ความตายสีขาว - ความตายสีขาว นิยาย ความตายสีขาว : Dek-D.com - Writer

    ความตายสีขาว

    ความรัก...บางทีการที่เรา \"รัก\" มากเกินไป เมื่อพลั้งพลาด ไม่เป็นอย่างที่เราหวัง \"รัก\" ก็อาจนำซึ่ง...จุดจบแห่งชีวิต

    ผู้เข้าชมรวม

    244

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    244

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ย. 48 / 17:45 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ชื่อเรื่อง : ความตายสีขาว


               วันนี้ คือ วันครบรอบการคบกัน 3 ปี ของเรา


               ฉันตื่นแต่เช้า รีบทำกิจธุระต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว ‘เขา’กับ‘ฉัน’ มีนัดฉลองกันในวันนี้


               สถานที่ที่พวกเราวางแผนจะไปด้วยกันในวันนี้ มันก็คือ สถานที่ซึ่งพวกเราเคยไป เดท กันครั้งแรก เริ่มตั้งแต่ นัดพบกันที่ลานน้ำพุสวนสาธารณะ แล้วไปต่อกันที่สวนสนุก กินอาหารเที่ยงที่ห้างสรรพสินค้า เดินช็อปปิ้งยามบ่ายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และ ทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารสุดหรู


               ฉันจำได้ดี ทุกสถานที่ ทุกรายละเอียด ทุกสิ่งทุกอย่าง...


               แม้ว่า วันนี้จะเป็นวันที่ฉันต้องไปพบลูกค้ารายใหญ่เจ้าหนึ่ง ฉันก็ยอมเลื่อน ด้วยเพราะ วันนี้คือวันสำคัญ


               ความคิดหนอ ความคิด มันช่างเตลิดไปได้ไกลเสียยิ่งนัก แม้ว่า ตอนนี้ฉันจะยังอยู่ในบ้าน ไม่ได้ก้าวออกไปไหนเลย


               ในตอนนี้ฉันพร้อมแล้ว สำหรับ วันพิเศษ นัดพิเศษ กับ คนพิเศษ...


               ฉันก้าวขึ้นรถโตโยต้าสีขาวรุ่นเก่าที่พ่อได้ให้ไว้กับฉันเมื่อสำเร็จการศึกษา ถึงตอนนี้ฉันจะพอมีเงินซื้อรถคันใหม่ได้ แต่ฉันก็ไม่ต้องการจะซื้อ เนื่องด้วย รถคันนี้ก็ยังอยู่ในสภาพดี และ มันมีความทรงจำที่ดี แฝงอยู่ในรถเก่าๆ คันนี้


               เขา มักจะนำเรื่องนี้มา แขวะ ฉันได้เสมอ


               “นักธุรกิจสาว ที่กำลังรุ่ง กลับขับรถเก่าๆโทรมๆ อย่างนี้ ลูกค้าไม่หนีหายไปกันหมดเหรอ”


               แต่ฉันก็จะตอบเขาด้วยรอยยิ้ม


               “ก็ไม่ใช่เพราะรถคันนี้เหรอ ที่ทำให้เราได้มาเจอกัน”


               พวกเราทั้งสองคนต่างมีความทรงจำดีๆ ต่อกันและกันเสมอ


                         --------------------------------------------


               เมื่อวันนั้นฉันจอดรถไว้ที่หน้าร้านอาหาร และ เขาก็กลับขับรถของเขามาชน...หรืออาจจะเรียกว่า เฉี่ยว....รถของฉัน ตามที่เขาอ้างไว้ก็ได้...


               บังเอิญว่า ฉันมองเห็นพอดี จึงเดินออกจากร้านอาหาร ไปหาเขา ด้วยหน้าตา ที่เขาบอกให้ฉันฟังทีหลังว่า เหมือนนางยักษ์ขมูขี อาจเป็นเพราะ ทั้งโกรธ ทั้งหิว ด้วยล่ะมั้ง


               ฉันเริ่มระบายอารมณ์ ด้วยการ ด่า....แบบผู้ดี นิดหน่อยตามที่เขาว่า คือ ใช้คำพูดสุภาพ แต่เจ็บ แสบ กับเขา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็ยังทำลอยหน้า ลอยตา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นแหละ ยิ่งทำให้อารมณ์โกรธของฉัน มากขึ้น มากขึ้น จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เผลอตบหน้าเขาไปทีนึง


               ทั้งๆ ที่ตอนแรก ว่าจะแค่ มาสั่งสอน ด้วยคำพูดก็พอแล้วเชียว


               และเรื่องราวในวันนั้นก็จบลงด้วยว่า เขาก็ต้องชดใช้ ฉัน ด้วยการนำรถไปซ่อม และ พาฉันไปเลี้ยงอาหารเย็นหนึ่งมื้อ


               จนกระทั่งถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่เลยว่า เรื่องราวในวั้นนั้นเป็นแผนการของเขา หรือเปล่า


                          --------------------------------------------


               ขับรถไปนั่งอมยิ้มไป เมื่อไหร่จะถึงสถานที่นัดพบของเรากันน้า


               ฉับพลันเหมือนเทวดาจะไม่เป็นใจ น้ำฝนค่อยๆ ตกลงมา ทีละน้อยๆ มากขึ้น จนกลายเป็น ฝนที่ตกหนัก


               ทำไมกันนะ ทำไมฝน มันจะต้องมาตกตอนนี้ด้วย เขาจะรอฉันอยู่ไหมนะ เขาจะ......


               รถทำไมถึงติดอย่างนี้ รีบๆไปกันหน่อยได้ไหม


               พอ...เลิกคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ก็รีบไปสักทีสิ


               เอาอีกแล้ว ความคิดเริ่มสับสน อารมณ์เริ่มแปรปรวน อีกแล้ว มันอะไรกันนักหนา


               แล้ว...เมื่อไหร่ฉันจะไปถึงสวนสาธารณะนั้น สักทีนะ


                         --------------------------------------------


               ในที่สุดก็มาถึงได้สักที...เขาจะอยู่ที่ไหนนะ


               คิดไปพลาง มองหาไปพลาง มองเท่าใดก็ไม่เห็น ฉันจึงเริ่มเดินตามหา เดินทั้งๆที่ฝนตก เดินหาทั้งในสวน ทั้งร้านค้ารอบๆสวน ทุกที่ที่คิดว่า เขาจะไป แต่ก็ไม่พบแม้แต่วี่แวว


               เขาอยู่ที่ไหนกัน.....คิดแล้ว ก็หยิบ มือถือขึ้นมาโทร หาเขาทันที


               “ฮัลโหล อาร์ อยู่ที่ไหนแล้วเหรอ”


               “อ้าว มุกโทรมามีอะไรเหรอ”


               “ก็วันนี้.....เรานัดกันไว้นี่”


               “อ๊ะ...ขอโทษนะ อาร์ ลืมไป เดี๋ยวจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ คอยสักพักนะ”


               ปี๊ป


               “เดี๋ยวสิ อาร์”


               อะไรกันยังไม่ทันจะ พูดอะไรเท่าไหร่เลย ก็วางสายซะแล้ว


               ในตอนนี้ ฉันก็เงยหน้ามองท้องฟ้า ฝนยังคงตกลงมาเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


               แล้วนี่เราจะรอเขาที่ไหนดีกันนะ....


                        --------------------------------------------


               นี่เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วนะ หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หรือ สามชั่วโมง นับตั้งแต่ฉันมายืนรอเขาที่นี่ ใต้ต้นไม้ ใกล้ๆน้ำพุกลางสวนจุดนัดพบของเรา


               เมื่อไหร่เขาจะมาสักที โทรไปก็ไม่ยอมรับสาย มันมีอะไรกันแน่ ทั้งๆที่วันนี้ควรจะเป็นวันดี สำหรับเราทั้งสองคนแท้ๆ เชียว


                อุตส่าห์มายืนอยู่ตรงนี้เผื่อเขามาแล้วจะได้เจอกันในทันทีเลยแท้ๆ


                คิดไปคิดมา ฉันก็หยิบ มือถือ ขึ้นมาอีกครั้งและกดหมายเลขโทรหาเขาอีกรอบ


                ตื้ด..........ตื้ด..........ตื้ด


                “ฮัลโหล มุกเหรอ ขอโทษนะ อาร์ติดธุระน่ะ ธุระสำคัญมากด้วย ขอโทษจริงๆนะ ไว้วันหลัง อาร์จะพาไปเดท แล้วกัน”


                “......................”


                “โกรธ อาร์เหรอมุก”


                “เปล่าหรอก แต่น่าจะโทรมาบอกกันก่อน แค่นั้นเอง”


                “ก็นี่ไง บอกแล้วนะ แค่นี้ก่อนแล้วกันนะ”


                ปี้ป


                ฉันมองโทรศัพท์มือถือในมือ จ้องมันอยู่อย่างนั้น จ้องรูปภาพที่อยู่บนจอ รูปของเขา...


                นี่เรายืนรอไปโดยเปล่าประโยชน์ยังงั้นเหรอ เราตากฝนไปเพื่ออะไรกัน


                คิดพลาง ถอนใจพลาง เวลาที่เหลือในวันนี้จะเอาไปทำอะไรดีนะ ปกติวันๆ เราก็ทำงานไม่ก็ไปหาอาร์ แต่เขาติดธุระอย่างนี้เราจะไปไหนดี


                ห้าง ! ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของฉัน เราไม่ได้ไปช็อปปิ้งมานานเท่าไหร่แล้ว วันนี้ก็กะไว้ว่า จะไปเดินห้างกับเขา แท้ๆเชียว


                คิดได้ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรีรอสิ่งใดๆ อีกต่อไป ฉันรีบเดินไปขึ้นรถสตาร์ทเครื่อง ไปห้างสรรพสินค้า สถานที่ซึ่ง...ฉันควรจะได้ไปกับเขาในวันนี้แท้ๆ...


                          --------------------------------------------


                ในมือของฉันตอนนี้มีทั้งเสื้อผ้าต่างๆ เครื่องสำอาง และที่สำคัญหนังสือ ฉันก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ชอบแต่งตัว ชอบทำตัวให้ดูดี แต่อีกประการหนึ่งฉันก็ชอบการอ่านหนังสือด้วย


                เดินไปเดินมา ตอนนี้ท้องของฉันก็เริ่มร้องแล้ว ฉันจึงตัดสินใจไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านนั้นที่เราควรจะมาทานข้าวด้วยกันในวันนี้ ร้านโปรดของเขา


                สิ่งที่ฉันทำลงไปนี่ เหมือนกับว่า ฉันมารำลึกความหลังเพียงคนเดียวเลย...


                เอาเถอะ เขาก็สัญญาแล้วนี่ว่า วันหลังจะพาไปเดทชดเชยแล้วนี่


                ฉันคิดไปก็ยิ้มไป พลางนึกถึงรายการอาหารที่จะสั่ง...เราจะสั่งรายการเหมือนเดิม อย่างที่เคยดีไหมล่ะนี่ ถึงจะมาคนเดียวก็เถอะ


                ฉันเดินเข้าร้านอาหารและมองหาทันทีว่า โต๊ะของเรา ยังว่างอยู่หรือเปล่า และก็ได้คำตอบในทันทีนั้นแหละว่า มันยังคงว่างอยู่


                ร้านอาหารร้านนี้ เป็นร้านที่มีระดับหรูหรา กว้าง และ ทำอาหารอร่อย บรรยากาศก็โรแมนติกเหมาะกับการเดท มากกว่า มานั่งทานคนเดียวแบบฉัน


                แต่ก็นั่นแหละ ถ้าไม่ทานคนเดียวแล้วจะไปทานกับใคร ก็ไม่มีญาติสนิทมิตรสหายคนไหนว่าง มาทานกับฉันหรอก ต่างคนต่างมีธุระ...ใช่ ธุระเยอะกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ อาร์


                ทั้งๆที่เป็น วันสำคัญแท้ๆเชียว อาร์นะอาร์ ทำไปได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ...เราชักจะเริ่มคิดอะไรบ้าๆบอๆ เพ้อเจ้ออีกแล้ว...


                อาหารที่สั่งเริ่มทยอยมากันแล้ว ฉันนั่งมองมัน และ ถามตัวเองในทันที ว่า กินแค่คนเดียว จะสั่งมาเยอะแยะทำไมกัน...


                          --------------------------------------------


                ในที่สุดฉันกินเสร็จ...กินหมดจนได้ ยังงงกับตัวเองอยู่เลยว่า กินเข้าไปได้ไงตั้งเยอะแยะ สงสัยโมโห...หิว...ล่ะมั้ง


                คิดพลางหัวเราะคิกคัก สงสัยถ้าเราเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เขาฟัง เขาคงต้องล้อเราแน่ๆเลย ยิ่งปาก...อยู่ด้วย


                จ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แน่นอนอยู่แล้ว...มันเหมือนเป็นแบบแผน กินอาหารเสร็จก็ต้องเข้าห้องน้ำ


                เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ก็แน่นอนว่า ต้องล้างมือ


                ในขณะที่ฉันกำลังล้างมืออยู่นั่นเอง ก็มี หญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาน่ารัก เดินมาล้างมือข้างๆฉัน เพราะอะไรก็ไม่ทราบฉันรู้สึก คุ้นหน้าเธอ คนนี้พิกลๆ


                เราสองคน เดินออกจากห้องน้ำพร้อมๆกัน


                “ไงแก้ว เสร็จแล้วเหรอ”


                และเธอคนนั้นก็ตอบกลับเสียงผู้ชายคนนั้นไปว่า


                “ค่ะ พี่อาร์ แก้วเสร็จแล้ว ไปกันเถอะค่ะ”


                อาร์เหรอ...ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายเจ้าของเสียงทันที ใช่จริงๆด้วย อาร์คนเดียวกับที่ฉันคิด


                “อาร์.....”


                ฉันเรียกชื่อเขาทันที ความรู้สึกสงสัยเข้าครอบงำ ทำไมกัน เขาไม่ไปนัดกับฉัน เพื่อมาทานข้าวกับคนอื่นงั้นเหรอ...ไม่ใช่หรอก คงจะเป็นเรื่องธุรกิจ...ไม่...ธุรกิจกับหญิงสาวหน้าตาอายุไม่น่าเกิน 20 นี่นะ....


                “มุก...มุกมาทำอะไรที่นี่เหรอ”


                “มุกก็มาทานข้าวน่ะสิคะ ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นน่ะใครกันคะ”


                ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวพร้อมจ้องไปทาง หญิงสาวที่เขาเรียกว่า “แก้ว” อย่างแค้นเคือง


                “เอ่อ...นี่น้องแก้วเพื่อนอาร์เองน่ะ”


                เขาตอบพร้อมหันไปพยักเพยิดให้เธอคนนั้นทำท่าเห็นด้วยตามที่เขาพูด


                “อาร์เลือกคำตอบได้แย่มากเลยนะคะ รู้มั้ย...อาร์ผิดนัดกับมุกในวันสำคัญของเรา เพียงเพื่อมาทานข้าวกับมันงั้นเหรอ”


                ฉันพูดกับเขาพร้อมเดินไปตบหน้าแก้วทันที แต่เธอก็ไม่ได้ทำทีท่าตอบโต้อะไร ทำท่าราวกับตัวเองนี่จะบอบบางเสียเหลือเกิน


                “มุก หยุดนะ พอได้แล้ว อะไรกัน อาร์ไม่นึกเลยนะว่า มุกจะเป็นคนอย่างนี้ เราจบกันแค่นี้เลยดีกว่า ผมทนมามากพอแล้วกับคุณ”


                เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่เหินห่างยิ่งนักและเดินจูงเธอ...ไป


                อะไรกัน อาร์คนที่ฉันรู้จักหายไปไหนกัน อาร์คนที่ใจดี มีอารมณ์ขัน อาร์คนที่ฉันรักหายไปไหนกัน


                “แล้ว 3 ปีที่เราคบกันมันเพื่ออะไร อาร์”


                ฉันตะโกนไล่หลังเขาไป และในวินาทีนั้นเอง ไม่รู้ว่าเป็นอุปาทานหรือเปล่า แต่ฉันเห็น...เห็นจริงๆ ว่า แก้ว..เด็กคนนั้นหันหลังกลับมายิ้มเยาะฉัน


                ใช่แล้ว ฉันจำ เธอ คนนี้ได้แลว เธอคือคนที่ พ่อแม่ของอาร์ สนับสนุนนักหนาให้เป็นแฟนกับอาร์...


                          --------------------------------------------


                นับจากวันนั้นวันที่ เขาขอเลิกกับฉันและเดินจากไปพร้อมเธอ...มันนานเท่าไหร่กันแล้วนะ น่าจะสัก 2 สัปดาห์ได้แล้วล่ะมั้ง


                โทรไปหาเท่าไหร่ก็ไม่รับสาย ไปหาที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่ ตามไปหาที่ทำงานเลขาก็บอกว่า ติดธุระ ไม่ว่าง


                อาร์...คุณจะไม่ยอมพบฉันสักนิดเชียวเหรอ ทุกสิ่งทุกอย่างของเราสองคนมันจบลงเพียงเพราะ เธอ...แก้ว คนเดียวเท่านั้นเหรอ...


                ฉันไม่ได้ไปทำงานมานานมาก...ไม่มีใครโทรมาหา...ไม่มีใครมาคอยห่วงใย


                คุณก็น่าจะรู้นี่...พ่อแม่ของฉันเข้มงวดแค่ไหน มันทำให้ฉันไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียวเลย นอกจากคุณ...คุณเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ชาย และ แฟน


                แล้วมาตอนนี้ ท่านทั้งสอง ก็จากไปแล้ว...ไปสู่จุดหมายที่ทุกคนต้องไป...


                ฉันไม่เหลือใครแล้วนะ...อาร์ นอกจากคุณเพียงคนเดียว


                          --------------------------------------------


                ฉันยกมือถือลองกดเบอร์ไปหาเขาอีกครั้ง


                ครั้งนี้...มันกลับติด...อาร์....


                “อาร์...มุก...”


                “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น มุก เข้าใจซะทีนะ เราจบกันแล้ว แล้วก็ไม่ต้องไปพาลกับแก้ว เขาอีก เขาไม่ได้ผิด ที่ผิดน่ะมุกเองต่างหาก”


                ปี๊ป


                “อาร์...อะไรกัน....”


                มันอะไรกัน ทำไมอาร์ต้องมาว่า เราด้วย แก้ว...เราก็ไม่ได้ไปหาเธอคนนั้นเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร มาจากไหน รู้แค่ว่า ชื่อแก้ว...


                พ่อคะ แม่คะ มุกไม่ไหวแล้ว...มุกอยู่ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว คิดถึงพ่อแม่นะคะ...


                มาถึงตอนนี้ฉันเริ่มยิ้ม...หัวเราะกับตัวเอง นี่ฉันไม่ได้นอนมากี่วันกี่คืนแล้วนะ...ง่วง ช่างง่วงเสียเหลือเกิน แต่ทำอย่างไรก็ไม่ยอมหลับสักที


                ใช่ ! และในทันใด ฉันมีคำตอบให้ตัวเอง...อีกแล้ว...ยานอนหลับไง ฉันเก็บมันไว้สักที่ในบ้าน


                เดินไปมา...หาไปทั่วบ้าน ในที่สุดก็เจออยู่ในตู้เย็น ฉันไม่ได้ใช้เจ้ายาตัวนี้มานานมากแล้วสินะ...


                ฉันค่อยๆเปิดฝาขวดออก หยิบยานอนหลับขึ้นมา...พร้อมควานหาน้ำ


                เม็ดหนึ่งก็แล้ว...สองเม็ดก็แล้ว...สาม...สี่...ห้า...เมื่อไหร่จะหลับสักที...ในที่สุดฉันก็คว้าขวดยากรอกใส่ปากตัวเองไปทั้งหมด


                หวังว่า คงจะได้หลับกันสักที...หลับ................หลับ...................................หลับชั่วนิจนิรันดร์


                          --------------------------------------------


                วันนี้ฉันตื่นขึ้นมา...ท้องฟ้า สดใสยิ่งนัก


                เอ๊ะ...นั่นอาร์นี่แล้ว...ที่นี่ที่ไหนกัน...ทำไมอาร์ถึงใส่ชุดเจ้าบ่าว


                ฉันก้มลงมองตัวเอง...นี่ฉันก็ใส่ชุดเจ้าสาวอยู่นี่นา ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เหมือน ความบริสุทธิ์ของเจ้าสาวที่สวมใส่มัน ตอนนี้ฉันดูไปคล้ายกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งทีเดียว


                ตอนนี้ฉันกำลังเดินเข้าไปสู่โบสถ์ โดยเกาะแขนคุณพ่อ และ มีเด็กน้อยถือปลายกระโปรงเดินตามเข้าไป


                นี่ฉันกำลังจะได้แต่งงานกับอาร์งั้นเหรอ...


                “นาย วิชชุกร ไพบูลย์เกียรติ จะรับ นางสาว ธัญสุดา สิริพิพรรธน์ เป็นภรรยา และสาบานว่าจะรักเธอ ดีต่อเธอ จนวันตายหรือไม่”


                “รับครับ”


                และ บาทหลวงก็หันหน้ามาทางฉัน พร้อมถาม


                “แล้ว นางสาว ธัญสุดา สิริพิพรรธน์ ล่ะ จะรับ นาย วิชชุกร ไพบูลย์เกียรติ เป็นสามี และสาบานว่า จะรักเขา ดีต่อเขา จนวันตายหรือไม่”


                นี่เป็นสิ่งที่ฉันอยากจะทำมานาน เป็นความใฝ่ฝันของฉันเชียวล่ะ ที่จะพูดคำๆนี้


                “รับค่ะ”


                เมื่อฉันพูดออกไปบาทหลวงก็เงยหน้าขึ้นมองฝูงชน เบื้องหน้าพร้อมประกาศว่า


                “บัดนี้ ทั้งสอง คือ สามีภรรยา โดยชอบธรรมแล้ว”


                          --------------------------------------------


                ภายในมหานครกรุงเทพ แสงแดดอันร้อนแรงสาดส่องลงมาตอนนี้คือ ยามเที่ยง แล้ว


                แต่ ณ โต๊ะอาหารเล็กๆมุมหนึ่งของครัวในบ้านเล็กหลังหนึ่ง กลับไม่มีแม้แสงแดดเพียงเล็กน้อยสาดส่องมาถึง...


                บนเก้าอี้ข้างๆโต๊ะนั้นเอง มีร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งหลับใหลอยู่...หลับสนิทยิ่งนัก


                ภายในบ้านก็เงียบกริบ...ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของเธอผู้เป็นเจ้าของบ้าน...ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจที่แผ่วเบา ไม่มี...ไม่มีเลย


                ถึงแม้ตัวเธอจะเย็นเฉียบ แต่ ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม...ยิ้มทั้งคราบน้ำตา...


                                              The EnD

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×