ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fierce #ดื้อมั้ยล่ะ ไม่ดื้อก็ไม่ดุ [BTS X YOU]-END-

    ลำดับตอนที่ #1 : #ดื้อมั้ยล่ะไม่ดื้อก็ไม่ดุ 01 | เพื่อน [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.88K
      205
      8 มี.ค. 64

            คำเตือนตัวโตๆ: ฟิคเรื่องนี้เป็นเนื้อหาแบบฟีลกู้ด มีดราม่าปะปน และฉากเรท พระเอกเป็นสายชิล ส่วนนางเอกเป็นสายเก็บกวาด กรุณาใช้จักรยานในการอ่าน เป็นอย่างสูง ข่อมค้าบ

    #ดื้อมั้ยล่ะไม่ดื้อก็ไม่ดุ 01 | เพื่อน

    Grammys - Hot Jimin - BTS WORLD

    -เพื่อน-

     

    *ยังไม่ได้แก้คำผิด

    ณ สถานที่อโคจรแห่งหนึ่ง บรรยากาศในสถานที่แห่งนี้ครึกครื้นและสนุกสนาน เหล่านักท่องราตรีหลายคนรวมตัวกันที่ฟลอร์ ณ ที่แห่งนั้นปรากฏร่างบางและร่างสูงสันทัดของชายหนุ่มและหญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนสนิทกัน ในสถานที่แบบนี้จุดประสงค์ของทั้งสองก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่มา แต่สำหรับหญิงสาวที่มีนามว่า ‘กิกิ อิสรินทร์’ หรือ ‘อิสรินทร์’ นั้น จุดประสงค์ของเธอที่มาในสถานที่แห่งนี้ก็เป็นเพราะเพื่อนหนุ่มของเธอ ‘ปาร์คจีมิน’ เจ้าของฉายา ‘เทพเจ้าปาร์ค’ ต่างหาก

    “กูว่ามึงควรพอแล้วกลับหอสักทีเหอะปาร์ค”

    อิสรินทร์เอ่ยขึ้นเมื่อความอดทนของเธอได้หมดลงแล้ว อิสรินทร์เธอชอบดื่มเหล้าและเที่ยวสถานที่อโคจรก็จริง แต่ไม่ใช่วันนี้ ตอนนี้ และเวลานี้ด้วย เพราะพรุ่งนี้มีควิซย่อย แต่จีมินดันบอกเธอว่าอยากก๊ง เพราะเหตุนั้นอิสรินทร์เธอจึงต้องจำใจมาที่นี่เป็นเพื่อนเขา

    “กลับไมเร็วจังว๊า เหล้ายังไม่หมดเลย”

    “แล้วมึงสั่งมาหาพระบิดามึงเหรอเยอะขนาดนี้ มากันอยู่สองคน”

    “อย่างอแงดิเธอ”

    “เก็บไว้พูดกับเมียมึงเถอะรำคาญ!”

    อิสรินทร์เอ่ยตัดพ้อพร้อมกับเอยร่างบางพิงกับพนักเก้าอี้แรงๆ ด้วยความหงุดหงิด สายตาโฉบเฉียวก็จดจ้องร่างสูงของเพื่อนหนุ่มที่ถือแก้วไว้ระดับอกแล้ว ส่งสายตาอ่อยหญิงสาวที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพราะปาร์คจีมินเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างและหน้าตาหล่อเหลาราวกับหลุดออกมาจากอนิเมะ แถมลักษณะนิสัยหนุ่มเจ้าสำราญพราวเสน่ห์ของเขายังตรงเสป็คสาวๆ เป็นล้านคนอีกทำให้เขาแทบจะฮอตที่สุดในมหาวิทยาลัย

    ดวงตาเรียวรีของปาร์คจีมินสอดส่องไปเรื่อยๆ จนในที่สุดสายตาของเขาก็ไปหยุดที่ร่างบางสมส่วนของหญิงสาวที่ใส่ชุดเดรสรักรูปกำมะหยี่สีกรมที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป ลิ้นหนาลอบโลมเลียไปตามริมฝีปากของตัวเอง พร้อมกับสายตาที่พร้อมจับเหยื่อของเขาก็เช่นกัน รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับมือที่ถือแก้วเครื่องดื่มก็ยกขึ้นเชิญชวนหญิงสาวคนนั้น ทำให้หญิงสาวคนนั้นเธอเขินจนแทบจะล้มลงกองกับพื้น

    อิสรินทร์ที่เอนหลังพิงเก้าอี้ที่นั่งอยู่เธอเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยไปซะทีเดียว ดวงตาโฉบเฉียวเบนสายตามองไปตามพิกัดที่เพื่อนหนุ่มของเธอกำลังจ้องมองอยู่ รอยยิ้มนึกตลกปรากฏบนใบหน้าสวยของอิสรินทร์เมื่อเธอเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวคนนั้นที่ปาร์คจีมินกำลังอ่อยอยู่

    อีนั่นกำลังของที่จีมินมองนางอยู่ คงงั้น อิสรินทร์เข้าใจ

    “เหอะ!”

    อิสรินทร์กระตุกยิ้มและหัวเราะในลำคอด้วยความนึกตลกและนึกสงสารผู้หญิงคนนั้นที่กำลังถูกคำแก้วเวอร์ชันผู้ชายกำลังจ้องอยู่ อิสรินทร์เป็นเพื่อนกับปาร์คจีมินมาปีกว่าๆ และอิสรินทร์ก็รู้ดีว่าปาร์คจีมินไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหน ไม่เคยเลยสักนิด เขาชอบอ่อยคนอื่นไปทั่วทั้งหญิงทั้งชาย ตอนแรกๆ อิสรินทร์ก็นึกว่าคงเป็นนิสัยของเขา แต่ไม่ใช่มันคือสันดานของมันเลยต่างหาก

    “จ้องขนาดนั้น จะแดกหรือไม่แดก ถ้าแดกก็ไปกูจะได้กลับหอ”

    อิสรินทร์เอ่ยออกมาเมื่อเธอเริ่มจะรู้สึกรำคาญสีหน้าขิงๆ ของหญิงสาวคนนั้นแล้ว จีมินรีบกวาดสายตาและหันกลับมาหาเพื่อนสาวที่นั่งคิ้วขมวดอยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะกระดกเครื่องดื่มชนิดรุนแรงแต่ผสมจนฤทธิ์มันแทบจะจางในแก้วจนหมดแล้ววางแก้วลงก่อนที่จะพยักหน้าแล้วบอกอิสรินทร์ว่า..

    “ไม่แดกพรุ่งนี้มีควิซ”

    “ก็แค่นี้”

    ว่าจบร่างบางสมส่วนและเซ็กซี่ของอิสรินทร์ก็ลุกขึ้นและคว้ากระเป๋าเตรียมกลับโดยที่มีร่างสูงของจีมินเพื่อนหนุ่มลุกเดินตามไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ออกจากสถานที่แห่งนี้พ้น แขนของจีมินก็ถูกหญิงสาวที่เจ้าตัวอ่อยเมื่อครู่นี้คว้าไว้ ขาทั้งสี่ข้างของทั้งสองหยุดชะงักก่อนที่จะหันกลับไปหาร่างบางของหญิงสาวคนนั้น

    จีมินขมวดคิ้วมุ่น แต่ในระหว่างนั้นเขาก็ไม่วายระบายยิ้มเป็นมิตรให้กับหญิงสาวที่เขาไม่รู้ชื่อแซ่ไปด้วย หญิงสาวคนนั้นตื่นเต้นจนเนื้อหนังสั่นระริก เพราะปาร์คจีมินหน้าตาดีและมีเสน่ห์มากโดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นใกล้ๆ แบบนี้

    “เธอมีอะไรเหรอ?”

    เพราะหญิงสาวคนนั้นเอาแต่ยืนจับแขนของจีมินนิ่งไม่ยอมพูดจา จีมินจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม

    “เราชื่อลีอานะ เผื่อนายอยากรู้จักเรา”

    “ใครอยากรู้จักหล่อนกัน”

    อิสรินทร์รีบเอ่ยตัดบททันทีแต่เธอก็ไม่วายโดนเพื่อนหนุ่มขึงตามองแล้วแยกเขี้ยวขู่ใส่ อิสรินทร์จึงทำเป็นเบนหน้าหนีมองไปทางอื่นไม่รู้ไม่ชี้แทน จีมินละสายตาจากเพื่อนสาวที่ปากไวและหันกลับมาหาหญิงสาวตรงหน้าที่แนะนำตัวเองว่า ‘ลีอา’ เธอคนนี้อาจจะเป็นลูกครึ่งเพราะดูจากชื่อของเธอและหน้าตาของเธอที่มีความสายฝออยู่หน่อยๆ จีมินยกยิ้มหวานๆ ให้แก่ลีอาพร้อมกับกระชากแขนของลีอาให้เข้ามาใกล้ตนและกระซิบอะไรสักอย่างที่ข้างๆ หูของเธอก่อนที่ที่เขาผละออก การกระทำของจีมินอยู่ในสายตาของอิสรินทร์ทั้งหมด แต่จีมินก็ทำแบบนี้เป็นประจำอิสรินทร์จึงทำได้แค่ยืนรอถึงแม้ว่าเธอจะรำคาญและหงุดหงิดเต็มทีก็ตาม

    “ถ้างั้นไว้เจอกันนะ”

    “อื้อ”

    จีมินเอ่ยลาลีอาก่อนที่เขาจะหันตัวและเดินออกมาจากคลับโดยที่มีร่างบางของอิสรินทร์เดินกอดอกออกมาตามหลัง ทั้งสองเดินตรงไปที่รถยนต์คันหรูของจีมินก่อนที่ทั้งสองจะสอดร่างเข้าไปในรถและรถก็ออกตัวโดยที่มีจีมินเป็นคนขับ ในระหว่างนั้นเองจีมินก็เหลือบมองร่างบางของเพื่อนสาวที่นั่งมองวิวข้างนอกเป็นระยะๆ พร้อมกับลอบส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

    “มึงไม่อยากรู้เหรอว่าเมื่อกี้กูบอกอะไรเค้า”

    “หึ ไม่”

    “หึงเค้าเหรอเธอ”

    “พักก่อน”

    อิสรินทร์รีบหันมาจิกสายตาใส่เพื่อนหนุ่มที่ชอบทำตัวเหมือนผัวทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนด้วยความรำคาญใจ ถึงแม้ว่าในใจจะสั่นระริกเพราะเขินกับคำพูดของจีมินก็ตาม

    จีมินชอบพูดแบบนี้กับอิสรินทร์อยู่บ่อยๆ ทำให้ทั้งสองโดนเข้าใจผิดอยู่หลายครั้ง แถมเพราะเหตุนี้จึงทำให้อิสรินทร์ไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลยด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าอิสรินทร์เธอหน้าดุเกินไปเธอคงจะมีเพื่อนตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย แต่เป็นเพราะว่าหน้าของอิสรินทร์ดุจึงทำให้คนอื่นๆ ไม่กล้ามาคุยกับเธอเพราะนึกว่าเธอหยิ่ง จะมีก็แต่ปาร์คจีมินนี่แหละที่เจอหน้ากันกับอิสรินทร์ครั้งแรกแล้วเขาก็ทักว่าอิสรินทร์สวย พร้อมทั้งเข้ามาตีสนิทหลายๆ อย่างจึงทำให้ทั้งสองได้เป็นเพื่อนกันอย่างที่เห็น

    “เมื่อกี้เค้าให้เบอร์ห้องเธอไปแหละ”

    “ให้ทำไมแล้วมันเกี่ยวอะไรกับห้องเรา”

    เพราะจู่ๆ จีมินก็พูดเพราะขึ้นมาทำให้อิสรินทร์ต้องพูดเพราะไปด้วยถึงแม้ว่าจะกระดากปากมากก็ตาม แต่คำถามของอิสรินทร์ก็ไม่พ้นได้คำตอบเดิมๆ ว่า “ก็เพราะเค้าอยากให้คนอื่นรู้ไงว่าเราอยู่ด้วยกัน” อิสรินทร์เบะปากแล้วเบนสายตามองออกไปนอกกระจกรถอีกครั้งเพราะขี้เกียจจะสาธยายกับตัวปัญหาที่สร้างปัญหาไม่เว้นระยะ

    เอี้ยดดด

    ใช้เวลาราวๆ สิบนาทีรถคันหรูก็มาหยุดอยู่ที่หน้าหอของอิสรินทร์ ร่างบางรีบรุดตัวลงจากรถในทันทีโดยที่ไม่บอกลาอะไรเพื่อนหนุ่มเลยสักคำเพราะเธอยังนึกโมโหที่จีมินพาเธอไปก๊งทั้งๆ ที่พรุ่งนี้มีควิซ จีมินยืนมองแผ่นหลังสวยของเพื่อนสาวจนเธอหายเข้าไปในตึกใหญ่ จากนั้นเขาถึงได้หมุนตัวกลับรถและขับรถกลับหอของตนเอง

     

    วันต่อมา

    ร่างบางในชุดนักศึกษาที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเดินออกจากลิฟต์เพื่อออกจากตึกเรียนด้วยท่าทีชิลๆ หลังจากที่ควิซย่อยผ่านไปแล้ว เพราะเมื่อคืนอิสรินทร์กลับถึงหอก็เที่ยงคืนแล้วเธอจึงตัดสินใจไม่อ่านหนังสือและปล่อยให้คะแนนลอยไปตามกรรมก็พอ อิสรินทร์รุดหน้าออกจากตึกคณะและเตรียมที่จะกลับหอไปนอนแต่ทว่ามีร่างสูงของเพื่อนหนุ่มที่มาจากไหนก็ไม่รู้มากอดคอแล้วเดินไปพร้อมกันกับเธอ

    อิสรินทร์หลับตาลงและลืมตาขึ้นในขณะที่เดินออกจากตึกคณะเพราะกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่มาจากร่างสูงของปาร์คจีมินทำให้เธอเวียนหัว มันหอมก็จริงแต่มันก็ชวนเวียนหัวเหมือนกัน

    “เมื่อไหร่มึงจะเลิกอาบน้ำหอมสักทีวะ”

    “ทำแมะ ไม่ชอบเหรอ”

    “เออดิ ฉุน” ทั้งๆ ที่เธอชอบกลิ่นนี้มากต่างหาก

    ถึงแม้ว่าปากจะพูดไปอีกอย่างแต่ในใจของอิสรินทร์กลับนึกเป็นอีกอย่าง แต่ถึงกระนั้นจีมินก็หาได้สนใจไม่ เพราะเขาก็แค่ฉีดน้ำหอมมาตัวจะได้หอมๆ สาวๆ จะได้เข้าใกล้เยอะๆ คนอื่นๆ บอกว่าตัวจีมินหอมจะตายมีแต่อิสรินทร์นี่แหละที่บอกว่าฉุน

    “ไปกินกะเพราถาดซอยเจ็ดกันป่ะ”

    “ไม่ไป ง่วง”

    “โห่ เธออ่ะ ไปกินก่อนเดี๋ยวค่อยไปนอน”

    “ม-”

    ยังไม่ทันที่อิสรินทร์จะได้พูดจบประโยค ร่างบางก็ถูกปาร์คจีมินโอบเอวและรุดหน้าไปยังลานจอดรถของคณะแล้ว รถยนต์คันโตสีน้ำเงินเข้มที่จอดอยู่ข้างหน้านี่มีชื่อว่า 'เจ้าชิค' ปาร์คจีมินเป็นคนตั้งให้เองแหละเพราะนี่คือรถของเขา อิสรินทร์คุ้นเคยกับรถยนต์คันนี้ดี เพราะเธอถูกปาร์คจีมินบังคับให้เป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่ร่ำไป ร่างหนารุดหน้าไปยังฝั่งคนขับและอิสรินทร์ก็สอดร่างกายเข้าไปนั่งฝั่งข้างคนขับอย่างรู้งาน จีมินจัดการสต๊าทเครื่องยนต์และถอยรถออกจากลานจอดรถคณะเพื่อมุ่งหน้าไปร้านกะเพราถาดรานประจำของเขา

    แต่ในระหว่างนั้น อิสรินทร์ก็ไม่วายลอบมองเพื่อนหนุ่มในขณะที่เขาขับรถไปด้วย จีมินมีเสน่ห์ไปซะทุกช่วงเวลา นั่นคือสิ่งที่อิสรินทร์รู้ และเธอก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากเสมอที่ได้ผู้ชายอย่างปาร์คจีมินเป็นเพื่อน ใจจริงอิสรินทร์ก็อยากจะเอาจีมินเป็นแฟนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะ ถ้าไม่ติดว่าเขาเจ้าชู้มากจนน่าปวดหัวนี่สิ

    เอี๊ยดดดด

    ไม่นานรถยนต์คันหรูอย่างเจ้าชิคก็มาถึงร้านกะเพราถาด ทั้งสองออกจากรถและมุ่งหน้าไปที่นั่งประจำที่ตอนนี่มีชายหนุ่มสามคนนั่งอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ขาเรียวหยุดชะงักทันทีทิ้งระยะห่างจากร่างสูงของปาร์คจีมินในระยะเกือบร้อยเมตร ปาร์คจีมินไม่ได้สนใจอิสรินทร์แถมยังเดินไปแท็กมือกับเพื่อนหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนอีก

    ใบหน้าสวยเริ่มจะบึ้งตึงเพราะก่อนหน้านั้นปาร์คจีมินไม่ได้บอกว่าเพื่อนเขาจะมาด้วย และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมอิสรินทร์ถึงไม่ยอมเอาปาร์คจีมินเป็นแฟน ก็เพราะว่าเขาติดเพื่อนมากด้วยยังไงล่ะ เป็นเพื่อนกันกับเขาถึงได้ประโยชน์มากกว่าเป็นแฟน อดไม่ได้ที่จะจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจไปนั่งที่นั่น โต๊ะไม้ไผ่ขนาดใหญ่พอนั่งได้หกคนถูกล้อมรอบไปด้วยชายหนุ่มสามคนที่อยู่ต่างคณะที่ที่ว่างตรงข้ามให้อิสรินทร์และปาร์คจีมินนั่ง

    “พาเมียมาด้วยเหรอวะเพื่อน เซอไพร้ชิบ”

    บทบรรยากิกิอิสรินทร์

    “พาเมียมาด้วยเหรอวะเพื่อน เซอไพร้ชิบ”

    ทันทีที่ฉันทิ้งก้นนั่งลงกับเกาอี้ เสียงทุ้มห้วนๆ ของคนตรงหน้าก็เอ่ยออกมาทันที ฉันพอจะรู้จักสามคนนี้ดีอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะไอเพื่อนตัวดีของฉันมันชอบมัดมือชกฉันมากับเพื่อนเขาจนชิน คนที่เอ่ยเมื่อกี้เขาชื่อจองกุก เขาเรียนสถาปัตฯ ซึ่งรายนี้ฉันเจอกันกับเขาบ่อยสุดเพราะจองกุกสนิทกับจีมินไม่แพ้ฉัน ถัดไปคนที่นั่งขวามือจองกุก คนนี้น่าจะชื่อโฮซอก เขาเรียนสถาปัตฯ เหมือนกันกับจองกุก ฉันพอจะจำได้รายนี้ฉันไม่ค่อยอะไรกับเขาสักเท่าไหร่เพราะนานๆ ทีเขาจะออกมาไร้สาระกับจีมิน ส่วนคนที่นั่งซ้ายมือจองกุก คนนี้ฉันไม่สนิทใจและฉันก็ไม่รู้จักด้วย เขาเป็นเพื่อนร่วมสาขาแต่ว่าอยู่กันคนละห้องเขาชื่อ แทฮยอง และใช่เขานิสัยไม่ดี เอาเป็นว่าศีลเสมอกันกับปาร์คจีมิน และฉันก็ไม่เคยคุยกับเขาด้วย

    เพราะเจอกันแต่ละทีเขาก็เอาแต่นั่งเขี่ยโทรศัพท์มือถือ โฮซอกก็เหมือนกัน จะมีก็ซะแต่จองกุกนี่แหละที่วอแวกับฉันบ่อยสุด

    “ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะเธออ่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งสองวัน”

    แน่นอนว่าต้องเป็นแบบนั้น เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับมองหน้าฉันและยิ้มให้แบบเป็นมิตร หมายถึงกระชับมิตรแบบบนเตียง เขาชอบมองฉันแบบนี้ มองเหมือนอยากจะเคลมฉันให้ได้ แต่ฉันก็แค่ไม่สนใจ เพราะปาร์คจีมินก็ไม่สนใจฉันเหมือนกัน จีมินเอาแต่ก้มหน้าจดจ่ออยู่แต่กับเมนูในแผ่นเมนู ทั้งๆ ที่มันก็มีเมนูแค่ไม่กี่อย่าง ตอนนี้ฉันเริ่มหงุดหงิด หงุดหงิดที่เขาพาฉันมาให้เพื่อนเขาวอแว

    “เอากะเพราหมูกรอบสอง แล้วก็ข้าวเหนียวกระติ๊บเล็กเน้อะ” ที่ถามนี่จีมินไม่ได้ถามฉันแค่ถามเพื่อนสามคนตรงหน้า พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วย แต่ฉันไม่ ฉันอยากกลับหอ ฉันจะไปนอน

    “เธออ่ะ เอาอะไร”

    “ไม่คิดจะสั่งให้แทนเลยหรือไง” ฉันตอบออกไปโดยแสดงอาการหงุดหงิดเต็มที่เพราะฉันไม่โอเค ตั้งแต่ที่เขาลากฉันมาโดยที่ไม่บอกว่าเพื่อนเขาก็มาด้วยแล้ว

    “ไม่งอแงนะคะ เดี๋ยวไปซื้อชาเขียวมาง้อ แป๊บ”

    ว่าจบจีมินก็ลุกออกไปโดยที่ไม่ถามไถ่ฉันสักนิด และทิ้งฉันเอาไว้กับเพื่อนของเขาอีกแล้ว ฉันมองตามร่างสูงของจีมินที่ลุกและเดินข้ามถนนไปซื้อชาเขียวอีกฟากของถนนโดยที่ไม่ละสายตา ใจล่ะอยากจะเขกกระบาลมันให้เล็บเจลยาวๆ ของฉันฝังลงไปในหัวมัน แต่ทำไม่ได้ เข้าใจมั้ยแล้วมันหงุดหงิด

    “มองตามอยู่นั่นผัวเธอไม่หายหรอก” อีกแล้ว เป็นอีกครังที่จองกุกเอ่ยออกมาไม่ให้เกียรติฉัน แถมยังถือวิสาสะเอื้อมมือมาแตะที่แขนฉันอีก ฉันรีบหันกลับไปขลึงตาใส่เขาแต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือรอยยิ้มแบบเดิมๆ ฉันรีบสะบัดมือออกแล้วถอยหลังชิดกับพนักพิง พอดีกับที่จีมินกลับมา เขากลับมาพร้อมกับชาเขียวที่ไม่ใส่ไข่มุก แต่แทนที่เขาจะยื่นให้ฉันดีๆ กลับไม่ใช่เขาอ้อมมาข้างหลังและขังฉันไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับจับมือฉันให้รับแก้วชาเขียวในมือของเขาและเขาก็ก้มลงมาดูดชาเขียวในแก้วทั้งแบบนั้น

    ฉันรู้สึกได้ว่าตอนนี้ฉันขนลุกไปหมด หูของเขาเฉียดแก้มฉันจนมันรู้สึกร้อนวาบไปหมด ดูเอา ดูมันทำสิ

    “ไม่หวาน เค้าสั่งให้แบบไม่หวานเลย”

    จีมินเอ่ยพร้อมกับผละร่างกายออกไปนั่งดีๆ แต่ถึงกระนั้นแก้มเขาก็เฉียดแก้มฉันอีกครั้งอยู่ดี น่าทุบ

    “เออ”

    ฉันตอบแค่แบบนั้นออกไป ถึงแม้ว่าฉันจะเหลือบเห็นว่าจองกุกแสยะยิ้มและเอนหลังพิงเก้าอี้ อาหารมื้อเที่ยงนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ดีหน่อยที่ฉันไม่เอาเล็บเจาะกบาลปาร์คจีมินจริงๆ ก่อนหน้านั้นเขาสัญญาว่าจะพาฉันกลับหอไปนอน แต่สิ่งที่เขาทำในตอนนี้ก็คือพาฉันมาหอเขา หอชายล้วนที่ฉันถูกเขาพามาจนยามเลิกถาม ประตูถูกเปิดออกโดยเจาของห้อง ซึ่งอันนี้ฉันไม่รู้ว่ารหัวห้องเขาคืออะไรเพราะเป็นเพือนกันไม่จำเป็นต้องรู้ลึกขนาดนั้น

    เมื่อประตูเปิดออกกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกกุหลาบก็ลอยปะทะจมูก จีมินไม่ใช่ผู้ชายที่มีดีสะอาดสะอ้านแค่หน้าตา ห้องเขาก็สะอาดด้วย เพราะมีแม่บ้านทำความสะอาดให้ไงไม่เห็นต้องคิดเยอะ

    ตุบ

    หลังจากประตูเปิดออกแล้ว ฉันก็มุ่งหน้าไปที่เตียงนอนและทิ้งตัวลงนอนและหลับตาลงทันทีเพราะฉันอยากพักมากจริงๆ แต่หูฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าของห้องอยู่ไม่ไกล จีมินเดินตรงไปที่ห้องน้ำก่อนที่จะออกมาแลวเปิดตู้เย็น ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเอาอะไรในตู้เย็นแต่ฉันว่า คงไม่พ้นเบียร์กระป๋องแน่นอน เพราะในตู้เย็นเขาไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากเบียร์อยู่แล้ว

    เกล้ง

    และมันกเป็นไปตามคาด จีมินดื่มเบียร์และเขาเพิ่งจะทิ้งกระป๋องลงถังขยะเมื่อกี้ ฉันอดไม่ได้ที่จะผงกหัวขึ้นมามองไอ้คนเลือดเป็นเหล้าร้อยเปอร์เซ็นต์ที่อยู่ไม่ไกลเตียงนอน ฉันถอนหายใจออกไปดังๆ เพราะอยากให้เขาได้ยิน และใช่เขาอาจจะได้ยินเขาเลยถามฉันว่า “ฟังเพลงมั้ยเธอ”

    “อือ”

    ฉันตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด เพราะเราก็ทำแบบนี้เป็นประจำหลังจากนั้น จีมินก็เปิดเพลงแนวสบายๆ ที่ฟังแล้วสามารถนอนได้ เป็นแบบนี้ตามประสาคนเป็นเพื่อนกัน แต่คงมีแค่ฉันที่ต่อให้อยากได้มากแค่ไหน แต่สุดท้ายฐานะเพื่อนก็ดีกว่าฐานะนั้นอยู่ดี

    “มึงพาผู้หญิงมากินครั้งล่าสุดเมื่อไหร่”

    ฉันถามออกไปหลังจากที่ฉัเพิ่งพิจารณาได้ว่าผ้าห่มของเขามันหอมผิดปกติ หอมเกินกว่าที่จะเป็นกลิ่นผ้าห่มของผู้ชาย และใช่น้ำหอมจีมินไม่ใช่กลิ่นนี้

    “ไม่ได้พามาหลายวันละ ทำไม หึง?”

    “แค่ถาม อย่ามั่ว” ฉันตอบละพลิกตัวลงกลับไปนอนอย่างเดิม แต่ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ของคนที่ยืนเขี่ยโทรศัพท์อยู่ตรงประตูระเบียง “ไปสูบบุหรี่แป๊บ”

    “ไม่ต้องไป”

    ฉันรีบผงกหัวขึ้นมาอีกครังเมื่อจีมินบอกจะออกไปสูบบุหรี่ ฉันไม่อยากให้เขาสูบบุหรี่เพราะมันไม่ดีต่อร่างกาย ถึงมันจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าได้มันก็ไม่ดีอยู่ดี

    “ทำไม?”

    “เครียดอะไรก็มาคุยกันนี่ อย่าไปสูบมันไม่ดีต่อร่างกาย”

    ฉันพูดออกไปจากใจจริง แต่จีมินยักไหล่และออกไปที่ระเบียง มันไม่ฟังฉัน น่าทุบ ชิส์!

     

    16’ 22 Pm

    ไม่รู้ว่าฉันเผลอหลับไปนานแค่ไหนจำได้ว่ามาถึงห้องก็ตอนบ่ายๆ แต่ตอนนี้สี่โมงเย็นแล้ว ฉันควรจะกลับห้อง ฉันรีบลุกและเตรียมจะกลับหอ แต่ในขณะที่กำลังจะไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ตรงหน้าทีวี เสียงของจีมินที่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ก็ดังเข้าสู่โสตประสาทฉัน ฉันควรจะชินแต่ก็นั่นแหละ ฉันไม่ชิน

    “กูกลับละนะ”

    ฉันไม่ได้รอให้จีมินตอบฉันก็รีบออกจากห้องและมุ่งหน้ากลับหอโดยที่ไม่ลืมโค้งหัวใหลุงยามและออกไปโบกแท็กซี่สักคัน ราวๆ ครึ่งชั่วโมงฉันก็กลับถึงหอเพราะตอนเย็นรถค่อนข้างติด เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ทำก็คือโยนกระเป๋าไว้ที่ไหนสักทีและเตรียมตัวอาบน้ำ มือแกะกระดุมได้สามเม็ดโทรศัพท์มือถือที่ร้างเพราะไร้ข้อความจากคนอื่นๆ ก็ดังขึ้นในรอบล้านปี อย่างที่บอกฉันไม่ค่อยมีเพื่อนนอกจากจีมิน แต่ถึงกระนั้นจีมินก็ไม่ค่อยโทรหาหรือส่งข้อความมา เขามักจะมาหาฉันเลยมากกว่า “อืม”

    ฉันกดรับสายและตอบรับไปในขณะที่มืออีกข้างก็แกะกระดุมเสื้อและถอดมันออกไปให้พ้นๆ [กลับทำไมไม่บอก]

    อดไม่ได้ที่จะเบะปากและด่ามันในใจ ไม่ใช่ว่าฉันไม่บอก มันไม่ได้ฟังเอาต่างหาก

    “ลืม”

    [เธองอนเค้ามั้ยเนี่ย]

    “งอนอะไร เสียงกูงอนเหรอ?”

    [เออดิ เธอพูดไม่เพราะตั้งแต่เที่ยงละนะกิ]

    “อืม” ฉันตอบออกไปในลำคอพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าขนหนู “ทำอะไรอยู่”

    “จะอาบน้ำ มีอะไรรีบพูด”

    [ออกป่ะวันนี้]

    “ไม่ พักทำงานส่งจารย์ก่อน กำหนดส่งพรุ่งนี้”

    [ไม่ต้องทำเดี๋ยวทำเอง เธอออกมา แต่งตัวให้สวยๆ เดี๋ยวไปรับ]

    ยังไม่ทันได้ตอบสายก็ถูกตัดไป ฉันถูกมัดมือชกอีกครั้ง โดยผู้ชายที่เป็นเพื่อนฉัน ในใจสบถด่ามันยันโคตรเหง้าได้แต่สุดท้ายก็ต้องออก จะทำไงได้ล่ะ

    [100%]

    #ปาร์คพักก่อนมั้ย

     

     

    Jimin Bts Jimin GIF - Jimin BtsJimin Seokjin GIFs

     

            TWR.

            เรื่องนี้ก็จะแนวประมานนี้เน้อะ จะออกแนวผู้ใหญ่หน่อยๆ ทุกคนคงรู้นะว่าหมายถึงอะไร กรุบกริบพอ55555 มาลงตอนที่หนึ่งให้ชื้นใจก่อน ถ้าว่างเดี๋ยวมาอัปให้อีก ไม่ลืมแน่นอนงับ 

     

            ช่วยปาคอมเม้น และสาดหัวใจมาให้กำลังใจไรท์ทีนะ เหมียนปลขาดน้ำ ถ้าได้จะดีมั่กๆ ข่อมคุมค้าบบบบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×