{ SF iKON } ::ย้อนเวลา2 double b (bobby x bi) - { SF iKON } ::ย้อนเวลา2 double b (bobby x bi) นิยาย { SF iKON } ::ย้อนเวลา2 double b (bobby x bi) : Dek-D.com - Writer

    { SF iKON } ::ย้อนเวลา2 double b (bobby x bi)

    บางทีอยู่คนเดียวก็ดีนะ . . .

    ผู้เข้าชมรวม

    1,006

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    1K

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    22
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ธ.ค. 57 / 21:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านฟิคเราเหมือนกันนะเนี่ย 
    แถมยังโดนบ่นซะเยอะ ว่าลำพังช่วงนี้สองบีตึงๆ ใส่กัน 
    เรายังจะมาแต่งฟิคหน่วงอีก เราเลยมาคืนความสุขให้แก่ชาว ดบบ.ค่ะ 
    (ซาวด์มา : เราจะทำตามสัญญา. . . ขอเวลาอีกไม่นาน 5555 )

    เหมือนเดิมอะ #ฟิคย้อนเวลาดบบ
    แต่งต่อให้แล้ว ชอบไม่ชอบไม่รู้ด้วย นะจ๊ะ นะจ๊ะ นะ.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title: ย้อนเวลา (2/2)
      ต่อเนื่องมาจาก http://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1265705

      Pairing: double b

      Note: ให้บาบิได้เล่ามั่ง #ฟิคย้อนเวลาดบบ 1,954 words

       

       

      เคยได้ยินไหมครับ ว่าความรักมันไม่ยาก แต่รักษาความสัมพันธ์น่ะยาก

      ผมก็ไม่เคยเข้าใจ เรื่องที่คนอื่นเค้าพูดกัน จนกระทั่งได้มาเจอกับตัวเอง

      เรื่องของผมกับเขา. . .

       

      ไม่รู้เมื่อไหร่ ที่เหมือนว่าเราห่างกันขนาดนี้ ไม่ใช่เขาที่เดินห่างออกไป หรือผมที่ถอยหลังมา แต่เป็น เราที่ต่างคนต่างเว้นที่ระหว่างกัน จนมันเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเราสองคน เขาก็คงเหนื่อยที่จะเดินเข้ามา ผมเองก็เหนื่อยที่จะเข้าหา จนกลายเป็นว่าพวกเราค่อยๆลดความสัมพันธ์ต่อกันไป ทั้งที่ผมก็ไม่ทันได้รู้ตัว สิ่งที่เราปฏิบัติต่อกันเหมือนเป็นหน้าที่ เหมือนการหายใจ ที่ทำซ้ำเดิมไป ไม่ต้องพยายาม ไม่มีความรู้สึกที่พิเศษ อาจจะไม่ใช่ทั้งชอบ หรือ รัก ไม่ได้ทำเพราะอยากทำ แต่ทำไปเพราะความเคยชิน

      ผมยังไปรับเขาตอนเที่ยงที่คณะ ถือของให้เขาตอนเราเดินไปทานข้าวที่โรงอาหาร

      เรานั่งทานข้าวกันเงียบๆ เหมือนเป็นปกติทุกวัน แล้วผมก็เดินกลับไปส่งเขาที่คณะ

      มีเวลาว่างก็ไปนั่งเฝ้าเขาทำรายงานบ้าง ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง

      แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ

      .

      .

      .

      ความรักของเรามันจืดจาง

      เหมือนน้ำเปล่า

      ผมรู้ว่าเขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน

      .

      .

      .

      เขาย้ายข้าวของกลับไปอยู่ที่บ้านเพราะต้องช่วยแม่ดูแลน้องสาว

      ช่วงที่พ่อเขาไปทำงานต่างประเทศ  

      และนั่นก็ทำให้ผมได้รู้สึก ว่าผมเองก็อยู่คนเดียวได้แม้ไม่มีเขา

      อาจจะมีนึกถึงเขาบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ความคิดถึง

      ผมโทรหาเขาเป็นบางวันที่ว่าง หรือคิดขึ้นได้

      พูดคุยกันเรื่องทั่วไป . . .

      ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนตอนที่เริ่มคุยกันใหม่ๆ

      ฟังจากน้ำเสียงเรียบๆของเขา

      ผมก็รู้ว่าเขาก็รู้สึกเหมือนกัน

      .

      .

      .

       

      นี่ จีวอน . . . อยู่ๆฮันบินก็พูดขึ้นมา ขณะที่ผมพาเขาซ้อนท้ายจักรยานกำลังจะไปส่งที่คณะ

      หืม ว่า?

      นาย. . . อยากลองคบคนอื่นบ้างไหม?

      หมายความว่าไง. . .ผมถามขึ้น ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว

      หมายความว่า เราเลิกกันจะดีไหม

      ไม่รู้สิ. . .ผมตอบออกไปตามความจริง ผมไม่รู้ว่าเรื่องของเราที่เป็นแบบนี้มันดีหรือไม่ดี เป็นครั้งแรกที่ผมเดาความคิดของเขาไม่ได้ ว่าเขารู้สึกยังไง . .  .

      . . .

      ฮันบินไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งซ้อนท้ายผมเงียบๆ มือของเขาชื้นเหงื่อ เขากำเสื้อของผมแน่นขึ้น และดูเหมือนว่าตัวเขาเอง คงไม่รู้ตัว

      ฮันบินถึงแล้ว. . . แล้วตอนเย็น?ผมยังต้องทำหน้าที่อยู่ไหมนะ

      ตอนเย็นไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวกลับบ้านกับแม่

      อืม. .

      จีวอน . . .

      หืม ?

      ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ก็ไม่ต้องโทรมาแล้วก็ได้นะ . .

      อืม. . .  เขาคงคิดเรื่องนี้ไว้สักพักแล้วสินะ ก่อนจะพูดมันออกมา คำที่ดูเหมือนว่าควรจะพอซักที กับเรื่องของเรา

      ฉันไปนะ เขาพูดขึ้นก่อนจะเดินหายเข้าไปในตึก ผมที่มัวแต่ใช้ความคิดจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป ซึ่งอาจจะเป็นคำลาครั้งสุดท้าย

      .

      .

      .

      ผมไม่ได้ติดต่อเขาไปหลังจากเรื่องวันนั้น

      ผมรู้สึกอิสระมากขึ้น สนุกกับการอยู่กับเพื่อนมากขึ้น

      มีเวลาไปเตะบอล เล่นเกม โดยไม่ต้องคอยกังวลเกี่ยวกับเขา

      เพื่อนของผมก็ถาม ว่าทำไมช่วงนี้เห็นผมว่างๆ

      ผมก็ตอบไป . . . ว่าเลิกกับเขาแล้ว

      ชีวิตที่อยู่คนเดียว ก็สบายดีเหมือนกันนะ

      .

      .

      .

       

      ผมเจอกับเขาบ้าง ตอนที่เขาเดินผ่านสนามบอล

      ตอนที่เดินสวนกันในโรงอาหาร

      เขายังดูปกติดี เหมือนตอนที่เราอยู่ด้วยกัน

      เรายิ้มทักทายกันเล็กน้อย

      ถ้าบังเอิญมองไปเจอว่าอีกคนกำลังมองอยู่พอดี

      .

      .

      .

      ผมเองก็ใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนเดิม

      ผ่านไปเจออะไร ก็มีคิดถึงเขาบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกทรมาน

      ผมเจอเขาน้อยลงหลังจากที่เราจบมหาลัย นับได้จริงๆ ก็ 3ครั้งเองมั๊ง

      ครั้งแรก ก็ตอนถ่ายรูปรับปริญญา ที่เราบังเอิญยืนถ่ายอยู่ใกล้ๆกัน รูปบางส่วนของผมเลยติดเขามาด้วย ตอนนั้นผมก็คิดว่าจะไปขอให้เขาถ่ายรูปด้วยกันซักหน่อย แต่มองหาอีกทีเขาก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้. . .

      ครั้งต่อมา ก็ราวๆ 5เดือนก่อน ตอนที่ผมขึ้นรถไฟฟ้า ผมเจอคนที่ลักษณะคล้ายๆเขายืนอยู่ตรงด้านหน้าของผมแต่ผมก็ไม่มั่นใจหรอกว่าใช่เขาจริงๆรึเปล่าเพราะเห็นแค่ด้านหลัง

      แต่พอมองแผ่นหลังของคนๆนั้น ผมก็คิดถึงฮันบินมากจริงๆ

      ครั้งที่สาม เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนตอนผมออกไปซื้อของเป็นเพื่อนจีซู ผมเจอเขากำลังเดินดูของอยู่เหมือนกัน แต่เขาคงไม่ทันสังเกตเห็นผม เขายังดูเหมือนเดิม แววตาซื่อๆของเขาไม่ว่ามองกี่ครั้ง ก็ดูน่าเอ็นดู . . .

      ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผมน่าจะได้เจอเขาอีกครั้งคืนวันเสาร์ที่จะถึงนี้

      ที่งานแต่งงาน . . .

      .

      .

      .

      บ๊อบ ! บ๊อบบี้

      ‘. . .’

      ไอ่บ๊อบบบบ

      ห๊ะ เรียกทำไมยัยขี้เหร่

      ใครยัยขี้เหร่ คนเค้าสวยแล้วย่ะ

      มีอะไร?

      เลือกช่วยเลือกชุดหน่อยสิ ว่าใส่อะไรไปงานแต่งงานพี่จินฮวานดี

      คนไม่สวย ใส่อะไรก็ไม่สวยหรอก . . . อุ๊บ !’ ยัยจีซูตัวแสบปาหมอนอัดหน้าผมเสียเต็มแรง

      ไอ่พี่ชั่ว ฉันจะฟ้องคุณน้า

       

      จีซู เป็นลูกของคุณป้าผมเอง เธอกลับมาเกาหลีช่วงที่ผมเรียนจบใหม่ๆ แล้วมาพักอยู่ที่บ้านของผม ตอนเด็กๆพวกเราโตมาด้วยกันที่อเมริกา ก่อนที่ผมจะกลับเรียนมาเกาหลีก่อน เราเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาก เพราะเมื่อก่อนจีซูเธอห้าวๆ เราเลยเล่นอะไรแผลงๆด้วยกัน ไม่คิดว่าโตมาจะสวย น่ารักขนาดนี้ แต่ก็นะ . . . เห็นไส้เห็นพุงกันหมดแล้ว รักไม่ลง . .  .

               

      .

      .

      .

      เออ บ๊อบ ฉันใช้น้ำหอมขวดที่วางตรงโต๊ะนั้นได้ไหม?

      ไม่ ไม่ได้’ . . . นั่นน้ำหอมกลิ่นของฮันบิน

      เออ. . . ไอ้คนขี้เหนียวเธอว่าผมแล้วแลบลิ้นใส่ ก่อนจะเดินหนีไปแบบงอนๆ

      .

      .

      .

      บ๊อบ ถามหน่อย

      อะไรอีก ยัยขี้เหร่

      ทำไม ต้องใส่ต่างหูรูปตัว H แหวนก็รูปตัว H’

      ไม่รู้สิ . . . แค่ชอบมั๊ง

      ชอบตัว H อะนะ?

      ก็คงจะอย่างนั้นแหละ . . .

      ความชอบมันไม่จำเป็นเหตุผลเสียหน่อย

      ความคิดถึง ก็เลยไม่มีเหตุผลเหมือนกัน

      ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเองกำลังรอคอยให้ถึงวันเสาร์นี้อยู่

      วันเสาร์ที่จะได้เจอกับ ฮันบิน . . .

      .

      .

      .

       

      ผมมาถึงงานแต่งงาน ช้ากว่ากำหนดเพราะจีซูยังแต่งตัวไม่เสร็จ  พิธีแต่งงานเลยเริ่มไปแล้วบางส่วน ผมแวะพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียนหลายคนที่เข้ามาทัก ก่อนจะกวาดตามองหาคนบางคนที่คิดว่าจะมารวมงานวันนี้ด้วย

       

       

      แล้วก็เห็นแผ่นหลังที่แสนคุ้นเคย กำลังเดินออกไปนอกบริเวณที่จัดงาน

      ผมจึงออกเดินตามเขามาอย่างช้าๆ จนได้จังหวะที่เขาหยุดเดิน จึงได้เรียกเขา

       

      ฮันบินอ่า...

       หืม ?เขาหันกลับมามองผม เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในชุดสูท กับทรงผมที่เปิดหน้าผากทำให้เขาดูดีเป็นพิเศษ

      ไม่เจอกันนาน เลยนะ. . .คิดถึง. . . ประโยคหลังได้แต่คิดไม่กล้าพูด

      นั่นสิ ตั้งแต่เรียนจบไปก็ไม่ค่อยเจอกันเลย  นายเป็นยังไงบ้าง

      ฉันหรอ. . . ก็ดีนะ งานยุ่งๆนิดหน่อย แล้วนายล่ะ

      ฉัน. . . ก็ดีเขายิ้มให้ผม รอยยิ้มของเขาก็ยังดูใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเดิม

      อ่อ. . . อืม

      ‘. . .’

      ‘. . .’      ให้ตายสิ บรรยากาศรอบตัวผมหนักๆเล็กน้อย เมื่อเราต่างคนต่างเงียบ ไม่ยอมพูดอะไร ทั้งๆผมมีคำพูดมากมาย อยากจะพูดให้หายคิดถึง

      จีวอน. . .เป็นเขาที่เริ่มพูดขึ้นมาก่อน

      หืมมม ’       

      คิดถึงนะ

      อืม. . . เหมือนกัน’  ผมดีใจที่อย่างน้อยเขายังคิดถึงผม ผมไม่รู้ว่าเขาคิดถึงมากเท่าที่ผมคิดถึงเขาหรือเปล่า ผมคิดถึงมาก มากจนบางครั้งรู้สึกทรมาน ผมคิดถึงทุกอย่างที่เป็นตัวเขา สำหรับผมแล้ว เขายังเป็น favorite ของผมในทุกๆเรื่อง

      เหมือนความคิดบางส่วนของผมยังผูกติดอยู่กับเขา

      ราวกับว่า ลึกๆแล้วผมยังคิดว่าเราไม่ได้เลิกกัน . . .

       

       ‘จีวอน . . .

      ว่า ?

      ‘. . . เปล่า ไม่มีอะไร

      งั้น เจอกันข้างในนะ

      อืออ. . .

      .

      .

      .

      ผมมองเห็นฮันบิน หันหลังช้าๆก่อนจะเริ่มเดินไปอีกทาง

      แต่ผมก็หยุดเขาไว้ด้วยเสียงเรียกของผม

      เดี๋ยว ฮันบิน

      ‘. . .’ เขาหยุด เหมือนรอฟัง แต่ก็ยังไม่หันกลับมา

      ผมรวบรวมความกล้า ผมต้องพูดเขาให้ได้ ผมไม่อยากปล่อยให้ตัวเองต้องเป็นแบบนี้

      ฉันมีเรื่องจะบอก นายจำที่นายถามฉันวันนั้นได้ไหม... ที่นายถามว่าถ้าเราเลิกกันจะดีไหม... ที่ฉันตอบว่าไม่รู้... ตอนนี้ฉันมีคำตอบแล้วนะ นายอยากฟังมันไหม หันมาก่อนสิ...

      ‘. . .’ ฮันบินหันกลับมา ผมตกใจที่เห็นเขาร้องไห้ จึงดึงเขาเข้ามากอดแนบอก

      ร้องไห้ทำไมหืมม ?ผมลูบหัวเขาเบาๆ เพื่อปลอบโยน

      ไม่ . . . ’

      ไม่อะไรครับ?

      ไม่อยากฟัง ถ้านายพูดว่าเลิกกันแล้วดี นายได้เจอคนใหม่ นายมีความสุขกับความรัก ฉันไม่อยากฟัง... เธอรักนายมาก อยู่กับเธอไม่จืดชืดเหมือนฉัน ฉันไม่อยากฟัง...

       

      เดาผิดแล้วฮันบิน

      อะไร. . .’ เขาเงยหน้าขึ้นมามองผม แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

      ฮันบินอ่า . . . ตั้งใจฟังนะ ความจริงแล้วตอนที่เราเลิกกัน ฉันก็รู้สึกว่าฉันอยู่ได้ แต่พอยิ่งนานไปฉันยิ่งมีแต่ความคิดถึง อยากให้นายอยู่ด้วยกัน อยู่คนเดียวมันก็ดี แต่ถ้ามีนายอยู่ด้วยกันคงจะดีกว่า . . .’

      ฉันไม่เข้าใจ . . .

      งั้นเอางี้ สรุปง่ายๆนะ. . . ฮันบินอ่า ฉันยังรักนะ แล้วนายล่ะ ?

      ‘. . .’ เขายังเงียบอยู่

      ฮันบิน. . .’ ผมเริ่มรู้สึกไม่ดี ผมเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะตอบรับหรือปฏิเสธ แต่อย่างน้อยผมก็บอกไปทั้งหมดแล้ว

      .

      .

      .

      อืออ. . . เหมือนกัน

      .

      .

      .

      END –

      SPECIAL

      เดี๋ยวๆ ละแฟนนายที่มาด้วยวันนี้อะ

      แฟนที่ไหน นั่นลูกพี่ลูกน้อง

      อ่อหรอ

      พาโบย่า . . . ฮันบินอ่า

      อะไรเล่า . . .

      ขออนุญาตกลับมาปฏิบัติหน้าที่แฟนนะครับ :B’

      อือออ. -/////-’

       

      เรื่อยๆไปจนแก่เลยนะคู่นี้ แค่อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว ^^ 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×