ!” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เซฮุนจัดการดันตัวของแบคฮยอนให้แผ่นหลังบางนั้นแนบสนิทกับกำแพงก่อนจะยกมือประคองใบหน้าหวานของแฟนที่รักไม่ให้ขยับหนี เรียวลิ้นร้อนส่งเข้าไปเกี่ยวกระหวัดหาความหวานอย่างไม่รู้จักพอ แบคฮยอนที่พยายามดันคนไมรู้กาลเทศะออกในตอนแรกก็กลับเปลี่ยนเป็นโน้มคอคนตัวสูงไว้กดใบหน้าเซฮุนเพื่อจะได้แลกสัมผัสกันให้มากขึ้น

     

              แบคฮยอนรู้...รู้ว่ายิ่งห้าม ก็คือยิ่งยุ

              จะหยุดเซฮุนน่ะหรอ?

              ก็ง่ายๆ...

              ปล่อยให้เซฮุนเอาเปรียบเขาจนกว่าเซฮุนจะพอใจยังไงล่ะ...

     

                “แฮ่ก แฮ่ก...”

                “ยอมแต่แรกผมก็ไม่ต้องขึงพี่กับกำแพงหรอกนะ” เอ่ยปากแซวคนตัวเล็กที่ตอนนี้ได้แต่ยืนหอบหายใจพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ...จูบนานไปหน่อย ลืมคิดไปเลยว่าพี่แบคฮยอนอาจจะหายใจไม่ทัน...หึหึ

              “เด็กบ้า!

                “หึหึ...”

                “ย่าห์! เลิกทำหน้ากวนประสาทพี่เดี๋ยวนี้เลยนะเซฮุน ไม่งั้นพี่จะโกรธแล้วนะ!

                “โอเคครับๆ...ทีนี้เราก็เดินไปมหาลัยกันต่อโดยไม่ต้องพูดถึงใครแล้วเข้าใจนะ?”

                “อะ...อื้อ” ใบหน้าหล่อยิ้มกว้างเมื่อแบคฮยอนคนสวยของเขาพยักหน้าราวกับแมวน้อยที่แสนเชื่อง เซฮุนมีความสุข...มีความสุขที่ได้อยู่กับแบคฮยอนแค่สองต่อสอง ถึงจะเพิ่งคบกันได้ไม่นานและอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบหนึ่งเดือน แต่เซฮุนบอกได้เลยว่า เขา รัก แบคฮยอนมาก...มากกว่าทุกคนที่เคยรัก

                อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่วันนั้นเขาวิ่งมาถามทางไปหอประชุมกับแบคฮยอนจนทำให้เขาเริ่มรู้จักกับแบคฮยอน เจอกันในที่ต่างๆ บ่อยขึ้น ก็เริ่มขอเบอร์ เริ่มโทรคุย เริ่มไปดูหนังทานข้าว สุดท้ายเขากับแบคฮยอนก็ตกลงคบกัน    ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่เขาจีบแบคฮยอนนั้นจะมีอุปสรรคคอยขัดขวางอยู่บ้างแต่เขาก็สามารถเอาชนะอุปสรรคที่น่ารำคาญมาได้

     

              อุปสรรคที่ชื่อว่า ปาร์คชานยอล

     

                ไม่ใช่ว่าเซฮุนไม่รู้ว่าชานยอลคิดยังไงกับรุ่นพี่ตัวเล็กของเขา เซฮุนรู้ดี...สายตาที่ชานยอลมองแบคฮยอนมันเหมือนกับที่เขามองแบคฮยอนไม่มีผิด และยิ่งเด่นชัดเมื่อสายตาที่ชานยอลมองเขา...ราวกับว่าจะฆ่าเขาให้ตายซะเดี๋ยวนั้น...ยิ่งตอกย้ำให้เซฮุนรู้ว่าเขากำลังแย่งของรักของใครบางคนมา

                แต่เรื่องความรักไม่มีใครยอมใครหรอก เซฮุนถือคติว่าแบคฮยอนไม่ได้รักชานยอลซะอย่าง เพราะฉะนั้นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะรับตำแหน่งเจ้าของหัวใจมา...ใช่ไหมล่ะ?

                “วันนี้เลิกเรียนกี่โมงครับ?”

                “เรียนแค่เที่ยงน่ะ ช่วงบ่ายไม่มีเรียนแล้ว”

                “งั้นดีเลย...พี่ไปคณะผมได้ไหม?”

                “หื้ม? ไปทำไมหรอ?”

                “เถอะน่า...ไปนะ? นะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนก่อนจะคว้าเอาข้อมือเรียวเล็กของคนน่ารักขึ้นมากดจูบลงไปอย่างแผ่วเบา...

                “ก็ได้...เห็นว่านายลงทุนอ้อนหรอกนะ” ตอบกลับออกไปทั้งๆ ที่สีของแก้มยังคงแดงระเรื่อ...ถึงแบคฮยอนกับเซฮุนจะไม่ได้รักกันอย่างหวือหวา แต่การที่คนเย็นชาอย่างเซฮุนจะมารักและอ้อนแบคฮยอนมันก็เป็นอะไรที่ทำให้คนอย่างแบคฮยอนมีความสุขแล้วล่ะ...

     

     

     

                วันนี้ตลอดช่วงที่เรียนชานยอลไม่แม้แต่จะมองหน้าแบคฮยอนสักครั้ง...โอเค...แบคฮยอนเข้าใจว่าชานยอลคงกำลังจะโกรธที่แบคฮยอนทิ้งให้ชานยอลทานอาหารเช้าคนเดียว...อีกแล้ว

                แต่แบคฮยอนไม่รู้จะอ้อนคนตัวสูงยังไงแล้วเหมือนกัน เพราะในเมื่อเขาทั้งอ้อน ทั้งกอดแขน หรือแม้กระทั่งหอมแก้ม...ชานยอลก็ยังไม่ยอมสนใจแบคฮยอนสักที

     

              บางทีแบคฮยอนก็เริ่มท้อ...ใช่ว่าแบคฮยอนมีแฟนแล้วจะเป็นเพื่อนกับชานยอลไม่ได้สักหน่อย

              ชานยอลไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ไม่ให้ความเป็นส่วนตัวกันเลย

              ไม่เคยเข้าใจตัวเล็กเลย...

     

                “ชานยอล...ถ้ายังไม่หายงอนตัวเล็กอีก...ตัวเล็กจะงอนชานยอลกลับแล้วนะ...ตัวเล็กเหนื่อยแล้ว...ตัวเล็กอ้อนจนไม่รู้จะอ้อนยังไงแล้ว...ชานยอลไม่รักตัวเล็กแล้วหรอ?” สรรพนามที่เพื่อนตัวสูงชอบเรียกแบคฮยอนบ่อยๆ ถูกเอ่ยออกมากปากของคนตัวเล็กเพื่อเป็นการง้อในครั้งสุดท้าย แบคฮยอนจนตรอกกับการง้อครั้งนี้แล้วจริงๆ

                ชานยอลถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อไล่ความหงุดหงิดในใจออกไปก่อนจะคว้าร่างบางเข้ามาสวมกอดแล้วสูดดมความหอมหวานเข้ามาเต็มปอดให้ชื่นใจ...แบคฮยอนเองก็ไม่ได้ขัดขืน...ขอเพียงแค่ชานยอลหายโกรธแบคฮยอนก็ยอมทุกอย่าง

                “กอดให้แน่นๆ ก็ได้ถ้ามันจะทำให้ชานยอลกลับมาเป็นชานยอลที่น่ารักคนเดิม...” แบคฮยอนพูดเสียงอู้อี้แล้วซุกหน้าเข้ากับแผงอกของชานยอลอีกครั้ง...ถึงจะอึดอัดที่ชานยอลชอบงอนโดยไม่มีเหตุผล แต่ทุกครั้งที่ได้กอดชานยอลแบคฮยอนก็ลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปเสียหมด แล้วเลือกจดจำเพียงแต่ชานยอลที่อบอุ่นเสมอ

                “ถ้าให้ทำแบบนั้นฉันเกรงว่านายจะกระดูกหักน่ะสิตัวเล็ก” หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะผละให้คนตัวเล็กได้เป็นอิสระ แต่ก็ไม่วายจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากมนหนึ่งครั้ง

                “เดี๋ยวเถอะ...ฉวยโอกาสอีกแล้วนะชานยอล”

                “นิดๆ หน่อยๆ เอง...แค่พอชื่นใจ” ว่าแล้วก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้อีกครั้ง บรรจงจูบที่เปลือกตาไล้ลงมาที่สันจมูก...พวงแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ...ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมายังริมฝีปาก...

               

              “พี่แบคฮยอน!

     

              คล้ายกับเสียงประกาศิตให้ทุกอย่างจบลง แบคฮยอนผละออกจากตัวชานยอลทันทีที่ได้ยินเสียงของคนรักของตน...เรียกความคุกกรุ่นในใจของชานยอลไม่น้อย

                “กรุณาทำตัวให้เหมาะสมกับพี่แบคฮยอนด้วยนะครับพี่ชานยอล...นั่นแฟนผม” ว่าพลางเดินเข้าไปดึงแขนคนตัวเล็กให้หลุดออกจากท่อนแขนที่น่ารังเกียจของชานยอล

     

                ...เขาสองคนไม่ถูกกันแบคฮยอนรู้...

     

                “ไปรอผมที่รถครับพี่แบคฮยอน รถจอดอยู่หน้าคณะ”

                “แต่...”

                “ไม่มีแต่นะครับคนดี...ไปรอผมนะ”

                “...”

                “ผมสัญญาว่าเราจะไม่มีเรื่องชกต่อยกัน”

                “...”

                “เชื่อใจผมไหม?”

                “อะ อื้อ...ขอโทษนะชานยอล” หลังจากที่แบคฮยอนเดินออกไปแล้ว บรรยากาหวานฉ่ำในช่วงเวลาสั้นๆ ก็มลายหายไปหมด...เพราะไอ้เด็กเปรตนี่แท้ๆ...

     

                “นั่นมันสิ่งที่ฉันทำประจำ...ฉันไม่ถือว่ามัน...”

                “แต่ตอนนี้พี่แบคฮยอนเป็นแฟนผมแล้ว พี่น่าจะเข้าใจสถานะตัวเองซักทีว่าไม่มีสิทธิ์”

                “แล้วยังไงล่ะ...ถึงจะไม่มีสิทธิ์...แต่ก็ได้ทำอะไรๆ มากกว่าที่แกทำอยู่แล้ว” พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า...ใช่...ถึงมันจะได้หัวใจแบคฮยอนไป...แต่ชานยอลจะต้องเหนือกว่า

                “มันก็ไม่แน่นะ...บางที...วันสำคัญที่กำลังจะถึงนี้...ผมอาจจะได้ทำอะไรที่มันมากกว่าที่พี่ได้ทำก็ได้นะครับ...”

                “แกจะทำอะไร!” ตวาดออกไปด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อคนที่ทำหน้าตายียวนในทันที...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวแบคฮยอน!

                “ทำอะไรดีล่ะ?...วันสำคัญของพี่...”

                “แก...”

                “ฮะๆ...ผมไม่เลวขนาดทำอะไรเกินเลยกับพี่แบคฮยอนหรอกนะครับ”
                “...”

                “แค่อยากจะแสดงให้พี่รู้ถึงความสำคัญของตัวเอง”

                “...”

                “คอยดูแล้วกันว่าวันสำคัญของพี่...พี่จะยังสำคัญอยู่รึเปล่า...” เซฮุนเหยียดยิ้มราวกับราชสีห์ที่ได้รับชัยชนะ...ถึงจะแค่เบื้องต้นในวันนี้...แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีในวันหน้า เซฮุนปัดข้อมือหนาของชานยอลออกอยากแรงก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากห้องอย่างกวนประสาท...เอี้ยวคอกลับมาทิ้งประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินยิ้มร่าอย่างมีความสุขออกไป

              “...สำหรับวันนี้...

     

     

     

     

              ผ ม ช น ะ 

     

                โครม!

     

                โต๊ะเรียนในคลาสกระจัดกระจายไม่มีทิศทางด้วยน้ำมือของคนอารมณ์ร้อนในห้อง เก้าอี้นั่งอย่างดีถูกชานยอลยกขึ้นมาเหนือหัวแล้วเหวี่ยงไปยังประตูที่เซฮุนเดินจากไปแล้ว

             

              ถ้าไม่ติดว่ากลัวแบคฮยอนจะเกลียด

              สาบานเลยว่าไอ้สารเลวเซฮุนนั่น...

     

              ตาย คา ตีน ชานยอลแน่ๆ!

                 


                 "
    ฮึก...ฮื่อ
    !...” เสียงหวานครางในลำคออย่างช่วยไม่ได้ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกแฟนหนุ่มขี้หึงพุ่งเข้าครอบครองริมฝีปากอวบอิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือเรียวเล็กออกแรงผลักอกกว้างออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ด้วยความโชคร้ายที่ดันเกิดมานอกจากจะมีร่างกายที่บอบบางแล้ว เรี่ยวแรงตามประสาผู้ชายที่ควรจะมีก็เล็กน้อยตามไปด้วย ที่ทำได้ก็แค่...ปล่อยให้คนขี้หวงรังแกจนกว่าจะพอใจ

                ฟันคมกัดฉับลงที่ริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กเพื่อที่จะเบิกทางเข้าไปลิ้มรสจูบที่แสนหวาน ทำเอาคนถูกกระทำถึงกับต้องยู่หน้าด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นเซฮุนก็ยังคงบรรจงมอบจูบแล้วจูบเล่าจนหนำใจ

                “เจ็บนะเซฮุน...” ทันทีที่เป็นอิสระจากการทำโทษ คนตัวเล็กก็ต้องเอ็ดแฟนหนุ่มด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ...ทั้งเจ็บ ทั้งอาย เพราะเซฮุนเล่นจูบเขาหน้าคณะ คนอยู่เยอะจะตาย

                “ทีหลังจะทำอะไรพี่ต้องระวังหน่อย ผมอนุญาติให้พี่กอดหมอนั่นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้มันจูบพี่ได้เข้าใจไหม?”

                “พูดจาไม่เพราะเลยเซฮุน เรียกชานยอลว่า...”

                “ผมไม่เคารพมัน!” เซฮุนประกาศกร้าวด้วยความลืมตัว ทำเอาคนที่อยู่ระแวกนั้นถึงกับสะดุ้งขนลุกกันไปเป็นแถบ แม้กระทั่ง...รุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้ด้วย

                “ขะ ขอโทษครับ...ผมไม่ได้ตั้งใจ” กล่าวขอโทษที่เผลอทำตัวไม่น่ารักออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนลงพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกผิด แบคฮยอนเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ไปให้แฟนหนุ่มรุ่นน้อง ถึงเซฮุนจะเป็นเด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจแค่ไหน แต่กับแบคฮยอนแล้ว เซฮุนก็เหมือนกับเด็กน้อยน่ารักที่กลัวเกรงพี่ชายเป็นอย่างมาก...แค่ไม่รวมเวลาที่เซฮุนทำตัวรุ่มร่ามน่ะนะ

               

                “เฮ้ยๆ ไอ้ฮุนพาแฟนมาเปิดตัวเว่ยยยยยย!” เสียงเฮฮาดังลั่นโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ของคณะวิศวะฯ ทำเอาคนถูกพามาด้วยต้องก้มหน้างุดๆ เพื่อปกปิดความเขินอาย

     

              ...ที่พามาคณะก็เพราะจะพามาเปิดตัวงั้นเหรอ?....

     

              ...เจ้าเด็กบ้า!...

     

              “เจ้าจอร์ดดดดดดดดด แฟนแม่งโคตรน่ารักอ่ะ”

              “พี่ไปหลงอะไรไอ้หน้าเหียกอย่างฮุนได้ครับพี่น่ารัก”

              “พี่จิ้มลิ้มมากเลย แก้มงี้แดงน่าฟัดเชียว!

              “ปากพี่ก็น่าจุ๊บนะครับ ดูสิชมพูระเรื่อเลย”

               

                “เฮ้ยทะลึ่งแล้วไอ้พวกเวร! กูพามาเปิดตัวไม่ได้พามาให้มึงแทะโลมแฟนกู” เซฮุนถึงกับควันออกหูเมื่อถูกเพื่อนๆ จอมกวนเอ่ยแซวแบคฮยอนอย่างไม่หยุดหย่อน เล่นเอาหวานใจของเขาถึงกับทำตัวไม่ถูก ก้มหน้าชิดอกจนแทบจะทะลุเขาไปได้อยู่แล้ว ทั้งยังหน้าแดงลามไปถึงใบหูอีกด้วย

     

              ...จุ้บ...

     

                “เขินน่ารักจังครับ” กระซิบเสียงหวานใส่ข้างหูคนขี้อายหลังจากขโมยหอมแก้มต่อหน้าเพื่อนๆ

                “ซะ เซฮุน!” ถลึงตาคาดโทษเซฮุนอย่างเอาเรื่อง โทษฐานทำตัวหน้าอายในที่สาธารณะอีกแล้ว พอหันไปมองกลุ่มเพื่อนของเซฮุนก็แทบลมจับ ทุกคนส่งสายตาหยาดเยิ้มเชิงล้อเลียนมาให้กันยกใหญ่

              “เห็นหัวฉันบ้างก็ดีนะไอ้เด็กเปรต...”

                “อ้าวเฮีย! โทษๆ ผมไม่เห็นว่าเฮียนั่งอยู่ด้วย” เบือนสายตามองไปยังเจ้าของเสียงทุ้มที่ฟังดูแล้วน่าเกรงขามก็พบกับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าคนๆ นี้หล่อกว่าแฟนตัวเองเสียอีก

                “อ่า...คนนี้ชื่อพี่คริสครับอยู่ปีสี่ แล้วนี่ก็พี่แบคฮยอนครับพี่ แฟนที่ผมชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆ” เซฮุนเอ่ยแนะนำให้รุ่นพี่ที่เคารพกับคนรักได้รู้จักกันไว้

                “สวัสดีครับ” แบคฮยอนโค้งให้คริสตามมารยาทก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบเข้ากับสายตาคมกริบที่อีกฝ่ายส่งมาให้...รู้สึกขนลุกอย่างแปลกประหลาด...

                “เซฮุน อาจารย์คิมเรียกกลุ่มนายเข้าไปคุยเรื่องโปรเจค ท่าทางจะมีปัญหาน่ะ” ยังไม่ทันได้แนะนำให้รู้จักมักจี่กันดี จู่ๆ เสียงหวานน่าฟังของใครบางคนก็เรียกเซฮุนให้เข้าไปคุยเรื่องโปรเจค

                ต้นแขนแกร่งของเซฮุนถูกใครบางคนสอดมือเข้ามาเกี่ยวไว้กอดแนบอกกับตัวเองแน่น รอยยิ้มแสนสวยปรากฏขึ้นบนใบหน้าผู้มาใหม่

     

              สวย

              สวยกว่าแบคฮยอนเสียอีก

     

                “อ่า...พี่ลู่หาน”

                “ทำอะไรกันอยู่น่ะเด็กๆ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

                “ไอ้ฮุนพาแฟนมาเปิดตัวครับพี่ลู่หาน” หนึ่งในบรรดาเพื่อนเซฮุนออกปากตอบไปพร้อมกับยกยิ้มล้อเลียนไปมาที่ตนเอง ดวงตาคมกริบตวัดมองที่แบคฮยอนพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

                “แฟน?”

                “ครับ นี่พี่แบคฮยอนคนที่ผมพูดถึงบ่อยๆ”

                “อ่อ...” ลู่หานดูจะหน้าเสียไปในถนัดตาเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร แต่กระนั้นแล้วก็ยังคงกอดแขนเซฮุนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังดูเหมือนจะกอดแน่นมากขึ้นด้วย

                “เป็นไงครับ แฟนผมน่ารักไหมพี่ลู่หาน” เซฮุนเอ่ยถามลู่หานพลางหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนที่เขินอยู่แล้วก็น่าแดงขึ้นไปอีก แต่หารู้ไม่ว่าในใจของแบคฮยอนกำลังปั่นปวนไปหมด

                “อือ...” ลู่หานตอบกลับมาสั้นๆ แม้จะไม่มีใครสังเกตเห็นในความผิดปกติ แต่แบคฮยอนเห็น น้ำเสียงเรียบนิ่งที่เหมือนกับไม่อยากจะตอบ บวกกับดวงตาที่จ้องแบคฮยอนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

     

              ...แค่นี้แบคฮยอนก็พอจะเดาอะไรออกแล้ว...

     

                “ไปกันเถอะเซฮุน เดี๋ยวไปช้าอาจารย์จะว่าเอาได้นะ” เจ้าตัวมุ่ยหน้าหงุดหงิดทันทีที่ได้รับข่าว พร้อมกับออกปากเรียกเพื่อนๆ สี่คนที่นั่งส่งสายตาแพรวพราวให้แฟนตัวเองรีบๆ เข้าไปคุยงาน

                “ขอโทษทีนะพี่แบคฮยอน ยังไงพี่ก็อยู่ทำความรู้จักกับพี่คริสไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวผมรีบกลับมานะ” ว่าแล้วก็ออกแรงผลักร่างบางให้ลงไปนั่งข้างกับรุ่นพี่ที่แสนไว้ใจก่อนจะรีบวิ่งเข้าตึกไปพร้อมกับเพื่อนๆ

                และถ้ามองไม่เห็น เหมือนลู่หานจะแอบหันหลังมาแสยะยิ้มให้แบคฮยอนด้วยหนึ่งครั้ง ก่อนจะกอดแขนเอาหัวพิงไหล่เซฮุนเดินไปทิ้งให้เขาอยู่กับคริสเพียงแค่สองคน

     

                วินาทีที่ไหล่ตัวเองสัมผัสกับคนข้างกายเบาๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอย่างฉุดไม่อยู่ เพราะแบคฮยอนรู้สึกกลัว กลัวคนข้างๆ เป็นอย่างมากทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไร แต่ความรู้สึกในใจคือบอกให้ลุกไปนั่งอีกฝั่งจะดีกว่า แต่ลุกได้ไม่ทันไรก็ถูกมือหนาจับไว้

                “จะไปไหน”

                “เอ่อ...ไปนั่งฝั่งตรงข้ามครับ”

                “ไปทำไม”

                “คะ คือ...” น้ำเสียงแข็งกระด้างบวกกับความรู้สึกอึดอัดทำให้แบคฮยอนพูดไม่ออก ลางสังหรแบคฮยอนไม่ผิดแน่...คริสไม่ชอบเขา

                “นั่งนี่แหล่ะ เซฮุนบอกให้ทำความรู้จักกันไม่ใช่หรอ?” ว่าแล้วก็คว้าเอวบางแฟนของรุ่นน้องขึ้นมานั่งบนตักตัวเองอย่างรวดเร็ว ทำเอาแบคฮยอนตกใจเผลอตวาดออกไปด้วยความกลัว

                “พี่คริสครับ!” ร่างเล็กพยายามดิ้นหนีหากแต่แรงที่มีนั้นก็น้อยเกินไป หันซ้ายหันขวาจะมองหาใครซักคนช่วยก็คงยาก โต๊ะที่เขากับคริสนั่งอยู่ดันมีต้นไม้ใหญ่บังโต๊ะไว้ ทั้งยังอยู่ไกลผู้คนมากเสียด้วย

                “อ้ะ!” ตาเรียวเล็กเบิกกว้างทันทีที่ถูกมือหยาบกร้านสะกิดเข้าที่ยอดอกของตน พยายามยกมือปัดป้องพัลวันพร้อมกับส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หากแต่คนเจ้าเล่ห์ก็เอ่ยดักขึ้นมาก่อน

                “ร้องสิ...ร้องให้คนช่วย ให้คนเข้าใจผิดเยอะๆ...รวมถึงแฟนนายด้วย” ราวกับถูกตบหน้า จะตะโกนขอร้องใครก็คงทำไม่ได้แล้ว ถ้าเซฮุนเข้าใจผิด...แบคฮยอนไม่อยากจะคิดเลย

                “ฮ่ะ!” สะดุ้งตัวโยนอีกครั้งเมื่อคริสเปลี่ยนเป้าหมายเป็นสิ่งอ่อนไหวภายในใต้กางเกง ออกแรงลูบคลำอย่างสนุกสนานโดยที่มืออีกข้างก็รวบข้อมือเรียวบางเอาไว้ไม่ให้ขัดขืน หัวใจดวงน้อยรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีด ความเจ็บปวดและความกลัวบวกกับความอับอายผสมปนเปกันไปหมด

               

                คริสบีบแขนแบคฮยอนอย่างแรงเมื่อเหยื่อความสนุกของเขากำลังหาทางรอดอย่างบ้าคลั่งจนเขาหงุดหงิด เปลี่ยนท่าทางเป็นรวบกอดให้แขนเล็กพับอยู่ที่ตรงหน้าอกตัวเองจะได้ทุบตีหรือขัดขืนไม่ได้อีก

               

                ริมฝีปากหนาจัดการกดจูบลงไปที่ซอกคอแสนหอมหวานเพื่อสร้างรอยประทับเอาไว้ แบคฮยอนที่กำลังกลัวกับเหตุการณ์นี้ถึงกับน้ำตาร่วง หยาดน้ำใสไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่เมื่อคริสพยายามดึงเสื้อเขาออกจากกางเกงเพื่อที่จะสอดมือเข้าไปสัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม

               

                แบคฮยอนใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่ตนพอมีจิกเข้าไปที่ใบหน้าของคริสเพื่อหาทางรอด คริสส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บก่อนจะผลักร่างบางให้หลุดออกจากตัว แบคฮยอนที่เป็นอิสระแล้วจึงรีบวิ่งไปยังรถของคนรักแล้วกดโทรหาเซฮุนทันที โชคยังเข้าข้างแบคฮยอนอยู่บ้างที่เซฮุนคุยกับอาจารย์เสร็จพอดีจึงทำให้แบคฮยอนรอดตัวไปกับเหตุการณ์นี้

     

              ...เหตุการณ์ที่บยอนแบคฮยอนไม่อยากจดจำ...
     

     



     

                อึดอัดเกินไปแล้ว...สารถีหนุ่มสุดหล่อที่กำลังขับพาหนะสุดหรูไปส่งแฟนตัวเล็กที่คณะเดิมยู่หน้าหงุดหงิดกับบรรยากาศในรถ ตั้งแต่ที่เขารีบกุลีกุจรไปหาแฟนสุดที่รักที่บอกว่ารออยู่ที่รถก็ต้องตกใจกับดวงตาแดงก่ำราวกับเพิ่งร้องไห้ไปเมื่อครู่ เซฮุนเอ่ยปากถามแล้วแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบ เขาจึงไม่คิดจะเซ้าซี้อะไร เพราะรู้ดีว่าแบคฮยอนนั้นถ้าคิดจะไม่พูดแล้ว ต่อให้คาดคั้นมากแค่ไหนก็ไม่ยอมพูด

                แต่ไม่ใช่จะปั้นหน้านิ่งใส่กันในขณะที่อยู่กันสองต่อสองแบบนี้นี่นา...

                “พี่แบคฮยอนครับ”

                “...”

                “พี่แบคฮยอน...”

                “...”

                “...ที่รัก...”

                “เฮือก!” ทันทีที่ฝ่ามือหนาสัมผัสเข้าที่ไหล่บาง คนตัวเล็กที่กำลังเหม่ออยู่ถึงกับสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์จนเผลอสะบัดตัวหนีเซฮุน

                “พะ...พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ถึงกับชะงักค้างไปทันทีกับปฏิกิริยาตอบโต้นั้น

                “ขะ ขอโทษนะเซฮุน คือพี่กำลังคิดอะไรเพลินๆ น่ะ” แบคฮยอนได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้เซฮุนก่อนจะหันหน้ากลับไปมองข้างทางอีกครั้ง เซฮุนฮึดฮัดกับท่าทางของร่างบางเล็กน้อย ถ้าเดาไม่ผิด รุ่นพี่หน้าหวานคนนี้คงจะมีเรื่องกังวลใจอยู่เป็นแน่ แต่เซฮุนก็ไม่ชอบที่แบคฮยอนมักจะเงียบแล้วเก็บความทุกข์ไว้คนเดียวแบบนี้

                “ผมกำลังจะโกรธพี่นะ”

                “หืม?” รีบหันหน้ากลับมามองเจ้าของเสียงหงุดหงิดเมื่อครู่ทันที แบคฮยอนเลิกคิ้วพลางเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย

                “พี่เมินผมอีกแล้ว” ว่าออกไปโดยที่ดวงตายังคงจ้องเขม็งอย่างไม่ลดละ

                “พี่ไม่ได้เมินนะ พี่แค่...”

                “คิดถึงแต่คนอื่นจนไม่สนใจผม!

                “เซฮุนไม่เอาน่า...”

                “...”

                “พี่ต้องง้อนายหรอ?”

                “...” สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบงัน เซฮุนเลือกที่จะเบือนหน้ากลับไปมองทางข้างหน้าโดยที่หัวคิ้วยังคงขมวดชนกัน

                “โอเคๆ ง้อก็ได้” เมื่อเห็นว่าโดนงอนจริงๆ เข้าแล้ว แบคฮยอนเลยขยับตัวเอี้ยวไปทางฝั่งคนขับเล็กน้อยก่อนจะหอมแก้มคนขี้งอนไปเต็มแรง

     

              ฟอดดดดดด~ ไม่หายงอนก็ให้มันรู้ไป!

     

                “แก้มนุ่มจัง ขอพี่หอมอีกข้างได้ไหม?” พูดเสียงติดตลกแล้วรอดูปฏิกิริยาคนข้างๆ เจ้าตัวเบะปากเหมือนเด็กเล็กน้อยก่อนจะชะลอความเร็วรถแล้วจอดพอดีที่หน้าคณะของแบคฮยอนในที่สุด

                เซฮุนหันมามองหน้าแบคฮยอนครู่หนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นหันแก้มอีกข้างให้แบคฮยอน บ่นอุบอิบก่อนจะพองแก้มให้อีกฝ่ายหอมราวกับตัวเองเป็นเด็กตัวน้อยๆ

     

              “หอมเร็วๆ แรงๆ เลยครับ ไม่งั้นผมงอนนานแน่ๆ”

     

                “แล้วตกลงพี่เป็นอะไรบอกผมได้ไหม?”

                “เปล่าหรอกก็แค่เครียดเรื่องเรียน”

                “ผมไม่เชื่อครับ”

                “เซฮุนนา”

                “เราเป็นแฟนกันนะ ถ้าพี่มีปัญหาอะไรแล้วไม่บอกผมแบบนี้เราจะเรียกว่าแฟนได้ไง? อีกอย่างเราก็ไม่ใช่แค่แฟน แต่เราเป็นตั้งแฟนเลยนะครับ”

                “...” แบคฮยอนได้แต่เม้มปากแน่น ชั่งใจว่าจะบอกเซฮุนดีไหมเรื่องคริส แต่ถ้าหากเซฮุนไม่เชื่อล่ะ? เพราะเซฮุนบอกเองว่าคริสคือรุ่นพี่ที่เขาเชื่อใจมากที่สุด แล้วระหว่างคริสกับแบคฮยอนล่ะ เซฮุนคงจะเลือกเชื่อรุ่นพี่ที่รักกันนานมากกว่าเชื่อแฟนที่เพิ่งคบกันได้เดือนเดียวอยู่แล้ว

                “ถ้าพี่ไม่บอกผมก็ไม่เป็นไร แต่เอาเป็นว่าวันนี้พี่ไปนอนกับผมโอเคนะ? พอดีเลยศุกร์เสาร์อาทิตย์”

                “อ่า...ชานยอลคง..”

                “ชานยอลก็คงเข้าใจ พี่กับผมเป็นแฟนกันนะ เขาเป็นแค่เพื่อน เขาไม่มีสิทธิ์โกรธในเรื่องส่วนตัวของพี่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพี่ต้องไปนอนที่คอนโดผม”

                “อะ อือ”

                “ดีมากครับคนดี”

               

              จุ้บ~ พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปมอบจุมพิตบางเบาแต่แฝงไปด้วยความหอมหวานให้คนตัวเล็ก เรียกสีแดงระเรื่อปรากฏบนแก้มใสอย่างช่วยไม่ได้

                รถยนต์คันหรูเปลี่ยนเป้าหมายจากที่จะมาส่งหวานใจที่คณะกลายเป็นออกตัวเลยคณะแล้วมุ่งหน้าไปสู่คอนโดเจ้าของรถแทน โดยที่ไม่รู้เลยว่าใครบางคนต้องยืนกำหมัดมองคนสองคนพลอดรักกันในรถหน้าคณะอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว...

               

     

     

                “ทำรายงานเสร็จหรือยังครับ นี่จะเที่ยงคืนแล้วนะ”

                “เสร็จพอดีเลย”

                “แล้วนี่เป็นอะไรอีกครับ สีหน้าพี่ดูไม่ค่อยดีเลยนะ ปวดหัวหรอ” เอื้อมมือหนาของตัวเองแตะเบาๆ ที่หน้าผากมน แบคฮยอนเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเซฮุนแล้วก็อดยิ้มดีใจไม่ได้ที่มีคนเป็นห่วงตัวเองมากขนาดนี้ มือบางยกขึ้นจับฝ่ามือหนาของคนตรงหน้าเปลี่ยนมาแนบแก้มเนียนนุ่มของตัวเองแทน

                “ไม่ได้เป็นอะไร มีเซฮุนดูแลพี่ขนาดนี้ก็ไม่กล้าป่วยแล้ว”

                “ปากหวานจริงครับ ขอชิมได้ไหม”

                “ง่า...อย่ามาเล่นมุขนี้นะ พอเลยไม่ยุ่งด้วยแล้ว” สะบัดหน้าอย่างงอนๆ ที่ถูกเด็กเจ้าเล่ห์จ้องจะเอาเปรียบเขาอีกแล้ว

                “ว่าแต่ไม่มีใครโทรมาหาพี่หรอ”

                “!” เซฮุนหน้าตึงไปทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น มือถือของแบคฮยอนเซฮุนขอเอามาเก็บไว้กับตัวเมื่อราวๆ หลายชั่วโมงก่อน โดยอ้างว่าคนตัวเล็กจะได้มีสมาธิอยู่กับงาน

                “ถ้าพี่หมายถึงชานยอลล่ะก็ไม่ครับ”

                “พี่ไม่ได้หมายความว่า...”

                “ไปอาบน้ำดีกว่านะครับ ผมรอที่จะได้นอนกอดพี่แทบไม่ไหวแล้วนะ” เปลี่ยนเรื่องแทบจะทันที เซฮุนออกแรงดันหลังแบคฮยอนให้เดินเข้าห้องน้ำไป หอมแก้มนิ่มอีกครั้ง ก่อนจะละตัวเดินออกมายังระเบียงห้อง

                โทรศัพท์มือถือของคนตัวเล็กถูกหยิบขึ้นมาดู มิสคอลร้อยกว่าสายที่โทรเข้ามาทำให้เซฮุนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

     

                ‘169 miss call Chanyeol’

     

                ยกยิ้มได้ไม่นานโทรศัพท์เครื่องหรูก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เซฮุนไม่ได้ปล่อยทิ้งไว้เหมือนรอบก่อนๆ เขาหัวเราะน้อยๆ สไลด์หน้าจอตอบรับช้าๆ

                “พี่แบคฮยอนอาบน้ำอยู่”

                [!]

                “เป็นอะไรไปครับ จำเสียงผมไม่ได้หรอ?”

                [กะ แก!]

                “มีธุระอะไรกับแฟนผมหรือเปล่า ถ้ามีฝากบอกไว้ได้นะครับ แต่ถ้าจะคุยกับเจ้าของเครื่อง ขอบอกเลยว่าไม่!

                [ทำไมแบคฮยอนไม่กลับหอ]

                “ก็บอกว่ามานอนกับผมไง” จงใจยั่วอีกคนโดยย้ำคำว่า นอน เสียงดังหนักแน่น

                [อย่าทำอะไรแบคฮยอนนะไอ้สารเลว]

                “ทำอะไรครับ? ถ้าพี่หมายถึงทำร้ายร่างกายน่ะผมไม่ทำคนที่ผมรักอยู่แล้ว แต่ถ้าทำอย่างอื่นมันก็ไม่แน่ ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคนรักของผมเขาจะยอมหรืออยากเองหรือเปล่า”

                [ไอ้สัตว์นรก!]

                “พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ ทำตัวเป็นหมาบ้าไปได้ ของตัวเองหรือเปล่าก็ไม่ใช่”

                [แก!]

                “อ้อ...สามวันนี้คงไม่ต้องโทรมาตามนะครับพี่แบคฮยอนบอกว่าอยากจะนอนกอดผมให้หายใคร่

                [!]

                “เข้าใจสถานะตัวเองได้แล้วนะครับ ว่าตัวเองมันก็เป็นได้แค่เพื่อน

     

              ติ้ด!~

     

              ยั่วอารมณ์อีกฝ่ายได้เซฮุนก็กดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที รอยยิ้มดั่งซาตานใจร้ายผุดขึ้นบนมุมปาก เสียงหัวเราะน้อยๆ ในลำคอบ่งบอกได้อย่างดีว่าเขานั้นกำลังมีความสุขแค่ไหน

     

              สุขที่ได้อยู่ใกล้คนรัก และสุขที่ได้ทำให้ใครบางคนต้องร้อนรนราวกับโดนน้ำร้อนสาด

     

                “มายืนหัวเราะตากน้ำค้างนอกระเบียงทำไมเซฮุน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากด้านหลังพร้อมก็ท่อนแขนเรียวเล็กโอบกอดจากทางด้านหลัง เซฮุนยิ้มอีกครั้งหากแต่คราวนี้เป็นรอยยิ้มของเทพบุตรที่ยิ้มให้คนรักอย่างจริงใจ หมุนตัวกลับมาหาคนน่ารักแล้วอุ้มร่างบางเดินเข้าห้องทันที

                “อ้ะ...ปล่อยพี่ลงเถอะเซฮุน พี่เดินเองได้”

                “ใครใช้ให้พี่ใส่แค่เสื้อคลุมอาบน้ำออกมาล่ะ ไม่ปล้ำพี่ตั้งแต่ระเบียงก็ดีแค่ไหนแล้วครับ”

                “เซฮุนทะลึ่ง!

                “ก็แล้วใครยั่วล่ะ”

                “ไม่ได้ยั่วนะ แต่ว่าลืมไปเลยว่าไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน”

                “งั้นใส่ชุดผมก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมไปหามาให้”

                “ไม่เป็นไร ใส่ชุดคลุมอาบน้ำนอนก็ได้ ยังไงพี่ก็ไว้ใจเซฮุนอยู่แล้ว” แบคฮยอนย้ำชัดในความหมาย เซฮุนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อแบคฮยอนเลือกที่จะพูดห้ามเรื่องอย่างว่าในเชิงนี้

                “อ่า...โอเคครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรพี่จนกว่าพี่จะพร้อม”

                “อืม”

                “แต่คืนนี้นอนกอดได้ใช่ไหม?”

                “ให้กอดถึงเช้าเลย...คิก~

     

               

     

     

                “โธ่เว่ย!!!!!!!!!!!!!” หลังจากที่ถูกตัดสายไปแล้วโดนปิดเครื่องใส่ ชานยอลที่เป็นดั่งไฟอยู่แล้วก็เหมือนกับถูกราดด้วยเชื้อเพลิงอีกครั้ง ชานยอลปาข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในห้องนั่งเล่น เศษแจกันและของจุกจิกต่างๆ เกลื่อนพื้นไปหมด แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความโกรธในจิตใจตัวเองได้

               

              ชานยอลกำลังโกรธ...

              โกรธ...ที่ตัวเล็กจูบกับคนอื่นในรถที่หน้าคณะ

              โกรธ...ที่ตัวเล็กไม่ยอมลงจากรถแล้วกลับด้วยกัน

              โกรธ...ที่ตัวเล็กไม่รับสาย

              โกรธ...ที่คนรับสายคือโอเซฮุน

              โกรธ...ที่ถูกอีกฝ่ายพูดยั่ว

     

              แต่ทั้งหมดก็ไม่เท่า...

     

                โกรธที่ตัวเล็กลืมนัดสำคัญ!

     

                “นายไม่ได้แค่ทิ้งฉันไปแบคฮยอน...นายทิ้งแม้กระทั่งคำสัญญาที่ว่านายจะไม่ลืมฉัน” 

    -----------------------------------------------------------------------------------

    น้องหมาขอเห่า : ครบแล้วค่ะที่รัก 100%

    ส่วยเรื่องตอน
     Number Two ที่บอกว่ามี NC 

    ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะบรรยายออกมาในรูปแบบไหนดีเหมือนเดิม

    รูปแบบที่ไม่ต้องแปะลิ้ง (ไม่บรรยายละเอียด) กับแบบแปะลิ้งโหลด (บรรยายทุกสัมผัส)

     

     

    G Minor!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×