คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 14
Chapter 14
Baekhyun Part
...แม่ครับมารับผมไปอยู่ด้วยที...
ประโยคเดิมๆ ที่ดังขึ้นมาซ้ำๆ ในใจมันช่างตอกย้ำความเจ็บปวดของผมเหลือเกิน เมื่อคืนผมเผลอทำอะไรลงไป ทั้งๆ ที่ผมควรจะปฏิเสธสัมผัสที่น่ารังเกียจเหล่านั้น แต่ร่างกายของผมมันกลับตอบสนองความต้องการด้านมืด...ผมอยากไปอยู่กับแม่ ไปอยู่บนสวรรค์กับแม่...แต่ร่างกายและจิตใจที่สกปรกของผมอย่างมากคงได้อยู่ในนรกเท่านั้นล่ะ
นรก...ที่มียมบาลชื่อว่า ‘ปาร์คชานยอล’
“จะนอนร้องไห้อีกนานไหม?” เสียงทุ้มของคนที่ผมนอนหันหลังให้ดังออกมาด้วยน้ำเสียงที่ผมฟังดูก็รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิด...ผมเองไม่ใช่หรอที่ควรเป็นคนหงุดหงิด?... ผมยกมือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะข่มเสียงตัวเองออกไป
“ฉันไม่ได้ร้องไห้”
“เหอะ! ทำเป็นปากเก่ง”
“ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
“ห้องนาย? ลืมไปแล้วหรือไงว่านี่มันห้องฉัน” เจ้าของห้องตัวจริงเอ่ยอย่างเย้ยหยันออกมาทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช่ห้องของผมจริงๆ
“...งั้นฉันออกไปเอง...อ๊ะ!” ทันทีที่ผมลุกขึ้นนั่งก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด...ความเจ็บที่แล่นเข้ามาที่สะโพกแทบจะทำให้ผมร้องไห้อีกครั้ง
“หึ…นายคงจะไม่รู้สินะว่าการมี ‘ครั้งแรก’ น่ะ มันไม่ควรจะลุกขึ้นเร็วๆ ถ้าหากเราเพิ่งจะ ‘เสร็จ’ โดยเฉพาะเสร็จรอบที่ ‘ห้า’ ด้วยเนี่ย...”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!” ผมยกมือขึ้นปิดหูตัวเองอย่างรวดเร็ว ผมไม่ต้องการได้ยินอะไรที่น่ารังเกียจแบบนั้นอีกแล้ว แค่นี้ผมก็เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจแล้ว ทำไมปาร์คชานยอลจะต้องมาตอกย้ำผมด้วย!
“ทำไมล่ะ? ยอมรับความจริงไม่ได้หรอ? ไม่เอาน่าเมียจ๋า...”
“ใครเป็นเมียนาย!” ผมตวาดลั่นเมื่อได้ยินคำทุเรศที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้า
“แล้วใครล่ะที่เมื่อคืนครางซะลั่นห้อง ใครล่ะร้องให้ทำแรงๆ เร็วๆ ใครล่ะที่...”
เพี๊ยะ!~ เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังขึ้นอย่างรุนแรง...ผมควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว คนตัวสูงนี่พูดจาทำร้ายผมมากเกินไป...
“...ฉัน...”
“ฉันคงลืมไปว่านายมันเป็นพวกซาดิสม์”
“มะ ไม่ใช่นะ คือฉัน...”
“ไปอาบน้ำ!”
“อะ โอ๊ยยยยยยยย!” จู่ๆ ชานยอลก็จับผมดึงลงจากเตียงแล้วลากไปยังห้องน้ำโดยที่ผมได้แต่ล้มลุกคลุกคลานตามไป แวบนึงผมมองเห็นรอยเลือดที่เปรอะอยู่บนผ้าปูที่นอนด้วย...ร่างกายของผม...สกปรกมากแล้วจริงๆ
ซ่าาาาาาา~ ร่างกายเปลือยเปล่าของเราทั้งคู่อยู่ใต้ฝักบัวที่มีน้ำมากมายหลั่งไหลออกมา แต่มีแค่ผมเท่านั้นที่ได้รับน้ำเต็มๆ อยู่คนเดียว
“แค่กๆ นายจะทำอะไร แค่กๆ”
“อาบน้ำให้ไง!”
“อย่า...แค่กๆ น้ำมันเข้าตาเข้าจมูกฉันหมดแล้...แค่กๆ”
“ก็ชอบไม่ใช้หรือไงความรุนแรงน่ะ!”
“โอ้ยยยยยยย” เสียงร้องของผมดังออกมาอีกรอบเมื่อชานยอลเริ่มใช้มือมาขัดๆ ถูๆ ที่ร่างกายผมอย่างแรงจนผิวขาวๆ ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกไปหมด...
“จะ เจ็บ ฮึก...อย่าทำฉันเลยนะชานยอล ฮึก...”
“ไม่! เพราะนายชอบความรุนแรงฉันก็จะทำให้!”
“โอ้ยยยยย ฉันแสบไปหมดแล้ว ฮือออออ ชานยอลฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฮึก โอ้ยยยยยย” ความเข้มแข็งของผู้ชายที่มีอยู่ในตัวของผมหายไปหมดเมื่อถูกเจ้าของบ้านที่น่ากลัวนี่ทำร้ายอย่างหนัก...
“!” ...ดูเหมือนชานยอลจะชะงักการกระทำอันป่าเถื่อนลงเมื่อได้ยินคำว่าขอโทษออกจากปากของผม...ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เขาหยุด...
“อาบน้ำซะ ฉันจะเตรียมชุดไว้ให้ แล้วห้ามลงไปไหนจนกว่าฉันจะอนุญาต ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน...” ชานยอลพรูลมหายใจยาวครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำ
ผมทิ้งตัวลงกับพื้นทันที น้ำตามากมายก็หลั่งไหลออกมาแข่งกับสายน้ำเหมือนกัน...ลู่หานเป็นอะไร? ทำไมชานยอลต้องทำกับผมรุนแรงแบบนี้? ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเลวร้ายนะ...ผมไม่ได้ตั้งใจ...
“แม่ครับช่วยผมด้วย...ฮึก”
Luhan Part
“อืม...” ปวดหัวจังแฮะ...
“ตื่นแล้วหรอพี่ลู่หาน!”
“หื้ม...” ผมเลิกตาขึ้นมองตามเสียงทุ้มที่ดังเข้ามากระทบโสตประสาทของผม...ภาพที่ผมโฟกัสได้ตอนนี้คือผู้ชายผิวขาวหน้าตาดีคนนึงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ตัวผม ใบหน้าที่ดูดีเกินคนทั่วไปทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้น...หล่อมาก...แวบนึงผมรู้สุกถึงความคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นใบหน้าคมนี้ที่ไหนมาก่อน...แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก เขาเอื้อมมือมาจับไหล่ผมอย่างถือวิสาสะ...ใครน่ะ?
“คุณ...เป็นใครครับ?” ผมถามออกไปด้วยความสงสัย แต่ความสงสัยนั้นกลับทำให้คนตรงหน้าผมถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที...
“ฮ้ะ...บ้าน่ะ พี่จำผมไม่ได้หรอ?” ผมเพ่งมองหน้าผู้ชายคนนี้อีกทีอย่างจริงจังแต่...ยังไงก็นึกไม่ออก มันรับรู้ได้แค่ว่าผมอาจจะเคยเห็นหน้าเขาคนนี้มาก่อน แล้วยังไงล่ะ? แค่คุ้น...เขาเป็นใครกันนะ
“ผม....จำไม่ได้จริงๆ ครับ ผมเป็นพี่ชายคุณงั้นหรอ?”
“เฮ้อออออ หมอบอกว่าเพราะศรีษะพี่กระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ดังนั้นพี่อาจจะไม่สามารถจำความได้ทั้งหมด...แต่พี่ลืมผมได้ลงคอหรอ...” ชายตรงหน้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แลดูน้อยใจ แววตาคมดูหม่นลงเล็กน้อยราวกับผิดหวังที่ผมจำเขาไม่ได้
“ผมขอโทษ...ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณนะ แต่ผมก็นึกไม่ออก แถมเวลาที่นึกยังรู้สึกปวดหัวนิดๆ ด้วยล่ะ” ผมตอบออกไปตามความจริงเพราะรู้สึกไม่อยากให้คนๆ นี้ต้องมีสีหน้าเศร้าสร้อย...แปลกแฮะ...ทำไมผมถึงได้แคร์ความรู้สึกของเขาจัง
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ต้องพยายามนึกถึงผมอีกแล้ว ตอนนี้พี่รู้เอาไว้แค่ว่าผมคือ ‘โอเซฮุน’ ผู้ชายที่รักพี่หมดใจ...”
“คะ ครับ?” ประโยคแปลกประหลาดในตอนท้ายนั้นทำให้หัวใจของผมเต้นรัว ใบหน้าของผมตอนนี้รู้สึกร้อนผ่าว และพนันได้เลยว่ามันต้องขึ้นสีแน่ๆ -///-
“ถึงผมจะเสียใจที่พี่จำผมไม่ได้เลยก็ตาม แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ ผมจะทำให้พี่จำผมและรักผมคนนี้ให้ได้!”
“...ผมกับคุณเราเป็นคนรักกันหรอครับ?” ผมโพล่งถามออกไปอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้หัวใจดวงน้อยของผมมันกรีดร้องราวกับว่า ‘ถามคำถามตลกแบบนั้นออกไปได้ยังไง?’
“...”
“คุณครับ...” ผมถามออกไปเสียงเบาราวกระซิบเมื่อเห็นว่าเขาเงียบไป...ผมพูดอะไรผิดงั้นหรอ?
“พี่จำใครได้บ้างไหมครับ?”
“อ่อ...จำใครได้บ้างหรอ...ผมชื่อลู่หาน...แม่...แม่ของผมชื่อลู่จิน...โอ๊ยยยยย” จู่ๆ ความเจ็บก็แล่นเข้าที่หัวของผม ผมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ผู้ชายที่ชื่อเซฮุนดูเหมือนจะตกใจไม่น้อย เขาเข้ามาประครองตัวผมไว้ ผมได้ยินเสียงเบาๆ เอ่ยออกมาว่า... ‘ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร’
ทันทีที่ความเจ็บทุเลาลง สมองหน่อยความจำผมก็ถูกกระตุ้นขึ้นโดยฉับพลัน ภาพของคนที่ผมรู้สึกรักและอยากปกป้องก็ฉายขึ้นมาเต็มไปหมด ราวกับว่านั่งดูหนังเรื่องหนึ่งในโรงหนัง...ผู้ชายที่ผมเห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าเขาน่ารัก อย่างดูแล อยากทะนุถนอม อยากใกล้ชิด คนที่ทำร้ายผมมาหลายครั้งแต่ผมก็ยังรู้สึกอยากรู้จักกับเขาอยู่ดี...ผู้ชายคนนี้...
...คนที่ภาพสุดท้ายฉายชัดว่าเขายืนอยู่ตรงบนบันได...
“แบคฮยอน!”
Baekhyun Part
เฮ้อออออออ...ผมนั่งรอชานยอลอยู่ที่เตียงราวๆ สองชั่วโมงได้...ผมไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน แต่ที่รู้คือผมไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานแล้วตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วด้วย ผมหิว!
แต่ติดตรงที่ว่าก่อนออกจากห้องเขาสั่งผมเอาไว้เนี่ยสิว่าห้ามไปไหน...ไม่ใช่ว่าผมกลัวนะ...แต่รูปการแบบนี้ผมคงต้องเชื่อฟังเขา...ผมไม่อยากถูกเขาทำร้ายอีกหรอกนะ
“หิววววว!” ไอ้บ้านี่มันจะลงโทษผมด้วยการงดอาหารอีกหรือไงนะ! แค่เรื่องเมื่อคืนกับเมื่อเช้าผมก็แทบอยากจะเอามีดกรีดข้อมือตัวเองตายอยู่แล้ว แต่ติดอยู่ที่ว่าผมหามีดไม่เจอ!...แล้วผมก็กลัวเจ็บ...
เพราะฉะนั้นผมต้องทน!
……เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากที่ไหนซักแห่ง...ของชานยอลสินะ...ผมควานหาอยู่สักพักก่อนจะพบว่ามันวางไว้อยู่ที่หัวนอน
‘오세훈’ ผมมองไปยังชื่อของคนโทรเข้า คนที่โทรมาคือเซฮุน เสียงโทรศัพท์ดับไปแล้ว แต่ก็ดังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผมช่างใจอยู่สักพักว่าจะรับดีไหมเพราะดูท่าทางเซฮุนคงจะมีธุระสำคัญจริงๆ...
“ฮัลโหล...”
“เฮ้ยไอ้ชานพี่ลู่หานฟื้นแล้วนะเว่ย!”
“!” คำพูดจากปลากสายทำให้ผมถึงกับชะงัก...ลู่หานเป็นยังไงบ้างนะ...
“เฮ้ยไอ้ชานเงียบทำไมวะ ฮัลโหลได้ยินไหม?”
“ละ ลู่หานเป็นยังไงบ้าง...” ไม่รู้ทำไมผมถึงได้ถามคำถามนั้นออกไป ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่อยากจะสนใจเขาเท่าไรนัก แต่ก็เพราะผมเป็นคนทำร้ายเขาล่ะมั้งถึงได้โดนชานยอลทำร้ายกลับแบบนี้
“เอ๊ะ...นี่นายไม่ใช่ไอ้ชานนี่...อ่อคงเป็นคยองซูสินะ ไอ้ชานมันไปไหนล่ะขอฉันพูดกับมันหน่อย”
“ชานยอล...คุณชานยอลไม่รู้ไปไหน”
“อ้าว...งั้นฉันฝากบอกมันด้วยแล้วกันว่าพี่ลู่หานฟื้นแล้ว”
“...แล้วลู่หานไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หัวใจของผมเต้นถี่แรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมได้พูดประโยคแปลกๆ นี้ออกไป...แปลก...ที่ดูเหมือนผมจะใส่ใจคนที่ป่วย...
“เหอะ...เกิดปัญหาใหญ่แล้วล่ะ พี่ลู่หานสมองกระทบกระเทือนแรงเกินไปทำให้ความจำบางส่วนหายไป พี่ลู่หานจำใครไม่ได้เลยแม้แต่ฉัน คนที่พี่ลู่หานจำได้มีอยู่แค่สามคนคือคุณอาแบคคัง คุณน้าลู่จินแล้วก็...”
“...” ผมเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง เหงื่อไคลเริ่มผุดขึ้นมาบ้างประปรายตามใบหน้า คนสุดท้ายที่ลู่หานจำได้จะต้องเป็นคนที่สำคัญกับชีวิตเขามากแน่ๆ ...แต่ใครล่ะ...ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ ที่เหมือนกับว่าจะเป็นข่าวดีและข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน...
“หึ! ไอ้เด็กมีปัญหาแบคฮยอน!”
“พยอนแบคฮยอนนนนนนนน!” ผมสะดุ้งตามเสียงกรีดร้องที่ดูเหมือนจะดังมาจากด้านล่าง เสียงแหลมที่ผมจำได้ขึ้นใจว่าเป็นเสียงของภรรยาใหม่คุณพ่อ...ยัยแม่มด!
ผมกดตัดสายของเซฮุนทิ้งไป ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องลงมามองดูเจ้าของเสียงน่ารำคาญ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงบันไดไปยังขั้นสุดท้ายเพื่อเผชิญหน้ากับคู่อริ สิ่งของบางอย่างที่ค่อนข้างแข็งก็ลอยมากระทบหัวคิ้วของผมอย่างรวดเร็ว
“โอ้ยยยยยยยย!”
“แก! ไอ้ลูกไม่มีแม่ แกมันตัวชิบหายชัดๆ! แกทำอะไรลูกฉัน!”
“นี่! นัง...เฮ้ยยยยยย ช่วยด้วยยย!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาจากปากของผมทันทีที่เห็นยัยแม่มดกำลังถือมีดพกเล่มเล็กๆ วิ่งตรงมาทางผม สิ่งเดียวที่ผมคิดได้ตอนนี้คือ ‘หนี’ เพราะผมไม่มีอาวุธสู้หล่อนเลยสักนิด
“จะไปไหนมานี่! แกทำลูกฉันเจ็บ แกจะต้องเจ็บกว่าร้อยเท่า!”
“อะโอ้ยยยยยยย!” ข้อเท้าของผมถูกดึงลากลงมา เนื้อตัวก็ไถลตามบันได ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและพยายามดิ้นหาทางหนี...ให้ตามสิ! เมื่อคืนไม่น่าถูกชานยอลทำร้ายเลย ไม่อย่างนั้นผมคงมีแรงมากกว่านี้ไปแล้ว!
“อย่านะ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายลูกแกสักหน่อย!”
“ตั้งใจไม่ตั้งใจฉันไม่สน ฉันสนแต่ว่าแกทำลูกฉันบาดเจ็บ และแกต้องชดใช้!”
แคว๊กกกกกก! เสียงมีดกรีดตัดลงเสื้อยืดตัวบางของผมขาดเมื่อหล่อนกำลังจะใช้มีดแทงเข้าที่กลางตัวผม แต่เพราะแรงต้านของผมไว้จัดทำให้มันแค่เฉียดๆ ไปโดนเสื้อเท่านั้น ผมยื้อแย่งมีดอยู่นานก่อนจะใช้กำลังเฮือกสุดท้ายปัดมันออกจนกระเด็นไปไกล
ทั้งผมและยัยแม่มดต่างเหนื่อยหอบ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะหายใจได้ทั่วท้อง ฝ่ามือเรียวเล็กของเธอก็เอื้อมมาบีบคอผมอย่างแรง
“อ๊อออก! ชะ ช่วย...ช่วยด้วย!” ผมที่ตอนนี้แรงไม่มีเหลืออีกแล้วกำลังตะเกียกตะกายหาคนมาช่วย ปาร์คชานยอลอยู่ที่ไหน...
“คะ คุณน้าลู่จิน!” เสียงใครคนหนึ่งตะโกนลั่นออกมา ก่อนที่จะรีบวิ่งมาดึงมือศัตรูของผมออกไป...คยองซู...
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
“โอ๊ยยยยยย!” คยองซูทีวิ่งเข้ามาช่วยถึงกับหน้าหันเมื่อยัยแม่มดนี่ใช้หล้งฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าของคยองซู แหวนเพชรเม็ดโตข่วนเข้าที่ใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างจังจนเป็นรอยข่วนทางยาวและเริ่มมีเลือดไหลซิบๆ...เธอหันไปแสยะยิ้มให้คยองซูเล็กน้อยก่อนจะออกแรงบีบเข้าที่คอผมอีกครั้ง
“คุณน้าลู่จิน!” คนมาใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตัวบ้านก็รีบปรี่เข้ามาดึงตัวผมให้หลุดออกจากยัยแม่มดนี่ทันที
“คุณน้าจะทำอะไรครับ!”
“น้าจะสั่งสอนมันที่มันทำให้ลู่หานต้องเจ็บ! ลู่หานความจำเสื่อมและจำใครไม่ได้เลยนอกจากน้ากับคุณแบคคัง และมันจะดีมากถ้าเขาไม่จำมันได้อีกคนเป็นคนสุดท้าย!”
“!” ชานยอลดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยกับคำพูดของยัยแม่มด แต่เขาก็ยังมีสติพอที่จะช่วยผมให้รอดพ้นจากตรงนี้
“ผมรู้ว่าคุณน้าโกรธแบคฮยอนมาก ผมจะจัดการเองครับ คุณน้ากลับไปเถอะ”
“แต่...”
“กลับไปครับ!” ชานยอลตวาดลั่นก่อนจะรีบดึงมือผมให้เดินตามเขาขึ้นไป ทันทีที่เข้ามาในห้องชานยอลก็ยกเท้าถีบประดูเสียงดังแล้วกระชากตัวผมให้เดินไปยังเตียง
ผลั่กกกกก!~
“ฮึบบบบ!” ...มันเป็นไปอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ชานยอลเหวี่ยงผมลงเตียงอีกแล้ว และก็ไม่ใช่แค่เหวี่ยง แต่เขาโถมตัวเองมาคร่อมผมไว้อีกด้วย ข้อมือสองข้างของผมถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนา ผมรู้ดีว่าไม่มีทางสู้ชานยอลได้ ผมจึงทำได้แต่หลับตาปี๋รอให้เขาลงโทษ!
“...”
“...”
“...”
“O_<” ผมค่อยๆ เผยอเปลือกตาขึ้นทีละนิดเมื่อสังเกตว่าชานยอลไม่ได้ทำรุนแรงกับผม
“ทำไมนายไม่สู้ล่ะ?”
“ฮ้ะ?”
“นายยอมให้น้าลู่จินทำร้ายนายทำไม...”
“ฉะ ฉัน...” ผมหลบสายตาเขาเล็กน้อยเพราะเห็นว่าชานยอลดูจะจริงจังกับคำพูดเหล่านี้มาก แววตาที่เขาทอดมองมามันทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหวแปลกๆ...บ้าน่ะ ชานยอลเพิ่งจะทำร้ายจิตใจผมไปเมื่อวานเองนะ!
“ตอบมาซิ...”
“คือฉัน...ฉัน...”
“ช่างเถอะ ลุกมาทำแผลซะ” ชานยอลดึงให้ผมลุกขึ้นตามเขา หากแต่ครั้งนี้มันแลดูเหมือนกับว่าประคองเสียมากกว่า...ท่าทีของเขาถึงจะปฏิบัติกับผมอย่างอ่อนโยนแต่มันก็ขัดกับท่าทีที่เย็นชา...
“ฮ้ะ? แผล?” ผมเอียงคอถามเขาด้วยความสงสัย ผมมีแผลด้วยหรอ?
“ที่คิ้วของนายมีเลือดซึมออกมาน่ะ” หืมมมมมม? ที่คิ้วงั้นหรอ?
“อ๊ะ!” ผมยกมือขึ้นจับที่หางคิ้วตัวเองตามที่เขาบอกแล้วก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาพร้อมใบหน้าที่เหยเก...เจ็บ...เลือดออกจริงๆ ด้วย...
“นั่งนิ่งๆ นะ ฉันจะทายาให้”
“เฮ้ย นายไปเอากล่องยามาจากไหนเนี่ย?”
“อยู่ใต้เตียง ฉันเก็บไว้”
“อ๊ะ!...” ผมร้องออกมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อพบว่าชานยอลกำลังจะแตะสำลีเข้าที่คิ้วของผม
“-*- อะไรของนาย”
“มะ ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองดีกว่า”
“ถ้าพูดอีกคำฉันจะจูบ”
“!” ได้ผลดีเกินคาด! ผมหุบปากทันทีที่สิ้นเสียงของคนตรงหน้า หมอนี่มันจอมเผด็จการชัดๆ! แต่เรื่องอะไรผมจะยอมล่ะ! ผมยกมือขึ้นแล้วจับแขนของเขาเอาไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมไม่ต้องการให้เขาทำแผลให้
“-*- ถ้าไม่เอามือออกฉันจะปล้ำ”
“บะ บ้าอะไรของนายเนี่ย!”
“นับหนึ่งถึงสามถ้าไม่เงียบ ไม่นั่งเฉยๆ ให้ฉันทำแผลล่ะก็...นายโดนเหมือนเมื่อคืนแน่!”
“(O.O);”
หลังจากที่ทำแผลเสร็จแล้วเราก็ยังคงนั่งหันหน้าเข้าหากันเหมือนเดิม ชานยอลจ้องหน้าผมตลอดเวลาโดยไม่พูดอะไร ผมก็ทำได้แค่ก้มหน้าหลบสายตาจากเขาก็เท่านั้น
“ชะ ชานยอล...” ผมตัดสินใจเอ่ยคำถามที่ทำให้ผมคิดหนักออกมาอย่างแผ่วเบา...ผมกลัวเหลือเกินว่าเขาจะไม่ตอบแล้วก็ทำร้ายผมอีก...
“อะไร” …คำตอบห้วนๆ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงเย็นชาแบบนี้...ผมไม่ชอบเลย
“นายน่ะ...ทำไมถึงได้ทำแผลให้ฉันล่ะ”
“...” เจ้าของห้องยังคงนั่งจ้องหน้าผมนิ่งโดยไม่ให้คำตอบ ผมได้แต่กำมือแน่นด้วยความกังวล...ผมจะทำให้เขาโกรธอีกหรือเปล่า...
“ทั้งๆ ที่ฉันทำร้ายเพื่อนนายแล้วนายก็เกลียดฉันมากด้วย...”
“ใครบอกว่าฉันเกลียดนาย?”
“กะ ก็แค่เรื่องเมื่อคืนฉันก็รู้แล้วว่านายเกลียดฉันมาก...ฮึก...” อยู่ๆ หยดน้ำใสๆ ก็ไหลออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว ผมไม่รู้เหมือนว่าเป็นเพราะผมเสียใจเรื่องเมื่อคืน หรือเจ็บปวดที่เขาดูเฉยชากับผมกันแน่...
“ร้องไห้ทำไม”
“ฮึก!...” แค่ประโยคสั้นๆ ทำให้ผมเจ็บปวดได้ขนาดนี้เลยหรอ? ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกแล้ว...หรือว่าเขาจะเกลียดผมแล้วจริงๆ
“ฮึก...ก็นายเกลียดฉัน! ฉันขอโทษที่ทำให้ลู่หานต้องบาดเจ็บ แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าฉันกำลังโมโหแล้วลู่หานก็มาเซ้าซี้ฉัน ฉันพยายามบอกให้เขาหลบไปแต่เขาก็ไม่ยอม ฉันแค่จะสะบัดหนี...ฮึก!...แต่...แต่ฉันไม่รู้เลยว่าจะทำให้เขาพลัดตกลงไป....ฮึก...ฉันไม่รู้เลยจริงๆ....ฉันขอโทษ...ฮึก!”
“...”
“ไหนนายบอกจะเป็นเพื่อนกับฉันไงชานยอล! ทำไมนายไม่รับฟังฉัน นายเอาแต่โมโหแล้วก็ทำร้ายฉัน...ฮึก…นายทำแบบนี้กับฉันทำไม นายทำให้ฉันต้องแปดเปื้อน! แล้วนายก็ทำให้ฉันเจ็บตัว! แล้วนายก็ยังมาทำเย็นชาใส่ฉันอีก ฮึก! รู้ไหมว่าฉันไม่ชอบ ฉันเจ็บ ฉันเจ็บที่หัวใจมากๆ เลยนะปาร์คชาน...อุ๊บ!”
คำพูดที่ต้องการระบายออกไปให้หมดกลืนหายไปกับรสจูบอันหอมหวานที่คนตรงหน้ามอบให้ ถึงจะรู้สึกเจ็บปวดแต่ก็รู้สึกดีไปในคราวเดียวกัน...
รสจูบที่ชานยอลมอบให้อย่างอ่อนโยนเหมือนจะชโลมความเจ็บช้ำในใจของผมไปหมด จูบที่นุ่มนวลไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ ทำให้ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สมองขาวโพลนไร้ปฏิกิริยาขัดขืน มีแต่ตอบสนองเท่าที่เป็นไปได้ แต่ก่อนที่เราจะถลำลึกไปมากกว่านั้นชานยอลก็ผละออกแล้วจ้องมองผมด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา...แต่มันก็ทำให้ผมอบอุ่นใจแปลกๆ
“ฟังฉันนะ...ฉัน ไม่ เคย เกลียด นาย...”
“...”
“ขอแค่อย่างเดียว...ขอแค่นายยอมพูดมาทุกอย่างว่าที่นายต้องทำตัวร้ายๆ แบบนั้นมันเป็นเพราะอะไร...แล้วฉันจะคอยปกป้องนายเอง บยอนแบคฮยอน...”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฮัลหลิววววว~ หมาน้อยมาลงให้ครบแล้วน๊า ยังไงก็รบกวนช่วยเม้นต์ติชมกันด้วยนะคะ
ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้รวมถึงคนที่มาทักในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ สำหรับคำทักทาย ติ และชมค่ะ
การบ้านหมาน้อยเยอะมากเลยค่ะ ต้องรีบเคลียร์ด่วนๆ
แล้วก็ต้องรีบปิดเรื่องนี้ด้วย เพราะหมาน้อยอยากรวมเล่มเก็บเอาไว้แล้วฮี่ๆ
แต่ว่าเหลืออีกตั้งสิบกว่าตอนแหน่ะ ==’ มีพาร์ทสเปเชี่ยลอีกต่างหาก ตายยยยยยยยย
ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์
ตามไปติชมได้ที่ >> ` หมาน้อยมาลามิวท์ <<
ความคิดเห็น