ข้อมูลเบื้องต้น
เรื่อง ต้นกวนอิม
มีสถานธรรมอยู่แห่งหนึ่ง ผู้คนที่นี่มักจะเเบ่งหน้าที่กันมาทำความสะอาดอยู่เสมอ และที่ห้องพระก็จะมีแจกันต้นกวนอิมตั้งอยู่บนโต๊ะพระอยู่สองด้าน ด้านซ้ายเเละด้านขวา มีอยู่วันหนึ่งด้วยความที่ต้นไม้ย่อมเจริญเติบโตไปตามกาลเวลา ต้นกวนอิมก็เช่นกันกิ่งก้านสาขาเเละใบของมัน ยื่นไปเกือบจะติดบนเพดาน ผู้ดูแลทำความสะอาดจึงตัดเเต่งยอดของมันออกให้เหลือความสูงที่พอดีแล้วก็เอาส่วนที่ไม่ใช้เเล้วโยนทิ้งออกไปให้ไกลจากหน้าต่าง ส่วนของต้นกวนอิมที่ถูกตัดทิ้งนั้นได้ตกลงไปในดงป่าหญ้าที่กว้างใหญ่ที่ไม่มีใครเลยจะมาดูแลทำความสะอาดเช็ดใบเเละให้นำ้กับมันอีก มันเสียใจมาก พลางคิดในใจว่าในเมื่อไม่ต้องการทำไมไม่เอาฉันไปปลูกในที่ดีๆ ทำไมต้องทิ้งขว้างกันอย่างนี้ มันโศกเศร้าเสียใจอย่างหนัก เเต่โชคยังดีที่มีฝนตกลงมาโปรยปรายให้พอได้ชื่นใจบ้าง ไม่นานมันก็ติดรากชอนใช ฝังรากแน่นกับติด มีเพียงน้ำฝนเท่านั้นที่หล่อเลี้ยงให้มันอยู่รอดได้ เวลาผ่านไปไม่นาน เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ต้นกวนอิมได้ขยายกิ่งก้านสาขาได้อย่างเต็มที่ไม่เเหมือนกับอยู่ในเเเจกันข้างบนนั้นที่ไม่สามารถเติบโตได้มากสักเท่าไหร่ เพียงแต่ตอนนี้ต้นกวนอิมได้เติบโตอย่างเต็มที่ และสวยงามยิ่งนักต้นของมันสูงจนเด่นสะดุดตาในหมู่ต้นหญ้าที่อยู่รายรอบ และมันก็ไม่เสียใจเลยที่ถูกตัดทิ้งกลับดีใจซะอีก เพราะมันเหมือนได้ชีวิตใหม่เเละดีกว่าเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งคนในสถานธรรมเดินมาสำรวจป่ากันรอบๆเเละได้พบกับต้นกวนอิมต้นหนึ่งซึ่งสวยงามยิ่งนักเหมาะสำหรับที่จะเอาไปตกเเต่งโต๊ะพระเเทนต้นเก่าจึงจะขอตัดไปใส่เเจกัน จึงพูดขึ้นว่า
คนตัดแต่งกิ่งไม้ : ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีต้นกวนอิมที่ใหญ่โตและสง่างามอยู่ตรงนี้ ขอตัดกิ่งของเจ้าไปจัดเเต่งโต๊ะพระได้รึไม่
ต้นกวนอิมจำได้ว่าคนพวกนี้คือคนที่ตัดตนเองเเละโยนตนทิ้งออกมาข้างนอกอย่างไม่ใยดีในวันนั้น จึงพูดกับคนพวกนี้ว่า
ต้นกวนอิม : ท่านไม่ละอายใจบ้างหรือ
คนตัดแต่งกิ่งไม้ : ละอายใจเรื่องอะไรกัน??
ต้นกวนอิม : พวกท่านจำได้หรือไม่ว่าเคยตัดข้าและโยนข้าทิ้งลงมาอย่างไม่ใยดี แทนที่ท่านจะนำข้าไปปลูกลงดินให้เรียบร้อยท่านก็ไม่ทำ ปล่อยให้ข้าอยู่ไปตามเวรตามกรรมโชคดีที่มีนำ้ฝนคอยหล่อเลี้ยงชีวิตข้าๆจึงอยู่รอดมาได้ และตอนนี้เมื่อข้าเติบโตดีแล้วท่านกลับมีหน้ามาขอกิ่งใบของข้าไปประดับแจกันอีก ความละอายใจของท่านไปไหนหมด เศษกิ่งไม้ที่ถูกตัดทิ้งอย่างข้าคงไม่เหมาะที่จะไปอยู่ในเเจกันของใคร ท่านกลับไปเถอะ!!
พวกคนจัดแจกันได้ฟังดังนั้นจึงได้แต่ยืนนิ่ง เกิดความละอายใจกับสิ่งที่พวกตนได้ทำไป คิดไม่ถึงว่าเศษกิ่งไม้ที่ตนได้ตัดทิ้งตอนไปนั้นอย่างไม่สนใจใยดีจะเติบโตยิ่งใหญ่ได้เช่นนี้ พอรู้ก็สายเกินไปเสียแล้ว
พวกเขาต้องเดินกลับไปมือเปล่า โดยไม่ได้ต้นไม้ไปประดับแจกันสักต้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : อย่าดูหมิ่นคนที่อาจดูตำ่ต้อยกว่าคุณ หากคุณยังไม่รู้จักจิตใจของเขาดีพอ
ความคิดเห็น