คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
Intro My Peter Pan
“ พ่อคะ
หนูไม่อยากไปมหาลัยนั่นเลย ให้หนูเข้ามหาลัยธรรมดา ๆ ไม่ได้หรอคะ? ทำไมต้องส่งไปมหลัยประจำนั่นด้วย
”
“ ไม่ได้
พ่อยอมหนูมาแล้วปีนึงปีนี้พ่อจะไม่ยอมหนูอีกเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่งของพ่อนะคิม
แทยอน ”
ผู้เป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกล้าวทำให้คนเป็นลูกที่กำลังจะอ้าปากจะเถียงถึงกับหุบลงทันที
ใบหน้าที่แสดงออกให้เห็นชัดเจนถึงความจริงจังของคิม ยองมินประธารค่ายเพลงใหญ่ในเกาหลีที่มองมายังลูกสาวทำให้แทยอนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ๆ เลยด้วยซ้ำ
“
บริษัทของเราต้องการผู้บริหารที่เก่งและมีความสามารถ ลูกคือความหวังของพ่อนะ... แล้วที่นั่น
มันไม่ใช่มหาลัยธรรมดา ๆ ที่นั่นมีทายาทนักธุรกิจมากมายที่มาเรียน บางทีลูกอาจจะทำความรู้จักกันไว้และได้พึ่งพาอาศัยกันในตอนที่เรียนจบแล้วนะลูก...พ่อคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่ลูกคู่ควรได้รับ ”
คิม
ยองมินใช้มือทั้งสองข้างยกขื้นจับบ่าของลูกสาวเอาไว้พรางบีบเบา ๆ ให้ลูกสาวรู้ถึงซึ้งความต้องการของท่าน...ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยร้องขออะไรกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนนี้เลยเพราะฉะนั้นนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากขอและคำตอบที่เขาได้ต้องไม่ใช่ในเชิงปฏิเสธ
“ แต่หนูไม่ชอบที่นั่นนิคะ หนูไม่อยากไป ไม่อยากอยู่ไกลบ้าน พ่อก็รู้ไม่ใช่หรอคะว่าใครเป็นเจ้าของโรงเรียนนั้น
ทำไมยังจะส่งหนูไปอีก พ่ออยากเห็นหนูเป็นเหมือนเดิมหรอคะ? ”
หญิงสาวพูดเสียงอ่อยบ่งบอกถึงความกลัวและความลังเลที่มีอยู่ในจิตใจ
ในหัวของแทยอนตอนนี้มีเพียงภาพของโรงเรียนที่พ่อของเธอจะส่งไปในวันพรุ่งนี้มันเป็นภาพที่สวยงามและหรูหราแต่เธอกลับคิดว่านั่นมันไม่ใช่ที่สำหรับเธอเลย
ที่ที่มีเขา...ที่ที่เขาอาศัยอยู่มันไม่ใช่ที่ที่เธอควรจะไป
“ มันไม่มีอะไรเลวร้ายนักหรอกหน่า....พ่อไม่เชื่อหรอกนะว่าคนที่เคยรักกันจนจะเป็นจะตายจะเกลียดกันได้ลงคอเพราะเรื่องเข้าใจผิดแค่นี้
แต่ถ้าไปที่นั่นแล้วเจ้านั่นยังตามรังแกลูกไม่เลิกก็ให้รีบบอกพ่อ
พ่อจะจัดการให้ทันที ”
ยองมินพูดด้วยรอยยิ้มสุขุม
น้ำเสียงอ่อนโยนดูอบอุ่นต่างจากตอนแรกเอามาก ๆ ซึ่งแทยอนรู้ดีว่ามันคือไม้ตายที่พ่อของเธอใช้กับเธอบ่อย
ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเลยก็ว่าได้
แทยอนไม่เคยปฏิเสธใครได้เลย
นั่นคือข้อเสียที่เธอเกลียดมากที่สุดและในเมื่อพ่อของเธอพูดขนาดนี้แล้วก็คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าจะไปหรือไม่ไป
“ ก็ได้ค่ะ
หนูไปเรียนก็ได้ ”
ครั้งแรกที่ได้ยินว่าต้องไปอยู่มหาลัยประจำสุดหรูในวันพรุ่งนี้นั้นแทยอนเหมือนโดนขวานผ่าเข้ากลางหัวจัง
ๆ หูอื้อตาลาย
ระบบประสาทประมวรผลอะไรไม่ได้ราวกับว่าทุกส่วนในร่างกายมันชำรุดไปหมดเพราะเธอกลัวว่าถ้าไปโรงเรียนนั้นอาจจะเจอเรื่องที่รุนแรงต่อจิตใจของเธอก็เป็นได้.....ในเมื่อเรื่องที่ค้างคาใจในวันนั้นก็ยังคงค้างคาใจจนถึงทุกวันนี้แล้วแบบนี้เธอจะใช่ชีวิตให้มีความสุขยังไงละ
“ งั้นก็ไปเตรียมตัวได้แล้ว
จัดกระเป๋าให้เรียบร้อยนะ พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า ”
“ ค่ะ...
พ่อคะงั้นหนูไม่กินข้าวเย็นนะคะ จะรีบเข้านอน ”
การที่ย้ายไปเรียนที่นั่นมันต้องเกิดเรื่องซวย
ๆ กับเธอแน่ ๆ เพราะความรู้สึกมันบอก... และมันยังบอกอีกว่าไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่จะเป็นหลาย
ๆ ครั้งและแต่ละครั้งมันก็จะยาวนานด้วย
*
“ ฟานี่แกต้องช่วยฉันนะ!!
ฉันไม่อยากเรียนที่นั่น ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันยังไม่พร้อม ” ร่างเล็กชักดิ้นชักงออยู่บนเตียงนุ่มสีม่วงอ่อนอย่างขัดใจกับสิ่งที่ตัวเองทำไปเมื่อครู่
แต่หากเป็นเช่นนั้นแล้วสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คือโทร.ไประบายกับเพื่อนสาวที่อยู่ไกลคนละซีกโลก....ชึ่งเธอคนนั้นก็คือ
ทิฟฟานี่ ฮวัง หรืออีกชื่อที่น้อยคนนักที่จะรู้คือฮวัง มิยอง
[ แล้วแกตอบตกลงพ่อแกเพื่อ?]
“ ไม่รู้อ่ะ
ก็ตอนนั้นฉันคิดอะไรไม่ออกหนิ แกก็รู้จักพ่อฉันดีไม่ใช่หรือไง
ถ้าฉันปฏิเสธเขาไปเขาก็หว่านล้อมจนได้นั่นแหละ ”
[ แล้วแกจะกลัวอะไรนักหนากะอีแค่ไปเรียนมหาลัยประจำเนี่ย ทำเหมือนเด็ก ๆ ไปได้...โตแล้วนะคิม
แทยอน]
“ ฉันไม่ได้กลัวที่จะไปที่หนั่นสักหน่อย
แกก็รู้นิว่าฉันกลัวอะไร...ฉันยังจำสายตาที่รุ่นพี่มองฉันวันนั้นได้เลย
แล้วแกจะให้ฉันไปเจอเขาได้ยังไง ”
[ อืม...แล้วไง? แค่เจอหน้าไม่ถึงกับตายหรอก
เขาจะทำอะไรแกได้ห้ะ เรื่องแกกับเขาจบไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ
เลิกคิดถึงเลิกใส่ใจได้แล้ว ]
“ แต่ฉันจะตาย...แกจะให้ฉันทำหน้ายังไงเวลาเจอเขา
ยิ้มทักทายหรือเงียบใส่ แล้วถ้าเขาทำเหมือนไม่เคยรู้จักฉันเลยล่ะ ฉันจะทำยังไง ”
[ แกก็ไม่ต้องทำอะไรสิ ถ้าเขายิ้มแกก็ยิ้ม ถ้าเขาเงียบแกก็เงียบ วิน ๆ ทั้งคู่]
“ แต่ฉันจะเจ็บ...ไม่รู้แหละแกต้องช่วยฉัน
ช่วยอะไรก็ได้ จะด่าจะว่าหรือวางแผนให้ฉันหนีไปเลยก็ได้ ” ปลายสายถอนหายใจยาวอย่างหงุดหงิดในความดื้อรั้นของเพื่อน
ในเมื่อแทยอนยังคิดถึงแฟนเก่าของเธออยู่ทุกลมหายใจเข้าออกแล้วเธอจะช่วยอะไรได้ล่ะ
[ ฉันช่วยอะไรแกได้ พอฉันบอกว่าจะย้ายกลับเกาหลีด้วยแกก็ห้าม
พอบอกให้ลืมแกก็ทำไม่ได้ แกมันอ่อนเองแทยอน]
“
หยุดคิดเรื่องจะกลับเกาหลีเลยนะ
ฉันรู้ว่าการที่แกได้เรียนที่นู่นมันคือความฝันของแก แล้วแกจะให้ฉันดับฝันของเพื่อนได้ลงคอหรอ
ไม่มีทาง!! ”
[ งั้นมันก็มีแค่วิธีเดียว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับแกแล้วและว่าจะทำได้รึเปล่า?
แต่ให้ฉันเดานะแกทำไม่ได้ชัวร์ ]
“ อย่าพึ่งมาตัดสินฉันสิ
พูดมาเร็ว ๆ รอฟังอยู่ ”
ร่างเล็กหยุดนิ่งตั้งใจฟังสิ่งที่จะออกมาจากปากเพื่อนอย่างใจจดใจจ่อ
เพราะทิฟฟานี่เป็นคนที่เข้าใจเธอและหวังดีกับเธอที่สุด
เธอจึงเลือกที่จะไว้ใจและให้ทิฟฟานี่เป็นทุกสิ่ทุกอย่างในชีวิต ทิฟฟานี่เป็นมากกว่าเพื่อนทิฟฟานี่คือพี่น้องและคือคนที่เข้าใจแทยอนมากกว่าตัวแทยอนเองเสียอีก
[ แทยอนสองปีแล้วนะที่แกเลิกกับเขา
สองปีแล้วที่แกไม่ได้เจอหน้าไม่ได้พูดคุยกับเขา...มันผ่านมาสองปีแล้วมันไม่ใช่เวลาน้อย
ๆ เลย เวลาเปลื่ยนไปใจคนก็เปลื่ยนตามป่านนี้เขาก็คงลืมแกแล้วไปมีใครหลายต่อหลายคนแล้ว]
ปลายสายเว้นระยะไว้เรียบเรียงคำพูดที่กลั่นออกมาจากใจ
สิ่งที่เธอพูดนั่นอาจจะทำให้เพื่อนตัวเล็กเสียใจแต่ถ้าหากไม่พูดมันออกไปก็กลัวจะอกแตกตายซะก่อน
[
แต่แกยังจมปลักอยู่กับวันเวลาเก่าๆที่ผ่านมาเนี่นนานแล้ว...แทยอนแกคงรู้ตัวเองใช่มั้ยว่าควรทำยังไง...
แกควรปลดปล่อยตัวเองจากกำแพงที่แกสร้างมันขึ้นมาเองสักที...ลืมเขาไปซะฉันไม่อยากเห็นแกต้องเจ็บปวดแบบนี้อีก
]
“ แล้วถ้ารุ่นพี่เขายังเหมือนเดิมล่ะ
ถ้าเขายังรักฉัน ยังดีกับฉัน ยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน... ”
ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
นัยน์ตาสั่นระริกเหมือนกลัวคำตอบของคำถามที่ถามออกไป
ถ้าเขายังเหมือนเดิมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตรักของแทยอน แต่ถ้าไม่ ทุก
ๆ อย่างก็คงจะพังทลายลงและแตกระเอียดเหมือนกับหินแกร่งที่โดนบดจนกลายเป็นผุยผง
[ เขาทำกับแกขนาดนั้นเขาคงยังรักแกเหมือนเดิมหรอกนะ...แกตั้งใจฟังฉันดีๆน
เอาแทยอนที่แสนอ่อนแอคนนี้ไปฆ่าทิ้งที่ไหนก็ไปแล้วเอาคิม
แทยอนผู้มีจิตใจเข้มแข็งและไม่จมปลักกับอดีต...เอามันออกมา]
“ ... ”
น้ำเสียงที่แสนจะหนักแน่นเต็มไปด้วยความหวังดีของเพื่อนสาวทำให้ร่างเล็กใจกระตุกวูบ
ใบหน้าสั่นไหวเล็กน้อย ลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกเหมือนจะติด ๆ ขัด ๆ
เพียงเพราะเรื่องที่ทิฟฟานี่พูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง
เรื่องจริงที่ใจเธอเองนั้นรู้ดีมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ทั้งคู่เอ่ยคำลากัน
[ แกไม่ต้องเชื่อฉันในตอนนี้ก็ได้...แต่ขอให้แกเอากลับไปคิดทบทวนให้ดี ๆ ชีวิตแกเป็นของแก...แทยอนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเพื่อนคนนี้จะอยู่ข้าง
ๆ แกเสมอนะ]
ปลายสายพยายามพูดให้เพื่อนรักเข้าใจ
เพราะเห็นอีกฝ่ายเงียบไป หากปล่อยให้เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่ต้องเผชิญปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้เห็นทีเธอคนจะเรียนต่อที่ฝรั่งเศสไม่เป็นสุขแน่
ระหว่างความใฝ่ฝันกับเพื่อนแน่นอนว่ามันเป็นตัวเลือกที่อึดอัดใจอยู่พอสมควร
แต่เพราะมิตรภาพท่มีให้กันนั้นมันมากมายนั้นทิฟฟานี่ก็ย่อมเลือกเพื่อนให้มาก่อนเสมอ
“ อืม...ขอบคุณนะ
”
เสียงที่ออกมาจากแทยอนช่างแผ่วเบายิ่งนักแต่ก็ใช่ว่าทิฟฟานี่จะไม่ได้ยิน
เพราะเป็นเพื่อนกันมานานถึงได้รู้ว่าตอนนี้แทยอนคงจะทุกข์ใจมากน่าดู
ถ้าหากตอนนี้เธออยู่ใกล้กับแทยอนเธอก็คงจะดึงเพื่อนตัวเล็กมากอดค้างเอาไว้แบบนั้นสักสองสามชั่วโมงจนกว่าแทยอนจะพอใจ.....คนที่เก็บกักทุกอย่างเอาไว้ในหัวใจโดยที่ไม่ยอมพูดออกไปนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับลูกโป่งที่ถูกอัดลมเข้าไปเรื่อย
ๆ นั่นแหล่ะ
ไม่วันใดก็วันนึงลูกโป่งนั่นก็คงจะแตกเพราะถูกอัดลมเข้าจนเต็มจนไม่สามารถรับอะไรได้อีก
แทยอนกดวางสายพรางวางมือถือไว้ข้างตัวแล้วพลิกตัวนอนหงายมองดูเพดานสีขาวไร้รอยเปื้อนของห้อง....คนตัวเล็กปิดเปลือกตาลงช้า
ๆ ปล่อยให้ความมืดเข้าครอบงำ...วันนี้เธอเหนื่อยใจมามากแล้วหากได้พักผ่อนสักหน่อยก็คงจะดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
ยังไง ๆ เธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้วสิ่งเดียวที่ทำได้คือก้มหน้ายอมรับโชคชะตาเท่านั้นแหละ
ถึงแม้ว่าเธอจะตอบรับทิฟฟานี่ออกไปอย่างนั้น
แต่ตอนนี้ในใจของเธอกลับมีความรู้สึกที่หลากหลายถาโถมเข้ามาไม่หยุดความรู้สึกของเธอตอนนี้แม้แต่ตัวของแทยอนเองก็ยังอธิบายไม่ได้
พยายามบอกตัวเองว่าตอนนี้เธอคือคิม แทยอนผู้ไม่มีหัวใจและไม่เคยรักใครมาก่อนผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป...แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเสียงของหัวใจมักจะโต้แย้งกับจิตใต้สำนึกของเธอทุกที
หากความรู้สึกและหัวใจมันห้ามกันได้ก็คงจะดีไม่น้อย
การที่จะเปลี่ยนตัวเองและลืมทุกอย่างภายในระยะเวลาชั่วข้ามคืนมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
เลย การหลอกตัวเองก็เช่นกัน เพราะเธอกำลังปกปิดความจริงที่ใจอยากลืม
เพราะความจริงที่แสนเจ็บปวดนั่น
เพราะเขาคนนั้นคนที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจหนีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ...คนที่ทำให้เจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึง...คนที่ไล่เธอออกไปจากชีวิต
คนที่ตอนนี้กำลังอยู่ในโรงเรียนแห่งนั้น
เนเวอร์แลนด์
ทั้งที่ใจกำลังจะลืมทุกอย่างได้
แต่กลับจะต้องไปเจอมันใหม่ที่นั่น
เป็นไงมั่ง สนุกมั้ยชอบไม่ชอบยังไงบอกด้วยนะคะ นี่เป็นเรื่องแรกที่แต่ง แถมยังเป็นคู่ที่เรารักด้วย
ฝากติดตามด้วยนะคะ
ความคิดเห็น