คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Memoroma 06 - 100%
[HKS] Memoroma 06
‘ห้ามใช้ปืน ถ้าไม่จำเป็น’
ปัง!!!!
ดวงตาที่กำลังปิดสนิทเบิกกว้างร่างกระตุกเกร็งทันที ฮั่นผวาดึงร่างในอ้อมกอดออก สบตาโตที่มองค้างชิดขอบตาบน หัวใจเขาหล่นวูบ ตัวเย็นวาบเหมือนโดนราดด้วยน้ำแข็ง ร่างแกงส้มโงนเงนไปมาด้วยแรงเขย่าจากคนเดิม...แต่..ไม่เหมือนเดิม
ตอนนั้นเขาโกรธ...
แต่ตอนนี้เขากลัว...
กลัวจะเสียบางคนไป...
บอดี้การ์ดพุ่งสไลด์ตัวเข้ากันสองร่างริมหาด ยิงสวนที่มาของกระสุนนัดแรกจากพุ่มไม้มืดท้ายคฤหาสน์
ปัง!!! ปัง!!!
เสียงปืนยิงตอบโต้ เรียกสติฮั่นกลับคืนมา บอดี้การ์ดหันมาสำรวจคนทั้งสองรวดเดียวแล้วคว้าพยุงร่างไม่ได้สติของเจ้านาย โดยมีผู้ดูแลหิ้วแขนอีกข้าง ทั้งสามวิ่งหลบกระสุนมาถึงขอบถนน บอดี้การ์ดผละออกคอยยิงระวังหลัง เสียงโอดร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากมุมมืดนั้น
เมื่อมาถึงรถที่จอดไว้ มือฮั่นกดรีโมทเปิดประตูรถ พยุงร่างแกงส้มดันเข้านอนตักตัวเองเบาะหลัง โยนกุญแจรถให้บอดี้การ์ดที่ยื่นมือรอรับอยู่แล้ว รถถอยหลังเร็วด้วยความชำนาญรวดเดียวถึงปากทางออก ขับออกมาไม่ถึงสิบกิโลเมตร ก็เลี้ยวเข้าโรงแรมหรูในเครือชัยอรรถทันที
รถขับเข้าประตูข้างจอดเอี๊ยดหน้าประตูกระจกที่ต่อถึงลิฟท์ด้านหลัง คนขับหันไปสั่งกับเจ้าหน้าที่คนเดียวที่ยืนเฝ้าอยู่ คล้อยหลังประตูข้างนั้นค่อยๆเลื่อนปิดตายทันที กลุ่มคนอาวุธครบมืออีกสามถึงสี่คนวิ่งเข้าเฝ้าทางออก ฮั่นอุ้มร่างแกงส้มลงจากรถวิ่งตามบอดี้การ์ดที่วิ่งนำหน้าไปเปิดลิฟท์รออยู่ก่อน ไม่มีใครพูดอะไรอีก สายตาบอดี้การ์ดเป็นกังวลจับจ้องอยู่เพียงร่างของแกงส้ม จนมาถึงชั้น 25 บนสุด เขาวิ่งนำทางไปด้านหลังตัวตึกเปิดประตูลัดเลาะสองชั้นนำไปยังหน้าลิฟท์อีกตัว คียการ์ดสีดำใบใหม่ถูกเสียบป้อนรหัสเปิดลิฟท์ลับต่อขึ้นไปอีก 3 ชั้น
ลิฟท์เปิดถึงกลางห้องเดียวที่ครอบครองพื้นที่ชั้นบนสุดของโรงแรม ไฟทั้งห้องเพนท์เฮาส์เปิดสว่างทันทีที่ลิฟท์เปิดออก ฮั่นอุ้มร่างแกงส้มวางลงบนโซฟากว้างบริเวณรับรอง บอดี้การ์ดวิ่งไปสอดส่องทุกประตูทุกบานกระจก และวิ่งขึ้นบันไดไปสำรวจห้องนอนชั้นบน ก่อนลงมาเร็ว
“เดี๋ยวฉันมา..ห้ามไปไหนทั้งนั้น!!” บอดี้การ์ดสั่งผู้ดูแลเฉียบขาด และเสียบคียการ์ดใบเดิมพาตัวเองลงไปชั้นล่าง
ยังไงก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว..แต่ถึงทางออกเดียวคือลิฟท์นั้น เขาคงไม่ไป..จะทิ้งคนตรงหน้านี้ไปได้อย่างไร
ฮั่นพยุงร่างแกงส้มที่ตาค้างลอยเข้ากับอก เสื้อเชิ้ตขาวเปียกทะเลและเศษทรายแนบกระจายไปทั่วร่าง ฮั่นลูบใบหน้าขาวซีดด้วยมือสั่นระริก แล้วพลิกร่างแกงส้มไปทั่วเพื่อหาบาดแผล รอยจ้ำแดงเป็นวงกว้างรอบลำคอเล็ก...ฝีมือเขา
มือหนาควบคุมอาการสั่นไม่อยู่เมื่อค่อยๆ ลูบลงบนรอยช้ำนั้น ความเจ็บถ่ายทอดจากลำคอบางผ่านมือเขาวิ่งเข้าสู่ตนเอง ฮั่นรู้สึกปวดแน่นไปทั่วลำคอ เหมือนโดนเค้น เหมือนหายใจไม่ออก
มันไม่เหมือนตอนที่แม่บีบคอเขา
มันไม่เหมือนตอนที่เขาคิดถึงมัน
ตอนนี้...เขารู้สึก...เจ็บแทน...
อยากเจ็บแทน
ตาโตที่เบิกค้างค่อยๆกระพริบแผ่วเบา สายตาหรี่ลงฉับพลันเมื่อกระทบแสงจ้าภายในห้อง แกงส้มลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพมัวเบลอค่อยๆชัดขึ้น
พี่ฮั่น...กำลังมองเขา..
พี่ฮั่น...กำลังเป็นห่วงเขา..
ร่างกายอ่อนล้าไม่อาจทานแรงเพียงน้อยนิด มือเล็กหนักอึ้งพยายามยกขึ้นแตะลงบนแผลฉกรรจ์ที่หัวไหล่ขวาของคนที่โอบกอดเขาอยู่
‘เมื่อไหร่ที่คุณคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง....นั่นแหล่ะ เรียกว่า...รัก’
สองสายตาสบกันนิ่งเนิ่นนาน ต่างไม่รู้ว่าตัวเองบาดเจ็บแค่ไหน รู้แต่ว่าห่วงอีกคน..แทบตาย
เสียงติ๊งของลิฟท์หยุดทั้งสองที่กำลังจะโผเข้าหากันอีกครั้ง..แต่ที่หยุดฮั่นไว้ไม่ใช่แค่เสียงลิฟท์ แต่เป็นผู้มาใหม่อีกคนที่กำลังจ้องเขาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน
พี่โน่…
“หมอภาคินเชิญทางนี้ครับ”
บอดี้การ์ดวางกระเป๋าเสื้อผ้าที่เอาออกมาจากท้ายรถ และ KS ลงบนโต๊ะ ก่อนดึงร่างแกงส้มออกจากอกฮั่น อุ้มขึ้นบันไดนำภาคินไปยังห้องนอนชั้นสอง
ภาคินสบตาฮั่นครู่หนึ่ง และมองตามสายตาน้องชายที่เหล่ไปมุมเพดานห้อง ส่งสัญญาณให้รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ ภาคินปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที เขาส่ายหน้า ถอนหายใจเบา ก่อนเดินตามบอดี้การ์ดไป
“ลุงหมอไปไหน?”
“อาจารย์อยู่ต่างประเทศ ท่านให้ผมมาดูแลคุณแทน”
‘ภาคิน...ผมมีเคสด่วนวีไอพี อยากให้คุณไปดูแทนหน่อย ตอนนี้เขาอยู่โรงแรมเดียวกับคุณ ของที่คุณต้องใช้ผมเตรียมให้เรียบร้อยแล้วอยู่กับคนที่จะไปรับคุณ ผมจะเมลรายละเอียดเคสไปให้ รบกวนด้วยนะภาคิน ผมเลือกคุณ เพราะไว้ใจคุณที่สุด’
“ไปทำแผลให้พี่ฮั่นก่อน!”
“ทำอยู่แล้วครับ แต่หลังจากตรวจคุณเสร็จ”
แผลฮั่นเท่าที่มองผ่านๆ เป็นรอยถากของกระสุนไม่ลึกมาก รอได้ แต่...ภาคินกัดปากตัวเองทันที เขาไม่น่ารับคำเหมือนรู้จักอีกคนที่บาดเจ็บข้างล่างคือฮั่นเลย...ช่างเถอะ ดูเหมือนเด็กนี่ก็ไม่ทันคิดเหมือนกัน
“ทำอะไรน่ะ!”
คุณแกงตกใจถอยร่างเหนื่อยอ่อนชิดหัวเตียง เมื่อชายแปลกหน้ากำลังจะจับเขาถอดเสื้อผ้า เขาไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่ายๆ แม้แต่คนที่เขาไว้ใจ ก็มีเรื่องทำให้ไม่เข้าใจมากมายเหลือเกิน..
“ก็ตรวจร่างกายคุณไง จะถอดเองหรือให้ผมถอดให้?”
แกงส้มมองภาคินอย่างชั่งใจก่อนปลดกระดุมถอดเสื้อเปียกโชกของตัวเองออก ร่างขาวซีดแบบบางเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยฟกช้ำกว้างรอบลำคอ และรอยกระแทกด้านหลัง เลยไปถึงส่วนสะโพกต่ำกว่าขอบกางเกงลงไป..
“อะไรอีกเนี่ย??” คุณแกงตะโกนดังเมื่อมือของภาคินลูบเลยลึกไปถึงใต้ขอบกางเกงยีนส์ด้านหลัง และดึงมันลง
“คุณนั้นแหล่ะ เป็นอะไรอีกเนี่ย? ผมเป็นหมอนะ ไม่ใช่พวกหื่นกาม เลิ!” กตั้งแง่กับผมได้แล้ว จะได้ตรวจดีดีสักที
“ตั้งแง่?...” คุณแกงเสียงเบาลง เลิกคิ้วสงสัย เขาเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เมื่อได้ยินอะไรที่ไม่เข้าใจ..จนลืมอารมณ์ก่อนหน้านั้นไปเกือบหมด
“อืม...ตั้งแง่” คนตอบก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน เสียงตวาดอย่างไม่ตั้งใจหายเข้าไปในลำคอทันที นึกโทษตัวเองที่ไปดุคนไข้ตัวเล็กร่างกายอ่อนแอขนาดนี้
‘อย่าลืม...เขาไม่เหมือนคนอายุ 20 ปี ทั่วไป....ใจเย็นๆ’
“หมายถึงคอยตั้งท่าจับผิดผมครับ...ถ้าคุณไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ขออนุญาตถอดกางเกงเพื่อตรวจสะโพกคุณ ว่าแตก หัก บวม ช้ำ อะไรหรือเปล่า? คุณนอนคว่ำไว้ก็ได้นะ...จะได้ไม่อาย”
น้ำเสียงเป็นทางการถูกใช้ได้ไม่นาน คำสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อคนไข้ที่ไม่ประสาเอาซะเลย คุณแกงตั้งค้อนเบาก่อนนอนคว่ำให้เขาตรวจโดยดี
“ไม่บอกพี่ตามได้ไหม?” หลังตรวจร่างกาย และฉีดยาเสร็จ ภาคินให้แกงส้มสวมชุดเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแทนเสื้อกางเกงมอมแมมไปด้วยน้ำและทราย
“ไม่ได้ครับ”
เด็กน้อยเอ้ย...จะปกป้องใครไม่ดูสภาพตัวเองเลย หลักฐานเต็มตัวขนาดนี้ ถึงแม้ธนทัตไม่ยอมเล่าอะไร ซักประวัติไม่ได้สักอย่าง แต่จากร่องรอยและรูปการณ์แล้วก็พอเดาได้...
ฮั่นไม่เบามือเลย
“ถึงหมอไม่พูด...คนอื่นก็บอกอยู่ดี”
“ไม่มีใครรู้ดีเท่าหมอหรอก นายนั่นก็ไม่เห็นอะไร..มันมืด”
“นายนั่นคือบอดี้การ์ดคุณใช่ไหม...ผมว่าเขาเห็นนะ”
“ไม่..เขาไม่เห็น..ถ้าเขาเห็นเขายิงพี่ฮั่นตายไปแล้ว..ไม่ช่วยกลับมาอย่างนี้หรอก”
“ฉลาดเหมือนกันนี่คุณ...จะต่อรองอะไรผม..ว่ามา” ภาคินเริ่มสนุกกับการคุยกับเด็กหนุ่มคนนี้ เขาเอียงคอมองแกงส้มที่กำลังนอนขมวดคิ้วพิงหัวเตียง
“อย่าบอกอะไรพี่ตาม” ริมฝีปากบางสีชมพูซีดเอ่ยขึ้นช้าๆ ดวงตาแน่วแน่
“ผมเป็นหมอนะ...โกหกไม่ได้”
แววตาภาคินเป็นประกาย เขาก็ตั้งใจจะบอกยุทธนาอีกอย่างอยู่แล้ว..เพื่อช่วยฮั่น...อันที่จริง..เป็นเพราะริทมากกว่า...แต่อย่างไรก็ตามแกล้งเด็กนี่ก็เพลินดีเหมือนกัน
“แต่มันเป็นความต้องการของคนไข้...และคุณแกงอายุ 20 แล้ว”
หึ...ฉลาดไม่เบา
“โอเค...ยอมล่ะ”
ภาคินยกสองมือขึ้นข้างตัว เหมือนยอมแพ้ ถึงขั้นเอาสิทธิผู้ป่วยขึ้นมาพูด และบอกชัดว่าตัวเองเกิน 18 ไม่ต้องมีผู้ปกครอง เขาคงต้องหยุด..เด็กนี่ไม่ธรรมดา
“ที่สำคัญ...คุณแกงเป็นคนจ่ายเงินหมอนะ” แกงส้มหรี่ตาย้ำอีกเรื่องที่ตัวเองคิดว่าจะจัดการตาหมอนี่ได้
“ฮ่าๆๆ....คุณนี่ตลกเหลือเชื่อ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินหรอก ถ้าอาจารย์ไม่ขอร้อง ให้เงินมากขนาดไหน ใครเขาอยากจะมาตรวจคุณ เล่นเอาคนหน้าโหดถือปืนไปรับผมถึงห้องกลางดึก...น่ากลัวจะตาย”
“ดี! กลัวก็ดี ไปทำแผลให้พี่ฮั่นเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นคุณแกงจะเรียกนายนั่นมายกหมอออกไปเลย”
“คร้าบบบ...คุณแกง”
ปกติเขายอมแค่คนคนเดียว...ยอมมาตลอดชีวิต..แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขากลับไม่เคืองกับการโดนออกคำสั่งจากเด็กประหลาดที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก..
หัวใจไร้เดียงสาของเด็กนี่สินะ..คือเสน่ห์ที่ทำให้ฮั่นหลงเข้าง่ายๆ ท่าทางที่ฮั่นมีต่อเด็กคนนี้เดาได้ไม่ยาก หากเขาไม่เข้ามาก่อนสองคนนี้คงกอดกันไปแล้ว สายตาห่วงหาที่มองตามร่างแกงส้มตอนโดนดึงออกจากอกตัวเองไป เล่าเรื่องทุกอย่างได้ดี อีกทั้งเด็กนี่ยังพยายามปกป้องคนที่ทำร้ายตัวเองอีก...ถ้าไม่ใช่เพราะรัก คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
นี่คงเป็นสาเหตุที่ริทโทรหาเขาเมื่อตอนเย็น...ทั้งน้ำตา
“จับได้ไหม?”
“ไม่ได้ครับ แต่โดนผมยิงไปน่าจะสาหัสอยู่ ให้คนตามรอย และคอยดักทุกโรงพยาบาลแถวนี้แล้วครับ..ความปลอดภัยภายในและโดยรอบโรงแรมก็เสริมเต็มขั้น”
บอดี้การ์ดหลบออกมายืนคุยโทรศัพท์รายงานยุทธนา อยู่ริมสระว่ายน้ำส่วนตัวด้านนอกห้องเพนส์เฮาส์ชั้นหนึ่ง
“คุณแกงทำอะไรอยู่?” ยุทธนาถามเสียงเรียบ เลิกใส่ใจคนร้ายที่ยังลอยนวล
“อาบน้ำอยู่ครับ ส่วนฮั่น..หมอกำลังทำแผลให้อยู่ข้างใน”
เขาเหลือบหันไปมองภายในส่วนรับแขกผ่านบานกระจกใส หมอภาคินกำลังเย็บแผลให้นายฮั่นบนโซฟาตัวเดิม แม้นายไม่ได้ถามถึงฮั่น แต่เขาอยากพูด...หยั่งเชิงนาย
“พรุ่งนี้หมอภาคินจะขึ้นมาดูคุณแกงอีกรอบช่วงสาย. ไปรับเขาด้วย” ไม่ได้ผล ยุทธนาทำเหมือนไม่ได้ยินชื่อนี้ด้วยซ้ำ...คงต้องพูดตรงๆ
“คุณตามเชื่อหมอจริงๆ เหรอครับ?...ผมว่ารอยช้ำเหมือนโดนทำร้ายมากกว่าช่วยชีวิต”
หลังออกจากห้องนอน หมอบอกจะโทรรายงานยุทธนาเอง ซึ่งเขาแอบได้ยินทุกอย่าง แต่เขาว่า..มันไม่ใช่ รูปคุณแกงก็ส่งไปให้ดูแล้ว คนอย่างยุทธนาไม่น่าจะเชื่อคนง่ายอย่างนี้
“นายบอกเอง...ว่าเห็นเขาเอาตัวบังกระสุนแทนคุณแกง” เสียงเรียบเฉยตอบกลับยิ่งทำให้คนฟังที่กำลังกระวนกระวาย ยิ่งสับสนหงุดหงิด รีบเล่าสิ่งที่เห็นริมหาดทันที
“ก็ใช่ครับ..แต่ก่อนหน้า..มันไม่น่าใช่...ผมเห็นไม่ชัด..กำลังจะเข้าชาร์จ....”
“ถ้าไม่ได้เขา..คุณแกงคงแย่กว่านี้..นายควรสำนึก!” ปลายสายตัดบทแทรก ซ้ำทิ้งท้ายตำหนิลูกน้องเสียงแข็ง ย้ำความผิดพลาดที่เกือบช่วยชีวิตเจ้านายไม่ทัน
“ถ้าผมใช้ปืนได้ คงไม่เป็นแบบนี้”
ห้ามใช้ปืน ถ้าไม่จำเป็น...มันจำเป็นตั้งแต่ตอนที่เห็นฮั่นทำอย่างนั้นกับคุณแกงแล้ว...แม้เห็นไม่ชัด แต่ในสถานการณ์นั้น ปกติเขาต้องยิงขู่ลงทราย อาจป้องกันคนร้ายทั้งไกล และใกล้ได้ไวกว่านี้
“ก็เห็นแล้วว่าเป็นยังไง?”
“ครับ....”
“...แล้วคุณแน่ใจนะครับว่าไม่ให้ติดกล้องในห้องนอน”
“นายถามฉันครั้งที่ร้อยแล้วมั้ง?”
ถึงให้ติดตอนนี้คงไม่ทัน จะถามทำไมอีก อย่างไรเขาก็ไม่มีทางทรยศคุณแกง...สองคนนั้นนอนห้องเดียวกันมานาน ไม่มีทีท่าว่าเกินเลย และไม่ว่าคืนนี้จะมี หรือไม่มีอะไรทำนองนั้นเกิดขึ้น ก็ไม่ควรมีหลักฐานใดทั้งสิ้น เขาจะไม่ละเมิดสิ่งที่คุณแกงหวงแหนที่สุด...
พื้นที่ส่วนตัว
และที่สำคัญ...เขาเชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง..
คุณแกงจะปลอดภัย
ไม่เข้าใจเลย ทั้งยุทธนา และนายฮั่น
คนควรระวังกลับเพิกเฉย คนน่าระวังกลับทุรนทุราย
ถึงรู้ว่าอันตราย...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านายฮั่นห่วงคุณแกงมาก ตั้งแต่เอาตัวเองรับกระสุนแทน แขนโดนยิงแต่ยังวิ่งอุ้มอีกคนมาตลอดทางไม่ปริปากแสดงอาการใด มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ตะโกนดังว่าเจ็บปวด เวลามันเห็นคุณแกง...เป็นแบบนั้น
ดวงตาโกหกไม่ได้
แต่อีกคน
ถึงรู้ว่าห่วงใย...แต่กลับปล่อยให้คนคิดร้ายอยู่ใกล้ตัวเจ้านายที่สุด เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กลับนิ่งเฉยอย่างประหลาด ทั้งที่ปกติไม่มีทางนั่งได้ติด จะต้องรีบมาอยู่ใกล้ๆ คุณแกงแล้ว
“วันนี้คุณไม่มาแล้วเหรอครับ?”
“ไม่ล่ะ...ฉันมีเรื่องต้องทำ จะไปพรุ่งนี้แทน”
ยุทธนากดวางโทรศัพท์ หยิบแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ สายตาคมพ้นขอบแก้วจับจ้องไปยังโต๊ะด้านในสุด ลูกค้าคนหนึ่งนั่งดื่มเหล้าหนัก..และกำลังหัวเสีย...อย่างรุนแรง
“เขาเป็นยังไงบ้างครับ?”
ฮั่นถามขึ้นทันทีหลังจากอยู่กับภาคินลำพัง ถึงอย่างไรก็ต้องระวังคำพูด เพราะถึงนายนั่นไม่อยู่ แต่กล้องยังอยู่ตลอดเวลา
“เขาคนไหนล่ะครับ?” โตโน่กระตุกยิ้มมุมปาก ยังก้มหน้าง่วนกับบาดแผลน้องชาย
เขาข้างบน หรือ เขาอีกคน
ฮั่นพ่นลมหายใจแรง คิ้วเข้มขมวดแทบชนกัน เบื่อพี่ชาย... รู้ทั้งรู้ว่าหมายถึง ‘เขา’ ไหน...รู้ทั้งรู้ว่าร้อนใจขนาดไหน ยังจะมาเล่นลิ้นอีก
หลังจากภาคินขึ้นไปตรวจแกงส้ม เขาก็คว้าผ้าขนหนูในครัวกดแผลห้ามเลือด รีบตามไปรอหน้าห้องนอน สวนทางบอดี้การ์ดที่ลงไปด้านล่าง เขายืนรอจนพี่โน่ออกมา ถามแล้วก็อมพะนำไม่พูดอะไร...ดูสนุกที่เห็นเขาร้อนรน
ภาคินเห็นน้องชายฮึดฮัดขึ้นมาอีกรอบ ก็อดขำไม่ได้
นายพรานกำลังตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้...รู้ตัวแล้วหรือยัง
“มีแต่รอยฟกช้ำ..คอ หลัง สะโพกยังไม่หัก ถ้าแรงกว่านี้ก็ไม่แน่ เดี๋ยวเข้ากรุงเทพไปเอ็กซเรย์ดูอีกทีให้แน่ใจ น้ำสำลักไม่มากไม่เป็นไร แต่ถ้าคืนนี้มีไข้โทรหาผมทันที”
บรรยากาศเงียบลง คนถามไม่พูดต่อ ภาคินเงยหน้าขึ้น สีหน้ากังวลปรากฏชัดบนใบหน้าน้องชาย ตัวเขาเองควรจะยินดีที่ยิ่งเห็นความชัดเจนนี้ เขากำลังจะหมดคู่แข่งคนสำคัญ
ถ้าจะพูดให้ถูก...เราไม่เคยแข่งกันด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ไม่เคยชนะ...ส่วนฮั่นก็ไม่เคยแพ้...
ไม่เคยแพ้ใจริท
แต่กำลังแพ้...อีกคน
ความรักนี่ก็แปลก..รักแค่ไหน ทำดีเท่าไหร่..ก็ไม่ได้มา แต่กับบางคนไม่ต้องพยายามอะไร..ก็ได้เขาไปหมดทั้งหัวใจ
ไม่รู้จะสงสารใครดี..ริท ฮั่น แกงส้ม..หรือตัวเอง
“..คุณก็ด้วยนะ..อาจมีไข้ ผมให้ยาไว้ พรุ่งนี้จะล้างแผลให้อีกรอบ” โตโน่พันแผลเสร็จ เริ่มเก็บเครื่องมือ และเศษผ้าก๊อซเปื้อนเลือด
พรุ่งนี้...จริงสิ! ทำไมพี่โน่มาอยู่นี่ได้?
“คุณหมอประจำที่นี่เหรอครับ?”
“เปล่าครับ มาประชุมใหญ่ประจำปี หมอมาจากทั่วประเทศ ต่างประเทศก็มี หมอหลายคนพักที่นี่”
ริทก็อยู่...ระวังหน่อย
“โรงแรมห้าดาว หมอๆ คงสะดวกสบายเต็มที่”
ริทโอเคไหมพี่?
“สะดวกครับ...แต่สบายหรือเปล่า คงต้องถามเป็นคนคนไป”
ไม่เลย...นึกว่าจะไม่ถามถึง เห็นห่วงแต่คนข้างบน..
“น่ารักดีนะครับ”
“ครับ?” ฮั่นหลุดจากภวังค์ ที่กำลังนึกถึงน้องชายต่างสายเลือด...อีกคนที่ต้องห่วง
“ตุ๊กตาตัวนั้นน่ะครับ...” ภาคินหันไปทาง KS ที่นั่งพิงข้างกระเป๋าบนโต๊ะเตี้ยสีงาช้าง สำหรับวางสัมภาระ
“...ดูภายนอกก็แค่ตุ๊กตาเก่าๆมอมๆหน้าเศร้าไม่น่าเล่น ใครเห็นก็คงมองผ่าน แต่หากได้ใกล้ได้กอดทุกวันคงเผลอหลงได้ไม่ยาก ตาใสใจซื่อขนาดนั้น ท่าทางจะติดเจ้าของมากซะด้วย” และเจ้าของก็ติดมันเช่นกัน
“..ก็แค่ตุ๊กตา”
ฮั่นกำมือมอง KS อย่างใจลอย..นึกถึงวันแรกที่เจอ...เขาไม่ใช่เจ้าของมัน ไม่เคยเป็นเจ้าของอะไรสักอย่าง...แม้จะอยากแค่ไหน...มันก็แค่ตุ๊กตา
“เหรอครับ...ถ้าแค่นั้นก็ดี ระหว่างนี้ก็ถนอมหน่อยนะครับ ตุ๊กตาบางตัวเปราะบางกว่าที่เห็น ถ้าพลั้งมือไป วันไหนรู้ตัวอยากกลับมากอดอีก..คงไม่เหมือนเดิม”
ไม่ต้องวันไหนหรอกพี่...
ผมรู้ตัวเอง…ทุกวัน...ทุกเวลา
ฮั่นเคาะประตูสามครั้ง เว้นระยะครู่หนึ่ง และเปิดเข้าไป เขาทำเหมือนก่อนเข้าห้องขาวในคฤหาสน์ชัยอรรถ ทุกคนในบ้านจะมีจำนวนและรูปแบบที่ต้องเคาะแตกต่างกัน เพื่อให้คุณแกงทราบว่าใครกำลังจะเข้ามา
ห้องเย็นไม่ต่างจากที่บ้าน ห้องกว้างสว่างด้วยแสงจันทร์ที่ลอดเข้ามาระหว่างผ้าม่านกั้นประตูเปิดไปสู่ริมระเบียงด้านนอก...ม่านที่ปิดไม่สนิท
ฮั่นใจหล่นวูบ...ทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้า และ KS วิ่งตรงไปยังประตู แขนขวากระชากผ้าม่านออกพร้อมประตูกระจกอย่างรวดเร็ว
ระเบียงว่างเปล่า...
เขาหันกลับกวาดตาด้านใน ร่างเย็นวาบยิ่งกว่าอุณหภูมิห้อง ใจเต้นถี่รัว เหมือนตอนที่เห็นแกงส้มตาค้างตัวเกร็ง แต่ตอนนี้มันแย่กว่า..
เขาไม่เห็นแกงส้มแม้แต่เงา
ฮั่นกลั้นใจกำลังก้าวพ้นขอบประตูออกไปนอกระเบียง..ทันใดนั้น เสียงหนึ่งเบาแว่วมา...
โล่งอก...ฮั่นผ่อนลมหายใจยาว เขากลายเป็นคนตื่นตระหนกง่ายตั้งแต่เมื่อไร...ฮั่นนึกขันตัวเองระหว่างที่เดินตามเสียงไปจนถึงริมห้องอีกฝั่งหนึ่ง ด้านที่หันเข้าสู่ทะเล
เด็กคนนี้..ต่อให้เหนื่อยล้าแค่ไหน ก็ยังมีแรงเหลือพอสำหรับอาบน้ำสินะ แกงส้มรักสะอาด ชอบอาบน้ำ ชอบอยู่ในห้องน้ำนานๆ เขาบอกว่ามันเย็นดี
เสียงหยดน้ำกระทบลงพื้นดังชัดขึ้นเรื่อยๆ
ชัดเกินไป...
ภาพตรงหน้าเปลี่ยนอุณหภูมิทั่วร่างพุ่งสูงขึ้นฉับพลัน
จากเย็น...แทบแข็ง
กลายเป็นร้อน...แทบละลาย
ห้องอาบน้ำ...ที่ไร้ประตู
TBC : Ninee >,<
เรารู้ว่าเหล่าท่านรี้ดกำลังดูฮอร์โมนอยู่ กร้ากกกก ฉะนั้นอย่าสนใจเราเลย จะแต่งไปลงไปงี้แหล่ะ จนกว่าจะง่วง 555555
.
.
ง่วงแล้ว ง่วงแล้ว 50% ก่อนนะ อะคริอะคริ รี้ดบอกว่า “ไหนเอ็งจะพักเครียดไปต่อ My Happiness ไงห๊า?”
คือเขียนๆอยู่เสียงปืนจากเรื่องนี้ไปทำอิพี่ฮั่นเกรียนเรื่องนู้นวงแตกทู้กที อิพี่เลยไล่ให้ไปเขียนเรื่องนี้ให้จบๆ นางขี้ตกใจ กร้ากกกก
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
เรื่องนี้ออกแนวจิตเล็กน้อย ก็อิไรต์มันบ้านี่เนอะ โฮะๆๆๆ
ชอบไม่ชอบ ติชม หย่อนเม้นต์กันได้ ยังไงเรื่องก็ยังเหมียนเดิมแน่นอน อะโฮ๊ะ อะโฮ๊ะ
ตอนนี้ไปนอนก่อน ไข้ขึ้น ยังอุตส่าห์หนีแม่มาหน้าฟิค 5555 บายยยยยย
ครบ 100 แล้วววว ง่วงมาก ง่วงมากกกกมายยยย อยากตอบทุกคน เดี๋ยวมาเดี๋ยวมาตอบค่ำๆ ขอไปนอนก่อนนนน
Ninee
(@Jasmininee)
ความคิดเห็น