คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Director >>04
ผมนั่งคุยกันคยองซูจนเพลินเหลือบตาออกไปมองดูท้องฟ้าข้างนอกที่เริ่มเป็นสีดำ ผมยกมือขึ้นเพื่อจะดูนาฬิกา นี่ก็เป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว พูดไปพูดมาก็เริ่มจะง่วงแล้วซิ
“แบคฮยอน ฉันว่าฉันเริ่มง่วงแล้วหล่ะ”
“อ่าว เหรอ”
“อืม วันนี้ต้องรีบนอนหน่อย พรุ่งนี้กวางซูนัดคุยเรื่องงานแต่เช้า”
“งั้นก็ไปนอนเถอะ ฉันก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน”
คยองซูอ้าปากหาวหวอดๆโบกมือลาผมงิกงิก เห้อ!! ผมเองก็ต้องนอนแล้วสิน่ะ
แอดดดด!!
ผมแง้มประตูห้องออกดู พบว่าร่างสูงกำลังนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คเครื่องหรูอยู่บนเตียง เขาละตาจากโน๊ตบุ๊คแล้วเหลือบตามามองผม
“มองอะไร”เขาถามเสียงแข็ง
“จะไปอาบน้ำน่ะ” ผมพูดพลาดส่งสายตายั่วยวนสื่อความหมายประมาณว่า ไปอาบด้วยกันมั๊ย
“ก็ไปดิ จะบอกทำไม? ประสาทแดก” โธ่!! ไอ้เห้นี่ นอกจากจะปากหมาแล้วยังตายด้านอีก คำว่าอารมณ์ทางแพทย์รู้จักมั๊ยว่ะ โห้ยยย บยอนละเซ็ง
“ก็แค่จะถามว่านายอาบรึยัง ถ้ายังจะได้อาบด้วยกันไง ช่วยชาติประหยัดไฟ”ช่วยชาติประหยัดไฟคิดได้ไงเนี่ย สติครับบยอนสติ
“ก็บอกแล้วไง ว่าไอ้แผนการบอบ้าอะไรนั่นเลิกคิดได้แล้ว ถึงนายมาถกขาอ่อนให้ฉันดู ฉันก็ไม่โด่หรอกน่ะ”ไอ้โย่ง แกหยามฉันมากไปแล้ว ไม่ให้เกียรติขาอ่อนฉันเลย
“ไม่ได้มีแผนอะไร ที่ทำเนี่ยตัวตนที่แท้จริงล้วนๆ คือแบบเซ็กซี่โดยธรรมชาติ” ผมทำหน้าแอ๊บแบ๊ว คิขุอาโนเนะ แอ๊บใสๆ พร้อมถกกางเกงขาสั้นขึ้นจนเห็นโคนขาขาว ถกขนาดนี้แล้วไม่โด่ให้มันรู้ไป
“ธรรมชาติลงโทษสิไม่ว่า นั่นขาหรือต้นกล้วยห๊ะ” กริ๊ดดด ต้นกล้วยบ้านพ่อแกสิ ขาเค้าออกจะเรียว สงสัยไอ้เห้นี่ประสาทจะแดกลูกตาความสามารถด้านการมองเลยผิดปกติ
“หน๊อย ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้หูเรด้า”ผมกระทืบเท้าเดินตึงตังด้วยความโมโห ขว้างผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
เวลาผ่านไปประมาณเกือบชั่วโมงกว่าผมจะอาบน้ำเสร็จ ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนอนคิตตี้นั่งแหย่ขี้อยู่บนเรือไททานิกชุดนอนตัวโปรดสุดหวานแหววของผม น่ารักที่สุด<< ชมตัวเอง
เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิน ท่าเดิม สีหน้าเดิม
“อ่ะแฮ่ม”ผมแกล้งไอ เรียกร้องความสนใจซะหน่อย ถ้าเขาเห็นผมในชุดนี้รับรอง ชานน้อยๆได้ผงาดเป็นรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงของจีนแน่
“…..”เงยมองผมด้วยสายตาไร้ความรู้สึกและตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ห่าอะไรไม่รู้ต่อไป ผมละอยากหยิบมือถือขึ้นมาทวีต ‘ นี่กูเป็นธาตุอากาศเหรอนี่ย’
ไม่เป็นไรน่ะบยอนแบคฮยอน โอกาสหน้ายังมีใหม่ เขาไม่มองเราไม่ได้หมายความว่าเราไม่น่ารัก แต่เป็นเพราะเขาตาไม่ถึงต่างหาก ไม่รู้ว่าอันไหนขี้อันไหนเพชร ผมทำได้แค่ยกมือขึ้นตบบ่าเบาๆเพื่อปลอบใจตัวเอง
ผมมุ่งหน้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง บำรุงหนังหน้าสักหน่อย เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น ผมนั่งมองหน้าตัวเองในใกระจก นี่ผมลืมถอดคอนแทคเลนได้ไงเนี่ย ผมคว้ากระปุกคอนแทคเลนลายหมีพูใส่บีกีนี่สีฟ้าสุดน่ารักขึ้นมา
ผมสะแหยะยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยเมื่อคิดอะไรดีๆออก รีบหยิบขวดน้ำตาเทียบขึ้นมาเหยาะๆใส่ตา 2-3 ที
“โอะ โอ๊ยยยย ชานยอลช่วยด้วยๆ”ผมแหกปากร้องสุดเสียงปานจะเป็นจะตาย
“แหกปากทำไมเนี่ย”
“ชานช่วยแบคด้วย แบคแสบตาอ่ะ”เปลี่ยนสรรพนามสักหน่อย ความน่ารักเพิ่มขึ้นประมาณ 0.0003%
“เรื่องเยอะจริงเลย เป็นห่าอะไรอีก”ปากนี่บ่นได้บ่นดี แต่ตัวนี่กำลังลุกเดินตรงมาหา หลงรักเค้าแล้วอ่ะดิ <<
อันนี้มโนเอาเอง
“แบคจะถอดคอนแทคเลนอ่ะ แต่พอเอามือไปโดนมันก็เจ็บมากๆเลย เคืองตามากๆ”
“สำออยจริงๆ ไหนมาดูดิ”เขาคว้าคอผมแล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ยกมือขึ้นมาแหกตาผมดู
“จะทำอะไรหน่ะ” ถึงมันจะเป็นไปตามแผนก็เหอะ แต่ผมก็รู้สึกตกใจหน่อยๆกับการกระทำเป็นเขา
“นิ่งๆสิโว้ย จะกระดุกกระดิกทำไม”
“อืม” ผมตอบเสียงอ่อย นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย เผลอตกหลุมพลางตัวเองซะได้
พอเขาเริ่มเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ หัวใจผมกลับเต้นแรงผิดปกติ แก้มร้อนผ่าวไปหมด ไม่ได้การแล้ว ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้
พลัก!!
“ฉันว่า ฉันหายแล้วล่ะ”ผมออกแรงพลักเขาออก เพราะหัวใจผมเต้นแรงเหลือเกิน ถ้าปล่อยให้เขาเข้ามาใกล้ไปกว่านี้ ผมคงต้องระเบิดตัวตายแน่ๆ
หมับ!! เขาคว้าคอแล้วออกแรงดึงหน้าผมเข้าไปใกล้ๆ
“อยู่นิ่งๆสิ จะดูให้ เจ็บมากไม่ใช่หรอ เห็นตะกี้ร้องจะเป็นจะตาย”ชัดเลย แกล้งกันชัดๆ
“ไม่ต้อง หายเจ็บแล้ว”ผมพยายามดันตัวเขาออก
“เดี๋ยวซิ”เขาโน้มหน้ามากระซิบข้างหูผม
“นี่นายจะหลอกจูบฉันรึป่าวเนี่ย”ผมพูดแก้เขินแล้วก้มหน้าลงต่ำหลบสายตาเขา
“ก็ใช่นะสิ เพิ่งจะรู้เหรอ”เขาเฉยคางผมขึ้น จนเราสบตากัน
เหมือนโลกกำลังหยุดหมุน สัมผัสอุ่นๆทาบลงบนริมฝีปากผม ลิ้นร้อนกำลังรุกล้ำเข้ามาช่วงชิงความหวานจากปากผม ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน จนผมเผลอยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขา เขาตอบโต้กลับโดยการกอดกระชับเอวบางของผมให้เข้าไปใกล้มากขึ้น ริมฝีปากของผมเลื่อนมาคลอเคลียอยู่ข้างแก้ม ผมเริ่มหลับตาพริ้มเพราะเคลิ้มกับสัมผัสที่แสนจะนุ่มนวลที่เขามอบให้ เขาค่อยๆล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อผม อย่ามากไปกว่านี้เลยน่ะ แบคฮยอนคนนี้ระทวยไปหมดแล้ว
พลัก!!
“บ้าเอ้ย”เขาพลักผมพร้อมดีดตัวออกอย่างแรง
“อะ เอ่อ คือ”
“นายไปนอนบนเตียง ฉันจะนอนโซฟาแล้ว”เขาพูดเสียงเนือยๆพร้อมทิ้งตัวนอนบนโซฟา
“อื้ม”ผมพยักหน้ารับงักๆ
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเผลอไปกับเขาได้ยังไง เป็นอะไรไปห๊ะแบคฮยอน ไอ้หัวใจบ้าบอทรยศเต้นโครมครามๆอย่างกับจะทะลุออกมานอกอก ห้ามเลยน่ะแบคฮยอน ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด
ผมถูกปลุกให้ตื่นโดยนาฬิกาปลุกที่แสนจะคาวาอิ๊ คาวาอิ ของผม (นาฬิกาปลุกลิขสิทธิ์ของแท้จากญี่ปุ่น ลายโนบิตะกำลังเล่นว่าว ป๊าป!!) ผมค่อยๆปรือตามองนาฬิกา นี่มันเพิ่งจะ 6 โมงเช้า รีบตื่นมาทำห่าอะไร << ถามตัวเองเบาๆในใจ
เมื่อคืนก็หลับๆตื่นๆ มัวแต่ชะโงกคอดูชานยอลทั้งคืน ไม่ได้พิศวาสอะไรหรอกนะ ก็คนมันรู้สึกผิดอ่ะ ผมเหลือบไปมองร่างสูงที่ขดตัวนอนอยู่บนโซฟา เห็นแล้วสมเพชจริงๆ ตัวยาวอย่างกับเสาไฟฟ้าแต่สะเออะอยากไปนอนโซฟาอันเท่าจิ๋มมด โอ๊ยย ทนดูไม่ได้เวทนาสุดๆ
“นี่ ชานยอล” ผมสะกิดเรียกเบาๆ
“อื้อ”เสียงขานตอบอย่างงัวเงีย
“ไปนอนบนเตียงไป”
“อะไรอีกว่ะ เรื่องมากชิบ” พอลืมตาขึ้นมา ก็จัดการสาดอาก้าใส่ซะงั้น สวดแต่เช้าเลยพ่อคู๊ณ
“นายไปนอนบนเตียงเหอะ ฉันตื่นแล้วเนี่ยจะกลัวอะไร”
“ไม่ได้กลัว รังเกียจ!!”ใครก็ได้ตามหมอให้ที ‘ ซัมวันคอลเดอะด๊อกเตอร์ ’ เหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดหน้าไม่มีผิด
“เออๆ ตามใจแล้วกัน อยากจะนอนขดให้หรรมหดอยู่บนโซฟาจิ๋มมดนี่ก็เชิญ”
“บ่นเหี้ยอะไรเจ๊? เมนส์ไม่มาหรอ?”เขาทำหน้ากวนทีนใส่ผมพร้อมยันตัวขึ้น เดินดุ่มๆไปนอนแผ่หรรมตากแอร์อยู่บนเตียงหน้าตาเฉย
ผมหล่ะงงกับเขาจริงๆ ตะกี้ยังด่าผมอยู่ฉอดฉอดว่ารังก่งรังเกียจ แล้วนี่อะไร?กวนทีนใส่ผมเฉย นายนี่มันคน 8 แปดมิติ เดาอารมณ์ไม่ถูกเลยจริงๆ
“อาบน้ำน่ะ”ผมตะโกนจากห้องน้ำร้องบอกคนที่นอนอยู่บนเตียง
“ก็อาบไปดิว่ะ จะบอกทำไม”เสียงหงุดหงิดโต้งกลับมา
เออว่ะ !! เราอาบน้ำแล้วจะไปบอกเขาทำไม.. สงสัยจะเพี้ยนใหญ่แล้วเรา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นรัวๆ
“ชานยอล ไปเปิดประตูหน่อย”ผมตะโกนร้องบอกเขาจากในห้องน้ำ
“….” เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ
“ชานยอลๆๆๆ ไปเปิดประตูหน่อยยยย” คราวนี้ผมตะโกนเสียงดังกว่าเดิม
“…..”เงียบ เลขหมายปลายทางที่ท่านเรียก อาจจะตายห่าไปแล้ว กรุณาติดต่อกลับมาใหม่ในภายภาคหน้าค่ะ
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ครับๆ ไปแล้วครับ”ผมรีบพันผ้าเช็ดตัวรอบเอว แล้วคว้าผ้าอีกผืนมาคลุมบ่าเพื่อปิดบังร่างกายท่อนบนเอาไว้
แอด!! ผมกระชากประตูเปิดออก ใครกันสะเออะมาเคาะเรียกแต่เช้าเลย
“น้องแบคของฉัน น่ารักจังเลย” โอเซฮุนนี่เอง ราวี่ไม่เลิก
“ทำไมแต่เช้าเนี่ย”
“ก็คิดถึงไง เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลยน่ะ คิดถึงแต่หน้านายอ่ะ”
“ แหวะ!! เสี่ยวสุดติ่งขออ้วกใส่หน้าทีเหอะ” แหนะ คนเขาด่ายังมีหน้ามายิ้มอีก
“ยิ้มอะไร?”ผมถามสียงห้วนๆ
“ขาว” ชัดเลย ตาเขาไม่ได้มองหน้าผมสักนิด บัดนี้ตาเขากำลังจับจ้องอยู่ที่นมรสสตอเบอรี่กล่องน้อยของผมเต็มๆ
“ไอ้ฮุน!! มึงมาทำอะไรแต่เช้าว่ะ” ไม่ใช่เสียงผม ไม่ใช่เสียงเซฮุน ก็คงต้องเป็นชานยอลแล้วสิน่ะ
“อ่าววว ไอ้ยอลล ผีเข้ารึไง.. ตื่นเช้าจัง”
“ถ้ากูไม่รีบตื่น จะได้เห็นคนกำลังจะซั่มกันหน้าห้องหรอว่ะ สงสัยยคงอยากน่าดู ถอดเสื้อรอแล้วหนิ”
“ซั่มบ้าซั่มบออะไรของนายห๊ะ ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างมาพูดดีกว่า”
“ไอ้ยอล กูว่ามึงเข้าใจผิดแล้วน่ะเว้ย คือว่า” --- โอ โอ โอ โอ โอ นานึลอีเจยาอารา โอ โอ โอ โอ โอ อีเจยานอนึลอารา thunder thunder thunder --- เสียงโทรศัพท์ของเซฮุนดังขึ้น
“ไอ้ลู่โทรมาหน่ะ”เซฮุนแห้งๆก่อนจะกดรับสาย
“เออ ว่าไง”
“ไปไหน”
“ไหนบอกจะไปกับกูไง”
“ไม่ให้ไป” เขากรอกเสียงเรียบผ่านโทรศัพท์
“ก็กูบอกว่าไม่ให้ไปไง”เริ่มตะโกนใส่คนปลายสาย
“มึงอยู่ไหนเนี่ย อยู่ห้องใช่มั๊ย”
“แค่นี้แหละเดี๋ยวกูไปหา”
จากที่ผมสังเกตุการณ์ ก็พอจะสรุปได้ว่า 2 คนนั้นต้องทะเลาะกันแน่ๆ เซฮุนตอนโมโหนี่นายกลัวชะมัด
“อะไรว่ะไอ้ฮุน มึงไปตะคอกใส่ไอ้ลู่มันทำไม”
“กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับมันนิดหน่อย กูไปหล่ะ”พูดจบเซฮุนก็เดินจ้ำอ้าวๆ จนหายลับไป
คราวนี้หล่ะ โลกนี้มีเพียงเราสอง
“มานี่เลย”เขากระชากแขนผมลากเข้าไปในห้อง
“ปล่อย !! ฉันเจ็บน่ะ”เอาอีกแล้วเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกหล่ะ ผีตนไหนประทับร่างอีกแล้วก็ไม่รู้
“เจ็บสิดี จะได้จำ ว่าอย่างมายุ่งกับฉันแล้วก็เพื่อนของฉันอีก”
“หึ เพื่อนของนายต่างหากหล่ะที่มายุ่งกับฉัน ไม่เชื่อก็ลองไปถามเขาดูสิ”
“โอ๊ย!!” เขาเอื้อมมือขึ้นมาบีบคางผมแน่น
“แล้วนายไปทำอีท่าไหนหล่ะ ไอ้ฮุนมาถึงหลงนายหัวปักหัวปำขนาดนั้น” ผมสะบัดหน้าออกจากการเงื้อมมือเขา
“อย่ามาพูดจาต่ำๆกับฉันน่ะ”
“เหอะ สำหรับนายแค่นี้ยังน้อยไป”เขายกมือขึ้นมาบีบปลายคางผมอีกครั้ง “นายมันก็ไม่ต่างอะไรจากกระหรี่หรอก ร่านไม่เลือกที่”
เปรี๊ยะ !!
ผมง้างตบเขาเต็มแรง
“เลิกพูดจาดูถูกฉันได้แล้วน่ะ นายเป็นใครมาจากไหนถึงได้ทำมาเป็นรู้จักฉันดะ อื้อออ”
เขากระชากเอวดึงร่างบางของผมเข้าไปประกบปาก ริมฝีปากหนารัวลิ้นร้อนเข้ามาในโพรกปากผม รสสัมผัสครั้งนี้ไม่ได้มีความอ่อนหวานแต่อย่างใด ในทางกลับกันผมสัมผัสได้ถึงความเกลียดชัง เขาผละริมฝีปากออกจากโพรงปากผม ก้มหน้าลงมาซุกเม้มดูดที่ซอกคอขาวอย่างแรง
ผมทนไม่ไหวแล้วจริง ทนไม่ไหวกับกระทำที่ต่ำช้าอย่างนี้แล้ว เพียงเพราะเขาเข้าใจผิดเขาเลยทำอย่างนี้เหรอ ชานยอลคนโง่ไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรบ้างเลย
ชานยอลผละออกจากต้นคอขาวเนียน นิ้วยาวค่อยๆเกี่ยวชายเสื้อผมขึ้นแล้วล้วงมือหนาลูบไล้ไล่จากหน้าท้องขึ้นไปเรื่อยๆ
“ชานยอล ฉันขอร้องหล่ะ อย่าทำมันเพียงเพราะว่านายโกรธ”ผมร้องห้ามเขาพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก น้ำตาของผมพรูออกมาเป็นสาย
ชานยอลไม่สนใจคำพูดของผมเลยแม้แต่นิด เขายังคงขบเม้มต้นคอขาวของผมอย่างสนุกปาก ชานยอล!! นายมันใจร้ายจริงๆ
“โธ่!! เว้ย” เขาสบถขึ้นเสียงดังพร้อมกับพลักผมจนไปชนกำแพง
จากนั้นเขาก็เดินกระทืบเท้าอย่างไม่สบอารณ์ออกนอกห้องไป ทิ้งไว้แต่เพียงความเจ็บปวดที่เขาได้ทำเอาไว้กับผม
ผมไม่เข้าใจเลยทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับผมด้วย เพราะเขาโกรธแล้วอารมณ์พาไปงั้นเหรอ.. แล้วทำไมเขาจะต้องโกรธผมขนาดนั้นด้วย ผมไม่เข้า ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
พูดคุยกันมันส์ดี : มาอัพครบ 100% แล้วน่ะค่ะ
อ่านแล้วอยากจะติชมอะไร เชิญที่ช่องคอมเม้นเลยค่ะ
แอบสปอย :
“หยุดเดี๋ยวนี้น่ะไอ่ลู่ มึงจะไปไหน”
“ปล่อยกูน่ะเว้ย”
พูคคุยกับไรท์ : @mingkchk
ความคิดเห็น