คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่7 : หารือ(Part 1)
“ค...ความฝัน”
“ใช่ ความฝัน”ไคล์ร่าเอ่ยพลางยิ้มมุมปาก “บางทีนี่อาจจะทำให้เจ้าคิดดูใหม่ เรื่องว่ายไปคุยไปกับข้า”นางวาดมือเป็นรัศมี ทำให้ความมืดรอบด้านค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นภาพของใต้ท้องทะเลสีน้ำเงินเข้ม
แอมเบอร์มองภาพรอบด้านอย่างประหลาดใจแล้วหันกลับมาสบตานาง...
“คิดๆ ดูก็ไม่เลว”
“ดี”ไคล์ร่าเอ่ยพลางว่ายไปข้างหน้า “ตอนแรกข้าสงสัยว่าทำไม ไคล์ร่าอีกคนถึงยอมให้เจ้าเจอข้า แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว...”
แอมเบอร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วว่ายตามไปขนานกับนางก่อนจะแอบเหลียวหลังไปมองหางยาวๆ ที่กำลังแหวกว่ายไปตามน้ำอย่างสนใจสลับกับหางของตัวเองที่ยาวไม่ถึงหนึ่งส่วนสามของนางก็นึกสงสัยว่าหางของไคล์ร่าทำไมจึงยาวนัก...
“เจ้าสนใจหางของข้าหรือไง”นางถามขึ้นมาทำให้คนที่กำลังมองสิ่งที่ว่าอยู่เพลินๆ สะดุ้งเฮือก
“อะ...ก็นิดหน่อย”แอมเบอร์ยิ้มแห้งๆ
“ครึ่งเงือกครึ่งงูทะเล...ข้าก็เหมือนเจ้า ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์”นางเอ่ยเนิบๆ แล้วหยุดว่ายไปเสียดื้อๆ ไม่คิดบอกกล่าว ทำเอาอมเบอร์แทบแบรกตามไม่ทัน “เจ้าอาจะอยากรู้ว่าทำไมเจ้าชายโคลรีนถึงถูกนำตัวไป”แอมเบอร์มองหนานางแล้วพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจนัก “เจ้าคงรู้จักสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าสินะ...”
คนถูกถามเลิกคิ้วเล็กน้อย...
“คิดว่ารู้นะ”แอมเบอร์ยักใหล่ นี่ทำให้ไคล์ร่าสรุปว่าเธอคงรู้ไม่มากเท่าที่นางต้องการ
“ข้าจะแสดงให้เจ้าดู”สิ้เสียงนางพญากรณ์สีขาว ฉับพลันหางยาวๆ ของนางก็วนมาพันรอบตัวเอาไว้แน่นภายในเวลาไม่กี่อึดใจเดียว นี่ทำให้แอมเบอร์ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะดิ้นยุกยิกพอเป็นพิธี
“เออ...ฉันว่าแบบนี้เริ่มไม่ดีแล้ว”สาวน้อยยิ้มแหย่ๆ ปิดท้าย สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มเบาบางอย่างมีเลศนัยน์ แอมเบอร์กลืนน้ำลายเฝื่อนคอ...
ไคล์ร่าพาร่างของแอมเบอร์ว่ายไปข้างหน้าเรื่อยๆ โดยความเร็วในการเคลื่อนที่ของทั้งคู่เร็วขึ้นทุกวินาที ผมยาวๆ ของอมเบอร์เหยียดตรงชี้ไปข้างหลัง แรงดันน้ำที่ตีหน้าเธอพับๆ ทำให้เธอรู้สึกว่าการทำคอตรงๆ เป็นอะไรที่ยากที่สุดในโลก ณ ตอนนี้...
“ร...เรากำลังจะไปไหนกัน???”แอมเบอร์รวบรวมพลังตะโกนถามออกไป แล้วแหล่ไปมองไคล์ร่า...นางไม่ยอมพูดตอบอะไรสิ้น ภาพรอบตัวค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีเหตุผล สว่างมากเสียจนแสบตาและไม่อาจมองอะไรเห็น แอมเบอร์หลับตาปี๋ เธอเริ่มจับทางได้ว่าตัวเองคงกำลังย้ายจากเดิมไปยังอีกที่ที่ห่างไกลออกไป เนื่องจากว่าวันนี้เธอข้ามมิติหรือะไรทำนองนั้นเยอะเกินไปจนเริ่มรู้สึกคลื่นใส้
กระแสน้ำที่ตีหน้าเธอเมื่อครู่ จู่ๆ ก็หายไปเฉยๆ แอมเบอร์ลืมตาขึ้นทันทีที่รู้ตัวว่ารอบข้างเป็นปกติแล้ว เธอไม่รู้สึกอดอัดอีก...ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรียวหางยาวๆ ของไคล์ร่าไม่ได้รัดอยู่รอบตัวเธอแล้ว คำถามที่ดีข้อหนึ่งคือ...นางหายไปไหน?
แอมเบอร์กวาดสายตาไปรอบๆ ตัวเพื่อมองหาคำตอบว่าเธออยู่ที่ไหน และสาวน้อยก้ต้องตกตะลึงเมื่อรอบกายของเธอคือความวุ่นวายชุลมุนของหมู่สัตว์น้ำและชาวเงือกมากมายนับไม่ถ้วนที่กำลังว่ายน้ำไปทางเดียวกันอย่างรีบร้อนราวกับหนีอะไรบางอย่าง แอมเบอร์ถูกชนแล้วชนอีกจนเธอปฏิเสธไม่ได้ที่จะว่ายไปตามทิศทางพวกนั้น
“อ....อะ เดี๋ยว ใครก็ได้ อ๊ะ...”แอมเบอร์พยายามพูดกับใครสักคนที่พร้อมจะฟังเธอ แต่ ณ ที่ตรงนี้ดูเหมือนจะไม่มีคนแบบนั้น “ไคล์ร่า! ไคล์ร่า!”เธอตะโกนเรียกหาคนที่น่าจะมากับเธอแล้วหันซ้ายขวา อะไรบางอย่างที่น่ากลัวกำลังจะมาที่นี่ เธอรู้สึกได้ “ฉันรู้ว่าคุณได้ยิน!”
...ไร้สุรเสียงตอบกลับ...
แอมเบอร์กัดฟันกรอด แล้วเร่งความเร็วให้เร็วขึ้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปไหน หรือกำลังหนีอะไรอยู่ เธอต้องการคำอธิบาย
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย ได้โปรด”เสียงเล็กๆ ดังแว่วมาท่ามกลางความวุ่นวาย แต่ถึงกระนั้นเธอก็ได้ยิน
แอมเบอร์ชะลอการว่ายของตัวเองล้วพยายามมองหาต้นเสียงนั้น...แล้วเธอก็เหลือบไปเห็นครีบเล็กๆ สีส้มภายใต้กองหิน พยายามโบกสะบัดพัดก้อนหินที่ใหญ่กว่าตัวเองออกไป แน่นอนว่าเธอคงไม่รีรอรรีบดิ่งลงไปที่ก้นทะเลทันที
หินเหล่านั้นถูกยอกออก ปลาสิงโตตัวน้อยเป็นอิสระ แต่ช่างอ่อนล้า แอมเบอร์ประคองปลาน้อยขึ้นมา
“เป็นอะไรมั้ย”
“โอ...ขอบคุณ แม่หญิง ขอบคุณจริงๆ”ปลาสิงโตพูดไปหอบไปอย่างเหนื่อยอ่อน
“ไม่เป็นไร ฉันแอมเบอร์”
“ข้าราเคล”ปลาน้อยเอ่ย
“ไปเถอะ”สาวน้อยคอ่ยๆ ผักปลาน้อยผู้เหนื่อยล้าไปข้างหน้า “เกิดอะไรขึ้น”คำถามนี้ทำให้ราเคลหันมาทำาโตใส่เธอ
“หมายความว่าอย่างไร? เกิดอะไรขึ้น?”น้ำเสียงตกอกตกใจจากราเคลทำให้เธอรู้ว่าเธอคงถามอะไรที่ชาวบ้านปกติไม่น่าจะถามกันออกไป
“เออ...ฉันเพิ่งกับลงมา...”แอมเบอร์พยายามคิดหาข้ออ้าง เธอชักไม่เชื่อว่าตอนนี้เธออยู่ในฝันของตัวเอง อย่างน้อยถ้ามันเป็นจริง เธอก็น่าจะควบคุมอะไรได้บ้างสิ! “จากข้างบน”
“หาที่หลบก่อนดีกว่า ท่านแอมเบอร์ ข้าจะอธิบายท่านคร่าวๆ”ราเคลเอ่ย
ทั้งคู่ว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำหินเล็กๆ ความจริงมันคือกองหิที่กองทับกันลงมา แต่ในสถานการณ์แบบนี้อะไรก็ได้ทั้งนั้น...
“ท่านมาทำอะไรแถวนี้ ถ้าท่านงมาจากฝั่ง ท่านน่าจะว่ายตามกระแสน้ำไปสิ”ราเคลถามเธอ
...แล้วฉันจะเอาอะไรไปตอบดีล่ะเนี่ย!...
ความคิดเธอตีกันเองอยู่ในหัว คิดอะไรได้ก็คงต้องพูดไปก่อน
“บ้านน่ะ! บ้านฉํนอยู่เอ่อ...แถวๆ โน้น”แอมเบอร์ชี้ไม้ชี้มือไปตรงทางที่ทุกคนพยายามจะหนีมา ราเคลยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่...
“เบอร์มิวด้าเนี่ยนะ!?”
...อ้าวเวรแล้ว อย่าว่าแต่นางเงือกเลย...สัตว์ประหลาดวิปริตอะไรอาศัยอยู่ตรงเบอร์มิวด้า...
แม้จะฟังดูงี่เง่า แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ทีไหนของโลก
“ไม่! เอ่อ...เลยไปอีกเยอะๆ น่ะ ฉันลงผิดอ่าว เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ! ช่วยบอกหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น เรากำลังหนีอะไรกัน?”
“คราเคน แม่หญิง ครเคน!”ราเรลแตกตื่นใหญ่
“ค...คราเคน?”แอมเบอร์ทวนซ้ำอย่างไม่เชื่อหู เท่าที่เธอรู้มา มันคือปลาหมึกยักษ์อศูรรับใช้ของคราซิส ผู้วิเศษณ์ยิ่งใหญ่แห่งท้องทะเล เขาเป็นพันธมิตรกับห้ากษัตริย์ของมหาสมุทรทุกอาณาจักรในโลก และถ้าจำไม่ผิด มันเป็นแค่นิทานก่อนนอนของเธอ “ทำไมต้องหนี คราซิสไม่สั่งให้ครเคนทำร้ายใครนี่?(ตามนิทานที่ฟังมา)”
“คราซิสถูกฆ่าแล้ว แม่หญิง โดยคราเคน...”
“ทำไมกัน!? ทำไมปลาหมึก...ถึงสังหารนายตัวเองล่ะ!?”แอมเบอร์เบิกตากว้าง...เธอเคยชอบเรื่องนี้มาก เพราะเท่าที่เธอรู้ คราซิสเป็นคนช่วยคราเคนที่บาดเจ็บปางตาย...และมันถวายกายใจรับใช้เขา ตอนจบของเรื่อง...ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มันเป็นแฮปปี้เอนด์ไม่ใช่หรือ?
“เขาพบรัก...กับเงือกสาว ดูเหมือนว่ามันจะทำให้เขาจำเป็นต้องตัดพันธะกับเจ้าอศูรนั่น มันโกรธแค้นบ้าคลั่ง ท้องทะเลปั่นป่วนไปหมด หลังจากมันฆ่าคราซิส มันพยายามตามหานางผู้นั้น ข้าไม่รู้ว่ามันเจอหรือยัง แต่เท่าที่เห็น อาลวาดขนาดนี้คงจะยังไม่เจอเป็นแน่”ปลาน้อยเอ่ยพลางเหลียวไปมองปากถ้ำ “ข้าว่าเรารีบไปเถอะแม่หญิง คนเริ่มซาเต็มที เกรงว่าเราจะช้า...”
“อื้ม...”แอมเบอร์พยักหน้า วินาทีที่เอขยับหางเพื่อนจะตามเขาไปนั้น ร่างกายเธอก็หยุดชะงัก...
ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือภาพของราเคลที่เหลียวหลังกลับมามองเธอด้วยสายตาเชิงถาม สรรพสิ่งรอตัวหายไปฉับพลัน และถูกแทนที่ด้วยความมืด ความอึดอัดค่อยๆ ถาโถมเข้าใส่ รู้ตัวอีกทีรอบตัวของเธอก็ถูกพันด้วยนางสีเงินเป็นประกายของไคล์ร่าอีกแล้ว...
“ค...ไคล์ร่า?”แอมเบอร์สะดุ้งโตใจ แล้วหอบหายใจถี่รัว “ม...เมื่อกี้นี้...”
“ความฝันเจ้า”นางเอ่ยเนิบๆ สาวน้อยใช้ลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งปากเพราะความตกใจ และร่างกายทีเหนื่อยล้า “ฝันซ้อนฝัน”
“เรื่องเป้นไงต่อ”แอมเบอร์ถามต่อทันที ทั้งๆ ที่ตอนนี้แค่ลืมตายังยาก “พวกเขาผนึกมันได้ไหม?”
ไคล์ร่ามองแอมเบอร์ด้วยสายตาบอกความรู้สึกไม่ได้ ก่อนจะรัดต่างบางให้แน่นขึ้นกว่าเดิม...แน่นเสียงจนอึดอัดหายใจไม่ออก นี่หวังว่านางคงไม่ได้ตั้งใจจะบดขยี่กระดูกของเธอให้เป็นท่อนๆ เพื่อจะได้เคี้ยวง่ายๆ หรือใช่ไหม!
“อัก...”แอมเบอร์กัดฟันกรอด “ค...ไคล์...ร่า...”
ภาพรอบกายค่อยๆ เลือนรางหายไป...เธอรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างกำลังดูดกลืนเรี่ยวแรงของเธอออกไปทีละน้อย
“ข้าจะแสดงให้เจ้าดู”
นี่คือเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะดับวูบ...
เฮือก!
สาวน้อยสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งจากภวังค์ เป็นตอนนี้เองที่เธอเริ่มจะอยากรู้นิดๆ ว่าเธอจะต้องเจออะไรแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาอีกสักกี่รอบ เธอรู้สึกไม่ดีกับมันเอาเสียเลย
แอมเบอร์กวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อสำรวจว่าคราวนี้ไคล์ร่าพาเธอมาที่ไหน ก่อจะพบว่ารอบด้านคือความมืดของใต้สมุทร ที่มีเพียงแสงสลัวๆ พอให้เห็นทาง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างใกล้ๆ นี้ ราวกับเป็นเสียงสนทนาของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน
เธอเงี่ยหูฟังแล้วว่ายน้ำตามเสียงนนั้นไป...
พ้นขอบโขดหินไปสองฟุต เธอแทบจะว่ายกลับมาหลับไม่ทัน...เบื้องหลังโขดหินคือห้าพระมหากษัตริย์แห่งห้าคาบสมุทร ล้อมรอบร่างใหญ่ยักษ์ของปลาหมึกอศูรกาย ที่ค่อยๆ หดเล็กลงอย่างช้าๆ เป็นผลอันเนื่องมาจากมนตรา...มันนอนหมอบอย่างเหนื่อยอ่อน เบื้องล่างของมัคือวงแหวนเวทสีดำวงใหญ่ ที่มีลายละเอียดซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบาย
“สงบเถิด ปีศาจแห่งท้องทะเล นายของเจ้าไม่เคยปรารถนาให้เจ้าทำร้ายใคร...”กษัตริย์องค์หนึ่งเอ่ยขึ้น
คราเคนทำเสียงฟึดฟัดไม่ชอบอารมณ์ หากแต่เพราะวงแหวนผนึกของเล่ากษัตริย์ มันจึงอาลวาดไปไม่ได้มากกว่านี้...
“นายข้า...”เสียงแหบแห้งของอศูรกายที่บัดนี้ตัวหดเหลือขนาดเพียงไม่เกินรถม้าสักคัน...ดูจากกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งของมัน เห็นได้ชัดเลยว่ามันพยายามต่อต้านพลังที่สะกดมันไว้ “เขาไม่แม้แต่จะใส่ใจข้า...เขาทุ่มเททุกอย่างให้บาง และสุดท้าย เข้าก็ทิ้งข้าไปหานาง ทั้งที่ข้า...จงรักภักดีแต่เพียงเขา!!!”เสียงในตอนแรกแผ่วเบา และหนักแน่นขึ้นมาในตอนท้าย แม้มันจะฟังดูแผ่วเบาสังเพียงใด แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเคียดแค้นที่ส่งผ่านมาอย่างล้นเหลือ “ข้าจะกลับมา! กษัตริย์แห่งท้องทะเลทั้งห้า ข้าจะแก้แค้นทั้งพวกท่าน และเขา!”คราเคนคำรามเสียงคำราม หนวดของมันพยายามขยับและดีดดิ้นให้หลุดพ้นพันธนาการ หากแต่ไร้ผล “ข้าจะตื่นขึ้น ในวันที่ลูกหลานที่มีสายเลือดของคราซิสถือกำเนิด...ทารกคนที่สองที่มีสายเลือดของเขา จะทำให้ข้าหลุดพ้นจากพวกท่าน!”
“คราซิสสาปแช่งตระกูลของเขาแล้ว คราเคน...เขารู้ดีถึงวันนี้ ที่คาถานี้จะต้องถูกใช้กับเจ้า พวกเขามีบุตรได้แค่ครั้งเดียว...”หนึ่งในห้ากษัตริย์เอ่ยอย่างเยือกเย็น “คราเคน...เมื่อเจ้าพร้อมใจจะรับใช้เขา เจ้าก็ควรจะเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้เช่นกัน...”อศูรร้ายไม่ใส่ใจคำใดๆ ที่กษัตริย์ตรัส มันรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย คำรามออกมาอย่างสุดเสียง
“แล้วท่านจะได้รู้สึกถึงความสูญเสียที่ข้ามี! ข้าจะกลับมาสังเวยชีวิตของรัชทายาทแห่งห้าคาบสมุทร จำคำข้าเอาไว้ เหล่ากษัตริย์ทั้งหลาย ลูกหลานของพวกท่านจะต้องชดใช้!!!”
ลำแสงสีดำทมิฬสว่างวาบจากเบื้องล่าง...เสียงกรีดร้อนของอศุรร้ายแห่งท้องทะเลดังก้องไปทั่วทุกสารทิศ ร่างของมันถูกดูดงไปเบื้องล่าง จมลึกลง...ลึกลง...จนกระทั้งหายไปหมดสิ้น...เสียงคำรามสงบลง
ฉับพลันที่ลำแสงเมื่อครู่ดับสิ้นไป...หนึ่งร่างของกษัตริย์ทั้งห้าทรุดลงโดยใช้แขนข้างหนึ่งคล้ำตรีศูรเอาไว้ เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาดูอายุมากกว่าเธอไม่เท่าไร่เท่านั้น
“เป็นอะไรมั้ย...อาร์กติก?”พระราชารุ่นที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แห่งแอตแลนติกเอ่ย “เจ้าอายุยังน้อย ไม่แปลกที่จเหนื่อยล้า ยังไงข้าก็ขอบคุณมากที่เจ้าไม่หวาดกลัวความตาย และยืนหยัดสู้เพื่อท้องทะเล...เช่นเดียวกับพระบิดาเจ้า”
คนถูกพูดถึงหอบหายใจถี่รัว แล้วชอนสายตาขึ้นมามองใบหน้าคนพูดอย่างไร้อารมณ์
“เมื่อวานนี้ข้ายังเป็นองค์ชายอยู่เลย”กษัตริย์แห่งอาร์กติดเอ่ยอย่างเยือกเย็น ทำให้เธอนึกไปถึงใครบางคนที่มีบุคลิกแบบนี้เป๊ะ นี่เป็นกันมาตั้งแต่โคตรเง่าตระกูลเลยหรือนี่... “เจ้าชายต้องไม่ละทิ้งหน้าที่ นี่คือสิ่งที่พวกท่านทุกคนพยายามเสี้ยมสอนและยัดเยียดเข้ามาในหัวเจ้าชายอย่างพวกเรา ถึงแม้จะผ่านคนอื่นก็ตาม...เป็นเช่นนี้มาตลอดไม่ใช่หรือ...?”แม้มันจะฟังดูเป้นน้ำเสียงราบเรียบ แต่ก็แฝงไปด้วยความประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด “ทีนี้ยังไงต่อ?”
“มันจบแล้ว”กษัตริย์แห่งแปซิฟิกเอ่ยขึ้น
“ท่านรู้ดีว่มันยังไม่จบ”กษัตริย์อายุน้อยแห่งอาร์กติดเอ่ยกลับทันที “เมื่อวพกท่านเลือกจะใช้คาถานี้ ความเป็นไปได้ในการตื่นขึ้นของมันก็ไม่ใช่ศูนย์อีกต่อไป”
“ไม่ต้องห่วง กษัตริย์แห่งอาร์กติก ลูกหลานคราซิสถูกสาปแช่ง พวกเขามีบุตรได้แค่ครั้งเดียว...”ประโยคนี้จากกษัตริย์แห่งทะเลใต้ ทำให้คนยังเด็กไม่เถียงต่อ
กษัตริย์แห่งอาร์กติดกระทุ้งตรีศูรของตัวเองกับพื้นทะเลครรั้งหนึ่ง แล้วมันก็หายไป
“แต่เพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาด...”กษัตริย์แห่งแอตแลนติกเอ่ยขึ้น “ข้าว่าเาต้องมีสัญญากันหน่อย”
“สัญญา…?”กษัตริย์แห่งอาร์กติกทวนซ้ำอย่างไม่เข้าใจ
“ที่นี่คือที่ที่พวกเราผนึกอศูรกายแห่งท้องทะเลเอาไว้ พลังอำนาจของคราเคนจะหลับใหลอยู่ที่น่ไปชั่วกาลนาน แต่...”ราชาแห่งแอตแลนติกวาดตรีศูรเป็นครึ่งวงกลม ทันใดนั้นก็ปรากฎลำแสงเป็นรูปทรงกลมสีทองลอยขึ้นมา “หากที่แห่งนี้เกิดเหตุไม่ชอบมาพากล ภารกิจนี้จะเป็นหน้าที่ขอบรัชทาบาทที่จะสารต่อ...”
“ส่งพวกเขาไปตายเพื่อให้ทะเลอยู่รอดสินะ”กษัตริย์แห่งอาร์กติกเพิ่งพ้นจากฐานะเจ้าชายมาไม่กี่ชั่วโมงนี้เท่านั้น พระองค์ร้ดีถึงความรู้สึกที่ถูกมองชีวิตของตัวเองเป็นสิ่งไร้ค่า เมื่อหยิบยกเรื่องหน้าที่มาพูด “เพราะมันไม่ใช่ท่านที่ต้องตาย ถึงได้กล้าพูดเช่นนี้”ทิ้งท้ายด้วยคำพูดเชิงไม่พอใจ แต่มือหน้าก็ยื่นไปแตะลูกบอลทองนั่นอย่างไม่มีทางเลือก...ตามด้วยกษัตริย์องค์อื่น
วิธีทำพันธของกษัตริย์...
ลำแสงจากลูกบอลสีทองค่อยๆ ดับวูบ แปรเปลี่ยนเป้นวงแหวานคล้ายกำไลสีทอง ที่อมเบอร์คุ้นตา...มันคือวงแหวานที่เซดริกทำมาให้บรีอัน และตอนนี้มันสวมอยู่ที่หางเขา
กำไลห้าอันพุงเข้ามาที่มือของกษัตริย์ทั้งห้า และทุกพระองค์พร้อมใจกันทำให้มันหายไป กษัตริย์แห่งแอตแลนติกเก็บตรีศูรของพระองค์ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ
“ทะเลจะมีชีวิตอยู่ไปได้อีกสักพัก”
สิ้นเสียงประกาศของกษัตริย์แห่งแอตแลนติก ภาพเบื้องหน้เาธอก็ค่อยๆ ไกลออกไปช้าๆ แล้วเร็วขึ้นเรื่อยๆ ภาพเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นอยู่ในหัวเธอ ราวกับมีบางอย่างกำลังประติดประต่อเข้าหากัน แอมเบอร์รู้สึกคลื่นใส้ผอืดผอมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกเข้าใจ...เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
แอมเบอร์หลับตาปี๋ และวินาทีที่หัวเอกำลังจะระเบิดพร้อมกับที่เธอตั้งถ้าจะหวีดเสียงร้องเพื่อระบายความทรมาณนี้...ทุกอย่างก็สงบ
เด็กสาวหอบหายใจถี่รัวแล้วค่อยๆ ลืมตาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองอยู่ในพันธนาการจากเรียวหางของไคล์ร่า นางคลายหางให้หลวมลงเพื่อให้แอมเบอร์หายใจสะดวกขึ้น สาวน้อยเงยหน้ามองนางพญากรณ์สีขาวอย่างเหนื่อยอ่อน เธอไม่รู้หรอกว่านางทำอะไรกับเธอ แต่เธอรู้ตัวเธอดีว่า ถ้าโดนไอ้แบบเมื่อกี้อีกสักรอบ เธอไม่รอดแน่...
“เจ้านี่อึดดีไม่เบา”ไคล์ร่าเอ่ยพลางไล่เรียวเล็บยาวๆ สีขาวนั่นไปตามข้างแก้มของอมเบอร์ “เป็นคนปกติ หลับไปตั้งแต่ภาพเหตุการณ์แรกแล้ว...ถือว่ามีคุณสมบัติพอจะเจอเข้าอยู่ล่ะนะ”แอมเบอร์แน่ใจว่าเธอรู้ความหมายจริงๆ ของคำว่า ‘หลับ’ ที่นางพูด...สาวน้อยเบือนหน้าหนีเล็บพวกนั้นอย่างไม่สบอารมณ์แล้วค้อนกลับไปด้วยสายตาเข้มๆ ที่จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่
“ปล่อยได้หรือยัง...”แอมเบอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งแห่งความไม่พอใจ...ไคล์ร่าเลิกคิ้วมองเธอ
“เจ้าแน่ใจเรื่องที่บอกให้ข้าปล่อยเจ้างั้นเหรอ”ไคล์ร่าถาม...แอมเบอร์ไม่รู้หรอกว่านางหมายถึงอะไร รู้แต่ว่าเธอไม่ต้องการถูกหางงี่เง่านี่รัดต่อไปอีกแล้ว มันทำให้เธอประสาทเสีย!
“แน่ใจสิ”เธอตอบกลับห้วนๆ ไคล์ร่ายิ้มมุมปาก หางของนางคลายออกอย่างรวดเร็ว ร่างของแอมเบอร์หลุดพ้นจากพันธนาการ ตอนแรกเธอก็รู้สึกสบายใจอยู่หรอก แต่เมื่อพบว่าตัวเองไม่สามารถขับส่วนใดในร่างกายได้เลย ความหงุดหงิดก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
...ทีนี้อะไรอีกวะเนี่ย!...
แอมเบอร์สบถในใจแล้วกัดฟันกรอด เธอไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงของเธอหายไปไหนหมด ในจังหวะเดียวกับที่ภาพเบื้องหน้าค่อยๆ เลือนราง และร่างกายของเธอค่อยๆ จบลงนั้น ไคล์ร่างก็เอ่ยทิ้งท้ายกับเธอ
“ถ้าไม่รีบตื่นล่ะก็...ระวังจะไม่มีโอกาสได้ตื่นอีกเลยนะ สาวน้อยขี้เซา...”น้ำเสียงนั้นเบาลงเรื่อยๆ จนเงียบหายไป พร้อมกับภาพเบื้องห้าที่กายเป็นมืดสนิท นี่เป็นครั้งรกที่เธอรู้สึกว่าร่ายกายเธอไม่ใช่ของเธอ แม้ว่าจะเป็นในฝันก็ตาม...
ท่ามกลางความมืดและเงียบสงัดรอบตัว ในเวลานี้ที่เธอรู้สึกว่ากำลังล่องลอยอยู่ที่ไกนก็ไม่รู้ เป็นความรู้สึกที่นุ่มนวลแผ่วเบาดีอย่างน่าประหลาด...อยู่แบบนี้ ก็ดีเหมือนกันนะ...
ในขณะที่เธอกำลังเคลิกเคลิ้มกับความรู้สึกนั้นอยู่...เสียงคุ้นเคยของใครบางคนก็ดังก้องเข้ามาในหัวของเธอ
...ยัยบ้า ลืมตาขึ้นมาสิ! นี่ใช่เวลาที่เธอจะมานอนหลับกินแรงชาวบ้านเขาหรือไง!...
แอมเบอร์หลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงนี้...นี่มันเหือนกับครั้งรกที่เจอกัน? หมอนั่น...ไม่สิ...เซดริก?
...งั้นเหรอ...ตอนนี้ต้องตื่นล่ะสินะ...
To be continue
ความคิดเห็น