ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AMBER and the darkness ocean

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 : หน้าที่

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 54








           สระว่ายน้ำ

     

             สระว่ายน้ำของโรงเรียนนี้ใหญ่และสะอาดน่าว่าย แอมเบอร์ต้องฝืนใจตัวเองอย่างยากลำบากทุกครั้ง ที่ต้องมานั่งดูเพื่อนๆ เรียนว่ายน้ำอยู่บนสแตนด์กับบรีอัน โดยที่เธอไม่มีสิทธิ์จะได้ลงไป

     

             ตอนนี้ทุกคำกำลังเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่ ที่นี่จึงว่างเปล่า และยังไม่มีคน เหมาะแกการให้มัคคุเทศก์อธิบายรายระเอียด เพราะไม่มีเสียงรบกวน แต่ปัญหาคือ...เธอไม่ได้อยาก!

     

             นี่คือสระว่ายน้ำโรงเรียนเรา สระเด็กแค่ห้าสิบเซนฯ สระผู้ใหญ่ ลึกสุดสองเมตร คนนอกมาว่าย เสียห้าเหรียญ นักเรียนว่ายน้ำฟรีเสียงใสๆ ของมัคคุเทศก์ทัวร์คนสวย เดินไปตามขอบสระว่ายน้ำ พลางอธิบายรายระเอียดของสระว่ายน้ำของโรงเรียน โดยไม่คิดที่จะหันหลังไปมองหน้าคนฟังว่าฟังอยู่หรือเปล่า แต่จะฟังหรือไม่ฟังก็ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะ...เธอไม่สนอยู่แล้ว แล้วก็...ถ้าเช่าของเบตเลต

     

              พอแล้ว! อ่านมาแล้วในสมุดประจำตัวนักเรียนเสียงทุ้มต่ำออกแนวตวาด ดังกลับมา ทำเอามัคคุเทศก์จำเป็นหันควับกลับมามองคนพูดด้วยแล้วกรอกตาไปมาอย่างหมั่นใส้

     

               ...ก็แล้วไม่บอกแต่แรกล่ะวะ!!...

     

               สบถด่าในใจก่อนจะเชิดหน้าหนนี ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขอไปที

     

              ถ้าอ่านมาแล้วก็ไม่มีอะไรต้องบอกแล้วนี่

     

              ทำไมเธอไม่เรียนว่ายน้ำคำถามใหม่ถูกยิงกลับมาทันควัน มันเป็นคำถามที่ทำให้คิ้วเรียวๆ ของแอมเบอร์ หมุนเข้าหากันเป็นรอบที่พันของวันนี้ ทำไมหมอนี่ถึงพูดจาทำให้เธอเสียวสันหลังอยู่เรื่อย หวังว่าเรื่องที่เธอคิดมันจะเป็นแค่เรื่องที่เธอคิด...หวังว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นจริงๆ

     

              พ...แพ้คลอรีนเธอตอบไปด้วยน้ำเสียงเบาลงเล็กน้อย

     

              อ้องั้นเหรอ...อีกฝ่ายตอบพลางพยักหน้าตาม แล้วเดินมายืนข้างๆ เธอ แพ้มากแค่ไหนล่ะ

     

              หมายความว่าไง แพ้มากแค่ไหน?”แอมเบอร์หันไปมองหน้าเด็กหนุ่มด้วยสายตาจริงจัง เซดริคมองหน้าเธอกลับ แล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยน์ รอยยิ้มที่ทำให้เธออารมณ์เสียตั้งแต่เช้า...

     

              ช่างเถอะ เธอกำลังโกหกหมอนั่นพูดพลางเดินอ้อมไปข้างหลังเธอ

     

              นายรู้อะไรแอมเบอร์เริ่มเปิดคำถามอย่างตรงประเด็น เพราะดูจากวิธีการพูดของหมอนี่ เรื่องมันชักจะเริ่มไม่ค่อยสวยเสียแล้ว

     

              ฉันรู้อะไร...เหรอ?”เซดริกเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนความขบขันเล็กน้อย ก่อนจะเดินมาอยู่ทางซ้ายของเธอ อยากให้ฉันบอกงั้นเหรอ?”

     

              ...แอมเบอร์เงียบไปถนัด...ก่อนจะเม้มปากแน่น ทำให้อีกฝ่ายได้ใจยิ้มและหัวเราออกมา เธอไม่อยากให้หมอนั่นพูดอะไรทั้งนั้น ให้ดีที่สุดคือ เธอไม่ต้องการเสวนาอะไรกับคนแบบนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว...หมอนี่ทำให้เธอกลัว

     

              เธอแพ้คลอรีน...ว่ายน้ำเป็นไหม?”เซดริคถาม แอมเบอร์เบือนสายตาจากเขา แล้วตอบออกไป

     

              ม...ไม่คำตอบของแอมเบอร์ทำให้เซดริคถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีอารมณ์จะหัวเราะได้เลยสักนิด เด็กหนุ่มปริศนาตรงหน้า ที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรของเขาเลยสักนิด ทำไมเธอถึงได้กลัวเกรง และระแวงนักว่าเขาจะรู้เรื่องของเธอ...

     

              หมอนั่นเดินมายืนข้างหลังเธอ แอมเบอร์หันไปมองเขาเล็กน้อย เพื่อให้รู้ว่าเขาจะทำอะไร ร่างของเพื่อนใหม่เขามาประชิดตัว แล้วยืนหน้าผ่านใหล่ของเธอมา

     

              พิสูจน์สิเสียงกระซิบเยือกเย็นนั่นทำให้เธอกลัว แต่ที่น่ากลัวมากกว่านั้นคือมือที่เอื้อมมือคว้าข้อมือเธอเอาไว้ด้วยแรงมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ

     

              เซดริค!!!”แอมเบอร์รีบหันตัวกลับมาแล้วใช้มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ จับใหล่ของเอาเอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ แอมเบอร์ส่งสายตาไม่เป็นมิตรเข้าไปในดวงตาสีเขียวเบบี้บลูคู่นั้นเหมือนกับจะให้หยุดทุกการกระทำที่อยู่ในหัว จะทำอะไรน้ำเสียงเรียบเฉยของแอมเบอร์เรียกรอยยิ้มมุมปากของเด็กหนุ่มให้ผุดพลาย ตอนนี้เท้าของแอมเบอร์กำลังเขย่งอยู่ที่ขอบสระว่ายน้ำ โดยมีที่ยึดเหนี่ยวเพียงหนึ่งเดียว ที่ยึดเหนี่ยว ที่จะผลักเธอลงไปเมื่อไหร่ก็ได้

     

              ฉันว่าเธอคงคิดถึงกระแสน้ำพวกนั้น ไม่เห็นเหรอมันเรียกหาเธออยู่

     

              เซดริค เจน! ปล่อยฉัน! ไม่ว่านายจะรู้อะไรมาก็ตาม ปล่อยให้ข้อมูลพวกนั้นลอยอยู่ในหัวสมองนายแค่คนดียว ฉันไม่ต้องการรู้ อะไรทั้งนั้น!!”แอมเบอร์พยายามดิ้นให้ข้อมือเล็กๆ ของเธอหลุดออกจากแขนข้างนั้น แต่พละกำลังมันต่างกันมากนัก...

     

              เธอน่ะ...เป็นเหมือนฉัน

     

     

               ผลัก...

     

               ตูม!!

     

     

              ร่างของแอมเบอร์ ครอบลี่ย์ ตกลงไปในสระ...น้ำกระจายไปทั่วทุกสารทิศ ทันทีที่ขาสองข้างจมลงไปในน้ำใสๆ ของสระมันก็แปรสภาพรวมกันเป็นหนึ่งเดียว...เกร็ดสีมันวาวระยิบระยับค่อยๆ ปรากฏขึ้นหุ้มผิวหนังหางปลาว่างเปล่า ครีบหลังงอกขึ้นมาตัดเสื้อแขนกุดสีดำที่สวมใส่อยู่ขาดเป็นทางยาว แอมเบอร์มองขึ้นไปเหนือน้ำดูร่างที่ยืนยิ้มราวกับกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้นแล้วกัดฟันกรอด

     

               ...หมอนี่...รู้มาตลอด!...

               ...รู้!! แต่ก็ยังทำแบบนี้!...

     

              แอมเบอร์ดีดหางสุดแรง พาร่างตัวเองจากก้นสระให้พุ่งขึ้นสูงกระชากคอเสื้อของเด็กหนุ่มให้ก้มลงมา...ตามจริงเธอหวังจะให้หมอนั่นตกลงมาด้วย แต่แรงของเธอมันไม่มากพอจะต้านแรงดึงของอีกฝ่ายจึงทำได้เพียงให้หมอนั่นคุกเข่าลงมาเท่านั้น

     

              นายต้องการอะไร!!”แอมเบอร์ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่หนักแน่น

     

              ใจเย็น...คนที่ฉันอยากคุยด้วยน่ะ ไม่ใช่เธอหรอกนะ...

     

              ทำแบบนี้ทำไม!!!”แอมเบอร์ไม่ได้ฟังประโยคก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยความโกรธและกลัวตอนนี้ เธอทำอะไรไม่ถูก แอมเบอร์ต้องตกใจจนแทบเป็นลมอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนๆ คุยเจี้ยวจ้าวกำลังใกล้เข้ามา...และดูท่าทางเรื่อที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ก็ผิดคาดคนตรงหน้าที่ทำอะไรไม่คิดอยู่ไม่น้อย เซดริคหันขวับไปตามต้นเสียงแล้วหันมามองหน้าแอมเบอร์ที่หันไปมองเช่นกัน ดวงตาสีน้ำเงินทะเลกลมโตเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วหันมาค้อนเข้าใส่คนตรงหน้า นายจะต้องเสียใจแน่ที่ทำแบบนี้!”

     

              มือน้อยปล่อยจากคอเสื้อ แล้วรีบว่ายจมลงไปใต้ก้นสระ ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้...แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อน้ำมันใสเสียขนาดนี้ เซดริคมองสิ่งที่แอมเบอร์กำลังจะทำแล้วขมวดคิ้ว

     

               ...ไร้ประโยชน์ที่สุด...

     

               เขาคิดในใจ แต่เรื่องนี้เขาเป็นคนผิดเองที่ทำอะไรโผงผาง เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา แล้วมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าตอนนี้คนยังไม่มา และจากนั้น...

     

                ตูม!!

     

               แอมเบอร์ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกระโดดลงมาในน้ำ ในใจเธอคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่ง เธอหันหน้าไปดู แต่ผิดคาด...

     

                ...ไอ้หมอนั่น!!...

     

                ขาสองข้างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหางปลา มองนั่นมองหาเธอและเมื่อเจอก็ว่ายเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว แอมเบอร์เมื่อเห็นอีกฝ่ายจะเข้ามาหา ตามสัญชาตญาตกก็ต้องหนีสิ!! เธอเร่งความเร็วให้เร็วขึ้น แต่คงได้เพียงเท่านั้น เพราะตรงหน้าคือขอบสระ...

     

               ยัยบ้า!! จะหนีไปทำไมเล่าเซดริคพูด ร่างของเขาใกล้เข้ามา

     

               ก...ก็นายตามฉัน!!” แอมเบอร์นั่งลงทรุดกับก้นสระน้ำแล้วเอาหลังพิงของสระ เซดริคว่ายน้ำมาอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วสอดมือมาบีบตรงท้ายทอยเธอแรงจนเธอรู้สึกเจ็บ

     

               อยู่ให้มันนิ่งๆ ถ้ายังไม่อยากให้ความแตกเขาพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน แล้วยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้

     

               นายจะทำอ...ดวงตาสีน้ำเงินของแอมเบอร์ต้องเบิกกว่าอีกครั้ง...เมื่อรู้สึกได้ถึงความอุ่นวาบที่เรียวปาก และเรียวลิ้นที่สอดเข้ามา แอมเบอร์หลับตาปี๋ ร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง และรู้สึกเบาโหวง เธอไม่เข้าใจทุกอย่างที่หมอนี่คิด ทุกอย่างที่หมอนี่ทำ แม้กระทั่งสิ่งที่พูด เธอก็เกือบจะไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจที่สุดก็คือการขโมยจูบคนที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในสภาพแบบนี้!!

     

              อ่อยอั้น!!(ปล่อยฉัน!!!)แอมเบอร์พยายามดิ้น และขอให้เขาปล่อยเธอ แต่แปลกที่ครั้งนี้เขายอมทำตามที่เธอขอ

     

              ริมฝีปากอ่อนนุ่มผละออกไปแอมเบอร์หอบหายใจถี่รั่วแล้วกัดฟันกรอด...

     

              นาย...ทำอย่างนี้ทำไมน้ำเสียงแผ่วเบาเดาความรู้สึกไม่ได้ถูกเอ่ยออกมา คนถูกถามมองร่างตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วก่อนจะตอบออกไป

     

              ก็ช่วยเธอไง ลืมตาสิเซดริคพูดพลางใช้มือปัดปอยผมเปียกๆ ที่ร่วงลงมาปิดหน้าเธอออก

     

              แอมเบอร์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วมองไปซ้ายไปขวา ก่อนจะพบว่าเธอไม่ได้อยู่ในสระว่ายน้ำอีกต่อไป...

     

              ที่นี่มัน...ห้องเรียน...

     

              ที่ๆ พอจะนึกออกก็มีที่นี่ ก็เลยพามา อย่างน้อยเวลาแบบนี้ก็คงไม่มีใค...

     

              เผี๊ยะ!!!

     

              เสียงฝ่ามือกระทบกับนวลแก้มขาวๆ ดังก้องไปทั่วห้องเรียน...ห้องเรียนที่ไม่มีใคร แอมเบอร์เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับดวงตาเกรี้ยวกราด เธอไม่ได้โกรธมากขนาดนี้มานานมากแล้ว หรือพูดให้ถูกขึ้นมาหน่อยคือเธออาจไม่เคยโกรธใครขนาดนี้เลยก็ได้ เด็กสาวกระชากคอเสื้อเปียกชุ่มของคนตรงหน้าแล้วกระตุกแรงๆ ก่อนจะตวาดด้วยน้ำเสียงแหลมสูงเพื่อระบายความโกรธออกมา...

     

              สนุกพอใจรึยัง!!!!”

     

              ความเงียบโรยตัวเข้าปกคลุมห้องทั้งห้องที่เงียบอยู่แล้ว เพิ่มบรรยากาศมาคุ ชวนให้รู้สึกหดหู่ เซดริคมองหน้าแอมเบร์ แล้วขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ พลางยกมือขึ้นมาลูบแก้มขาวๆ ที่บัดนี้แดงระเรื่อด้วยแรงตบของเด็กสาวตรงหน้า

     

              ตบหน้าฉันทำไม นี่ฉันเพิ่งช่วยเธ...

     

              นายน่ะไม่เข้าใจอะไรเลย!! ไม่รู้อะไรสักอย่าง ถ้าทำตัวไร้มนุษย์สัมพันธ์ ไม่คิดจะเรียนรู้ใครอื่นแบบนี้ก็กลับไปอยู่ทะเลเหมือนเดิม อย่ามาเข้าสังคมมนุษย์ นาย...นายมันพวก หัวใจน้ำแข็ง!!”แอมเบอร์ผลักร่างตรงหน้าให้ออกห่าง แล้วเดินตึงตังออกไปจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว...เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เร็วพอให้เธอไม่รู้สึกหนาวเหน็บกับคนที่ใจเยือกแข็งราวกับความหนาวเย็นที่มหาสมุทร์ที่อยู่สุดขอบโลก!

     

               เซดริค เจน มองร่างของเด็กสาวที่ตะบี้ตะบันเดินจากไป พร้อมกับความงุนงง และสงสัยมากมาย เขาไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่คนตรงหน้าโกรธและโวยวายใส่เขา ไม่เข้าใจแม้แต่คำสบถสุดท้ายที่สาวน้อยทิ้งไว้ให้...

     

                   ...หัวใจน้ำแข็งเหรอ? มันหมายความว่ายังไงกัน...

                   ...ทั้งชีวิตเขาเติบโตมากับน้ำแข็ง...น้ำแข็งเป็นเพื่อน...เป็นทั้งครู...เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต...

                   ...เพราะอะไรเธอจึงพูดถึงน้ำแข็งด้วยน้ำเสียงเกลียดชังเช่นนั้น...

     

     

            พอกันที!! ไม่เอาแล้ว!! ไอ้บ้านั่น เธอจะไม่สนใจ ไม่มองหน้า ไม่เห็นอยู่ในสารระบบชีวิตเธออีกแล้ว!! คนอย่างนั้น...คิดแล้วมันน่าโมโหนัก!! สีหน้าเฉยชา ไม่รู้สึกรู้สาอะไรนั่นอีก นั่นมันจูบแรกของเธอนะ!! เป็นครึ่งเงือก ให้คนอื่นขโมยจูบไปง่ายๆ เสียชาติเกิดหมด แถมเป็นจูบกับคนที่เพิ่งรู้จัก ไม่ได้รัก ที่แย่ก็คือ นอกจากจะไม่ได้รักแล้วยังค่อนข้างจะแบนเบี่ยงไปทางเกลียด มากกว่าด้วย! ทำไมครั้งแรกของเธอจึงได้หนาวเหน็บไร้ซึ่งความถนุดถนอมแบบนี้เนี่ย!!

     

              ร่างของแอมเบอร์ที่เดินตะบึนตะบอนออกมาจากห้องเรียนเมื่อครู่ วิ่งมาหาชุดเปลี่ยนที่ล็อกเกอร์ และที่แย่ก็คือชุดเดียวที่พอมีคือเสื้อผ้ากีฬา แต่มันก็คงดีกว่าชุดไปร์เวทเปียกๆ และขาดรุ่งิ่งเพราะรอยครีบตัดที่ใส่อยู่นี่ แอมเบอร์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แล้วหยิบชุดในล็อกเกอร์ออกมา ก่อนจะปิดล็อกเกอร์

     

              ปึง!

     

             ไง

     

             อ้าย!!”แอมเบอร์สะดุ้งโหยงตัวแทบติดเพดาน เมื่อปิดล็อกเกอร์แล้วเจอหน้าของใครบางคนที่เธอเพิ่งตัดสินใจว่าจะไม่มองไปเมื่อครู่โผล่มาราวกับผี แถมโผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงแบบนี้อีก มาทำอะไรแถวนี้!! ไปไกลๆ ฉัน!!”

     

            โกรธอะไรฉัน?”น้ำเสียงเรียบเฉยถามกลับมา แอมเบอร์อยากจะเอาหัวโขกล็อกเกอร์ให้มันตายๆ ไปเสียตอนนี้ ทำไมกันนะทำไม...จะตามหลอกหลอนกันไปถึงไหน

     

            เรื่องอย่างนั้นก็ไปคิดเองสิ!”แอมเบอร์พูดพลางเชิดหน้าหนีแล้วเดินไปอีกทาง เด็กหนุ่มเจ้าของนาม เซดริค เจน จึงรีบเดินจ้ำท้าวเร็วๆ มาดักหน้าเธอ

     

            คิดแล้ว คิดไม่ออกเลยมาถามเขาพูดกับเธอ แอมเบอร์มองหน้าเขาด้วยสายตาไม่เชื่อ

     

                  ...หมอนี่เฟ้ก หรือว่าแปลกโดยสันดารเนี่ย!!...

     

            แอมเบอร์ทิ้งใหล่ที่ห่อเอาไว้เมื่อครู่เพื่อแสดงความเบื่อหน่าย ก็จะเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่สบอารมณ์

     

            นายเกือบทำฉันความแตก! ผลักตกน้ำตัวเปียกโชก! ล...แล้วยัง...จ...แอมเบอร์ตะกุกตะกักไม่กล้าพูด นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วหน้าก็ร้อนฉ่า

     

            เธอจะหมายถึงจูบ?”

     

            เออ!!!”แอมเบอร์ตะคอกเสียงดังแล้วก้าวเท้าออกเดิน

     

            ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้นคิดว่าจะเป็นยังไงเซดริคใช้มือสองข้างจับใหล่ของเธอแล้วกระชากร่างที่กำลังจะเดินหนีนั้นให้กลัมาอยู่หข้างหน้าตนเหมือนเก่า แอมเบอร์เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา

     

            เลิกยุ่งกับฉันแอมเบอร์พูดแล้วก้าวเดินต่ออีก คราวนี้เธอคิดว่าเธอจะได้ไปจริงๆ เสียที แต่ก็อีกนั่นแหละ หมอนั่นต้องรั้งเธอไว้จนได้...

     

             ให้ฉันคุยกับเจ้าชายแห่งแปรซิฟิกเสียงเรียบเฉยเอ่ยทำให้ขาสองข้างของแอมเบอร์ที่กำลังก้าวฉับๆ ต้องหยุดชะงัก

     

              แอมเบอร์หันควับกลับมามองหน้าเขาด้วยสายตาพินิจพิจารณา หมอนี่รู้แม้กระทั่งเรื่องนี้?

     

     

              นายเป็นใครเธอถาม

     

              มันเรื่องของฉัน

     

              รู้เรื่องนี้ได้ยังไง

     

              ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ ฉันมีธุระกับหมอนั่นเซดริคเริ่มขมวดคิ้วเข้ม ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

     

              “นายมีธุระกับเพื่อนฉัน นายก็มีธุระกับฉันด้วย ทำตัวให้มันน่าคบหากว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง!”แอมเบอร์ตะคอก เธอไม่ถูกชะตากับเด็กหนุ่มปริศนาคนนี้ตั้งแต่พบหน้า ยิ่งเธอรู้จักนิสัยใจคอและวิธีคิดของหมอนี่ ความรู้สึกด้านลบยิ่งก่อตัวขึ้นมา เธอไม่จำเป็นต้องสนองความต้องการไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ให้คนที่เธอไม่ชอบขี้หน้า...นี่คือวิธีคิดของแอมเบอร์

     

              “ตกลงจะไม่พาไป?”เด็กหนุ่มมองหน้าเธอด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะก้าวฉับๆ ไปข้างหน้า เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีท่าทีให้ความร่วมมือ

     

             แอมเบอร์เดินเข้ามาดันตัวของเด็กหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าไปมองเขา

     

             ใช่! และก็จะขวางให้ถึงที่สุดด้วย!”แอมเบอร์พูด เซดริคมองร่างแอมเบอร์ที่ยืนดื้อด้านขวางทางเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่กะจะทำเมื่อเจอคนที่เขาต้องการเจอ

     

              มือซ้ายของเซดริคล้วงเข้าไปในคอเสื้อ ทีแรกแอมเบอร์คิดกว่าเขาจะเอาอะไรออกมาเพื่อทำร้ายเธอ แต่เมื่อเห็นที่สิ่งเขาเอาออกมาแล้ว ดวงตาสองข้างของเธอก็ต้องเบิกกว้าง

     

              มันเป็นจี้ทองคำรูปทรงกลมที่มีเม็ดไขมุขสีฟ้าใสลอยอยู่ตรงกลางโดยที่ไม่มีอะไรยึดเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นที่น่าทึ่งก็คือ ไขมุขเม็ดนั้นยังหมุนรอบตัวเองอย่างช้าๆ ที่สำคัญคือเธอรู้สึกคุ้นเคยกับจี้ลักษณะนี้อย่างแปลกๆ ก็จะไม่คุ้นได้ยังไงล่ะ! ที่คอของเพื่อนซี้เธอบรีอันก็มีห้อยอยู่เส้นหนึ่ง มันเป็นสัญลักษณ์ของรัชทายาท...ไอ้หมอนี่...จะให้เธอเรียกมันเป็นเจ้าชายงั้นเหรอ??

     

             นี่เป็นเรื่องระหว่างอาณาจักร สามัญชน โดยเฉพาะเลือดผสมอย่างเธอ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น หลบไปซะ อย่างมาขวางทางฉันเขาเดินผ่านร่างเล็กๆ ของแอมเบอร์ไปอย่างไม่ใยดี เธอพยายามรั้งแล้วแต่แน่นอนแรงของเขาช่างมหาศาลนัก แอมเบอร์มองร่างนั้นแล้วกัดฟันกรอด จะตามมาด้วยก็ได้นะ ฉันถือว่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ถ้าจะตามมาขวางเหมือนเมื่อกี้ เธออาจจะต้องเจ็บตัวนิดหน่อย แต่เชื่อเถอะ...แค่นิดเดียว

     

            ...

     

     

            “หมอนั่นอยู่ที่สแตนด์สระว่ายน้ำเสียงใสๆ ที่เอ่ยมาอย่างไม่เต็มใจของแอมเบอร์ดังก้องทางเดิน เธอกำลังพาหมอนี่ไปหาบรีอัน...ทั้งที่เพิ่งจะบอกกับตัวเองเมื่อครู่ว่าให้ตายยังไงก็จะไม่สนองนี้ดคนพรรค์นี้อย่างเด็ดขาด เพราะอะไรกันเนี่ย!!

     

             เซดริคมองคนตรงหน้าที่เดินดุ่ยๆ นำไปโดยไม่สนใจว่าคนข้างหลังเขาเดินตามอยู่หรือเปล่า ด้วยสายตาบอกความรู้สึกไม่ได้ สายตานิ่งเฉยสงบเยือกเย็นตลอดเวลา บางครั้งเพราะความสงบเยือกเย็นนั้น ทำให้เขาดูจะเป็นไร้มนุษยสัมพันธ์ในสายตาคนรอบข้าง แน่นอนว่าเพราะความเคยชินจึงทำให้เขายอมรับได้ว่านี่คือตัวของเขา

     

               ทั้งคู่พากันมาจนถึงสแตนด์ของสระว่ายน้ำ แอมเบอร์มองลงไปในสระว่ายน้ำของโรงเรียนที่เธอเพิ่งจะตกลงไปเมื่อไม่นานมานี้เพราะใครบางคน ก่อนจะมองไปที่เซดริคแล้วกรอกตาไปมา

     

               บรีอันนั่งอยู่บนรถเข็นเช่นทุกครั้ง รถเข็นจอดอยู่ตรงซอกระหว่างสแตนด์หนึ่งกับสแตนด์สองที่มีประตูขั้นกลาง เมื่อหมอนั่นเห็นเธอเดินมาพร้อมกับนักเรียนใหม่ก็โบกมือให้ แอมเบอร์ยิ้มแล้วโบกมือกลับไปก่อนจะค่อยๆ แรงฝีเท้าเดินจ้ำๆ เข้าไปหา

     

              ทำไมไวจังบรีอันถาม แอมเบอร์เบ้ปากก่อนจะมองไปข้างหลังที่มีคนเดินตามมา

     

              เรื่องนั่นช่างมันเหอะน่า มีคนจะคุยกับนายได้ยินประโยคนี้ บรีอันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วหันไปหาเซดริคที่เดินเข้ามา บรีอันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัยเมื่อคนที่สาวเจ้าว่าต้องการคุยกับเขา คือเด็กหนุ่มปริศนาคนเมื่อเช้า

     

              ไงเด็กหนุ่มผู้มีบุคลคเยือกเย็น

     

              หวัดดี เซดริค...ใช่มะ?”

     

              ใช่เซดริคพูดพลางล้วงเข้าไปหยิบจี้ห้อยคอมาโชว์เพื่อให้ง่ายแก่การเจรจา ชื่อเต็มฉัน เซดริค เจนาบิสรอส เพอ อาร์คติกเซดริกยื่นมือซ้ายมาข้างหน้าแล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย์ บรีอันมองมือคู่นั้น สลับกับจี้ห้อยคอก่อนจะยิ้มออกมาเช่นกัน

     

             ฮ่าๆ ไม่ทันตั้งตัวเลยแฮะ บรีอัน แมคซิมัส เพอ แปรซิฟิก ยินดีเหมือนกันบรีอันยื่นมือไปจับกับมือคู่นั้น แว๊บหนึ่งที่มือสองข้างสัมผัสกัน เขารู้สึกถึงไอเย็นบางอย่างใหลผ่านฝ่ามือชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะอีกฝ่ายมาจากมหาสมุทรขั้วโลก...ไม่แปลกที่ผิวกายจะเย็นชืด แล้ว...ทำไมเจ้าชายแห่งอาร์คติกถึงมาอยู่ที่นี่ มาทำอะไรงั้นเหรอ?”บรีอันถามเรียบง่าย

     

             มารับนายถึงประโยคนี้ บรีอันทำหน้างุนงงเล็กน้อย

     

             มารับฉัน?”เด็กหนุ่มทวนซ้ำเพื่อความแน่ใจ

     

             ได้ยินถูกเซดริคพูด บรีอันขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ

     

             รับฉันไปไหน?”

     

             ไปแอตแลนติกเขาตอบกลับไปเรียบๆ และเมื่อมองใบหน้าที่ลอยล่องไปด้วยเครื่องหมายคำถามนั่น ในใจเขาก็คิดทำใจเอาไวว่างานของเขาคงไม่ได้จบภายในวันนี้ จะถามต่อว่าไปทำไมใช่ไหม?”

     

             เดาเก่งนี่บรีอันพูดพลางกลั้วหัวเราะเล็กน้อย เซดริคไม่พูดอะไร ก่อนจะว่าต่อ

     

             ภารกิจของรัชทายาท พ่อนายคงบอกอะไรนายบ้างถึงประโยคนี้ บรีอันสะอึกเล็กน้อย เขาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เวลามีใครพูดถึงเสด็จพ่อของเขา...แน่นอน เขารักท่านพ่อ แต่เขาไม่แน่ใจว่า...ท่านรู้สึกอย่างเดียวกันหรือเปล่า

     

             อืม...ไม่ ไม่คุ้นบรีอันพูดพลางยักใหล่ พ่อฉันค่อนข้างจะเป็นคนไม่ค่อยพูด...จบประโยค รอยยิ้มแหยๆ แบบไม่เห็นฟันก็ถูกส่งกลับมา

     

             ...ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคู่สนทนา เซดริคมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย บอกชี้ชัดว่าไม่มีอารมณ์รับมุขเท่าไหร่

     

             เออ...ความจริงคือ เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เทียบอัตราส่วนตั้งแต่เกิดมา ฉันแทบไม่เคยคุยกับพ่อตัวเอง

     

              แอมเบอร์ฟังคำพูดเหล่านั้นสลับกับมองรอยยิ้มบนใบหน้าของบรีอันแล้วถอนหายใจ เธอรู้ดีว่ารอยยิ้มเหล่านั้นมันไม่ได้ออกมาจากจิตใจของเพื่อนซี้แต่อย่างใด

     

             งั้นก็คงไม่รู้อะไรเลยเซดริคพูดโดยไม่สบตาคนฟัง เด็กหนุ่มเดินอ้อมไปเข็นรถของบรีอันให้เข้าไปข้างในซอกลึกขึ้นเพื่อพรางตาผู้คน  เวลาที่มีมันน้อยเกินกว่าที่จะให้ฉันทำเรื่องงี่เง่าอย่างการเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต้ต้นจนจบให้นายฟัง นายต้องไปกับฉัน

     

             นายควรบอกเหตุผลที่จะพาใครซักคนไปกับนายให้ครบถ้วนเพื่อสร้างความไว้วางใจ ก่อนจะพาเขาไปไหน เรื่องแค่นี้ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะมีใครเขาไปกับนายแอมเบอร์รีบท้วงขึ้นมากลางบทสนทนา นั่นทำให้นายตาเยือกเย็นคู่นั้นเบือนจากบรีอันมาที่เธอ

     

             อยู่ไปเงียบๆ ไม่ใช่เรื่องของเธอน้ำคำน่าถีบถูกส่งกลับมา ทำให้คนฟังรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายมันค่อยๆ ขึ้นสูง อยากกระทืบคนยังไงไม่ทราบ

     

             นี่นาย!!!”เธอคงกระโจนเข้าตบตีไอ้บ้าตรงหน้านี่ไปแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงใครบางคนรั้งเอาไว้

     

             แม่คุณบรีอันเรียกเธอ แอมเบอร์หยุดชะงักแล้วหันมามองหน้าเขา ขอฉันฟังต่ออีกหน่อยเจ้าชายแห่งมหาสมุทรแปรซิฟิกเอ่ยพลางยิ้มเบาบาง ก่อนจะหันไปหาเจ้าชายแห่งอาร์กติค เป็นเรื่องที่ท่านพ่อควรบอกฉันใช่ไหม

     

            คนถูกถามไม่ตอบอะไร ทำเพียงมองหน้าคนถามเงียบๆ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ต...มันคือวงแหวนทำจากที่ลักษณะคล้ายกำไลข้อมือแต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก

     

             “นี่คือวงแหวนพันธสัญญาระหว่างห้าคาบสมุทร สวมมันไว้ที่หางนาย

     

             บรีอันเอื้อมมือไปรับวงแวนนั่นแล้วพลิกไปพลิกมาสำรวจ

     

             สวยดี

     

             อืม...สวย...แต่ตอนใส่เจ็บไม่เบา

     

             ก็เคยมีประสบการณ์มาบ้างบรีอันพูดพลางยักใหล่ ว่ากันตอนอาบน้ำวันนี้ก็แล้วกัน แล้วนี่...เงื่อนไขสัญญาว่าไง

     

             มันเป็นสัญญาผูกมัดของรัชทายาท ระบุเอาว่าถ้าที่แห่งนั้นมีปัญหา รัชทายาทต้องถูกส่งไปทำภารกิจ ภารกิจอะไร ไปกับฉันเดี๋ยวก็รู้

     

             แล้วที่แห่งนั้นที่ว่านี่ที่ไหนล่ะ

     

             เดี๋ยวนายก็รู้เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เราต้องไปที่มหาสมุทรแอตแลนติก ท่านพ่อของพวกเราจะบอกเราเอง นี่เพียงแค่เริ่มต้นภารกิจ ตอนนี้นายอยู่ในภารกิจแล้ว นายมีสัญญา...พร้อมกับตราลักษณ์ผูกมัด

     

             สัญลักษณ์???”

     

             ฉันจับมือนายไปเมื่อกี้ไงเซดริคพูดพลางมองไปที่มือซ้ายของเขา บรีอันรีบยกมือขึ้นมาแบดู...

     

             สัญลักษณ์คล้ายรอยสักรูปสามเหลี่ยมบนฝ่ามือ ทำให้บรีอันหวนคิดไปถึงความรู้สึกไอเย็นๆ เมื่อตอนจับมือกับหมอนี่ตอนนั้น...บรีอันหัวเราะหึหึ แล้วพลิกฝ่ามือข้างนั้นไปมา

     

             มัดมือชกดีแฮะ

     

             ก็อย่างที่เห็น นายหนีไม่พ้นแล้ว เตรียมตัวเก็บของไปกับฉัน

     

             อืม...ก็คงต้องตามนั้นบรีอันตอบรับไปอย่างง่ายดาย แอมเบอร์รีบหันควับไปหาเพื่อนซี้ แล้วทำตาโต

     

             เฮ้ยเดี๋ยวดิ!!”เด็กสาวอุทานเสียงสูง บรีอันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ

     

             อะไรแม่คุณ?”

     

             เขามาลากนาย นายก็ไปกับเขาแบบนี้เนี่ยนะ ถ้าหมอนี่มาลากนายแล้วจะพาไปตายด้วยกันนายจะไปกับมันมั้ย!”แอมเบอร์โวยวายเป็นการใหญ่ เซดริคมองเด็กสาวตรงหน้าที่ดูท่าทางจะยังไม่เข้าใจอะไรเลยก็ถอนหายใจอย่างหมดความอดทน

     

             บรีอันยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ

     

             ก็ถ้ามีหน้าที่ของรัชทายาทมาอ้างแบบนี้ จะพาไปตายฉันก็คงไปนั่นแหละ

     

              แอมเบอร์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง...นอกจากจะไม่เชื่อหูแล้วก็ยังไม่เชื่อสายตาตัวเองด้วย หมอนี่ยิ้ม! มันกำลังยิ้ม...ยิ้มเนี่ยนะ!?

     

             นี่พวกนาย...

     

             พวกเราไม่ใช่เด็กๆ อีกแล้ว ยัยเจ๋อ นี่มันเรื่องระดับประเทศ ความรับผิดชอบห้อยอยู่ที่คอเราทุกคนตั้งแต่เกิดมาวันแรก ถึงไม่อยากก็ต้องทำ พวกเราถูกเลี้ยงมาแบบนี้แหละ การอดกลั้น และปลักใจทำสิ่งที่ไม่อยากทำ...นี่คือความแตกต่างระหว่างเชื้อพระวงศ์และสามัญชน เธออยากจะมาด้วยก็ได้นะ แต่อย่าเกะกะ...

    +++++++++++++++++++


    To be continue




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×