One Shot fic [snsd][sj] sooyoung x siwon บทสรุปของความรัก - One Shot fic [snsd][sj] sooyoung x siwon บทสรุปของความรัก นิยาย One Shot fic [snsd][sj] sooyoung x siwon บทสรุปของความรัก : Dek-D.com - Writer

    One Shot fic [snsd][sj] sooyoung x siwon บทสรุปของความรัก

    โดย MingNarak

    fic ของซูยองกับซีวอนอีกเรื่องค่ะ ไม่มีคำอธิบาย แหะๆ จบแล้วค่ะ ตอนพิเศษ อยู่ในเรื่อง [sooyoung][sj][tvxq] รวมเรื่องสั้นนะคะ http://writer.dek-d.com/mingmingnakub/writer/view.php?id=826336#ixzz23SGNff7g

    ผู้เข้าชมรวม

    3,213

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    3.21K

    ความคิดเห็น


    22

    คนติดตาม


    23
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ส.ค. 55 / 02:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    จบแล้วค่ะ ^^

    ยังไงก็ฝากเรื่องต่อๆ ไปด้วยนะคะ ไรเตอร์อาจมาแต่งให้ช้าหน่อย ก็ขอโทษด้วยนะคะ

    ส่วนเรื่องต่อไป (ได้ข่าวว่าเรื่องเก่ายังไม่จบ -.-") น่าจะเป็น One Shot อีก แค่ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าซีวอนเลี้ยงต้อย เด็กแสบ/เด็กอ่อนต่อโลก(ยังเลือกไม่ถูกว่าเอาเด็กไหนดี แต่ใจเอนเอียงไปทางเด็กแสบแล้ว) อย่างซูยองจะเป็นยังไง 555+


    เออ... ไรเตอร์หาปุ่มจบเรื่องไม่เจอค่ะ ถ้าใครทราบช่วยบอกด้วยนะคะ -.-"
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

                      "ก็... ตามที่เคยได้แจ้งไปแล้วค่ะ ว่าตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยที่อเมริกาตอบรับกลับมาแล้ว เพราะฉะนั้นชั้นจึงขอลาออกจากวงการเพลงชั่วคราวค่ะ"

                      "ไม่ค่ะ พวกเราทั้ง 9 คนยังรักกันดีอยู่ และชั้นเชื่อว่าถึงไม่มีชั้น วงก็ไม่มีทางยุบค่ะ เพราะเพื่อนๆ ทุกคนมีความสามารถ มีศักยภาพของตนเองอยู่แล้ว"

                      "จริงค่ะ ก็ไปรักษาตัวด้วย เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทำให้ชั้นเต้นไม่ได้เหมือนแต่ก่อน เพราะรู้สึกจ็บที่หัวเข่าค่ะ แต่พึ่งเจ็บได้ไม่กี่ปี ก็เลยตัดสินใจที่จะลองสอบเพื่อเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกาดู เพราะไหนๆ ก็ต้องไปรักษาตัวอยู่แล้วเลยไปเรียนด้วยดีกว่า แล้วก่อนเดบิวส์ก็เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน ว่าถ้าเดบิวส์ไม่ผ่าน ก็จะไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะ"

                      "ยังไงก็ขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้นะคะ แล้วขอบคุณทุกคนมากค่ะ ที่สนับสนุนชั้นมาโดยตลอด ถ้าไม่ได้โซวอน ไม่ได้พี่ๆ นักข่าว เพื่อนร่วมงานที่น่ารักทุกคน ชั้น...ซูยอง คงไม่ได้มีวันนี้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ"

       

       

                      "แล้วในนี้มีใครที่มีแฟนแล้วบ้างคะ ซีวอน... คุณมีแฟนหรือยังคะ" เสียงพิธีกรประจำรายการถามซีวอนเป็นคนแรก เนื่องจากตั้งแต่สัมภาษณ์มา ซีวอนดูจะพูดน้อยสุด

                      "มีแล้วครับ" ซีวอนยอมรับกับพิธีกรว่าตัวเขาเองมีแฟนแล้ว ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้น และเสียงแซวของเพื่อนๆ ในกลุ่ม Super Junior

                      "ว้าว.... นี่เป็นรายการแรกเลยนะคะเนี่ย ที่ซีวอนออกมายอมรับว่ามีแฟนแล้ว แล้วเป็นคนในวงการบันเทิงหรือป่าวคะ" หลักจากที่พิธีกรตกใจในคำตอบของซีวอน จึงซักไซ้สอบถามซีวอนต่อ

                      "อืม... ไม่น่าจะนะครับ น่าจะเป็นคนนอกวงการ" ซีวอนคิดซักแป๊บหนึ่ง แล้วจึงตอบพิธีกรกลับไป เพราะเค้าไม่แน่ใจว่าซูยองยังถือว่าเป็นคนในวงการบันเทิงหรือไม่ แต่แน่นอนละ...ตอนนี้ซูยองเป็นคนในวงการนางแบบของอเมริกาแน่ๆ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เค้าหงุดหงิดอยู่ตอนนี้ ทำไมจะไม่รู้ว่าซูยองคือสเป็กฝรั่ง แต่พอรู้ว่าซูยองอยู่ที่โน่นแล้วรับงานเป็นนางแบบ ซึ่งตอนนี้ดังมากในฝั่งอเมริกา มีฝรั่งเข้ามาจีบมากมายขนาดนี้ก็อดที่จะหึงหวงไม่ได้ แล้วไอ้พวกเจ้าเพื่อนตัวดีที่รวมหัวกันกับสเตลล่าแกล้งเค้าอีก ชอบโทรมาแกล้งทุกวันเหมือนกับหวังดีแต่ประสงค์ร้าย บอกว่ามีคนโน้นคนนี้มาจีบซูยอง คิดแล้วก็อยากประกาศให้รู้แล้วรู้รอดว่าซูยองนะมีแฟนแล้ว คือเค้าเอง แต่ถ้าประกาศที่นี่จะมีความหมายยังไง สู้ไปประกาศที่นิวยอร์กไม่ดีกว่าหรอ

                      "โอ้... มีโลเลด้วย แบบนี้แสดงว่าเป็นคนนอกวงการบันเทิงแต่พวกเรารู้จักใช่หรือป่าวคะ" ซีวอนได้แต่ยิ้มกับคำถามของพิธีกร ทำให้พิธีกรต้องเปลี่ยนคำถามไปที่คนอื่นๆ เพราะรู้ว่าซีวอนคงไม่ตอบคำถามไปมากกว่านี้แล้ว

       

       

      "ชเว ซีวอน เดินทางไปนิวยอร์กบ่อยกว่าที่ควรจะเป็นนะคะเนี่ย ไม่รู้ว่าไปหาแฟนสาวนอกวงการที่เคยประกาศไว้หรือป่าว" พิธีกรสาวคนที่หนึ่งรายงานเนื้อข่าว พร้อมรูปซีวอนในสนามบินนิวยอร์ก

      "ขอยอมรับนะคะ ว่าดิชั้นเป็น 1 ในแฟนคลับของซีวอน เลยแอบอ่านบทวิเคราะห์ของแฟนคลับคนอื่นๆ กัน" พิธีกรสาวคนที่สองพูดขึ้นมาต่อ

      "โอ้... แฟนคลับคิดว่ายังไงบ้างกันคะเนี่ย"

                      "ตอนนี้คนที่อยู่ในนิวยอร์กมี 2 คนคะ คือสเตลล่ากับซูยอง ซึ่งสเตลล่าเคยมีข่าวลือรักๆ เลิกๆ กับซีวอนมานานแล้ว และไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแต่พวกเราทุกคนรู้จัก จึงทำให้ทุกคนคิดว่าเป็นสเตลล่าค่ะ แต่ในเซ้นต์ส่วนตัวของดิชั้นเองนะคะ คิดว่าเป็นชเว ซูยอง เพราะเนื่องจากตอนซีวอนให้สัมภาษณ์ ซีวอนบอกว่าไม่น่าจะเป็นคนในวงการบันเทิง เพราะซูยองประกาศขอลาออกจากวงการบันเทิงชั่วคราว แต่ใครจะรู้ละคะ ว่าซูยองไปอยู่ที่โน่นแล้วจะได้ดิบได้ดีกับอาชีพนางแบบขนาดนี้ และถือว่าเป็นคนเอเชียคนแรกเลยนะคะ ที่ได้ถูกทาบทามให้เล่นเป็นนางเอกของหนัง Hollywood ซึ่งระหว่างที่มีข่าวออกมานั้น ซีวอนได้เดินทางไปนิวยอร์กบ่อยกว่าปกติมากค่ะ ดิชั้นเลยคิดว่าน่าจะเป็นซูยอง"

                      "พอฟังบทวิเคราะห์ของแฟนคลับแบบนี้แล้ว เราต้องมาลุ้นดูกันต่อไปนะคะ ว่าใครกันแน่ที่เป็นแฟนตัวจริงของชเว ซีวอน งั้นเรามาดูข่าวต่อไปกันดีกว่าค่ะ..."

       

       

                      คอนเสิร์ต SM Town In New York 2015 กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้ศิลปินทุกคนได้เดินทางขึ้นเครื่องบินพร้อมๆ กัน เนื่องจากมีการถ่ายทำในเชิงสารคดีเบื้องหลังจนถึงคอนเสิร์ต ทำให้เครื่องบินเหมาลำของ SM Town ล้วนแต่มีศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งได้ดำเนินสลับสับเปลี่ยนเป็นพิธีกรกันเอง

                      "คยูฮยอน พี่ซีวอนเป็นอะไรอ่ะ ทำไมนั่งหน้าเครียดอยู่อย่างนั้น" ซันนี่ถามคยูฮยอนซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดถ้าไม่นับซองมิน

                      "พวกคนมีปมด้อยโดนแฟนทิ้งไปเรียนต่อที่นิวยอร์กก็อย่างนี้แหละ ประมาณว่าแฟนติดเรียนเลยมารับไม่ได้ ก็เลยพลานอารมณ์เสีย" คยูฮยอนแกล้งพูดเสียงดัง ทำให้ซีวอนซึ่งนั่งมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง หันกลับมามอง

                      "อ๋อ อย่างนี้นี่เอง นึกว่าทะเลาะกับซูยองซะอีก เลยทำให้ซูยองไม่ยอมมาหาพวกเรา" ซันนี่พูดพร้อมกับหัวเรากิ๊กกั๊กออกไป

                      "ก็เกือบทะเลาะนะ เพราะพวกคนมีปมด้อยจะขี้หึง ขี้ห่วงเป็นพิเศษ ก็อย่างว่าแหละ ซูยองออกจะสวย เซ็กซี่ ตรงสเป็กฝรั่งออกขนาดนั้น มาเรียน มารักษาตัวเฉยๆ อยู่ๆ ก็โดนเรียกตัวไปเป็นนางแบบ แถมฮ็อตถึงขนาดจะให้เป็นนางเอกหนังอีก โอ๊ย... พี่ ขว้างหนังสือมาทำไม เจ็บนะ" คยูฮยอนโวยวายกลับไป เนื่องจากซีวอนขว้างหนังสือใส่หัวคยูฮยอนด้วยความหมั่นไส่

                      "เล่มแค่นั้นจะเจ็บอะไร ถ้าไม่อยากโดนเล่มใหญ่กว่านี้ก็เงียบซะ" ซีวอนพูดด้วยความหงุดหงิด

                      "เอาละ ทุกๆ คน เงียบๆ กันหน่อย เราคงไปถึงนิวยอร์กประมาณ 9 โมงเช้าของที่นั่น เก็บของในโรงแรมก่อน ส่วนใครอยากทำอะไรก็ทำ อยากนอนก็นอน อยากไปเที่ยวก็ไป แต่ต้องกลับมาก่อนบ่ายโมงตรง เพื่อซ้อมใหญ่เข้าใจกันใช่ไหม"

                      "รับทราบค่ะ/ครับ"

       

      สเตเดียม สำหรักการซ้อมใหญ่

                      "จ๊ะเอ๋...." ซูยองกระโดดตรงหน้าของยูริและซันนี่เมื่อนเห็นทั้งคู่เดินมาแต่ไกล โดยทั้งคู่เอาแต่คุยกันอย่างสนุกสนานไม่สนใจคนสิ่งรอบข้าง จึงทำให้ทั้งคู่ตกใจมาก เนื่องจากซูยองบอกว่าไม่สามารถมาวันซ้อมได้เพราะติดเรียน

                      "ซูยอง!!! คิดถึงจังเลย มาได้ไง" ซันนี่พอตั้งสติได้จากการทักทายของซูยอง จึงกระโดดกอดซูยองทันที

                      "โอ๊ย... เบาๆ หน่อยซันนี่ หายใจไม่ออก" ซูยองกอดซันนี่กลับ แต่ก็เริ่มโวยวายเมื่อรู้สึกว่าซันนี่กอดเธอแน่ไปแล้ว

                      "ก็คนมันคิดถึงนิ" ซันนี่แย้งกลับไป

                      "สบายดีไหม อยู่ที่นี่ทำไมไม่เห็นอ้วนขึ้นเลย" ยูริกอดซูยองต่อแม่เห็นซันนี่เริ่มคลายกอดแล้ว และไถ่สารทุกข์สุกดิบ เนื่องจากอาหารการกินของที่อเมริกาทำให้อ้วนง่ายมาก แต่ทำไมซูยองไม่เห็นอ้วนขึ้นเลย

                      "ไม่ถูกปากอ่ะ กินมากๆ แล้วเลี่ยน คิดถึงกิมจิบ้านเรามากกว่า" ซูยองกอดยูริและถามหาเพื่อนๆ สมาชิกวง snsd คนอื่นๆ "แล้วคนอื่นๆ ละ หายไปไหนหมด ทำไมเหลือแค่ 2 คน"

                      "ไปเดินเที่ยวกับอยู่ในห้องพักรวมกันนะ แล้วนี่ไหนว่าวันนี้จะไม่มาไง แล้วทำไมถึงมาได้ละ" ยูริถามซูยองกลับเมื่อเห็นว่าซูยองมาหาพวกเธอที่สเตเดียม ทั้งๆ ที่ตอนแรกบอกว่ามาไม่ได้เนื่องจากติดเรียน

                      "อืม จริงๆ แล้วกลัวมาไม่ทันนะ ก็เลยบอกว่ามาไม่ได้ไว้ก่อนดีกว่า ถ้าบอกว่ามาได้ แล้วเกิดติดโน่นติดนี่จะทะเลาะกันป่าวๆ" ซูยองยิ้มเมื่อคิดถึงตอนที่เธอบอกซีวอนว่าไปรับที่สนามบินไม่ได้ ทำให้ซีวอนหงุดหงิดงอนเธอซะยกใหญ่ เลยบอกไปก่อนดีกว่า ว่าอาจไปดูซ้อมใหญ่ไม่ได้ด้วย แต่วันจริงจะไปแน่ๆ

                      "แหม... ทะเลาะกันนี่หมายถึงใครกันจ๊ะ" ซันนี่เอ๋ยแซวซูยอง เมื่อเห็นซูยองอมยิ้มและหน้าแดงๆ ซูยองเลือกที่จะไม่ตอบแล้วเดินจูงมือยูริและซันนี่เข้าไปข้างในห้องพักรวมเพื่อทักทายเพื่อนร่วมค่ายที่มานิวยอร์กทุกคน และเมื่อเดินเข้าไปถึงสิ่งแรกที่ซูยองทำคือเดินเข้าไปหากล้องวีดีโอที่ลีทึกกำลังถ่ายเล่นกับแทยอนอยู่

                      "อันนยองฮาเซโย ชั้น ชเว ซูยองค่ะ ยังจำกันได้อยู่ไหมคะ" ซูยองโบกไม้โบกมือให้กับกล้องที่ลีทึกกำลังถ่ายวีดีโอเบื้องหลังงานคอนเสิร์ต SM Town In New York 2015 อยู่ และหันไปมองหน้าแทยอนที่ตอนนี้อ้าปากค้างไปแล้ว ซูยองจึงหันมาแซวแทยอนที่มองหน้าเธออย่างตกใจ และไม่ยอมทักทายกันเลย "ยัยเตี้ย หุบปากได้แล้ว อ้าปากค้างอยู่ได้ อย่าทำหน้าเหมือนเห็นผีอย่างนั้นสิ"

                      "ซูยองคิดถึงจังเลย ไหนว่ามาวันซ้อมไม่ได้ไง แล้วนี่ทำไมมาได้" แทยอนกอดซูยอง พร้อมกับลืมตัวว่าตัวเองกำลังเป็น MC ถ่ายทำเบื้องหลังคอนเสิร์ตอยู่ "แต่ชั้นไม่ให้อภัยหรอกนะยะ ที่มาเรียกมชั้นว่า ยัยเตี้ย เนี่ย" แทยอนจึงพยายามกดหัวซูยองลง หวังว่าซูยองจะเตี้ยลงบ้างอย่าที่เคยเล่นกันตอนสมัยเด็กๆ

                      "โอ๊ย แทยอน หัวชั้นยุ่งหมดแล้ว พี่ลีทึกคะ เป็นไงบ้างคะ สบายดีไหม นี่ super junior มากันหมดเลยนิ ไม่ได้เห็นตอนครบแกงค์อย่างนี้มานานแล้ว" ซูยองว่าแทยอนที่ทำหัวเธอยุ่ง และหันไปคุยกับลีทึกเมื่อเห็นลีทึกยกกล้องลงแล้ว

                      "อืม สบายดี แล้วเราละ มาได้ยังไง" ลีทึกถามกลับ เพราะทุกคนในที่นี้รู้กันหมดว่าซูยองจะมาดูคอนเสิร์ตในวันจริง ส่วนวันซ้อมซูยองติดเรียน

                      "ก็คิดถึงทุกคนไงคะ เลยมา" ซูยองเอ๋ยกับลีทึกอย่างอ้อนๆ

                      "นั่นพี่ลีทึกนะคะ พี่ซูยอง ไม่ใช่พี่ซีวอนจะมาอ้อนว่าคิดถึงอ่ะ" แอมเบอร์กอดคอซูยองจากด้านหลัง พร้อมกับแซวซูยองเมื่อเห็นซูยองกำลังอ้อนรุ่นพี่ในค่ายอย่างที่เคยทำอยู่ประจำ

                      "แอมเบอร์ คิดถึงจังเลย เป็นไงบ้างนะเรานะ หล่อขึ้นนะเนี่ย" ซูยองหันกลับไปกอดแอมเบอร์ รุ่นน้องในค่ายที่ถึงแม้จะอยู่คนละวงกัน แต่ก็ถือว่าสนิดกันที่สุดเลยก็ได้

                      "แน่นอน คนมันหล่อตั้งนานแล้ว แต่ละหล่อสู้พี่ซีวอนได้" แอมเบอร์ตอบรับซูยองและแซวซูยองกลับ

                      "แล้วพี่ซีวอนอยู่ไหนคะเนี่ย ไม่ได้อยู่ในนี้หรอ" ซูยองมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นซีวอนเลยถามหาซีวอนกับลีทึก

                      "แหม... คนไม่อยู่เยอะแยะแต่ถามหาพี่ซีวอนคนเดียวเลยนะ" คยูฮยอนที่มาพร้อมแกงค์คยูไลน์ คือชางมิน และมินโฮ รีบเดินเข้ามาแซวซูยองทันทีหลังจากที่เห็นซูยองถามหาซีวอนกับลีทึก

                      "อะไร ก็คนอื่นๆ อยู่ที่นี่ ก็เห็นหมดแล้วนิ ใช่ไหมคะ พี่ลีทึก" ซูยองรีบหาพักพวกเมื่อเห็นคยูฮยอนเดินเข้ามาแซว

                      "ไม่นะ ชินดงก็ไม่อยู่นิ" ลีทึกสนับสนุนคำตอบของคยูฮยอนแทน

                      "พี่อ่ะ ถือว่าอยู่วงเดียวกันใช่ไหม เลยเข้าข้างกัน"

                      "ไม่ได้เข้าข้าง ก็พูดจริง" คำตอบของลีทึกทำให้ทุกคนที่ฟังอยู่หัวเราะขึ้น แต่ทำให้ซูยองหน้าแดงแทน

                      "ไปหาพี่ซีวอนไหมละ เดี๋ยวพาไปหา" ชางมินถามซูยอง เมื่อเห็นซูยองเริ่มค้อนตาขวางๆ ใส่พวกเขาแล้ว

                      "พี่ชางมินบอกมาดีกว่าว่าพี่ซีวอนอยู่ไหน เพราะเวลาที่พี่ชางมินอยู่กับพี่คยูฮยอนนะ ความน่าเชื่อถือลดลงมา 90% เลย" ซูยองรีบส่ายหัว เนื่องจากก่อนที่จะออกจากวงการ เธอกับซีวอนโดนพวกแกงค์คยูไลน์ปั่นหัวบ่อยมาก ทั้งแกล้งบ้างละ แซวบ้างละ จนเธอกับซีวอนวางแผนกันว่าแกล้งทำเป็นเลิกกัน เพราะพวกนี้แกล้งยุว่าซีวอนมีผู้หญิงคนอื่น แล้วช่วงนั้นซีวอนมีข่าวกับนักแสดงสาวที่ร่วมงานด้วยกันอยู่พอดี ทั้งคู่จริงทะเลาะกันจริง แต่ก็เคียร์กันแล้ว เลยว่าแผนกว่าจะเอาคืนแกงค์คยูไลน์ จึงทำให้ทั้ง 3 คนนี้รู้สึกผิดไปนานเหมือนกัน และพยายามเป็นแม่สื่อให้กลับมาคบกันเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ยังคิดอยู่ว่าช่วงที่ซีวอนกับซูยองเลิกกันเป็นเพราะแกงค์คยูไลน์ ยังไม่มีใครรู้ความจริงว่าเป็นแค่แผนเอาคืนเท่านั้น

                      "อะไรเนี่ย ทำไมอยู่กับพี่แล้วความน่าเชื่อถือชางมินลดลงละ" คยูฮยอนเริ่มโวยวาย

                      "เดี๋ยวผมพาไปครับพี่ รับรองไม่แกล้งหรอก แค่ครั้งนั้นก็เข็ดแล้ว" มินโฮนึกถึงตอนที่แกล้งซูยองกับซีวอนมากไหน่อย จนทำให้ทั้งคู่เลิกกัน

                      "งั้นไปก็ได้ พาไปสิ พี่ซีวอนอยู่ไหน" ซูยองยอมที่จะเชื่อมินโฮมากกว่าทั้งสองคนที่เหลือ เนื่องจากมินโฮแล้วเธอน้อยสุดแล้ว

                      "อะไรเนี่ย พอมินโฮพูดปุ๊บเธอยอมเชื่อ แต่พวกเรา 2 คนกลับไม่เชื่อ" คยูฮยอนกับชางมินเริ่มเดินตามซูยองกับมินโฮที่เดินออกไปจากห้องพักเพื่อหาซีวอน พร้อมโวยวายต่อ

                      "ก็พี่ไม่น่าเชื่อถือจริงๆ นิคะ" ซูยองยังยืนยันกับคยูฮยอน ว่าตัวเค้าไม่น่าเชื่อถือจริงๆ "แถมยังทำพี่ชางมินไม่น่าเชื่อถือไปด้วยอีก"

                      "แล้วมินโฮละ ทำไมถึงน่าเชื่อถือกว่า" ชางมินอดไม่ได้ที่จะถามกลับ พร้อมกับคิดว่าตัวเค้าไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรอ

                      "ก็มินโฮเป็นน้องนิ ส่วนมากก็ทำตามพี่ๆ อยู่แล้ว แต่พี่ๆ สองคนชอบวางแผนอะไรแปลกๆ ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ ก่อนที่ชั้นจะคบที่ซีวอนอีก"

                      "ได้ยินไหมคร๊าบ ผมเป็นน้องทำตามพี่ๆ พี่ๆ ก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องคนนี้หน่อยสิคร๊าบ" มินโฮได้ทีเลยว่าคยูฮยอนกับชางมินกลับไป จึงโดนทั้งสองคนผลักหัวด้วยความหมั่นไส้ และทั้งหมดก็เดินมาถึงหน้าห้องแต่งตัวของวง super junior ที่มีซีวอนอยู่ในนั้นคนเดียว แต่ซูยองกลับไม่กล้าเดินเข้าไป ตัวแข็งทื่ออยู่ข้างนอก

                      "อ้าว ถึงแล้ว ทำไมไม่เดินเข้าไปละ" คยูฮยอนถามซูยอง เมื่อเห็นซูยองไม่ยอมเดินเข้าห้อง

                      "ตื่นเต้น ไม่ได้เจอพี่ซีวอนนานนะ" ซูยองตอบคยูฮยอนอย่างเขินๆ ทำให้ทั้ง 3 คนที่พามาได้แต่ยิ้ม และคยูฮยอนก็เคาะประตูห้องพักพร้อมพูดว่า "พี่ซีวอนเข้าไปได้ครับ พอดีผมเอาของมาส่ง"

                      "เข้ามาสิ ไม่ได้ล๊อก" ซีวอนตะโดนบอกจากข้างในห้องออกมา พร้อมกับสงสัยว่าทำไมคยูฮยอนมารยาทดีจัง ปกติก็เห็นเข้ามาเลย ถ้าประตูล๊อกก็เคาะประตูโวยวาย ไม่มีมารยาทแบบนี้หรอก

      "แต่เอาอะไรมาส่ง ไม่ได้สั่งอะไรไว้นิ"

                      "ผมเอาของมาส่งครับ....พี่ อะไรพี่อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ" คยูฮยอนบอกกับซีวอนที่นั่งเปิดหนังสืออ่านอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ โดยเมื่อคยูฮยอนเปิดประตูเข้ามา ซีวอนก็มองหน้าคยูฮยอนแบบแปลก พร้อมกับทำคิ้วขมวดและคิดว่าคยูฮยอนจะมาไม้ไหนกันแน่

                      "ไหนละของ" ซีวอนยักไหลแล้วลุกขึ้นมามองหาของที่คยูฮยอนเอามาส่ง

                      "เข้าไปสิ" "จะมาตัวแข็งอะไรตอนนี้" ทั้งชางมินและมินโฮทั้งดึง ทั้งลาก ทั้งดันซูยองเข้าไปในห้องแต่งตัว จนท้ายที่สุดซูยองโดยคยูฮยอนผลักจนหน้าเกือบทิ้มพื้น ดีที่ซีวอนจับไว้ทัน พร้อมกับเรียกชื่อซูยองเบาๆ และกอดซูยองไว้แน่นคล้ายกับกลัวใครจะมาเอาไป

                      "อย่าพึ่งหวานกันตอนนี้ครับพี่ ขอพวกผมออกไปก่อน อ๋อ... เดี๋ยวผมล็อกประตูให้นะครับ" คยูฮยอนไม่วายที่จะแซวซีวอนก่อนออกจากห้อง โดยที่ซีวอนยกนิ้วโป้งซึ่งหมายความว่ายอดเยี่ยม ทำให้พวกแกงค์คยูไลน์ทั้งหลายอดที่จะอมยิ้มกับภาพที่เห็นไม่ได้

                      เมื่อทุกคนออกไปในห้องจึงเหลือแค่ซูยองกับซีวอน 2 คน โดยทั้งคู่ยืนกอดกันไม่รู้นานเท่าไหร่ ซีวอนลูบหัวซูยอนพร้อมกับจูบที่ขมับและวางคางไว้บนหัวซูยอง "คิดถึงจังเลย แล้วทำไมตะกี้ไม่กล้าเข้ามาละ หือ"

       

      ไม่มีเสียงตอบรับจากคำถามของซีวอน มีเพียงแค่เสียงสะอื้นของซูยองเท่านั้น "ซูยองเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม" ซีวอนถามซูยองอย่างแผ่วเบาพร้อมกับลูบผมของเธอ คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้าของซูยองเพื่อบ่งบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร "ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไม"

      "คิดถึง" ซูยองพูดอู้อี้แนบกับหน้าอกซีวอนโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสอบตา แต่ซีวอนกลับได้ยินเสียงนั้นชัดเจน "พี่ซีวอนคิดถึงเค้าไหม" ซูยองอ้อนซีวอนต่อแต่ยังไม่ได้ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาซีวอนเหมือนเดิม ทำให้ซีวอนจับคางซูยองขึ้นมาแล้วพูดว่า "คิดถึงสิ คิดถึงมาก คิดถึงมากที่สุด" พร้อมกับบรรจงจูบปากซูยองอย่างแผ่วเบา

                      "คิดถึงอย่างเดียว แล้วไม่รักหรอ" ซูยองดันซีวอนออก แต่ไม่วายหาเรื่องซีวอนกลับ เนื่องจากตั้งแต่เจอกันเห็นพูดแต่คิดถึงอย่างเดียวไม่เห็นบอกรักเลย

                      "ไม่รักแล้วจะคิดถึง จะหวง จะห่วง อย่างนี้หรอแม่ตัวยุ่ง" ซีวอนบีบจมูกซูยองเบาๆอย่างหมั่นไส้

                      "โอ๊ย... เค้าเจ็บนะ" ซูยองโวยวายเกินจริงแล้วบอกซีวอนว่า "พี่ซีวอนไปหาเพื่อนๆ กันเถอะค่ะ เค้ายังเจอเพื่อนๆไม่ครบเลย" และพยายามลากซีวอนไปห้องพักรวมอีกครั้งเพื่อที่จะเจอเพื่อนๆ คนอื่นๆ เพราะนี่ก็ใกล้เวลารวมพลแล้ว คงทะยอยมากันเกือบครบแล้วมั้ง

                      "เดี๋ยวก็เจอเอง ไม่เห็นต้องรีบไปหาเลย" ซีวอนทำเสียงจิจ๊ะในลำคอแต่ก็เดินตามซูยองแต่โดยดี

                      "พี่ซีวอน แม่ฝากของมาไว้กับพี่หรือป่าวคะ" ซูยองถามซีวอนระหว่างเดินไปยังห้องพักรวม

                      "อืม ก็มีฝากของกินมานะ ทั้งแม่พี่ แม่เธอ เยอะจนต้องฝากของบางส่วนไว้กับกระเป๋าคยูฮยอน" ซีวอนพูดไปก็พลางนึกถึงของกินที่แม่เค้าเตรียมให้ซูยอง พอรู้ว่าจะตองไปแสดงคอนเสิร์ตที่ New York กินได้ทั้งปีเลยมั้ง แถวยังบ่นลูกตัวเองอีกว่าไม่หัดดูแลน้อง อยู่ห่างกันขนาดนี้จะให้ดูแลได้แค่ไหนเชียว เจ้าตัวยุ่งนี่ก็ซนเคยเชื่อฟังกันที่ไหน มีแต่เค้าตะหากที่เชื่อฟัง

                      "ดีนะเนี่ย ที่พี่ฝากของไว้กับพี่คยู ถ้าฝากไว้กับพี่ชางมิง มีหวังชั้นไม่ได้กินแน่เลย"

       

      วันต่อมา

                      บรรยากาศแบบนี้คิดถึงจังเลย ไม่ได้ดูคอนเสิร์ตนานเท่าไหร่แล้วน้า เห้อ... ทุกคนยุ่งกันหมด ต้องแต่งหน้าเตรียมตัวสำหรับการแสดง คงเหลือแต่เราเท่านั้นสินะที่ว่าง เลยไม่รู้จะทำอะไรเลย เราคงไม่ใช่คนนอกสำหรับทุกๆ คนใช่ไหม จะไปหาพี่ซีวอนก็คงแต่งตัวอยู่ เดี๋ยวจะแต่งตัวไม่สะดวกป่าวๆ T^T

                      "ซูยอง มาทำอะไรอยู่ตรงนี้" ยูริเดินเข้ามาหาซูยองหลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จ

                      "ก็แค่ออกมาดูบรรยากาศรอบๆ เฉยๆ"

                      "ซูยอง... แค่นั้นจริงๆ หรอ" ยูริไม่เชื่อในคำพูดซูยอง เพราะเนื่องจากตอนที่พวกเธอวุ่นวายเกี่ยวกับการแต่งตัวและคุยเรื่องการแสดงกันทำให้ลืมๆ ซูยองไปบ้าง พอรู้สึกตัวอีกที ซูยองก็หายออกจากห้องไปแล้ว ซูยองยิ่งเป็นคนอ่อนไหวง่ายอยู่ด้วย ต้องคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินแน่เลย แล้วมาเห็นอาการเหม่อๆ นั่งคนเดียวอย่างนี้ ข้อสันนิษฐานที่คิดไว้คงถูกแล้วละ

                      "ก็... ไม่มีอะไรมากหรอก แค่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง" ซูยองตอบแบบอ้ำๆ อึ้งๆ พร้อมคิดในใจว่าเคยมีอะไรที่ปิดยูริได้บ้างไหมเนี่ย รู้ใจรู้ดีไปซะทุกเรื่อง

                      "เรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่มายืนเหม่อคนเดียวนี่นะ ซูยอง... ไม่มีใครลืมเธอ ไม่มีใครคิดว่าเธอส่วนเกินหรอกนะ ถึงเราจะคุยกันเรื่องเพลงชุดใหม่ เรื่องคอนเสิร์ต แต่เราทุกคนก็คือโซยอชิแดนะ ถ้าไม่มีเธอก็ไม่ใช่โซยอชิแด"

      "ฮือ ยูริ ชั้นรักเธอจัง" ซูยองร้องไห้และกอดยูริแน่น เพราะเธอก็กลัวเพื่อนๆ จะลืมเธอเหมือนกัน "จะมีใครมารู้ใจชั้น เข้าใจชั้นได้เท่าเธอไหมเนี่ย ยูริเลิกกับมินโฮ มาเป็นแฟนกับชั้นเถอะ"

      "ฮา... แล้วเอาพี่ซีวอนไปไว้ไหน เดี๋ยวพี่เค้าได้ยินก็มาฆ่าชั้นตายหรอ ทำแฟนสุดที่รักเค้าร้องไห้ไม่พอ ยังจะไปเป็นชู้กับแฟนเค้าอีก" ยูริแซวซูยองอย่างขำๆ ซึ่งซูยองไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มทั้งที่น้ำตาคลอๆ อยู่เท่านั้น "แล้วอยู่ที่นี่เป็นไงบ้าง เมื่อวานแทบไม่ได้คุยกันเลย ได้ข่าวว่าจะแสดงหนังหรอ"

      "ไม่หรอก ปฎิเสธไปแล้ว ในข่าวเขียนเวอร์ไป แค่เป็นตัวประกอบไม่ได้เป็นนางเอก แถมมีฉากเลิฟซีนด้วย เดี๋ยวโดนคนแถวนี้โวยวาย ขี้เกียจฟัง" ซูยองตอบยูริ พร้อมคิดถึงหน้าซีวอนตอนที่มาหาถึง New York แล้วมานั่งอ่านบทในหนังคร่าวๆ ที่ทางทีมงานเสนอมา ขนาดบอกว่าไม่เล่นยังบ่นจนหูชาไปหลายวัน ถ้าบอกว่าจะเล่นหนังขึ้นมามีหวังเป็นโรคหูคงดับกันพอดี

      "บ่นอะไรหรอครับพี่ อยากรู้ด้วยคนได้ไหม" มินโฮเดินเข้ามาหาซูยองกับยูริ แต่ดูจากสายตาแล้ว น่าจะมาหายูริซะมากกว่า

      "ไม่ได้" ยูริตอบมินโฮทันที "เรื่องสาวๆ เค้าคุยกัน นายไม่เกี่ยวหย่ะ"

      "โถ่... ไม่รู้ก็ได้ แต่พี่ซูยองอยู่ที่นี่มีใครเข้ามาขายขนมจีบบ้างป่าวเนี่ย ได้ข่าวว่าสเป็กฝรั่ง" ในเมื่อยูริไม่ตอบเค้าก็ไม่อยากคาดคั้น เพราะถ้ามีอะไรเดี๋ยวก็บอกเองแหละ จึงหันมาถามซูยองแทน

      "ก็มีบ้าง ขำๆ ไม่ได้มีอะไร แต่ยูริถ้าเธอมาอยู่ที่นี่นี่ป๊อบเลยนะ รับรองว่ามีผู้ชายมาจีบตรึม" ซูยองเริ่มได้โอกาสเอาคืนมินโฮที่ชอบรวมหัวกับชางมินและคยูฮยอนแกล้งตัวเองนัก ลืมคิดไปได้ไงเนี่ย ว่าจุดอ่อนมินโฮอยู่ที่ยูริ

      "โห... พี่... แบบนี้ไม่ดีมั้ง ผมยังไม่อยากอกหักโดนแฟนทิ้งตอนนี้" มินโฮควงแขนยูริพร้อมกับเอาหัวพิงไหล่แล้วโอดครวนอย่างนั้นสงสาร ซึ่งสำหรับซูยองดูแล้วน่าหมั่นไส้มากกว่า

      "ก็ดีเหมือนกันนะ อยากลองมีกิ๊กดูบ้างเหมือนกัน" ยูริตอบรับซูยองแล้วดันมินโฮออกไป "หรือเปลี่ยนแฟนไปเลยดีน้า..."

      "ไม่ได้นะ แฟนห้ามเปลี่ยน พี่ซูยอง... เอาอะไรใส่เข้าไปในหัวแฟนผม" มินโฮโวยวายซูยองแทน เมื่อได้ยินสิ่งที่ยูริพูด

      "ก็แค่อยากแก้แค้นนิดๆ หน่อยๆ แหม... ยูริไม่ทำจริงหรอกใช่ไหม"

      "ไม่แน่... ล้อเล่น ใครเค้าจะทำจริงกันละ" ยูริหยิกแก้มสองข้างของมินโฮเบาๆ ด้วยอาการหมั่นไส้หลังจากที่มินโฮทำหน้าตูมๆ เหมือนเริ่มที่จะงอนจริงๆ แล้ว "ว่าแต่ ซูยอง ไหนเคยบอกว่าไม่มีใครเข้ามาจีบไง ข่าวที่ออกไปเป็นแค่ข่าวลือ ไม่ให้ข่าวตัวเองเงียบไม่ใช่หรอ" ยูริถามซูยองอย่างสงสัย เพราะซูยองเคยบอกว่า ข่าวบางข่าวทางค่ายก็สร้างขึ้นมาเอง เนื่องจากหากตัวเองเงียบหายไปเลย คนอาจจะลืมได้ แล้วถ้าจะกลับเข้ามาในวงการอีกครั้งคงลำบาก ต้องนับ 1 ใหม่ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปลอยข่าวซูยองออกมาเรื่อยๆ เพื่อนๆ จึงคิดว่าข่าวลือเรื่องอยู่ที่ New York แล้วเสน่ห์แรงคือ 1 ในข่าวลือที่ทางค่ายปล่อยขึ้นมา

      "แหม... ดูถูกกันเกินไปแล้วนะ มันก็ต้องมีบ้างสิ คนมาจีบอ่ะ ทั้งเพื่อนที่เรียน ทั้งนายแบบ คนมันเสน่ห์แรงก็แบบนี้แหละ" ซูยองพูดไปแบบงั้นๆ จริงๆ ก็ไม่ได้จะอวดอะไรเพื่อนหรอก แค่ปากมันพาไป โดยที่ไม่รู้ว่ามีใครอยู่ข้างหลัง แต่แค่รู้สึกสงสัยว่าทำไมยูริกับมินโฮถึงทำหน้าตกใจอย่างนั้นละ นี่ชั้นไม่มีเสน่ห์ขนาดอึ้งไปเลยหรอเมื่อรู้ว่าอยู่ที่นี่แล้วมีคนเข้ามาจีบ

      "เสน่ห์แรงเนอะ ซูยอง แล้วมีได้คุยบ้างไหม" มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งถามขึ้นมา

      "ก็ต้องคุยสิ เพราะ..." ซูยองตอบกลับไปอย่างคนปากไว แต่รู้สึกว่าตัวเองพลาดไปซะแล้ว เพราะนี่มันเสียงพี่ซีวอนหนิ ทำให้คำพูดทั้งหมดหายกลับเข้าไปในลำคอ แล้วค่อยหันหลังกลับไปมอง ตอนนี้ถึงรู้แล้วว่าทำไมยูริกับยุนโฮทำหน้าตกใจ ก็พี่ซีวอนยิ่งขี้หึงอยู่ แล้วเรายังบอกว่าคุยกับผู้ชายคนอื่นอีก ถึงแม้ว่าที่คุยเพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แล้วก็ปฏิเสธไปแล้วด้วย แถมยังเอารูปที่ถ่ายกับพี่ซีวอนขึ้น Wallpaper ทั้งใน iphone ทั้งในคอมอีก เพื่อประกาศว่าห้ามจีบมีแฟนแล้ว แต่ตอนนี้จะแก้ตัวก็แก้ตัวไม่ทัน เนื่องจากซีวอนเดินโกรธหายไปแล้ว จึงได้แต่เดินคอตกตามไป พร้อมคิดในใจว่า งานเข้าแล้ว ชั้น U______U

      "หึ หึ สมน้ำหน้า" มินโฮหัวเราะออกเบาๆ และสมน้ำหน้าหน่อยๆ เพราะบังอาจมาที่มายุยูริให้นอกใจเค้าดีนัก

      "นี่แหนะ สมน้ำหน้าหรอ เรื่องอะไรไปสมน้ำหน้าซูยอง เดี๋ยวเถอะ" ยูริจ้องมินโฮพร้อมกับหยิกไปที่แขนมินโฮที่ไปสมน้ำหน้าซูยองเพื่อนรักของเธอ

      "โอ๊ย... เจ็บนะ ขอโทษคร๊าบ ไม่สมน้ำหน้าแล้วคร๊าบ" มินโฮทำให้สำนึกผิด และลูบแขนที่โดยหยิก ยูริจึงได้แต่ถลึงตาใส่เท่านั้น

       

      "พี่ซีวอน พี่คะ เดี๋ยวก่อนสิ อย่าพึ่งไป" ซูยองรีบวิ่งตามซีวอนเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง แล้วดึงแขนเพื่อให้ซีวอนหันกลับมา แต่มีหรอซูยองจะสู่แรงซีวอนได้ ในเมื่อถ้าซีวอนยื้อไว้ไม่หัน ดังนั้นซูยองจึงไปดักข้างหน้าแทน "ชั้นยังพูดไม่จบเลยนะคะ พี่ก็เดินหนีไม่ยอมฟังกันแล้ว" ซูยองทำให้งอนๆ ใส่ซีวอนจนซีวอนนึกขำในใจว่าใครกันแน่ที่ควรจะงอน เค้า หรือ เธอ

      "หึ... งั้นพูดต่อสิ"

      "ก็ที่คุยเพราะเป็นเพื่อนทำงานที่เรียนกลุ่มเดียวกัน แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรกันด้วยค่ะ ชั้นก็แค่ปากไว พูดออกไปสนุกๆ เฉยๆ อย่าโกรธเลยนะคะ" ซูยองเขย่าแขนซีวอนอีกรอบเมื่อซีวอนไม่มีปฎิกิริยาตอบโต้

      "แล้วไงต่อ" หน้านิ่งๆ ของซีวอนที่ตอบกลับทำให้ซูยองหน้าเสียอีกครั้ง

      "โถ่... พี่คะ ต้องทำยังไงพี่ถึงจะหายโกรธ"

      "แล้วต้องทำยังไงละ" เมื่อได้ยินคำตอบซีวอน ซูยองจึงหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคนอื่นแน่ๆ จึงนำมือทั้งสองข้างคล้องคอซีวอน แล้วเอาปากสัมผัสกับแก้มขวาซีวอนเบาๆ

      "หายโกรธยังคะ" ซูยองพยายามยิ้มประจบแต่เมื่อเห็นซีวอนทำหน้านิ่งเหมือนเดิม จึงเขย่งเท้าเพื่อหอมแก้มซีวอนอีกข้างนึง แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากซีวอนอยู่ดี ดังนั้นซูยองจึงทำสิ่งที่ซีวอนไม่คาดคิดว่าจะทำ ซึ่งทำให้ซีวอนยิ้มที่มุมปากในขณะที่ปากเธอได้สัมผัสกับปากเขา เขาจึงนำมือข้างนึงโอบกอดเธอไว้ ส่วนอีกข้างดันหัวซูยองเพื่อไม่ให้ถอนออกจนกว่า... เขาจะพอใจ

       

      งาน SM Town In New York ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ นักร้องต่างๆ ได้สลับหมุนเวียนกันขึ้นเวที ซูยองจึงไปยืนเชียร์พื่อนๆ ที่หน้าเวที โดยที่ซีวอนคอยเดินมาหาเป็นระยะ ทำให้มีแฟนแคมบางส่วนสามารถจับรูปภาพพวกเขาทั้งสองได้

      "พี่ซีวอน ไม่กลัวแฟนคลับเห็นหรอ" ซูยองถามในขณะทั้งสองยืนจับมือกันหน้าเวที และโบกมือให้กับการแสดงของวง Shinee

      "เห็นก็เห็นสิ ทำไม??? หรือกลัวเรตติ้งตก"

      "พี่คะ อย่าประชดกันสิ" ซูยองหันมากระเง้ากระงอดกับซีวอน แต่ก็อดหน้าแดงไม่ได้เมื่อเห็นซีวอนมองมา ซึ่งทำให้คิดถึงเหตุการณ์ในห้องนั้นที่ไม่รู้ว่าจูบกันนานเท่าไหร่ แถมเป็นคนเริ่มก่อนอีกตะหาก โอ๊ย.... ยิ่งคิดยิ่งอาย ดีนะไม่มีใครเปิดประตูเข้ามาก่อน แล้วความคิดทั้งหมดก็หยุดลงไปเมื่อทางทีมงานเดินเข้ามาเรียกซีวอน เพื่อเตรียมตัวแสดง โดยที่ซีวอนบอกให้เธอรอดูเค้าอยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหน พร้อมทั้งเรียกแทยอนมายืนเป็นเพื่อน เพราะยังไงแทยอนก็ต้องมายืนดูลีทึกอยู่แล้ว

      "ท่าทางพี่ซีวอนจะหวงเธอเอามากๆ เลยนะซูยอง น่าอิจฉาจัง" แทยอนพูดกับซูยองระหว่างรอดูการแสดงของ Super Junior

      "ทำไม พี่ลีทึกไม่หวงเธอหรอ"

      "ก็หวง แต่นี่เหมือนกับจะเป็นการประกาศอยู่กลายๆ เลย ว่าเธอกับพี่ซีวอนคบกันอยู่" แทยอนพูดไปตามที่คิด เพราะซีวอนเคยเปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีแฟนแล้ว แถมตอนนี้ยังควงซูยองแบบไม่แคร์สื่ออีก ทั้งเดินจับมือ ทั้งกอดเอว ทั้งกอดคอ พอเห็นกล้องที่ถ่ายทำเบื้องหลังคอนเสิร์ตก็ไม่สนใจ อยากถ่ายในลักษณะไหนก็ถ่าย

      "อยากประกาศบ้างว่างั้น" ซูยองก็พอจะรู้อยู่ว่าซีวอนคงไม่อยากปิดเรื่องที่คบเธออีกต่อไปแล้ว ส่วนตัวเธอเองยังไงก็ได้ ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนที่ซีวอนอยู่ที่เกาหลีไม่รู้เจอใครมีแอบนอกใจมองสาวอื่นบ้างหรือป่าว และอายุของทั้งเธอและเค้าถ้าจะมีแฟนก็คงไม่แปลกมั้ง แฟนคลับคงเข้าใจแหละ

      และแล้วก็ถึงการแสดงของ Super Junior ทุกคนส่งเสียงกรี๊ดกระหึมไม่เว้นแม้แต่สองสาวที่คอยยืนเชียร์กระโดดโบกมือเหมือนเด็กๆ อยู่ด้านขวาหน้าเวที ทำให้ทั้งลีทึกและซีวอนเดินมาทางด้านขวาของเวทีบ่อยกว่าปกติ และหลังจากที่การแสดงจบนักร้องในค่าย SM ต่างกลับเกาหลีภายในวันนั้นเลย เหลือเพียงแต่ซีวอนเท่านั้นที่ยังอยู่ New York ต่ออีกสองวัน

       

      "ห้องสะอาดกว่าที่คิดนะ พี่จำได้ว่าแม่เธอเคยบอกว่าเธอชอบทำห้องรกไม่ใช่หรอ" ซีวอนเดินเข้ามาในคอนโดของซูยองพร้อมทั้งกวาดสายตามองรอบๆ ห้อง ซึ่งมีอยู่ 1 ห้องนอน และ1 ห้องนั่งเล่น

      "ก็ตอนที่อยู่เกาหลีมีคนทำความสะอาดให้นิคะ แต่อยู่ที่นี่ต้องทำเอง เลยต้องปรับพฤติกรรมกันหน่อย แล้วพี่หิวยังคะ วันนี้เดี๋ยวชั้นทำอาหารให้พี่ทางเอง เพราะพี่คงยังเหนื่อยอยู่ ถ้าออกไปทางข้างนอก เดี๋ยวพี่ต้องมาส่งชั้นที่คอนโด แล้วต้องกลับไปโรงแรมคนเดียวอีก ลำบากป่าวๆ" ซูยองเดินถามซีวอน พร้อมลื้อของในตู้เย็น ซึ่งโชคดีมากที่เธอซื้อเนื้อหมูมาเก็บไว้สำหรับทำสเต็ก แถมยังมีเส้นสปาเก็ตตี้อีก มีแฮมในตู้เย็น น่าจะยังทำคาโบนาร่าได้ แล้วเอาไวน์มาเปิดคงไม่เมาหรอกมั้ง

      "อืม อย่างนั้นก็ได้ ไม่ได้กินอาหารฝีมือซูยองนานละ ดูสิ จะพัฒนาขึ้นหรือแย่ลง"

      "แหม... ดูถูกกัน ไม่ได้ละ แบบนี้ต้องทำสุดฝีมือเลย งั้นระหว่างรอพี่ไปนอนในห้องชั้นก่อนได้นะคะ" ซูยองพาซีวอนเข้าไปนอนในห้องจากนั้นจึงเร่งทำอาหารสำหรับดินเนอร์คืนนี้ คือสเต็กหมู และคาโบนาร่า พร้อมด้วยไวน์แดง ใต้แสงเทียน แต่ไม่มีเทียนนะสิ งั้นเอาเปิดไฟส้มแทนแล้วกัน ^^

      "พี่คะ ตื่นเร็ว ตื่นได้แล้ว อาหารเสร็จแล้วค่ะ" ซูยองเขย่าปลุกซีวอน แต่เมื่อเห็นซีวอนไม่ยอมตื่นจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพราะไม่รู้ว่าซีวอนเหนื่องจริงๆ หรือแค่แกล้งเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วแหละ ว่าซีวอนแกล้งเธอ เพราะตอนนี้ร่างบางของเธออยู่ใต้ร่างที่แข็งแกร่งของเขา พร้อมกับบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา

      "ไม่กินข้าวแล้วได้ไหม" ซีวอนกระซิบถามซูยองหลังจากที่เค้าจูบเธอจนพอใจ พร้อมกับห้ามใจตัวเธอไม่ให้ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้

      "ทำไมละ ชั้นอุตสาห์ทำตั้งนาน แล้วพี่ไม่หิวหรอ" ซูยองนึกน้อยใจตะหงิดๆ ที่อยู่ๆ ซีวอนก็ไม่อยากกินอาหารที่เธอทำแล้ว

      "หิว... แต่กินเธอท่าจะอิ่มกว่า" ว่าแล้วซีวอนก็แกล้งงับไปที่คอซูยอง ทำให้ซูยองรู้สึกจั๊กจี๋

      "ไม่เอา พอแล้ว ลุกได้แล้ว พี่คะ ชั้นหิวจริงๆ นะ" ซูยองพยายามดันซีวอนให้ลุกขึ้น ทั้งที่หน้ายังแดงอยู่จากการกระทำของซีวอนและความเขินที่ซีวอนพูดแบบนั้น

       

      "คุณชเว ซูยอง กรุณาให้เกียรติเต้นรำกับผมซักเพลงได้ไหมครับ" ซีวอนโค้งของซูยองเต้นรำ ทำให้ซูยองหัวเราะกับท่าทีสุภาพนั้น เธอจึงมือของเธอลงบนมือเค้าแล้วทั้งคู่ก็กอดคอกันเต้นรำไม่รู้นานเท่าไหร่

      อุ่นจัง... วันนี้หมอนข้างอุ่นจังเลย ซูยองขยับเข้าไปหาหมอข้างที่เธอคิดว่าอุ่นที่สุดตั้งแต่เกิดมาบนโลก แต่ทำไมหมอนข้างใบนี้กลิ่นเหมือนพี่ซีวอนเลย พอนึกขึ้นได้ดังนั้นซูยองจึงรีบลืมตาขึ้นมา แล้วก็พบว่าซีวอนกำลังมองเธออยู่ ทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นมาทันใด

      "ตื่นแล้วหรอ" ซีวอนหอมหน้าผากซูยอง เมื่อซูยองรีบหลบตาเค้าโดยเอาหน้าชิดกับหน้าอกพร้อมกับพยักหน้า

      "หิวไหม" ซีวอนถามต่อ ซึ่งซูยองได้แต่ส่ายหน่าเท่านั้น "พึ่งรู้ว่ามี เมีย เป็นใบ้"

      "พี่ซีวอน" ซูยองตกใจกับคำพูดของซีวอนจึงเงยหน้าขึ้นมามองซีวอนอย่างหาเรื่อง

      "พูดได้แล้วหรอ พี่ตกใจคิดว่าซูยองเป็นใบ้ไปแล้วซะอีก" ซีวอนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับซูยอง

      "ไม่ต้องเลย ทำไมถึงพูดแบบนี้ฮะ"

      "พูดอย่างไหน อ๋อ เรื่องที่ซูยองเป็นเมียพี่แล้วนะหรอ หรือว่าไม่จริง"

      "โอ๊ย.... พี่ซีวอน ทำไมพี่เป็นคนแบบนี้ รู้ว่าเค้าอายแล้วยังพูดอยู่ได้ นี่แหนะๆๆ" ซูยองเอากำปั้นทุบกับอกซีวอนรัวๆ เนื่องจากเค้าทำเธอทั้งเขินทั้งอาย เรื่องราวเมื่อคืนเป็นไงบ้างน้า... เธอจำได้แต่ว่าเธอมึนๆ ระหว่างเต้นรำ เนื่องจากไวน์ที่กินกันเข้าไป

       

      "พี่รักชั้นไหม" ซูยองถามซีวอนระหว่างที่เค้าและเธอเต้นรำด้วยกัน

      "รักสิ"

      "รักมากขนาดไหน" ซูยองถามต่อ

      "รักมาก รักมากที่สุด" เมื่อซีวอนตอบเสร็จจึงจูบซูยองอย่างแผ่วเบา และเริ่มหนักหน่วงขึ้น ซึ่งทำให้เธอแทบละลายในอ้อมกอด

      "คืนนี้พี่นอนนี่ได้ไหม" ซีวอนละจากปากของเธอแล้วกระซิบที่ข้างหูซูยอง ลมหายใจแผ่วเบาชองซีวอนลดอยู่ข้างๆ หู ซูยองชะงักกับคำถามนิดนึง ก่อนที่จะพยักหน้าเล็กน้อย

      "รู้ใช่ไหม ถ้าพี่นอนนี่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น" ซีวอนพูดขู่เบาๆ แต่ไม่รอฟังคำตอบ ซีวอนเริ่มจูบซูยองอีกครั้ง ทั้งปาก ทั้งคอ และอุ้มเธอไปที่เตียง เธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น นอกจากรสจูบของเขา ความอบอุ่นที่เขามอบให้ พร้อมกับความเจ็บปวดที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน แล้วตามมาด้วยความสุขที่ยากจะอธิบาย สำหรับเธอแล้ว ซีวอนเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน จนถึงตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกว่าซีวอนยังเป็นสุภาพบุรุษ ที่คอยให้เกียรติ ปกป้อง และทะนุถนอมเธอตลอด เค้าคอยที่จะไปพร้อมๆ กับเธอ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจตลอดเวลาเมื่อเธอได้สัมผัสกับเขา

       

      แต่... ตอนนี้มันอะไรเนี่ย ทำไมพี่ซีวอนถึงเป็นเปลี่ยนคนเจ้าเล่ห์ได้อย่างนี้ละ นี่ชั้นคิดผิดไปใช่ไหมชเว ซูยอง เค้าอุตสาห์ของเธอก่อนแล้วนะ เธอดันสมยอมเอง "นี่แหนะ ขอตีอีกซักรอบ มันน่าโมโห... เอ๋... นี่มันอะไรกันคะ" ซูยองมองเห็นแสงแวววับที่นิ้วนางของมือซ้าย จึงชูขึ้นมาดู แหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีเพชรเม็ดเล็กๆ เรียงร้อยกัน

      "ซูยอง... แต่งงานกับพี่นะ พี่อาจจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย ที่ปีหน้าพี่ก็จะเข้ากรมแล้ว แต่ก็ยังขอเธอแต่งงานอีก แต่เมื่อวานที่เธอปลุกพี่ทานข้าว ทำให้พี่รู้สึกว่าพี่อยากอยู่กับเธอ อยากได้ยินเสียงเธอตอนเช้า อยากทานอาหารฝีเธอทุกวัน มันจะมีความสุขขนาดไหน" จากน้ำตาคลอเบ้าที่ได้เห็นแหวนบนนิ้วนาง กลายเป็นหยดน้ำตาที่ไหนเป็นสาย

      "ค่ะ ชั้นจะแต่งงานกับพี่ค่ะ" ซูยองโผกอดซีวอน และร้องไห้สะอื้อออกมา เธอคิดไม่ผิดจริงๆ เลย ที่รักผู้ชายคนนี้ คิดไม่ผิดที่มอบกายและหัวใจให้กับเค้าไป คำขอแต่งงานที่วิเศษสุด แต่... คงจะดีกว่านี้ ถ้าเค้าไม่ได้ของเธอแต่งงานบนเตียง หลังจากที่ผ่านกิจกรรมเมื่อคืนมา ถ้านักข่าวถามว่าเค้าขอเธอแต่งงานยังไง เธอจะตอบอย่างไรเนี่ย

      "พี่คะ ชั้นดีใจมากเลยที่พี่ขอชั้นแต่งงาน แต่พี่ต้องขอชั้นแต่งงานอีกรอบนะคะ เพราะชั้นไม่รู้จะตอบยังไง ถ้ามีคนถามว่าพี่ขอชั้นแต่งงานยังไง" ซูยองบอกกับซีวอนอย่างอายๆ ทำให้ซีวอนยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

      "ได้ พี่จะขอเธอแต่งงานอีกครั้งทันทีเลยหลังจากที่เราทำอย่างเมื่อคืน" ซีวอนแกล้งทำเป็นจะปล้ำซูยอง ทำให้ซูยองหัวเราะออกมา

      "พี่อ่ะ แล้วมันจะแตกต่างจากที่ขอตะกี้ยังไง"

      "พี่คะ อย่าพึ่งสิ เงยหน้าขึ้นมาคุยกับฉันก่อน" ซูยองรีบดันหน้าซีวอนขึ้นมาหลักจากที่หน้าเค้าไซ้กับซอกคอของเธอ "พี่ซื้อแหวนตั้งแต่เมื่อไหร่คะ พี่คิดจะขอชั้นแต่งงานอยู่แล้วหรอ" ซูยองถามซีวอนอย่างสงสัย เพราะซีวอนเตรียมการมาแล้วล่วงหน้าแน่เลย แต่ตอนไหน ทำไมเธอไม่รู้สึกเอะใจอะไรเลย

      ซีวอนยิ้มแล้วจึงตอบกลับไปว่า "ตอนแรกพี่แค่จะขอหมั่นก่อน แล้วพอออกจากรมค่อยแต่ง แต่เธอทำพี่ตะบะแตกซะก่อน อยากทำตัวน่ารักทำไม หึ" ซีวอนแกล้งบีบจมูกซูยองเบาๆ "อย่างที่บอกตอนที่พี่นอนอยู่ แล้วเธอปลุกพี่ทานข้าว ตอนนั้นแหละที่ทำให้พี่เปลี่ยนใจไม่อยากหมั้นแล้ว แต่งงานเลยดีว่า"

      "อิอิ พี่ทนเสน่ห์ปลายจวักชั้นไม่ได้ใช่ไหมละ เดี๋ยวต้องรีบโทรไปบอกแม่ก่อน แม่ต้องดีใจแน่ๆ เลย"

      "ไม่ต้องเลย จะไปไหน คิดจะหนีหรอเรา" ซีวอนดึงซูยองกลับมากอดและจูบอีกครั้งหลังจากที่ซูยองดันตัวเค้าออกไป หลักจากนั้นในห้องก็มีเสียงครวญครางเกิดขึ้นอีกครั้งของเช้าวันใหม่

       

                      "ตอนนี้ข่าวฮอต ข่าวร้อนของ ชเว ซูยอง กับ ชเว ซีวอน ที่กำลังเป็นประเด็นในอินเตอร์เน็ตก็เปิดเผยแล้วนะคะ" พิธีกรสาวคนที่หนึ่งเปิดประเด็นขึ้นมา

                      "ที่เค้าทั้งสองคนประกาศแต่งงานกันนะหรอคะ โอ๊ย... ชั้นไม่อยากรายงานข่าวเรื่องนี้เลย เสียใจ... ตอนนี้พยายามทำใจอยู่"

                      "อะไร เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรอ ว่าซูยองคบกับซีวอน"

                      "ไม่ได้รู้หรอก แค่คิดไว้เฉยๆ แต่ไม่คิดว่าเค้าจะประกาศแต่งงานกันไวขนาดนี้ ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย ฮือ..."

                      "เป็นไปได้ไหม ว่ากระแสอินเตอร์เน็ตแรงมาก จึงทำให้ทั้งสองคนออกมายอมรับ และประกาศแต่งงานกัน"

                      "ชั้นว่าไม่นะคะ ทั้งคู่คงตั้งใจให้มีภาพหลุดออกมาก่อนให้เราทำใจไว้ล่วงหน้าแหละ แต่ล่วงหน้านานๆ กว่านี้หน่อยก็ดีนะคะ นี่ 3 วันเองก็ประกาศจะแต่งงานซะละ"

                      "ยังไง ไม่เข้าใจ ไหนๆ ในฐานะที่เธอเป็นแฟนคลับซีวอนบอกมาซิ ว่าทำไมถึงคิดว่าเค้าตั้งใจปล่อนภาพหลุด"

                      "โถ่... คอนเสิร์ตคนเยอะจะตาย แล้วทั้งโอบกัน ทั้งจับมือกันกลางคอนเสิร์ต คนดูก็ต้องเห็นกันบ้างแหละ ถ้าไม่อยากให้มีภาพออกมา ก็ไปยืนหลบยืนดูอยู่หลังเวทีก็ได้ แถมคบกันมาตั้งหลายปี เคยมีภาพเค้าสองคนหลุดรอดออกมาไหม มีแต่สเตลล่าที่น่าจะเป็นตัวหลอกหลุดออกมา"

                      "อ๋อ อย่างนี้นี่เอง งั้น... ชั้นขอประกาศเลยนะคะ ว่าคู่ต่อไปที่จะแต่งงานกรุณาประกาศล่วงหน้านานๆ หน่อยว่าคบกันอยู่ เราจะได้เตรียมใจกันไว้ แต่ยังไงก็ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆ นะคะ นี่... เธอ อวยพรเค้าหน่อยสิ"

                      "ก็... ในฐานะแฟนคลับ... ฮือ... เสียใจ ทำใจไม่ได้ แต่ถ้าซีวอนมีความสุข แฟนคลับอย่างเราก็มีความสุขค่ะ"

      _____________________________________________________

      จบแล้วค่ะ ^^
      แต่หาปุ่มปิดเรื่องไม่เจอ -.-"

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×