ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะดุดรักกับยัยจอมเป๋อ

    ลำดับตอนที่ #1 : เงินจ๋า...ทำไมเจ้าจึงไม่อยากอยู่กับข้านัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22
      0
      2 พ.ค. 49

                 เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้พนักทั้งสาวน้อยสาวใหญ่แตกตื่น  ฮือฮา  กับภาพของหนุ่มหน้าตี๋   แฟนสุดที่รักของเจ้าของบริษัทสาว(แก่)จอบเฮี้ยบ   นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น กับสาวหน้าใสวัย 26 ปี  ที่หลายคนรู้จักคุ้นเคยดีในฐานะพนักงานคนหนึ่งของบริษัท   ยืนถือแจกันเซรามิกที่แตกเพราะแรงปะทะกับศีรษะของใครบางคน    ผมเผ้ารุงรังราวกับไปฟัดกับอะไรสักอย่างมา

    เกิดอะไรขึ้น  เสียงดังอะไรกัน

    เสียงตวาดจากสาววัยสามสิบต้นๆแต่งตัวภูมิฐานดังมาเบื้องหลัง ก่อนจะตกใจแทบเต้น  เมื่อเห็นแฟนหนุ่มสุดที่รักนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น  

    ตายแล้วนนท์   เกิดอะไรขึ้น  ทำไมหัวแตกแบบนี้ล่ะ  ใครทำอะไรนนท์

    ก็อีบ้านี่น่ะสิ 

    หนุ่มหน้าตี๋ยกมือชี้ไปที่ธารดาซึ่งยืนถือแจกันที่แตกเป็นเสี่ยงๆ   หายใจหอบถี่อย่างสะกดกลั้นอารมณ์โกรธ

    แกแหละไอ้ตี๋บ้ากาม  ไอ้ลามก  หน็อย จะปล้ำฉันเหรอ รู้จักฉันน้อยไป   หล่อนสาดคำด่าใส่แทบจะทันที  เจ้านายหล่อนมามองแฟนหนุ่มอย่างเอาเรื่อง

    เปล่านะจ๊ะที่รัก  คุณก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง  มันยั่วผม   ไม่งั้นผมไม่ยุ่งกับมันหรอก 

    แทบจะทันทีทันใด  สายตาเอาเรื่องเมื่อครู่ก็เปลี่ยนจากหนุ่มหน้าตี๋หันมาทางธารดาแทน    อารมณ์หึงเดือดพล่านทันควัน

    ทำงานดีๆไม่ชอบคิดจะรวยทางลัดงั้นเหรอ   มายั่วแฟนฉัน  คิดว่าแฟนฉันจะจริงจังกับแกรึไง   ฉันจะไล่แกออก

    ก็เอาสิ  ฉันก็ไม่อยากอยู่นักหรอก  ไอ้บริษัทเฮงซวยแบบนี้  ฉันลาออกเอง 

    ไม่พูดเปล่า  เจ้าหล่อนเก็บข้าวของใส่ลังแล้วเดินออกจากบริษัทที่หล่อนเรียกว่า  บริษัทเฮงซวยทันที   ท่ามกลางสายตาพนักงานหลายสิบคู่

     

      

                       ป้ายรถเมล์ ที่แออัดไปด้วยผู้คนถึงแม้เวลาล่วงเลยมาเกือบห้าทุ่มแล้วก็ตาม    ธารดา   พยายามพาร่างอันอ่อนแรงของตนก้าวเท้าขึ้นรถเมล์   แต่ด้วยข้าวของที่พะรุงพะรังบวกกับเรี่ยวแรงที่เหลือน้อยเต็มที    ทำให้หล่อนไม่สามารถจะเบียดเสียดกับผู้คนขึ้นไปบนรถเมล์ไปได้โดยง่าย

           โธ่เอ๋ย  คนกรุงเทพสะกดเป็นไหมหนอ คำว่าน้ำใจน่ะ 

    หล่อนหงุดหงิดอยู่ในใจ   หลังจากที่ท้อใจยอมปล่อยให้รถเมล์เที่ยวสุดท้ายจากไปอย่างหมดความพยายาม   

    ทำไมวันนี้มันซวยอย่างนี้นะ    นี่ถ้าหล่อนพอมีเงินเหลือสักนิด   จะไปทำบุญอาบน้ำมนต์ล้างซวยให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย     แต่ติดตรงที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงินอยู่เพียงไม่กี่บาทนี่สิ    ถ้าขืนเอาเงินไปทำบุญอีกมีหวังได้กินน้ำตาต่างข้าวแหงๆ   นี่แหละน้าสาเหตุที่ทำให้จิตใจมนุษย์ตกต่ำลงทุกที    

    และเพราะเงินที่เหลือน้อยอีกนั่นแหละทำให้ธารดาต้องอยู่ทำงานล่วงเวลาจนดึก    หวังว่าจะได้เงินโบนัสตัวเลขสวยๆมาเชยชม   แต่นอกจากจะทำให้หล่อนเกือบจะโดนแฟนเจ้านายจอมหื่นปล้ำเอาแล้ว   ยังถูกไล่ออกโทษฐานยั่วยวนแฟนของเจ้านายอีก  ความยุติธรรมบนโลกนี้อยู่ที่ไหนกัน   แต่หล่อนหาได้อ้อนวอนจะอยู่ต่อไม่     ตรงกันข้ามหล่อนรีบเก็บข้าวของออกมาจากบริษัท  ขืนอยู่ต่อมีหวังติดคุกข้อหาฆ่าผู้ชายบ้ากามและทำร้ายร่างกายเจ้านายเป็นแน่  

    แต่พอก้าวออกจากบริษัทได้ไม่ถึงห้านาที        ธารดาก็ต้องตกอยู่ในห้วงของความคิดที่มืดแปดด้าน     เมื่อนึกถึงชีวิตครึ่งเดือนกับเงินที่เหลือไม่กี่บาท   ไม่รู้ว่ากินข้าวคลุกน้ำปลาจะพอยาไส้ได้ทั้งอาทิตย์หรือเปล่า   แล้วถ้าหล่อนยังหางานทำไม่ได้  เฮ้อ..ไม่อยากจะคิด  

    แล้วนี่ยังมาขึ้นรถเมล์ไม่ทันอีก   ถ้าขึ้นแท็กซี่ก็ต้องเปลืองเงินไปอีกหลายบาท    หรือว่าจะเดิน.....คงขาขาดตายพอดี   หล่อนทรุดร่างอันอิดโรยนั่งบนลงขอบฟุตบาทพร้อมข้าวของพะรุงะรังรอบกายอย่างหมดหนทาง

    เงินจ๋าบอกข้าเถิด    ทำไมเจ้าจึงไม่อยากอยู่กับข้านัก 

    ธารดาหยิบเงินเหรียญสิบออกมาพินิจอย่างไร้อารมณ์    แต่อยู่ๆเหรียญเจ้ากรรมก็ดันหล่นจากมือราวกับตอกย้ำเจ้ากับของว่า  ข้าไม่อยากอยู่กับเจ้ายิ่งนัก 

    หล่อนวิ่งไล่เก็บเหรียญสิบที่กลิ้งไกลออกไปบนถนนใหญ่อย่างไม่ คิดหน้าคิดหลัง   และไม่คิดชีวิต

    เอี๊ยดดดดดดดดด!!!

    แสงไฟจ้าปะทะสายตาวาบ  รถเบนซ์สีดำวิ่งพุ่งเข้าหาธารดาด้วยความเร็ว  และเบรคอย่างกะทันหัน   กันชนรถห่างจากตัวหล่อนไม่กี่คืบ  

    ทันทีทันใด   เจ้าของรถร่างสูงในชุดสูทสีดำแต่งตัวเหมือนจะไปงานสำคัญอะไรสักอย่าง  รีบก้าวลงจากรถด้วยความตระหนก  ท่ามกลางการจราจรที่ขวักไขว่อยู่เต็มถนน  ก่อนที่จะเดินมาดูตัวต้นเหตุที่ตอนนี้เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าหล่อนควรจะเป็นลมหรือทำอะไรดี   แต่แน่ล่ะมือข้างหนึ่งกำเหรียญสิบไว้แน่นทีเดียว

    เป็นอะไรของคุณ   อยู่ดีๆก็วิ่งตัดหน้ารถอย่างนี้  ถ้าจะฆ่าตัวตายก็อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนสิครับ   

    ภูริวัตรแหวอย่างหงุดหงิดใส่หญิงสาวเบื้องหน้า  ที่สภาพไม่ต่างจากไปตกบ่ออะไรสักอย่างมา   ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อและผมเผ้าที่ (ดูเหมือน) เคยถูกมัดอย่างเรียบร้อยตอนนี้หลุดลุ่ยยุ่งเหยิง   บ่งบอกว่าหล่อนต้องไปเผชิญอะไรที่หนักหนามาพอดู

    กว่าสติสัมปชัญญะจะกลับคืน  ธารดาก็โดนผู้ชายตรงหน้าต่อว่าจนจบพอดี  พอตั้งสติได้หล่อนก็รีบของโทษขอโพยเป็นการใหญ่

    ขอโทษจริงๆนะคะ   คือฉันรีบวิ่งมาเก็บเหรียญน่ะคะไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย

    ธารดาชูเหรียญสิบให้คนตรงหน้าดูด้วยหวังว่าเขาคงจะเข้าใจและหายโกรธ   ก็เงินตั้งสิบบาทนี่นา (คิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย)   แต่หล่อนคิดผิดถนัด 

    อ๋อ!!  นี่คุณเห็นชีวิตตัวเองมีค่าน้อยกว่าเงินสิบบาทงั้นเหรอ   แล้วถ้าผมชนคุณตายล่ะ...ต้องเสียเท่าไหร่   เงินสิบบาทของคุณเกือบทำให้ผมขับรถชนคนตาย 

    คำพูดของผู้ชายตรงหน้าทำเอาธารดาหน้าหดไปหลายนิ้ว    ก็ไอ้ที่เขาพูดก็มีความจริงอยู่ไม่น้อย   แต่เงินสิบบาทสำหรับเขากับหล่อนมันมีค่าต่างกันมากนี่นา   คนที่ขับรถเบนซ์หรูๆอย่างเขา  อย่าว่าแต่เงินสิบบาทเลย  เงินทั้งหมดที่หล่อนมีอยู่ตอนนี้   ก็คงน้อยกว่าเศษเงินของเขาเสียอีก  แต่สำหรับหล่อนมันคือมาม่า 2 ซองเชียวนา

    เอาเป็นว่าฉันขอโทษอีกครั้งแล้วกันนะคะ  ธารดาเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิด   แล้วก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้  หล่อนรี่ไปหยิบข้าวของที่วางอยู่ริบฟุตบาท 

    ในข้อหาที่คุณทำให้ฉันตกใจ

    อะไรนะ    คนโดนกล่าวหามีสีหน้างงงวยขึ้นทันที   หล่อนกำลังกล่าวหาว่าเขาทำให้หล่อนตกใจอย่างนั้นหรือ

    ธารดาเบิกตากว้างเมื่อเห็นแววตาเอาเรื่องของอีกฝ่าย   รีบเปลี่ยนคำพูดก่อนที่จะนอนจมกองเลือดอยู่ริมถนน  เพราะแรงโมโหของคนเบื้องหน้า

     ไม่ใช่คะ  คือ...ในข้อหาที่ฉันทำให้คุณตกใจ  หล่อนยิ้มให้เขาหวานเจี๊ยบ  แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยินดีด้วย   ฉันขอติดรถคุณไปลงอพาตเมนท์ข้างหน้าได้มั้ยคะ คือฉันขึ้นรถเมล์ไม่ทันน่ะค่ะ 

    ว่าแล้วหล่อนก็ถือวิสาสะเปิดรถประตูรถเบนซ์เข้าไปนั่งหน้าตาเฉย     ทำเอาเจ้าของรถหน้าเหวอ   

    แหมดูหน้าตาท่าทางก็น่าจะเป็นคนมีจิตใจดีเรื่องแค่นี้เขาคงไม่ใจไม้ไส้ระกำหรอกมั้ง  ก็แค่ขอติดรถไปไม่กี่ร้อยเมตรเอง   เอาน่าหน้าด้านนิดหน่อยอย่างน้อยก็ได้ขึ้นรถฟรีประหยัดเงินได้อีก อิ อิ 

    หญิงสาวลอบยิ้มในใจ

    ปี้มๆ 

    เสียงบีบแตรไล่จากรถคันข้างหลังทำให้ภูริวัตรตื่นจากอาการงงงวย

    ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย  เขาบ่นงึมงัมกับตัวเอง    ก่อนเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับอย่างเสียไม่ได้

    นี่คุณครับ   ผมไม่ได้อนุญาต คุณไปด้วยเลยนะ  ผมมธุระที่ต้องทำ  ไม่มีเวลามารับมาส่งคุณหรอก  

    ภูริวัตรจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าที่ตอนนี้หน้าตามอมแมมดูไม่ได้เอาเสียเลยอย่างคาดโทษ   เขาเสียเวลากับเจ้าหล่อนมามากเกินพอ

    แหมคุณ   ไหนๆคุณตรงไปก็ผ่านที่พักฉันอยู่แล้ว  ฉันแค่ขอติดรถไปหน่อยเดียวเอง    คนไทยหรือเปล่าคะ  หล่อนยิ้มให้เขาจนแก้มแทบฉีกถึงหู

    เรื่องแค่นี้ผมช่วยได้อยู่แล้ว  แต่ถ้าคุณมีมารยาท  ผมคงจะ.....

    ปี๊มมมมมม   ปิ๊มมมมม  

    ไม่ทันที่ภูริวัตรจะพูดจบ   เสียงแตรจากรถคันหลังก็ดังขึ้นอีกครั้ง   ทำให้เขาต้องรีบออกรถโดยมีหญิงสาว(ที่ไหนก็ไม่รู้) นั่งไปด้วยหน้าตาเฉย

     

    ................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×