คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : [SF] DREAMER : CHANBAEK
DREAMER
COUPLE : CHANYEOL x BAEKHYUN
RATE : PG-20
NOTE : ฮาโหล เรื่องนี้ภูมิใจนำเสนอ เพราะมันละมุนแบบติดเรท 555555555 ไม่รู้จะตั้งเรทยังไงจริงๆ เพราะมันไม่ถึงR แต่เกือบถึง งงป่ะ กร๊ากกกกกกกกก
ทุกครั้งที่ผมตื่นมา...
ผมจะรู้สึกเจ็บและไม่สบายตัว...
ก่อนหน้านั้นผมฝัน...
ฝันที่น่าอายจนไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง...
ฝันที่เหมือนจริงเกินไป...
เหมือนมันกำลังเกิดขึ้นจริง...
แต่พอผมลืมตาขึ้นมา ทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม...
ผมยังคงอยู่คนเดียวในห้อง ไม่มีผู้บุกรุก มีเพียงอาการเจ็บและผ้าปูที่นอนที่ยับเยิน...
DREAMER
“เป็นแบบนี้อีกละ เลิกทำสักทีงานแปลหนังสืออะไรนั่นน่ะ หน้าตาดูไม่ได้เลย บยอนแบคฮยอน!” ทันที่นั่งก็ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อก็โดนบ่นจากปากเพื่อนสนิทที่นั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว แบคฮยอนส่งยิ้มแห้งกลับคืนไป
รู้ว่าโดคยองซูเป็นห่วงเขาขนาดไหน แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากบอกความจริงออกไป กลับโกหกว่าเป็นงานที่ตัวเองรับจ้างทำเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋า แม้จะสนิทกันขนาดไหน เรื่องบางเรื่องในบางครั้งก็ไม่สามารถปริปากพูดออกไปได้
“ไปเรียนเถอะ”
“ต้องการใช้เงินมากหรอ แต่ก่อนไม่เห็นบ่อยเท่านี้เลย” คยองซูรั้งเขาเอาไว้ก่อนจะเริ่มเปิดบทสนทนาที่เขาเพิ่งปิดไปเมื่อสักครู่
“ขอโทษนะ มันเพลินไปหน่อย สัญญาว่าจะไม่ทำจนเช้าอีก” โกหกคำโตเพื่อให้เพื่อนสบายใจ ก่อนจะยิ้มสดใสเพื่อเป็นการตอกย้ำอีกทีว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ
แต่ก่อนเขาฝันเรื่องเดิม เหตุการณ์เดิม อาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น และนั่งทำให้คยองซูไม่บ่นมากเท่าทุกวันนี้ มันถี่ขึ้นเรื่อยๆ บางอาทิตย์เขาฝันแทบทุกวัน ส่งผลให้ป่วยไปเลยก็มี เพียงแต่อาทิตย์ก่อนหน้าเขาไม่ฝันอะไรเลย ไม่เลยในความคิด หรือเป็นเพราะเขาหลับลึกเกินไป
แต่เมื่อคืน...ผู้ชายคนนั้นกลับเข้ามาในฝันอีกครั้ง ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาพร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์จนไม่สามารถละสายตาออกไปจากดวงตากลมโตนั้นได้เลย ริมฝีปากหยักอยู่ใกล้แค่ฝ่ามือ ลมหายใจอุ่นร้อนที่ระรินผิวกายของเขา ไหล่กว้างที่ปิดบังสิ่งรอบข้าง กักเก็บเขาไว้ในอ้อมกอดร้อนระอุคล้ายกับแผดเผาให้เป็นจุล แต่ไม่ร้อนเท่ากับกายใหญ่ที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในร่างกายสั่นไหวของเขา กดย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุดหย่อน ขยับกายเคลื่อนไหวทุ้มลึกจนต้องขยำผ้าปูที่นอนที่เรียบตึงจนชายผ้าหลุดลุ่ย ดวงตาสีดำขลับจ้องมองเขาราวกับจะกลืนกิน เรียวลิ้นสัมผัสชื้นที่กลีบปากล่าง โลมเลียเย้าแหย่จนเป็นเขาเสียเองที่กระหายอยากลิ้มรสของเรียวลิ้นสีแดงสดนั้น ทุกอย่างในตัวชายคนนั้นช่างร้อนเสียจนทรมาน แต่กลับสมสุขอย่างไม่มีที่ติ หลงระเริงในเปลวเพลิงที่ลุกโชน เป็นแมลงตัวน้อยๆที่พร้อมจะบินเข้ากองไฟเพื่อให้ได้มองใกล้ๆว่าความสว่างที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพียงแต่สุดท้าย...มันก็เป็นแค่ความฝัน
“ความฝันถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับจิตไร้สำนึก โดยมีตั้งแต่ปกติและสามัญไปจนถึงเหนือจริงหรือแปลกประหลาดเกิน ความฝันสามารถมีได้หลายอารมณ์ เช่น กลัว ตื่นเต้น สนุกสนาน เศร้าโศก ผจญภัยหรือเกี่ยวกับเพศ เหตุการณ์ในความฝันโดยทั่วไปอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ฝัน ยกเว้น Lucid Dream ที่ผู้ฝันรู้สึกตัว ความฝันบางครั้งได้สร้างความคิดริเริ่มแก่บุคคลหรือให้ความรู้สึกถึงแรงบันดาลใจ”
Ann, Lee (2005-01-27). "HowStuffWorks "Dreams and REM Sleep"
ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขากลับจำประโยคที่อาจารย์สอนในวันนี้ได้ขึ้นใจ ความฝันเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึก แต่มันไม่ได้เหนือเกินความจริงเลย เพราะมันเหมือนความจริงต่างหาก มีหลากหลายอารมณ์งั้นหรอ แล้วทำไมเขาไมเคยฝันถึงเรื่องอื่นเลยนอกจากผู้ชายคนนั้น อีกทั้งยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับ...เพศ มีคนบอกว่าในฝันเราจะไม่เจ็บปวด จะไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่ยามที่ชายคนนั้นแทรกกายเข้ามาเขาถึงรู้สึกเจ็บแปลบ เสียวกระสันจนแทบขาดใจ เหมือนรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ เหมือนกำลังลืมตาอยู่ เหมือนทุกอย่างไม่ใช่แค่ฝัน รอยยับบนที่นอนเกิดจากเขาเองที่อาจจะละเมอทำไปก็ได้ แล้วเรื่องความเจ็บที่ยังหลงเหลือเมื่อตื่นขึ้นมาล่ะ จะอธิบายว่าอย่างไร...
DREAMER
“ปิดเทอมแล้วห้ามรับงานมาทำจนไม่ยอมหลับยอมนอนอีกนะ ฉันต้องกลับไปอยู่กับแม่ ไม่มีคนคอยบ่นแล้วก็อย่าหักโหมล่ะ โอเคมั้ย”
แบคฮยอนพยักหน้ารับคำเพื่อนที่ดูจะห่วงเขามากเกินไป วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของการศึกษา มันทั้งโล่งอกและดีใจที่เขาได้ผ่านพ้นมันไปอีกปี อีกไม่กี่ปีเขาก็จะจบและเข้าไปทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองสักที คราวนี้แบคฮยอนไม่ได้โกหกอะไรคยองซูเลย เพราะเขาคงไม่มีเวลาไปนั่งแปลหนังสืออีกแล้วล่ะ ถึงคราวที่เขาต้องค้นหาความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเสียที...
กลับมาถึงห้องก็เปลี่ยนชุด จัดกองหนังสือที่เคยรื้อออกมาตอนช่วงสอบให้เข้าที่ จัดห้องให้เป็นระเบียบมากขึ้น เปลี่ยนผ้าปูเตียงใหม่ในรอบอาทิตย์ ขอบคุณที่ชายคนนั้นไม่มายุ่งกับเขาในช่วงสอบ ทำอย่างกับรู้เวลาเลยนะ
แล้วจะทำอะไรต่อ นอนเลยดีมั้ย...
หันไปมองนาฬิกาเป็นเวลาห้าโมงกว่าๆ ยังไม่ถึงเวลานอนเลย งั้นหาอะไรทำจนถึงเวลานอนดีกว่า
จัดการเปิดโน้ตบุ๊คของตัวเองเพื่อลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นแล้วเจอคำตอบที่ต้องการ หน้าเว็บถูกเปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อ่านจนปวดตาก็ยังไม่เจอข้อมูลที่อยากรู้
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้ตาใกล้ปิดเต็มที เห็นลางๆว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว แล้วเขาก็ง่วงพอที่จะเดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียงไม่ไหว...
DREAMER
สัมผัสคุ้นเคยที่โอบรอบเขาอยู่ปลุกให้เขาลืมตาขึ้นมา แผ่นหลังบางรู้สึกถึงความนุ่มยวบ ชายแปลกหน้าที่เขาเริ่มคุ้นเคยวางตัวเขาลงบนเตียงอย่างเชื่องช้า ปัดปรอยผมที่ปรกหน้าออกจนสามารถสบแววตาสีดำสนิทนั่นได้ชัดเจน ต่างคนต่างมองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยความหลงใหล แบคฮยอนไม่รู้ว่าชานคนนี้มองเขาด้วยความรู้สึกอะไร แต่แววตานั้นทำให้เขายอมที่จะให้อีกฝ่ายทำอะไรก็ได้ ยินยอมทุกอย่างไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
เปลือกตาบางปิดลงเมื่อคนด้านบนโน้มลงมาครอบครองห้วงลมหายใจของเขา ยอมให้อีกฝ่ายได้ลิ้มลองอย่างเต็มใจ ฝ่ามือร้อนสอดเข้ามาใต้เสื้อยืดสีขาวแผ่วเบา ลูบไล้ไปตามผิวเนียนอย่างย่ามใจ ไล่มือลงจนไปถึงขอบกางเกง แม้ริมฝีปากยังไม่เป็นอิสระ แต่แบคฮยอนก็ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มือหนาร่นกางเกงของเขาออกไป ทุกอย่างเป็นไปอย่างไม่รีบร้อน เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครขัดขืนทั้งนั้น สายน้ำหยาดเยิ้มเมื่อทั้งสองยอมผละออกจากน้ำหวานตรงหน้า มือเรียวสวยแตะเบาๆที่ต้นแขนอีกคน คนที่เริ่มสนใจเนื้อลื่นใต้ร่มผ้าหันมามองปฏิกิริยาที่แปลกไปจากเดิม ไม่เคยมีครั้งไหนที่ร่างเล็กจะทำเหมือนว่ามีสติ แต่ดวงตาที่จ้องตรงมาอย่างมีความหมาย แววตาที่ดูเหมือนรับรู้ทุกสิ่งอย่าง
“คุณเป็นใคร...”
ไม่มีท่าทีตระหนกที่อีกฝ่ายเริ่มเคลือบแคลง มีแต่รอยยิ้มอบอุ่นกับฝ่ามือร้อนที่ประคองสะโพกมนอย่างเบามือ
“อึก...”
เป็นอีกครั้งที่เขาไม่สามารถควบคุมสติได้ คนใจร้ายที่ไม่ยอมตอบคำถามโถมกายเข้าใส่ ไม่รีบร้อนแต่หยั่งลึก นุ่มนวลแต่ร้อนแรง ความอุ่นร้อนที่โอบรัดกายเขาจนต้องกลืนคำถามลงไปจนหมดสิ้น...
DREAMER
ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่พร้อมผ้าห่มที่คลุมกายเพื่อความอบอุ่น ดึงผ้าห่มออกก็พบผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่เพราะฝีมือเขา แต่คนกระทำ...ไม่อยู่เลย
ค่อยๆเดินเข้าห้องน้ำอย่างระมัดระวัง ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ฝันเรื่องแบบนั้น แต่วันนี้กลับหงุดหงิดใจ ทั้งที่มีโอกาสแล้วแต่ดันทำไม่สำเร็จ งั้นคงต้องรอคราวต่อไป
“มาหาทุกวันเลยนะ เข้าใจมั้ย” พูดไปทั้งที่อยู่คนเดียว แค่หวังว่าอีกคนจะรับรู้และทำตามคำขอ ไม่ใช่เพราะหวังเรื่องแบบนั้น ถึงรู้ว่ามันจะต้องมีทุกครั้งก็เถอะ แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า ไม่รู้ล่ะ ต้องถามให้ได้เลย...
DREAMER
“แฮ่ก...”
มือเล็กยกขึ้นมาทาบไว้ตรงหน้าอกกว้างของอีกฝ่ายให้ผ่อนแรงลงหน่อย เพราะเขาเริ่มเจ็บตรงส่วนนั้นเสียแล้ว ผ่านมาหลายวันนับเป็นสัปดาห์ที่ชีวิตยังคงวนเวียนอยู่กับการทำงานเล็กๆน้อยๆพอไม่ให้ขอบุพการีเยอะเกินไปกับการที่ต้องมาหอบเหนื่อยกับความฝันที่เขามั่นใจว่าไม่ใช่ฝันอีกต่อไป
ฝันที่จับต้องได้ ที่มีความรู้สึก ที่จดจำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งแววตามีเสน่ห์เหลือล้นคู่นั้น...
“ฉันรักนาย...”
อีกสิ่งที่จำได้ขึ้นใจคือน้ำเสียงทุ้มกังวานที่ดังข้างหู ตื่นขึ้นมาก็ยังดังอยู่ในหัว พร่ำบอกรักตลอดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกัน คำบอกรักที่ฟังทีไรหัวใจก็เต้นแรง คำบอกรักที่พอได้ยินแล้วอยากจะตอบกลับไปในคำเดียวกัน ทั้งที่ไม่เคยเจอตัวตนจริงๆ ทั้งที่เคยเจอกันแค่ในความฝัน และไม่เคยทำอะไรร่วมกันเลยเสียนอกจากเรื่องบนเตียง แต่กลับฝังลึกในจิตใจ คอยเฝ้าหายามค่ำคืนว่าเมื่อไรจะมา คอยรั้งเอาไว้ในวินาทีที่จะหลับตา
“ฉันรักนาย...” เสียงแผ่วจางลงไปเพราะเขาไม่มีเรี่ยวแรงจะฝืนต่อ เรียวนิ้วเล็กเกี่ยวนิ้วอีกคนไว้เพื่อเหนี่ยวรั้งไม่ให้จางหายไปในตอนที่แสงสว่างทดแทนเข้ามา
DREAMER
“คุณมีอยู่จริงมั้ย...” บยอนแบคฮยอนถามหลังจากที่เขาลืมตาขึ้นมาแล้วพบชายคนเดิมกำลังสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผาก
“มีและไม่มี”
คนฟังขมวดคิ้วแน่น เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายยอมตอบคำถามเขาเลยก็ว่าได้ ร่างเล็กยกตัวเองขึ้นโดยมีอีกคนพยุงให้แบคฮยอนนั่งลงบนตัวเขา แขนยาวโอบรอบเอวดึงเข้ามาใกล้จนสัมผัสถึงเสียงหายใจอุ่นร้อน
“ไม่เข้าใจ”
“ฉันมีถ้านายอยากให้มี แต่ฉันไม่มีตัวตน”
“คุณเป็น...ยมทูต...รึเปล่า”
“หึ อยากให้ฉันเป็นรึไง”
“ผมไม่ถามคุณก็ได้ แต่บอกผมได้มั้ย ว่าคุณชื่ออะไร” ยิ่งพูดยิ่งไม่เข้าใจ เลยเปลี่ยนเรื่องน่าจะดีกว่า ไหนๆก็พูดคุยกับเขาแล้ว คำถามที่อยากรู้ที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องนี้
“นึกมาสักชื่อสิ ในความทรงจำนาย” ประทับริมฝีปากสีแดงฉ่ำนุ่มนวล แบคฮยอนหลับตารับรสชาติหวานละมุนละไมที่อีกคนนำพา เรียวลิ้นเกี่ยวพันจนตัวเขาแทบลอย ฝ่ามือร้อนที่ประคองใบหน้าสร้างความซ่านในอารมณ์นุ่มลึก พลันมีเสียงทุ้มเปล่งออกมาจากแสงสว่างในหัวของเขา
...ฉันชื่อชานยอล...
ละกลีบปากหวานล้ำแต่ไม่ห่างไปไกล ไล่ชิมน้ำหวานตามเรียวปากสวย เสียงของริมฝีปากดังกังวานช่างไพเราะกว่าเสียงใด แบคฮยอนกดจูบไปที่มุมปากอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนยังไม่ห่างจากริมฝีปากของใคร หยอกล้อด้วยปากของเขา ผลัดกันไม่รู้เบื่อ ต่างฝ่ายต่างตกลงไปในห้วงแห่งความหลงใหล รักใคร่จนมิอาจถอน
“ชานยอล...”
“หื้ม” ตอบรับในลำคอในขณะที่สูดดมกลิ่นหอมอ่อนจากผิวกายใต้เรือนผมนุ่ม
“ช่วยปลุกผมได้มั้ย” ไม่เข้าใจความหมายของประโยคที่บอกว่าชานยอลจะมีตัวตนเมื่อแบคฮยอนอยากให้มี แต่จะร้องขอ ขอให้เขาได้ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วพบกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของชานยอล ไม่ว่าอีกคนจะเป็นมนุษย์หรือไม่ แต่ขอแค่นี้แบคฮยอนก็มีความสุขมากแล้ว
“ไม่”
“...”
“เมื่อไรที่ตะวันตกดิน ฉันจะมาหา จะกอดรั้งนายเอาไว้ในอ้อมกอด ไม่ปล่อยจนกว่าแสงสว่างจะเข้ามา” ไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มขนาดไหน รู้เพียงความอบอุ่นที่โอบล้อมร่างกายอันโดดเดี่ยว ปัดความอ้างว้างในจิตใจออกไปจนหมด เหลือเพียงแต่ความสุขล้ำเหนือคำบรรยาย สุขจนอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ ที่นี้ ที่มีคนร่างกายใหญ่โตกว่าเขา อบอุ่นกว่าเขา กำลังถ่ายทอดทุกอย่างให้แก่เขา
ชานยอลคืออะไร ไม่สามารถหาคำตอบได้และไม่อยากรู้อีกต่อไป มันไม่สำคัญเท่ากับความรักล้นในหัวใจ ขอแค่อีกคนไม่ปล่อยเขาไป ขอแค่อ้อมกอดนี้ยังอยู่ ต่อไปแลกด้วยชีวิต บยอนแบคฮยอนคนนี้จะทำ...
“ฉันรักนาย...”
“ผมรักคุณ...ชานยอล”
อ่านจบแล้วอย่าโมโหสิ 55555555 คือจะสื่อว่า ยอลเป็นตัวอะไรไม่รู้แต่ไม่ใช่คน ในใจลึกๆคือมันรักกันด้วยสาเหตุอะไรมิทราบ
แบคเลยไม่อยากรู้แล้วว่ายอลมันคืออะไร ยอลมันก็ไม่ยอมบอก เพราะยังไงมันก็ได้เจอกันทุกวัน มันเลยไม่อยากรู้อะไรอีกเลย
ฟิคนี้สื่อเรื่องความรักที่ไม่มีอยู่จริง รักที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็มีความสุขที่จะรัก
นี่ พูดซะสวยเลย ยังงงกันอยู่ป่ะ ยิ่งอธิบายยิ่งงงป่ะ 555555 คือจะสื่อแบบนี้ ไม่เข้าใจก็ข้ามไป ไรท์ขอโทษ *ปาดน้ำตา*
แต่จะไม่แก้ไข ไม่เพิ่มตอน มันจบแค่นี้จริงๆ
:) Shalunla
ความคิดเห็น