คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 12
Chapter 12
Baekhyun Part
“อืมมมมมม” ร้อนจัง...
“เฮ้ย!” นะ นี่มัน...ปาร์คชานยอล! ทำไมเขากับผมถึงได้นอนกอดกันกลมแบบนี้ล่ะ! ประมวลผลแปป... “นอนนะครับเด็กน้อย...”
-//- อ่าาาาา จำได้แล้ว...นี่ผมยอมใจอ่อนให้หมอนี่กอดได้ยังไงทั้งคืนเนี่ย?
“ฮือออออ...อ้าวตื่นแล้วหรอ?”
“อะ อื้อ -///-“
“อ้าวนายไม่สบายหรอแบคฮยอนทำไมหน้าแดงๆ”
“งื้ออออ! ฉันสบายดี นายน่ะปล่อยฉันได้แล้ว!”
“ปล่อย?...” พูดเสร็จก็ทำหน้ามึนๆ ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เลยสินะว่ากำลังนอนกอดผมอยู่!
“อ่อ...”
“รู้แล้วก็ปล่อยสิ! ฉันร้อนนะ มันอึดอัดด้วย!”
“อืม...ไม่ปล่อยหรอก”
“อะไรนะ?”
“ไม่ปล่อย...” พูดไม่พูดเปล่า ชานยอลกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น...แน่น...จนหน้าผมซุกอยู่ที่หน้าอกของเขา...
“นี่!” ผมพยายามออกแรงผลักให้คนตัวใหญ่นี่ปล่อยผมออกไปซักที อยู่แบบนี้นานๆ มันไม่มีต่ออัตราการเต้นของหัวใจของผมหรอกนะ!
“ฮ้าวววววว ฉันยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย ขอนอนต่ออีกสัก 5 นาทีแล้วกันนะ” นั่น! พูดเองเออเองเลยนะเว้ย! ชานยอลเอาคางมาเกยหัวของผมอีก โอ้ย! อันตรายต่อหัวใจของผมอีกแล้ว!
“ไม่! ฉันไม่ใช่หมอนข้างนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“งืมๆ”
“งืมบ้างืมบออะไรล่ะ ปล่อยยยยยย!” ฮืออออออออ ดูเหมือนว่ายิ่งผมออกแรงมากเท่าไร วงแขนแกร่งนี่ก็ยิ่งยิ่งโอบรัดผมแน่นมากขึ้น...
ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก... แอร๊กกกกกกก ไอ้หัวใจบ้า! มาเต้นแรงอะไรตอนนี้วะ ถ้าไอ้เจ้าของบ้านมันได้บินมันจะคิดยังไง มันต้องคิดว่าผมเป็นเกย์แบบมันแน่เลย ฮืออออออออ
“อยู่นิ่งๆ สิ แค่ห้านาทีเท่านั้นน่ะ ห้านาที...แล้วฉันจะปล่อยนายโอเคไหม?”
“...” ร่างสูงพ่นประโยคคำถามออกมาพร้อมกับขยับวงแขนอีกครั้งเพื่อกำชับให้ร่างกายเราแนบชิดกันมากขึ้น ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดอยู่บนหัวของผมทำให้สมองผมหยุดสั่งการชั่วคราว...
“ไม่ตอบแสดงว่าตกลง โอเคขอบคุณ” ฮะ เฮ้ย ที่ไม่ตอบเพราะว่าคิดอยู่เว้ยไม่ใช่ตกลง! แต่ยังไงก็ไม่ทันแล้วสินะ ห้านาทีก็ห้านาที T_______________T หัวใจจ๋าอย่าเพิ่งหลุดออกมานอกอกเลยนะ...
“เต้นรำกับผมนะครับ...”
“...”
“...”
“...”
“แบคฮยอนยื่นมือมาสิ...”
“...”
“แบค...”
“คัตตตตตตตตตตตตตตตต!” T_________________________T
“น้องแบคฮยอนครับ! มันไม่ยากอะไรเลยนะครับแค่เต้นรำเนี่ย!”
“ใจเย็นๆ น่ะจงฮยอน น้องเขาอาจจะตื่นเต้น”
“ผมขอโทษครับ...”
“เลิกกอง! น้องแบคครับพี่ให้เวลาน้องไปทำสมาธิสิบนาทีนะ กลับมารอบหน้าน้องต้อนเล่นฉากนี้ให้ผ่านโอเคไหม? แค่ยื่นมือออกไป ยื่นมือไปเต้นรำน่ะ ยื่นมือออกไป!”
“ครับ...” โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย! ใครแม่งจะไปทำได้วะ มาเต้นรำกับผู้ชายเนี่ยนะ? แถมผมยังต้องใส่ชุดกระโปรงบานๆ อีก แล้วก็มาเร่งๆ ไม่มีการซ้อมก่อนเลย! จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะให้ลองชุดที่เพิ่งตัดเสร็จ!
“แบคฮยอน...”
“ธรรมชาติลงโทษฉันหรือยังไงกัน! ให้ฉันใส่ชุดผู้หญิงมาเต้นกับนายเนี่ยนะ! ชาติหน้าก็ทำไม่ได้หรอก! เต้นก็เต้นไม่ค่อยจะเป็นอยู่แล้วด้วยอ่ะ!” ผมบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด ฉากนี้เป็นฉากที่ซินเดอเรลล่าจะต้องมาเต้นรำกับเจ้าชายในงาน แล้วไอ้เจ้าชายบ้าเนี่ยถ้ามันเป็นคนอื่นมันคงจะทำให้ผมแสดงออกมาได้ดีกว่านี้ แต่นี่เป็นปาร์คชานยอลไง ปาร์คชานยอล! ไอ้ชายปาร์คที่ชอบทำให้หัวใจผมเต้นแรง! ฮืออออออออออออออ
“แค่เต้นรำก็ยากอยู่แล้วนะ ยังให้มาเต้นไปมองตานายด้วยนี่ฉันไม่ไหวจริงๆ นะ”
“หรือว่านายเขินฉัน?”
“มะ ไม่ใช่นะ! แต่ฉัน...”
“เอาเถอะ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง แต่นายต้องทำได้เชื่อฉันสิ แค่ยื่นมือออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ จากนั้นนายก็เต้นรำกับฉัน ผ่อนคลายนะ คิดซะว่าฉันคือคนที่นายรักโอเคไหม?” ชานยอลพูดพลางบีบที่มือของผมเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ...มุมอ่อนโยนของหมอนี่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจแปลกๆ แฮะ...
“ฉันทำไม่ได้หรอก...ฉันเต้นไม่ค่อยเก่งด้วย ฉันกลัวนะชานยอล...”
“ฟังฉันนะ ‘ไม่มีสิ่งไหนที่ทำไม่ได้ ถ้าหากยังไม่ได้ลองทำ’ ...เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยสิ”
“ฉัน...”
“ถ้านายทำได้ฉันจะพานายไปเที่ยวโอเคไหม?”
“...”
“เอาน่าาาาา อย่าคิดมากเลย ฉันเป็นห่วงนายนะ”
“อื้ม...” ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมรู้สึกดีมากๆ เลยล่ะ...ชานยอลดูเป็นห่วงผมอย่างจริงใจ...แต่ไม่นะ ทำไมหัวใจผมต้องเต้นแรงอีกแล้วด้วยเนี่ย T_______T
“เอาล่ะ พร้อมหรือยังน้องแบค?”
“พร้อมแล้วครับ...”
“สู้ๆ!”
“5 4 3 2 1 แอคชั่น!”
“เต้นรำกับผมนะครับ...”
“...” ให้ตายเถอะ! อยู่ๆ ร่างกายผมก็เกร็งอีกแล้ว T_______________T
“...” ทั้งกองตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง...ผมมองไปที่ชานยอล และพบว่าชานยอลยิ้มให้ผมเล็กน้อย ราวกับเป็นกำลังใจให้ผม...ผมสูดหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือไปให้คนตรงหน้า
“...ค่ะ” เมื่อมือของเราประสานกัน ชานยอลก็เดินเข้ามาโอบเอวของผมแล้วเริ่มเต้นรำ...สายตาของเราจ้องมองกันตลอดเวลา ผมยอมรับเลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่หล่อมาก หล่อจนทำให้หัวใจของผมต้องเต้นแรงอีกรอบ...เสียงเพลงยังคงคลอไปเบาๆ ตามบท ร่างกายของผมแนบชิดกับชานยอลอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่เสียงเพลงจะหยุดลง ใบหน้าของเขาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้ามา...ริมฝีปากของเราสัมผัสกันอย่างช้าๆ และแผ่วเบา...
ตึงตึ่งงงงงงงงง
เสียงซาวนด์ระฆังดังขึ้นมาหยุดการกระทำของเจ้าชายที่กำลังแสดงนอกบทให้หลุดออกจากภวังค์ ผมดึงสติกลับมาที่ตัวเองอีกครั้งก่อนจะออกแรงผลักคนตรงหน้าให้ถอยออกห่างแล้ววิ่งออกจากฉากไป...
“คัตตตตตตตต! เยี่ยมมากกกกกกกกก” พี่จงฮยอนผู้กำกับปรบมือรัวหลังจากที่ฉากเมื่อสักครู่นี้ผ่านไปได้ด้วยดี...แต่ผมนี่สิ กำลังยืนหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำอยู่ข้างๆ ฉาก T^T เมื่อกี้ชานยอลจุ๊บผม! จุ๊บแบบที่ไม่มีการแลกลิ้น แค่ปากแตะกันเฉยๆ...แต่ในบทมันเป็นแค่คำว่ามุมกล้องไม่ใช่หรอ...งืออออออออออ
“แบคฮยอน...”
“อะ อะไร...”
“เมื่อกี้นี้ขอโทษนะที่ฉัน...”
“ช่างมันเถอะฉันเข้าใจ!”
“อ่า...งั้นกลับบ้านกันโอเคไหม?”
“อื้อ! -///-”
“ชานยอลนี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่!” หลังจากที่ผมนิ่งเงียบอยู่นานบนรถก็เหวใส่เขาทันทีเมื่อพบว่าเส้นทางนี้มันไม่ใช่ทางกลับบ้าน!
“ไปเยี่ยมพ่อนาย...”
“!”
“นาย...อยากไปหรือเปล่า?”
“...” ไม่มีคำตอบใดๆ ออกจากปากของผม ริมฝีปากน้อยๆ ของผมเม้มเข้าหากันแล้วครุ่นคิด...พ่อต่างหากล่ะที่อยากเจอผมหรือเปล่า...
“...” เมื่อเห็นผมเงียบไป ไม่ยอมตอบคำถามของเขา ชานยอลจึงเอื้อมมือมาจับมือเรียวของผม
“ไปเถอะ ยังไงก็พ่อลูกกัน...” ผมมองไปที่ใบหน้าของเจ้าของประโยคเมื่อครู่ เขาส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน...ผมชอบรอยยิ้มของเขาจัง...
“อะ อื้อ...”
“แบคฮยอนเดี๋ยวนายเข้าไปหาพ่อของนายเลยนะ เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“ตะ แต่ว่า...”
“เอาน่าาาาา แค่เข้าไปหาพ่อ ไปขอโทษ หรือแค่ไปเจอหน้ากันสักนิดก็ยังดี นายทำได้ใช่ไหม?”
“คือ...”
“ถ้านายทำได้ฉันจะเลิกแกล้งนายวันนึงเลย!” ชานยอลพูดแล้วทำท่าทางน่ารักใส่ผม เขายกนิ้วก้อยแล้วยื่นมาให้ผม นี่คิดว่าตัวเองอายุเท่าไรกัน?
“ฮึฮึ นายจะบ้าหรือไง” ผมหัวเราะให้กับท่าทางนั้น ถึงมันจะดูตลกก็เถอะ แต่ก็อดยอมรับไม่ได้เลยว่าเวลาหมอนี่เลิกทำท่าเจ้าเล่ห์เนี่ยมันดูดีสุดๆ ไปเลย!
“โอเค ฉันจะรีบไปรีบมานะ”
“อื้อ...” ...ชานยอลเดินไปแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ผมคนเดียวสินะ...พ่อจะยังโกรธผมอยู่ไหมนะ? ครั้งสุดท้ายพ่อไล่ผมนี่นา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... ผมตัดสินใจเคาะประตูเล็กน้อยแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก่อนจะเดินตรงไปยังเตียงคนป่วยที่กำลังนอนอยู่ ผมเห็นสายน้ำเกลือเจาะติดที่แขน เครื่องช่วยหายใจ แล้วก็สายอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด ตั้งแต่ผมจำความได้ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่พ่อผมจะเข้าโรงพยาบาล พ่อผมแข็งแรงมาก แต่ครั้งนี้ถึงกับต้องนอนให้น้ำเกลือ ใช้เครื่องช่วยหายใจนี่แสดงว่าพ่อของผมจะต้องป่วยหนักมากจริงๆ ... ผมเดินไปยังข้างเตียงคนป่วยช้าๆ ก่อนจะเอื้อมมาไปจับแขนพ่อของผม
“พ่อครับ...” สิ้นเสียงเรียกของผม ‘บยอนแบคคัง’ ผู้เป็นพ่อก็ปรือตาขึ้นมามองทางผม...ก่อนจะเบิกตาโพลงแล้วผลักผมให้ออกห่างจากตัวเขา
“พะ พ่อครับ...” ผมพยายามจะเดินเข้าไปใกล้พ่ออีกครั้ง แต่ก็ได้รับกลับมาแต่แรงผลัก ถึงมันจะไม่ได้แรงมากมายตามกำลังของคนป่วยแต่ผม...เจ็บมากๆ เลยล่ะ
“พ่อ...พ่อเกลียดผมถึงขนาดนี้เลยหรอครับ...” ผมพูดพลางจ้องมองไปยังแววตาของพ่อผม ผมรู้สึกได้ว่าแววตาของท่านดูเป็นห่วงผมไม่ใช่น้อย แต่ทำไมการกระทำท่านถึงดูตรงกันข้ามล่ะ ท่านผลักผมให้ออกห่างจากตัวท่านทำไม...
“ใช่แล้วล่ะจ๊ะหนูแบคฮยอน”
“กะ แก!” ผมสะดุ้งกับน้ำเสียงที่คุ้นเคยก่อนจะหันไปทางประตูห้องแล้วพบว่าเป็น...ยัยแม่มดนั่น
“ต๊ายยยย เรียกแม่ว่าแกแบบนี้ไม่มีมารยาทเลยนะจ๊ะหนูแบคฮยอน”
“ฉันไม่นับแกเป็นแม่!”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ เพราะพ่อของแกก็ไม่นับแกเป็นลูกเหมือนกัน!”
“มะ ไม่จริง พ่อแค่กำลังโกรธฉันเท่านั้นแหล่ะ!”
“แค่โกรธหรอ? ไหนเธอลองหันไปจับพ่อเธอสิ แค่เธอจะจับเขาก็ยังปัดออกอย่างรังเกียจเลยไม่ใช่หรอจ๊ะ?”
“!” ผมยืนกำหมัดอยู่ตรงนั้นด้วยอารมณ์คุกกรุ่น...ก็มันเป็นอย่างที่ยัยแม่มดนี่พูดจริงๆ...แค่จับ...พ่อก็ไม่ให้ผมจับ...
“คุณท่านน่ะ เขารักฉัน รักลู่หาน แต่ไม่ได้รักแก! ไสหัวไปซะ!”
“!” สิ้นเสียงของยัยแม่มดนั่นผมก็เดินออกมาจากห้องทันที!
“อะ อ้าวแบคฮยอนจะไปไหนเยี่ยมพ่อเสร็จแล้วหรอ”
“...” ผมหันไปมองหน้าของคนตัวสูงที่ดูเหมือนว่าเพิ่งจะออกจากห้องน้ำนิ่งๆ ...
“กลับบ้าน”
“ฮะ? เดี๋ยวสิฉันยัง...”
“กลับบ้าน!” ผมตะคอกใส่เขาก่อนจะเดินตัวปลิวออกมาไปยังลานจอดรถ อารมณ์ของผมตอนนี้มันยากจะบรรยายเหลือเกิน ทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด! เจ็บ...ที่พ่อเกลียดผม เสียใจ...ที่ผมไม่ใช่ลูกชายที่ท่านรักอีกต่อไป โกรธ...ที่ผมทำอะไรยัยบ้านั่นไม่ได้ และเกลียด...เกลียดมันทุกคนที่ทำให้ผมเสียใจ!
ปึง!~ ดูเหมือนชานยอลจะคงเข้าใจว่าอารมณ์ผมตอนนี้คงไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับใคร เพราะเขาขับรถกลับบ้านทันทีโดยที่ไม่ได้ถาม ไม่ได้พูดอะไรกับผมเลย
“แบคฮยอน! ไปเยี่ยมพ่อมาแล้วใช่ไหม” ฮึ่ย! พอถึงบ้านผมก็ต้องเจอกับคนที่ผมไม่อยากเจออีก อะไรมันจะน่าหงุดหงิดขนาดนี้วะเนี่ยยยยยย!
“ถอยไป” หากแต่ผมต้องสกัดกั้นอารมณ์เอาไว้เพียงเพราะว่าผมก็ไม่อยากจะทำร้ายลู่หานเหมือนกัน...เขาไม่ได้เป็นคนด่าผมนี่...
“บะ แบคฮยอนเป็นอะไร”
“ถอยไปลู่หาน ฉันไม่อยากจะลงไม้ลงมือกับนายตอนนี้หรอกนะ!”
“แบคฮยอน...” ผมพูดทิ้งไว้แค่นั้น ผมก็เดินหนีลู่หานทันที แต่ในขณะที่ผมกำลังเดินขึ้นบันไดอยู่นั้นลู่หานก็ยังคงวิ่งตามมาเกาะแกะผมอีก ผมชักจะหมดความอดทนแล้วนะ!
“แบคฮยอนเดี๋ยวก่อนสิ นายเป็นอะไร หันมาคุยกับพี่ก่อน”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
“ไม่! จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง นายเป็นอะไร”
“ปล่อยยยยยยยยยย!” ผมพยายามแกะมือของลู่หานออก ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะมาคุยกับใครหน้าไหนทั้งนั้นแหล่ะ แต่ไอ้พี่ชายนอกไส้นี่ก็ช่างทำตัวน่ารำคาญเหลือเกิน!
“ไม่ปล่อย! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องนะ!”
“โอ้ย! มันไม่เกี่ยวกับแกสักหน่อย บอกให้ปล่อยไงวะ ปล่อยสิ ปล่อยยยยยยยยยยย!” ผมตวาดลั่นบ้านด้วยความโมโหก่อนจะสะบัดแขนอย่างแรงเพื่อให้พ้นจากการเกาะกุมนี้...แต่ดูเหมือนผมจะทำพลาดแล้วล่ะ! เพราะผมลืมไปว่าเรายืนอยู่บนขั้นบันได และผมอยู่ขั้นบนสุด แรงผลักนั่นทำให้ลู่หานที่ยืนอยู่เสียหลักและล้มลงไป...
“ลู่หานนนนนนนนนนน!” เสียงตะโกนเรียกชื่อคนที่กำลังกลิ้งตกลงไปดังขึ้นพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียงก่อนที่ร่างบางนั้นจะหยุดกลิ้งและแน่นิ่งไป...เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากศรีษะคนด้านล่างมากมาย ผมที่เป็นตัวต้นเหตุยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าทันที...ผมไม่ได้ตั้งใจ
“ลู่หานอย่าเป็นอะไรนะ อย่าเป็นอะไรนะ!” เซฮุนที่เพิ่งมาถึงพร้อมกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่พอดีก็ปรี่เข้าไปประคองร่างของลู่หานที่นอนจมกองเลือดอยู่พื้น
“บยอนแบคฮยอน!” ผมสะดุ้งกับเสียงเรียกที่ฟังดูก็รู้ว่ากำลังโกรธผมมากแค่ไหนดังออกมาจากปากของเจ้าของบ้าน...ปาร์คชานยอล
“ถ้าลู่หานเป็นอะไรไป...ฉันเอานายตายแน่!”
“!”
“เซฮุนอุ้มลู่หานไปที่รถเร็วเข้า!” สิ้นเสียงนั้นทั้งชานยอลและเซฮุนก็หายออกไปจากบ้านทันที เหลือเพียงแค่ผมที่ยืนมองกองเลือดนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน...ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คยองซูกับจงอินกลับมาบ้าน
“แบคฮยอน! แบคฮยอน! นายเป็นอะไร เลือดนี้คืออะไร!”
“คยองซู...”
“นายเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นบอกฉันที!”
“ฮึก...ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ฮึก” ฉับพลันที่ได้สติน้ำตามากมายก็ไหลออกมาพรั่งพรูเต็มไปหมด คยองซูที่เห็นว่าอยู่ๆ ผมก็ร้องไห้ก็มีท่าทีตกใจเล็กน้อยก่อนจะจับผมเข้าไปกอดปลอบอย่างที่เขาชอบทำเวลาผมร้องไห้...
“ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้ นายไม่เล่าก็ไม่เป็นไรเราเข้าห้องก่อนนะ”
“ฮึก...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ฮืออออออออ”
“ใจเย็นๆ นะ ไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ได้ตั้งใจ เราเข้าห้องกันเถอะ...นะ...”
“ฮึก...ฉันขอโทษ...ฮึก”
Chanyeol Part
หลังจากที่ผมพาเซฮุนกับลู่หานมาถึงโรงพยาบาลแล้ว พยาบาลก็พาร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของลู่หานเข้าห้องไอซียูทันที...คงไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าลู่หานอาการหนักแค่ไหน...ก็บันไดบ้านผมน่ะทั้งสูงทั้งชัน แถมเขาก็ยังกลิ้งตกลงมามากกว่าสิบขั้นซะอีก...
ร่างกายของเซฮุนตอนนี้ก็ดูไม่ต่างจากคนเจ็บเท่าไรนัก เพราะเสื้อผ้าของเซฮุนเต็มไปด้วยเลือด...เลือดของคนที่เขารัก...ผมไม่รู้จะปลอบใจเขายังไงเหมือนกันในเมื่อตอนนี้สภาพจิตใจของผมก็ย่ำแย่ไม่ต่างจากเพื่อนรักเลย ผมไม่คิดเลยว่าแบคฮยอนจะกล้าผลักลู่หานลงมา เขาใจร้ายกว่าที่ผมคิด และถ้าหากเพื่อนของผมต้องเป็นอะไรไป ผมไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่!
“ใครเป็นญาติของคุณลู่หานคะ!”
“ผมครับ!” ทันทีที่พยาบาลวิ่งออกมาจากห้องแล้วถามด้วยประโยคที่มักจะได้ยินบ่อยๆ เวลาจะมีปัญหาตามมา...
“ตอนนี้คุณลู่หานมีอาการเลือดคั่งในสมอง หมอจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งออกนะคะ รบกวนคุณช่วยเซ็นยินยอมด้วยค่ะ” ...ราวกับวินาทีนั้นโลกทั้งใบมืดลงชั่วขณะ...
“ครับ!” ตอนนี้ร่างกายผมไม่รับรู้อะไรแล้ว มีเพียงเซฮุนเท่านั้นที่ได้สติแล้วรีบเซ็นยินยอมให้คุณพยาบาลไป...ผมไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต...
ถึงกับเลือดคั่งในสมองเลยหรอ?
แล้วถ้าคุณยังจำเรื่องราวของพี่ชายที่จากไปของผมได้...คุณคงจะเข้าใจว่าผมกลัวและเกลียดการสูญเสียมากแค่ไหน!
“บยอนแบคฮยอน!”
รถยนต์คันหรูของชายผู้เป็นเจ้าของบ้านบึ่งกลับมาที่บ้านอย่างรวดเร็ว พร้อมกับไปโทสะที่ยังคงท่วมท้น...ใช่แล้ว ผมทิ้งเซฮุนไว้ที่โรงพยาบาลแล้วรีบขับรถกลับมาที่บ้าน...กลับมาจัดการกับคนที่ทำให้เพื่อนของผมต้องเจ็บตัว!
“อ๊ะ คุณชานยอล” คยองซูที่นั่งอยู่กับจงอินในห้องรับแขกปรี่เข้ามาหาผมทันทีที่เท้าของผมก้าวเข้าไปในบ้าน
“แบคฮยอนอยู่ไหน” ผมเอ่ยถามคยองซูหลังจากที่กวาดสายตาแล้วไม่เจอกับตัวต้นหตุ
“เกิดอะไรขึ้นวะไอ้ชาน เลือดนั่น...” จงอินที่ดูเหมือนจะยังสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เดินเข้ามาสมทบกับคยองซูแล้วถามด้วยความสงสัย
“แบคฮยอนไม่ได้บอกพวกนายหรือไง? หรือว่ากลัวความผิดจนหนีออกนอกบ้านไปแล้ว?”
“ไม่ใช่นะครับ แบคฮยอนร้องไห้หนักมาก แล้วผมก็ไม่เข้าใจที่เขาพูด เขาพูดแต่ว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ...”
“ไม่ได้ตั้งใจ? หึ! แล้วนี่หมอนั่นอยู่ที่ไหน?”
“ขะ เขาร้องไห้จนหลับไปแล้วครับ”
“ร้องไห้จนหลับ!!! นี่มันไม่สำนึกอะไรเลยใช่ไหม!”
“มะ ไม่ใช่นะครับ แบคฮยอนเสียใจมาก เขาคงจะเพลียเพราะว่าร้องไห้อยู่นานก็เลย...”
“ฟังฉันนะคยองซู! เพื่อนของนายน่ะผลักลู่หานตกบันได!”
“อะไรนะครับ!”
“แล้วจำไว้นะ! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจำเอาไว้ว่า ห้าม เข้า ห้อง!”
“คะ ครับ? คุณชานยอลจะทำอะไรแบคฮยอน!”
“จงอิน! ฝากดูคยองซูด้วย อย่าให้คยองซูเข้ามาในห้องฉันได้เด็ดขาด”
“ห้องนาย?”
“ใช่ห้องฉัน!”
“คุณชานยอล!”
“เฮ้ยไอ้ชานแกจะทำอะไรวะ ใจเย็นๆ หน่อยสิวะ”
“หึ...อย่าห่วงเลย ฉันก็แค่จะสั่งสอนเด็กดื้อที่ทำตามใจตัวเองจนทำให้คนอื่นต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยให้รู้จักเข็ดหลาบก็เท่านั้นเอง!”
“คุณชานยอลลลลลลลลลล!”
คยองซูตะโกนอยู่ซักพักก่อนที่เสียงจะเงียบลง ตอนนี้ผมไม่สนหรอกว่าแบคฮยอนจะร้องไห้จนหลับ หรือเพลีย หรือเสียใจ ผมสนใจแค่ว่าเขาทำเพื่อนผมเจ็บ! แล้วเขาก็ต้องเจ็บด้วย!
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย! ชะ ชานยอล!” เมื่อเข้ามาถึงในห้องความเกรี๊ยวโกรธของผมก็เพิ่มมากขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่สร้างเรื่องกำลังนอนหลับสบายภายใต้ผ้าห่มหนานุ่ม ผมจึงตรงดิ่งเข้าไปกระชากแขนของคนข้างหน้าให้ลุกขึ้นมาอย่างรุนแรง
“หลับสบายไหม? ทำคนอื่นเจ็บแล้วหลับสบายไหม!” พูดไม่พูดเปล่าผมออกแรงบีบข้อมือเล็กๆ นี่ราวกับต้องการให้มันแหลกคามือไปซะเดี๋ยวนี้!
“โอ๊ยยยย ฉันเจ็บนะชานยอล ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” แบคฮยอนออกแรงยื้อข้อมือบางของตัวเองให้เป็นอิสระ แต่แรงน้อยขนาดนี้คงจะทำได้หรอกนะ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจผลักนะ ลู่หาน...” คำว่า ‘ไม่ได้ตั้งใจ’ ของร่างเล็กทำให้สติผมขาดผึ่งทันที ทำลู่หานเจ็บตัวขนาดนี้ยังกล้าพูดว่าไม่ได้ตั้งใจอีกหรอ?
“ไม่ได้ตั้งใจ? เวลานายทำอะไรผิดนายก็พูดแต่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ! มันกี่ครั้งแล้วล่ะที่นายไม่ได้ตั้งใจ แล้วมีครั้งไหนบ้างที่นายตั้งใจ!” ด้วยความที่อารมณ์ของผมมันพุ่งไปยังขีดสุด ทำให้ผมเปลี่ยนจากบีบข้อมือเล็กไปจับที่ไหล่บางและออกแรงบีบพร้อมกับเขย่าจนร่างของคนตรงหน้าสั่นคลอนไปหมด
“ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจไงเล่า! ปล่อยยยยยยย! นะ นายจะลากฉันไปไหน!”
“ไปที่ห้องฉัน!”
“ไม่! ฉันไม่ไป! นายอย่ามาทำรุนแรงกับฉันนะ! นายไม่มีสิทธิ์!”
“ไม่มีหรอ? ฉันมีเต็มๆ อีกไม่นานก็จะมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวนาย! สิทธิ์ของความเป็น...”
“ปล่อยยยยยยย!” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ แบคฮยอนก็ออกแรงผลักผมอีกครั้งจนสุดแรงที่เขามี แต่เพราะความที่ผมยังคงจับข้อมือของเขาอยู่จึงทำให้เขาล้มลงมาด้วย
“โอ้ยยยยยย!”
“หึ...ฉันรู้แล้วว่าสิ่งที่นายตั้งใจคืออะไร”
“อะ อะไร!”
“ยั่วฉันไงล่ะ”
“มะ ไม่ใช่นะ ไม่! ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ไป!”
“ไม่! นายต้องโดนทำโทษ! สิ่งที่นายทำลงไปนายต้องชดใช้!”
“อย่ามาบ้านะฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะมาทำโทษอะไร ปล่อยยยยยยยยยยยย!”
“หึ...เพราะนายไม่ใช่เด็กแล้วไงล่ะ บทลงโทษจึงต้องเป็นแบบที่ ‘ผู้ใหญ่’ เขาทำกัน”
“มะ หมายความว่าไง?” แบคฮยอนดูเหมือนจะอึ้งกับประโยคเมื่อครู่ของผมเล็กน้อย เพราะตอนนี้ร่างกายของเขาหยุดการยื้อตัวเอาไว้ชั่วครู่
“เมื่อกี้นายพูดใช่ไหมว่าฉันมีสิทธิ์อะไรที่จะทำรุนแรงกับนายแบบนี้”
“ชะ ใช่!”
“หึ...สิทธิ์ของความเป็นผัวนายในอีกไม่กี่นาทีนี้ไงล่ะ”
“!”
“”
“เฮือกกกกกกก ปล่อยยยยยยยยยยยยยยยยยย!”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ปุ้งงงงงงงง! ครบ 100% แล้วนะตัวเธออออออ~
อย่านะ! อย่าเพิ่งท่องคาถากรีดแทงใส่หมาน้อยนะคะ T__________T
หมาน้อยงานยุ่งจริงๆ ค่ะ พอดีเปิดร้านขายของใหม่ด้วยก็เลยไม่มีเวลา
แต่ว่าตอนนี้ลงของในเว็บหมดแล้วนะคะ >< มีเวลามาอัพฟิคให้รีดเดอร์อ่านแล้วน๊า
แบบว่ายอดวิวตอนนี้เลยหมื่นมาแล้วนะคะ *ฉลองงงงงง* แต่! แต่ทำไมยังไม่มีบทวิจารณ์?
น่านนนนน หมาน้อยวอนรีดเดอร์ผู้ใจดีช่วยวิจารณ์ให้ทีนะคะ
หมาน้อยอยากรู้ว่าฟิคตัวเองบกพร่องตรงไหนบ้าง หมาน้อยอยากจะปรับปรุงเพื่อรีดเดอร์ทุกคนค่ะ
สุดท้ายนี้ตอนหน้าคงจะรู้แล้วนะคะว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หึหึ ^_______________^
บอกไว้ก่อน...ชานยอลเป็นคนที่เวลาโมโหจะทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจคนที่ต้องเจ็บปวด...
อ้อฝากกกกกก! เว็บของหมาน้อยเองค่าาาา
ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์
ตามไปติชมได้ที่ >> ` หมาน้อยมาลามิวท์ <<
ความคิดเห็น