ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Prince of tennis] love passion กระหน่ำหัวใจส่งให้เธอ

    ลำดับตอนที่ #45 : LOVE PASSION U-17 Past 11: Boy & Girl

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 912
      5
      13 ก.ค. 55

     

    ค่าย U-17 ช่วงตอนค่ำ ๆ

    “.................” ซานาดะเดินมาด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะสาเหตุอะไรน่ะเหรอ......ก็พอริทสึทำแผลให้เขาเสร็จเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือถีบหัวส่งไล่ซานาดะออกไปทันที

    “เอ่อ....รองกัปตันเป็นอะไรเหรอครับ” คิริฮาระผู้ไร้เดียงสาถามยานางิโดยไม่รู้ว่า ตอนมันไม่ใช่เวลาที่จะถามเรื่องนี้ต่อหน้าซานาดะ

    “สงสัยจะโดนโคโนเอะจังทิ้งล่ะมั้งถึงได้อารมณ์บูดแบบนี้...” ยานางิก็ตอบไม่ดูสถานการณ์ในตอนนี้เหมือนกัน

    “ไม่ต้องรู้สักเรื่องจะได้มั้ยเร็นจิ” ซานาดะจ้องเขม็งมาที่ยานางิกับคิริฮาระ

    “กัปตันยูคิมูระ~ ช่วยด้วยสิฮะ รองกัปตันน่ากลัวอ่ะ” คิริฮาระวิ่งลี้ภัยไปหลบหลังของยูคิมูระทันที

    “ซานาดะอย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นใส่อาคายะสิ เดี๋ยวริทสึจังก็โกรธเอาเหรอกนะ” ที่จริงยูคิมูระเองก็พอจะหยุดซานาดะได้แต่ถ้าใช้ริทสึเป็นข้ออ้างจะได้ผลเร็วกว่าเยอะ

    “ชิ...!” ได้ผลเร็วทันใจดีมาก

    “หึ ๆ แบบนี้มันดูไม่ได้เลยนะ ซานาดะ” อาโตเบะเดินเข้ายั้วโมโหซานาดะ

    “ว่าไงนะ!

    “เฮ้ ๆ พวกนาย 2 คนอย่าเพิ่งมาทะเลาะกันสิ” จิโทเสะกับทาจิบานะต้องเข้ามาแยกจับทั้งคู่ออกจากกัน

    “นี่เกิดเรื่องอะไรกันงั้นเหรอ....” คิคุมารุกับโออิชิเดินผ่านมาพอดี

    “ก็แค่ทะเลาะกันเท่านั้นล่ะ” ยานางิตอบแทนโดยมีคิริฮาระซึ่งย้ายที่ลี้ภัยมาเป็นหลังของเขาเมื่อไรก็ไม่รู้

    “งั้นเหรอ~ แบบนี้แสดงว่า ไอ้เสียงดัง ๆ ที่พวกเราได้ยินกันคงไม่ใช่ที่นี้ล่ะมั้งนะ โออิชิ”

    “เสียงดัง ๆ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก” ซานาดะถาม

    “ไม่รู้สินะ เมื่อกี้เสียงมันดังมาก ๆ เลยล่ะทั้งพวกฉันแล้วก็ชิชิโดะก็ได้ยินด้วยนะ”

    “เอ๋! พวกนายก็ได้ยินด้วยเหมือนกันเหรอเนี่ย” ฟูจิกับชิราอิชิก็เดินผ่านมาแถวนี้เช่นเดียวกัน

    “พวกฟูจิก็ได้ยินด้วยเหรอ เนี้ยว~

    “อืม รู้สึกเสียงจะดังมาจากห้องโถงข้างล่างนะ” พอทุกคนรู้เรื่องกันหมดแล้วจึงตัดสินใจเดินลงไปดูข้างล่างพร้อม ๆ กันและระหว่างทางก็เจอพวกอาคุสึกับนิโอมาร่วมเดินทางสำรวจด้วยเหมือนกัน

    “ฮ่า ๆ ๆ ๆ” เสียงหัวเราะเล็ก ๆ ดังเล็ดลอดออกมา

    “ได้ยินเสียงอะไรกันมั้ย....”

    “หรือว่า....จะเป็นผีอ่ะ....!” พอคิริฮาระพูดเสร็จก็กระโดดไปกอดชิราอิชิทันที

    “อันนั้นก็คงไม่ใช่หรอกมั้งคิริฮาระคุง....เลิกกอดฉันได้แล้วนะมันอึดอัด” (จับจิ้นเลยจ๊ะ)

    “กะ ก็คนมันกลัวนี่นา....” พอชิราอิริบอกให้ปล่อยคิริฮาระยิ่งกอดแน่กว่าเก่าอีกมันทำให้คนที่เคยคิดว่า สนิทกับคิริฮาระมากที่สุดแล้วอย่างยานางิเกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมา..... (แบบนี้ต้อง 3P)

    “อย่างนายเขาเรียกว่า กลัวขึ้นสมองมากกว่ามั้ง...คิริฮาระ” อาโตเบะพูด

    “ก็เมื่อคราวก่อนฉันเคยออกมาเดินข้างนอกตอนกลางคืนแล้วจู่ ๆ ก็มีเงาขนาดใหญ่เหมือนคนโผล่ขึ้นมาแถมยังทำเสียงน่ากลัวด้วยล่ะ” คิริฮาระยังไม่รู้ว่า เมื่อตอนนั้นมันเป็นฝีมือของพวกเอจิเซ็นที่แอบลอบเข้ามาในค่าย

    “ก่อนจะเล่า....ชะ ช่วยปล่อยก่อนได้มั้ย หายใจไม่ออกแล้ว...” ชิราอิชิโดนคิริฮาระกอดแน่นมากเกินไปจนเกินหายใจไม่ออก

    “หืม! จู่ ๆ ทำไมเสียงมันถึงได้เงียบลงไปล่ะ” จิโทเสะพูดขึ้น

    “อ๊ะ! รุ่นพี่โออิชิ” โมโมชิโระพร้อมด้วยไคโค เซนโงคุและ 2 ตัวเปี๊ยกซุปเปอร์รุกกี้เดินเข้ามา

    “โมโมะ มีเรื่องอะไรกันเหรอถึงได้ลงมาที่นี้”

    “ก็คุณเซนโงคุบอกว่า ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดคุยกันแล้วก็เสียงฝีเท้าที่วิ่งผ่านหน้าห้องพวกผมด้วยน่ะสิครับ”

    “เสียงผู้หญิงงั้นเหรอ....แบบนั้นมันจะมีความเป็นไปได้แค่ 16.4% เท่านั้นเพราะ ที่นี้เขาไม่อนุญาตให้ค่ายชายและหญิงมาเจอกันอยู่แล้วแถมระบบป้องกันความปลอดภัยของค่ายผู้หญิงยังแน่นหนากว่าของพวกเราหลายเท่าเลยล่ะ" อินูอิพูดขึ้นขณะเดินมาสมทบด้วยพร้อมกับคนที่เหลือ

    “แต่เสียงที่ฉันได้ยินมันเป็นเสียงผู้หญิงจริง ๆ นะแถมตั้งหลายคนด้วยล่ะ” เซนโงคุเถียง

    “ถ้าอย่างงั้นก็ต้องไปพิสูจน์กันสินะ” เทะสึกะเดินมาแค่คนเดียวเท่านั้น

    “กะ กัปตันเทะสึกะมาได้ไงครับเนี่ย” โมโมชิโระถามด้วยความงุนงงแต่ไม่ใช่เขาคนเดียวที่งงแต่เป็นทุกคนต่างหาก

    “มีเมจเสจส่งมาหาฉันบอกว่า ให้มาที่ห้องโถง......” เทะสึกะเอามือถือออกมาให้ทุกคนเห็นและตอนนั้นเอง....

    “ฮ่า ๆ ๆ” เสียงหัวเราะนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    “สะ เสียงมันดังขึ้นอีกแล้วแถมยังดังกว่าเดิมด้วย” คิคุมารุเริ่มผวาแล้ว

    “จะเอายังไงต่อดี....” ฟูจิถาม

    “ไม่เห็นต้องถามก็เข้าไปดูเลยยังไงล่ะ...” เทะสึกะไม่พูดไม่จาเดินนำเข้าไปคนแรกเลย ช่างเป็นชายที่เหนือชายจริง ๆ

    “ยินดีต้อนรับจ๊ะ~” เสียงใส ๆ ทักทายพร้อมหนุ่ม ๆ ยืนอึ่งเพราะตอนนี้ในห้องโถงได้มีสาว ๆ 15 คนกำลังจัดห้องให้เป็นเหมือนงานเลี้ยงเล็ก ๆ อยู่พอดี

    “สะ สุดยอด!! มีสาว ๆ สวย ๆ อยู่เต็มไปเลยแบบนี้มันช่าง Lucky จริง ๆ” เซนโงคุออกอาการยิ่งกว่าใครเพื่อนเลย

    “เอ๊ะ~ เทะสึกะเป็นคนนำเข้ามาเหรอเนี่ยแบบนี้ฉันก็ชนะพนันแล้วสิ....เรียวอย่าลืมเลี้ยงขนมฉันด้วยน่า~” ตรงโซฟามีร่างเล็ก ๆ ที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่ชนะพนันอยู่เลย

    “คะ คุณโคโนเอะ!! ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะ” ทุกคนต่างถามขึ้นพร้อม ๆ กัน

    “กะว่า จะแสดงความยินดีที่พวกนายทุกคนได้มาอยู่กันครบ 50 คนอีกครั้งนี่นาก็เลยต้องฉลองกันหน่อย”

    “ยัยบ้า!! ที่นี้มันใช่บ้านของเธอที่ไหนกันเลิกทำบ้า ๆ ได้แล้ว” ซานาดะดูจะรับไม่ได้ที่สุดเลยตวาดใส่ทันที

    “ทำแบบนี้ไม่ได้งั้นเหรอ...ซานาดะ....” ริทสึแกล้งบีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสารจากหนุ่ม ๆ จากนั้นก็... “ฮือ ๆ ซานาดะใจร้าย~ ฉันอุตส่าห์ทำเพื่อทุกคนแล้วแท้ ๆ ทำไมต้องมาว่าแบบนี้ด้วย”

    “ทำผู้หญิงร้องไห้แบบนี้มันดูไม่ดีเลยนะ ซานาดะ” และมันก็ได้ผลจริง ๆ ด้วยตอนนี้ทุกคนอยู่ฝ่ายเดียวกับริทสึหมดแล้ว

    “ชะ ใช่ที่ไหนกันล่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรยัยนั่นเลยนะ” ซานาดะรีบแก้ตัวแต่ว่า...ทำยังไงก็แก้ตัวไม่ขึ้นอยู่ดี

    “แต่เมื่อกี้นายไปตวาดใส่เธอไม่ใช่เหรอ” ทุกคนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

    “ชิ! ก็ได้เมื่อกี้ฉันขอโทษอยากทำอะไรก็เชิญตามสบายเลย” ริทสึเผยรอยถือยิ้มของผู้มีชัยตอนนี้ทุกคนคงได้รู้กันแล้วว่า อย่าขัดใจริทสึเด็ดขาดไม่งั้นจะเจอดีเหมือนกับซานาดะ

    “ฮ่า ๆ ขอบคุณที่เข้าใจฉันน่ะ ซานาดะ”

    “แล้วสาว ๆ พวกนี้เป็นใครกัน” เทะสึกะถาม

    “เพื่อนของฉันเองล่ะ....พอดีเรียวบอกว่า ถ้าไม่ให้ทุกคนมาด้วยเธอจะไม่ยอมให้ออกจากค่ายน่ะสิ”

    “แล้วคิดว่า ฉันอยากจะปล่อยเธอให้มาอยู่กับเจ้าพวกนี้ตามลำพังรึไงกันล่ะ” เรียวยืนเท้าเอว

    “อ่า~ เรียวนี่นา” จิโร่รีบทักขึ้นทันทีพอดีเจอคนรู้จัก

    “เฮ้ย! ห้ามเข้าใกล้ยัยนั้นเด็ดขาดเลยนะ” อาโตเบะรีบคว้าคอเสื้อของจิโร่ทันที

    “รู้จักเธอด้วยงั้นเหรอ อาโตเบะ” คิคุมารุถาม

    “อาโตเบะ เรียว น้องสาวแท้ ๆ ของอาโตเบะ เคโกะ ปี 3 โรงเรียนเฮียวเท” เรียวแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ

    “นะ น้องสาวของอาโตเบะเหรอ!!” ทุกคนอึ่ง

    “ก็ใช่น่ะสิ มีปัญหารึไงขอบอกไว้ก่อนอย่ามายุ่งกับน้องสาวฉันเชียวนะ” อาโตเบะเดินเข้าไปโอบไหล่ของน้องสาวทันที

    “เข้าใจแล้ว ๆ ว่าแต่เรียวเธอมาที่นี้ได้ไง” โอชิราริถาม

    “พอรู้ว่า พี่กับพวกนายต้องมาก็เลยมาด้วยตอนนี้ฉันอยู่คอร์ท 1 คอยดูแลทุกคนแทนควีนยังไงล่ะ”

    “ควีนงั้นเหรอ” ฟูจิพยายามนึกดูว่า เคยได้ยินคำพูดนี้มาจากที่ไหน...

    “มันก็ช่วยไม่ได้นี่นาควีนของพวกเราไม่เคยอยู่เป็นหลักเป็นแหล่งเหมือนพวกเรานี่นา ชอบแอบเข้ามาที่นี้แทบทุกวัน....อ๊ะ...ขอแนะนำตัวหน่อยนะ มิสึคาวะ ฮิคาริ อยู่คอร์ท 1 จ๊ะ”

    “แล้วมันคือใครกัน....”

    “ก็ริทสึยังไงล่ะ ควีนน่ะเป็นแค่ฉายาที่ตั้งให้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายเท่านั้นเอง...ขอแนะนำตัวด้วยคน คาวาโซเอะ มิโนรุเจ้าค่า~” มิโนรุพูด

    “ส่วนพวกเราก็คือ ผู้ติดตามของควีนยังไงล่ะ” ฮิโตมิเดินมาพร้อมช็อกโกแลตของโปรดในมือ

    “ชิ ชิราอิชิ.....อาเจ้ฮิโตมิ” เคนยะรีบสะกิดแขนชิราอิชิทันที

    “ไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย ทำไมรุ่นพี่ฮิโตมิถึงมาอยู่ที่นี้ได้” ชิราอิชิดูตกใจไม่ใช่น้อย ๆ

    “ก็ถูกเรียกตัวมาน่ะสิ....แล้วเมื่อกี้ใครบังอาจเรียกฉันว่า อาเจ้....” ฮิโตมิเดินตรงเข้าไปล็อคชิราอิชิกับเคนยะทันที

    “ขอโทษด้วยคร้าบ~

    “ผู้หญิงที่ดูห้าว ๆ เป็นใครกันน่ะ....”

    “รุ่นพี่คิราสึกิ ฮิโตมิเป็นรุ่นพี่ของพวกชิราอิชิแถมยังเป็นอดีตกัปตันชมรมเทนนิสหญิงด้วยนะ...ก็เลยสนิทกับเจ้าพวกนั้นเป็นพิเศษยังไงล่ะ” จิโทเสะอธิบาย

    โครม!!

    “นี่เธอเป็นบ้าอะไร จู่ ๆ ถึงเดินมาชนฉันเนี่ย!” แอนนิต้ากับยูกิทะเลาะกันอีกแล้ว

    “เธอนั่นแหละที่มาเดินชนฉันเอง!!” ยูกิเองก็พร้อมสู้เต็มที่

    “รุ่นพี่โคโนเอะ!!

    “พวกเธอช่วยเลิกทะเลาะกันสักวันจะได้มั้ย ไม่งั้นฉันจะให้พวกเธอไปฝึกบนเขาอีกรอบนะ” ริทสึเข้ามาจัดการทุกอย่าง

    “ยะ ยูกินั่นเธอใช่มั้ย” โอชิทาริกับเคนยะดูตกใจไม่ใช่น้อย ๆ พอเห็นหน้ายูกิ

    “พี่ยูชิ....พี่เคนยะ ยังไม่โดนไล่ออกไปอีกเหรอค่ะ”

    “นี่เธอเห็นพวกฉันอ่อนแอถึงขนาดนั้นเลยรึไง ยัยบ้า” เคนยะโวย

    “เธอเป็นรุ่นน้องของพวกนายงั้นเหรอ” ยานางิถาม

    “เปล่าหรอก.....เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกเราต่างหากล่ะ”

    “ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลยล่ะ” อาโตเบะดูไม่ค่อยพอใจ

    “พวกนั้นคงไม่อยากให้ผู้ชายอย่างพี่ได้รู้จักกับน้องสาวของพวกเขาล่ะมั้ง” เรียวพูดเสียงนิ่ง ๆ

    “เฮ้! ผู้ชายอย่างพี่มันมีปัญหาตรงไหนกันไม่ทราบ”

    “จะให้ฉันบอกทุกคนตรงนี้เลยมั้ยล่ะ”

    “ทุกคนเลิกพูดเรื่องไร้สาระแล้วมาฉลองกันเถอะนะ” ริทสึอยากจะฉลองลูกเดียว

    “พูดแบบนี้แสดงว่า เห็นแก่กินล่ะสิ” ซานาดะถาม

    “มันก็เรื่องของฉันยะ เจ้าซามูไรหน้ายักษ์...แบร่~” ริทสึแล่บลิ้นใส่ซานาดะ

    “กล้าล้อเล่นฉันหรอก” เพราะทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากซานาดะจึงถือโอกาสดีดหน้าผากริทสึเป็นการลงโทษซะเลย

    “ยูคิมูระคุง~ ซานาดะแกล้งฉันอีกแล้วอ่ะ” พอตัวเองโดนแกล้งก็รีบวิ่งไปหลบหลังยูคิมูระทันที

    “ฮ่า ๆ ทั้ง 2 คนอย่าทะเลาะกันสิ” พวกนิโอส่ายหัวเพราะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนแต่ถ้าทั้งคู่อยู่ด้วยกันเมื่อไรต้องทะเลาะกันตลอด

    แชะ!

    “หึ ๆ ได้รูปมาแล้ว” โนบาระโผล่ออกมาจากมุมไหนก็ไม่รู้ด้วยสภาพผมที่ดูกระเซ่อกระเซิง

    “แว้ก! ผีโผล่ออกมาแล้ว” คิริฮาระซึ่งตอนนี้คงกลัวผีขึ้นสมองไปแล้วกระโดดกอดยานางิทันที

    “อ่า~ เร็นบอกตั้งหลายครั้งแล้วไงว่า อย่าออกมาในสภาพแบบนั้นน่ะ” ฮารุสะต้องเดินเข้ามาลากโนบาระออกไปทำผม

    “คิดว่า รูปคู่เป็นไงบ้างล่ะ คิริน” โนบาระไม่สนใจนอกจากรูปถ่ายตัวเอง

    “เป็นคู่ที่น่าจิ้นดีนะค่ะ” ตอนนี้โนบาระก็ได้คู่หูใหม่เป็นยูนะไปแล้ว

    “ทำไมฉันถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้นะ” มีเสียงเล็ก ๆ ดังออกมาจากด้านหลังพวกหนุ่ม ๆ

    “เฮ้ย! ......เอมะ เธอก็มาอยู่ที่นี้ด้วยเหมือนกันเหรอ” ทาจิบานะถามด้วยความแปลกใจ

    “รุ่นพี่คิปเปไม่ได้เจอกันนานเลยนะค่ะ”

    “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ปกติเธอต้องอยู่ที่บ้านนอนตั้งคำถามไร้สาระแล้วก็.....พึมพำ ๆ” ชินจิพึมพำ

    “เลิกทำนิสัยเสีย ๆ แบบนั้นสักทีได้มั้ย...เห็นแล้วมันหงุดหงิด” เอมะหันไปพูดกับชินจิ

    “ก่อนจะว่า คนอื่นลองหันไปดูตัวเองก่อนมั้ย.....”

    “นี่ ๆ เจ้าพวกเด็กน้อยช่วยหลีกทางให้พวกฉันหน่อยได้มั้ย” พวกหนุ่ม ๆ ต้องรีบแหวกทางให้กับไอริกับคิริยูทันที

    “ริทสึ....พวกเราไปยื่นเรื่องขอยืนห้องโถงกับโค้ชไซโตะแล้วนะ”

    “งั้นเหรอ ๆ ขอบคุณมากนะค่ะพวกคุณพี่ไปนั่งพักก่อนก็ได้เถอะค่ะ”

    “แล้วเอกสารที่บอกให้เอาไปให้มันคืออะไรเหรอ” มิโนรุเดินเข้าไปกอดคอริทสึ

    “ก็แค่เอกสารยื่นคำขอเท่านั้นเองแหละนะ อย่าไปสนใจมันเลย” ริทสึเดินไปนั่งที่โซฟา

    “ดูท่าทางแปลก ๆ นะนายคิดเหมือนฉันหรือเปล่าเทะสึกะ” โออิชิถาม

    “อืม.....ดูเหมือนริทสึกำลังปิดบังอะไรพวกเราอยู่นั่นแหละ”

    “เทะสึกะ~ โออิชิ~ มัวทำอะไรอยู่รีบ ๆ เข้ามานั่งตรงนี้สิ” ริทสึตะโกนเรียก

    “อ๊ะ! ขอโทษด้วยค่ะ....เอ่อ.....ฉันไม่ได้ตั้งใจ...” ยูกะเผลอเดินชนแขนนิโอ

    “ปุริ! อยากรู้จักฉันขนาดนั้นก็บอกกันดี ๆ สิ”

    “อย่าหลงตัวเองให้มันมากนัก...ยูกะเป็นคนซุ่มซ่ามแล้วก็ขี้อายมาตั้งนานแล้วอย่ามายุ่งกับเธอนะ” มิกิเดินเข้ามาขวางแล้วพายูกะไปนั่งที่โซฟาทันที

    “ฮ่า ๆ ๆ ฉันชนะแล้วนะ” มิโนรุหัวเราะด้วยความดีใจเพราะเธอเพิ่งเล่นไพ่ชนะหนุ่ม ๆ

    “เมื่อกี้มันแค่ฟลุ๊กต่างหากล่ะ ฉันขอแก้มืออีกรอบ” คิริฮาระไม่ยอมแพ้

    “เฮ้อ~ พวกบ้า ๆ มาเจอกันก็เป็นแบบนี้ตลอดสินะ” เรียวถอนหายใจเบา ๆ

    “ทำไมถึงไม่ไปนั่งกับทุกคนล่ะ” ยานางิเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นน้ำผลไม้ให้กับเรียว

    “ฉันขอยืนดูอยู่ตรงนี้ดีกว่า....หวังว่า ริทสึคงไม่คิดอะไรแผลง ๆ ออกมาก็พอ”

    “พวกคุณทุกคนดูสนิทและยอมรับริทสึมากเลยนะ ทั้งที่ทุกคนก็มีฝีมือกันหมดทำไมถึงยอมทำตามริทสึล่ะ”

    “อาจจะเป็นเพราะ ความแข็งแรงแล้วก็นิสัยบ้าบิ่นของยัยนั้นล่ะมั้งทุกคนถึงได้ยอมรับ....คนบ้าที่พอมาเหยียบค่ายนี้ปุบก็รวมกลุ่มปฏิวัติพวกคอร์ท 1 ชุดเก่าทันทีแถมยังกล้าท้าทายกับพวกรุ่นพี่ในค่ายฝั่งนี้อีก.....แบบนั้นมันดูบ้ามากใช่มั้ยล่ะ”

    “มันก็ดูบ้ามากจริง ๆ เลยนะ”

    “ฮ่า ๆ เอจิระวังนะ” ริทสึเกิดนึกสนุกเลยเอาหมอกหนุนมาปาใส่คิคุมารุ

    “แบบนี้มันขี้โกงกันนิ ริทสึ” คิคุมารุปาหมอนใส่บ้างแต่ริทสึหลบได้แล้วไปโดนชิชิโดะแทน

    “อยากเล่นหนักสินะ พวกเธอ” ชิชิโดะลากโชทาโร่มาเล่นปาหมอนด้วยเหมือนกัน

    “อ๊ะ! ซานาดะระวังนะ” ยูคิมูระหลบหมอนที่ริทสึปามาได้แต่มันดันไปโดนหัวของซานาดะเต็ม ๆ

    “พวกนาย......เล่นบ้าอะไรกันฟ่ะ!!!” ซานาดะโกรธจัดแล้ว

    “ว่าแล้วเชียว....” เรียวถอนหายใจเบา ๆ

    “ไม่ไปเล่นกับพวกนั้นหน่อยเหรอครับ...” ยานางิถาม

    “ไม่ล่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงเก็บกวาด”

     

    “ให้ได้แบบนี้สิน่า อยากรู้จริง ๆ ว่า ควีนปกติเขาทำแบบนี้กันเหรอเนี่ย”

     

    Photobucket
     ซานาดะโดนตลอดเลยนะ (-__-) 


    Photobucket
     3P เจ้าค่า!! ขอด่วนเลย >///< 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×