คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : My Peter Pan: Chapter10
“ อยู่กับฉันทั้งคืนมันไม่สะใจใช่มั้ยเธอถึงได้แล่นไปหาผู้ชายคนอื่นแต่เช้าแบบนี้
” ร่างสูงที่ยืนอยู่นอกระเบียงรับรู้ถึงการเข้ามาของเจ้าของห้องทันทีที่เสียงประตูถูกเปิดออก
หลังจากที่ทำให้เขาร้อนเป็นไฟอยู่นานแทยอนก็ยอมโผล่หัวมาสักที “ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำตัวง่ายกับผู้ชายคนอื่น...ในขณะที่เธอกำลังเป็นของของฉันอยู่
”
แทยอนตอนนี้มีเพียงเสื้อผ้าน้อยชิ้นปกปิดร่างกายดูจะตกใจไม่น้อยที่เห็นการปรากฎตัวของเขา
ใบหน้าเรียบนิ่งยังคงเอกลักษณ์ดังเดิมเฉกเช่นที่เคยมีให้เธอเหมือนทุก ๆ ครั้งที่เจอหน้ากัน...ตอนนี้แทยอนโกรธจนไม่รู้จะโกรธยังไงแล้วที่เขาทำแบบนี้
แบคฮยอนแอบเข้าห้องเธอโดยพลการแถมยังมาเจอเธอในสภาพแบบนี้อีก
ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
“ รุ่นพี่!
”
ร่างเล็กรีบขนขวายหาผ้าขนหนูที่ห้อยอยู่แถวนั้นมาปกปิดส่วนที่อยู่นอกเหนือเสื้อผ้าชิ้นน้อย
แบคฮยอนยังคงเดินหน้าเข้าหาเธอเรื่อย ๆ อย่างเชื่องช้าราวกับหมาป่าที่กำลังจะตะปบเหยื่อผู้โชคร้ายให้สิ้นลมในทันที
สายตาที่แข็งกร้าวทำให้หัวใจของแทยอนไหลลงไปรวมกับเครื่องในอยู่ที่ตาตุ่ม
“ ทำไม? ตกใจมากหรอที่เห็นหน้าฉันเนี่ย ”
“ ก็ใช่น่ะสิคะ...รุ่นพี่เข้ามาในห้องของฉัน
ทำไมไม่บอกฉันก่อน แอบเข้าห้องคนอื่นแบบนี้มันผิดรู้มั้ยคะ? ”
“ ห้องคนอื่นที่ไหน...นี่มันห้องของฉันต่างหากทุกตารางนิ้วของห้องนี้เป็นของฉัน
รวมทั้งเธอด้วย ” จริงอย่างที่แบคฮยอนพูด ทุกอย่างในห้องนี้รวมทั้งตัวของแทยอนตอนนี้ถูกตีตราด้วยชื่อของแบคฮยอนไปเสียหมด...แต่ก็นั่นแหละ
ถึงยังไงร่างกายของเธอ เธอก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่บ้างไม่มากก็น้อยไม่ใช่หรอ
“
แต่ถึงอย่างนั้นรุ่นพี่ก็ควรจะอยู่ในที่แจ้งไม่ใช่ที่มืดแบบนั้น
ฉันจะได้เห็นว่ารุ่นพี่ก็อยู่ในห้องนี้ด้วย แล้วตอนนี้ก็จะได้ไม่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้
”
“
สภาพแบบนี้นี่...แบบไหนเหรอ? ”
ร่างสูงเขยิบเข้าไปใกล้คนตัวเล็กเรื่อย
ๆ จนเธอถอยหลังกรูด ทว่าโชคชะตาเหมือนกลั่นแกล้งเพราะทางที่แทยอนถอยหลังไปนั้นกลับเป็นเตียงนุ่ม
ๆ ทำให้คนตัวเล็กหงายหลังลงไปกับฝูกอย่างช่วยไม่ได้...แบคฮยอนยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินเข้ามากระโดดขึ้นคร่อมคนตัวเล็กที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงอย่างเจ้า
นี่เธอกำลังให้ท่าเขาอยู่ชัด
ๆ
“
เธออ่อยฉัน ” นิ้วเรียวยาวของคนบนร่างไล้ลงเบา ๆ ตามโครงหน้าสวยทำเอาแทยอนขนลุกซู่และไถลตัวลงไปกับเตียงจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน...สายตาที่มีแต่ความเจ้าเล่ห์ทำเอาคนมองร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
ยิ่งถูกมองในสภาพแบบนี้แล้วยิ่งรู้สึกร้อนทั้งกายและใจไปกันใหญ่
“
อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะคะ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน ”
“
กลัวจังเลย ”
“
ฟังกันบ้างสิคะ เลิกแกล้งฉันได้แล้ว ” มือเรียวยกขึ้นมาดันอกแกร่งเอาไว้ไม่ให้มันเข้ามาแนนชิดกับร่างกายมากจนเกินไป
ผิดกับแบคฮยอนที่ยิ่งผลักไสมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากเข้าใกล้เธอมากเท่านั้น
มือหนาจัดการรวบแขนเรียวทั้งสองข้างให้แนบไปกับเตียงพรางยกยิ้มเล็กน้อย
ทีแรกแบคฮยอนกะว่าจะแกล้วพอเป็นพิธีเท่านั้นแต่ทว่ากลิ่นหอมอ่อน ๆ
ของคนตัวเล็กทำให้สติของเขาหลุดลอยไปไกลเกินจะกู่ให้กลับ...เวลานี้ริมฝีปากเล็กสีชมพูอ่อนนั่นมันช่างเย้ายวนและดึงดูดให้เขาอยากจะริ้มรสความหอมหวานจากมัน
“
ปากน่าจูบจัง ”
“
อะไรนะ...อุ๊ป ” ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะพูดจบ
ริมฝีปากหนาก็จัดการทาบทับลงไปยังริมฝีปากของคนตัวเล็กที่นอนดีดดิ้นอยู่ใต้ร่าง
แบคฮยอนเก็บเกี่ยวเอาความหวานจากริมฝีปากของร่างบางอย่างเพลิดเพลินจนทำให้แทยอนลืมไปชั่วขณะว่ากำลังต่อต้านเขาอยู่
ใจดวงน้อยเต้นแรงพอ
ๆ กับอีกคนที่อยู่บนร่าง ทั้ง ๆ
ที่รู้อยู่เต็มอกว่าแบคฮยอนเกลียดเธอแต่ไม่รู้ทำไมแทยอนถึงได้ปล่อยใจให้ไปกับเขาในเวลานี้
เขาดูอ่อนโยนมากกว่าปกติแม้ไม่ได้พูดอะไรแต่เธอก็สัมผัสได้...ร่างสูงผละออกจากร่างเล็กอย่างเชื่องช้าราวกับว่าเสียดายช่วงเวลาที่กำลังจะจบลง
มือหนาเลื่อนมาปัดปอยผมที่ปกปิดใบหน้าสวยหวานที่อยู่ใต้ร่างก่อนจะพรมจูบลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา
“
ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย ”
“
ตอนนี้ปล่อยได้รึยังคะ? ”
“
ไม่อยากปล่อยอ่ะ อยากทำอย่างอื่นมากกว่า ”
“
นี่รุ่นพี่เมาหรอคะ? ”
“ ฉันไม่ได้กินเหล้าจะเมาได้ไง
ให้เมาอากาศเหรอ? ” พูดจบก็ก้มหน้าลงไปฝังจมูกกับพวงแก้มใสและปล่อยค้างมันเอาไว้อย่างนั้นเพราะเขารู้ดีว่าแทยอนไม่กล้าขัดขืนอะไรอยู่แล้ว
แทยอนกลัวเขาอย่างกับอะไรดี ขู่อะไรนิด ๆ หน่อย ๆ
ก็กลัวแล้ว...แต่ถ้าจะหยุดอยู่แค่นี้มันก็ไม่ใช่แบคฮยอนน่ะสิ จมูกโด่งเลื่อนลงจากพวงแก้มสีชมพูอันหอมกรุ่นมายังลำคอขาว
ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเลยด้วยซ้ำเสียงแหลม ๆ
ของเครื่องมือสื่อสานก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน
Rrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นระงมทั่วห้องทำให้แบคฮยอนต้องจำใจผละออกจากร่างเล็ก...ร่างสูงสบอย่างอารมณ์เสียในขณะที่แทยอนกลับรู้สึกโล่งใจเหมือนยกอุกกาบาตลูกใหญ่ออกจากอกได้สำเร็จ
ร่างเล็กรีบถอยหลังกรูดไปติดกับหัวเตียงพรางกระชับผ้าห่มหนาขึ้นมาปกปิดร่างกายให้แน่นขึ้นป้องกันการจู่โจมจากคนตัวสูง
“ ว่าไง? ”
[ คือตอนนี้ที่บริษัทเกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ...คุณแบคฮยอนรีบออกมาด่วนเลย ข้อมูลลับของเรารั่วไหลออกไป
แล้วเราก็พึ่งพบว่ามีเงินสูญหายจากบัญชีของทางบริษัทเป็นจำนวนสองร้อยสิบห้าล้านวอนครับ
]
น้ำเสียงของชายวัยกลางคนที่ดูร้อนรนผสมปนเปกับความกังวลใจถูกส่งผ่านมายังปลายสายที่พอได้ยินเช่นนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการกระวนกระวายไม่แพ้กัน
เพราะบริษัทดังกล่าวนั้นเปรียบเสมือนเสาหลักในการค้ำจุนธุรกิจต่าง ๆ ของทั้งสิบสองตระกูลรองลงมาก็คือโรงเรียนแห่งนี้การปล่อยให้สองธุรกิจนี้มีปัญหาก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เขาตัดท่อน้ำเลี้ยงทิ้ง
และในฐานะที่แบคฮยอนก็เป็นหนึ่งในสี่หุ้นส่วนใหญ่ซะนั้นเขาจึงต้องรีบไปเพื่อที่จะได้แก้ไขเรื่องบ้า
ๆ นี่ให้จบ...โดยปกติแล้วปัญหาต่าง ๆ ที่บริษัทจะมีบิดาของพวกเขาเป็นผู้ควบคุมอยู่แล้วแต่หากตอนนี้พวกท่านได้เดินทางไปร่วมงานนักธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วทั้งเอเชียที่ปักกิ่งทำให้ปัญหาต่าง
ๆ ที่เกิดขึ้นที่นั้นตกเป็นของพวกเขาโดยปริยาย
“ ดูแลกันประสาอะไรทำไมปล่อยให้เกิดปัญหาได้...แล้วนี่โทรบอกคนอื่นแล้วหรือยัง
”
[ ยังเลยครับ ผมโทรมาบอกคุณแบคฮยอนก่อน ]
“ งั้นฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย
เตรียมสอบสวนพนักงานฝ่ายบริหารฝ่ายบัญชีและทุกพากส่วนที่เกี่ยวข้อง ”
[ ครับ...เอ่อ คือเรื่องนี้ผมพึ่งรู้มา ผมจึงบอกคุณแบคฮยอนเป็นคนแรก
คุณแบคฮยอนจะให้ผมประกาศหาตัวคนทำผิดตอนนี้เลยมั้ยครับหรืออะไรยังไงต่อ ]
“ เรื่องนี้อย่าพึ่งป่าวประกาศไป
เดี๋ยวไก่ตื่นหมด...ฉันจะเข้าไปจัดการเอง แค่นี้แหละ ”
พูดจบแบคฮยอนก็ยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงตามเดิมแล้วเปลี่ยนจากโหมดเคร่งเครียดเป็นทำหน้าเรียบนิ่งพรางส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้คนตัวเล็กทำเอาหญิงสาวขนลุกซู่กับสายตาแบบนั้นที่แบคฮยอนมอบให้
“ วันนี้เธอรอดตัวไปเพราะฉันมีธุระต้องไปจัดการ...แต่หลังจากนั้นฉันจะกลับมาเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก
รอฉันนะเด็กน้อย ” ร่างสูงใช้น้ำเสียงแหบพร่าอันแผ่วเบากระชิบไปที่ข้างหูของร่างเล็กทำเอาแทยอนเลือดขึ้นหน้าแก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ
ใจดวงน้อยเต้นแรงราวกับจะถล่นออกมานอกเบ้าสิ่งที่แบคฮยอนทำเปรียบเสมือนการร่ายมนต์สะกดที่ทำให้เธอไม่สามารถขยับเนื้อตัวไปไหนได้
อะไรคือการเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก!
“ อ้อ
แล้วก็อย่าคิดไปอ่อยใครอีกล่ะ ไม่งั้นเธอโดนหนักกว่านี้แน่
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกฉันจะทำในสิ่งที่ทำให้ผู้ชายทั้งโรงเรียนไม่กล้าเข้าใกล้เธอแม้กระทั่งเซฮุนกับชานยอล
”
ร่างสูงเจ้าของใบหน้าและจิตใจอันแสนเย็นชาที่กำลังเดินออกไป
แต่ทว่ากลับชะงักกลางทางแล้วหันหลังกลับมาเพราะพึ่งนึกอะไรขึ้นได้ ทำให้แทยอนที่ได้ยินคำพูดกำกวมเช่นนั้นอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับคนเย็นชาออกไป
“ รุ่นพี่มีอะไรหรอคะ?
หันกลับมาทำไม? ”
“ รอยที่คออ่ะ
ถือเป็นค่ามัดจำนะ ”
เขากระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปเดินต่อด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่...เพราะแทยอน
ผู้หญิงคนนั้นกำลังทำให้กำแพงทิฐิที่ก่อตัวขึ้นสูงของเขาสั่นคลอน
กำแพงที่แบคฮยอนสร้างมันขึ้นมานานกว่าสองปีกลับดูเปราะบางไปเลยเมื่อเจอใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น
คนที่ทำให้แบคฮยอนต้องเปลี่ยนไปกลายเป็นเขาในทุก ๆ วันนี้...
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ทำอะไรแบบนั้น
เพราะอะไรเขาถึงแค้นแทยอนมากมายขนาดนั้น
ความรักที่เขาเคยมีต่อเธอมันลบล้างความผิดที่เธอเคยทำไม่ได้เลยเหรอ?
แต่สุดท้ายคำถามพวกนั้นก็ถูกกลืนไปด้วยความคิดที่ว่าการเกลียดแทยอนคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
แต่แค่เพียงแบคฮยอนหยุดคิดแล้วฟังเสียงหัวใจของตัวเองสักนิด
เขาก็จะได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองบอกให้เขาหยุดและยอมรับเสียทีว่าไม่เคยมีวินาทีไหนเลยที่แบคฮยอนจะไม่รักแทยอน
ไหล่บางของหญิงสาวสั่นไหวเพราะอารมณ์ที่กำลังอ่อนแอ
น้ำตาแห่งความทุกข์ไหลรินอาบแก้มขาวเนียนอย่างน่าสงสาร...ยุนอานั่งก้มหน้าร้องไห้ในห้องที่แม้แต่แม่บ้านที่จะเข้ามาทำความสะอาดยังต้องขออนุญาตจากเจ้าของห้องก่อน
แต่สำหรับเธอ จะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้เพราะเจ้าของห้องไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว
"
พี่ยุนอาเป็นอะไรครับ? "
เสียงทุ้มต่ำของเด็กหนุ่มร่างสูงเอ่ยขึ้นถามหญิงสาวผู้ที่เขาเคยมีใจให้...ซึ่งทุกวันนี้ความรู้สึกดีก็ยังคงมีอยู่ถึงแม้จะเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ตามเพราะเธอคนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของพี่ชาย
แต่นั้นยังไม่เจ็บปวดเท่าที่การที่เขากำลังจะเกิดความรู้สึกที่เรียกว่ารักกับผู้หญิงของแบคฮยอน...อีกแล้ว
และคราวนี้ความรู้สึกของเขาก็แตกต่างจากตอนของยุนอาอยู่มากจนเขาเองยังกลัวใจตัวเองว่ามันจะเผลอรักคนตัวเล็กเข้าสักวัน
"
เซฮุน ฮึก ฉันไม่เหลือ ฮึก ใครอีกแล้ว " เสียงสะอื้นอันน่าสมเพชของหญิงสาวดังระงมทั่วห้องเสียจนชายหนุ่มร่างสูงอดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเธอในทันที
"
ใจเย็น ๆ แล้วค่อยพูดนะครับ พี่มีอะไรบอกผมได้ ผมยินดีที่จะช่วย
" ร่างเล็กโผลเข้าโอบเอวของร่างสูงไว้พรางเอาหน้าซบลงตรงช่วงท้องแกร่งก่อนจะระบายความอัดอั้นตันใจที่มีออกมา
ทำเอาคนถูกกอดใจหายยวบไปกับเสียงสะอื้นของเธอ
"
นายพูดจริง ๆ นะเซฮุน...นายอย่าทิ้งฉันนะ ฮึก เพราะตอนนี้ ฮึก ฉันไม่เหลือใครแล้วจริง
ๆ "
"
ไหนคนดีของผม ลองเล่าให้ผมฟังสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น "
"
เซฮุน นายต้องฟังฉันนะ นายต้องเชื่อฉันนะ อย่าไปหลงกลยัยแทยอนเด็ดขาดนะ
ยันนั่นมันมารยา...นายไม่รูหรอกว่ายัยนั่นเคยหลอกอะไรแบคฮยอนไว้บ้าง " คำพูดของยุนอาทำเอาเซฮุนคิ้วขมวด แทยอนหลอกอะไรแบคฮยอนอย่างงั้นเหรอ?
ทั้งคู่เคยรู้จักกันมาก่อนเหรอ?
" ครับ? แทยอนทำอะไรแล้วเธอเคยไปหลอกอะไรพี่แบคฮยอนหรอครับ
ช่วยเล่าให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย "
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมจ้องมองยุนอาด้วยความอยากรู้ที่มีอยู่เต็มอก
ยิ่งได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งเกิดความรู้สึกอยากรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
และนั่นยิ่งทำให้ทุกอย่างเข้าทางยุนอาไปกันใหญ่ หญิงสาวลอบยิ้มอย่างผู้ชนะภายใต้ใบหน้าสวยหวานที่แนบกับแผงอกแกร่งของร่างสูงก่อนจะผละออกจากอกแกร่ง
"
นายอยากรู้จริง ๆ หรอเซฮุน แต่การที่ฉันทำแบบนี้เท่ากับว่าฉันเอาแทยอนมาแฉเลยนะ
นายอาจจะมองเธอไปในทางที่ไม่ดีก็ได้...ฉันไม่อยากให้นายเกลียดแทยอนเลยนะ ถึงแม้ว่าแทยอนจะ...
"
"
จะอะไรครับ? "
"
นายไม่สงสัยเลยหรอว่าทำไมแบคฮยอนถึงได้ดูเจ้าคิดเจ้าแค้นกับแทยอนนัก
"
"
... "
“
ไม่เคยสังเกตเลยหรือไงว่าแบคฮยอนเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ฉันเลิกกันเขา
ก่อนที่จูฮยอนจะตาย ”
"
ผมไม่อยากจะเชื่อ แทยอนของผมไม่มีทางทำเรื่องบ้า ๆ พวกนั้นได้แน่ ๆ
"
"
แล้วนายจะบอกว่าฉันโกหกหรอเซฮุน? "
"
ผม...ไม่รู้ "
เซฮุนบอกออกไปตามที่ใจคิด...ใจนึงเขาก็เชื่อที่ยุนอาพูดแต่อีกใจนึงเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง
ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เซฮุนไม่อยากจะรับรู้เรื่องอะไรเลยทั้งสิ้นเพราะสิ่งที่เธอพูดมันทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบ
ๆ ที่ก้อนเนื้อตรงอกข้างช้าย
ทำไมต้องเป็นแทยอน
ทำไมถึงไม่ยอมบอกไม่ยอมเล่าอะไรให้เขาฟังทั้งที่แบคฮยอนเคยทำร้ายจิตใจเธอมากขนาดนั้น...ผู้หญิงตัวเล็ก
ๆ ที่ดูไม่มีพิษมันมีภัยอะไรแต่ทำไมเบื้องหลังกลับเคยสร้างเรื่องเลวร้ายเอาไว้มากมาย...ทำไมเธอถึงทำเรื่องพวกนี้ได้
ทำไมถึงยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อแบคฮยอน ทำไมถึงต้องใส่ร้ายยุนอา ทำไมถึงต้องทำอะไรมากมายขนาดนั้น...เซฮุนได้แต่คิดอยู่ในใจแต่เพียงผู้เดียว
ตกลงแล้วเธอเป็นคนยังไงกันแน่?
"
สุดท้ายแล้วนายก็เชื่อแทยอน ฮึก ไม่มีใครรักฉันเลยสักคน ฮึก
ฉันอยากตาย! " ร่างเล็กพร่ำร้องไห้คร่ำครวญพรางเอากำปั้นเล็กทุบอกตัวเองอยู่แบบนั้นจนผมรีบวิ่งเข้ามาห้ามทันที
ปกติพี่ยุนอาไม่ใช่คนที่จะร้องไห้กับอะไรง่าย ๆ แต่นี่เธอคงเหลืออดแล้วจริง ๆ
"
อย่าทำแบบนี้สิครับ ที่ผมพูดแบบนั้นมันไม่ได้แปลว่าพี่โกหก ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าแทยอนจะทำอะไรแบบนั้นได้...ก็แค่นั้น
"
"
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะยัยเด็กนั่นมันร้ายจริง ๆ เซฮุนนี่ฉันหวังดีดับนายนะ
ฉันไม่อยากให้นายโดนหลอก...ฉันไม่อยากให้แบคกับนายต้องผิดใจกันเพราะความมารยาของผู้หญิงคนนั้นแค่คนเดียว...นะเซฮุน
เลิกหยุ่งกับแทยอนเถอะนะ ถือว่าเห็นแก่ฉันเถอะ...เซฮุนได้โปรด แทยอนเคยทำร้ายฉันทำร้ายเอสแล้วก็แบคเอาไว้มากมายฉันไม่อยากให้เธอทำแบบนี้กับนายเลยจริง
ๆ "
ยุนอาช้อนสายตามองเซฮุนด้วยแววตาอ้อนวอนเพื่อหวังว่าเซฮุนจะใจอ่อนเลิกหยุ่งกับแทยอนไปซะ
หากเขายังตามติดและดีกับแทยอนอย่างนี้ไปเรื่อย
ๆ แน่นอนว่าแผนการที่เธอและเอสร่วมกันวางไว้คงไม่สำเร็จ
พูดออกไปขนาดนั้นยังไงเซฮุนก็ต้องมองแทยอนต่างออกไปจากเดิมบ้างแหละ
ไม่มากก็น้อย แต่ที่ยุนอาต้องการคือให้เซฮุนเกลียดหรือไม่ก็โกรธแค้นเธอไปเลยก็ได้เรื่องทุกอย่างจะได้ง่ายขึ้น
เพราะยุนอารู้ดีว่าเมื่อก่อนนั้นเซฮุนเคยแอบชอบเธอ แต่เพราะตอนนั้นใจของยุนอามีเพียงแบคฮยอน
เซฮุนจึงกลายเป็นแค่น้องชายที่แสนดี
ความสนิทสนมที่เซฮุนมอบให้จึงทำให้ยุนอารู้ดีว่าหากโอ
เซฮุนได้โกรธได้เกลียดใครแล้ว แม้แต่หน้าก็ยังไม่อยากจะมอง สิ่งที่เซฮุนเกลียดที่สุดก็คือการโกหกเสแสร้งและตอนนี้ทุกอย่างที่เธอเล่ามันก็ได้ชี้ชัดแล้วว่าแทยอนเป็นอย่างนั้น
"
ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...ถึงเมื่อก่อนแทยอนจะเคยทำเรื่องเลวร้ายอะไรไว้มากมาย
แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่สามารถเอามาตัดสินได้ว่าตอนนี้แทยอนเป็นคนแบบไหน
"
"
เลิกบ้าสักทีเซฮุน! ถ้านายรู้ว่าแทยอนเป็นเมียของเอสนายยังจะมองยัยนั่นเป็นคนดีอยู่มั้ย?!
"
"
เมื่อกี้...พี่พูดว่าอะไรนะ! "
"
ฉันบอกว่า แทยอนเป... "
ก๊อก
ๆ ๆ
"
เซฮุนอยู่ในห้องใช่ไหม? เปิดประตูให้พี่หน่อย ”
ไม่ทันที่ยุนอาจะได้ย้ำประโยคเดิมที่บาดลึกลงขั้วหัวใจของเซฮุน
จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตู
เซฮุนรู้ทันทีว่าเป็นใคร เขาละความสนใจจากยุนอา ขายาวก้าวไปยังประตูห้องอย่างเชื่องช้าเพื่อเปิดให้พี่ชายคนสนิทได้เข้ามา...ทันทีที่เซฮุนเปิดประตูปาร์ค
ชานยอลก็ก้าวเข้ามาในห้องทันทีอย่างถือวิสาสะ
“ พี่มีอะไรเหรอครับ?
”
“
อ่อ ว่าจะมา...อ้าว ยุนอา เธอมาทำอะไรที่นี่อ่ะ ”
“
เอ่อคือ... ”
“
พี่ยุนอาติดต่อพี่แบคฮยอนไม่ได้น่ะครับ เธอเลยมาถามผมว่าเห็นพี่แบคฮยอนบ้างรึเปล่า
และตอนนี้เธอก็กำลังจะกลับแล้วด้วย...ลาก่อนนะครับพี่ยุนอา โชคดีครับ ”
“ เหรอ?
งั้นแกมานี่ มากับฉัน ”
“
ไปไหนเหรอครับ? ”
“
มาเหอะน่า... ”
อ๊อด
ๆ
เสียงออดห้องของร่างเล็กที่มีนามว่าคิม
แทยอนดังขึ้นเรียกสติของคนที่จิตใจกระเจิดกะเจิงลอยเขว้งขว้างกลางอากาศให้กลับมาสู่สภาวะปกติ...ร่างเล็กรีบวิ่งไปหยิบเสื้อผ้าแถวนั้นมาสวมใส่ก่อนจะวิ่งไปที่ประตู
ทันทีที่เปิดประตูออกไปก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงสองคนยืนอยู่ที่หน้าห้อง...ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มสดใสที่เห็นเมื่อไหร่ก็มีความสุขยืนอมยิ้มมองแทยอนไม่วางตาต่างจากเพื่อนหนุ่มอีกคนนึงที่วันนี้เขากลับมีท่าทีที่แปลกไป...ใบหน้าหล่อเหลาดุจรูปปั้นที่น่าหลงใหล
แต่หากตอนนี้ใบหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาและดูยากเหลือเกินว่าเขาคิดอะไรอยู่
จะว่ายิ้มก็ไม่ใช่จะว่าโกรธก็ไม่เชิงเพราะมันนิ่งเสียจนร่างเล็กแอบคิดในใจว่าวันนี้เพื่อนหนุ่มผู้น่ารักของเธอลืมเอาความรู้สึกมาด้วยรึเปล่า
วันนี้นายเป็นอะไรของนายน่ะเซฮุนดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย
แบบนี้ฉันควรทำยังไงให้นายยิ้มให้ฉันดี นายรู้มั้ยว่านายกำลังทำให้ฉันใจไม่ดี
"
มีอะไรรึเปล่าคะ? "
"
ไปกินไอติมกัน "
"
คะ? "
ไม่ทันที่แทยอนจะได้ตอบตกลงอะไรชานยอลก็ดึงมือให้ร่างเล็กเดินมาตามแรงฉุดโดยมีเซฮุนเดินตามหลังมา
หลังจากที่เขาปิดประตูล็อกห้องให้คนตัวเล็กเรียบร้อย...สำหรับคนทั่วไปอาจจะชินและเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาแล้วกับใบหน้าแบบนี้ของเซฮุนเพราะเขาก็มักจะทำหน้าแบบนี้ตลอดเวลา
แต่สำหรับแทยอนแล้วถือว่ามันคือเรื่องที่ไม่ควรปล่อยเอาไว้เพราะตั้งแต่เจอหน้ากัน เธอก็มักจะได้รับรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันจากเขาคนนี้เสมอ
เธอจึงไม่ชินที่เขาไม่ยอมยิ้มสักที
"
แทยอนจะเอารสอะไรเดี๋ยวพี่ไปสั่งให้? "
ชานยอลเอ่ยถามในขณะที่แทยอนกำลังจะย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้สีอ่อน
ชานยอลพาเธอมากินร้านเดิมร้านที่เขาและเซฮุนพาเธอมาในวันแรกที่เจอกัน
"
เอารสบลูเบอร์รี่ค่ะ แล้วเซฮุนล่ะนายจะเอาอะไร? "
"
ฉันไม่กิน " เสียงเรียบที่ออกมาจากปากของเซฮุนทำให้แทยอนได้แต่มองหน้าเขา
เซฮุนในเวลานี้น่ากลัวพอ ๆ กับแบคฮยอนเลยแต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังพยายามที่จะเรียกรอยยิ้มของชายหนุ่มให้กลับมาอีกครั้งโดยการส่งยิ้มให้เขา
"
ได้ไง...นายกับรุ่นพี่ชานยอลเป็นคนชวนฉันออกมานะ นายต้องกินด้วยกันสิ
"
"
ก็ฉันไม่อยากกิน "
“
แล้วแต่ไม่กินก็ไม่ต้องกิน...งั้นเดี๋ยวพี่มานะ ไปสั่งให้ก่อน ”
“
ค่ะ ” แทยอนก้มหัวเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองเซฮุนต่อ
หลังจากที่แน่ใจว่าชานยอลเดินออกไปไกลพอสมควรแล้วเธอจึงเริ่มพูดสิ่งที่คาใจกับเซฮุน
“ เซฮุน นายโกรธอะไรฉันอยู่รึเปล่า? ฉันทำอะไรผิดไปหรอ? ทำไมนายถึงได้เอาแต่เงียบแบบนี้ล่ะ นายเป็นอะไรนายก็พูดมาสิ”
“ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรหนิ
”
“ จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง
นายกำลังโกรธฉันอยู่เห็น ๆ ”
“ ใครบอกเธอล่ะ
”
แทยอนเงียบไปกับคำพูดของโอ
เซฮุน ท่าทางแบบนี้น้ำเสียงแบบนี้คำพูดแบบนี้มองมาจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าเขาโกรธ...คนที่เอาแต่ยิ้มให้ทุกครั้งที่เจอ
คอยใส่ใจในทุก ๆ เรื่อง ดีกับเธอทุก ๆ อย่างเปลี่ยนไปใครบ้างจะไม่รู้
"
...เซฮุน "
" ... "
“ ขอได้ไหม...ขอให้เซฮุนคนเดิมกลับมา
ไม่เอาคนนี้ ไม่เอาคนที่เฉยชากับฉํน มันไม่สนุกเลย ไม่สนุกเลยสักนิ ”
“
... ”
"
ก็ได้ ถ้านายไม่อยากคุยกับฉันตอนนี้ก็ไม่เป็นไร งั้นไว้ใจเย็นเมื่อไหร่แล้วเราค่อยคุยกันก็แล้วกัน
"
“
มาแล้วจ้า ไอสครีมรสบลูเบอร์รี่ของแทยอน รสชาเขียวของเซฮุน และช็อกโกแลตของคนคูล ๆ
อบ่างปาร์ค ชานยอล ” ทันทีที่แทยอนพูดจบเสียงอันทุ้มต่ำของปาร์ค
ชานยอลก็ดังขึ้นทำให้บรรยากาศมาคุที่ก่อตัวเมื่อสักครู่พอเจือจางลงบ้าง “
เกิดอะไรขึ้นทำไมสองคนทำหน้าตึงงี้อ่ะ ตอนที่พี่ไม่อยู่มีอะไรกันเหรอ? ”
“
เปล่าค่ะ ”
“
แหม พูดเหมือนพี่ไม่ได้เป็นพี่เลยนะ...แต่เอาเถอะ
เรื่องของพวกเธอสองคนพี่จะไม่เอาตัวเองเข้าไปหยุ่ง พี่พาออกมากินก็กิน ๆ ไปไม่ต้องมานั่งปั้นหน้า
โอเค๊? ”
แทยอนพยักหน้ารับเบา
ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองถ้วยไปติมที่บางส่วนกำลังละลายเพราะเจ้าของไม่ยอมกินเสียที ร่างเล็กมองมันอยู่สักพักก่อนจะเริ่มตักเข้าปาก
ความหวานและความเย็นของไอสครีมตรงหน้าไม่ได้ทำให้แทยอนรู้สึกดีขึนเลยสักนิด
ตรงกันข้ามมันยิ่งทำให้แทยอนรู้สึกหนาวเย็นมากกว่าเดิมอย่างบอกไม่ถูก
“
เออนี่แทยอน... ”
“
คะ? ”
“
ช่วงนี้ได้เจอแบคฮยอนบ้างไหมอ่ะ พอดีว่ามีคนติดต่อมันไม่ได้อ่ะเลยอยากรู้ว่าแทยอนเห็นมันบ้างรึเปล่า
” ชานยอลเอ่ยถามคนตัวเล็กแต่หางตากลับเหล่ไปทางน้องชายอีกคนที่นั่งหน้าตึงอยู่ข้าง
ๆ เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเซฮุนเป็นอะไรทำไมจู่ ๆ
ถึงได้มีอาการแบบนี้แต่แน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับการที่ยุนอาไปหาเซฮุนที่ห้องแน่
ๆ
“
ก็ต้องเจออยู่แล้วล่ะครับ เมื่อวานแทยอนก็อยู่กับพี่แบคฮยอนทั้งวันหนิ
แล้วตอนที่พี่พาผมไปหาแทยอนที่ห้องผมก็เห็นรถของพี่แบคฮยอนขับสวนออกไป
ใช่มั้ยแทยอน? ”
“
ค่ะ...เมื่อวานฉันอยู่กับรุ่นพี่แล้วเมื่อเช้านี้เขาก็มาหาที่ห้อง
เขาก็ไม่ได้หายไปไหนหนิคะ แล้วคนที่บอกว่าติดต่อไม่ได้นี่ใครคะ
ก่อนจะออกไปฉันยังเห็นรุ่นพี่คุยโทรศัพท์อยู่เลย ”
“
งั้นแสดงว่าคนที่ติดต่อไอ้แบคไม่ได้นี่คงไม่ได้โทรหามันสินะ
หรือไม่ก็ไม่ได้พยายามจะติดต่อหามันเลย ” ชานยอลกระตุกยิ้มเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองเซฮุน
เขาตักไอสครีมเข้าปากคำใหญ่ก่อนจะล้วงมือลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
ชานยอลกดมันอยู่สักพักก่อนจะลุกพรวดขึ้นเต็มความสูง
ชายหนุ่มหันหน้าไปหาเซฮุนก่อนจะเอ่ยปากพูดกับเขา “ พี่มีธุระต้องรีบไปทำอ่ะ
ธุระสำคัญมาก ๆ ฝากน้องด้วยนะเซฮุน ถ้าน้องกินเสร็จแล้วให้พาน้องไปส่งที่ห้องเลย
เข้าใจไหม? ”
“
อะไร พี่เป็นคนพามาพี่ก็พากลับไปเองสิ ”
“
เอ้า! เข้าใจมั้ยคำว่าฝากอ่ะ ฝาก...ถ้าพาน้องกลับเองได้ฉันคงไม่รบกวนแกหรอก
แล้วนี่ไปอารมณ์เสียมาจากไหน โตแล้วแยกแยะบ้างสิวะ
โกรธใครก็ไปลงที่คนนั้นอย่ามาพาลไปทั่วแบบนี้ ”
“
...เรื่องของผมน่า ”
“
นี่เซฮุน! ”
“
พอได้แล้วค่ะ...พี่ชานยอลคะ พี่ไปทำธุระของพี่เถอะไม่ต้องห่วงฉัน ฉันกลับเองได้
ฉันกะว่าจะนั่งเล่นต่ออีกสักหน่อยค่อยกลับแล้วก็ไม่อยากจะรบกวนเซฮุนด้วย
ไม่ต้องห่วงนะคะ ”
“
พี่ไม่รู้แหละ ยังไงเซฮุนก็ต้องเป็นคนไปส่งเธอ...พี่ขอยื่นคำขาดนะ
ยังไงเซฮุนก็ต้องเป็นคนไปส่งแทยอนไม่ว่าแทยอนจะนั่งอยู่นี่นานกี่ชั่วโมงเซฮุนก็ต้องอยู่
” ชานยอลตอบเสียงแข็ง แววตาดุดันอันแสนน่ากลัวของเขาบ่งบอกถึงอารมณ์ในตอนนี้
ความนิ่งของชานยอลบวกกับความเฉยชาของเซฮุนทำให้แทยอนใจสั่น
วันนี้มันวันบ้าอะไรกันเซฮุนก็เหมือนจะโกรธเธอ ชานยอลก็มีทีท่าว่าจะทะเลาะกับเซฮุน
มันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ
“
แต่ว่าผม... ”
“
ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น พี่ก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมากหรอกนะเซฮุน
แต่ในฐานะที่แกเป็นน้องชายที่ฉันรัก หัดมีสติให้มาก ใช้สมองเยอะ ๆ ทบทวนดูดี ๆ ไม่ใช่ใครเอาอะไรมาพูดก็เชื่อไปซะหมด...เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเจอไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นบอก...พี่บอกแกได้แค่นี้แหละ
และถ้าแกยังทำตัวแบบนี้ต่อไปก็อย่ามาเสียใจให้พี่เห็นทีหลังแล้วกัน ”
ชานยอลพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปทิ้งเอาไว้แค่ความเงียบที่ตลบอบอวลอยู่ทั่วบริเวณ
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
แทยอนเองเอาแต่ก้มหน้ามองไอสครีมในถ้วยส่วนเซฮุนเองก็เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง
ร้านทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบแต่ยินเพียงเสียงถอนหายใจของโอ เซฮุนเป็นระยะ ๆ
จนแทยอนทนบรรยากาศแบบนี้ไม่ไหวจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน
“ อันที่จริงนายไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันก็ได้นะ
กลับไปเถอะเดี๋ยวฉันกลับเอง ”
“
...ฉันจะไปส่งเธอ ”
“
แต่ว่าตอนนี้นายยังอารมณ์ไม่ดี
ฉันว่านายคงต้องการอยู่คนเดียวสักพักโดยที่ไม่มีฉันไปกวน...ฉันรู้นะเซฮุนว่านายลำบากใจที่จะต้องอยู่กับฉันในเวลานี้
และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรฉันก็จะไม่กวนใจนาย จนกว่านายจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม...
”
“
... ”
“
ตอนนี้นายอาจจะแค่สับสน...ไม่เป็นไรขอแค่นายไม่เกลียดฉัน ฉันก็พอใจแล้ว ”
แทยอนฝืนยิ้มออกมาทั้ง
ๆ ที่น้ำตาคลอเบ้า น้ำเสียงที่สั่นเครือทำให้หัวใจของเซฮุนวูบไหวไปครู่หนึ่ง
มันอึดอัด ความรู้สึกตอนนี้มีแต่คำว่าอึดอัดเต็มไปหมด
มันอึดอัดจนอยากจะร้องไห้ออกมาดัง ๆ
แต่ก็ทำไม่ได้เพราะแทยอนไม่ต้องการเป็นคนอ่อนแอให้ใครเห็นอีกแล้ว
เธอแค่อยากรักษาความสัมพันธ์ที่ดีนี้ไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเซฮุนนั้นดีกับเธอมาโดยตลอด
ถึงตอนนี้เขาจะมีท่าทีแปลกไปแต่แทยอนเชื่อว่าเซฮุนมีเหตุผล
ตอนนี้เขาอาจจะแค่สับสนกับอะไรบางอย่างแต่อีกไม่นานทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ แล้วเจอกันนะ ฉันขอตัวกลับก่อน
”
ฟึ่บ~
แทยอนยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะหันหลังเดินออกมาแต่ทว่าไม่ทันจะก้าวไปไหนไกลด้วยซ้ำสัมผัสอันอบอุ่นบริเวณแผ่นหลังทำให้ร่างบางหยุดชงักแล้วพยายามจะหันไปมองด้านหลังเพื่อดูว่าเป็นใคร
ทว่าอ้อมแขนแกร่งของใครบางคนทำให้เธอไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนตัวได้เลยแม้แต่น้อย
“
...ขอโทษ ”
ทุกสายตาที่อยู่ในร้านรวมทั้งนักเรียนของเนเวอร์แลนด์ที่เดินผ่านไปมาข้างนอกดจับจ้องมายังร่างสูงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณชายเล็กของโรงเรียน
คนที่ตอนนี้กำลังโอบกอดหญิงสาวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนของพี่ชายของเขาอย่างอ่อนโยน...เซฮุนรู้ว่าหลังจากที่เขาตัดสินใจทำแบบนี้ผลที่ตามมาจะเป็นยังไงแต่เพราะเสียงของหัวใจอยู่เหนือสิ่งอื่น
ๆ ผลเสียที่ตามมาจึงไม่มีค่าอะไรเลย
“
ขอโทษที่งี่เง่า ”
“
เซฮุน...นาย... ”
“ ขอโทษที่ไม่เชื่อใจเธอ
ขอโทษที่ทำให้เธอไม่สบายใจ ฉันขอโทษจริง ๆ ” เซฮุนกล่าวคำขอโทษออกไปไม่หยุดปากเพราะเขาเองก็ทนไม่ได้เหมือนกันหากจะต้องเสียเธอคนนี้ไปเพราะเรื่องอดีตบ้าบอที่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาเลย
“
พอแล้วเซฮุน นายเลิกขอโทษฉันได้แล้ว ”
เซฮุนไม่ได้อยากจะเห็นแทยอนเจ็บปวดและที่ผ่านมาแบคฮยอนก็ทำให้เธอเสียใจมามากพอแล้ว
และเขาเองก็ไม่อยากจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเสียความรู้สึก...ฉะนั้นเขาจึงต้องแยกแยะให้ออกระหว่างอดีตและปัจจุบัน
ความจริงและการโกหก โดยการไม่ตัดสินแทยอนเพียงเพราะคำพูดของยุนอาเพียงฝ่ายเดียว
“ นายปล่อยได้แล้วนะ...คนมองกันใหญ่แล้ว
และฉันก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรนายด้วย ”
แทยอนพูดขึ้นเมื่อเห็นผู้คนแถวนั้นซุบซิบกันใหญ่
และเธอเองก็เดาได้ทันทีว่าเรื่องนี้ต้องถึงหูแบคฮยอนในไม่ช้าแน่ ๆ เพราะขนาดคราวก่อนตอนเธอกับแบคฮยอนกลับมาจากสระว่ายน้ำด้วยกันหน่วยข่าวจากโรงเรียนยังจับได้เลยแล้วนับประสาอะไรกับการที่เซฮุนกอดเธอในที่แจ้งแบบนี้
แบคฮยอนต้องรู้แน่ ๆ
“
ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้โกรธฉัน แต่ฉันทำให้เธอไม่สบายใจ
ฉันเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาลงที่เธอ ฉันผิด ”
“
ใช่นายผิด แต่ฉันให้อภัย...แต่ว่าการที่นายกอดฉันอยู่แบบนี้มันจะทำให้ฉันเดือดร้อนนะเซฮุน
ถ้ารุ่นพี่แบคฮยอนรู้เข้าเขาเอาฉันตายแน่
”
“
ตายแบบไหน? แบบที่เขาทำไว้บนคอเธอน่ะเหรอ? ” เซฮุนกระซิบเบา ๆ
แบบที่ได้ยินกันแค่สองคนซึ่งประโยคดังกล่าวทำให้คนถูกท้วงหน้าแดงเพราะความโกรธและเขินในเวลาเดียวกัน...ร่างเล็กดีดดิ้นจนหลุดออกมาจากอ้อมกอดของเซฮุน
ในหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ ทั้งโกรธทั้งอายอธิบายไม่ถูกจริง ๆ
“
นี่นายเห็นเหรอ? ”
“
เด่นขนาดนั้นไม่เห็นได้ไง...ฉันเห็นตั้งแต่ตอนที่เธอมาเปิดประตูห้องให้แล้ว
ยัยบื้อ และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันหงุดหงิดหนักกว่าเดิม ”
“ ไอ้เซฮุน!
”
“ ...พี่เอส
” เซฮุนเอ่ยชื่อผู้ชายที่เดินตรงเข้ามากระชากคอเสื้อของเขาออกมาเบา ๆ อย่างแปลกใจเมื่อจู่
ๆ คนที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นศัตรูนั่นมากระชากตัวเขาแบบนี้ จากปกติที่ไม่ค่อยชอบหน้ากันอยู่แล้วพอได้รู้ถึงเรื่องนั้นยิ่งทำให้เซฮุนไม่ชอบเอสเข้าไปใหญ่
“ เออฉันเอง
แกกอดแทยอนทำไมวะ แกอยากฆ่าเธอทางอ้อมรึไง?! แกก็รู้ว่าไอ้แบคมันเป็นคนยังไง...แต่แกก็ยังหาเรื่องมาให้แทยอน!
” เอสตะคอกเสียงดังด้วยอารมณ์ที่คุมไม่อยู่จนคนแถวนั้นเริ่มมองกันมากขึ้น เขาซุ่มดูเหตุการณ์อยู่นานตอนแรกเห็นเซฮุนมีท่าทางไม่พอใจแทยอนมันก็ดีอยู่หรอกจนกระทั่งมันเดินเข้ามากอดแทยอนเนี่ยแหละเขาจึงทนดูเฉย
ๆ ไม่ไหว
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่
ผมกอดแทยอนไม่ได้กอดพี่ ทำไมจะต้องมาเดือดร้อนด้วย ”
“ เกี่ยวสิ
เพราะแทยอนคือน้องสาวของฉันและคงไม่แปลกถ้าพี่ชายจะหวงน้องสาว แล้วอีกอย่างนะ แกลืมไปแล้วหรอว่าแทยอนเป็นผู้หญิงของไอ้แบคฮยอนซึ่งเป็นพี่ชายของแก
ฉะนั้นแกก็ยิ่งไม่ควรมาทำแบบนี้ในที่สาธารณะ เข้า-ใจ-มั้ย? ”
“ เท่าที่ผมรู้
แทยอนไม่มีพี่ชายเลว ๆ อย่างพี่ ” เซฮุนพูดเสียงเรียบพยายามเก็บความโกรธเอาไว้ให้มากที่สุดเพราะไม่อยากจะมีเรื่องให้คนอื่นเอาไปนินทาเล่น
ว่าเขามีเรื่องเพราะผู้หญิงของพี่ชาย...อีกอย่างเซฮุนถือคติที่ว่าโกรธคือโง่
โมโหคือบ้า คนเราเวลาโมโหอะไรมาก ๆ จากคนฉลาดก็กลายเป็นไอ้หน้าโง่ได้ในพริบตาเดียว
“ ถึงฉันจะเลว
แต่ฉันก็ไม่เคยกอดเมียพี่ชายของตัวเองแบบแกหรอก แล้วอีกอย่างแทยอนรักฉันเหมือนพี่ชายและฉันเองก็รักแทยอนเหมือนน้องสาว...ไม่เชื่อแกก็ถามเจ้าตัวเองสิ
"
เซฮุนมองไปยังร่างเล็กอย่างคาดคั้นคำตอบทำเอาแทยอนถึงกับเหงื่อตกกับสถานการณ์อันกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้
แต่สิ่งที่เอสพูดมาก็เป็นความจริงเพราะก่อนหน้านี้เธอกับเอสตกลงกันไปแล้วในเรื่องนี้
แทยอนพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะมองไปยังเซฮุนด้วยแววตาขอโทษเพราะดูเหมือนเขาจะผิดหวังไม่น้อยที่เธอยังมีความสัมพันธ์กับเอสอยู่แม้จะเป็นแบบพี่น้องก็ตามเถอะ
“
เห็นไหม แทยอนเขารักฉัน ”
“
ก็แค่ในแบบพี่น้อง อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย... ”
“
ไอ้เซฮุน! ”
“
ครับ! ”
“ พอเถอะค่ะ!
ทั้งคู่เลย...อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ ฉันขอร้องล่ะ ตอนนี้คนอยู่เยอะไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรอ? ทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้ "
“ แล้วที่แทกอดกับมันแทไม่อายบ้างหรอ?....แทก็รู้ดีนิว่าไอ้แบคมันจะเป็นยังไง อีกไม่นานเรื่องคงถึงหูมันแล้วมันก็คงจะกำลังมาที่นี่แน่
ๆ ! ” เอสพูดออกไปด้วยความเป็นห่วงที่มีต่อร่างเล็ก เขารู้ว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเซฮุนแต่เขาคิดไม่ถึงว่ามันจะมาก่อนแทยอนแบบนี้ซึ่งมันกำลังจะทำให้แทยอนเดือดร้อนจากการกระทำดังกล่าว
“ ...เอ่อ
”
“ ก็แค่กอดไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยหนิ
ผมก็แค่กอดในฐานะเพื่อน ไม่ได้ไปทำให้เธอท้องซะหน่อย...แล้วพี่จะมาเดือดร้อนอะไรด้วย
”
“
ยังจะมาลอยหน้าลอยตา สามัญสำนึกแกน่ะมีบ้างรึเปล่า ถึงทำแบบนี้กับของ ๆ ไอ้แบคได้...แกกล้าพูดรึเปล่าล่ะว่าเมื่อกี้ที่แกกอดแทยอนน่ะ
แกกอดด้วยใจบริสุทธิ์จริง ๆ ”
คำว่าของ
ๆ แบคฮยอนที่เอสพูดออกมามันยังคงก้องอยู่ในหัวของแทยอนอยู่อย่างนั้น เอสใช้คำ ๆ
นี้เพื่อมาปกป้องเธอแต่คำพูดนั้นมันช่างเป็นตัวบ่มทำลายหัวใจเธอได้ดีเหลือเกิน...คนของแบคฮยอนงั้นหรอ? มันก็แค่สร้อยเส้นเดียวที่ผูกมัดทางร่างกายของเธอเท่านั้น แบคฮยอนแค่ต้องการใช้เธอเป็นของเล่นสนุก
ๆ เพื่อความสะใจ เขาไม่ได้รักไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอสักนิด สิ่งเดียวที่เขามีให้ก็คือความเกลียดชังและไม่มีวันแปรเป็นอย่างอื่นไปได้อีกแล้ว
“ ผมจะรู้สึกแบบนั้นกับแทยอนได้ไงในเมื่อเธอคือคนของพี่แบคฮยอนอีกคนต่อจากพี่ยุนอา
”
ยิ่งได้ยินยิ่งตอกย้ำลงไปถึงขั้วหัวใจ
ตกลงผู้ชายพวกนี้กำลังปกป้องเธอหรือทำร้ายเธอกันแน่...แทยอนคงทำอะไรผิดพลาดไปครั้งใหญ่เป็นแน่ที่ยอมให้เซฮุนกอดโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมาอย่างเช่นเหตุการณ์ที่กำลังปะทุขึ้นในตอนนี้โดยมีเธอเป็นต้นเหตุ
“
อยากทะเลาะกันนักก็ทะเลาะกันไปเลยค่ะ! อยู่ทะเลาะกันตรงนี้แหละ...อย่าตามฉันมานะ
ไม่งั้นฉันจะไม่คุยด้วยอีกเลย ”
สมองสั่งการให้ขาเรียวทั้งสองข้างก้าวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดและไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อตัดปัญหา
และตอนนี้ก็มีแค่ที่เดียวที่แทยอนคิดออกนั่นก็คือสวนหลังโรงเรียน ที่ที่ใครคนนึงมักจะไปทุกครั้งที่เขาไม่สบายใจ
ณ.ตอนนี้เขาเป็นคนแรกและคนเดียวที่แทยอนอยากจะเจอ...คริส
ร่างเล็กวิ่งออกมาจากร้านโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากชายหนุ่มทั้งสอง
ไม่ใช่ว่าเธอโกรธหรืออะไรทั้งนั้นเธอแค่เหนื่อยที่จะต้องมานั่งรับฟังสิ่งที่บีบคั้นหัวใจให้เจ็บช้ำทุกครั้งที่ได้ยิน...มันเจ็บอย่างบอกไม่ถูก
และมันก็รู้สึกแปลก ๆ ด้วยที่คนอื่นเอาแต่ทำดีกับเธอ ในขณะที่คนที่เธอรักกลับทำร้ายจิตใจเธอสารพัด
“
คนที่คิดถึงกลับไม่เคยช่วยให้ดีขึ้นเลยสักครั้งในตอนที่พบกัน...บ้าจริง ๆ เลย ”
คิดถึงแบคฮยอนแต่กลับไปหาไม่ได้
เจอเขาก็ต้องเตรียมจิตใจเอาไว้ให้เข้มแข็ง
แบคฮยอนเป็นผู้ชายปากร้ายแต่กลับพี่ชายอีกคน
คริสเป็นคนที่ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ทำให้แทยอนสบายใจไปซะหมด
อบอุ่นเหมือนตอนที่นั่งผีงไฟในฤดูหนาว
ฟึ่บ~
“
ใครเนี่- - อะ...อื้อ ”
เกิดอะไรขึ้นกับแทยอน เซฮุนก็ใจกล้าเกินมากงมากอดระวังเถอะถ้าแบคฮยอนรู้คุณลัคกี้จะซวยเอา
ให้กำลังใจคนเขียนเยอะ ๆ นะคะ
ความคิดเห็น