ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hemera โหด มันส์ ฮา ภริยาท่านเคาท์!!

    ลำดับตอนที่ #2 : Hemera 1 : บันไดร้านหนังสืออาจทำให้เราเจ็บตัวได้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      8
      25 ม.ค. 58


    Hemera 1 : บันไดร้านหนังสืออาจทำให้เราเจ็บตัวได้

    ลัทธิล่าอาณานิคมกำลังรุ่งเรือง

    หลายพื้นที่ของโลกเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการแย่งชิง ผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้สิ่งที่ต้องการไปโดยไม่มีใครสนว่าประชาชนพื้นเมืองจะอยู่เช่นไร คนที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นที่จะได้รับสิ่งที่หมายปอง ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ เม็ดเงิน หรือเกียรติยศ

    แต่ เธอไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นแม้แต่น้อย เธอแค่ทำในสิ่งที่ตนอยากทำ

    ล่าอาณานิคม ต่อกรกับจักรวรรดิยักษ์ใหญ่เพื่อฮุบอำนาจ รวบรวมเมืองเล็กเมืองน้อยให้เป็นหนึ่งก่อนจะรวบมาเป็นของตัวเอง

    นั่นแหละสิ่งที่ เจ้าอาณานิคมแห่งไฟกระทำ

    .

    .

    .

    โหเขียนจนฉันดูเลวไปเลย…”

    นี่คือสิ่งที่หญิงสาวคนหนึ่งพูดขณะพลิกหน้ากระดาษของหนังสือในมือด้วยสีหน้าน้อยใจนิดๆ หน้ากระดาษถูกพลิกไปเรื่อยๆด้วยความเร็วที่มากขึ้นๆ เมื่อพบว่าเนื้อหาไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่เธอก็ตัดสินใจปิดมันทิ้งแล้วส่งคืนให้กับเจ้าของ หรือเพื่อนสนิทที่กำลังทำหน้าหน่ายอยู่ข้างๆ

    ก็แกมันเลว

    เลวอะไรเล่า!?” หญิงสาววางมือลงบนโต๊ะก่อนจะเอ่ยประท้วง คิดดูดิ! มีเจ้าจักรวรรดิที่ไหนดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดีอย่างฉันบ้าง ทั้งทะนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญ ทั้งปรับปรุงการศึกษาให้ไม่มีการสอบ! แกคิดว่ามีใครโอบอ้อมอารีเท่าฉันบ้างหา!!?”

    ยิ่งหญิงสาวยืนกรานเสียงแข็งมากเท่าไหร่ คู่สนทนาก็ยิ่งทำหน้าเอือมใส่

    แล้วถ้าแกโอบอ้อมอารีจะมีกบฏมะ?”

    ไม่

    สรุปว่าแกเลว

    ลูซี่ ฉันเป็นเพื่อนแกนะ…”

    หลังพูดจบ หญิงสาวก็แทบจะทรุดลงไปนั่งกับเก้าอี้ เธอปล่อยตัวเองให้เอนหลังบนเก้าอี้ไม้แข็งๆของบาร์พลางเอานิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะตามเสียงเพลงที่บรรเลงในร้าน

    แล้วเมื่อไหร่ปลาหมึกราดซอสฉันจะมาเนี่ย?” เธอหันไปคุยกับเพื่อนสาว พ่อครัวไปจับปลาหมึกที่ทะเลแวนการ์ดเรอะ?”

    ลูซี่หันขวับ แวนการ์ดมันอยู่เหนือสุดของเฮเมร่าเลยนะ

    เพราะงี้ฉันเลยเปรียบเทียบให้มันดูไกลๆไง

    ลูซี่ไม่ต่อปากต่อคำเพื่อนขี้โม้ของเธอต่อ ทำให้คนรอปลาหมึกได้แต่นั่งเท้าคางรออาหารที่สั่งอย่างเงียบๆ ความจริงก็ไม่เงียบเท่าไหร่เพราะสาวเจ้าเริ่มเอานิ้วชี้เคาะโต๊ะตามจังหวะเพลงแก้เซ็งอีกครั้ง ดวงตาสีส้มดั่งเปลวไฟกวาดมองไปทั่วร้าน ทั้งบรรดาลูกค้าที่นั่งกันเต็มไปหมด ทั้งนักดนตรีเวทที่กำลังเล่นอยู่บนเวที เธอมองซ้ำไปซ้ำมารอบแล้วรอบเล่าจนเริ่มรู้สึกเบื่อ ยิ่งมองเพื่อนตัวเองที่เอาแต่นั่งจ้องภาพอะไรก็ไม่รู้ในกระจกเวทก็ยิ่งเบื่อหนักเข้าไปใหญ่

    ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน ลูซี่ที่กำลังมองภาพในกระจกเวทอยู่เบือนสายตามาทางเธอช้าๆ

    จะไปไหน?”

    จะไปร้านหนังสือแถวนี้ ไว้ปลาหมึกกับแม่หญิงนาซีมาแล้วส่งเลททิต้า (จดหมายเวทมนต์) มาหาฉันด้วย

    รับทราบ

    ลูซี่รับคำเพียงแค่นั้นก่อนจะก้มลงไปมองกระจกเวทต่อ ซึ่งคนเป็นเพื่อนสาบานเลยว่ามันต้องเป็นภาพนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังที่ลูซี่กำลังปวารนาตัวเป็นสาวกอยู่แน่ๆ!

    นี่ฉันมีค่าแค่เวลาที่เธอเหงาใช่มะลูซี่!!!

    หลังจากตัดพ้อในใจจบ สองขาก็พาร่างในชุดเกราะเบาสีแดงฉานใต้ผ้าคลุมสีดำเดินออกมานอกร้าน แต่แค่เดินออกมานอกร้านเธอก็รู้สึกหนาวขึ้นมาทันที ส่งผลให้เจ้าของร่างจำต้องกระชับผ้าคลุมให้แนบเข้าหาตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตาสีส้มมองซ้ายขวาหาสะพาน ก่อนจะใช้มันเดินข้ามไปอีกฝากทันที

    อาการหนาวแบบนี้เป็นเรื่องปกติของคนธาตุไฟที่มาเยือนอาณาจักรแห่งสายน้ำ เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลดีเพราะไฟมักแพ้ทางน้ำ แถมอาณาจักรนี้ยังเต็มไปด้วยแม่น้ำมากกว่าร้อยสาย ทว่าตึกรามบ้านช่องทุกหลังผสานกับแม่น้ำที่รายล้อมได้อย่างลงตัว บนหอคอยบัญชาการประจำอาณาจักรมีผลึกธาตุน้ำที่คอยควบคุมอาณาจักรประดับอยู่ด้วย

    ถึงจะทรมานคนธาตุไฟไปหน่อย แต่ที่นี่สวยมากทีเดียว

    หญิงสาวรีบเดินมาจนถึงร้านขายหนังสือ เธอกระชากประตูร้านให้เปิดออกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ตะเกียงมากมายที่อยู่เต็มร้านพอจะทำให้รู้สึกอุ่นขึ้นมาบ้าง เจ้าของดวงตาสีส้มเดินตรงไปที่เค้าท์เตอร์ ก่อนจะทำการแจ้งรายชื่อแก่ชายชราที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าร้านตามธรรมเนียมการเข้าใช้

    เพิร์ลลิโซเร่ เบรเวลค่ะ

    ชายชราที่เค้าท์เตอร์หรี่ตา ก่อนจะมองเจ้าของชื่อหัวจรดเท้าอย่างอึ้งๆ เจ้าของอาณานิคมแห่งไฟเรอะ?”

    แม่นโลด!” เพิร์ลลิโซเร่ชูนิ้วโป้งพร้อมกับยิ้มแป้น เท่ใช่มั้ยละลุง แต่ดูสิ หนังสือประวัติศาสตร์ทุกเล่มเขียนซะยังกับหนูเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืน!!”

    การเป็นบุคคลหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์มันก็ดีอย่างเสียอย่าง ถ้าเขาไม่เขียนว่าคุณเป็นนางฟ้ามาโปรด ก็ต้องเขียนให้คุณเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามแบบสุดๆ!

    ดูเหมือนสิ่งที่เพิร์ลลิโซเร่ หรือ เพิร์ลพูดจะไม่เข้าหูลุงแกสักเท่าไหร่ ลุงคนเฝ้าร้านยังคงมองเธออย่างตกตะลึง อาการคล้ายกับกำลังตาค้าง แรกๆเธอก็รู้สึกว่าตัวเองเท่ดี แต่หลังจากผ่านไปห้านาทีไม่สิ หกนาที เธอก็เริ่มกลัวๆขึ้นมาทำลุงแกช็อคตายไปรึเปล่า จึงตัดสินใจจะชิ่งไปอ่านหนังสือที่ชั้นสอง ถ้าไม่ติดว่าโดนลุงแกทักขึ้นมาเสียก่อน

    ได้ข่าวว่าโดนกบฏโค่นอำนาจนี่ลำบากแย่เลยนะแม่หนู

    ดวงตาที่ส่องประกายสดใสมาตลอดกระตุกวูบ ก่อนที่เจ้าตัวจะส่ายหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไร

    เรื่องธรรมดาของเจ้าอาณานิคมน่าลุง

    เพิร์ลเค่นยิ้มฝืดๆ ก่อนจะสะบัดตัวหนีไปอ่านหนังสือที่ชั้นบน เธอแนบแผ่นหลังกับตู้หนังสือที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะเริ่มไล่สายตาหาหนังสือสักเล่มที่มันพอจะสะดุดตาแล้วเอาไปอ่านฆ่าเวลาซะบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือ คู่มือทวงคืนอาณานิคมซึ่งเพิร์ลลิโซเร่หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมี! ถ้าไม่มีเธอคงต้องตรงไปที่โรงพิมพ์กลาง แล้วเค้นคอนักเขียนสักคนให้เขียนคู่มือนี่ออกมาซะ!

    ครั้งหนึ่งเพิร์ลเคยเป็นเจ้าของอาณานิคมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเฮเมร่า และเป็นมานานแสนนานจนกระทั่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้น

    เหตุการณ์ที่มีชื่อว่ากบฏแห่งอาเคเธอร์

    “…ช่างมัน!”

    อดีตเจ้าอาณานิคมแห่งไฟสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะให้ความสนใจกับตู้หนังสือตรงหน้าต่อ ชั้นหนังสือทุกชั้นในห้องนี้ต่างสูงจรดเพดาน การจัดเรียงค่อนข้างเป็นระเบียบ แต่ด้วยความสูงของมันทำให้คนไม่ค่อยสูง หรือที่เรียกอย่างหนึ่งว่าเลยเกณฑ์คำว่าเตี้ยมาไม่กี่เซนอย่างเพิร์ลได้แต่เงยหน้ามองจนคอแทบจะหักไปด้านหลัง

    และแล้ว สายตาก็ไปเจอกับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นเกือบบนสุด สันปกของมันเขียนไว้ว่า ความฝันของอัศวิน พิมพ์ครั้งที่ 77’

    นิยายแฟนตาซีเรอะ? เพืร์ลถามตัวเองในใจ ก่อนจะยืดแขนสุดความยาวไปหยิบหนังสือเล่มนั้น

    วืด

    เธอจับได้เพียงอากาศเปล่า

    เพิร์ลจิ๊ปาก ก่อนจะยกปลายเท้าขึ้นเพื่อทำการเขย่งสุดชีวิต เธอเอื้อมมือไปหมายจะให้โดนสันปกของหนังสือเล่มนั้น แต่ก็

    วืด

    ความเตี้ยไม่เคยปราณีใคร…!

    บ๊ะ ฮึบ!”

    เธอพยายามลองแล้วลองอีก ลองจนนิ้วเท้าแทบจะหักดังกร๊อบ แต่ก็แตะได้แค่ความว่างเปล่า เธอเริ่มปีนตู้หนังสือ แต่จุดให้เกาะมีน้อยเกินไป ทำให้การเขย่งบันลือโลกเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเพิร์ลอยากจะถีบตู้คว่ำ ให้หนังสือกองลงมากระจัดกระจายจะได้หยิบอ่านได้ง่ายๆ แหมโชคดีที่อดีตเจ้าอาณานิคมเพลิงมีจิตสำนึกมากพอที่จะไม่ทำแบบนั้น

    “…”

    เพิร์ลย่อตัวลง เตรียมเขย่งใหม่อีกที กะว่าคราวนี้ถ้าไม่ถึงอีกเธอจะยอมแปลงร่างเป็นจิ้งจกไปหยิบหนังสือ

    ว่าแต่เธอทำได้เรอะ!?

    ช่วยหยิบมั้ยครับ?”

    ฮะ คะ?”

    ไม่ทันจะได้ลองยืดตัวเพิ่มความสูงอีกรอบ ก็มีเสียงๆหนึ่งหยุดเธอเอาไว้ เพิร์ลหันไปมองตามต้นเสียงทันทีที่ได้ยิน สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงในชุดคลุมสีดำ ตัดกับเส้นผมสีเงินและดวงตาสีฟ้าบนใบหน้าที่จัดได้ว่าหล่อลากไส้ไม่ๆ หล่อขนาดนี้มันถึงขั้นหล่อฉุดกระชากลากถูไส้เลยด้วยซ้ำไป…!

    ทว่าเพิร์ลไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาพรรณนาว่าไอ้หมอนี่หล่อนักหล่อหนาแค่ไหน เธอแค่สรุปในใจรวดเดียวว่ามันหล่อ ก่อนจะยกนิ้วชี้ไปที่หนังสือข้างบน

    เล่มไหนครับ?” เขาถามซ้ำ

    สันสีเหลือง ความฝันของอัศวินค่ะ

    อ๋อ…” ชายหนุ่มลากเสียงหน่อยๆ เขาค่อยๆเขย่งปลายเท้านิดๆก่อนจะหยิบหนังสือเล่มที่เธอต้องการลงมาได้อย่างสบายๆ นี่ครับ

    ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะ

    ชายผมเงินยิ้มให้ ไม่เป็นไรครับ

    เพิร์ลลิโซเร่ก้มหน้าลงก่อนจะเปิดหนังสือที่ชายหนุ่มเพิ่งจะส่งมันให้ เธอกวาดสายตาอ่านเรื่องคร่าวๆ ก่อนจะหลุดขำพรืด โหย แหวกแนวสุดๆอะ พระเอกเป็นคนแก่

    หนุ่มผมเงินพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้ม เรื่องนี้ดังอยู่นะครับ

    บทบรรยายดีบรมเลย ทำไมฉันไม่แต่งได้แบบนี้มั่ง!”

    คำพูดนั้นเล่นเอาคนหยิบหนังสือให้หัวเราะออกมา เพิร์ลยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือในมือไปเรื่อยๆพลางหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อถึงฉากที่เป็นมุขตลก ทำให้ชายผมเงินที่เดินไปหยิบหนังสือของตัวเองมาอ่านบ้างหันกลับมามองก่อนจะหัวเราะตามเบาๆ

    คนแต่งหนังสือเล่มนั้นอยู่ที่แคว้นของผมเองครับ

    โหยยยยย!” ดวงตาสีส้มเป็นประกาย ว่างๆเอาลายเซ็นมากฝากมั่งก็ดีนะคะ!”

    ด้วยความยินดีเลยครับ ถ้าเราเจอกันอีกครั้งนะ

    เพิร์ล จู่ๆ บนบันไดก็มีก้อนอะไรก็ไม่รู้สีฟ้าๆลอยขึ้นมา ก่อนที่มันจะเดลิเวอรี่ลอยมากระแทกหน้าหญิงสาวอย่างแรง!

    ซ่า!!

    อาเธอบรรลุแล้ว ไอ้นี่มันคือเลททิต้า แล้วไอ้ก้อนสีฟ้าๆที่เห็นเมื่อกี้เป็นน้ำ แล้วมันก็แตกตู้มตรงหน้าเธอ เยี่ยมเยี่ยมอะไรขนาดนี้

    เพิร์ลลิโซเร่เอามือลูบน้ำที่เต็มหน้า เมื่อแน่ใจว่าน้ำจะไม่เข้าตาก็ค่อยๆจ้องมองไอ้จดหมายนรกที่ร่วงลงบนมือเธอเรียบร้อยแล้วอย่างอาฆาต เลททิต้าจะแสดงลักษณะตามธาตุของผู้ส่ง และไอ้น้ำบ้าๆนั่นก็เป็นเครื่องการันตีชั้นดีว่าคนส่งเป็นคนธาตุน้ำแหงแซะ

    ลูซี่แน่ๆ…”

    สาวในผ้าคลุมดำบ่นงึมงำ ขณะใช้มือคลี่จดหมายที่ไม่เปียกน้ำออกอ่านลวกๆ

    รีบมาซะ!!!

    ลูซี่

    ถ้าหล่อนจะเขียนแค่นี้นะ

    แม้คำพูดจะคล้ายกับว่าคนพูดกำลังโมโห แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพิร์ลหัวเราะในลำคอก่อนจะแบมือออก ก่อนที่เปลวไฟสีแดงฉานจะเผาจดหมายฉบับนั้นทิ้งไม่เหลือซาก เธอไม่ได้โกรธอะไรลูซี่เลยแม้แต่สักนิดเดียว เธอแค่ไม่รู้จะเก็บจดหมายที่มีแค่สามพยางค์บวกกับอัศเจรีย์บ๊องๆอีกสามตัวไว้ทำไมก็แค่นั้น

    มือขวาดึงผ้าคลุมให้เข้าที่ ก่อนที่เพิร์ลจะหันหลังเดินลงบันไดร้านไปโดยไม่ลืมหันไปเอ่ยลาต่อชายหนุ่มผมเงินที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

    ขอตัวนะคะ!”

    เขายิ้มตอบพร้อมกับโบกมือลา เดินดีๆนะครับ

    เพิร์ลหันมาผงกหัวให้กับคำพูดนั้นก่อนจะสับขาวิ่งลงบันไดต่อไป แต่แล้วเท้าเจ้ากรรมกลับเหยียบชายผ้าคลุมตัวเองเข้าเต็มๆ ส่งผลให้อดีตเจ้าอาณานิคมแห่งไฟกลิ้งหลุนๆๆๆ ตกบันไดลงมาในพริบตา!

    ไอ้รองเท้าเวรรรรร!!!”

    อนิจจา เหมือนคำอวยพรจะไปไม่ถึงซะแล้ว


     

     

    ☆Holder`
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×