คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คณะน้องใหม่จากมศว

ข้อมูลเบื้องต้น

:-Daisy ✿

เนื้อเรื่อง

คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

คณะน้องใหม่จากมศว ดี และแตกต่างจากคณะอื่นอย่างไร?

 
 

 มาก่อนเป็นพี่

มาหลังเป็นน้อง

มาพร้อมกันเป็นเพื่อน

            สวัสดีน้องๆ #Dek57 ทุกคนนะคะ ขอเรียกตัวเองว่าพี่ตามหลักรุ่นแล้วกันนะคะ พี่ชื่อเจนค่ะ วันนี้จะมาแนะนำคณะน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโวฒให้น้องๆ และเหล่า (พี่ๆ) เด็กซิ่วได้รู้จักกัน เนื้อหาอาจจะเยอะหน่อยนะคะ แต่คิดว่าเนื้อหาที่จะมาบอกเล่าในวันนี้มีประโยชน์อย่างแน่นอนค่ะ สิ่งที่พี่จะมาแนะนำและบอกกล่าวน้องๆคือ 

1.รายละเอียดคร่าวๆ ของคณะ

2.เรียนที่ไหน

3.องครักษ์บรรยากาศเป็นอย่างไร น่าอยู่มากหรือเปล่า? (ใครอยากเข้ามศวทุกคณะอ่านหัวข้อนี้ได้)

4.หลักสูตรที่เรียนยากหรือง่ายแค่ไหน

          - หลักสูตร วท.บ.

          - หลักสูตร ศศ.บ.

5.จบไปแล้วทำงานอะไร?

6.ระบบการรับน้องของคณะ

 1.รายละเอียดคร่าวๆ ของคณะ 

            คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นคณะเปิดใหม่คณะที่ 18 ของมหาวิทยาลัย โดยเพิ่งเปิดหลักสูตรปริญญาตรีเป็นปีแรกเมื่อตอน #Dek56 คณะนี้จะแบ่งเป็นสองสาขา

            1.สาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากร (วท.บ.)

            2.สาขานวัตกรรมการจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ (ศศ.บ.)

            ชื่อภาษาอังกฤษคือ Faculty of Environmental Culture and Ecotourism ตัวย่อคือ ECE

 2.เรียนที่ไหน

         คำถามยอดฮิตของหลายๆ คณะที่พบเห็นคือ ‘เรียนที่ไหน’ เนื่องจากมศวเรามีที่เรียนสองที่ด้วยกันคือองครักษ์ จ.นครนายก และประสานมิตร (กทม.) สำหรับ ECE ของเรานั้นเนื่องจากเพิ่งเปิดปริญญาตรีเป็นปีแรก (ปกติมีปริญญาโทอยู่แล้ว) ด้วยความที่ตึกคณะเรายังสร้างไม่เสร็จทำให้รุ่นของพี่นั้นได้เรียนที่มศว ประสานมิตรตลอด 4 ปีเต็มค่ะ แต่สำหรับรุ่นน้องรุ่น 2 3 4 ...นั้นยังไม่แน่ชัดนะคะ วันก่อนพี่ได้ลองถามอาจารย์ดู อาจารย์บอกว่ารุ่น2อาจจะได้เรียนที่ประสานมิตรปี 1-3 พอปี 4 ก็กลับไปเรียนที่องครักษ์ (เพราะตึกคณะที่สร้างอยู่นั้นอยู่ที่มศว องครักษ์ ข้างๆ คณะสหเวชฯ) รวมถึงน้องรุ่น 3 4 ที่อาจจะได้เรียนประสานมิตร 1-2 ปีก่อนจะกลับไปองครักษ์

            คือให้พูดง่ายๆ ก็หมายความว่า ถ้าตึกคณะที่สวยหรูของเราสร้างเสร็จเมื่อไร น้องๆก็อาจจะได้เรียนที่องครักษ์เมื่อนั้น (ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคณะด้วยนะคะ วาจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า)

 3.องครักษ์บรรยากาศเป็นอย่างไร น่าอยู่มากหรือเปล่า?

 

         ขอตอบอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า ‘น่าอยู่มาก!’ หลังจากที่ได้ไปเข้าค่ายอัตลักษณ์ที่องครักษ์มา 5 วัน รู้สึกเสียดายมากๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนองครักษณ์อย่างน้อย 1 ปีเหมือนคณะอื่นเขา

            - อาหารถูก ให้เยอะ และอร่อยมาก

            - ของกินหลากหลาย มีตั้งแต่ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ เครป น้ำปั่น นม กาแฟ น้ำอัดลม ผลไม้ ไอศกรีม ร้านสะดวกซื้อ

            - หอพักมีทั้งพัดลมและแอร์ ตอนพี่ไปอัตลักษณ์พี่นอนหอพัดลม ห้องนึงมี 5 เตียง เตียงเดี่ยว 3 เตียง เตียงสองชั้น 1 เตียง มีตู้เสื้อผ้า 5 ตู้ (สวยมาก) โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมหลอดไฟในตัว 5 โต๊ะ มีระเบียงห้อง ห้องอาบน้ำอยู่ระเบียง มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ มีบริการซักรีด

            - ที่องครักษ์ส่วนใหญ่จะเป็นปี 1 ทั้งหมด เวลาเดินผ่านกันก็จะมีโค้ดสวัสดีของแต่ละคณะ (สนุกมาก เวลาแต่ละคณะฟาดฟันกันด้วยโค้ดสวัสดี)

            - ต้นไม้เยอะและพื้นที่กว้างขวาง กว้างมากถึงขนาดที่พี่เดินไม่ไหว เท้าระบมไปหมด ;_; (เด็กหอประจำสามารถปั่นจักรยานหรือมอเตอร์ไซต์ได้ค่ะ)

            - แดดร้อน ใครทนได้ทน สำหรับพี่ พี่ทนได้ แต่พอกลับมาผลที่ได้คือ...ดำขึ้น =_= (น้องๆต้องโบกครีมกันแดด SPF แรงๆกันเอาเองนะ)

            - เรื่องหลอนๆ ถามว่ามีไหม? เรื่องเล่ามีเยอะจนเขียนหนังสือเป็นเล่มได้เลยล่ะ แต่มันไม่ได้น่ากลัวขนาดเราจะอยู่ไม่ได้ พี่เชื่อว่ามหาวิทยาลัยอื่นก็มีเหมือนกัน มีหลายคนในอัตลักษณ์เล่าว่าเพื่อนเจอบ้าง รุ่นพี่เล่าบ้าง แต่สำหรับพี่และเพื่อนในคณะพี่ไม่มีใครเจอนะ อย่างมากก็อาจจะมีมโนกลัวกันไปเอง

4.หลักสูตรที่เรียนยากหรือง่ายแค่ไหน 

          หลักสูตรการเรียนของคณะ >> Click <<

            หลักสูตร วท.บ. ให้เลือกที่ EnvTect สาขา เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากร

            หลักสูตร ศศ.บ. ให้เลือกที่ IntTour สาขา นวัตกรรมการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ

           สำหรับวท.บ. ของบอกว่าเทอมแรกเรียนหนักมาก 21 หน่วยกิต ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ lol แต่เทอมต่อๆ ไปจะอยู่ที่ 20 19 18 แบบนี้ค่ะ วิชาที่เรียนจะเป็นพวก เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ สิ่งแวดล้อม (ข้อมูลจากปี 56 ปีนี้ของรุ่นพี่เอง ซึ่งไม่แน่ใจว่าปีต่อๆไปจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่)

ต่อมาที่จะแนะนำคือหลักสูตรของศศ.บ.ค่ะ เป็นหลักสูตรที่พี่เรียนเอง ขอบอกว่าน่าเรียนมากเลยค่ะ เป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการจริงๆ

            เทอมแรกเรามีเรียนกันแค่ 6 วิชาค่ะ วิชาละครึ่งวัน เราจะได้เรียนเกี่ยวกับหลักการการบริการ จิตวิทยา การท่องเที่ยวและการโรงแรม ภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ อะไรประมาณนี้ค่ะ อาจจะเห็นบางวิชาที่เป็นเกี่ยวกับเด็กสายวิทย์อยู่บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเรียนค่ะ เพราะเราคือการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าจะยากนะคะ ขอบอกเลยว่าไม่มีความรู้พื้นฐานก็เรียนได้ค่ะ เพราะอาจารย์ที่สอนนั้นใจดีเป็นกันเองแล้วก็สอนเข้าใจง่ายแบบสุดๆ (การันตีโดยพี่เอง เพราะพี่ก็โง่วิทย์ lol)

           ค่าเทอมของสาขา ศศ.บ.จะอยู่ที่ 18,000 บาท (เทอมแรก 19,300 บาท) ส่วน วท.บ.จะอยู่ที่ 16,000 บาท น้องๆ ไม่ต้องตกใจว่าทำไมค่าเทอมของศศ.บ.สูงขนาดนี้ น้องๆ ต้องอย่าลืมนะว่าเราคือ การท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องออกทริปค่ะ เนื่องจากสาขาเราเรียนจบแล้วได้บัตรไกด์สีเงินเลย เพราะฉะนั้นเราจึงต้องออกทริปใหญ่ๆ จำนวน 5 ทริปเพื่อผ่านหลักสูตรของการเป็นไกด์ ซึ่งแน่นอนว่าคนทั่วไปที่อยากเป็นไกด์ทุกคนต้องจะออกทริปและผ่านการอบรมก่อนถึงจะเป็นไกด์ได้ แต่สำหรับสาขาเรามีการออกทริปในทุกเทอมนับจาก ปี1 เทอม2 ไปจนถึงปี 3 เทอม 2 ค่ะ (ในปีที่ 4 เราจะมีการฝึกงาน)

ซึ่งพี่มองดูแล้วถือว่าคุ้มมากทีเดียวกับจำนวนเงิน 18,000 บาทที่ต้องเสียไป เราจะต่างจากคณะท่องเที่ยวอื่นๆ ตรงที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเวลาออกทริป (เพราะแอบรู้มาว่าสาขาท่องเที่ยวและการโรงแรมของคณะอื่นเขาจะเก็บเงินออกทริปต่างหากจากค่าเทอมค่ะ)

5.จบไปแล้วทำงานอะไร?

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากร สามารถประกอบอาชีพดังนี้

- ผู้ปฎิบัติงานด้านการวิเคราะห์ระบบงานด้านสิ่งแวดล้อม

- ด้านการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม

- ผู้รับผิดชอบงานทางด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

- นักวิชาการทางด้านสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชานวัตกรรมการจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ สามารถประกอบอาชีพ ดังนี้

- มัคคุเทศก์

- ผู้จัดนำเที่ยว

- ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว

- นักวิชาการด้านการท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(ข้อมูลจากเพจ – คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ)

แต่พี่ไม่อยากให้น้องยึดติดกับตรงนี้มากเกินไปว่าจบไปแล้วจะได้ทำงานอะไร ขอบอกเลยว่า คนเราไม่ว่าจะเรียนสายอะไร จบจากไหนเราก็มีงานทำทั้งนั้น ขอแค่น้องไม่เรื่องมาก ไม่เลือกงานเยอะเกินน้องก็สามารถทำงานจากระดับเล็กๆน้อยๆ และใช้ความสามารถที่มีไต่ระดับขึ้นไปยังตำแหน่งสูงๆ ก็เพียงพอแล้ว

หน้าที่การงานตรงนี้มันไม่ตายตัว มีหลายคนที่จบไปแล้วได้งานไม่ตรงสาย แต่สิ่งที่พี่อยากบอกน้องๆก็คือ อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้เลือกเรียนตามฝัน เลือกสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขก็พอ เพราะพี่เชื่อว่า ถ้าเป็นคณะที่เราอยากเรียน เราจะมีความสุขกับมัน มีใจให้กับการทำงาน เพราะฉะนั้นจบไปจะประสบความสำเร็จหรือไม่มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราค่ะ

6.ระบบการรับน้องของคณะ

        

          ขอแค่น้องๆเข้ามาแล้ว มีใจรักในการทำกิจกรรมร่วมกันก็พอ หลายๆ คนคงสงสัยว่าทำไมเราต้องทำกิจกรรมเยอะแยะมากมาย ทั้งๆที่เรามาเรียนไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้ แต่มีคนเคยบอกพี่ว่า

 ‘ความรู้จะช่วยให้เราได้งานทำ แต่กิจกรรมจะสอนให้เราทำงานเป็น’
 

คณะของเราเป็นคณะน้องใหม่แต่ไม่ไร้ศักยภาพ พวกเรามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากคณะอื่น เราเน้นเฮฮา ถึงจะเรียนหนักแต่เราก็รักที่จะสร้างสีสัน ถึงเวลาเรียน เราเรียนเต็มที่ ถึงเวลาแฮปปี้เราก็ดี๊ด๊าสุดใจ ถึงตอนนี้คณะเราจะยังไม่โด่งดังมากพอ แต่พี่เชื่อว่าด้วยมือของพวกเราและการทำงานของพวกเรา จะร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้แก่คณะของเราได้ในเร็วๆนี้..

 มาเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจกับ ECE แห่งศรีนครินทรวิโรฒกันนะคะ

  

สำหรับน้องๆ คนไหนอยากจะสอบถามข้อมูลหรือศึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่

- Facebook Fanpage คณะ: คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

- Website: http://ece.swu.ac.th/
- Twitter: @swu_ece
 

            หรือใครเล่นทวิตเตอร์ก็สามารถทักมาถามข้อมูลเป็นการส่วนตัวจากพี่ได้ที่ Line: missjjane และน้องๆที่อยากจะเข้าคณะอื่นก็สามารถสอบถามพี่มาได้เช่นกัน อะไรที่พี่ตอบได้พี่จะตอบ อะไรที่ตอบไม่ได้พี่จะรีบไปสอบถามจากอาจารย์และรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยมาให้นะคะ สามารถปรึกษาได้ทั้งเรื่องหลักสูตร การเรียน ความเป็นอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย สภาพแวดล้อม สภาพสังคม กิจกรรม ฯลฯ