คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : TAETEN : มนุษย์หน้าแมว
This love is good, this love is bad
This love is alive back from the dead
These hands had to let it go free
And this love came back to me
หลังจากเมื่อเช้าผมเจอศึกหนักจากมนุษย์หน้าแมวที่ชื่อว่าแทยง
ผมก็รีบวิ่งหนีเข้าห้องน้ำทันที
ผมไล่สายตามองไปตามร่างกายของตัวเองที่ตอนนี้มีแต่รอยแดงเต็มตัวไปหมด
แล้วแบบนี้ผมจะไปมหาลัยได้ยังไงกันละ
ผมอาบน้ำชำระร่างกายตัวเองทันที
วันนี้ผมต้องรีบไปส่งวิจัยให้กับอาจารย์จงแด ถ้าผมไม่ส่งละก็มีหวังโดนเฉือดแน่ๆ
แกร็ก!
"เอ่อ..แทยง คือขอยืมเสื้อผ้าหน่อยสิ"
"ได้สิ นายไปเลือกเอาในตู้เลย"
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่อีกคนว่า
ผมเปิดตู้เสื้อผ้าของแทยงออกเพื่อที่จะมองหาเสื้อผ้าที่สามารถจะปกปิดรอยแดงบนตัวผมไม่ให้คนอื่นได้เห็น
เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของแทยงจะเป็นโทนสีดำซะเกือบหมดต่างจากผมที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสีขาว
ผมเลือกที่หยิบเสื้อแขนยาวสีดำสกรีนลายเป็นประโยคภาษาอังกฤษ
ผมสวมใส่เสื้อตัวนั้นเลยเห็นว่าตัวใหญ่กว่าตัวผมเล็กน้อยแต่ก็ยังปกปิดรอยต่างๆได้
ผมหยิบกางเกงยีนต์เข่าขาดของแทยงมาใส่
ผมเดินไปห้องครัวของแทยงมองว่าจะสามารถทำอะไรเป็นอาหารเช้าได้บ้าง
ผมเปิดตู้เย็นดูก็เจอกับไข่ไก่ แฮม ผักสลัด
แล้วก็พวกสดต่างๆแต่ผมคงทำอะไรที่มันง่ายๆก่อนเพราะพวกผมต้องไปมหาลัย
"หอมจัง"
แทยงเดินมาจากไหนก็ไม่รู้แต่คาดว่าเขาน่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะอุณหภูมิที่ตัวของเขามันเย็นๆ
แต่ไอ้การที่มากอดเอวแล้วมาพูดใกล้ๆหูของผมเนี้ย มันทำให้หน้าผมร้อนขึ้นเรื่อยๆ
"ไปนั่งดีๆ จะเสร็จแล้ว รีบๆกินจะได้ไปมหาลัยกัน"
ผมพูดออกไปจนแทยงปล่อยมือออกจากเอวของผม
ผมยกจานมาวางไว้บนโต๊ะอาหารเช้าแบบง่ายๆไข่ดาวกับแฮมก็เท่านั้น
ผมมองนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทานอาหารเช้า
แต่ผมกลับรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่ผม
ก็รู้อยู่หรอกว่าแทยงกำลังมองอยู่แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจอะไรแทยงเองก็เริ่มลงทานอาหารเช้า
บรรยากาศการทานอาหารตอนนี้ก็เงียบๆไม่มีเสียงอะไรมารบกวนผมลุกขึ้นเอาจานไปเก็บที่อ่างล้างจานแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนที่ผมกับแทยงนอนร่วมกัน
ผมหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นแล้วเช็คว่ามีอะไรบาดหายไปรึเปล่า
แต่ทุกอย่างยังคงอยู่ครบดี
"ไปมหาลัยพร้อมกันนะ"
เป็นแทยงที่เอ่ยขึ้นมาก่อน
ผมหันไปมองอีกคนที่ตอนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย
แทยงเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาถือก่อนที่จะเดินมาดึงมือผมให้ออกไปด้วยกัน
เช้านี่ใครมันมาเผาอะไรใกล้ๆหน้าผมกันนะ ทำไมหน้าผมถึงได้ร้อนแบบนี้
.
.
.
ผมกับแทยงมาถึงมหา'ลัยก็แยกกันไปที่คณะของตัวเองผมเรียนอยู่คณะสถาปัตย์ส่วนแทยงนั้นเรียนนิเทศ
ถ้าถามว่าทำไมพวกผมถึงรู้จักกัน
ก็อย่างที่บอกว่าผมกับแทยงรู้จักกันตั้งแต่เข้ามหาลัยนี้มา รู้สึกจะมาสนิทกันตอนรับน้องละมั้งคณะผมกับคณะของแทยงจัดกิจกรรมรับน้องใกล้ๆกันตอนนั้นแทยงเป็นฝ่ายทักผมก่อนจนได้คุยกันเลยรู้ว่าไลฟ์สไตส์ของเรา2ของคล้ายๆกัน เป็นเพื่อนกันมาจะ2ปีแล้วสินะ
"นั่งคิดอะไรอยู่"
"อ๊ะ!..งือออ"
สัมผัสอุ่นๆที่หลังคอของทำให้ผมสะดุ้งตกใจ
คนที่จะมาเล่นแบบนี้มีคนเดียวแหละ ก็มนุษย์แมวแทยงไง
ผมหันไปมองค้อนอีกคนที่อยู่ๆก็มาทำอะไรหน้าอายแบบนี้ในมหา'ลัย แล้วนี่อะไรเดินมาหาถึงคณะเลยหรอ
"มาทำไม ว่างหรอไง"
"จารย์ยกคลาสน่ะก็เลยมาหานาย แล้วนี่ทำอะไรอยู่"
"ต้องแก้งานนิดหน่อยนะ"
"ฉันช่วยมั้ย"
แทยงว่าพลางเลื่อนมือมากอดที่คอของผมแล้วเขาก็เอาคางมาเกยบนหัวของผม
แทยงออกแรงขยี้คางกับผมบนหัวของผมจนมันเริ่มยุ่ง
"นี่! ถ้าจะมากวนก็กลับไปเลยนะ"
ผมตีเข้าที่มือของแทยงที่ยังกอดรอบคอของผมอยู่
ไอ้นิสัยกวนประสาทของแทยงน่ะผมเจอมาตลอดละ
แต่เพราะหลังจากเรื่องเมื่อคืนกับเมื่อเช้าเกิดแทยงก็เริ่มที่จะกวนประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมไม่ได้รู้สึกรำคาญหรอกนะ ออกจะดีอยู่บ้าง
เวลาแทยงกวนประสาทผมและเมื่อผมได้ด่าเขาผมจะเริ่มรู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆที่ผมกำลังกังวลทุกครั้ง
นั้นแหละข้อดีของมนุษย์หน้าแมว
"นี่ เตนล์!
"หื้ม ว่า"
ผมเพียงแค่ตอบแต่ไม่ได้หันไปมองคนที่ตอนนี้ได้ย้ายตัวเองมานั่งเก้าอี้ตัวข้างๆผมแทน
"เย็นนี้ไอ้แจฮยอนมันเลี้ยง ไปด้วยกันมั้ย
พวกโดยองก็ไปนะ"
"อืม ไปสิ"
ผมตอบไปอีกครั้งแต่สายตาก็ยังคงจ้องไปที่งานที่ผมโดนให้เอามาแก้
เหมือนแทยงจะเงียบไปจนผมอดที่จะหันไปมองเขาสักไม่ได้
ซึ่งนั้นผมคิดผิดเพราะตอนนี้หน้าผมกับแทยงห่างแค่ไม่กี่เซนดวงหน้าที่คมเส้นผมสีดำที่ตอนนี้ไม่ได้จัดทรงทำให้มันดูยุ่ง
ผมทำเพียงแค่มองอีกคนเท่านั้นไม่กล้าพูดหรือขยับตัวเพราะกลัวว่าคนตรงจะทำอะไรใส่อีก
"เวลาฉันถามน่ะ หันมาตอบด้วยสิ"
“อ..อืม รู้แล้ว”
แทยงผละใบหน้าของเขาออกไปก่อนที่เขาจะใส่หูฟังแล้วก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ
ผมยกมือขึ้นมาทาบไว้บนอกตอนนี้หัวใจของผมเต้นแรงซะจนเหมือนกับว่ามันจะระเบิดออกมายังไงอย่างนั้น
ผมหันกลับมาสนใจงานของตัวเองต่อเพื่อที่แก้บางส่วนให้ให้เสร็จแล้วนำไปส่งให้กับอาจารย์ที่ห้อง
ตอนนี้ผมแก้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วและส่งอาจารย์แล้ว
ผมเดินกลับมาหาคนตอนนี้กำลังนั่งฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะ
ไม่อยากปลุกหรอกนะแต่เมื่อกี้เจอพวกโดยองแล้วพวกนั้นบอกว่าจะไปรอที่ร้าน
“แทยง ตื่นได้แล้ว พวกโดยองบอกว่าจะไปรอที่ร้าน”
“อืมมม”
ผมสะกิดที่แขนของแทยงเพื่อนเป็นการปลุกเขา
แทยงยกหัวขึ้นมาจากโต๊ะก่อนจะถอดหูฟังออกจากหู สภาพตอนนี้แทยงเหมือนแมวง่วงยังไงอย่างงั้น
น่ารักดีแหะ
“งั้นไปกันเลยเนอะ”
ผมทำเพียงแค่พยักหน้าตอบเท่านั้นผมหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบนหลังแทยงเองก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาถือไว้
มือหนาของแทยงเลื่อนมาจับที่มือผมเอาไว้
เหมือนกับว่าตอนนี้เรา2คนกำลังเดินจับมือกันอยู่ สายตาของคนในคณะที่กำลังมองมาที่ผมกับแทยงนั้นไม่ใช่สายตาที่รังเกียจแต่เป็นสายตาที่เอ็นดู
ผมได้แต่ก้มหน้าเดินตามแทยงไปก็เท่านั้น บางทีแทยงอาจจะแค่แกล้งแหย่ผมเล่นก็ได้
คนหล่อๆแบบแทยงน่ะหรอที่จะมาชอบคนแบบผม
“นี่เตนล์”
ผมเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงเรียกของอีกคน แต่ก็เหมือนทุกครั้งแทยงก้มใบหน้าลงมาก่อนที่จะประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของผมไม่มีการรุกล้ำใดเป็นเพียงการจูบธรรมดาๆที่สามารถทำให้ใจของผมนั้นเต้นระรัว
แล้วทำไมกันนะทำไมผมถึงไม่ปฏิเสธสัมผัสที่อีกคนมอบให้เลยกัน
“ที่บอกว่าชอบน่ะ..ฉันพูดจริงๆนะ”
ผมไม่ได้ตอบเองได้แต่ก้มหน้าซ่อนใบหน้าที่ตอนนี้แดงไปหมด
แต่แล้วประโยคต่อมาที่อีกคนพูดก็ทำให้หัวใจของผมตอนนี้เหมือนจะระเบิดออกมา
ผมต้องเป็นโรคหัวใจแน่ๆ
“เป็นแฟนกับฉันนะเตนล์”
ไม่มีคำใดๆออกมาจากปากผมมีเพียงแค่ใบหน้าที่แดงจัดเท่านั้นที่ทำให้แทยงคิดว่านั้นคือคำตอบของผม
เขากอดผมมืออีกข้างที่ว่างก็ยกขึ้นมาลูบผมของผมเอาไว้สัมผัสที่อ่อนโยนและอบอุ่นของแทยบวกกับกลิ่นน้ำหอมที่แทยงมักใช้เป็นประจำนั้นมันทำให้หัวใจของผมเต้นแรง
“แทยง..ทำไมถึงเป็นเราล่ะ?”
“หืม?”
“ก็แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ดูดีแบบนายถึงได้มาชอบฉัน
ทั้งๆที่ผู้หญิงตั้งหลายคนต่างอยากคบนายกันทั้งนั้น”
“หึ ฉันน่ะมองนายตั้งวันที่รับน้องแล้ว จะอธิบายยังไงดีละ
ไม่ว่านายจะทำอะไรทุกๆคนก็ต่างพากันเอ็นดูนายไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือรุ่นน้องก็ตามทุกคนต่างมอบความรักให้แก่นาย
ให้พูดตรงๆคือตอนนั้นฉันอิจฉานายนะแต่จู่ๆความคิดมันก็เปลี่ยนไปเวลาที่ฉันเห็นนายยิ้มให้กับคนอื่น
ฉันรู้สึกว่าไม่อยากให้นายมอบรอยยิ้มเหล่านั้นให้กับใครอยากให้นายยิ้มให้แค่ฉันคนเดียว”
“แทยงอ่า..คือว่า..นี่ฟังอยู่รึเปล่าน่ะ”
ผมเงยมองแทยงที่ตอนสายตาของเขามองไปทางอื่น อะไรของเขาเมื่อกี้ยังมองผมอยู่แล้วไหงอยู่ดีๆก็มองไปทางอื่นกันละ
ผมโผล่หัวออกมาข้างๆตัวของแทยงแล้วมองไปยังสิ่งมีชีวิต4ขาที่คาดว่าน่าจะเป็นญาติกับแทยง
แมวสีขาว
“สีดำก็ดีนะแต่ว่าสีแดงเหมาะกับเตนล์มากกว่า”
“หื้ม”
“ปลอกคอน่ะ ถ้าเตนล์ใส่คงจะเซ็กส์ซี่น่าดูเลย”
“ห๊ะ!? จะให้ฉันใส่?”
ไม่มีการตอบรับอะไรไปมากกว่ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากแทยง
นี่หมอนี่จริงจังกับผมจริงๆรึเปล่าเนี้ย
.
.
.
.
.
ตอนนี้ผมกับแทยงมานั่งในร้านที่อยู่หน้ามอโดยมีแจฮยอน
โดยอง คุนแล้วก็วินวิน ผมนั่งอยู่กับโดยองแล้วก็คุน
ส่วนแทยงนั่งฝั่งตรงข้ามกัวพวกแจฮยอน บนโต๊ะก็ต่างมีของกินและก็พวกเครื่องดื่มต่างๆโดยองทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้กับทุกคน
และคราวนี้ผมเลือกที่จะไม่ดื่มเพราะกลัวว่าจะเมาจนขาดสติแบบคราวก่อนที่ทำซะผมจำอะไรไม่ได้
“แทยง
ตอนนี้มึงกำลังคบใครอยู่” เป็นแจฮยอนที่ถามขึ้นมา
“คนที่กำลังคบอยู่น่ะหรอ อืมมม ก็มีนะ”
แทยงตอบพลางยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบเล็กน้อยแต่สายตาของเขากลับมองมาที่ผม
เหมือนกลับเป็นสายตาที่ล้อเลียนผมอยู่ยังไงอย่างนั้น
“ใครวะ คณะไร”
วินวินถามแทยง
ตอนนี้ผมรู้สึกอยากเอาของกินอุดปากวินวินมาก ไม่รู้จะถามทำไมนักหนา แทยงเองก็เอาแต่มองหน้าผมไม่ละไปไหน
นี่ถ้ามีคนสังเกตก็คงจะเห็นว่ามนุษย์หน้าแมวตรงหน้าผมมันกำลังกวนประสาทผมอยู่
“นั้นสิ แต่ว่านะไม่รู้ว่าเขาจะใจอ่อนให้รึเปล่าน่ะสิ”
“อะไรของมึง”
“แต่นะ จุดอ่อนของเขาอยู่ที่ต้นคอล่ะ”
พรวด!
เมื่อได้ยินแทยงพูดแบบนั้นผมก็สำลักน้ำทันที
โดยงอเห็นแบบนั้นเลยหยิบทิชชู่มาให้ผมซับคราบน้ำที่เลอะตามปากของผม
ผมเงยหน้ามองมนุษย์หน้าที่อยู่ตรงข้ามรอยยิ้มมุมากที่อีกคนยิ้มเพื่อให้ผมเห็น
นี่แทยงคิดจะกวนประสาทผมงั้นหรอ
“แล้วเตนล์ละตอนนี้กำลังคบใครอยู่”
“นั้นสิ”
คุนกับโดยองที่หันมาถามผมโดยที่มีสายตาจากแจฮยอนแล้วก็วินวินที่อยากจะรู้คำตอบจากผมกัน
ส่วนแทยงก็ทำเพียงแค่ยิ้ม ยิ้มที่เป็นยิ้มเจ้าเล่ห์รอยยิ้มที่ทำให้ผมหงุดหงิด
“ไม่ได้คบกับใครอยู่หรอก”
เผลอพูดออกไปแบบนั้นแล้วสิแล้วแบบนี้แทยงจะรู้สึกยังไงละ
นี้ผมหงุดหงิดจนเผลอพูดอะไรแบบนี้ออกไปเลยหรอ
เพล้ง!!
“เหี้ย แทยงมึงทำไร”
เสียงแก้วแตกทำให้ทุกคนหันไปมองว่าเกิดอะไร
แจฮยอนร้องออกมาเมื่อว่าแทยงเป็นคนทำแก้วแตกแต่ผมกลับไม่ได้สนใจประเด็นแก้วแตกที่ผมกลับเห็นใบหน้าของแทยงที่ตอนนี้ดูเศร้าลง
“ฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
เป็นผมเองที่ลุกออกไป ทำไมถึงได้รู้สึกแย่แบบนี้กันนะ
รู้สุกผิดอยู่เหมือนกันที่เผลอพูดแบบนั้นออกไป
ก็เพราะแทยงเอาแต่แกล้งแหย่จนไม่รู้ว่าจริงจังมากน้อยแค่ไหนก็เลยเผลอพูดแบบนั้นออกไปแต่ก็ไม่คิดว่าคำพูดแบบนั้นมันจะทำให้ใบหน้าที่มักจะยิ้มของแทยงนั้นเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เศร้าเหมือนคนหมดหวังยังไงอย่างงั้น
แบบนี้แทยงคงได้เกลียดผมแน่ๆที่ไปทำร้ายความรู้สึกของเขา
ผมนั่งยืนพิงกำแพงนอกร้านพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่ก็กลั้นไม่อยู่
สีหน้าของแทยงตอนที่คว้ำมือผมไปจับไว้เมื่อตอนเย็นสีหน้าที่มีความสุขแบบนั้น
ตอนนี้ผมได้ทำลายมันลง
“จะกลับทั้งๆที่ลืมกระเป๋าเอาไว้ในร้านเนี้ยนะ”
ผมเงยมองคนตรงหน้า คนที่ผมเผลอทำร้ายความรู้สึกไปเมื่อกี้ในร้าน
แทยงยื่นกระเป๋ามาให้ผม ใบหน้าที่เรียบนิ่งจนผมรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แทยงคนเดิม
ผมรับกระเป๋ามาถือเอาไว้
เราทั้งคู่ต่างไม่ได้พูดอะไรออกไปมีเพียงแค่เสียงเพลงที่ดังมาจากในร้าน
แล้วจู่ๆแทยงก็คว้ามือข้อมือของผมก่อนที่จะออกแรงดึงให้ผมเดินตามเขาไป
“ท..แทยง”
“มีที่ๆอยากจะไป”
แทยงไม่หันกลับมามองผมเขาเอาแต่ลากผมให้เดินตามเขาไปเรื่อยๆ
น้ำเสียงที่เรียบนิ่งกับแรงบีบที่ข้อมือของผมมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ
ไม่ใช่เจ็บกายแต่เจ็บใจที่ตัวเองเผลอทำเรื่องโง่ๆลงไป
“แทยง..ที่ว่าที่ๆว่าจะพาไปมันที่ไหน”
“โรงแรม”
“เอ๊ะ!?”
และเป็นอีกประโยคของแทยงที่มันทำให้ผมรู้กลัวและกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
.
.
.
.
.
“แล้วหลังจากนี้ฉันจะเลิกยุ่งกับนาย
เพราะงั้นให้ฉันทำเถอะ ให้ฉันมันครั้งสุดท้าย”
Talk;
อย่ารุมเราาาาาา
ฟิคเรื่องนี้ไม่มาม่าเพระาเรามาม่าไม่เป็นนนน
เป็นยอดวิวกับยอดเฟปแล้วรู้สึกดีใจถึงจะน้อยแต่ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
ไรท์จะพยายามพัฒนาฝีมือต่อไปเรื่อยๆเพื่อรีดเดอร์ทุกคนนนนนน
Thank you for reading.
ความคิดเห็น