ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Prince of tennis] love passion กระหน่ำหัวใจส่งให้เธอ

    ลำดับตอนที่ #44 : LOVE PASSION U-17 Past 10: ราชันย์ ปะทะ ตัวตลก...กับ...ผู้แพ้หวนกลับ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 988
      5
      9 ก.ค. 55

     

    กลับมาค่าย U-17 อีกครั้งซึ่งตอนนี้ปีกทั้ง 2 ของคิวชูกำลังแสดงให้พวกคอร์ท 3 ได้รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา

    2 คนนั้นเองเข้าขากันดีนะค่ะ พี่โอนิ” พอหลุดพ้นจากโดนยามาโตะแซวแล้วก็คิริฮาระที่เอาแต่เข้าอ้อนเป็นเด็ก ๆ ได้แล้วริทสึก็เดินมานั่งข้าง ๆ โอนิโดยที่ไม่ลืมเรียกเพื่อนร่วมทีมของเธอมายืนดูใกล้ ๆ ด้วย

    “...แน่นอน...” โอนิตอบเพียงสั้น ๆ

    “แต่ฉันว่า โชว์มันเพิ่งจะเริ่มมากกว่ามั้ง....” โนบาระยืนมองสถานการณ์ซึ่งตอนนี้พวกคอร์ท 3 ใช้ซิงโครทำเซอร์ไพรให้กับจิโทเสะและทาจิบานะ

    “เกมเซ็ท วอน บาย วาชิโอะ ซูซูกิ 7-6

    “ปีกทั้ง 2 ของคิวชูเป็นฝ่ายแพ้งั้นเหรอ...พวกคอร์ท 3 ม.ปลายคงเก่งเกินกว่าพวกนั้น”

    “ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะ เจ้าพวกนั้นก็แสดงให้แล้วว่า ถึงจะซิงโครกันก็ใช่ว่าจะชนะเสมอไป...พวกนั้นเก่งจริง......”

    “อืม....แพ้ 2 ชนะ 2 แบบนี้คงต้องตัดสินกันใจแมทต์สุดท้ายแล้วสินะ” เรียวพูดขึ้น

    “ใครจะฝ่ายชนะกัน....คอร์ท 3 หรือ คอร์ท 5....คิดถูกจริง ๆ ที่พาพวกเธอมาดูด้วยน่ะ” ริทสึหันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีม

    “ผู้ชนะคือ เฮียวเท!!!!

    “ผู้ที่จะชนะจะต้องเป็นอาโตเบะ!!

    “อาโตเบะ! อาโตเบะ! อาโตเบะ! อาโตเบะ....!!” เสียงโห่ร้องเชียร์ดังลั่นเมื่ออาโตเบะเดินเข้าสู่คอร์ท

    เปาะ!

    “หึ! ผู้ชนะจะต้องเป็นพวกเรา...คอร์ท 5” โชคชะตาทั้งหมดของคอร์ท 5 ถูกฝากฝั่งไว้ที่อาโตเบะเรียบร้อย

    “คุณน่ะเอาชนะพวกเราคอร์ท 3 ไม่ได้หรอกครับ” อิริเอะยิ้มบาง ๆ (คู่นี้ก็น่าจิ้ม! เร็นเอากล้องมาด่วน!!)

     

    ที่ห้องมอนิเตอร์

    “เป็นความจริงเหรอที่คอร์ท 5 กำลังจะชนะคอร์ท 3” เหล่าโค้ชทั้ง 3 คนได้มายืนรวมตัวกันที่หน้าจอมอนิเตอร์

    “พวกคอร์ท 5นี่มันพวกเด็กม.ต้นไม่ใช่เหรอจะไปสนใจทำไม...” โค้ชสึเกะพูดอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไร

    “ไม่หรอกครับ โค้ชสึเกะ...เพราะในนั้นมีบางคนที่ทำให้พวกเราต้องประหลาดใจมากที่สุด เดี๋ยวคุณคอยดูก็แล้วกันครับ” โค้ชไซโตะพูดขึ้น

    “เพราะแบบนี้สินะถึงปล่อยให้หลานสาวของนายเดินเพ่นพานในค่ายผู้ชายได้.....ใช้หลานตัวเองเป็นตาคอยมองในส่วนที่พวกเรามองไม่เห็นในตัวเด็กพวกนั้นสินะ”

    “แบบนี้สินะที่เรียกว่า แมวมอง”

    “พูดเรื่องอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” โค้ชไซโตะทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องที่โค้ชคุโระเบะพูด

     

    “มะ ไม่น่าเชื่อ เทคนิคของอิริเอะใช้ไม่ได้ผลเลย” คอร์ท 3 ยืนมองการแข่งด้วยความตะลึงเพราะว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งอาโตเบะได้แล้ว

    “เกม อาโตเบะ 5-0

    “...ทำ...ทำไมกัน...อย่ามาล้อฉันเล่นนะ!!

    “อาโตเบะ อาโตเบะ อาโตเบะ อาโตเบะ!!” พอเห็นว่า อาโตเบะกำลังจะมีชัยทุกคนก็ยิ่งส่งเสียงเชียร์ดังยิ่งขึ้นกว่าเดิม

    “ไม่อยากเชื่อว่า ฉันจะมาแพ้เจ้าเด็กม.ต้นนี่”

    “ได้เวลาที่จะแสดงให้เห็นว่า ยุคสมัยแห่งความแตกต่างระหว่างม.ต้นกับม.ปลายมันจบลงแล้ว”

    “ฉันไม่ยอมให้พวกนายเปลี่ยนแปลงมันได้ตามใจชอบหรอกน่า!!

    “รู้สึกมันจะจบลงแล้วสินะ พวกเรากลับกันเลยดีมั้ย” พอเรียวเห็นว่า พี่ชายของเธอกำลังชนะและขึ้นไปอยู่คอร์ท 3 เธอจึงวางแผนจะไปแสดงความยินดีกับพี่ชายทีหลัง

    “แต่ฉันว่า มันยังไม่จบหรอกนะ” ริทสึยังไม่คิดจะลุกออกจากที่นั่ง

    “ดูเธอจะยังคงเฉย ๆ กับการแข่งนี้อยู่นะ โคโนเอะ”

    “พี่อิริเอะนี่ก็เป็นซะแบบนี้ตลอดเลยสิน่า~ ชอบหลอกผู้แข่งให้ตายใจอยู่เรื่อยเห็นแล้วมันทำให้รู้สึกเหนื่อยใจชะมัดเพราะแบบนี้ล่ะถึงอยากอยู่กับพี่คาสึยะมากกว่า”

    “ริทสึจังหมายความว่ายังไงงั้นเหรอ” ฮารุสะถาม

    “นี่คง....ถึงเวลาที่ราชาจะถูกทำให้กลายเป็นตัวตลกแล้วสินะ หวังว่า อาโตเบะคุงจะหาอะไรทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจได้บ้างนะ” ริทสึเปลี่ยนมานั่งไขว่ห้างเอามือเท้าคางแล้วมองการแข่งอย่างสบายใจ

    40-40 ดิวซ์”

    “บ้าจริง!” อาโตเบะสบถ

    “ไม่เอาน่า อาโตเบะคุงอย่ามัวแต่เล่นสิครับ” อิริเอะยังมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่

    “อืม.......รู้สึกว่า ที่ผ่านมาเจ้านั้นสู้กับอิริเอะยังได้ไม่ดีเท่าไรนะ” ทาเนกาชิม่าแอบยืนมองในระยะไกลพอสมควร

    “ขอบอกตามความจริงนะ ผมรู้สึกไม่ดีกับเจ้าพวกม.ต้นนั้นเลย”

    “เกม อิริเอะ 3-5

    “เจ้าม.ปลายที่ชื่อ อิริเอะ...ถึงเจ้านั้นไม่ใช้วิธีตบตาแต่ฝีมือของเจ้านั้นก็เก่งเกินที่สุดอยู่แล้วล่ะ”

    “ฉันไม่ขอพูดนะ...แต่อยากจะบอกไว้ให้ว่า เจ้าอิริเอะไม่ใช่พวกคอร์ท 3 หรอกเจ้านั่นอยู่สูงกว่านั้นเยอะทั้งเจ้านั่นและฉันต่างก็ไม่ได้อยู่คอร์ท 3 แต่ที่อยู่เพื่อเพิ่มพลังให้กับพวกที่อยู่ระดับต่ำกว่าต่างหาก” โอนิพูดขึ้นโดยมีริทสึนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ

    “แต่พี่โอนิเก่งกว่าอยู่แล้วใช่ม่ะ”

    “อย่าบอกนะว่า เธอก็รู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว” คิริฮาระถาม

    “แน่นอนอยู่แล้วก็ฉันน่ะอยู่ที่นี้มานานกว่าพวกนายอีกนะ ถ้าไม่รู้เรื่องแบบนี้ก็บ้าแล้วล่ะ” ริทสึยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น

    “งั้นก็แปลว่า แมตท์นี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแล้วสิ....นายต้องชนะนะ อาโตเบะ!!” คิริฮาระเริ่มเกิดอาการร้อนรน

    “เกม อิริเอะ 6-5” ถึงคิริฮาระจะพูดแบบนั้นแต่ว่า พอมาเจอฝีมือจริง ๆ อิริเอะก็ทำให้อาโตเบะหืดขึ้นคอเหมือนกัน

    “ดูเหมือนฉันจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว” อาโตเบะพูดท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา

    “หิมะตกงั้นเหรอ.....เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาแล้วสิ” ริทสึต้องเขยิบเข้ามาไปนั่งใกล้ ๆ โอนิเพื่อทำให้ตัวอุ่นขึ้น

    “เอาเสื้อฉันไปใส่ซะ” โอนิต้องถอดเสื้อของตัวเองไปให้รุ่นน้องก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับการแข่งต่อ

    “ฉันจะเอามงกุฎแห่งชัยชนะมาด้วยการเล่นของฉันเอง......ชั้นมองเห็นทุกอย่างของนายแล้ว”

    “เกม อาโตเบะ 6-6

    “สุดยอดเข้าสู่ช่วงไทด์เบรคแล้ว...ไม่อยากเชื่อเลยว่า เด็กม.ต้นจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้”

    “ฮ่า ๆ คุณอาโตเบะเนี่ยเป็นยอดชายเหนือชายจังเลยนะ” ริทสึหันไปพูดกับเรียว

    “......แต่ก็ยังน่าทุเรศเหมือนเดิม”

    “เป็นผู้ชายที่น่าสนใจดีนะ อาโตเบะคุงเนี่ย” ฮารุสะดูจะเริ่มสนใจในตัวอาโตเบะ

    “มะ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นี่มันเป็นไทด์เบรกแบบไหนกัน”

    187-187..”

    “ฉันจะบอกว่า ต้องจบมันให้ได้!!” อิริเอะคิดจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

    “อาโตเบะ!!” ฝ่ายอาโตเบะเองก็สู้จนถึงที่สุดจนเขาพุ่งตัวไปชนเข้ากำแพงข้าง ๆ คอร์ท

    “ผมเองก็ยกหัวไหล่ต่อไม่ไหวเหมือนกัน”

    Nice Fight ผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถแข่งต่อได้จึงตัดสินว่า No Game!! แมทต์ต่อไปจะเป็นการตัดสินว่า ทีมไหนจะเป็นผู้ชนะแต่ละทีมช่วยส่งตัวแทนออกมาฝั่งละ 1 คน”

    “ถอยไปฉันขอออกเอง....” โอนิออกมาแข่งตัวเองแล้ว ส่วนริทสึที่ตอนแรกนั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เดินเข้าไปดูอาการของอาโตเบะ

    “อาโตเบะคุงโอเคใช่มั้ย” ริทสึนั่งยอง ๆ ข้างอาโตเบะ

    “แฮ่ก ๆ ริทสึ....เหรอ....” อาโตเบะลืมตาขึ้นมองหน้าสวย ๆ ของริทสึก่อนจะพยายามเอื้อมมือไปจับนิ้วเรียวของอีกฝ่าย

    “เรียวก็มาดูอาโตเบะคุงด้วยนะ....”

    “ดีใจจังที่เธอมาอยู่ข้าง ๆ ฉันแบบนี้การแข่งล่ะ...” ถึงจะเหนื่อยอ่อนสักแค่ไหนแต่เขาก็ยังให้ความสำคัญกับการแข่งมากกว่า

    “ไม่ต้องห่วงนะ พี่โอนิลงไปแข่งด้วยตัวเองแบบนี้คอร์ท 5 ต้องชนะแน่นอนจ๊ะ”

    “งั้นเหรอ....ดีแล้วล่ะ....” พูดจบก็ปล่อยมือออกจากนิ้วสวย ๆ ของริทสึ

    Photobucket

    “เกม เซ็ท วอนบาย โอนิ 6-0....ชนะ 3 แพ้ 2 และ 1 No game การแข่งสลับทีมคอร์ท 5 เป็นฝ่ายชนะ”

    “เฮ้! แล้วพวกคอร์ท 2 ล่ะวันนี้ก็ยังไม่มางั้นเหรอ” พูดยังไม่ทันจบเหล่าเด็กหนุ่มในเสื้อคลุมสีดำก็เดินเข้ามาในสภาพยับเยินจากปีนขึ้นมาจากขุมนรก

    “เจ้าพวกนั้นกลับมาแล้วงั้นเหรอ!!?

    “พวกเรากลับมาจากก้นบึ้งของขุมนรกแล้วยังไงล่ะใช่มั้ย โคชิมาเอะ”

    “ยะ อย่ามาล้อเล่นนะคิดว่า พวกนายกลับมาแล้วพวกเราจะยอมรับได้ทันทีงั้นเหรอ! ไสหัวออกจากที่นี้ไปซะ!!!” เหล่านักกีฬาในค่ายต่างไม่พอใจระดมตีบอลใส่ผู้พ่ายแพ้

    “สงสัยได้เวลาฉันออกโรงแล้วสินะ” ทานิชิโต้บอลกลับได้ทุกลูกแถมเขายังดูผอมลงไปเยอะเลยด้วย

    “นานแล้วนะ....ที่ฉันไม่ได้เห็นบอลลูกใหม่แบบนี้” เคนยะวิ่งมาอยู่ด้านหลังของม.ปลายคนหนึ่ง

    “เฮ้ย! ไอ้ออร่าสีดำนี่มันอะไรกัน...!!

    “อยากให้ฉันเป็นคนจัดการพวกนายด้วยตัวฉันเองใช่มั้ย” ซานาดะเอาแร็กเก็ตชี้ไปที่พวกม.ปลายแล้วปล่อยออร่าสีดำน่ากลัวออกมา

    แปะ ๆ ๆ

    “เอาล่ะหนุ่ม ๆ จบการทดสอบกันเพียงแค่นี้เถอะนะ”

    “นั่นสินะ แค่นี้ก็คงพอแล้วล่ะไม่จำเป็นต้องทดสอบอะไรให้มากกว่านี้อีกแล้ว” ทาเนกาชิม่ากับริทสึต้องเข้ามาหยุดทั้ง 2 ฝ่ายเอาไว้ก่อน

    “คุณทาเนกาชิม่านี่นาและควีนของค่ายคุณโคโนเอะออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ”

    “แล้วมันไม่ดีรึไงล่ะ....ขอต้อนรับกลับบ้านนะทุกคน” ริทสึหันไปส่งยิ้มให้กับพวกซานาดะ

    “ฟังทางนี้! พวกเด็กทั้งหลายขณะนี้มีประกาศ.....จากเฮดโค้ชให้เหล่านักเรียนม.ต้น 27 คนที่อยู่กลุ่มผู้แพ้ได้ถูกอนุมัติให้เป็นผู้เล่นคอร์ท 2 แล้ว”

    “ยินดีด้วยนะทุกคน.....เอาล่ะพวกที่เหลือกลับไปซ้อมต่อได้แล้ว” ริทสึแสดงความยินดีก่อนจะไปสั่งให้พวกนักกีฬาที่เหลือกลับไปซ้อมดังเดิม

    “การแข่งขันเทนนิสที่เกาหลีใต้ ภูมิภาคเอเชียและยุโรปได้จบแล้ว สมาชิกที่ได้ไปแข่งจำนวน 20 คนจะกลับมาในอีก 10 วันจากนี้ เพื่อที่จะแข่งขันกับพวกเขาเราจำการคัดเลือกตัวแทน 20 คนจาก 146 คน......ฯลฯ”

    “รับทราบครับ!!!” หนุ่ม ๆ ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนทันทีโดยที่บางคนไม่รู้เลยว่า มีคนกำลังยืนรอเขาอยู่

    “หึ ๆ บ่อน้ำร้อนนี่สบายตัวดีชะมัด” เหล่าหนุ่ม ๆ เริ่มทยอยเดินออกจากบ่อน้ำร้อน

    “มันก็น่าสบายอยู่หรอกนะสำหรับพวกนายน่ะ” เสียงเล็ก ๆ ขึ้นมาจากทางไหนก็ไม่รู้

    “แน่นอนอยู่แล้ว....เฮ้ย! นี่เธอ....มาได้ไงน่ะ!?” ซานาดะคุ้นเคยกับเสียงเล็ก ๆ นี้เป็นอย่างดีจึงรู้ตัวก่อนเป็นคนแรก

    “ไง~ น้ำอุ่นกำลังดีเลยมั้ยล่ะ ซานาดะ” ริทสึถาม

    “ใครใช้ให้เธอมาที่นี้กันเนี่ย! ไม่เห็นหรือไงว่า มีใครอยู่กันบ้าง....” ซานาดะดุใส่ทันที (คนมันหวงน่ะคร้าบ~

    “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั่นหรอกน่า ที่นี้ไม่มีใครกล้าทำฉันทั้งนั้นล่ะ” ริทสึตอบอย่างสบายใจแต่คนที่ไม่สบายคือ ซานาดะที่เป็นห่วงอีกฝ่ายมากกว่าใคร...

    “ช่วยหัดดูแลตัวเองบ้างได้มั้ย” ซานาดะถอนหายใจ

    “เฮ้! พวกเธอ 2 คนเป็นแฟนกันเหรอ” ชิราอิชิถามอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    “ใช่ที่ไหนกันล่ะ!!” ทั้งคู่ตอบกลับพร้อม ๆ

    “ใครอยากจะไปได้ผู้หญิงจอมจุ้นพูดเท่าไรก็ไม่เคยฟังแถมยังดื้อด้านแบบนี้เป็นแฟนกัน”

    “ทำยังกะว่า มีคนอยากได้ผู้ชายที่เอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแถมยังหน้าแก่ก่อนวัยอย่างนายไปเป็นแฟน....แบร่~” ริทสึแล่บลิ้นใส่ซานาดะแถมยังกวนให้ซานาดะโมโหอีกต่างหาก

    “พวกเขาเป็นแบบนี้กันประจำเลยเหรอ” ชิราอิชิหันไปถามยานางิ

    “อันที่จริงเวลาอยู่ที่โรงเรียนน่ะเป็นหนักกว่าอีกนะ” ยานางิตอบ

    “จริงด้วย ๆ เสียเวลาทะเลาะกับเจ้าซามูไรมากเกินไปจนเกือบลืมไปเลยว่า มาทำอะไรที่นี้”

    “แล้วเธอมาทำอะไรที่นี้กันล่ะ.....”

    “พูดมากน่า....ย้าก!!” ริทสึชกเข้าที่ท้องของซานาดะเต็มแรง

    “อั๊ก! เธอทำบ้าอะไรของเธอกันเนี่ย” ซานาดะกัดฟันข่มความเจ็บปวดเอาไว้

    “ก็พานายไปทำแผลยังไงล่ะ ฝึกบ้าฝึกบออะไรกันได้แผลมาเยอะกว่าชาวบ้านอีกเนี่ยเจ้าซามูไรบ้า” ริทสึคว้าคอเสื้อของซานาดะแล้วลากเขาไปที่ห้องพยาบาลกันทันที

    “โหดจนดูเหมาะสมจังเลยนะ”

    “คิดเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ”

     

    ที่ห้องพยาบาล

    “นายไปฝึกอะไรบ้างเนี่ยได้แผลมาทั้งตัวเลยนะ” ริทสึถึงกลับไปขู่น้าให้เปิดห้องพยาบาลแถมยังไล่ทีมแพทย์ออกไปอีกต่างหากเพื่ออยู่ทำแผลให้กับซานาดะตามลำพัง

    “ก็นี่ล่ะคือ การฝึกแบบของฉันไงล่ะ” ซานาดะพูดก่อนจะเอียงหน้าหนีเมื่อเห็นริทสึกำลังจะเอาสำลีที่ชุ่มแอลกอฮอล์แบบเต็มที่มาใกล้ ๆ เขา

    “อย่าหันหน้าหนีสิยะ!” ริทสึต้องจับหน้าซานาดะให้อยู่นิ่ง ๆ ตอนนี้ซานาดะทำได้อย่างเดียวคือ นั่งอยู่เฉย ๆ ให้ริทสึทำแผลให้เท่านั้น

    “โอย! นี่เธอมือหนักไปหรือเปล่าเนี่ย”

    “เปล่าสักหน่อย...ตานี้ไปโดนบอลใช่มั้ยตาบวมฉึ่งเชียวแล้วตัวนายก็มีแผลเต็มไปหมดเลย ช่วยดูแลเองหน่อยสิ” ริทสึบ่นเป็นคุณแม่ไปแล้ว

    “บ่นอยู่ได้น่ารำคาญชะมัดเลย”

    “ก็ฉันเป็นห่วงนายถึงได้บ่นไง อ๊ะ...!” ริทสึเผลอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เธอต้องรีบหันหน้าหนีซานาดะทันที

    “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ชัด” ซานาดะพยายามยื่นหน้าไปมองหน้าของริทสึให้ชัด ๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าแดงยิ่งกว่าลูกเชอร์รี่ซะอีก

    “ยะ อย่ายุ่งกับฉันได้มั้ย อะ เอาเป็นว่า เมื่อกี้นายช่วยทำเป็นไม่ได้ยินอะไรก็แล้วกัน”

    “พอมองใกล้ ๆ แล้วทำไมตาเธอถึงคล้ำแบบนั้นล่ะ” พอริทสึได้ยินแบบนั้นก็รีบเอาผ้าห่มจากเตียงคนไข้มาคลุมตัวทันที

    “อ้าก~ หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะอีตาบ้า” ยิ่งซานาดะพูดอะไรที่ทำให้ริทสึออกอาการเขินออกมามากเท่าไรเธอก็ยิ่งขดตัวกับผ้าห่มมาขึ้นเท่านั้น

    “หึ ๆ พูดแค่นี้ก็เขินแล้วงั้นเหรอ” ซานาดะลูบตรงจุดที่น่าจะเป็นหัวของริทสึ

    “งืม~

    “ฉันเองก็.....คิดถึงเธอเหมือนกันนะ....” ซานาดะเบือนหน้าหนีไปอื่นก่อนที่ริทสึจะโผล่ออกมาเห็น

    “......ฉะ ฉันว่า เรามาทำแผลกันให้เสร็จเถอะนะ” ริทสึค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม

    “ก็ได้.......แล้วฉันจะต้องถอดเสื้อโชว์เธอหรือเปล่าเนี่ย...”

    “อย่าทำแบบนั้นเชียวนะ!! >////<

     

    “ดีใจชะมัดเลยที่เธอเป็นห่วงฉัน”

     ตอนนี้ขอยกย่องคุณชายอย่างมากเลยค่า~
    Photobucket

    วิธีการจูบ 22 ท่าที่มัดใจสาว Y ได้ทุกคน กรุณาเตรียมทิชชู่เอาไว้ด้วยนะค่ะ ^^
    Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×