คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 : หน้าที่
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำของโรงเรียนนี้ใหญ่และสะอาดน่าว่าย แอมเบอร์ต้องฝืนใจตัวเองอย่างยากลำบากทุกครั้ง ที่ต้องมานั่งดูเพื่อนๆ เรียนว่ายน้ำอยู่บนสแตนด์กับบรีอัน โดยที่เธอไม่มีสิทธิ์จะได้ลงไป
ตอนนี้ทุกคำกำลังเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่ ที่นี่จึงว่างเปล่า และยังไม่มีคน เหมาะแกการให้มัคคุเทศก์อธิบายรายระเอียด เพราะไม่มีเสียงรบกวน แต่ปัญหาคือ...เธอไม่ได้อยาก!
“นี่คือสระว่ายน้ำโรงเรียนเรา สระเด็กแค่ห้าสิบเซนฯ สระผู้ใหญ่ ลึกสุดสองเมตร คนนอกมาว่าย เสียห้าเหรียญ นักเรียนว่ายน้ำฟรี”เสียงใสๆ ของมัคคุเทศก์ทัวร์คนสวย เดินไปตามขอบสระว่ายน้ำ พลางอธิบายรายระเอียดของสระว่ายน้ำของโรงเรียน โดยไม่คิดที่จะหันหลังไปมองหน้าคนฟังว่าฟังอยู่หรือเปล่า แต่จะฟังหรือไม่ฟังก็ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะ...เธอไม่สนอยู่แล้ว “แล้วก็...ถ้าเช่าของเบตเลต”
“พอแล้ว! อ่านมาแล้วในสมุดประจำตัวนักเรียน”เสียงทุ้มต่ำออกแนวตวาด ดังกลับมา ทำเอามัคคุเทศก์จำเป็นหันควับกลับมามองคนพูดด้วยแล้วกรอกตาไปมาอย่างหมั่นใส้
...ก็แล้วไม่บอกแต่แรกล่ะวะ!!...
สบถด่าในใจก่อนจะเชิดหน้าหนนี ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขอไปที
“ถ้าอ่านมาแล้วก็ไม่มีอะไรต้องบอกแล้วนี่”
“ทำไมเธอไม่เรียนว่ายน้ำ”คำถามใหม่ถูกยิงกลับมาทันควัน มันเป็นคำถามที่ทำให้คิ้วเรียวๆ ของแอมเบอร์ หมุนเข้าหากันเป็นรอบที่พันของวันนี้ ทำไมหมอนี่ถึงพูดจาทำให้เธอเสียวสันหลังอยู่เรื่อย หวังว่าเรื่องที่เธอคิดมันจะเป็นแค่เรื่องที่เธอคิด...หวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นจริงๆ
“พ...แพ้คลอรีน”เธอตอบไปด้วยน้ำเสียงเบาลงเล็กน้อย
“อ้องั้นเหรอ...”อีกฝ่ายตอบพลางพยักหน้าตาม แล้วเดินมายืนข้างๆ เธอ “แพ้มากแค่ไหนล่ะ”
“หมายความว่าไง แพ้มากแค่ไหน?”แอมเบอร์หันไปมองหน้าเด็กหนุ่มด้วยสายตาจริงจัง เซดริคมองหน้าเธอกลับ แล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยน์ รอยยิ้มที่ทำให้เธออารมณ์เสียตั้งแต่เช้า...
“ช่างเถอะ เธอกำลังโกหก”หมอนั่นพูดพลางเดินอ้อมไปข้างหลังเธอ
“นายรู้อะไร”แอมเบอร์เริ่มเปิดคำถามอย่างตรงประเด็น เพราะดูจากวิธีการพูดของหมอนี่ เรื่องมันชักจะเริ่มไม่ค่อยสวยเสียแล้ว
“ฉันรู้อะไร...เหรอ?”เซดริกเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนความขบขันเล็กน้อย ก่อนจะเดินมาอยู่ทางซ้ายของเธอ “อยากให้ฉันบอกงั้นเหรอ?”
“...”แอมเบอร์เงียบไปถนัด...ก่อนจะเม้มปากแน่น ทำให้อีกฝ่ายได้ใจยิ้มและหัวเราออกมา เธอไม่อยากให้หมอนั่นพูดอะไรทั้งนั้น ให้ดีที่สุดคือ เธอไม่ต้องการเสวนาอะไรกับคนแบบนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว...หมอนี่ทำให้เธอกลัว
“เธอแพ้คลอรีน...ว่ายน้ำเป็นไหม?”เซดริคถาม แอมเบอร์เบือนสายตาจากเขา แล้วตอบออกไป
“ม...ไม่”คำตอบของแอมเบอร์ทำให้เซดริคถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีอารมณ์จะหัวเราะได้เลยสักนิด เด็กหนุ่มปริศนาตรงหน้า ที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรของเขาเลยสักนิด ทำไมเธอถึงได้กลัวเกรง และระแวงนักว่าเขาจะรู้เรื่องของเธอ...
หมอนั่นเดินมายืนข้างหลังเธอ แอมเบอร์หันไปมองเขาเล็กน้อย เพื่อให้รู้ว่าเขาจะทำอะไร ร่างของเพื่อนใหม่เขามาประชิดตัว แล้วยืนหน้าผ่านใหล่ของเธอมา
“พิสูจน์สิ”เสียงกระซิบเยือกเย็นนั่นทำให้เธอกลัว แต่ที่น่ากลัวมากกว่านั้นคือมือที่เอื้อมมือคว้าข้อมือเธอเอาไว้ด้วยแรงมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ
“เซดริค!!!”แอมเบอร์รีบหันตัวกลับมาแล้วใช้มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ จับใหล่ของเอาเอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ แอมเบอร์ส่งสายตาไม่เป็นมิตรเข้าไปในดวงตาสีเขียวเบบี้บลูคู่นั้นเหมือนกับจะให้หยุดทุกการกระทำที่อยู่ในหัว “จะทำอะไร”น้ำเสียงเรียบเฉยของแอมเบอร์เรียกรอยยิ้มมุมปากของเด็กหนุ่มให้ผุดพลาย ตอนนี้เท้าของแอมเบอร์กำลังเขย่งอยู่ที่ขอบสระว่ายน้ำ โดยมีที่ยึดเหนี่ยวเพียงหนึ่งเดียว ที่ยึดเหนี่ยว ที่จะผลักเธอลงไปเมื่อไหร่ก็ได้
“ฉันว่าเธอคงคิดถึงกระแสน้ำพวกนั้น ไม่เห็นเหรอมันเรียกหาเธออยู่”
“เซดริค เจน! ปล่อยฉัน! ไม่ว่านายจะรู้อะไรมาก็ตาม ปล่อยให้ข้อมูลพวกนั้นลอยอยู่ในหัวสมองนาย
“เธอน่ะ...เป็นเหมือนฉัน”
ผลัก...
ตูม!!
ร่างของแอมเบอร์ ครอบลี่ย์ ตกลงไปในสระ...น้ำกระจายไปทั่วทุกสารทิศ ทันทีที่ขาสองข้างจมลงไปในน้ำใสๆ ของสระมันก็แปรสภาพรวมกันเป็นหนึ่งเดียว...เกร็ดสีมันวาวระยิบระยับค่อยๆ ปรากฏขึ้นหุ้มผิวหนังหางปลาว่างเปล่า ครีบหลังงอกขึ้นมาตัดเสื้อแขนกุดสีดำที่สวมใส่อยู่ขาดเป็นทางยาว แอมเบอร์มองขึ้นไปเหนือน้ำดูร่างที่ยืนยิ้มราวกับกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้นแล้วกัดฟันกรอด
...หมอนี่...รู้มาตลอด!...
...รู้!! แต่ก็ยังทำแบบนี้!...
แอมเบอร์ดีดหางสุดแรง พาร่างตัวเองจากก้นสระให้พุ่งขึ้นสูงกระชากคอเสื้อของเด็กหนุ่มให้ก้มลงมา...ตามจริงเธอหวังจะให้หมอนั่นตกลงมาด้วย แต่แรงของเธอมันไม่มากพอจะต้านแรงดึงของอีกฝ่ายจึงทำได้เพียงให้หมอนั่นคุกเข่าลงมาเท่านั้น
“นายต้องการอะไร!!”แอมเบอร์ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่หนักแน่น
“ใจเย็น...คนที่ฉันอยากคุยด้วยน่ะ ไม่ใช่เธอหรอกนะ...”
“ทำแบบนี้ทำไม!!!”แอมเบอร์ไม่ได้ฟังประโยคก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยความโกรธและกลัวตอนนี้ เธอทำอะไรไม่ถูก แอมเบอร์ต้องตกใจจนแทบเป็นลมอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนๆ คุยเจี้ยวจ้าวกำลังใกล้เข้ามา...และดูท่าทางเรื่อที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ก็ผิดคาดคนตรงหน้าที่ทำอะไรไม่คิดอยู่ไม่น้อย เซดริคหันขวับไปตามต้นเสียงแล้วหันมามองหน้าแอมเบอร์ที่หันไปมองเช่นกัน ดวงตาสีน้ำเงินทะเลกลมโตเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วหันมาค้อนเข้าใส่คนตรงหน้า “นายจะต้องเสียใจแน่ที่ทำแบบนี้!”
มือน้อยปล่อยจากคอเสื้อ แล้วรีบว่ายจมลงไปใต้ก้นสระ ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้...แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อน้ำมันใสเสียขนาดนี้ เซดริคมองสิ่งที่แอมเบอร์กำลังจะทำแล้วขมวดคิ้ว
...ไร้ประโยชน์ที่สุด...
เขาคิดในใจ แต่เรื่องนี้เขาเป็นคนผิดเองที่ทำอะไรโผงผาง เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา แล้วมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าตอนนี้คนยังไม่มา และจากนั้น...
ตูม!!
แอมเบอร์ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกระโดดลงมาในน้ำ ในใจเธอคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่ง เธอหันหน้าไปดู แต่ผิดคาด...
...ไอ้หมอนั่น!!...
ขาสองข้างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหางปลา มองนั่นมองหาเธอและเมื่อเจอก็ว่ายเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว แอมเบอร์เมื่อเห็นอีกฝ่ายจะเข้ามาหา ตามสัญชาตญาตกก็ต้องหนีสิ!! เธอเร่งความเร็วให้เร็วขึ้น แต่คงได้เพียงเท่านั้น เพราะตรงหน้าคือขอบสระ...
“ยัยบ้า!! จะหนีไปทำไมเล่า”เซดริคพูด ร่างของเขาใกล้เข้ามา
“ก...ก็นายตามฉัน!!” แอมเบอร์นั่งลงทรุดกับก้นสระน้ำแล้วเอาหลังพิงของสระ เซดริคว่ายน้ำมาอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วสอดมือมาบีบตรงท้ายทอยเธอแรงจนเธอรู้สึกเจ็บ
“อยู่ให้มันนิ่งๆ ถ้ายังไม่อยากให้ความแตก”เขาพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน แล้วยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้
“นายจะทำอ...”ดวงตาสีน้ำเงินของแอมเบอร์ต้องเบิกกว่าอีกครั้ง...เมื่อรู้สึกได้ถึงความอุ่นวาบที่เรียวปาก และเรียวลิ้นที่สอดเข้ามา แอมเบอร์หลับตาปี๋ ร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง และรู้สึกเบาโหวง เธอไม่เข้าใจทุกอย่างที่หมอนี่คิด ทุกอย่างที่หมอนี่ทำ แม้กระทั่งสิ่งที่พูด เธอก็เกือบจะไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจที่สุดก็คือการขโมยจูบคนที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในสภาพแบบนี้!!
“อ่อยอั้น!!(ปล่อยฉัน!!!)”แอมเบอร์พยายามดิ้น และขอให้เขาปล่อยเธอ แต่แปลกที่ครั้งนี้เขายอมทำตามที่เธอขอ
ริมฝีปากอ่อนนุ่มผละออกไปแอมเบอร์หอบหายใจถี่รั่วแล้วกัดฟันกรอด...
“นาย...ทำอย่างนี้ทำไม”น้ำเสียงแผ่วเบาเดาความรู้สึกไม่ได้ถูกเอ่ยออกมา คนถูกถามมองร่างตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วก่อนจะตอบออกไป
“ก็ช่วยเธอไง ลืมตาสิ”เซดริคพูดพลางใช้มือปัดปอยผมเปียกๆ ที่ร่วงลงมาปิดหน้าเธอออก
แอมเบอร์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วมองไปซ้ายไปขวา ก่อนจะพบว่าเธอไม่ได้อยู่ในสระว่ายน้ำอีกต่อไป...
ที่นี่มัน...ห้องเรียน...
“ที่ๆ พอจะนึกออกก็มีที่นี่ ก็เลยพามา อย่างน้อยเวลาแบบนี้ก็คงไม่มีใค...”
เผี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือกระทบกับนวลแก้มขาวๆ ดังก้องไปทั่วห้องเรียน...ห้องเรียนที่ไม่มีใคร แอมเบอร์เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับดวงตาเกรี้ยวกราด เธอไม่ได้โกรธมากขนาดนี้มานานมากแล้ว หรือพูดให้ถูกขึ้นมาหน่อยคือเธออาจไม่เคยโกรธใครขนาดนี้เลยก็ได้ เด็กสาวกระชากคอเสื้อเปียกชุ่มของคนตรงหน้าแล้วกระตุกแรงๆ ก่อนจะตวาดด้วยน้ำเสียงแหลมสูงเพื่อระบายความโกรธออกมา...
“สนุกพอใจรึยัง!!!!”
ความเงียบโรยตัวเข้าปกคลุมห้องทั้งห้องที่เงียบอยู่แล้ว เพิ่มบรรยากาศมาคุ ชวนให้รู้สึกหดหู่ เซดริคมองหน้าแอมเบร์ แล้วขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ พลางยกมือขึ้นมาลูบแก้มขาวๆ ที่บัดนี้แดงระเรื่อด้วยแรงตบของเด็กสาวตรงหน้า
“ตบหน้าฉันทำไม นี่ฉันเพิ่งช่วยเธ...”
“นายน่ะไม่เข้าใจอะไรเลย!! ไม่รู้อะไรสักอย่าง ถ้าทำตัวไร้มนุษย์สัมพันธ์ ไม่คิดจะเรียนรู้ใครอื่นแบบนี้ก็กลับไปอยู่ทะเลเหมือนเดิม อย่ามาเข้าสังคมมนุษย์ นาย...นายมันพวก หัวใจน้ำแข็ง!!”แอมเบอร์ผลักร่างตรงหน้าให้ออกห่าง แล้วเดินตึงตังออกไปจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว...เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เร็วพอให้เธอไม่รู้สึกหนาวเหน็บกับคนที่ใจเยือกแข็งราวกับความหนาวเย็นที่มหาสมุทร์ที่อยู่สุดขอบโลก!
เซดริค เจน มองร่างของเด็กสาวที่ตะบี้ตะบันเดินจากไป พร้อมกับความงุนงง และสงสัยมากมาย เขาไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่คนตรงหน้าโกรธและโวยวายใส่เขา ไม่เข้าใจแม้แต่คำสบถสุดท้ายที่สาวน้อยทิ้งไว้ให้...
...หัวใจน้ำแข็งเหรอ? มันหมายความว่ายังไงกัน...
...ทั้งชีวิตเขาเติบโตมากับน้ำแข็ง...น้ำแข็งเป็นเพื่อน...เป็นทั้งครู...เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต...
...เพราะอะไรเธอจึงพูดถึงน้ำแข็งด้วยน้ำเสียงเกลียดชังเช่นนั้น...
พอกันที!! ไม่เอาแล้ว!! ไอ้บ้านั่น เธอจะไม่สนใจ ไม่มองหน้า ไม่เห็นอยู่ในสารระบบชีวิตเธออีกแล้ว!! คนอย่างนั้น...คิดแล้วมันน่าโมโหนัก!! สีหน้าเฉยชา ไม่รู้สึกรู้สาอะไรนั่นอีก นั่นมันจูบแรกของเธอนะ!! เป็นครึ่งเงือก ให้คนอื่นขโมยจูบไปง่ายๆ เสียชาติเกิดหมด แถมเป็นจูบกับคนที่เพิ่งรู้จัก ไม่ได้รัก ที่แย่ก็คือ นอกจากจะไม่ได้รักแล้วยังค่อนข้างจะแบนเบี่ยงไปทางเกลียด มากกว่าด้วย! ทำไมครั้งแรกของเธอจึงได้หนาวเหน็บไร้ซึ่งความถนุดถนอมแบบนี้เนี่ย!!
ร่างของแอมเบอร์ที่เดินตะบึนตะบอนออกมาจากห้องเรียนเมื่อครู่ วิ่งมาหาชุดเปลี่ยนที่ล็อกเกอร์ และที่แย่ก็คือชุดเดียวที่พอมีคือเสื้อผ้ากีฬา แต่มันก็คงดีกว่าชุดไปร์เวทเปียกๆ และขาดรุ่งิ่งเพราะรอยครีบตัดที่ใส่อยู่นี่ แอมเบอร์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แล้วหยิบชุดในล็อกเกอร์ออกมา ก่อนจะปิดล็อกเกอร์
ปึง!
“ไง”
“อ้าย!!”แอมเบอร์สะดุ้งโหยงตัวแทบติดเพดาน เมื่อปิดล็อกเกอร์แล้วเจอหน้าของใครบางคนที่เธอเพิ่งตัดสินใจว่าจะไม่มองไปเมื่อครู่โผล่มาราวกับผี แถมโผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงแบบนี้อีก “มาทำอะไรแถวนี้!! ไปไกลๆ ฉัน!!”
“โกรธอะไรฉัน?”น้ำเสียงเรียบเฉยถามกลับมา แอมเบอร์อยากจะเอาหัวโขกล็อกเกอร์ให้มันตายๆ ไปเสียตอนนี้ ทำไมกันนะทำไม...จะตามหลอกหลอนกันไปถึงไหน
“เรื่องอย่างนั้นก็ไปคิดเองสิ!”แอมเบอร์พูดพลางเชิดหน้าหนีแล้วเดินไปอีกทาง เด็กหนุ่มเจ้าของนาม เซดริค เจน จึงรีบเดินจ้ำท้าวเร็วๆ มาดักหน้าเธอ
“คิดแล้ว คิดไม่ออกเลยมาถาม”เขาพูดกับเธอ แอมเบอร์มองหน้าเขาด้วยสายตาไม่เชื่อ
...หมอนี่เฟ้ก หรือว่าแปลกโดยสันดารเนี่ย!!...
แอมเบอร์ทิ้งใหล่ที่ห่อเอาไว้เมื่อครู่เพื่อแสดงความเบื่อหน่าย ก็จะเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่สบอารมณ์
“นายเกือบทำฉันความแตก! ผลักตกน้ำตัวเปียกโชก! ล...แล้วยัง...จ...”แอมเบอร์ตะกุกตะกักไม่กล้าพูด นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วหน้าก็ร้อนฉ่า
“เธอจะหมายถึงจูบ?”
“เออ!!!”แอมเบอร์ตะคอกเสียงดังแล้วก้าวเท้าออกเดิน
“ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้นคิดว่าจะเป็นยังไง”เซดริคใช้มือสองข้างจับใหล่ของเธอแล้วกระชากร่างที่กำลังจะเดินหนีนั้นให้กลัมาอยู่หข้างหน้าตนเหมือนเก่า แอมเบอร์เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา
“เลิกยุ่งกับฉัน”แอมเบอร์พูดแล้วก้าวเดินต่ออีก คราวนี้เธอคิดว่าเธอจะได้ไปจริงๆ เสียที แต่ก็อีกนั่นแหละ หมอนั่นต้องรั้งเธอไว้จนได้...
“ให้ฉันคุยกับเจ้าชายแห่งแปรซิฟิก”เสียงเรียบเฉยเอ่ยทำให้ขาสองข้างของแอมเบอร์ที่กำลังก้าวฉับๆ ต้องหยุดชะงัก
แอมเบอร์หันควับกลับมามองหน้าเขาด้วยสายตาพินิจพิจารณา หมอนี่รู้แม้กระทั่งเรื่องนี้?
“นายเป็นใคร”เธอถาม
“มันเรื่องของฉัน”
“รู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
“ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ ฉันมีธุระกับหมอนั่น”เซดริคเริ่มขมวดคิ้วเข้ม “ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“นายมีธุระกับเพื่อนฉัน นายก็มีธุระกับฉันด้วย ทำตัวให้มันน่าคบหากว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง!”แอมเบอร์ตะคอก เธอไม่ถูกชะตากับเด็กหนุ่มปริศนาคนนี้ตั้งแต่พบหน้า ยิ่งเธอรู้จักนิสัยใจคอและวิธีคิดของหมอนี่ ความรู้สึกด้านลบยิ่งก่อตัวขึ้นมา เธอไม่จำเป็นต้องสนองความต้องการไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ให้คนที่เธอไม่ชอบขี้หน้า...นี่คือวิธีคิดของแอมเบอร์
“ตกลงจะไม่พาไป?”เด็กหนุ่มมองหน้าเธอด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะก้าวฉับๆ ไปข้างหน้า เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีท่าทีให้ความร่วมมือ
แอมเบอร์เดินเข้ามาดันตัวของเด็กหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าไปมองเขา
“ใช่! และก็จะขวางให้ถึงที่สุดด้วย!”แอมเบอร์พูด เซดริคมองร่างแอมเบอร์ที่ยืนดื้อด้านขวางทางเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่กะจะทำเมื่อเจอคนที่เขาต้องการเจอ
มือซ้ายของเซดริคล้วงเข้าไปในคอเสื้อ ทีแรกแอมเบอร์คิดกว่าเขาจะเอาอะไรออกมาเพื่อทำร้ายเธอ แต่เมื่อเห็นที่สิ่งเขาเอาออกมาแล้ว ดวงตาสองข้างของเธอก็ต้องเบิกกว้าง
มันเป็นจี้ทองคำรูปทรงกลมที่มีเม็ดไขมุขสีฟ้าใสลอยอยู่ตรงกลางโดยที่ไม่มีอะไรยึดเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นที่น่าทึ่งก็คือ ไขมุขเม็ดนั้นยังหมุนรอบตัวเองอย่างช้าๆ ที่สำคัญคือเธอรู้สึกคุ้นเคยกับจี้ลักษณะนี้อย่างแปลกๆ ก็จะไม่คุ้นได้ยังไงล่ะ! ที่คอของเพื่อนซี้เธอบรีอันก็มีห้อยอยู่เส้นหนึ่ง มันเป็นสัญลักษณ์ของรัชทายาท...ไอ้หมอนี่...จะให้เธอเรียกมันเป็นเจ้าชายงั้นเหรอ??
“นี่เป็นเรื่องระหว่างอาณาจักร สามัญชน โดยเฉพาะเลือดผสมอย่างเธอ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น หลบไปซะ อย่างมาขวางทางฉัน”เขาเดินผ่านร่างเล็กๆ ของแอมเบอร์ไปอย่างไม่ใยดี เธอพยายามรั้งแล้วแต่แน่นอนแรงของเขาช่างมหาศาลนัก แอมเบอร์มองร่างนั้นแล้วกัดฟันกรอด “จะตามมาด้วยก็ได้นะ ฉันถือว่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ถ้าจะตามมาขวางเหมือนเมื่อกี้ เธออาจจะต้องเจ็บตัวนิดหน่อย แต่เชื่อเถอะ...แค่นิดเดียว”
“...”
“หมอนั่นอยู่ที่สแตนด์สระว่ายน้ำ”เสียงใสๆ ที่เอ่ยมาอย่างไม่เต็มใจของแอมเบอร์ดังก้องทางเดิน เธอกำลังพาหมอนี่ไปหาบรีอัน...ทั้งที่เพิ่งจะบอกกับตัวเองเมื่อครู่ว่าให้ตายยังไงก็จะไม่สนองนี้ดคนพรรค์นี้อย่างเด็ดขาด เพราะอะไรกันเนี่ย!!
เซดริคมองคนตรงหน้าที่เดินดุ่ยๆ นำไปโดยไม่สนใจว่าคนข้างหลังเขาเดินตามอยู่หรือเปล่า ด้วยสายตาบอกความรู้สึกไม่ได้ สายตานิ่งเฉยสงบเยือกเย็นตลอดเวลา บางครั้งเพราะความสงบเยือกเย็นนั้น ทำให้เขาดูจะเป็นไร้มนุษยสัมพันธ์ในสายตาคนรอบข้าง แน่นอนว่าเพราะความเคยชินจึงทำให้เขายอมรับได้ว่านี่คือตัวของเขา
ทั้งคู่พากันมาจนถึงสแตนด์ของสระว่ายน้ำ แอมเบอร์มองลงไปในสระว่ายน้ำของโรงเรียนที่เธอเพิ่งจะตกลงไปเมื่อไม่นานมานี้เพราะใครบางคน ก่อนจะมองไปที่เซดริคแล้วกรอกตาไปมา
บรีอันนั่งอยู่บนรถเข็นเช่นทุกครั้ง รถเข็นจอดอยู่ตรงซอกระหว่างสแตนด์หนึ่งกับสแตนด์สองที่มีประตูขั้นกลาง เมื่อหมอนั่นเห็นเธอเดินมาพร้อมกับนักเรียนใหม่ก็โบกมือให้ แอมเบอร์ยิ้มแล้วโบกมือกลับไปก่อนจะค่อยๆ แรงฝีเท้าเดินจ้ำๆ เข้าไปหา
“ทำไมไวจัง”บรีอันถาม แอมเบอร์เบ้ปากก่อนจะมองไปข้างหลังที่มีคนเดินตามมา
“เรื่องนั่นช่างมันเหอะน่า มีคนจะคุยกับนาย”ได้ยินประโยคนี้ บรีอันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วหันไปหาเซดริคที่เดินเข้ามา บรีอันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัยเมื่อคนที่สาวเจ้าว่าต้องการคุยกับเขา คือเด็กหนุ่มปริศนาคนเมื่อเช้า
“ไง”เด็กหนุ่มผู้มีบุคลคเยือกเย็น
“หวัดดี เซดริค...ใช่มะ?”
“ใช่”เซดริคพูดพลางล้วงเข้าไปหยิบจี้ห้อยคอมาโชว์เพื่อให้ง่ายแก่การเจรจา “ชื่อเต็มฉัน เซดริค เจนาบิสรอส เพอ อาร์คติก”เซดริกยื่นมือซ้ายมาข้างหน้าแล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย์ บรีอันมองมือคู่นั้น สลับกับจี้ห้อยคอก่อนจะยิ้มออกมาเช่นกัน
“ฮ่าๆ ไม่ทันตั้งตัวเลยแฮะ บรีอัน แมคซิมัส เพอ แปรซิฟิก ยินดีเหมือนกัน”บรีอันยื่นมือไปจับกับมือคู่นั้น แว๊บหนึ่งที่มือสองข้างสัมผัสกัน เขารู้สึกถึงไอเย็นบางอย่างใหลผ่านฝ่ามือชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะอีกฝ่ายมาจากมหาสมุทรขั้วโลก...ไม่แปลกที่ผิวกายจะเย็นชืด “แล้ว...ทำไมเจ้าชายแห่งอาร์คติกถึงมาอยู่ที่นี่ มาทำอะไรงั้นเหรอ?”บรีอันถามเรียบง่าย
“มารับนาย”ถึงประโยคนี้ บรีอันทำหน้างุนงงเล็กน้อย
“มารับฉัน?”เด็กหนุ่มทวนซ้ำเพื่อความแน่ใจ
“ได้ยินถูก”เซดริคพูด บรีอันขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ
“รับฉันไปไหน?”
“ไปแอตแลนติก”เขาตอบกลับไปเรียบๆ และเมื่อมองใบหน้าที่ลอยล่องไปด้วยเครื่องหมายคำถามนั่น ในใจเขาก็คิดทำใจเอาไวว่างานของเขาคงไม่ได้จบภายในวันนี้ “จะถามต่อว่าไปทำไมใช่ไหม?”
“เดาเก่งนี่”บรีอันพูดพลางกลั้วหัวเราะเล็กน้อย เซดริคไม่พูดอะไร ก่อนจะว่าต่อ
“ภารกิจของรัชทายาท พ่อนายคงบอกอะไรนายบ้าง”ถึงประโยคนี้ บรีอันสะอึกเล็กน้อย เขาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เวลามีใครพูดถึงเสด็จพ่อของเขา...แน่นอน เขารักท่านพ่อ แต่เขาไม่แน่ใจว่า...ท่านรู้สึกอย่างเดียวกันหรือเปล่า
“อืม...ไม่ ไม่คุ้น”บรีอันพูดพลางยักใหล่ “พ่อฉันค่อนข้างจะเป็นคนไม่ค่อยพูด...”จบประโยค รอยยิ้มแหยๆ แบบไม่เห็นฟันก็ถูกส่งกลับมา
“...”ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคู่สนทนา เซดริคมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย บอกชี้ชัดว่าไม่มีอารมณ์รับมุขเท่าไหร่
“เออ...ความจริงคือ เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เทียบอัตราส่วนตั้งแต่เกิดมา ฉันแทบไม่เคยคุยกับพ่อตัวเอง”
แอมเบอร์ฟังคำพูดเหล่านั้นสลับกับมองรอยยิ้มบนใบหน้าของบรีอันแล้วถอนหายใจ เธอรู้ดีว่ารอยยิ้มเหล่านั้นมันไม่ได้ออกมาจากจิตใจของเพื่อนซี้แต่อย่างใด
“งั้นก็คงไม่รู้อะไรเลย”เซดริคพูดโดยไม่สบตาคนฟัง เด็กหนุ่มเดินอ้อมไปเข็นรถของบรีอันให้เข้าไปข้างในซอกลึกขึ้นเพื่อพรางตาผู้คน “เวลาที่มีมันน้อยเกินกว่าที่จะให้ฉันทำเรื่องงี่เง่าอย่างการเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต้ต้นจนจบให้นายฟัง นายต้องไปกับฉัน”
“นายควรบอกเหตุผลที่จะพาใครซักคนไปกับนายให้ครบถ้วนเพื่อสร้างความไว้วางใจ ก่อนจะพาเขาไปไหน เรื่องแค่นี้ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะมีใครเขาไปกับนาย”แอมเบอร์รีบท้วงขึ้นมากลางบทสนทนา นั่นทำให้นายตาเยือกเย็นคู่นั้นเบือนจากบรีอันมาที่เธอ
“อยู่ไปเงียบๆ ไม่ใช่เรื่องของเธอ”น้ำคำน่าถีบถูกส่งกลับมา ทำให้คนฟังรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายมันค่อยๆ ขึ้นสูง อยากกระทืบคนยังไงไม่ทราบ
“นี่นาย!!!”เธอคงกระโจนเข้าตบตีไอ้บ้าตรงหน้านี่ไปแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงใครบางคนรั้งเอาไว้
“แม่คุณ”บรีอันเรียกเธอ แอมเบอร์หยุดชะงักแล้วหันมามองหน้าเขา “ขอฉันฟังต่ออีกหน่อย”เจ้าชายแห่งมหาสมุทรแปรซิฟิกเอ่ยพลางยิ้มเบาบาง ก่อนจะหันไปหาเจ้าชายแห่งอาร์กติค “เป็นเรื่องที่ท่านพ่อควรบอกฉันใช่ไหม”
คนถูกถามไม่ตอบอะไร ทำเพียงมองหน้าคนถามเงียบๆ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต...มันคือวงแหวนทำจากที่ลักษณะคล้ายกำไลข้อมือแต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก
“นี่คือวงแหวนพันธสัญญาระหว่างห้าคาบสมุทร สวมมันไว้ที่หางนาย”
บรีอันเอื้อมมือไปรับวงแวนนั่นแล้วพลิกไปพลิกมาสำรวจ
“สวยดี”
“อืม...สวย...แต่ตอนใส่เจ็บไม่เบา”
“ก็เคยมีประสบการณ์มาบ้าง”บรีอันพูดพลางยักใหล่ “ว่ากันตอนอาบน้ำวันนี้ก็แล้วกัน แล้วนี่...เงื่อนไขสัญญาว่าไง”
“มันเป็นสัญญาผูกมัดของรัชทายาท ระบุเอาว่าถ้าที่แห่งนั้นมีปัญหา รัชทายาทต้องถูกส่งไปทำภารกิจ ภารกิจอะไร ไปกับฉันเดี๋ยวก็รู้”
“แล้วที่แห่งนั้นที่ว่านี่ที่ไหนล่ะ”
“เดี๋ยวนายก็รู้”เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เราต้องไปที่มหาสมุทรแอตแลนติก ท่านพ่อของพวกเราจะบอกเราเอง นี่เพียงแค่เริ่มต้นภารกิจ ตอนนี้นายอยู่ในภารกิจแล้ว นายมีสัญญา...พร้อมกับตราลักษณ์ผูกมัด
“สัญลักษณ์???”
“ฉันจับมือนายไปเมื่อกี้ไง”เซดริคพูดพลางมองไปที่มือซ้ายของเขา บรีอันรีบยกมือขึ้นมาแบดู...
สัญลักษณ์คล้ายรอยสักรูปสามเหลี่ยมบนฝ่ามือ ทำให้บรีอันหวนคิดไปถึงความรู้สึกไอเย็นๆ เมื่อตอนจับมือกับหมอนี่ตอนนั้น...บรีอันหัวเราะหึหึ แล้วพลิกฝ่ามือข้างนั้นไปมา
“มัดมือชกดีแฮะ”
“ก็อย่างที่เห็น นายหนีไม่พ้นแล้ว เตรียมตัวเก็บของไปกับฉัน”
“อืม...ก็คงต้องตามนั้น”บรีอันตอบรับไปอย่างง่ายดาย แอมเบอร์รีบหันควับไปหาเพื่อนซี้ แล้วทำตาโต
“เฮ้ยเดี๋ยวดิ!!”เด็กสาวอุทานเสียงสูง บรีอันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ
“อะไรแม่คุณ?”
“เขามาลากนาย นายก็ไปกับเขาแบบนี้เนี่ยนะ ถ้าหมอนี่มาลากนายแล้วจะพาไปตายด้วยกันนายจะไปกับมันมั้ย!”แอมเบอร์โวยวายเป็นการใหญ่ เซดริคมองเด็กสาวตรงหน้าที่ดูท่าทางจะยังไม่เข้าใจอะไรเลยก็ถอนหายใจอย่างหมดความอดทน
บรีอันยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ
“ก็ถ้ามีหน้าที่ของรัชทายาทมาอ้างแบบนี้ จะพาไปตายฉันก็คงไปนั่นแหละ”
แอมเบอร์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง...นอกจากจะไม่เชื่อหูแล้วก็ยังไม่เชื่อสายตาตัวเองด้วย หมอนี่ยิ้ม! มันกำลังยิ้ม...ยิ้มเนี่ยนะ!?
“นี่พวกนาย...”
“พวกเราไม่ใช่เด็กๆ อีกแล้ว ยัยเจ๋อ นี่มันเรื่องระดับประเทศ ความรับผิดชอบห้อยอยู่ที่คอเราทุกคนตั้งแต่เกิดมาวันแรก ถึงไม่อยากก็ต้องทำ พวกเราถูกเลี้ยงมาแบบนี้แหละ การอดกลั้น และปลักใจทำสิ่งที่ไม่อยากทำ...นี่คือความแตกต่างระหว่างเชื้อพระวงศ์และสามัญชน เธออยากจะมาด้วยก็ได้นะ แต่อย่าเกะกะ...”
+++++++++++++++++++
To be continue
ความคิดเห็น