ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF HKS] Memoroma

    ลำดับตอนที่ #5 : Memoroma 05 - 100%

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 57



    [HKS] Memoroma 05

     

                   ริทตัวสั่นกำโทรศัพท์ในมือแน่น ตาเล็กกลมกำลังจ้องทะลุหน้าต่างรถหรูที่จอดติดไฟแดงคันข้างๆ เขาพยายามแล้ว พยายามไม่รบกวนพี่...แต่นี่มันมากเกินไป!

                   คนนั้นเหมือนพี่ฮั่นของแกเลยว่ะริท!!”

                   “มากับเด็กผู้ชายที่ไหนวะ? ทำไมดูสนิทกันจัง ไหนแกบอกว่าพี่เขาไม่ชอบผู้ชายไง? อุ๊บส์!”

                   เพื่อนปากเสียที่นั่งด้านหลังโดนเพื่อนอีกคนตีแขนจนต้องรีบหุบปาก พวกเขาแค่ตกใจไม่นึกว่าจะมาเห็นพี่ชายที่ริทแอบหลงรักมานาน...กำลังคลอเคลียกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาริทในรถคันนั้น

                   พวกเพื่อนๆไม่เห็นเหตุการณ์ที่จอดพักริมทาง ริทไม่ได้เล่าให้ใครฟัง หลังคาดคั้นจากพี่แคน เขาก็เอาแต่นั่งคิดคนเดียวมาตลอดทาง กลัวไปต่างๆนานา กลัวจะโดนพี่ฮั่นว่า กลัวพี่ฮั่นจะโดนจับได้ กลัวพี่ฮั่นจะโดนทำร้าย และกลัวที่สุด...

     

                   กลัวพี่ฮั่นจะไปรักมัน

     

                   แต่ความกังวลก็หมดไป เมื่อริทคิดได้ว่าพี่ฮั่นไม่ได้เป็นแบบเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะไปหลงชอบเด็กนั่นจริงๆ

                   สบายใจได้ไม่นาน..ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ริทต้องคิดใหม่ ใจกระตุกวูบ....เขาไม่เคยเห็นพี่ฮั่นหัวเราะแบบนั้น ยิ้มอ่อนโยนแบบนั้น แม้เขาจะเห็นหน้าเด็กนั่นไม่ชัด แต่สายตาที่พี่ฮั่นมองมัน...กลับชัดเจน

     

                   พี่ฮั่นไม่เคยมองใครแบบนี้...

     

                   มันเหมือนที่พี่โน่มองเขา ซึ่งเขาไม่เคยต้องการ

     

                   ริทโกรธจัดจนลืมตัวคว้าโทรศัพท์โทรหาฮั่นทันที รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเขา แต่ก็อยากให้แน่ใจว่าใช่ อยากเห็นอาการพี่ อยากเตือนสติพี่ว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้ อย่าทำกับริทอย่างนี้!

                   และสิ่งที่เห็นทำเขาสั่นไปทั้งตัว...พี่ตัดสายเขาทิ้ง แล้วยังก้มไปหอมมันต่อหน้าเขาอีก!! แม้พี่ไม่เห็นเขา แต่มันเหมือนโดนหยาม พี่ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน

                   พี่แสดงดีเกินไปเหรอ มันไม่ใช่...เขารับรู้ได้...หรือถึงใช่ เขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแม้กระทั่งการเสแสร้งว่ารักมัน...ทำไมทีกับมันพี่ทำได้ แต่กับเขา..แค่ทำเหมือนรัก ช่วยแกล้งว่ารัก..ก็ได้...พี่ก็ไม่เคยทำ

                   พี่แคนบอกว่าอีกไม่นาน...มันใกล้จบแล้ว...เขาคิดว่าเขาจะทนได้ แต่แค่ที่เห็นก็แทบทนไม่ไหว และที่ผ่านมาล่ะ? ที่เขาไม่เห็นอีกล่ะ? จะขนาดไหน?!

                   น้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว...น้ำตาเขาต้องไหลกี่ครั้งแล้วเพราะพี่  ตั้งแต่รักพี่..ข้างเดียวมันทรมานมากแค่ไหนรู้ไหม?

                   “เฮ้ย! ริท ใจเย็นเว้ย อาจไม่มีอะไรก็ได้นะเว้ย ไม่ใช่พี่ฮั่นหรอก พี่เขาจะมาทำไรแถวนี้วะ? หน้าเหมือนกันเฉยๆเว้ย!” เพื่อนคนขับตกใจรีบปลอบริทที่เริ่มร้องไห้ออกมา

                   “หน้าเหมือน? แล้วเบอร์เหมือนด้วยเนี่ยนะ?? พวกมึงก็เห็นพี่ฮั่นแม่งตัดสายริททิ้ง!” เพื่อนปากเสียคนเดิมพูดไม่คิด จนโดนตีอีกรอบ พร้อมๆกับริทที่นิ่งไปแต่น้ำตากลับไม่ยอมหยุดไหล

                   เรา...เราไม่เป็นไร...พี่เขามีเหตุผล..แกขับไปเหอะ เราอยากเล่นน้ำแล้ว

                   ริทปาดน้ำตา ฝืนยิ้ม เขาต้องเชื่อใจพี่ฮั่น มันต้องไม่มีอะไร เขาต้องไม่คิดมาก เขาไม่ควรแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น คนอย่างเขา..ตอนไม่มีพี่...เขาก็หาคนอื่นแก้เหงาได้..อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาลืมความเจ็บไปได้บ้าง..ชั่วคราว

     

     

     

     

     

                   ภัทรมานพ

                   สถานที่แรกที่อิสริยะกลับมาเหยียบ เมื่อปีก่อน..บ้านของเขา...ภัทรมานพ มันถูกปิดร้างมานานแล้ว สมบัติทั้งหมดที่ควรเป็นของเขา กลับตกเป็นของป้าน้าที่ได้สิทธิครอบครองมันหลังเขาหายสาบสูญ

                   คนที่ขึ้นชื่อว่าญาติกลับไม่เคยออกตามหาเขา...แต่ช่วยกันรุมทึ้งสมบัติเขาไม่เหลือ ป้าขายทุกอย่างใช้หนี้การพนันมหาศาล ผลาญสมบัติเขาเล่นพนันจนหมด สุขสบายเพียงชั่วครู่ แต่ก็ต้องไร้บ้าน หนีหนี้ ไม่มีที่ซุกหัวนอน ...เหมือนที่เขาเคยเป็น

                   ส่วนน้ากับน้าเขยก็ถือโอกาสเข้าบริหารบริษัทพ่อต่อได้ไม่นานก็ล้มละลาย โดนคดีฉ้อโกงจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ลูกพี่ลูกน้องก็บ้านแตกระหกระเหิน...อยู่ไม่เป็นสุข..ไม่ต่างกับป้า ไม่ต่างกันเลย

     

                   ใครทำเวรอะไรไว้...ก็ต้องได้รับกรรมเช่นนั้น

                   มีเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้รับ

                   คือ คนที่นอนคอพับข้างๆเขาตอนนี้

                   ตอนนี้ถึงเวลาที่มันต้องชดใช้!!

     

     

     

     

     

     

              ‘เขตก่อสร้าง อันตรายห้ามเข้า!!

              ไฟส่องชัดบนป้ายสีแดงอันใหญ่ตั้งเด่นด้านหน้า รั้วสังกะสีสีเขียวสูงตีกั้นรอบข้างทาง บริเวณรกร้างล้อมด้วยขดลวดหนามตีวงกว้างจบกับป่าอีกด้าน รั้วปูนก้อนใหญ่สูงซ้อนปิดผนึกทางเข้าถนนส่วนบุคคล...ที่มีบ้านเพียงหลังเดียวตั้งอยู่ปลายทางติดทะเล

     

                   โธ่เว้ย!!!

     

                ฮั่นทุบพวงมาลัยแรงด้วยความโมโห สั่งแคนแล้วว่าจะมา! ให้เคลียร์ทุกอย่างให้พร้อม นี่อะไรกัน?!! ร่องรอยการปิดซอยยังใหม่เอี่ยม พวกมันเอาเวลาที่ไหนมาก่อสร้างไวขนาดนี้ ทั้งๆที่เพิ่งเช็คกับแคนได้ไม่ถึงชั่วโมง มัน 'เฝ้าของ' ภาษาอะไร?!!!

                   “ถึง..แล้ว...เหรอแกงส้มขยับตัวตื่นขึ้นจากแรงสะเทือนเมื่อครู่

                   “อืม!...แต่ต้องเข้าอีกทาง!ฮั่นสะบัดเสียงใส่คนที่เขาควรจะอ่อนโยนตามหน้าที่ จนคนฟังหยุดขยี้ตา ยกคิ้วสงสัย...เมื่อกี้ยังดีดีอยู่เลย..พี่ฮั่นเป็นอะไร?

                   ฮั่นเข้าเกียร์ทันที เหยียบคันเร่งสุดเท้า รถพุ่งตัวกระชากคนนั่งไม่ทันระวังศีรษะแผ่นหลังกระแทกเบาะแรง

                   “โอ้ย!!

                   “ร้องทำไม?? แค่นี้เจ็บแล้วเหรอ??!! เก็บเสียงไว้ร้องต่อจากนี้เถอะ!!

                   แกงส้มตาโตกว้าง ยกมือสองข้างปิดปากตัวเองทันที เขานั่งนิ่งติดเบาะไม่ไหวตัว ไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาร้องดังไปเหรอ? ทำไมต้องตะคอกใส่มองเขาแบบนั้น? เขาเจ็บไม่ได้รึไง? แล้วทำไมต้องร้องอีก พี่ฮั่นจะทำอะไร โกรธอะไรเขา ทำไมถึงขับรถเร็วแบบนี้...คุณแกงกลัวนะ

                   กลัวเหรอ?” ขับไปได้สักระยะ ฮั่นเริ่มผ่อนคันเร่ง มองไปที่นั่งข้างคนขับ

                   เด็กแกงส้มช้อนตามองพยักหน้าช้าสองทีโดยที่มือสองข้างยังปิดปากตัวเองอยู่ ดูไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กเวลาโดนดุเลย

                   ฮั่นอมยิ้มเอื้อมมือเดียวไปจับมือทั้งสองข้างของคุณแกงลงจากปาก แล้วบีบเบาๆวางไว้ที่ขาของเจ้าตัว

                   หายแล้วเหรอ..ดีจัง เขาไม่เคยเห็นพี่ฮั่นน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน นอกจากตอนที่ผลักสาวใช้กับบีบคอ KS ตอนแรกๆที่เจอกัน แต่ตอนนั้นเขาไม่กลัว เพราเขาไม่ได้รู้สึก...อย่างที่เป็นตอนนี้

                   “ฟังเพลงดีกว่าเนอะ

                   ฮั่นเอื้อมมือไปเปิดวิทยุ เครื่องทำการค้นหาสถานีท้องถิ่นอัตโนมัติ จนสัญญาณค่อยๆชัดขึ้น...เมโลดี้คุ้นหูลอยออกจากลำโพงชั้นดีรอบคันรถ

     

     “….Why does my heart go on beating?

    Why do these eyes of mine crying?

    Don't they know it's the end of the world?

    It ended when you said….

     

     

                   เสียงเพลงเงียบฉับพลัน ฮั่นหลุดออกจากภวังค์ เท้าเหยียบเบรกจม ตีไฟซ้ายจอดข้างทาง คนขับฟุบหน้าลงมือเกร็งบีบพวงมาลัยแน่น มือเล็กลังเลก่อนตัดสินใจวางบนหลังกว้าง แล้วค่อยๆลูบคนที่เริ่มต้นไอดังหอบหายใจแรง มืออีกข้างหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมเช็ดคืนบนริมขมับเจ้าของ

                   ฮั่นรู้สึกตัวลืมตาขึ้น ยืดหลังตรง ปัดมือเล็กที่เกะกะหน้าผากเขาออก จนเจ้าของมือต้องชักมืออีกข้างกลับทันที

                   คุณแกงทำอะไรผิดอีกเหรอ...แค่ปิดวิทยุเท่านั้นเอง เขาไม่ชอบเพลง...มันทำให้พี่ฮั่นดูเหมือนไม่สบาย..เหมือนตอนนั้น..พี่ฮั่นเปลี่ยนไป..เขาไม่ชอบเลย

                   แกงส้มคงไม่รู้ว่าเพลงนั้นไม่ได้ทำให้ฮั่นเปลี่ยนไป...แต่ทำให้เขากลับมาเป็นคนเดิม...มันมาเตือนสติเขาทันเวลา...เพลงของแม่...ขอบคุณที่ดึงเขากลับมา..ตาเรียวว่างเปล่ามองไปข้างหน้า...โดยไม่หันกลับมามองคนข้างๆ อีกเลย

     

     

     

     

     

                   กูสั่งมึงว่ายังไง?? ไหนมึงบอกว่าเรียบร้อย??!!!”

                   “สายผมมันบอกว่าเคลียร์แล้วจริงๆนะครับ!!...

                   “เคลียร์บ้าอะไร?? มึงกล้าโกหกกูเหรอ??!!”

                   “ผมเปล่านะครับ อั้กกก!!!”

                   แคนตบลูกน้องด้วยหลังมือเลือดกระเด็นจากปาก แล้วกระชากคอเสื้อพ่นคำด่าใส่เสียงดัง เป็นไปได้ยังไง คนเฝ้าก็เป็นคนของเขา สายในฝ่ายก่อสร้างก็เป็นคนของเขา ยุทธนาจะทำอะไรไม่มีความเคลื่อนไหวเลยมันเป็นไปไม่ได้!

                   โฉนดที่ดินก็ยังอยู่ในกรรมสิทธิไม่มีการโยกย้ายหรือเอาไปทำโครงการอะไรทั้งสิ้น ที่ดินพร้อมคฤหาสน์ร้างตั้งอยู่ที่เดิมไม่มีการรื้อถอนค้นย้าย มียามเฝ้าตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา

                   ‘ภัทรมานพเป็นของชัยอรรถทุกอย่าง...

                   อิสริยะสืบทอดกิจการส่งออกต่อจากแม่บุญธรรม ดูแลกิจการทั้งหมดแทนลูกชายแท้ๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นหมอ หลังเรียนจบปริญญาโทบริหาร ฮั่นพยายามสืบหาไล่ซื้อทุกอย่างที่เคยเป็นของเขาคืนทั้งบริษัท ที่ดิน และบ้าน...แต่คงเป็นเรื่องบังเอิญที่ตลกร้ายที่สุด เพราะทุกอย่างของภัทรมานพกลับตกเป็นกรรมสิทธิของชัยอรรถ พร็อพเพอร์ตี้ ทั้งหมด

     

                   โดยเฉพาะ..บ้าน...ที่ไม่ได้เป็นของอิสริยะ...ไม่เคยเป็น

     

                   กฤษณ์แอบยกให้ธนทัตตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่...เกิดมาแกงส้มก็กลายเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นทันที โดยที่อิสริยะไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน จนตอนสืบหาเพื่อซื้อบ้านคืนจึงรู้ความจริง

                   อติรุธจำวันนั้นได้ดีว่าอิสริยะโกรธมากขนาดไหน เขาทุบแก้วกาแฟลงบนโต๊ะจนแตกละเอียดบาดมือเป็นแผลกว้าง ฮั่นหยิบเอกสารนั้นเช็ดเลือดสดจากมือแล้วเขวี้ยงทิ้งเหมือนเป็นเศษขยะ เขาเดินเซตัวสั่นเข้าห้องน้ำ...และเริ่มอาการเดิม เสียงไอหนักพร้อมอาเจียน และเสียงคำรามเคียดแค้นดังก้องออกมานอกห้อง เสียงแห่งความเจ็บปวดที่ทุกคนไม่มีวันลืม

     

                   มัน...มันไม่น่าเกิดมาเลย!!

     

                   แผนซื้อคืนไม่ราบรื่น เพราะชัยอรรถ ไม่ยอมขายอะไรแม้แต่อย่างเดียวที่เคยเป็นของภัทรมานพ ไม่ว่าจะให้ราคาสูงแค่ไหน เปลี่ยนนายหน้า เปลี่ยนหน้าคนซื้อต่อกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ

                   ทางเดียวที่จะเอาคืน คือต้องฮุบทั้งหมด

                   และมันใกล้จบแล้ว เขานัดผู้ถือหุ้นรายสุดท้ายพบกับจิรวิชญ์พรุ่งนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างต้องเรียบร้อย ขั้นท้ายสุดคือรอแค่สัญญาณ...

                   ความทรมานที่อิสริยะจงใจมอบให้ธนทัตในบ้านหลังนั้น

     

                   ถ้าเข้าไปได้

     

     

     

     

     

                   เมื่อเข้าทางเข้าไม่ได้ ก็ต้องเข้ามันทางออก

                   ฮั่นขับรถอ้อมไกล ลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนจอดริมหาดที่ใกล้ที่สุด ลมทะเลค่ำคืน พัดเอาผมยาวประไหล่ของแกงส้มปลิวสยาย ระหว่างทางที่ฮั่นลากแขนเขาลงมาจากรถ แกงส้มไม่เข้าใจว่าทำไมฮั่นถึงดูแปลกไปเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ประสบการณ์ในรถสอนเขาแล้วว่า...ตอนนี้เขาควรเงียบ และอยู่ให้นิ่งที่สุด

                   แกงส้มกลั้นเสียงร้องไว้ แม้เขาเริ่มเจ็บข้อมือที่พี่ฮั่นบีบเขากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปบนพื้นทราย เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังในคืนที่เงียบสงัด เกลียวคลื่นสีดำแหวกว่ายไปทั่วท้องฟ้าสีเดียวกัน...ภาพที่คุ้น..และสัมผัสที่เคย..

                   แกงส้มขืนตัวลงนั่งแทรกมือข้างที่เป็นอิสระลงบนผืนทรายสีนวลคล้ำ เม็ดทรายสะท้อนแสงจันทร์ไหลเข้าโอบอุ้มมือเล็กคล้ายทักทายเพื่อนเก่าอย่างอ่อนโยน

                   แขนข้างขวากระตุกชะงัก ฮั่นหันกลับไปดูอย่างฉุนเฉียว เด็กบ้านั่นกำลังเล่นทราย? ไม่รู้เรื่องบ้าอะไรเลยใช่ไหม? หรือมันแกล้งโง่?

                   นุ่มจัง พี่ฮั่นลองจับดูซิ

     

     

     

    ‘Why does the sun go on shining?

    Why does the sea rush to shore?

    Don’t they know it’s the end of the world

    ‘Cause you don’t love me anymore?...

     

                   “ทรายนุ๊ม นุ่มเหมือนมือแม่เลย...แม่ลองจับดูซิ

                   เด็กชายตัวเล็กวิ่งจากกองปราสาทที่เขาก่อไว้ หอบเอากองทรายแห้งเม็ดเอียดเต็มอุ้งมือน้อย ยื่นให้แม่ที่นั่งบนเก้าอี้ริมหาด...อย่างเหม่อลอย

                   แม่จ๋า แม่จ๋า ลองจับดูซิ

                   “พ่อล่ะฮั่น...พ่อไปไหนแม่ไม่สนใจกองทรายบนมือเด็กน้อย จนเขาค่อยๆปล่อยมันร่วงผ่านร่องมือเล็กจนหมด

                   “พ่อไปทำงานคับเด็กชายฮั่นปัดทรายออกจากมือก้มหน้าตอบแม่ ที่ดวงตามองแต่ฟ้าเลื่อนลอย

                   เขาต้องตอบ แทนที่จะเป็นคนถาม...แม่ไม่สบายมาสักพักแล้ว แต่ก่อนแม่ใจดี ชอบกอดเขา เล่านิทานให้ฟัง เขาอยู่แต่กับแม่ตลอดเวลา..เป็นเขาที่เอาแต่ถามแม่...

                พ่อล่ะฮะ..พ่อไปไหน

                ‘พ่อไปทำงานจ๊ะ

                   แม่จะยิ้มตอบเขาเสมอ แม้มันจะเจือเศร้า...ขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้แม่ไม่เหลือรอยยิ้มอีกแล้ว...เอาแต่นั่งเหม่อถามถึงพ่อ แต่ตอนพ่ออยู่ก็ทะเลาะกัน ไม่ก็ไม่พูดกัน  ไม่เหมือนบ้านเพื่อน ไม่เหมือนพ่อแม่ในทีวี บ้านเขาแค่เคย...มีแต่แม่...ที่เคยกอดเขา

                   โกหก!!!!” ฮั่นสะดุ้งสุดตัว เมื่อแม่ตะโกนใส่หน้าเขา!

                   “แกไม่รู้อะไรหรอกฮั่น หึหึหึแม่แสยะยิ้ม หัวเราะขื่นในลำคอ เด็กน้อยได้แต่ตกใจตัวสั่น เขาต้องไปตามแม่บ้าน..แม่ไม่สบายอีกแล้ว

                   พ่อแกเขาเกลียดแก! เหมือนที่เกลียดฉัน!” วิภาวรรณโถมตัวคว้าลูกน้อยมาเขย่าแรงแผดเสียงใส่

                   “ฮือ..ฮือ..ไม่จริง!”

                   “จริง!!! พ่อแกมันรักแต่อีนั้น รักแต่ลูกอีนั้น ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่แก!!”

     

     

                   ใช่

     

                   ผู้ชายคนนั้น..ไม่เคยรักผม ไม่เคยรักเราเลย แม้ตอนก่อนตาย เขาเคยยกโทษให้พ่อได้หมด เขาเคยรู้สึก..ว่าตอนนั้นพ่อคงรักเขาบ้าง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่

                   ความทรงจำเดียวในชีวิตที่เคยมีครอบครัว อดีตเดียวที่ทำให้เขาไม่ลืมตัวตน บ้านของเขา ทะเลของเขา เม็ดทรายของเขา พ่อ..กลับยกให้มัน!!

                   บ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด บ้านที่เคยคิดว่าเป็นของตัวเอง กลับกลายเป็นว่าเขากับแม่เป็นเพียงผู้อาศัยของลูกชู้พ่อเท่านั้น!! ภาวนาขอให้ตอนนั้นแม่ไม่รู้ แค่เท่านั้นหัวใจแม่ก็แตกสลายไม่มีชิ้นดีแล้ว ครอบครัวเขาควรจะมีความสุขเหมือนบ้านอื่นๆ ถ้าโลกนี้ไม่มีแม่มัน และมัน แกงส้ม..

     

                   อย่างที่แม่เคยพูด

     

                   มัน...ไม่น่าเกิดมาเลย น่าจะตายๆ ไปพร้อมแม่มันซะ!!”

     

     

     

     

     

                   ชอบทะเลมากเลยเหรอ??!!”

                   น้ำเสียงประชดประชันโพล่งถามขึ้น หลังจากคุยโทรศัพท์ปลายสายเสร็จ

                   แกงส้มถูกปล่อยให้นั่งรออยู่ริมหาด ระหว่างที่ฮั่นเดินไปคุยมือถือด้านหน้า ที่ที่เคยเป็นรั้วกำแพงเตี้ยกั้นอาณาเขตภัทรมานพ...แต่ตอนนี้ มันไม่ต่างอะไรจากเขตก่อสร้างอย่างป้ายบอกหน้าทางเข้าที่เขาเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง...รั้วทึบกันสูง มองไม่เห็นตัวบ้าน มันกำลังถูกรื้อด่วน เพื่อสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของเจ้าของบริษัทชัยอรรถ พร็อพเพอร์ตี้!!

                   ชอบ

                   แกงส้มนั่งชันเข่าหันหน้าเข้าทะเลฝังสองเท้าเปลือยเข้าไปเม็ดทราย เขากำลังจะหันไปบอกพี่ฮั่น..มาตอนนี้ทะเลก็เป็นสีดำเหมือนเดิม เขาหนาวแล้วก็หิวมากด้วย อยากกลับบ้านแล้ว

                   ยังไม่ได้หันไปเต็มตัว ผู้ดูแลพุ่งเข้ามาช้อนตัวเขาขึ้นลอยหวือเหนือพื้นทราย แล้วเดินพุ่งลงทะเล แกงส้มตกใจกลัวตกกำลังจะคว้าคอคนอุ้มไว้แต่ยังไม่ทันจะได้ทำตามใจ ฮั่นก็โยนแกงส้มลงน้ำทันที!

                   น้ำตื้นไม่ถึงเข่าไม่ได้ทำให้เขาจม แกงส้มตัวสั่นตะกายขึ้นหายใจเหนือน้ำ ปากชมพูซีดสั่นระริกกำลังจะเปิดถามผู้ดูแล แต่ก็ไม่ทัน  เมื่อคนนั้น คนที่เขาไว้ใจกำลังขึ้นคร่อมร่างเขา สองมือแกร่งบีบลำคอเขากดจมลงน้ำอีกครั้ง

                   น้ำทะเลพุ่งเข้าจมูกปากเล็ก สำลักได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ฮั่นยกศีรษะแกงส้มขึ้นมาเหนือน้ำ คนถูกกดไอสำลักแรง อากาศปนน้ำเค็มปะปนในทางเดินหายใจ ปวดไปถึงขั้วสมอง ฮั่นเขย่าหัวแกงส้มแรงเพื่อบังคับให้สบตาเขา ตาเรียวเกรี้ยวกราดจ้องทะลุดวงตากลมแสบมัวที่ค่อยๆ ลืมขึ้นของแกงส้ม

                   ชอบนักก็กินซะให้พอ!!”

                   แกงส้มดิ้นป่ายไปมา ร่างที่อ่อนแอและเล็กกว่าไม่สามารถสู้แรงได้ ฮั่นกดเขาลงน้ำอีกครั้ง แกงส้มเรียนรู้ที่จะปิดตาปาก กลั้นหายใจไม่ให้ตัวเองสำลักซ้ำ ฮั่นเค้นหัวเราะสมเพชในความพยายามเอาชีวิตรอดของมัน ตอนนี้ไม่มีอะไรฉุดรั้งเขาได้อีกแล้ว บ้านของเขา ถูกทำลายเพราะมันกี่ครั้ง และครั้งสุดท้ายนี้ก็เกินจะให้อภัย

     

                   จริงๆ..เขาไม่เคยอภัยมันด้วยซ้ำ

     

     

                   ฮั่นลากแกงส้มขึ้นมาบนหาด ร่างสั่นเทาปวกเปียกใกล้หมดแรงเต็มที แกงส้มยังไอสำลักไม่หยุด ฮั่นขึ้นคร่อมร่างเขาอีกครั้ง สองมือกุมเข้าที่ลำคอเล็กและเริ่มออกแรง..บีบ

                   ทำไมพี่ฮั่นทำแบบนี้ เขาไปทำอะไรให้ ผู้ชายคนที่ทำร้ายเขาคนนี้เป็นใคร พี่ฮั่นคนเดิมของเขาล่ะ น้ำตาไหลรินออกข้างตาสองตาโต คนที่ทำให้เขาใจเต้นแรง เป็นคนเดียวกับที่จะหยุดมัน

                   แกงส้มไม่ดิ้นอีก อากาศเริ่มหายไปทุกที..ลมหายใจที่มีอยู่ขอจดจำใบหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย มือเล็กสั่นระริกเอื้อมไปแตะที่ข้างแก้มคนเหนือร่าง เหมือนที่ทำก่อนนอนทุกคืน..

     

                ‘จับผมไว้...แล้วหลับซะนะ...ผมไม่หายไปไหนหรอก

     

                   นี่อาจเป็นแค่ฝันร้ายของเขาก็ได้....ได้โปรดปลุกเขาทีเถอะ

     

     

                   ภาพแกงส้มที่อยู่ใต้ร่างซ้อนทับด้วยภาพเด็กชายใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือด ปากเริ่มคล้ำ ตาเรียวที่ลอยเคว้งหันหลับมามองหน้าเขา สายตาเศร้าตัดพ้อเกินบรรยาย สายตาที่ไม่ได้ร้องขอชีวิต สายตาที่มีแต่คำถามมากมายที่อยากเอ่ยถามคนที่รักสุดหัวใจ แต่ไม่อาจพูดได้...

     

                   เขาทำผิดอะไร?

     

     

                   แกงส้มเอียงหันข้างทันทีที่เป็นอิสระ ร่างเล็กห่อตัวสั่นเทาไอไม่หยุด ดวงตาพร่ามัวจนมองไม่เห็นอะไรแม้กระทั่งความมืดเพื่อนสนิท หัวเขาหนักอึ้งจนไม่สามารถครองสติได้อยู่ สิ่งสุดท้ายที่รู้สึก คือ ความอบอุ่นที่โอบกอดเขาแน่นจนจมลงไปในกายอีกคน แกงส้มเผลอยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงอีกครั้งพร้อมกับหัวใจอีกดวงหนึ่ง..

     

     

     

                   ปัง!!!!

     

     

    TBC : Ninee >,<

     (@Jasmininee)

     

     28ก่อนนะ เวิ่นเนอะรู้ตัว 55555 เดวมาต่ออีกวันสองวัน

    ปล.อร้ายยยกับเม้นท์ทุกคนนะ ชอบๆๆๆ เดาเลย เดาเรื่องกันเลย อร้ายๆๆ  แอบจี้ด แอบกรี้ดอยู่นะ กรี้ดดด ๆๆ โอ้ยยย อยากตอบทุกคนมากเลยอ่าาา เดี๋ยวมาๆๆ ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะ ^___^
    .
    .
    .

    มาต่อแล้น...จริงๆตั้งใจจะลงให้ทันวันที่ 28 วันฮั่นแกงของชาวเรา แต่ไม่ทัน กร้ากกก

    มีเรื่องอยากตอบคุณรี้ดที่รักนะคะ

    -           เรื่องนี้มีการวางพล๊อตไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกอย่างมีเหตุผล และที่มาที่ไป ตามสมองบ้านๆของไรต์จะมโนออกมาได้
    อาจถูกใจไม่ถูกใจ มันไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่ดั่งหวังก็ขออภัยล่วงหน้าเลยค่ะ

    -          คาแรคเตอร์ตัวละครก็เช่นกันค่ะ คุณแกง ไม่ใช่ แกงส้มตัวเป็นๆ ที่ร้องเต้นคุณและคุณเท่านั้นที่ทำให้ใจผมหยุดเหงากระยึกๆ...คุณแกงใน Memoroma เติบโตมาแบบนี้ ไม่เคยเผชิญโลกภายนอก โลกของเขามีเพียงห้องมืดๆ สีชอล์ค
    หนังสือไม่กี่เล่ม และคนไม่กี่คนที่รู้จัก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เขาก็ไม่ต่างกับเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง ประสบการณ์สอนชีวิต
    การเรียนรู้สอนอนาคตค่ะ..ติดตามๆค่ะ

    -          ปล.เราไม่ได้พอรักแกงบ้างนะ แต่เรารักแกงมาก รักมากด้วยยยย ไม่นอกใจด้วยแหล่ะ…>,< 5555 ขอบคุณนะคะ

     

    ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ทุกเม้นท์ ทุกวิว ทุกการติดตามค่ะ ^__^

    Ninee

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×