ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF HKS] Memoroma

    ลำดับตอนที่ #6 : Memoroma 06 - 100%

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 57



    [HKS] Memoroma 06

     

                   ห้ามใช้ปืน  ถ้าไม่จำเป็น

     

     

                   ปัง!!!!

     

     

                   ดวงตาที่กำลังปิดสนิทเบิกกว้างร่างกระตุกเกร็งทันที ฮั่นผวาดึงร่างในอ้อมกอดออก สบตาโตที่มองค้างชิดขอบตาบน หัวใจเขาหล่นวูบ ตัวเย็นวาบเหมือนโดนราดด้วยน้ำแข็ง ร่างแกงส้มโงนเงนไปมาด้วยแรงเขย่าจากคนเดิม...แต่..ไม่เหมือนเดิม

     

                   ตอนนั้นเขาโกรธ...

     

                   แต่ตอนนี้เขากลัว...

     

                   กลัวจะเสียบางคนไป...

     

                   บอดี้การ์ดพุ่งสไลด์ตัวเข้ากันสองร่างริมหาด ยิงสวนที่มาของกระสุนนัดแรกจากพุ่มไม้มืดท้ายคฤหาสน์

     

                   ปัง!!! ปัง!!!

     

                   เสียงปืนยิงตอบโต้ เรียกสติฮั่นกลับคืนมา บอดี้การ์ดหันมาสำรวจคนทั้งสองรวดเดียวแล้วคว้าพยุงร่างไม่ได้สติของเจ้านาย โดยมีผู้ดูแลหิ้วแขนอีกข้าง ทั้งสามวิ่งหลบกระสุนมาถึงขอบถนน บอดี้การ์ดผละออกคอยยิงระวังหลัง เสียงโอดร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากมุมมืดนั้น

                   เมื่อมาถึงรถที่จอดไว้ มือฮั่นกดรีโมทเปิดประตูรถ พยุงร่างแกงส้มดันเข้านอนตักตัวเองเบาะหลัง โยนกุญแจรถให้บอดี้การ์ดที่ยื่นมือรอรับอยู่แล้ว รถถอยหลังเร็วด้วยความชำนาญรวดเดียวถึงปากทางออก ขับออกมาไม่ถึงสิบกิโลเมตร ก็เลี้ยวเข้าโรงแรมหรูในเครือชัยอรรถทันที

                   รถขับเข้าประตูข้างจอดเอี๊ยดหน้าประตูกระจกที่ต่อถึงลิฟท์ด้านหลัง คนขับหันไปสั่งกับเจ้าหน้าที่คนเดียวที่ยืนเฝ้าอยู่ คล้อยหลังประตูข้างนั้นค่อยๆเลื่อนปิดตายทันที กลุ่มคนอาวุธครบมืออีกสามถึงสี่คนวิ่งเข้าเฝ้าทางออก ฮั่นอุ้มร่างแกงส้มลงจากรถวิ่งตามบอดี้การ์ดที่วิ่งนำหน้าไปเปิดลิฟท์รออยู่ก่อน ไม่มีใครพูดอะไรอีก สายตาบอดี้การ์ดเป็นกังวลจับจ้องอยู่เพียงร่างของแกงส้ม จนมาถึงชั้น 25 บนสุด เขาวิ่งนำทางไปด้านหลังตัวตึกเปิดประตูลัดเลาะสองชั้นนำไปยังหน้าลิฟท์อีกตัว คียการ์ดสีดำใบใหม่ถูกเสียบป้อนรหัสเปิดลิฟท์ลับต่อขึ้นไปอีก 3 ชั้น

                   ลิฟท์เปิดถึงกลางห้องเดียวที่ครอบครองพื้นที่ชั้นบนสุดของโรงแรม ไฟทั้งห้องเพนท์เฮาส์เปิดสว่างทันทีที่ลิฟท์เปิดออก ฮั่นอุ้มร่างแกงส้มวางลงบนโซฟากว้างบริเวณรับรอง บอดี้การ์ดวิ่งไปสอดส่องทุกประตูทุกบานกระจก และวิ่งขึ้นบันไดไปสำรวจห้องนอนชั้นบน ก่อนลงมาเร็ว

                   เดี๋ยวฉันมา..ห้ามไปไหนทั้งนั้น!!” บอดี้การ์ดสั่งผู้ดูแลเฉียบขาด และเสียบคียการ์ดใบเดิมพาตัวเองลงไปชั้นล่าง

                   ยังไงก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว..แต่ถึงทางออกเดียวคือลิฟท์นั้น เขาคงไม่ไป..จะทิ้งคนตรงหน้านี้ไปได้อย่างไร

                   ฮั่นพยุงร่างแกงส้มที่ตาค้างลอยเข้ากับอก เสื้อเชิ้ตขาวเปียกทะเลและเศษทรายแนบกระจายไปทั่วร่าง ฮั่นลูบใบหน้าขาวซีดด้วยมือสั่นระริก แล้วพลิกร่างแกงส้มไปทั่วเพื่อหาบาดแผล รอยจ้ำแดงเป็นวงกว้างรอบลำคอเล็ก...ฝีมือเขา

                   มือหนาควบคุมอาการสั่นไม่อยู่เมื่อค่อยๆ ลูบลงบนรอยช้ำนั้น ความเจ็บถ่ายทอดจากลำคอบางผ่านมือเขาวิ่งเข้าสู่ตนเอง ฮั่นรู้สึกปวดแน่นไปทั่วลำคอ เหมือนโดนเค้น เหมือนหายใจไม่ออก

     

                   มันไม่เหมือนตอนที่แม่บีบคอเขา

     

                   มันไม่เหมือนตอนที่เขาคิดถึงมัน

     

                   ตอนนี้...เขารู้สึก...เจ็บแทน...

     

                   อยากเจ็บแทน

     

                   ตาโตที่เบิกค้างค่อยๆกระพริบแผ่วเบา สายตาหรี่ลงฉับพลันเมื่อกระทบแสงจ้าภายในห้อง แกงส้มลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพมัวเบลอค่อยๆชัดขึ้น

     

                   พี่ฮั่น...กำลังมองเขา..

     

                   พี่ฮั่น...กำลังเป็นห่วงเขา..

     

                   ร่างกายอ่อนล้าไม่อาจทานแรงเพียงน้อยนิด มือเล็กหนักอึ้งพยายามยกขึ้นแตะลงบนแผลฉกรรจ์ที่หัวไหล่ขวาของคนที่โอบกอดเขาอยู่

     

     

                   เมื่อไหร่ที่คุณคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง....นั่นแหล่ะ เรียกว่า...รัก

                  

                                 

                   สองสายตาสบกันนิ่งเนิ่นนาน ต่างไม่รู้ว่าตัวเองบาดเจ็บแค่ไหน รู้แต่ว่าห่วงอีกคน..แทบตาย

                   เสียงติ๊งของลิฟท์หยุดทั้งสองที่กำลังจะโผเข้าหากันอีกครั้ง..แต่ที่หยุดฮั่นไว้ไม่ใช่แค่เสียงลิฟท์ แต่เป็นผู้มาใหม่อีกคนที่กำลังจ้องเขาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน

     

                   พี่โน่

     

                   “หมอภาคินเชิญทางนี้ครับ

                   บอดี้การ์ดวางกระเป๋าเสื้อผ้าที่เอาออกมาจากท้ายรถ และ KS ลงบนโต๊ะ ก่อนดึงร่างแกงส้มออกจากอกฮั่น อุ้มขึ้นบันไดนำภาคินไปยังห้องนอนชั้นสอง

                   ภาคินสบตาฮั่นครู่หนึ่ง และมองตามสายตาน้องชายที่เหล่ไปมุมเพดานห้อง ส่งสัญญาณให้รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ ภาคินปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที เขาส่ายหน้า ถอนหายใจเบา ก่อนเดินตามบอดี้การ์ดไป

     

     

     

     

     

                  ลุงหมอไปไหน?”

                   “อาจารย์อยู่ต่างประเทศ ท่านให้ผมมาดูแลคุณแทน

     

                   ภาคิน...ผมมีเคสด่วนวีไอพี อยากให้คุณไปดูแทนหน่อย ตอนนี้เขาอยู่โรงแรมเดียวกับคุณ ของที่คุณต้องใช้ผมเตรียมให้เรียบร้อยแล้วอยู่กับคนที่จะไปรับคุณ ผมจะเมลรายละเอียดเคสไปให้ รบกวนด้วยนะภาคิน ผมเลือกคุณ เพราะไว้ใจคุณที่สุด

     

                ไปทำแผลให้พี่ฮั่นก่อน!”

                   “ทำอยู่แล้วครับ แต่หลังจากตรวจคุณเสร็จ

                   แผลฮั่นเท่าที่มองผ่านๆ เป็นรอยถากของกระสุนไม่ลึกมาก รอได้ แต่...ภาคินกัดปากตัวเองทันที เขาไม่น่ารับคำเหมือนรู้จักอีกคนที่บาดเจ็บข้างล่างคือฮั่นเลย...ช่างเถอะ ดูเหมือนเด็กนี่ก็ไม่ทันคิดเหมือนกัน

                   ทำอะไรน่ะ!”

                   คุณแกงตกใจถอยร่างเหนื่อยอ่อนชิดหัวเตียง เมื่อชายแปลกหน้ากำลังจะจับเขาถอดเสื้อผ้า เขาไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่ายๆ แม้แต่คนที่เขาไว้ใจ ก็มีเรื่องทำให้ไม่เข้าใจมากมายเหลือเกิน..

                   “ก็ตรวจร่างกายคุณไง จะถอดเองหรือให้ผมถอดให้?”

                   แกงส้มมองภาคินอย่างชั่งใจก่อนปลดกระดุมถอดเสื้อเปียกโชกของตัวเองออก ร่างขาวซีดแบบบางเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยฟกช้ำกว้างรอบลำคอ และรอยกระแทกด้านหลัง เลยไปถึงส่วนสะโพกต่ำกว่าขอบกางเกงลงไป..

                   “อะไรอีกเนี่ย??” คุณแกงตะโกนดังเมื่อมือของภาคินลูบเลยลึกไปถึงใต้ขอบกางเกงยีนส์ด้านหลัง และดึงมันลง

                   คุณนั้นแหล่ะ เป็นอะไรอีกเนี่ย? ผมเป็นหมอนะ ไม่ใช่พวกหื่นกาม เลิกตั้งแง่กับผมได้แล้ว จะได้ตรวจดีดีสักที!”

                   “ตั้งแง่?...” คุณแกงเสียงเบาลง เลิกคิ้วสงสัย เขาเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เมื่อได้ยินอะไรที่ไม่เข้าใจ..จนลืมอารมณ์ก่อนหน้านั้นไปเกือบหมด

                   “อืม...ตั้งแง่คนตอบก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน เสียงตวาดอย่างไม่ตั้งใจหายเข้าไปในลำคอทันที นึกโทษตัวเองที่ไปดุคนไข้ตัวเล็กร่างกายอ่อนแอขนาดนี้

     

                   อย่าลืม...เขาไม่เหมือนคนอายุ 20 ปี ทั่วไป....ใจเย็นๆ

     

                หมายถึงคอยตั้งท่าจับผิดผมครับ...ถ้าคุณไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ขออนุญาตถอดกางเกงเพื่อตรวจสะโพกคุณ ว่าแตก หัก บวม ช้ำ อะไรหรือเปล่า? คุณนอนคว่ำไว้ก็ได้นะ...จะได้ไม่อาย

                   น้ำเสียงเป็นทางการถูกใช้ได้ไม่นาน คำสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อคนไข้ที่ไม่ประสาเอาซะเลย คุณแกงตั้งค้อนเบาก่อนนอนคว่ำให้เขาตรวจโดยดี

                   ไม่บอกพี่ตามได้ไหม?” หลังตรวจร่างกาย และฉีดยาเสร็จ ภาคินให้แกงส้มสวมชุดเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าแทนเสื้อกางเกงมอมแมมไปด้วยน้ำและทราย

                   “ไม่ได้ครับ

                   เด็กน้อยเอ้ย...จะปกป้องใครไม่ดูสภาพตัวเองเลย หลักฐานเต็มตัวขนาดนี้ ถึงแม้ธนทัตไม่ยอมเล่าอะไร ซักประวัติไม่ได้สักอย่าง แต่จากร่องรอยและรูปการณ์แล้วก็พอเดาได้...

     

                   ฮั่นไม่เบามือเลย

     

                   “ถึงหมอไม่พูด...คนอื่นก็บอกอยู่ดี

                   ไม่มีใครรู้ดีเท่าหมอหรอก นายนั่นก็ไม่เห็นอะไร..มันมืด

                   “นายนั่นคือบอดี้การ์ดคุณใช่ไหม...ผมว่าเขาเห็นนะ

                   “ไม่..เขาไม่เห็น..ถ้าเขาเห็นเขายิงพี่ฮั่นตายไปแล้ว..ไม่ช่วยกลับมาอย่างนี้หรอก

                   “ฉลาดเหมือนกันนี่คุณ...จะต่อรองอะไรผม..ว่ามาภาคินเริ่มสนุกกับการคุยกับเด็กหนุ่มคนนี้ เขาเอียงคอมองแกงส้มที่กำลังนอนขมวดคิ้วพิงหัวเตียง

                   “อย่าบอกอะไรพี่ตามริมฝีปากบางสีชมพูซีดเอ่ยขึ้นช้าๆ ดวงตาแน่วแน่

                   “ผมเป็นหมอนะ...โกหกไม่ได้

                   แววตาภาคินเป็นประกาย เขาก็ตั้งใจจะบอกยุทธนาอีกอย่างอยู่แล้ว..เพื่อช่วยฮั่น...อันที่จริง..เป็นเพราะริทมากกว่า...แต่อย่างไรก็ตามแกล้งเด็กนี่ก็เพลินดีเหมือนกัน

                   “แต่มันเป็นความต้องการของคนไข้...และคุณแกงอายุ 20 แล้ว

                   หึ...ฉลาดไม่เบา

                   โอเค...ยอมล่ะ

                   ภาคินยกสองมือขึ้นข้างตัว เหมือนยอมแพ้ ถึงขั้นเอาสิทธิผู้ป่วยขึ้นมาพูด และบอกชัดว่าตัวเองเกิน 18 ไม่ต้องมีผู้ปกครอง เขาคงต้องหยุด..เด็กนี่ไม่ธรรมดา

                   ที่สำคัญ...คุณแกงเป็นคนจ่ายเงินหมอนะแกงส้มหรี่ตาย้ำอีกเรื่องที่ตัวเองคิดว่าจะจัดการตาหมอนี่ได้

                   “ฮ่าๆๆ....คุณนี่ตลกเหลือเชื่อ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินหรอก ถ้าอาจารย์ไม่ขอร้อง ให้เงินมากขนาดไหน ใครเขาอยากจะมาตรวจคุณ เล่นเอาคนหน้าโหดถือปืนไปรับผมถึงห้องกลางดึก...น่ากลัวจะตาย

                   “ดี! กลัวก็ดี ไปทำแผลให้พี่ฮั่นเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นคุณแกงจะเรียกนายนั่นมายกหมอออกไปเลย

                   “คร้าบบบ...คุณแกง

                   ปกติเขายอมแค่คนคนเดียว...ยอมมาตลอดชีวิต..แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขากลับไม่เคืองกับการโดนออกคำสั่งจากเด็กประหลาดที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก..

                   หัวใจไร้เดียงสาของเด็กนี่สินะ..คือเสน่ห์ที่ทำให้ฮั่นหลงเข้าง่ายๆ ท่าทางที่ฮั่นมีต่อเด็กคนนี้เดาได้ไม่ยาก หากเขาไม่เข้ามาก่อนสองคนนี้คงกอดกันไปแล้ว สายตาห่วงหาที่มองตามร่างแกงส้มตอนโดนดึงออกจากอกตัวเองไป เล่าเรื่องทุกอย่างได้ดี อีกทั้งเด็กนี่ยังพยายามปกป้องคนที่ทำร้ายตัวเองอีก...ถ้าไม่ใช่เพราะรัก คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้

     

                   นี่คงเป็นสาเหตุที่ริทโทรหาเขาเมื่อตอนเย็น...ทั้งน้ำตา

     

     

     

     

     

                   จับได้ไหม?”

                   ไม่ได้ครับ แต่โดนผมยิงไปน่าจะสาหัสอยู่ ให้คนตามรอย และคอยดักทุกโรงพยาบาลแถวนี้แล้วครับ..ความปลอดภัยภายในและโดยรอบโรงแรมก็เสริมเต็มขั้น

                   บอดี้การ์ดหลบออกมายืนคุยโทรศัพท์รายงานยุทธนา อยู่ริมสระว่ายน้ำส่วนตัวด้านนอกห้องเพนส์เฮาส์ชั้นหนึ่ง

                “คุณแกงทำอะไรอยู่?” ยุทธนาถามเสียงเรียบ เลิกใส่ใจคนร้ายที่ยังลอยนวล

                    “อาบน้ำอยู่ครับ ส่วนฮั่น..หมอกำลังทำแผลให้อยู่ข้างใน

                   เขาเหลือบหันไปมองภายในส่วนรับแขกผ่านบานกระจกใส หมอภาคินกำลังเย็บแผลให้นายฮั่นบนโซฟาตัวเดิม แม้นายไม่ได้ถามถึงฮั่น แต่เขาอยากพูด...หยั่งเชิงนาย

                พรุ่งนี้หมอภาคินจะขึ้นมาดูคุณแกงอีกรอบช่วงสาย. ไปรับเขาด้วย ไม่ได้ผล ยุทธนาทำเหมือนไม่ได้ยินชื่อนี้ด้วยซ้ำ...คงต้องพูดตรงๆ

                คุณตามเชื่อหมอจริงๆ เหรอครับ?...ผมว่ารอยช้ำเหมือนโดนทำร้ายมากกว่าช่วยชีวิต

                   หลังออกจากห้องนอน หมอบอกจะโทรรายงานยุทธนาเอง ซึ่งเขาแอบได้ยินทุกอย่าง แต่เขาว่า..มันไม่ใช่  รูปคุณแกงก็ส่งไปให้ดูแล้ว คนอย่างยุทธนาไม่น่าจะเชื่อคนง่ายอย่างนี้

                “นายบอกเอง...ว่าเห็นเขาเอาตัวบังกระสุนแทนคุณแกง เสียงเรียบเฉยตอบกลับยิ่งทำให้คนฟังที่กำลังกระวนกระวาย ยิ่งสับสนหงุดหงิด รีบเล่าสิ่งที่เห็นริมหาดทันที

                   “ก็ใช่ครับ..แต่ก่อนหน้า..มันไม่น่าใช่...ผมเห็นไม่ชัด..กำลังจะเข้าชาร์จ....

                “ถ้าไม่ได้เขา..คุณแกงคงแย่กว่านี้..นายควรสำนึก! ปลายสายตัดบทแทรก ซ้ำทิ้งท้ายตำหนิลูกน้องเสียงแข็ง ย้ำความผิดพลาดที่เกือบช่วยชีวิตเจ้านายไม่ทัน

                   “ถ้าผมใช้ปืนได้ คงไม่เป็นแบบนี้

                   ห้ามใช้ปืน ถ้าไม่จำเป็น...มันจำเป็นตั้งแต่ตอนที่เห็นฮั่นทำอย่างนั้นกับคุณแกงแล้ว...แม้เห็นไม่ชัด แต่ในสถานการณ์นั้น ปกติเขาต้องยิงขู่ลงทราย อาจป้องกันคนร้ายทั้งไกล และใกล้ได้ไวกว่านี้

                “ก็เห็นแล้วว่าเป็นยังไง?”

                   “ครับ....

                   “...แล้วคุณแน่ใจนะครับว่าไม่ให้ติดกล้องในห้องนอน

                “นายถามฉันครั้งที่ร้อยแล้วมั้ง?”

                   ถึงให้ติดตอนนี้คงไม่ทัน จะถามทำไมอีก อย่างไรเขาก็ไม่มีทางทรยศคุณแกง...สองคนนั้นนอนห้องเดียวกันมานาน ไม่มีทีท่าว่าเกินเลย และไม่ว่าคืนนี้จะมี หรือไม่มีอะไรทำนองนั้นเกิดขึ้น ก็ไม่ควรมีหลักฐานใดทั้งสิ้น เขาจะไม่ละเมิดสิ่งที่คุณแกงหวงแหนที่สุด...

     

     

                   พื้นที่ส่วนตัว

     

     

                   และที่สำคัญ...เขาเชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง..

     

     

                   คุณแกงจะปลอดภัย

     

     

                   ไม่เข้าใจเลย ทั้งยุทธนา และนายฮั่น

     

                   คนควรระวังกลับเพิกเฉย  คนน่าระวังกลับทุรนทุราย

     

                   ถึงรู้ว่าอันตราย...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านายฮั่นห่วงคุณแกงมาก ตั้งแต่เอาตัวเองรับกระสุนแทน แขนโดนยิงแต่ยังวิ่งอุ้มอีกคนมาตลอดทางไม่ปริปากแสดงอาการใด มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ตะโกนดังว่าเจ็บปวด เวลามันเห็นคุณแกง...เป็นแบบนั้น

     

                   ดวงตาโกหกไม่ได้

     

                   แต่อีกคน

     

                   ถึงรู้ว่าห่วงใย...แต่กลับปล่อยให้คนคิดร้ายอยู่ใกล้ตัวเจ้านายที่สุด เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กลับนิ่งเฉยอย่างประหลาด ทั้งที่ปกติไม่มีทางนั่งได้ติด จะต้องรีบมาอยู่ใกล้ๆ คุณแกงแล้ว

     

                   “วันนี้คุณไม่มาแล้วเหรอครับ?”

                “ไม่ล่ะ...ฉันมีเรื่องต้องทำ จะไปพรุ่งนี้แทน

                   ยุทธนากดวางโทรศัพท์ หยิบแก้วบรั่นดีขึ้นจิบ สายตาคมพ้นขอบแก้วจับจ้องไปยังโต๊ะด้านในสุด ลูกค้าคนหนึ่งนั่งดื่มเหล้าหนัก..และกำลังหัวเสีย...อย่างรุนแรง

     

     

     

     

     

                เขาเป็นยังไงบ้างครับ?”

              ฮั่นถามขึ้นทันทีหลังจากอยู่กับภาคินลำพัง ถึงอย่างไรก็ต้องระวังคำพูด เพราะถึงนายนั่นไม่อยู่ แต่กล้องยังอยู่ตลอดเวลา

                   เขาคนไหนล่ะครับ?” โตโน่กระตุกยิ้มมุมปาก ยังก้มหน้าง่วนกับบาดแผลน้องชาย

                  

                   เขาข้างบน หรือ เขาอีกคน

     

                   ฮั่นพ่นลมหายใจแรง คิ้วเข้มขมวดแทบชนกัน เบื่อพี่ชาย...  รู้ทั้งรู้ว่าหมายถึง เขาไหน...รู้ทั้งรู้ว่าร้อนใจขนาดไหน ยังจะมาเล่นลิ้นอีก

                   หลังจากภาคินขึ้นไปตรวจแกงส้ม เขาก็คว้าผ้าขนหนูในครัวกดแผลห้ามเลือด รีบตามไปรอหน้าห้องนอน สวนทางบอดี้การ์ดที่ลงไปด้านล่าง เขายืนรอจนพี่โน่ออกมา ถามแล้วก็อมพะนำไม่พูดอะไร...ดูสนุกที่เห็นเขาร้อนรน

                   ภาคินเห็นน้องชายฮึดฮัดขึ้นมาอีกรอบ ก็อดขำไม่ได้

                นายพรานกำลังตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้...รู้ตัวแล้วหรือยัง

                   “มีแต่รอยฟกช้ำ..คอ หลัง สะโพกยังไม่หัก ถ้าแรงกว่านี้ก็ไม่แน่ เดี๋ยวเข้ากรุงเทพไปเอ็กซเรย์ดูอีกทีให้แน่ใจ น้ำสำลักไม่มากไม่เป็นไร แต่ถ้าคืนนี้มีไข้โทรหาผมทันที

                บรรยากาศเงียบลง คนถามไม่พูดต่อ ภาคินเงยหน้าขึ้น สีหน้ากังวลปรากฏชัดบนใบหน้าน้องชาย ตัวเขาเองควรจะยินดีที่ยิ่งเห็นความชัดเจนนี้ เขากำลังจะหมดคู่แข่งคนสำคัญ

                   ถ้าจะพูดให้ถูก...เราไม่เคยแข่งกันด้วยซ้ำ

                   แต่เขาก็ไม่เคยชนะ...ส่วนฮั่นก็ไม่เคยแพ้...

                   ไม่เคยแพ้ใจริท

     

                   แต่กำลังแพ้...อีกคน

     

                   ความรักนี่ก็แปลก..รักแค่ไหน ทำดีเท่าไหร่..ก็ไม่ได้มา แต่กับบางคนไม่ต้องพยายามอะไร..ก็ได้เขาไปหมดทั้งหัวใจ

     

                   ไม่รู้จะสงสารใครดี..ริท ฮั่น แกงส้ม..หรือตัวเอง

     

                   “..คุณก็ด้วยนะ..อาจมีไข้ ผมให้ยาไว้ พรุ่งนี้จะล้างแผลให้อีกรอบโตโน่พันแผลเสร็จ เริ่มเก็บเครื่องมือ และเศษผ้าก๊อซเปื้อนเลือด

                   พรุ่งนี้...จริงสิ! ทำไมพี่โน่มาอยู่นี่ได้?

                   คุณหมอประจำที่นี่เหรอครับ?”

                   “เปล่าครับ มาประชุมใหญ่ประจำปี หมอมาจากทั่วประเทศ ต่างประเทศก็มี หมอหลายคนพักที่นี่

                   ริทก็อยู่...ระวังหน่อย

                   โรงแรมห้าดาว หมอๆ คงสะดวกสบายเต็มที่

                   ริทโอเคไหมพี่?

                   “สะดวกครับ...แต่สบายหรือเปล่า คงต้องถามเป็นคนคนไป

                   ไม่เลย...นึกว่าจะไม่ถามถึง เห็นห่วงแต่คนข้างบน..

                   “น่ารักดีนะครับ

                   “ครับ?” ฮั่นหลุดจากภวังค์ ที่กำลังนึกถึงน้องชายต่างสายเลือด...อีกคนที่ต้องห่วง

                   “ตุ๊กตาตัวนั้นน่ะครับ...ภาคินหันไปทาง KS ที่นั่งพิงข้างกระเป๋าบนโต๊ะเตี้ยสีงาช้าง สำหรับวางสัมภาระ

                   “...ดูภายนอกก็แค่ตุ๊กตาเก่าๆมอมๆหน้าเศร้าไม่น่าเล่น ใครเห็นก็คงมองผ่าน แต่หากได้ใกล้ได้กอดทุกวันคงเผลอหลงได้ไม่ยาก ตาใสใจซื่อขนาดนั้น ท่าทางจะติดเจ้าของมากซะด้วยและเจ้าของก็ติดมันเช่นกัน

                   “..ก็แค่ตุ๊กตา

                   ฮั่นกำมือมอง KS อย่างใจลอย..นึกถึงวันแรกที่เจอ...เขาไม่ใช่เจ้าของมัน ไม่เคยเป็นเจ้าของอะไรสักอย่าง...แม้จะอยากแค่ไหน...มันก็แค่ตุ๊กตา

                   เหรอครับ...ถ้าแค่นั้นก็ดี ระหว่างนี้ก็ถนอมหน่อยนะครับ ตุ๊กตาบางตัวเปราะบางกว่าที่เห็น ถ้าพลั้งมือไป วันไหนรู้ตัวอยากกลับมากอดอีก..คงไม่เหมือนเดิม

     

                   ไม่ต้องวันไหนหรอกพี่...

     

                   ผมรู้ตัวเอง…ทุกวัน...ทุกเวลา

     

     

     

     

                   ฮั่นเคาะประตูสามครั้ง เว้นระยะครู่หนึ่ง และเปิดเข้าไป เขาทำเหมือนก่อนเข้าห้องขาวในคฤหาสน์ชัยอรรถ ทุกคนในบ้านจะมีจำนวนและรูปแบบที่ต้องเคาะแตกต่างกัน เพื่อให้คุณแกงทราบว่าใครกำลังจะเข้ามา

                   ห้องเย็นไม่ต่างจากที่บ้าน ห้องกว้างสว่างด้วยแสงจันทร์ที่ลอดเข้ามาระหว่างผ้าม่านกั้นประตูเปิดไปสู่ริมระเบียงด้านนอก...ม่านที่ปิดไม่สนิท

                   ฮั่นใจหล่นวูบ...ทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้า และ KS วิ่งตรงไปยังประตู แขนขวากระชากผ้าม่านออกพร้อมประตูกระจกอย่างรวดเร็ว

                   ระเบียงว่างเปล่า...

                   เขาหันกลับกวาดตาด้านใน ร่างเย็นวาบยิ่งกว่าอุณหภูมิห้อง ใจเต้นถี่รัว เหมือนตอนที่เห็นแกงส้มตาค้างตัวเกร็ง แต่ตอนนี้มันแย่กว่า..

                   เขาไม่เห็นแกงส้มแม้แต่เงา

                   ฮั่นกลั้นใจกำลังก้าวพ้นขอบประตูออกไปนอกระเบียง..ทันใดนั้น เสียงหนึ่งเบาแว่วมา...

                  

                   โล่งอก...ฮั่นผ่อนลมหายใจยาว เขากลายเป็นคนตื่นตระหนกง่ายตั้งแต่เมื่อไร...ฮั่นนึกขันตัวเองระหว่างที่เดินตามเสียงไปจนถึงริมห้องอีกฝั่งหนึ่ง ด้านที่หันเข้าสู่ทะเล

                   เด็กคนนี้..ต่อให้เหนื่อยล้าแค่ไหน ก็ยังมีแรงเหลือพอสำหรับอาบน้ำสินะ แกงส้มรักสะอาด ชอบอาบน้ำ ชอบอยู่ในห้องน้ำนานๆ เขาบอกว่ามันเย็นดี

     

                   เสียงหยดน้ำกระทบลงพื้นดังชัดขึ้นเรื่อยๆ

     

                   ชัดเกินไป...

     

     

                   ภาพตรงหน้าเปลี่ยนอุณหภูมิทั่วร่างพุ่งสูงขึ้นฉับพลัน

     

     

                   จากเย็น...แทบแข็ง

     

     

                   กลายเป็นร้อน...แทบละลาย

     

     

                   ห้องอาบน้ำ...ที่ไร้ประตู

     

     

    TBC : Ninee >,<

     

     

     

    เรารู้ว่าเหล่าท่านรี้ดกำลังดูฮอร์โมนอยู่ กร้ากกกก ฉะนั้นอย่าสนใจเราเลย จะแต่งไปลงไปงี้แหล่ะ จนกว่าจะง่วง 555555

    .

    .

    ง่วงแล้ว ง่วงแล้ว 50% ก่อนนะ อะคริอะคริ รี้ดบอกว่า “ไหนเอ็งจะพักเครียดไปต่อ My Happiness ไงห๊า?”

    คือเขียนๆอยู่เสียงปืนจากเรื่องนี้ไปทำอิพี่ฮั่นเกรียนเรื่องนู้นวงแตกทู้กที อิพี่เลยไล่ให้ไปเขียนเรื่องนี้ให้จบๆ นางขี้ตกใจ กร้ากกกก

     

     

    ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ

    เรื่องนี้ออกแนวจิตเล็กน้อย ก็อิไรต์มันบ้านี่เนอะ โฮะๆๆๆ

    ชอบไม่ชอบ ติชม หย่อนเม้นต์กันได้ ยังไงเรื่องก็ยังเหมียนเดิมแน่นอน อะโฮ๊ะ อะโฮ๊ะ

    ตอนนี้ไปนอนก่อน ไข้ขึ้น ยังอุตส่าห์หนีแม่มาหน้าฟิค 5555 บายยยยยย                   

     

    ครบ 100 แล้วววว ง่วงมาก ง่วงมากกกกมายยยย อยากตอบทุกคน เดี๋ยวมาเดี๋ยวมาตอบค่ำๆ ขอไปนอนก่อนนนน 

    Ninee

    (@Jasmininee)

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×